Text
[SF] I would like to talk about ‘TOMORROW’
[ SHORT FICTION ]
.
.
Title
I would like to talk about TOMORROW
.
.
.

.
Pairings
TAEMIN x NAEUN
.
.
.
.
.
BGM
Say You Won't Let Go - James Arthur
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ ความรักก็เป็นแบบนี้แหละ เราไม่รู้หรอกว่ามันเกิดจากอะไร...
...มันเหมือนกับเราลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ แล้วพบว่าโลกทั้งใบก็มีแต่เขาคนเดียว........”
.
- ( Cr. หนังสือที่เราจำชื่อไม่ได้ T^T ใครรู้สะกิดบอกด้วยนะ)
.
.
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ รู้ไหมนาอึน รักคนแบบนั้น ไม่ต่างจากฝันที่จับต้องไม่ได้หรอก “
.
มีใครบางคนเคยพูดประโยคนั้นกับฉัน
.
.
ตอนที่ได้ยิน ฉันแค่ยิ้มและไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป
.
แต่เลือกจะตอบคำถามนั้นอยู่ในใจแทน..
.
.
.
ฉันจำความฝันของตัวเองก่อนหน้านี้ ได้ดี
.
.
.
ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่..ยาวไกลสุดลูกหูลูกตา ดอกไม้นานาพันธ์หลากสีแข่งกันบานอวด
.
.
.
หากแต่ความสวยงามเหล่านั้น ก็ยังไม่ทำให้ฉันคลายความกังวล
.
.
.
ฉันเอาแต่นึกกลัว ว่าโลกที่สงบ กว้างใหญ่และปลอดภัยของฉันจะถูกทำลาย
.
.
.
ทุกคืน ฉันจะมองไปที่กำแพงสูงใหญ่ที่แบ่งกั้นพื้นที่ของฉันไว้ไม่ให้สิ่งใดเข้ามา และคิดว่ามันจะแข็งแรงพอหรือเปล่า
.
.
.
.
.
.
จนกระทั่ง นักผจญภัยคนนั้น เดินผ่านมา
.
.
เขาสอนฉันให้รู้ว่า กำแพงสูงใหญ่ที่ฉันใช้เป็นเกาะกำบังความปลอดภัย .....จริงๆแล้วไม่ได้มีความหมายอะไรเลย
.
.
.
.
“ แทนที่จะเป็นแขนหรือขา แต่หัวใจกลับถูกสร้างให้เป็นกล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุด.....ทำไมรู้ไหม?
.
.
….เพราะจริงๆแล้ว พระเจ้าสร้างหัวใจเอาไว้ ให้เราใช้เพื่อปกป้องตัวเองไง” ^ ^
.
.
.
.
.
นับจากวันนั้น ฉันออกเดินสู่อีกฟากของกำแพง พร้อมกับเริ่มเรียนรู้การใช้หัวใจ เพื่อให้ตัวเองปลอดภัยแทน
.
.
.
.
.
.
..
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Because I do not want to see a world without him – Issac
- The Fault in Our Stars -
( ......เพราะว่าฉันไม่เคยต้องการ มองเห็นโลกที่ไม่มีเขาอยู่ )
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ปีต่อๆไปเรามารอดูหิมะแรกด้วยกันอีกนะ
ได้หรอคะ?
ได้ซิ เกี่ยวก้อยสัญญาเลย
อื้ออ >\\<
.
.
.
.
3 ปีแล้ว ที่คำสัญญาไม่ได้เป็นไปอย่างที่คนบอกตั้งใจไว้
.
.
ปีถัดจากนั้น ขณะที่ฉันกำลังเดินทางไปทำงานตามตารางงานเดี่ยวของตัวเอง หิมะแรกก็ตกลงมา มีเพียงข้อความเสียงของคนที่เก็บตัวซ้อมหนักอยู่ บอกว่าได้เห็นหิมะแรกไปแล้วเมื่อหลายชั่วโมงก่อน
.
ปีต่อมา ฉันยืนอยู่บนระเบียงหอพัก มองหิมะแรกพร้อมกับสมาชิกทุกคนในวง ในมือของฉันมีโทรศัพท์ที่แจ้งเตือนมิสคอลหลายสายจากคนที่อยู่อีกฟากโลก
.
