nimo003
nimo003
Untitled
30 posts
Don't wanna be here? Send us removal request.
nimo003 · 2 years ago
Text
ประโยชน์ของข้าวโพด
Tumblr media
ข้าวโพด เป็นพืชที่สามารถหารับประทานได้ง่าย และนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายทั้งคาวและหวาน อีกทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยบำรุงสายตา บำรุงหัวใจ ดีต่อลำไส้ อย่างไรก็ตาม การรับประทานข้าวโพดก็อาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพบางอย่าง เช่น เชื้อราที่แฝงในข้าวโพด ดังนั้น จึงควรเลือกรับประทานข้าวโพดที่สะอาด ถูกสุขอนามัย และปรุงสุกแล้วเท่านั้น เลขเด็ด
ประโยชน์ของข้าวโพด
แหล่งรวมแร่ธาตุ สารอาหาร
ข้าวโพด นั้น เป็นแหล่ง คาร์โบไฮเดรต ชั้นยอด สามารถ ให้พลังงาน กับร่างกาย เทียบเท่า การกินข้าว จานหนึ่ง เลยทีเดียว นอกจากนั้น ยังมีสารอาหาร ที่จำเป็นต่อร่างกาย หลายอย่าง เช่น แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส เหล็ก สังกะสี ฯลฯ และ ยังมี วิตามิน B หลากหลายชนิด ช่วยบำรุงกระดูก ให้ร่างกายแข็งแรง
ชะลอความเสื่อมของดวงตา
ในข้าวโพด มี ลูทีน (Lutein) ซีแซนทีน (Zeaxanthin) เบต้า-แคโรทีน (Beta-Carotene) ช่วยป้องกัน การเสื่อมสภาพ ของโรคสายตา อย่าง ต้อกระจก ลดอาการ มองไม่เห็น ในที่มืด สายตาสั้น อาการตาอักเสบ หรือ แพ้แสงแดด
Tumblr media
บำรุงผิวพรรณ
ประโยชน์ของข้าวโพด ที่มีต่อ ความสวยความงาม นั้นมาจาก สารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีมาก ในข้าวโพด จะช่วย ชะลอวัย บำรุงผิวพรรณ ให้มีความเด้งฟู สดใส และยัง ช่วยเติมน้ำ ให้แก่ร่างกาย อีกด้วย
บำรุงระบบย่อยอาหาร
เป็นที่รู้กันดี ว่าใน ข้าวโพด อุดมไปด้วย เส้นใย ไฟเบอร์ ทั้งชนิด ละลายน้ำได้ และ ไม่ละลายน้ำ ที่ช่วยเพิ่ม กากใย ให้ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย ทำงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ร่างกาย สามารถ ดีท็อกซ์ของเสีย ออกไปได้ดี
ป้องกันมะเร็งลำไส้
เส้นใย ไฟเบอร์ ในข้าวโพด ที่ช่วยบำรุงระบบย่อย ระบบขับถ่าย จะช่วย ป้องกัน โรคท้องผูก โรคริดสีดวงทวาร รวมไปถึง โรคมะเร็งลำไส้ ซึ่งมีสาเหตุ มาจาก ระบบขับถ่ายที่ ทำงานบกพร่อง ทั้งนั้น
Tumblr media
บำรุงหัวใจ และหลอดเลือด
ข้าวโพด ช่วยลด คอเลสเตอเรล ช่วยให้ร่างกาย ดูดซึม ไขมันดี ได้ดีขึ้น ขณะที่ ไขมันเลว ถูกดูดซึมน้อยลง ช่วยลดความเสี่ยง โรคหลอดเลือดหัวใจ น้ำมันข้าวโพด มีไขมันอิ่มตัว กรดโอเมก้า 3 ที่ร่างกายต้องการ ลดระดับ ความดันโลหิต และยังมี ธาตุเหล็ก ช่วยป้องกัน โลหิตจาง
ลดความเสี่ยงอัลไซเมอร์
วิตามิน B1 ที่มีอยู่มากมาย ในข้าวโพด เป็นส่วนประกอบ ที่สำคัญ ในการเสริมสร้าง เซลล์สมอง และ ระบบประสาท ช่วยสังเคราะห์ สารสื่อประสาทในสมอง จึงช่วยบำรุงความจำ กระตุ้นเซลล์ประสาท และ ลดความเสี่ยง ของ โรคอัลไซเมอร์ ในผู้สูงวัย ได้
จะเห็นได้ว่า ประโยชน์ของข้าวโพด นั้นมีมากมาย และ ยังเป็น อาหารที่ นำไปปรุง ได้หลากหลาย ประกอบได้ ทั้งเมนู คาวหวาน และยังเป็น อาหารสุขภาพ ที่ได้รับความนิยม ว่าแล้ว ก็อย่าลืม หาข้าวโพด มาติดบ้านไว้ กินเป็นของว่าง อร่อย ๆ กันดูนะ
0 notes
nimo003 · 2 years ago
Text
ประโยชน์ของมะละกอสุก
Tumblr media
มะละกอ เป็นผลไม้ ที่อยู่คู่บ้านคู่เมือง กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ก็หากินได้ง่าย จะนำมาปรุงอาหาร แปรรูป หรือกินสดก็ได้ มะละกอสุก มีรสชาติหวานหอม อร่อย ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน เบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประโยชน์ มากมายหลายอย่าง และยังช่วยให้ ระบบย่อย และ ระบบขับถ่าย ทำงานได้ดี จนขึ้นชื่อว่าเป็นยาระบายตามธรรมชาติ มาดู ประโยชน์ของมะละกอ กันดีกว่า ว่าจะมีอะไรบ้าง เลขเด็ด
เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
มะละกอมีวิตามินเอ วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าแคโรทีน ซึ่งสารอาหารเหล่านี้จะช่วยเสริมภูมิคุมกันของร่างกายเป็นอย่างดี ช่วยให้เราไม่เป็นคนป่วยได้ง่ายๆ
ช่วยย่อยอาหาร
มะละกอทั้งสุกและดิบมีเอนไซม์ปาเปน ที่มีสรรพคุณในการย่อยอาหารในกระเพาะอาหาร ดังนั้นไม่ว่าจะกินมะละกอดิบจากเมนูส้มตำ หรือกินมะละกอสุกก็ได้รับเอนไซม์ช่วยย่อยอาหารได้เหมือนกันเลยนั่นเอง
มีเบต้าแคโรทีนช่วยต้านมะเร็ง
เนื่องจากมะละกอมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันเซลล์ร้ายเกิดขึ้นกับร่างกาย ผลไม้ชนิดนี้จึงถือว่าเป็นผลไม้ที่ส่วนช่วยในการต้านมะเร็งนั่นเอง
Tumblr media
ช่วยให้ผิวพรรณเปร่งปรั่งสวยงาม
เอนไซม์ปาเปนที่พบในมะละกอ สามารถย่อยสลายคอลลาเจนได้ จึงมีส่วนช่วยเร่งการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวพรรณเปร่งปรั่ง และมีคุณสมบัติช่วยย่อยโมเลกุลของโปรตีนด้วย
ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
เนื่องจากมะละกอมีวิตามินซี วิตามินอี และวิตามินเอ ซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระที่มีความสำคัญช่วยป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระของคอเลสเตอรอล มะละกอจึงมีส่วนช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัวและโรคหัวใจที่มีสาเหตุจากโรคเบาหวานได้ดี
ช่วยแก้ท้องผูก
มะละกอมีไฟเบอร์สูง และมีน้ำย่อยธรรมชาติที่สามา���ถกำจัดคราบโปรตีนเก่าๆ ที่ร่างกายย่อยไม่หมดออกไปได้ นอกจากนั้นยังมีสารเพกตินที่เป็นสารช่วยเคลือบกระเพาะและลำไส้ ช่วยลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร ช่วยให้กากอาหารมีมากขึ้นทำให้ถ่ายง่าย ถ่ายคล่อง
Tumblr media
บรรเทาอาการเลือดออกตามไรฟัน
วิตามินซีในมะละกอ ที่มีอยู่จำนวนมาก มีส่วนสำคัญในการป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ช่วยให้สภาพเหงือกและฟันแข็งแรง ไม่เกิดสภาวะโรคแทรกซ้อนต่างๆ
บำรุงเลือด บำรุงน้ำนม
สารอาหารในมะละกอมีส่วนช่วยบำรุงเลือด และช่วยขับน้ำนมให้คุณแม่หลังคลอด นอกจากนี้การกินมะละกอสุกยังช่วยผ่อนคลายระบบประสาทของคุณแม่ ส่งผลให้การหลั่งน้ำนมเป็นไปอย่างไหลลื่นมากขึ้น
ป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
สีแดงอมส้มที่พบในมะละกอสุกแสดงให้เห็นว่า มะละกอสุกมีสารไลโคพีนซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก คุณผู้ชายจึงควรรับประทานให้มากขึ้น
ไขมันต่ำ คอเรสเตอรอลต่ำ
มะละกอมีไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอล และเกลือโซเดียมต่ำ เป็นแหล่งเส้นใยอาหารชั้นดี ไม่ว่าจะเป็น ธาตุโพแทสเซียม วิตามินเอ ซี และโฟเลต แต่ร้อยละ 92 ของพลังงานจากมะละกอสุกมาจากคาร์โบไฮเดรต ผู้ที่ควบคุมอาหารแป้งและน้ำตาลจึงไม่ควรกินมะละกอมากเกินไป
0 notes
nimo003 · 2 years ago
Text
ประโยชน์ของส้ม ดีต่อสุขภาพ
Tumblr media
ส้ม เป็นผลไม้มงคล ดีต่อสุขภาพ อีกหนึ่งผลไม้มงคลประจำเทศกาลตรุษจีน ผลไม้รสเปรี้ยวอมหวาน วิตามินซีสูง อีกทั้งยังมีแคลเซียม โพแทสเซียม และไฟเบอร์ เพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย ส้มนอกจากจะเป็นผลไม้ที่สื่อถึงความโชคดีแล้ว เลขเด็ด ยังดีต่อสุขภาพของเราอีกด้วย รับประทานส้มแล้วดีต่อร่างกายอย่างไร?