ส่วนปีที่แล้ว ฉันจำได้แค่ว่าหิมะแรกมาช้ากว่าทุกปี แต่กลับจำไม่ได้ว่าตัวเองได้เห็นมันที่ไหน จู่ๆความทรงจำส่วนนั้นก็หายไป เหมือนกับข้อความและมิสคอลที่ไม่มีแจ้งเตือน........ราวกับว่าวันนั้นเป็นเพียงหนึ่งวันธรรมดาที่ไม่น่าจดจำอีกต่อไป
.
.
.
.
.
.
ถ้าบอกว่าไม่ผิดหวัง ก็คงเป็นคำโกหกคำโต
เหมือนกับเวลาที่ใครซักคนผิดนัด ทั้งที่เรามารอเขาอยู่นานแล้ว
นอกจากเรื่องที่เขาไม่มา พอคิดว่าอาจจะเป็นเราฝ่ายเดียวที่เฝ้ารอช่วงเวลานั้น ความผิดหวังก็เพิ่มเป็นทวีคูณ
.
นี้ไม่ใช่เรื่องเดียวที่ทำให้ฉันรู้สึกแย่ หลายอย่างบนความสัมพันธ์นี้ มันทำให้ทุกก้าวที่เราเดิน ไม่ได้ง่ายอย่างที่ใจอยากให้เป็น.
.
.
.
ฉันคาดหวังมากไปหรือเปล่า? ... ฉันเรียกร้องในสิ่งที่เขาให้ไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม?..... ตอนนี้เขาตื่นหรือว่าหลับ?... . ที่นั้นพระจันทร์จะสวยเหมือนกับตรงนี้หรือเปล่า? .......มีคำถามอีกเป็นร้อยที่ฉันมักจะถามตัวเองซ้ำๆ
.
แต่ไม่เคยอนุญาตให้ตัวเองตั้งคำถามประเภท.......ทำไมหรือเมื่อไหร่? ...ฉันจะไม่ถามหาเหตุผลที่ก้าวเดิน จะไม่ถามหาจุดหมายปลายทาง
.
เพราะเราไม่ควรเปิดโอกาสให้สมองหาเหตุผลมาใช้ กับเรื่องที่ต้องให้หัวใจตัดสิน
.
.
คำถามเดียวที่ฉันต้องตอบตัวเองให้ได้ทุกครั้ง ที่ความลังเลเกิดขึ้นในก้าวต่อไปที่จะเดินบนความสัมพันธ์นี้ก็
.
.
พรุ่งนี้ตอนที่ลืมตาตื่นขึ้นมา.. ฉันยังอยากมีเขาอยู่ในชีวิตหรือเปล่า?
.
.
.
.

.
.
.
- I love you too much to let you think .. I can live without you -
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ตารางงานช่วงนี้ของฉันยุ่งสุดๆเลยคะ เพราะอาทิตย์หน้าฉันจะคัมแบ็ค!! นาอึนนี่ที่ขยัรีดน้ำหนัก เข้ายิมฟิตๆหุ่น ก็แหมมมมม โลกนี้มันมีอะไรน่ากินอีกเป็นพันเป็นหมื่น วันๆนึงฉันถึงต้องลองชิมทุกอยากให้มากที่สุดไง ^_______^
.
.
.
แพนด้าที่น่าร้ากกกกกกกกกกก ต้อนรับการคัมแบ็คของเราอย่างดีเลยล่ะ ทุกคนชอบเพลงของพวกเราใช่ไหมคะ นาอึนนี่คนนี้ตั้งใจซ้อมจนเกือบจะหลั่งเลือดเลยนะ!! T_____T .... ล้อเล่นนะคะ เห็นทุกคนมีความสุขที่ได้ฟังเพลงของเรา แล้วความเหน็ดเหนื่อยก็หายไปจนหมดเลยล่ะ
.
ขอบคุณนะคะ .... ..มีคำที่มากกว่าคำว่าขอบคุณไหมคะ ฉันอยากให้พวกคุณทุกคนเลยคะ!! T^T
.
.
.
ฉันอยู่ในห้องพักระหว่างรอการบันทึกเทปของรายการเพลง ไม่บอกหรอกคะ ว่าเป็นสถานีที่ฉันเคยขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้ามาแล้ว คึคึ -*-
.
.
พอได้หยิบมือถือขึ้นมานั่งเล่นไปเรื่อยๆ หัวใจก็เหมือนจะห่อเหี่ยวลง ..
.
คุณลีแทมินขาดการติดต่อกันไป นับได้ก็... 45 วันเต็ม -*- .. No ข้อความ Noสายโทร ไม่มีแม้แต่ของที่ฝากผู้จัดการหรือเพื่อนมาให้เหมือนทุกที
.
ช้ำใจสุดๆก็ตรงที่ พี่แทมินนะ ออกข่าวแทบจะทุกวัน ฉันก็เลยรู้ว่าเขาเดินทางไปที่ไหน ทำอะไรอยู่
.
พูดแล้วก็พาลหงุดหงิด ขอกดฟังเพลย์ลิสต์เพลงโปรด ระหว่างรอขึ้นเวทีดีกว่า ..อ่า เพลงจ๋า เฮลลิ่งนาอึนนี่ที T^T
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หนึ่งในข้อตกลงของเราก็คือ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เราจะไม่พูดคำโกหก
.
.
เพราะฉะนั้น ที่ผ่านมา ฉันถึงได้เห็นลีแทมิน มาแล้วเกือบจะทุกโหมด
.
.
อย่าง โหมดเหวี่ยง ไม่มีเหตุผล จะเกิดจากการทำงานโดยไม่ได้พัก ซ้อมหนักหรือมีบางอย่างไม่เป็นไปตามที่คิด ก็พาลมาลงใส่คนรอบข้าง
ขั้นสุดจากโหมดนี้ คือการหายเงียบเข้ากลีบเมฆ อาการจะมาตอนท้อใจสุดๆ เหนื่อยสุดๆ แล้วพาลไปลงที่ตัวเองแทน โทษตัวเองทุกอย่าง ก็เลยปิดกั้นตัวเอง
.
.
.
เพราะว่าพี่แทมิน ไม่ใช่คนที่ท้อกับอะไรง่ายๆ รักในงานที่ทำ เข้าขั้นบ้างานสุดๆ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเขาท้อขึ้นมา เขาก็คงอดทนมา จนกระทั่งมันเกินลิมิตแล้ว
.
.
ทุกครั้งฉันจะเอ่ยคำว่า “ขอโทษ” ฉันรู้สึกแบบนั้นและผิดหวังในตัวเอง
.
เพราะตอนที่เขาต้องการใครซักคนจริงๆ ฉันกลับไปอยู่ข้างๆเขาไม่ได้
.
.
ขอโทษนะคะ ซักวันนึง ฉันจะชดใช้ให้พี่แน่ๆ ^ ^
.
.
พอตอนที่อารมณ์ดีขึ้น ก็เข้าสู่โหมดเด็กอนุบาลคนเดิม เป็นเด็กที่แม้แต่เรื่องเล็กๆ อย่าง “ อปป้า กดโหวตให้นาอึนนี่ด้วยนะวันนี้” ก็อยากได้รับความสนใจไปซะทุกเรื่องนั่นแหละ.... ความจริงแล้วคุณลีแทมิน เลี้ยงไม่ยากหรอกคะ >\\\<
.
.
.
.
อ้ออ แล้วถ้าวันไหนที่พี่แทมินรู้สึกแย่สุดๆ เขาจะไปหาที่พึ่งคนเดียวของเขาคะ พี่แทซุน พี่ชายสุดคูลลลล ที่ออกตัวว่าอยู่ #ทีมนาอึน ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน คึคึ ^^
.
.
. .
สำหรับฉัน ช่วงเวลาแย่ๆ ก็มีเมมเบอร์คอยรับฟังและทำให้หายเครียด แต่เรื่องสำคัญ เรื่องที่ต้องตัดสินใจให้รอบคอบ ผู้หญิงคนเดียวที่ฉันคิดถึงก็ต้องเป็นคุณนายซนคนสวยคนเดียวเท่านั้น
.
.
.
.
“ เวลาที่ใครซักคนพูดว่าความรักของเขามันวิเศษ แม่ไม่รู้หรอกนะว่าเขาหมายความมันว่าอย่างไร
แต่สำหรับแม่ ความรักมันวิเศษ ก็เพราะทุกๆวัน เราทั้งคู่ได้เป็นทั้งผู้ให้ ผู้รับ ผู้รักษา และเป็นผู้ถูกเยียวยา
พ่อเขานะ...เป็นคนที่ทำใ��้ชีวิตของแม่มีความหมาย เพราะฉะนั้นแม่จะไม่ยอมปล่อยคนๆนี้ไปหรอก!