บำรุงผิว
เนื่องจากส้มเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ทั้งสารฟลาโวนอยด์และแคโรทีนอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่เป็นตัวการทำให้ผิวหมองคล้ำมีริ้วรอย และยังมีวิตามินซีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว จึงช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส และชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้
บำรุงสายตา
วิตามินซีในผลส้มช่วยปกป้องเลนส์ตาจากอันตรายในควัน และแสงอัลตราไวโอเลตที่ทำให้เลนส์ตาเสื่อมอันเป็นสาเหตุของโรคต้อกระจก
ส่งเสริมระบบขับถ่าย
เส้นใยในผลไม้ตระกูลส้มช่วยให้ระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น สามารถแก้อาหารท้องผูกได้
เพิ่มภูมิคุ้มกัน
วิตามินซีในส้มช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยยับยั้งต่อต้านการติดเชื้อจากแบคทีเรียและไวรัส
ช่วยดับกลิ่นอาหาร
หากนำเปลือกส้มอบด้วยไฟอ่อนๆ สัก 4 นาที แล้วเปิดฝาไมโครเวฟทิ้งไว้ กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยในเปลือกส้มจะช่วยดับกลิ่นอาหารในห้องครัวได้
Tumblr media
ใช้เป็นสารแต่งกลิ่น
น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากเปลือกส้มมีกลิ่นหอม สดชื่น ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย นำไปใช้แต่งกลิ่นอาหาร เครื่องสำอาง และยาต่างๆ ได้
ช่วยไล่ยุงและแมลง
หากนำเปลือกส้มไปตากแดดให้แห้งสนิท เมื่อจะใช้ไล่ยุงนำใส่ภาชนะที่ปลอดภัยจากการติดไฟ จากนั้นจุดไฟให้ติดควัน น้ำมันหอมระเหยที่อยู่ในเปลือกจะออกฤทธิ์ ช่วยไล่ยุงและแมลงไม่ให้มารบกวนได้
จุดเด่นของส้มแต่ละชนิด
🍊✨ ส้มเขียวหวาน 🍊✨
ใยอาหารสูง ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย
วิตามินซีสูง ป้องกันหวัด
ปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด
Tumblr media
🍊🐝 ส้มสายน้ำผึ้ง 🍊🐝
มีสารต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง
ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายทำงานปกติ
Tumblr media
🍊🍊 ส้มจีน 🍊🍊
ลดอาการไอหรือมีเสมหะ
ช่วยให้เลือดลมเดินได้ดี
ลดอาการคลื่นไส้อาเจียน
Tumblr media
🍊🍀 ส้มเช้ง 🍊🍀
ช่วยแก้อาการหลอดลมอักเสบ
ช่วยในการย่อยอาหาร
ช่วยทำให้ประจำเดือนของสตรีมาเป็นปกติ
Tumblr media
🍊✨ ส้มเกลี้ยง 🍊✨
ช่วยทำให้เจริญอาหาร
ช่วยลดระดับไขมันในเลือด
ช่วยรักษาโรคเกลื้อนได้
Tumblr media
2 notes · View notes
nimo003 · 2 years ago
Text
ประโยชน์ของสับปะรด
Tumblr media
สับปะรด เป็นหนึ่งในผลไม้ทรอปิคอลที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน โดดเด่นด้วยรสชาติสดชื่นฉ่ำน้ำ สามารถรังสรรค์ได้ทั้งอาหาร ขนมหวาน เครื่องดื่ม และแน่นอนว่าเต็มไปด้วยประโยชน์ดีๆ ต่อร่างกายของเรา เลขเด็ด
วิตามินซีสูง
Jackie Newgent นักโภชนาการด้านการทำอาหารในเมืองนิวยอร์ก และเป็นเจ้าของหนังสือ The All-Natural Diabetes Cookbook กล่าวว่า สารอาหารที่โดดเด่นในสับปะรดคือ วิตามินซี ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ และสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
ย่อยง่าย
สับปะรดมีกลุ่มเอนไซม์ย่อยอาหารที่เรียกว่าโบรมีเลน (Bromelain) ทำหน้าที่สร้างกรดอะมิโนและเปปไทด์ขนาดเล็ก ที่ช่วยย่อยโปรตีน และให้ดูดซึมผ่านลำไส้เล็กได้สะดวกยิ่งขึ้น แถมยังมีแมงกานีสสูง ซึ่งช่วยเผาผลาญอาหาร ทำให้เลือดแข็งตัว และช่วยให้กระดูกแข็งแรง
ลดน้ำหนัก
มีการศึกษาหนึ่งพบว่า น้ำสับปะรดช่วยลดการสร้างไขมันและเพิ่มการสลายไขมันได้ มีแคลอรีต่ำ มีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญสูง Colleen Christensen นักโภชนาการในมิชิแกน กล่าวว่า ในสับปะรดนั้นเต็มไปด้วยไฟเบอร์ที่สามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และทำให้คุณรู้สึกอิ่มนาน
Tumblr media
ต้านการอักเสบ
สับปะรดนั้นมีโบรมีเลน เอนไซม์ย่อยอาหารที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ และบรรเทาอาการปวด ช่วยลดอัตราการเกิดโรคไซนัสอักเสบ โรคข้อเข่าเสื่อม ทั้งยังบรรเทาอาการขาแพลง หรือแผลไหม้ นอกจากนี้วิตามินซีในสับปะรดยังเป็นยาต้านการอักเสบอ่อนๆ อีกด้วย
ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
การศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า สับปะรดมีสารประกอบโบรมีเลน ที่ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็ง ยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งในผิวหนัง ท่อน้ำดี ระบบย่อยอาหาร และลำไส้ใหญ่ เนื่องจากมีคุณสมบัติลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน และลดการอักเสบได้ นอกจากนั้นยังกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ผลิตโมเลกุลที่ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวมีประสิทธิภาพมากขึ้น
กระดูกแข็งแรง
ตามรายงานของศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ พบว่า สับปะรดเป็นหนึ่งในแหล่งอาหารชั้นนำของแร่ธาตุ (แมงกานีส) ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนและช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก และแร่ธาตุ เสริมกระดูกของคุณให้สตรองมากยิ่งขึ้น
Tumblr media
ลดความเครียด
สับปะรดมีเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งมีคุณสมบัติลดความเครียด ช่วยให้ฮอร์โมนและเส้นประสาทของคุณผ่อนคลาย การดื่มน้ำสับปะรดในวันที่คุณรู้สึกวิตกกังวลจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น
ความดันโลหิต
การบริโภคผักและผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น สับปะรด สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ ผลจากการสำรวจของ National Health and Nutrition Examination Survey
บำรุงผิว
อย่างที่กล่าวข้างต้นว่า สับปะรดมีวิตามินซีสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ต่อสู้กับความเสียหายของผิวที่เกิดจากแสงแดด และมลภาวะต่างๆ สร้างคอลลาเจน และลดเลือนริ้วรอย
0 notes
nimo003 · 2 years ago
Text
ประโยชน์ของแตงโม
Tumblr media
หากนึกถึงวิธีคลายร้อนแล้วละก็ การรับประทานแตงโมในรูปแบบการแช่เย็น นับว่าเป็นอีกวิธีที่ช่วยได้ดีเลยทีเดียว เพราะเป็นการดับอุณหภูมิความร้อนจากภายใน และนอกจากการทานแตงโมแบบผลสดๆ เรายังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม หรือท็อปปิ้งกินคู่กับไอศครีมเย็นๆ เพิ่มอรรถรสในการทานสร้างความหลากหลายให้ทุกเมนูได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ก่อนรับประทานนั้น วันนี้ Hello คุณหมอ ขอพาทุกคนมารู้จักกับ ประโยชน์ของแตงโม ว่าสามารถช่วยบำรุงสุขภาพของเราในด้านใดได้บ้าง เลขเด็ด
ประโยชน์ของแตงโม
ป้องกันโรคหอบหืด
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า อนุมูลอิสระมีส่วนที่ทำให้คุณสามารถป่วยเป็นโรคหอบหืดได้ การที่ทานแตงโมเข้าไปจะทำให้สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซี เข้าไปช่วยป้องกัน ไม่ให้เกิดการกระตุ้นอาการใดๆ แทรกซ้อนได้เพิ่มเติม และลดโอกาสที่ทำให้คุณป่วยอยู่ในภาวะหอบหืดได้
ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ (The National Cancer Institute (NCI) พบว่าสารต้านอนุมูลอิสระในแตงโมช่วยลดความเสียหายของเซลล์ที่อาจก่อให้เกิดเป็นโรคมะเร็งได้ พร้อมทั้งมีไลโคปีนที่ยับยั้งความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกเช่นกัน
Tumblr media
บำรุงสมอง และระบบประสาท