....ถ้านาอึนนี่ เจอกับใครคนนั้น ก็จะเข้าใจเองแหละ ^ ^ “
.
.
.
.
.
ฉันคิดว่าตัวฉันในตอนนี้ พอจะเข้าใจมันขึ้นมาแล้วล่ะ
.
.
.
.
สำหรับคำตอบของคำถามในตอนนั้น
.
.
.
.
“ ถ้าพี่แทมินเหมือนกับความฝัน.....ที่ไม่มีวันจับต้องได้
แม้สุดท้าย เขาจะเป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิตฉัน.... มันก็ยังเป็นฝันที่ฉันอยากมีในทุกคืน
.
.
เพราะเขาทำให้ชีวิตของฉันยามที่ลืมตาตื่น มันมีความหมายในทุกๆวัน....... “
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

.
.
“Some people don't understand the promises they're making when they make them," - Hazel
"Right, of course. But you keep the promise anyway. That's what love is. Love is keeping the promise anyway” - Issac
- The Fault in Our Stars -
( คนบางคนให้คำสัญญา ทั้งที่พวกเขายังไม่เข้าใจมันด้วยซ้ำ )
( นั่นก็ถูก... แต่เธอจะเอ่ยสัญญาอยู่ดี ... ความรักมันทำให้เราเป็นแบบนั้น ไม่ว่ายังไง รักก็คือการหมั่นให้คำสัญญา )
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ปีที่เราได้ดูหิมะแรกตกลงมาด้วยกัน ผมบอกกับเธอ ว่าเราจะดูหิมะแรกด้วยกันทุกปี
.
.
.
.
แต่ปีต่อมากลายเป็นว่าผมอยู่ญี่ปุ่น นาอึนทำงานที่พูซาน ผมส่งข้อความเสียง��ป และบอกเธอว่าปีหน้าจะต้องไม่พลาด
.
.
และผมก็พูดประโยคเดียวกันนั้นในปีถัดๆมา
.
.
.
.
.
.
ความจริงก็คือ เราไม่เคยได้ดูหิมะแรกด้วยกันอีกเลย
.
.
.
.....และคำสัญญา ก็กลายเป็นคำหลอกลวง ...
.
.
.
.
.
.
นาอึนไม่เคยโกรธ และถึงแม้ว่าเธอจะโกรธ เธอก็ไม่เคยตำหนิผม นาอึนไม่เคยใช้คำพูดที่ทำให้ผมเสียใจ .
.
ไม่ว่าอย่างไร เธอจะส่งยิ้มผ่านหน้าจอมาให้ผมเสมอ
.
.
.
.
.
.
แต่นั้น ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกผิดของผมลดน้อยลงเลย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ มาทำไม?“
.
.
.
เจ้าของห้องเอ่ยทัก หลังจากเปิดประตูเข้ามาแล้วเจอผมนั่งอยู่บนโซฟาตัวโปรดของเขา ถุงใส่ของใบใหญ่ที่ถืออยู่เต็มสองมือ ทำให้ต้องใช้ไหล่ข้างดันปิดประตูแทน แทซุนสะบัดรองเท้าแตะที่สวมอยู่ให้หลุดกองไว้ที่พื้น แล้วเดินเข้ามา
“ถามอะไรแบบนั้น ผมมาหาพี่ออกจะบ่อย”
.
.
“บ้านกูไม่เรียกจำนวน 3ครั้งต่อปีว่าบ่อย..”
.
.
“55555 พี่ก็รู้ว่าผมงานยุ่ง”
.
.
“ กูถึงถามไง ว่าทำไมวันนี้สารร่างของมึงถึงมาอยู่ห้องกู”
.
.
.
เจ้าของห้องไม่ได้สนใจจะฟังคำตอบของผมมากมายนักหรอก แทซุนวางของที่ซื้อมาไว้ที่เคาน์เตอร์ครัว เดินไปนั่งลงที่โต๊ะทำงาน เปิดสวิทซ์คอมฯกับบรรดาเครื่องมือทำเพลงลูกรัก ตามปกติ
.
.
.
“มึงเดินไปเอาของในถุงแช่ตู้เย็น แล้วหยิบเบียร์ออกมาให้กูกระป๋องหนึ่งด้วย”
.
.
.
ผมลุกขึ้นทำตามคำสั่งทันที จัดของใส่ตู้เย็น หยิบเบียร์ออกมาหนึ่งแพ็ค เดินกลับมาในห้องนั่งเล่น โยนกระป๋องแรกให้อีกคนรับไปเบาๆ
.
.
.
.
“พี่จะทำเพลงต่อหรอ”
.
.
.
“อืม..”
.
.
.
.
ผมยืนมองหน้าจอที่กำลังรันโปรแกรมอยู่ซักพัก ก็ย้ายตัวเองกลับมาที่โซฟาตัวเดิม เปิดเบียร์อีกกระป๋องให้ตัวเอง ปล่อยให้พี่ชายคนเก่ง ปรับนู้น จูนนี้ เตรียมตัวจะทำงานไปซักพัก
.
.
.
.
“ว่างคุยกับผมไหม”
.
.
.
ชิงถามออกไปก่อนที่เจ้าของห้องจะสวมหูฟังตัดการสื่อสารทั้งหมด หูฟังสีดำอันใหญ่ก็เลยถูกปล่อยค้างอยู่รอบคอแทน
.
.
.
“มึงก็เลิกทำท่าคูลๆแล้วพูดมาซักทีเถอะ กูรอฟังตั้งแต่เปิดประตูมาเจอมึงแล้ว”
.
. .
.
555 ...พี่แมร่ง..
.
.
.
.
.
ผมจิบเบียร์ในมืออีกครั้ง ก่อนจะเริ่มทำสิ่งที่ทำอยู่ทุกครั้งที่มาที่นี้
.
.
.
.
“สำหรับพี่ ผมเป็นน้องชายที่ดีหรือเปล่า”
.
.
.
.
แทชุนละสายตาจากจอคอม ทันทีที่คำถามถูกเอ่ย หยิบกระป๋องเบียร์ที่วางไว้ด้านซ้าย หมุนเก้าอี้กลับมามองที่ผมนิ่งๆ
.
.
.
เจ้าของหัองกระดกเบียร์ในมือแล้วปล่อยให้ความเงียบตอบคำถามของผมอยู่หลายนาที
.
.
.
.
.
“กูกำลังคิดว่า พระเจ้าเก่งเรื่องสร้างสมดุลเอาไว้ให้มนุษย์ทุกคน คนที่หัวไวคิดไว ตัดสินใจเร็วแบบมึง บางทีก็ชอบถามคำถามโง่ๆออกมาอยู่บ่อยๆ”
.
.
.
“ ... สำหรับกู การตัดสินว่าใครดีหรือไม่ดี มันอยู่ที่ความคาดหวังของเราที่มีต่อคนๆนั้น
.
กูไม่เคยฝันอยากมีน้องชาย กูก็เลยไม่ได้คาดหวังว่าเด็กที่เกิดมาหลังกูในอีก2 ปีคนนั้นจะใช้ชีวิตยังไง ...มันก็สนุกดีที่มีมึงอยู่ในบ้านเป็นเพื่อนเล่น”
.
.
แทซุนลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน มานั่งที่โซฟาตรงข้ามผม วางกระป๋องเบียร์ที่ดื่มจนหมดแล้วลงบนโต๊ะแล้วหยิบกระป๋องใหม่ขึ้นมาเปิด
.
.
.
“..อีกอย่าง กูมีมึงเป็นน้องชายอยู่คนเดียว กูก็เลยไม่รู้ว่าน้องชายที่ดีกว่ามึงหรือแย่กว่ามึง มันเป็นยังไง.... “
.
.
.
“ผมรักพี่ว่ะ ...^ ^”
.
.
“กูไม่ได้ชมมึงนะเมื่อกี้”
.
.
“เอาน่า ผมก็แค่อยากบอกไง ^______________^”
.
.
.
ผมรู้ว่ามันไม่ใช่คำชม แทซุนบอกว่ามันไม่ได้คาดหวังว่าผมจะดีหรือเลวไปมากกว่าที่ตัวผมเป็น ผมก็คือผม ...เป็นน้องชายคนเดียวของมันอยู่ดี ...
.
.
.