การรับประทานแตงโมที่เพียงพอต่อวันเป็นประจำ อาจช่วยให้คุณมีความจำที่ดีขึ้น มีการพัฒนาของสมองด้านการเรียนรู้ และยังรักษาโครงสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ จากโคลีนที่เป็นสารชนิดหนึ่งที่อยู่ในแตงโม แต่ถึงอย่างไรยังไม่มีหลักฐานเพียงพอถึงการรับประทานแตงโมเพื่อชะลอการลุกลามของโรคสมองเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ได้
บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ
ด้วยแตงโมเป็นผลไม่ที่มีน้ำเยอะถึง 90% จึงทำให้ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ และ���่วยฟื้นฟูการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา หรือผู้ที่ออกกำลังกายมาหนักๆ ได้ ในการศึกษาปี 2017 ได้ทดสอบให้นักกีฬาดื่มน้ำผลไม้ก่อนการแข่งขัน 2 ชั่วโมง โดยผู้ดื่มรายงานว่า อาการปวดกล้ามเนื้อนั้นบรรเทาลง และดีขึ้นกว่าเดิม
Tumblr media
เพิ่มประสิทธิภาพด้านการมองเห็น
ไลโคปีนที่ถูกค้นพบอยู่ในผลแตงโม มีส่วนช่วยให้ดวงตาของเรามีการทำงานที่ดี ลดการอักเสบ และป้องกันการเสื่อมสภาพของจอประสาทตาตามการใช้งาน หรือช่วงอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ตาของคุณบอดได้
บำรุงผิว และเส้นผม
วิตามินเอ วิตามินซี ที่อยู่ในแตงโม มีความสามารถในการสร้างคอลลาเจน ที่เป็นโปรตีนส่งเสริมให้เส้นผมของคุณดูสุขภาพดีแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย และเพิ่มความอ่อนนุ่มให้แก่ผิวของคุณดูชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ไม่แห้งกร้าน หรือแตกเป็นขุย จนทำให้คุณรู้สึกสูญเสียความมั่นใจ
0 notes
nimo003 · 2 years ago
Text
ประโยชน์ของมันม่วง
Tumblr media
สารอาหารของมันม่วง
การรับประทานมันม่วง 124 กรัมจะให้น้ำประมาณ 98.7 กรัมและสารอาหารอื่นๆ
โปรตีน : 2 ก
ไขมัน : 3 ก
คาร์โบไฮเดรต : 18.7 ก
ไฟเบอร์ : 2.48 ก
เหล็ก : 0.7 มก
แคลเซียม : 50.8 มก
แมกนีเซียม : 19.8 มก
ฟอสฟอรัส : 50.8 มก
โพแทสเซียม : 259 มก
โซเดียม : 306 มก
วิตามิน C : 12.8 มก
Beta-carotene : 9.47 มก
วิตามิน A : 823 ไมโครกรัม
วิตามิน k : 5.1 ไมโครกรัม
มันม่วง หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ Sweet Potato นั้น ถือเป็นกระแสฮิตที่มาจากมันม่วงญี่ปุ่นกันอยู่ช่วงหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งมันม่วงจัดเป็นพืชกินหัวที่มีลำต้นเป็นเถาหรือพุ่มตั้งตรง สำหรับประเทศไทยนั้นมีแหล่งเพาะปลูกมันม่วงอยู่ทั่วทุกภาค ในส่วนของคุณค่าทางโภชนาการของพืชกินหัวชนิดนี้ก็ถือว่าจัดเต็มเลยทีเดียว วันนี้เราจึงขอนำ 5 คุณประโยชน์ของมันม่วงมาฝาก จะมีอะไรบ้างนั้น ตามไปอ่านพร้อมๆ กันเลย เลขเด็ด
Tumblr media
1.ต้านโรคมะเร็ง จากผลการศึกษาในปี ค.ศ. 1996 ของนักวิทยาศาสตร์ Wargovich, Chen, Jimenez, and Steele พบว่าสารสกัดจากแอนโทไซยานิน เป็นสารสกัดที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ ซึ่งการใช้สารสกัดชนิดนี้ที่ระดับเข้มข้น สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม นอกจากนี้สารสกัดแอนโทไซยานินที่มีอยู่ในมันม่วง ยังมีคุณสมบัติช่วยต้านโรคมะเร็งลำไส้ได้อีกเช่นกัน โดยไฟเบอร์จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายให้สามารถทำงานได้อย่างคล่องตัว จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งในระบบทางเดินอาหารได้นั่นเอง
2.ลดการเกิดโรคแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวาน สารต้านอนุมูลอิสระที่อุดมอยู่ในมันม่วงนั้น มีคุณสมบัติช่วยต้านการเกิดไกลเคชั่นระหว่างโปรตีนกับน้ำตาลภายในร่างกาย ซึ่งการที่ร่างกายได้รับสารแอนโทไซยานินนั้น ช่วยยับยั้งการจับตัวของน้ำตาลและโปรตีนในระดับเซลล์ได้ จึงส่งผลให้เซลล์ภายในร่างกาย พร้อมทั้งเส้นเลือดมีความเสื่อมน้อยลง จึงช่วยลดการเกิดโรคแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวานได้ดี
Tumblr media
3.ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด สารสกัดแอนโทไซยานินมีคุณสมบัติช่วยต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของไขมันในร่างกาย ซึ่งจะทำหน้าที่คอยยับยั้งการรวมตัวของออกซิเจนและคอเลสเตอรอลชนิด LDL จากกระบวนการออกซิเดชั่น ส่งผลให้เกิดการลดคอเลสเตอรอลในเลือด พร้อมทั้งลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี
4.บำรุงผิวพรรณและเส้นผม สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในมันม่วง ไม่ว่าจะเป็นแอนโทไซยานินหรือฟลาโวนอยด์ ล้วนมีคุณสมบัติที่ช่วยดูดซับอนุมูลอิสระ และยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ภายในร่างกาย นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยต้านรังสียูวี จึงช่วยให้ผิวพรรณไม่ถูกรังสียูวีทำร้าย นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้เส้นผมดกดำและช่วยชะลอการเกิดผมหงอกได้อีกด้วย
Tumblr media
5.ช่วยชะลอความแก่ สารต้านอนุมูลอิสระในมันม่วงนั้นมีคุณสมบัติต่อต้านการเกิดไกลเคชั่น ซึ่งเกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่างโปรตีนกับน้ำตาลภายในร่างกาย และเป็นปัจจัยที่โน้มน้าวให้เซลล์เสื่อมลง และมักพบในกลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเบาหวาน
จะเห็นได้ว่าการทานมันม่วง ไม่เพียงแต่จะให้ความอร่อยและความฟินคล้ายกับนั่งทานเหมือนในซีรีส์เกาหลีเท่านั้น แต่สรรพคุณและคุณประโยชน์ของมันก็ยิ่งเพิ่มความฟินในการทานอีกด้วย สำหรับใครที่ต้องการห่างไกลจากโรคมะเร็ง และต้องการบำรุงผิวพรรณพร้อมทั้งเส้นผมให้สวยงาม อย่าลืมทานมันม่วงกันนะคะ
0 notes
nimo003 · 2 years ago
Text
ประโยชน์ของฟักทอง
Tumblr media
ฟักทอง เป็นพืชที่มีสารอาหารหลายอย่างซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอ นอกจากนี้ฟักทองยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีก บางคุณประโยชน์ของฟักทองนั้นคุณอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน ฟักทองยังเป็นพืชที่หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง และสามารถนำไปประกอบอาหารได้ทั้งคาวและหวานหลายเมนู เช่น ผัดฟักทองใส่ไข่ ฟักทองแกงบวด ฟักทองต้ม เลขเด็ด
ประโยชน์ของฟักทอง
ลดน้ำหนัก
สำหรับใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่แล้วละก็ ลองรับประทานฟักทองดู เพราะฟักทองอุดมไปด้วยไฟเบอร์จึงรับประทานแล้วอยู่ท้อง อิ่มนาน และที่สำคัญฟักทองมีแคลอรีต่ำจึงไม่ทำให้อ้วน ดังนั้นการรับประทานฟักทองจึงช่วยให้ลดน้ำหนักได้
ฟักทองลดรอยตีนกา
ฟักทองอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างแคโรทีนอยด์ ช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย รวมทั้งเซลล์ผิวจากการถูกอนุมูลอิสระทำลาย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพ ผิวชรา ผิวหย่อนคล้อยทำให้เกิดรอยตีนกาและริ้วรอยเหี่ยวย่นต่างๆ
ปรับสมดุลอารมณ์
ฟักทองอุดมไปด้วยสารอาหารที่จะช่วยลดความเครียด ช่วยทำให้อารมณ์สงบนิ่ง หรือการรับประทานเมล็ดฟักทอง ก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน แถมยังทำให้เพลิดเพลินในขณะรับประทานอีกด้วย สำหรับใครก็ตามที่มีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่เสมอนั้น ลองมารับประทานฟักทอง หรือเมล็ดฟักทอง ให้มากขึ้น เพื่อช่วยปรับอารมณ์กันดู
Tumblr media
ลดสิวบนผิวหน้า
"ฟักทอง" ยังถือเป็นหนึ่งในผลไม้ ที่ช่วยเรื่อง การขจัดสิว เพราะ "ฟักทอง" มีวิตามินบี3 ที่ไม่ใช่แค่ช่วยปรับ ผิว ให้ขาวกระจ่างใส แต่ยังช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ส่งผลให้อาการของ สิว บรรเทาลงได้ นอกจากนี้แร่ธาตุสังกะสีใน "ฟักทอง" ก็ยังช่วยควบคุมความมันบน ผิวหน้า ลดอาการ สิว ได้อีกด้วย
ฟักทองบำรุงเลือด
ฟักทองมีวิตามินเคสูงและยังมีแร่ธาตุที่สำคัญต่อระบบเลือดอย่างธาตุเหล็ก โพแทสเซียม สังกะสี และแมกนีเซียม จึงเหมาะสำหรับผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนเพราะจะช่วยบำรุงประสาท กระดูก และกล้ามเนื้อ
ช่วยเร่งสร้างเซลล์ผิวใหม่
ผิว ที่ผลัดช้าเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหา ผิว หมอง ได้ แต่ "ฟักทอง" สามารถแก้ปัญหานี้ได้ เพราะ "ฟักทอง" ยังอุดมไปด้วยวิตามินบี ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี 3 วิตามินบี 6 วิตามินบี 2 วิตามินบี 9 เป็นต้น โดยเฉพาะวิตามินบี 3 จะช่วยปรับ ผิว ที่สีดูไม่สม่ำเสมอให้ดูขาวเท่ากันมากขึ้น ส่วนวิตามินบี 9 จะช่วยในการผลัด เซลล์ผิว และกระตุ้นให้สร้าง เซลล์ผิว ใหม่ออกมา
ปรับผิวให้มีออร่าขึ้นได้จากวิตามินซี
"ฟักทอง" ยังประกอบ วิตามินซี อยู่เยอะด้วย ซึ่งวิตามินซีเป็นสิ่งที่ช่วยให้ ผิว เราดูกระจ่างใสมากขึ้นกว่าเดิม เราไม่จำเป็นต้องเพิ่มวิตามินซีจากการทาด้วยครีมเสมอไป แต่จากการกินก็ช่วยได้เช่นกัน และ "ฟักทอง" เป็นอาหารที่เหมาะแก่การเพิ่มวิตามินซีให้กับ ผิว ได้ดีอีกด้วย
Tumblr media
ช่วยชะลอวัย
อีกหนึ่งประโยชน์ ของ "ฟักทอง" ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น โพแทสเซียม แมงกานีส แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก สังกะสี และทองแดง ซึ่ง ทองแดง ช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินออกมา ทำให้ ผิว เราไม่เหี่ยว ไม่หย่อนคล้อยเร็ว แต่ช่วยให้ผิวกระชับ และ ผิว ดูเด็กลงนั่นเอง
ช่วยบำรุงสายตา
นับว่าเป็นสรรพคุณเด่นอย่างหนึ่งของฟักทองสำหรับผู้ที่ต้องใช้สายตาจ้องจอโทรศัพท์มือถือ หรือใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน จนก่อให้เกิดปัญหาสายตา ลองรับประทานฟักทองดู เพราะมีวิตามินเอจำนวนมาก ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นในการบำรุงสายตาและช่วยปกป้องสายตาจากการถูกทำลาย
ฟักทองช่วยลดไขมัน
การรับประทานฟักทองอยู่เป็นประจำจะช่วยลดไขมันที่อยู่ในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่บั่นทอนสุขภาพ ทำให้ร่างกายเกิดความเสื่อม และทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (HDL) จึงทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น
จะเห็นได้ว่า ฟักทองมีประโยชน์มากมายหลายข้อที่เราอาจยังไม่ทราบ หรือมองข้ามไป แต่อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานฟักทองในปริมาณที่เหมาะสมและรับประทานอาหารอื่นๆ ให้หลากหลายเพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
0 notes
nimo003 · 2 years ago
Text
ประโยชน์ของแก้วมังกร
Tumblr media
แก้วมังกร ผลไม้ซูเปอร์ฟู้ดที่เป็นหนึ่งในขวัญใจของสายสุขภาพ รับประทานง่าย รสชาติดี และที่สำคัญคือมีประโยชน์ที่โดดเด่นมาก มิน่าล่ะ บรรดาร้านสมูทตี้โบวล์เริ่มทำเบสแก้วมังกรออกมาแล้ว เลขเด็ด
เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ
แก้วมังกรมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ได้แก่ บีตาเลน (ในแก้วมังกรสีแดง) ซึ่งช่วยป้องกันคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) สารกลุ่มไฮดรอกซีซินนาเมทมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง และฟลาโวนอยด์ สารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติบำรุงสมอง และลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ
ช่วยต่อสู้กับโรคเรื้อรัง
สารต้านอนุมูลอิสระในแก้วมังกรช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ และการอักเสบได้ ดังนั้นแก้วมังกรจึงช่วยป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อาทิ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคข้ออักเสบ เป็นต้น
ไฟเบอร์สูง
จากการศึกษาของนักวิจัยที่ มหาวิทยาลัยลีดส์ (University of Leeds) พบว่าการบริโภคอาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์ เช่น แก้วมังกร สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจตีบ ทั้งยังช่วยรักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่ดีอีกด้วย
เสริมลำไส้ให้แข็งแรง
แก้วมังกรนั้นมีพรีไบโอติก (ไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ดีต่อสุขภาพในลำไส้) ที่ช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียให้ดีต่อลำไส้ของคุณ ทั้งยังลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในทางเดินอาหารและ บรรเทาอาการท้องร่วงอีกต่างหาก
Tumblr media
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
วิตามินซีและแคโรทีนอยด์ในแก้วมังกร ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของคุณให้มากขึ้น ป้องกันการติดเชื้อโดยการบำรุงเซลล์เม็ดเลือดขาวให้แข็งแรงอยู่เสมอ
อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ
แก้วมังกรนั้นอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง เสริมกล้ามเนื้อให้แข็งแรง โพแทสเซียม แคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูก และแมกนีเซียม ซึ่งช่วยบำรุงประสาท ทำให้จิตใจผ่อนคลาย ช่วยรักษาอาการซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี
บำรุงหัวใจ
แก้วมังกรนั้นเต็มไปด้วยไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง และยังช่วยต่อสู้กับจุลินทรีย์ที่อาจจะเป็นสาเหตุให้หลอดเลือดแดงอุดตัน รักษาการไหลเวียนโบำรุงลหิตในร่างกายให้สมดุล
บำรุงผิวสุขภาพดี
สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินต่างๆ ช่วยบำรุงผิวของคุณให้เปล่งปลั่ง เต่งตึง นอกจากนั้นแก้วมังกรยังช่วยรักษาสิว หรือบรรเทาอาการแดดเผาอีกด้วยนะ ลองเอาไปพอกหน้าดูสิ
0 notes
nimo003 · 2 years ago
Text
ประโยชน์ของพริกหยวก
Tumblr media
พริกหยวก ในภาษาอังกฤษเรียกว่า bell pepper หรือ sweet pepper เป็นพืชผักตระกูลพริก มีลักษณะเป็นทรงกลมหรือทรงกระบอก มีสีสันสดใส เช่น สีเขียว เหลือง แดง ส้ม 👉เลขเด็ด👈 และม่วง นิยมนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู หลายคนอาจคิดว่าพริกหยวกเป็นเพียงผักที่มีรสชาติเผ็ดเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว พริกหยวกมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ดังนี้
บำรุงสายตา ลูทีน ซีแซนทีน และแคโรทีนอยด์ที่พบในพริกหวานนั้นมีคุณสมับติช่วยบำรุงสายตาให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อทั้งต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม แถมยังช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการรับแสงต่อเซลล์รับแสงในดวงตาอีกด้วย
ดีต่อลำไส้ พริกหวานเป็นแหล่งไฟเบอร์ที่มีประสิทธิภาพ ปริมาณเพียงหนึ่งถ้วย (150 กรัม) มีใยอาหาร 0.08 ออนซ์ (2.5 กรัม) การศึกษาแสดงให้เห็นว่า การบริโภคอาหารที่มีเส้นใยสูงสามารถป้องกันสภาวะของระบบย่อยอาหาร เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่และโรคลำไส้อักเสบได้ ทั้งยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ป้องกันอาการท้องผูกและส่งเสริมความสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ที่ดี