ผมจิบเบียร์ที่เหลือไม่มากในกระป๋อง ในขณะที่สายตาก็มองไปที่แสงไฟในเมือง... โซลยังดูคึกคักเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน ผมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย หางตาเห็นว่าแทซุนลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัว
.
. .
เมื่อกี้ผมคิดว่าอารมณ์ผมดีขึ้นนิดหน่อยเพราะพี่แทซุน แต่คงต้องโทษเบียร์กระป๋องที่สองในมือซินะ ตอนนี้ผมก็เลยไม่เป็นตัวของตัวเองเอาซะเลย
.
.
.
.
.
“ ที่เป็นอยู่ตอนนี้ เรียกว่าความเห็นแก่ตัวหรือเปล่า... “
.
.
จู่ๆก็เหมือนว่าผมจะเผลอพูดประโยคที่อยู่ในความคิดออกมา..........
.
.
.
แทซุนที่เดินกลับมาพร้อมจานของกิน ได้ยินมันพอดี
.
“ ยังไง....?”
.
.
.
.
“ผมก็แค่พยายามไล่นึกดู ว่าความฝันของผมกำลังทำร้ายใครบ้าง ผมอาจจะเก่งในสิ่งที่ผมทำอยู่ ไม่ว่าจะเพลงหรือการเต้นผมทุ่มให้เกินร้อย ผมสนุกกับมัน มีความสุขที่ได้ทำทุกอย่างจริงๆ แต่กับเรื่องอื่น สถานะอื่น ผมเป็นไอ้งั่งที่ไม่เก่งอะไรเลญ....
...ผมเป็นลูกที่แย่ เป็นน้องที่เอาแต่ใจ...และผมก็เป็นคนรักที่......ห่วยแตก
.
.
ขนาดผมยังเกลียดตัวเองเลย แล้วนาอึนจะรู้สึกแย่ขนาดไหน ....”
.
.
ผมใช้เสียงที่ดังกว่าปกติ แล้วปล่อยให้ห้องเงียบลงอีกครั้ง
.
.
.
“กูรอฟังอยู่”
.
.
พี่แทชุนที่กำลังก้มหน้า ตั้งใจหั่นชิ้นสเต็กในจาน ถามย้ำขึ้นมา หลังจากที่ผมเงียบไปนาน
.
.
.
“ผมอยากให้พ่อกับแม่อยู่ที่บ้านทุกครั้งที่ผมกลับมา ผมบอกให้แม่ทำอาหารที่ผมอยากกิน..
ผมมาหาพี่ในเวลาที่ผมอยากจะเจอ...ผมโทรหานาอึนในวันที่ผมต้องการ....
.
เพราะว่าผมยุ่งมาก ทุกคนก็เลยให้ความสำคัญกับเวลาของผม ไม่มีใครเคยบ่น ที่จู่ๆผมก็อยากได้นู้นอยากได้นี้ โดยไม่ถามว่าพวกเขาสะดวกจะให้หรือเปล่า...
.
ผมเป็นแค่แทมินคนโลภ ที่อยากได้ทุกอย่างเอาไว้ในมือ แต่ไม่เคยเรียนรู้ที่จะรักษามันไว้.....
.
.
ผมทำร้ายหัวใจคนอื่น และทั้งที่รู้ ผมก็ยังทำมันซ้ำๆอีก.....”
.
ผมรู้ว่าตอนนี้เสียงของผมสั่น ผมกำลังอ่อนแอเป็นคนขี้แพ้ที่ไม่มีปัญญาแก้ปัญหาของตัวเอง...... แต่เพราะแบบนี้ไง คืนนี้ผมถึงมาอยู่ที่นี้ เพราะผู้ชายตรงหน้า คือคนเดียวบนโลกที่เห็นความน่าสมเพชของผมมาทั้งชีวิต
.
.
.
“พี่เคยบอกว่าเชือกที่ผมพยายามดึงอยู่ ซักวันมันจะขาด และถ้ารอให้มันขาด ทุกอย่างจะไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิม ผมก็เลยต้องผ่อนสายเชือกให้ยาว ทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ ว่าต้องผ่อนเชือกอีกแค่ไหน มันถึงจะดีที่สุดกับนาอึน”
.
.