ป้องกันโรคโลหิตจาง ภาวะโลหิตจางเป็นภาวะที่ทำให้ออกซิเจนในเลือดลดลง ซึ่งโรคนี้มีสาเหตุมาจากการขาดธาตุเหล็ก มีผลทำให้อ่อนแรงและเหนื่อยล้า พริกหวานไม่เพียงแต่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กเท่านั้นยังมีวิตามินซี ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กจากลำไส้
ต้านภาวะอักเสบและข้ออักเสบ ข้อมูลของมูลนิธิโรคข้ออักเสบระบุว่า พริกหวานอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคข้ออักเสบบางชนิดและภาวะสุขภาพอักเสบอื่นๆ เนื่องจากมีแคโรทีนอยด์ ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้ และประกอบไปด้วยวิตามินซี ช่วยปกป้องเซลล์กระดูกและกระดูกอ่อน
ช่วยลดน้ำหนัก พริกหวานมีแคลอรีต่ำมีไฟเบอร์สูง ส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไฟเบอร์ในพริกหวานยังช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานอีกต่างหาก
ป้องกันมะเร็ง แคโรทีนอยด์ในพริกหวานนอกจากจะช่วยบำรุงสายตาแล้ว ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถป้องกันมะเร็งบางชนิดได้
ผิวสวย ในพริกหวานมีวิตามินอี ที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง แถมยังบำรุงเส้นผมของคุณให้แข็งแรง
ป้องกันโรคหัวใจ พริกหวานไม่เพียงแต่สามารถต้านภาวะการอักเสบเท่านั้น ยังช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดแดง ช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี และยังมีแคปไซซิน ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในร่างกาย
ปรับสมดุลอารมณ์ วิตามินบี 6 ในพริกหวานสามารถช่วยให้สมองผลิต Serotonin และ Norepinephrine สารเคมี 2 ชนิดที่ส่งผลต่ออารมณ์ของคุณ
1 note · View note
nimo003 · 2 years ago
Text
ประโยชน์ของพริก
Tumblr media
พริก (Chili) จะมีสารที่ชื่อว่า แคปไซซิน (Capsaicin) สารชนิดนี้เองค่ะ ที่ทำให้พริกมีความเผ็ด แสบ จนต้องร้องไห้ และยังทนต่อความร้อน ความเย็นทำให้ไม่สูญเสียความเผ็ดไป ซึ่งจะมีมากสุดบริเวณแกนกลางสีขาว ส่วนเปลือกและเมล็ดจะมีน้อยกว่า
พริกมีด้วยกันหลายสายพันธุ์ ในไทยเองถือได้ว่าเป็นพริกที่มีความเผ็ดอยู่สูง ซึ่งเรียงลำดับได้ตามนี้ค่ะ พริกขี้หนู > พริกเหลือง > พริกชี้ฟ้า > พริกหยวก > พริกหวาน เป็นต้น พริกเหล่านี้ได้รับความนิยมในการนำประกอบอาหารสำคัญเกือบทุกเมนูของไทย 👉เลขเด็ด👈
พริก ไม่ได้มีดีแค่เผ็ด แต่อุดมไปด้วยวิตามิน
รู้หรือไม่คะว่า ในพริกอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินซี แมกนีเซียม โพแทสเซียม เหล็ก ใยอาหาร เป็นต้น ซึ่งเป็นเหล่าสารอาหารที่ดีต่อกลไกร่างกายพื้นฐานหลายอย่าง เช่น สารสื่อประสาทในสมอง ระบบหมุนเวียนโลหิต การสร้างกล้ามเนื้อ สารต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น
ประโยชน์ของ พริก มีอะไรบ้าง
ช่วยกระตุ้นการเจริญอาหาร
ในพริกที่อุดมไปด้วยสารแคปไซซิน จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำลาย กระตุ้นปลายประสาทของสมองส่วนกลางรับรู้และอยากอาหารมากขึ้น และยังหลั่งสาร Endorphin ที่ทำให้รู้สึกอาหารอร่อย หากใครที่อยู่ในช่วงเบื่ออาหาร การเลือกทานเมนูเผ็ดๆ ก็ช่วยให้คุณทานได้ดีขึ้นนะคะ
ช่วยเบิร์นไขมัน ลดน้ำหนัก
ทุกครั้งที่ทานเผ็ดเราจะรับรู้ได้ถึงความร้อนในร่างกาย เพราะว่าในพริกยังมีสาร Thermogenic ที่ช่วยก่อความร้อนนั่นเองค่ะ ซึ่งช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญได้เป็นอย่างดี ดีต่อระบบย่อยอาหาร เสริมการ Detox ของร่างกาย และยังมีกรดคอร์บิก ที่ช่วยเบิร์นเปลี่ยนไขมันให้กลายเป็นพลังงาน จึงช่วยให้น้ำหนักคุณลดลงได้
ดีต่อระบบหมุนเวียนเลือด ลดความเสี่ยงโรคความดัน โรคหลอดเลือด โรคไขมันอุดตัน โรคหัวใจ
ในสารแคปไซซิน ยังยับยั้งการหดตัวของหลอดเลือด ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ช่วยละลายลิ่มเลือดไม่ให้เกาะตัวเป็นก้อนและเกิดการอุดตัน ลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในหลอดเลือด ส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก และยังเสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรง ขยายเส้นเลือดในลำไส้และกระเพาะอาหาร ทำให้เพิ่มการดูดวึมได้ดีขึ้น
ขับเสมหะ หายใจคล่อง ดีต่อระบบทางเดินหายใจ
ทานเผ็ดทีไร น้ำมูกไหลทุกที เพราะสาร Thermogenic กระตุ้นให้เรามีน้ำมูก น้ำตา ลดสิ่งกีดขวางในระบบทางเดินหายใจ ช่วยให้จมูก คอ โล่ง เสมหะน้อยลง ที่ดีต่ออาการคัดจมูก ไข้หวัด ไซนัส โรคภูมิแพ้
เสริมสร้างภูมิต้านทาน กำจัดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ลดเสี่ยงมะเร็ง
เพราะมีมีวิตามินเอ และวิตามินซีสูงมาก แถมยังมีเบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดีต่อการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดการกลายพันธุ์ของเซลล์ร้าย เช่น เซลล์มะเร็ง ยับยั้งการสร้างไนโตรซามีน สาเหตุของสารก่อมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร และฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร ป้องกันการติดเชื้อในจมูก ลำคอ ปอด ช่องปาก และวิตามินเหล่านี้ยังช่วยบำรุงจอประสาทตา เสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอยของผิว
บำรุงสมอง ลดอาการซึมเศร้า
สารแคปไซซิน ช่วยกระตุ้นการหลั่งของสาร Endorphin ที่ช่วยลดความเครียด ผ่อนคลาย ความดันโลหิตลดลง และยังบรรเทาอาการเจ็บปวด นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 6 ธาตุเหล็ก ที่ดีต่อการทำงานของสมอง สารสื่อประสาท Serotonin ที่ช่วยให้อารมณ์ดี ลดซึมเศร้า ช่วยให้เลือดไหลเวียนในสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคเบาหวาน โรคอ้วน
พริกมีสารที่ช่วยยับยั้งการดูดซึมของน้ำตาลกลูโคส ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง และยังช่วยลดระดับอินซูลิน ที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2
2 notes · View notes
nimo003 · 2 years ago
Text
ประโยชน์ของแตงกวา
Tumblr media
แตงกวา เป็นผักชนิดหนึ่งที่คนไทยรู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตากันดี มักนิยมนำไปเป็นเครื่องจิ้ม น้ำพริกต่างๆ เต้าเจี้ยวหลน ฯลฯ หรือเครื่องเคียงอาหารจานเดียว เช่น ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง นอกจากเสริมรสช���ติอาหารจานหลักแล้วยังช่วยแก้เลี่ยนได้ด้วย นอกจากนี้แตงกวายังมีประโยชน์อื่นๆ เลขเด็ด
ประโยชน์ของแตงกวา
ช่วยลดอุณหภูมิ หรือความร้อนภายในร่างกาย ในช่วงฤดูร้อนจึงเหมาะที่จะรับประทานแตงกวามาก
ช่วยรักษาสมดุลภายในร่างกาย เช่น รักษาระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมยิ่งขึ้น
ช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหารให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ช่วยในเรื่องการฆ่าเชื้อโรค ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก
ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวสะอาดกระจ่างใสขึ้น และรูขุมขนกระชับขึ้น
ช่วยป้องกันสภาวะร่างกายขาดน้ำได้ เนื่องจากในแตงกวามีส่วนประกอบที่เป็นน้ำถึง 90กว่าเปอร์เซ็นต์
ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร
มีสารแอนโทรแซนทินซึ่งจะช่วยลดอาการอักเสบและอาการปวด มีการทดลองพบว่า สารสกัดของแตงกวาสามารถบรรเทาอาการอักเสบและอาการปวดในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมได้ในระดับปานกลาง
ช่วยกำจัดของเสียที่ตกค้างอยู่ภายในร่างกายและยังช่วยละลายก้อนแข็งที่อยู่ภายในไตได้ด้วย
ช่วยเสริมสร้างความจำ ส่งเสริมการทำงานของสมอง และยังช่วยรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย
มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้
มีการทดลองพบว่า สารสกัดจากเมล็ดแตงกวาสามารถช่วยลดคลอเลสเตอรอลในเลือดได้
สรรพคุณทางยาของแตงกวา
ผล เมื่อนำมารับประทานจะมีสรรพคุณเป็นยาเย็น ช่วยลดความร้อนภายในร่างกาย ขับปัสสาวะ ลดไข้ แก้อาการกระหายน้ำ ใช้รักษาอาการเจ็บคอ ตาแดง ไฟลวก และผดผื่นคัน หรือจะใช้รับประทานเป็นเครื่องเคียงกับน้ำพริก หรือนำมาประกอบอาหารก็สามารถนำมาทำได้
ใบ เมื่อนำมารับประทานสดๆ จะให้รสขม มีพิษเล็กน้อย สามารถนำมาใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย หรือบิดได้ เมล็ด หรือเนื้อในเมล็ด ให้รสมัน เย็น เมื่อนำมารับประทาน จะช่วยในเรื่องของการถ่ายพยาธิได้เป็นอย่างดี
เถา จะให้รสขม มีพิษเล็กน้อย ช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต โรคผิวหนังเป็นฝีเล็กๆ มีหนอง รักษาอาการหนองในได้
ราก จะให้รสเย็น ช่วยป้องกันการขาดวิตามินบี 1 และช่วยขับปัสสาวะ
ข้อควรระวัง
ผู้ที่เป็นโรคเกาต์ไม่ควรรับประทานแตงกวาในปริมาณมาก เนื่องจากในแตงกวาจะมีกรดยูริค หากรับประทานในปริมาณมากเกินไปจะส่งผลให้กรดยูริคในเลือดสูงขึ้นซึ่งเป็นอันตรายต่อโรค
แตงกวาเป็นผักที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสารตกค้าง เนื่องจากเป็นผักที่ศัตรูพืชสามารถกัดกินได้ง่าย ผู้ปลูกส่วนใหญ่จึงมักใช้ยากำจัดศัตรูพืชช่วย หากรับประทานแตงกวาติดต่อกันเป็นเวลานานๆ อาจก่อให้เกิดการสะสมของสารตกเคมีค้างได้ ฉะนั้นก่อนนำแตงกวามารับประทานควรล้างน้ำให้สะอาดทุกครั้ง
ไม่ควรทานตอนไอ หากมีอาการไอ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแตงกวาเนื่องจากมีฤทธิ์เย็นจะยิ่งทำให้อาการไอแย่ลง
0 notes
nimo003 · 2 years ago
Text
Tumblr media
ประโยชน์ดีๆ ของมะเขือเทศ
บำรุงหัวใจ
มีการศึกษาพบว่า มะเขือเทศมีประโยชน์ช่วยป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ อาทิ โรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดในสมอง ลดความเสี่ยงการเกิดหลอดเลือดแข็งตัว ลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ช่วยควบคุมความดันโลหิต เนื่องจากมะเขือเทศนั้นอุดมไปด้วยไลโคปีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ เลขเด็ด
ป้องกันโรคมะเร็ง
ป้องกันโรคมะเร็ง ไลโคปีนที่อยู่ในมะเขือเทศนั้นมีคุณสมบัติป้องกันโรคมะเร็งต่างๆ ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะอาหาร มีงานวิจัยเผยว่า ผู้ที่บริโภคมะเขือเทศสัปดาห์ละ 2 ครั้งหรือมากกว่าช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ถึง 23% นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยอื่นๆ ที่แสดงความเชื่อมโยงระหว่างการบริโภคมะเขือเทศ และความเสี่ยงของโรคมะเร็งที่ลดลง
บำรุงผิว
มะเขือเทศนั้นเป็นแหล่งของวิตามินซี โพแทสเซียม และไลโคปีน ซึ่งช่วยในการ���ำรุงผิวให้แข็งแรง กระจ่างใส ลดความเสียหายต่ออาการผิวไหม้ที่เกิดจากรังสี UV จากการศึกษาพบว่าผู้ที่รับประทานมะเขือเทศ 40 กรัม และน้ำมันมะกอกทุกวันเป็นเวลากว่า 10 สัปดาห์ พบว่ามีอาการผิวไหม้แดดน้องลงถึง 40 %
ดีต่อกระดูก
การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Bone and Mineral Research พบว่าผู้ที่มีระดับไลโคปีนในเลือดสูงมีโอกาสน้อยที่จะกระดูกหัก หรือกระดูกเสื่อม เนื่องจากไลโคปีนช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นมะเขือเทศยังเต็มไปด้วยวิตามินเค และแคลเซียม ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
ป้องกันโรคเบาหวาน
มีงานวิจัยพบว่า มะเขือเทศช่วยลดการเกิดออกซิเดชัน การอักเสบในหลอดเลือด และความเสียหายของเนื้อเยื่อซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน นอกจากนั้นยังมีการศึกษาหนึ่งพบว่า ผู้ที่บริโภคมะเขือเทศปรุงสุกติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือน มีปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของลิปิด (ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ซึ่งสืบเนื่องมาจากโรคเบาหวาน) ลดลงอีกด้วย
ช่วยย่อยอาหาร
มะเขือเทศลูกแดงๆ นี้เต็มไปด้วยไฟเบอร์ กากใยซึ่งช่วยเสริมระบบย่อยให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น บรรเทาและป้องกันอาการท้องผูก ดังนั้น หากวันไหนที่คุณต้องรับมือกับมื้อหนักๆ หรือรับประทานอาหารรสจัด ก็สามารถหม่ำมะเขือเทศสดๆ ตบท้ายมื้อได้เลย
เสริมระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพ
คุณรู้หรือไม่ว่า มะเขือเทศสดๆ นั้นเต็มไปด้วยวิตามินซี ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง แถมยังช่วยคลายความเครียด ทำให้ร่างกายผ่อยคลาย เต็มไปด้วยพลังงานบวก พร้อมเผชิญหน้ากับวันใหม่ๆ อย่างเต็มที่
เผาผลาญไขมัน
มะเขือเทศนั้นสามารถช่วยกระตุ้นการผลิตกรดอะมิโน ที่เรียกว่า “คาร์นิทีน” ได้ ซึ่งมีรายงานการวิจัยพบว่าสารชนิดนี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการเผาผลาญไขมันของร่างกายอย่างน้อย 30 % นั่นหมายถึง เจ้ามะเขือเทศลูกสีแดงเป็นปัจจัยหนึ่งในการช่วยให้น้ำหนักตัวลดฮวบได้อย่างไรล่ะ
บำรุงสายตา
ไลโคปีน ลูทีนและเบต้าแคโรทีน ในมะเขือเทศนี้เองเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องสายตาจากแสงแดด การเกิดภาวะต้อกระจก และการเสื่อมสภาพของดวงตา
ปกป้องร่างกายจากพิษของบุหรี่
นอกจากมีไลโคปีน และเบต้าแคโรทีนสูง มะเขือเทศยังมีกรดคูมาริก และกรดคลอโรเจนิก ที่มีคุณสมบัติช่วยปกป้องร่างกายจากผลเสียของควันบุหรี่ รวมไปถึงผู้ที่มีอาการแพ้ต่อควันบุหรี่อีกด้วย
0 notes
nimo003 · 2 years ago
Text
ประโยชน์ของแครอต
Tumblr media
แครอต หัวผักสีส้มสดใสที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เราอาจจะพอทราบกันอยู่แล้วว่าแครอตส่งผลดีอะไรกับสุขภาพบ้าง แต่ถ้าจะเจาะลึกกันถึงประโยชน์เพื่อสุขภาพคุณผู้หญิงละก็ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ฉะนั้นเราเลยหยิบเอาประโยชน์ดี ๆ ของแครอตเพื่อสุขภาพผู้หญิงมาฝากกัน ถ้าคุณสาว ๆ อยากสวยและมีสุขภาพดีควบคู่กันไป อย่าได้พลาดด้วยประการทั้งปวงค่ะ
👉เลขเด็ด👈
1. ช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา
ถ้าอยากให้ดวงตาคู่สวยยังคงมีสุขภาพดีอยู่กับเราไปนาน ๆ แครอตถือเป็นตัวเลือกที่ดีของอาหารบำรุงสุขภาพดวงตาค่ะ เพราะแครอตอุดมไปด้วยวิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ช่วยป้องกันไม่ให้ดวงตาเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ใครที่จ้องหน้าจอทั้งวันละก็ รีบหามากินด่วนเลย
Tumblr media
2. บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งและดูอ่อนเยาว์
เมื่อคุณผู้หญิงอายุมากขึ้น ปัญหาเรื่องผิวพรรณก็ตามมาติด ๆ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าไม่อยากแก่ก่อนวัย และยังดูเด็กจนคนทายอายุไม่ถูกละก็ ขอแนะนำให้รับประทานแครอตเลย เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระแบบเน้น ๆ ยิ่งกินยิ่งดูเด็ก ไม่เชื่อก็ลองดูสิคะ
Tumblr media
3. ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์
การเสื่อมสภาพของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายล้วนเกิดจากอนุมูลอิสระที่เข้าไปทำลายเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย และสารต้านอนุมูลอิสระในแครอตก็เปรียบเสมือนกับอัศวินที่คอยปกป้องไม่ให้เซลล์ถูกทำลาย สาว ๆ คนไหนที่ไม่อยากร่างกายทรุดโทรมหรือแก่ก่อนวัย รับประทานแครอตหรือน้ำแครอตเป็นประจำ จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นแน่นอน !