“เดี๋ยวนี้มึงใช้เวลาอารัมภบทนานเกินไปนะ ผ่านไปจะค่อนคืนอยู่แหละ แต่ก่อนที่กูจะตอบคำถามโง่ๆข้อที่ 2 ของมึง หยิบสเต็กในจานขึ้นมากินให้กูดูก่อน กูจะกินของกูไปด้วย ตอบมึงไปด้วย”
.
.
“ผมดูแย่ขนาดที่พี่คิดว่าผมกำลังตรอมใจ กินอะไรไม่ได้เลยหรอ”
.
.
“กูเสียดายเนื้อ ของแพงด้วย”
.
.
ผมจิ้มชิ้นเนื้อสเต็กที่ถูกหั่นไว้แล้วตรงหน้าขึ้นชิม อร่อยแบบที่แทซุนบอกว่าเป็นของแพง แต่แทซุนก็ดูผมออกอีกแล้ว แม้จะเป็นเนื้อของโปรด ผมก็ไม่ค่อยอยากจะกินจริงๆนั่นแหละ
.
.
.
.
.
.
.
“กูบอกให้มึงผ่อนสายเชือกเพื่อให้มันไม่ตึงจนขาด แต่กูไม่ได้บอกให้มึงปล่อยเชือกให้ยาวจนมองไม่เห็นหัวใจของคนที่ถือปลายเชือกอีกฝั่งไว้...
.
....การที่นาอึนไม่ได้อยู่ข้างๆตัวมึง และการที่มึงลดสิทธิ์ถือครองของมึงลง เพราะอยากให้เขาได้มองคนอื่นบ้าง มันไม่ได้หมายความว่ามึงจะหมดหน้าที่ดูแลความรักของเขา... มึงลืมหรือเปล่า ว่ารักของเขายังฝากมึงไว้อยู่...”
.
.
.
“มึงเพิ่งเจอนาอึนมาใช่ไหม?”
.
.
“..... “
.
.
“มึงไม่ต้องตอบหรอก กูรู้อยู่แล้วล่ะ ... “
.
.
.
“ผมเจอเธอเมื่อไม่2เดือนก่อน ... แต่กำลังจะได้เจอกันอีก..”
.
.
“ กูเดาว่าคงเป็นคืนนี้ ...... ที่มึงมาหากูก่อน เพราะจริงๆมึงกลัวการที่ต้องไปเจอเขาใช่ไหม”
.
.
“บางทีผมก็เกลียดพี่นะ ทำไมพี่ถึงรู้จักผมดีไปซะทุกอย่างเลยว่ะ”
.
.
“ก็มึงมันเป็นแค่เด็กน้อย ..”
.
.
“พี่แมร่ง...” (ผมบ่นเบาๆนะ)
.
.
“ก็ทุกครั้งที่เจอกัน มันออกมาไม่ค่อยดี ...ยิ่งครั้งล่าสุด แมร่งโค่ดแย่”
.
.
“มึงน่ะซิเป็นคนที่ทำให้มันแย่”
.
.
“พี่ก็รู้ว่าผมแมร่งงี่เง่า เราไม่เจอกันเกือบสามเดือน พอมีโอกาสได้เจอกันในงานปีใหม่ เธอก็คุยกับคนอื่น หัวเราะให้คนอื่น แต่เธอไม่ยอมให้ผมเข้าใกล้ เธอไม่สบตา ส่งข้อความมาย้ำเรื่องตำแหน่งยืนบนเวที ความจริงมันเป็นเรื่องที่เราสองคนต้องทำอยู่แล้ว ผมรู้ แต่ผมหงุดหงิดนี้หว่า ผมพาลหลบหน้าเธอ รีบออกจากงาน สุดท้ายผมก็ปิดเครื่องหายไปอีกสองวัน”
.
.
แทซุนเงยหน้าขึ้นมองผมด้วยสายตาคาดโทษ แน่ล่ะ ก็มันอยู่ #ทีมนาอึน นี้น่า -*-
.
.
“ พอเปิดเครื่อง ข้อความจากนาอึนก็ยังเหมือนเดิม เธอไม่โกรธที่ผมทำให้ปีใหม่ของเราทั้งคู่พัง เธอถามผมกลับมาว่าต้องซ้อมอีกเยอะไหม จะเข้าห้องอัดเมื่อไหร่ เธอบอกให้ผมนอนทุกครั้งที่ผมพอจะมีเวลา....ผมโคตรเกลียดตัวเอง ความรู้สึกผมแมร่งโคตรแย่ พี่เข้าใจไหม”
.