4. บำรุงสุขภาพสตรีมีครรภ์
แครอตเป็นอาหารสุขภาพที่เหมาะสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะสามารถช่วยบำรุงสุขภาพทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ได้ ช่วยเสริมสร้างให้ทารกเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง และลดความเสี่ยงของความผิดปกติที่จะเกิดกับทารก ในขณะที่ตัวคุณแม่เองนั้นก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงโรคโลหิตจาง และกระตุ้นให้มีน้ำนมเพียงพอ ที่สำคัญยังเป็นอาหารควบคุมน้ำหนักให้คุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์ด้วยล่ะ
Tumblr media
5. ป้องกันผิวจากรังสียูวี
รังสียูวีถือว่าเป็นตัวการสำคัญในการทำลายผิว อีกทั้งยังทำให้เกิดความเสี่ยงโรคมะเร็งผิวหนังเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งสารอาหารจากธรรมชาติอย่างวิตามินเอที่มีในแครอตก็สามารถป้องกันผิวพรรณของคุณสาว ๆ จากรังสียูวีได้ อีกทั้งสารต้านอนุมูลอิสระก็ยังเปรียบเสมือนสารกันแดดจากธรรมชาติป้องกันผิวจากแสงแดดไม่ให้หมองคล้ำได้อีกด้วย
Tumblr media
6. ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม
อนุมูลอิสระที่มาจากอาหาร และมลพิษที่อยู่รอบตัวเปรียบเหมือนเป็นพันธมิตรชั้นดีของโรคมะเร็ง เพราะเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วก็จะเข้ามาทำลายเซลล์และอาจแปรสภาพให้เซลล์เหล่านั้นกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ แต่การรับประทานแครอตเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง และช่วยผู้ป่วยมะเร็งต่อสู้กับเซลล์มะเร็งในร่างกาย
Tumblr media
7. กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร
สำหรับสาว ๆ ที่กำลังคิดจะลดน้ำหนัก ห้ามลืมเลือกแครอตเป็นผู้ช่วยในการสร้างหุ่นที่ผอมเพรียวแบบฟิต แอนด์ เฟิร์มนะคะ เพราะแครอตจะเข้าไปช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น
Tumblr media
8. ลดอาการช่วงมีประจำเดือน
แครอตเป็นอีกหนึ่งในอาหารที่่ช่วยลดอาการต่าง ๆ ในช่วงเป็นประจำเดือนได้เป็นอย่างดีเนื่องจากอุดมด้วยสารอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธาตุเหล็ก วิตามินเอและเบต้าแคโรทีน ซึ่งผู้หญิงจะสูญเสียธาตุเหล็กไปมากกว่าปกติ และถ้าหากร่างกายขาดธาตุเหล็กอาจทำให้อ่อนเพลีย ขาดสมาธิ ผมร่วง และเป็นโรคโลหิตจางได้ นอกจากนี้วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและควบคุมให้ประจำเดือนมาตามปกติ หมดปัญหาหนักใจเรื่องรอบเดือนผิดปกติไปได้เลย
Tumblr media
9. ป้องกันการเกิดสิว
สารอาหารในแครอตไม่เพียงแต่ช่วยบำรุงให้ผิวสวยใส แต่ยังช่วยปรับค่าพีเอช (pH) ในผิวให้เกิดความสมดุลอีกด้วย ลดการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ถ้าดื่มน้ำแครอตผสมน้ำผึ้งละก็ จะยิ่งช่วยรักษาสิวและยับยั้งไม่ให้เกิดสิวได้
Tumblr media
10. ดูแลสุขภาพผมให้แข็งแรง และเงางาม
สำหรับเรื่องสรรพคุณในการบำรุงเส้นผม แครอตก็มีดีไม่ใช่เล่น เพราะวิตามินเอ และเบต้าแคโรทีนที่อยู่ในแครอตมีฤทธิ์ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรงและเงางาม อีกทั้งวิตามินซีที่มีในแครอตเช่นกันก็ยังช่วยทำให้ผมที่ขาดความชุ่มชื้นกลับมานุ่มสลวยสมใจ
Tumblr media
1 note · View note
nimo003 · 2 years ago
Text
วันวาเลนไทน์ (Valentine's Day)
Tumblr media
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่วัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะนึกถึงเป็นวันพิเศษระหว่างคู่รักที่มอบความหวานให้กัน จากความเข้าใจผิดในอดีตทำให้คนหนุ่มสาวทำอะไรแปลกๆ ผิดประเพณี นำไปสู่การสูญเสียคุณค่าของชาติ
เมื่อให้ของขวัญต้องนึกถึงความหมายของของขวัญที่มอบให้ผู้ให้และผู้รับ เพราะของขวัญนั้นจะเป็นความทรงจำระหว่างคุณและคนที่คุณรักตลอดไป ดังคำโบราณที่ว่า “เห็นของขวัญแล้วคิดถึงเจ้าของ” " ดังนั้นก่อนตัดสินใจให้อะไร คุณควรพิจารณาว่าของขวัญนั้นสะท้อนถึงความรักและความห่วงใยที่คุณมีต่อพวกเขามากน้อยเพียงใด ต่อไปนี้เป็นของขวัญที่มีความหมายที่คุณควรมอบให้กับคนที่คุณรัก ไม่ว่าคุณจะเป็นคู่รัก สามี ภรรยา พ่อแม่ พี่น้อง หรือเพื่อน เลขเด็ด
รับประทานอาหารเย็นสุดโรแมนติก
คุณสามารถเตรียมอาหารเย็นที่บ้านพร้อมดนตรีโรแมนติกและเต้นรำด้วยกันในเวลาของคุณเองโดยไม่มีใครรบกวนคุณ
2 .ซื้อหนังสือที่เขาชอบหรือมีประโยชน์
เมื่อเราซื้อหนังสือให้เขา เหมือนการให้ความรู้ใหม่ๆ แก่เขามากขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือเล่มนี้ไม่สูญเสียความหมาย และสามารถฝากไว้ให้ลูกหลานได้หลายปี
3 .พาคนที่คุณรักไปเที่ยว
การไปเที่ยวเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาอยากไป โดยเฉพาะ ทำให้ความรู้สึกของเขาสดชื่นและคลายความกังวล มันเป็นของขวัญล้ำค่าที่จะไม่มีวันลืม
4 .มอบของขวัญให้กับคนยากจน
การช่วยเหลือคนยากจนเป็นสิ่งที่ดีเพราะพวกเขาไม่มีอาหารพอกินเลย ถ้าเราช่วยพวกเขาเขาก็มีความสุข เมื่อเราทำความดีด้วยการให้ใครสักคน สักวันหนึ่งเราก็จะมีความสุขอย่างแน่นอน และการทำบุญที่เรามอบให้ผู้อื่นจะไม่สูญสลายไป
5 .ไปเยี่ยมญาติ
แน่นอนว่าใครๆ ก็ยุ่งตลอด แต่บางครั้งถ้าคุณมีเวลาน้อยก็ควรหาเวลาไปเล่นพวกเขาอย่างน้อย 2-3 ครั้ง เพาะเป็นความสุขของเราและพวกเขาด้วย และอย่าทำสิ้งที่ไร้ประโยชน์มากเกินไป
0 notes
nimo003 · 2 years ago
Text
4 วิธีนี้ช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาทางจิต มีอะไรบ้าง มาติดตามกัน
Tumblr media
ปัจจุบัน ชีวิตเต็มไปด้วยความกดดันและความท้าทายที่อาจทำให้พวกเราบางคนเสี่ยงต่อปัญหาทางอารมณ์มากขึ้น ดังนั้นเราต้องไม่ลืมที่จะดูแลและรักตัวเองให้มากๆเพราะไม่มีใครเข้าใจเราชัดเจนไปกว่าตัวเราเองเลย เลขเด็ด
เคล็ดลับการมอบความรักให้กับตัวเองเราไม่ควรมองข้าม
ใช้เวลากับตัวเองบ้าง
หลังจากวันอันแสนยุ่งวุ่นวายเราก็ต้องหาเวลาทำอะไรสักอย่างเพื่อเพิ่มความเป็นอยู่และความสุขให้กับตัวเราเอง แน่นอนว่า การใช้เวลากับตัวเองเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพกายและสุขภาพจิต
รู้จักตัวเอง
บางครั้งเรากล้าเปิดใจยอมรับผลงานของคนอื่น แต่กลับไม่ชื่นชมผลงานและความพยายามของตนเอง ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการหลอกลวงตนเองเพิ่มเติมเราควรเรียนรู้ที่จะยอมรับความสำเร็จของตนเองแม้ว่าจะไม่ได้ยิ่งใหญ่ก็ตาม
ยกโทษให้ตัวเอง
แน่นอนว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ และทุกคนก็ทำผิดพลาดไม่มากก็น้อย แต่เราไม่ควรโทษตัวเองสำหรับความผิดพลาดหรือผลลัพธ์ที่ไม่ดีเหล่านั้น เราควรเรียนรู้จากความผิดพลาดของเราและเดินหน้าต่อไป
ดูแลตัวเองให้ดีๆ
อีกวิธีหนึ่งคือการรักและดูแลตัวเองโดยให้���ุณค่าและเคารพทั้งจิตใจและร่างกายของตนเอง นอนหลับให้เพียงพอ ทานผักผลไม้ และออกกำลังกายทุกวันและนั่งสมาธิเพื่อเติมเต็มชีวิตให้สงบ จิตใจสงบ
0 notes
nimo003 · 2 years ago
Text
เคล็ดลับสำคัญๆ ในการเตรียมแผนการเงินก่อนเกษียณ
Tumblr media
เมื่อเงินของเราเริ่มมีเสถียรภาพ รายได้ที่เหมาะสม อาหารและการบริโภคเพียงพอ และเก็บเงินในแพ็คเกจสำรองฉุกเฉินที่ปลอดภัยและมีการบริหารความเสี่ยงทางการเงินส่วนบุคคลที่เพียงพอ ถึงเวลาที่เราควรคิดหาวิธีจัดการเงินของคุณให้ปลอดภัย
นี่คือประเด็นสำคัญๆของการวางแผนการเงินก่อนวัยเกษียณ
1 รู้สถานการณ์ทางการเงินปัจจุบันของคุณ
ขั้นแรก คุณต้องทราบสถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบัน ทั้งรายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สิน เพื่อคิดและวางแผนขั้นต่อไป พยายามหารายได้เสริม ใช้จ่ายเท่าไร? เก็บเงินทุกเดือนเท่าไหร่? สามารถบรรลุเป้าหมายการเกษียณอายุก่อน
2 ประมาณการความจำเป็นในการใช้จ่ายหลังเกษียณ
เราต้องคิดว่าเราจะต้องใช้เงินเท่าไรเมื่อเราเกษียณ เพราะการใช้จ่ายเพื่อการเกษียณอายุอาจแตกต่างไปจากความต้องการใช้จ่ายในปัจจุบันของคุณอย่างมาก วัยชราสามารถใช้เวลานอกบ้าน ซื้อบ้าน เก็บเงินให้ลูก และค่ารักษาหรือดูแลสุขภาพ
3 ตั้งเป้าหมายการเกษียณอายุของคุณ
หลังจากกำหนดเป้าหมายการเกษียณอายุแล้ว คุณสามารถกำหนดอายุและงบประมาณสำหรับการเกษียณได้ ตัวอย่าง: ปีนี้คุณอายุ 23 ปี และต้องการเกษียณเมื่ออายุ 75 ปี ด้วยเงิน 200,000 ดอลลาร์ ดังนั้นคุณมีเวลา 52 ปีในการบรรลุเป้าหมายนี้។
4 จัดทำแผนและดำเนินการตามแผนของคุณ
คุณควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในอนาคตเนื่องจากมูลค่าของเงินอาจแตกต่างกันไปจากปัจจุบัน ในขณะเดียวกันคุณต้องแน่ใจว่าการปฏิบัติตามแผนการเกษียณอายุของคุณจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการออมหรือเป้าหมายทางการเงินอื่น ๆ คุณสามารถสร้างบัญชีธนาคารแยกต่างหากสำหรับการเกษียณอายุของคุณได้ นอกจากนี้ เพื่อเสริมสร้างแผนการเกษียณอายุของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณสามารถขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแผนการเกษียณอายุของคุณได้
0 notes
nimo003 · 2 years ago
Text
อย่าพลาด 4 เทคนิคนี้ ดูแลสุขภาพดวงตาให้ดีขึ้น
Tumblr media
การรับประทานอาหารที่ถูกต้อง
การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพด้วยผัก ผลไม้ โดยเฉพาะผักที่มีสีเหลืองและสีเขียวเข้มมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพดวงตา ในทำนองเดียวกัน ปลา ไข่ และผลไม้ มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น อะโวคาโด ก็มีความสำคัญต่อสุขภาพดวงตาเช่นกัน ผักที่ดีต่อสุขภาพดวงตา ได้แก่ มันเทศ มะเขือเทศ แครอท ผักคะน้า และผักใบเขียวอื่นๆ ผลไม้ได้แก่ อะโวคาโด ส้ม กีวี่ และองุ่น <<เยี่ยมชม>>
Tumblr media
รักษาน้ำหนักให้ดี
น้ำหนักตัวยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพดวงตาด้วย หากเรามีน้ำหนักเกินอาจทำให้เราเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้ โรคเบาหวานอาจทำให้สุขภาพดวงตาไม่ดีได้ ความท้าทายต่อสุขภาพดวงตาคือโรคตาอันเนื่องมาจากโรคเบาหวานและต้อหิน
Tumblr media
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ในทำนองเดียวกัน การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ดีต่อสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังดีต่อสุขภาพดวงตาด้วย มันดีแค่ไหน? เป็นการดีต่อดวงตาที่การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถป้องกันตัวเองจากโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และคอเลสเตอรอลสูงได้ โรคทั้งหมดนี้สามารถนำไปสู่ปัญหาการมองเห็นได้ ดังนั้นหากเราออกกำลังกายสม่ำเสมอก็หมายความว่าเราลดความเสี่ยงต่อปัญหาสายตาได้
Tumblr media
พักสายตาบ้าง
พวกเราหลายคนกำลังทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และยังคงดูโทรศัพท์ต่อไป การจ้องหน้าจออิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้เป็นเวลานานอาจทำให้เราลืมได้ในพริบตา ส่งผลให้ปวดตาได้ ดังนั้นหากเราใช้งานคอมพิวเตอร์มากก็ควรพักสายตาบ้าง ตามแนวทางเราควรผ่อนคลายสายตาทุกๆ 20 นาที และมองสิ่งอื่นๆ ในระยะประมาณ 6 เมตร ใน 20 นาที วินาที นอกจากนี้ ห้ามสูบบุหรี่ ใช้แว่นตาอย่างเหมาะสมในระดับสายตาและตรวจตาเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา แต่เป็นวิธีที่จะช่วยให้ดวงตาของเราแข็งแรง
Tumblr media
0 notes