.
.
เหมือนกับผมระเบิดทุกอย่างที่อยู่ในหัวตัวเองออกมา ผมพูดเร็วจนหอบ แทซุนยื่นแก้วน้ำเปล่ามาให้ ผมรับไว้แล้วดื่มมันจนหมด ก่อนจะเอนตัวพิงหลังลงโซฟา แล้วหลับตาลง
.
.
ทั้งห้องเงียบสนิท มีเพียงเสียงของส้อมที่กระทบกับจานนานๆครั้ง
.
.
.
“กูบอกมึงแล้วว่าอย่าโลภให้มันมาก เพ���าะที่มึงมีอยู่ มันก็มากกว่าคนอื่นไม่รู้เท่าไหร่...
.
.
..โลกนี้ไม่มีใครได้อะไรไปซะทุกอย่างหรอกนะแทม กฏของการได้อย่างเสียอย่าง มันรักษาสมดุลโลกไว้”
.
.
.
เสียงของแทซุนเงียบลง ผมได้ยินเสียงเขาเปิดเบียร์อีกกระป๋อง .
.
.
.
.
“คำว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาว เขาไม่ได้แค่พูดกันเท่ห์ๆ แต่มันเป็นคำเตือนที่บอกให้มึงรู้ไว้ก่อนจะเลือกทางเดิน... ว่าความสำเร็จของมึงต้องแลกกับอะไร...
.
.
มึงเป็นคนโชคดีนะ.. รู้ตัวไว้ มึงได้สิทธิพิเศษจากพระเจ้า ที่กูคิดว่ามีไม่กี่คนในโลกหรอกที่จะโชคดีแบบนี้...
.
ที่กูพูดเนี่ย ไม่ได้หมายถึงพรสวรรค์ หรือความมุ่งมั่นเกินมนุษย์ของมึงหรอกนะ....
.
แต่เพราะมึงได้เจอคนที่ทำให้ความหนาวมันสั้นลงต่างหาก.....
.
.
นาอึนเหมือนกับแบตสำรองที่มึงมีไว้ในกระเป๋าตลอด ทั้งที่ตัวมึงเองก็ยังไม่รู้ เวลาที่มึงเหนื่อยมึงเหงา จู่ๆมึงกลับมีแรงขึ้นมาอีก”
.
.
.
ผมมองเห็นภาพของนาอึนตอนที่เธอหัวเราะกับมุขตลกฝืดๆของผมอย่างหนัก ภาพของนาอึน ตอนที่ตั้งใจทำอะไรซักอย่าง ผมกำลังคิดถึงดวงตาของเธอ .....
.
.
.
ผมลืมตาขึ้นมองพี่แทซุน ที่จิบเบียร์ในกระป๋องด้วยท่าทางสบายๆ พี่ของผมเป็นคนที่เท่ห์เสมอเลยล่ะ แทซุนหันมามองหน้าผมนิ่งๆ
.
.
.
“อย่าใช้ความอบอุ่นของเขามาเผาใจมึง นอกจากมันจะทำร้ายตัวมึงแล้ว มึงยังทำให้คุณค่าของความรักของมึงกับเขาลดลง...
.
ระยะห่างมันวัดที่ความรู้สึกของมึงทั้งนั้น คนเราเลือกได้ทั้งนั้นว่าลืมตาตื่นขึ้นมาวันนี้ จะมีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ในมือตอนนี้ หรือจะเลือกกอดความทุกข์ที่มันยังมาไม่ถึง จนเผลอปล่อยสิ่งที่มีอยู่หลุดมือไป.....
.
มึงเลือกได้นะแทม...“
.
.
“ เป็นผมจะดีเหรอ นาอึนอาจจะได้เจอคนที่ดีกว่านี้...”
.
.
“มึงวัดความสุขของเขาจากอะไร”
.
.
.
.
“มึงรู้ไหม แค่มึงรักมันก็คือความสุขแล้ว สิ่งที่เขาต้องการกับสิ่งที่มึงต้องการ มันไม่ได้ต่างกันเลย เขาเองก็มีช่วงต้องทนกับความรู้สึกแย่ๆ ที่เขาต้องผ่านมันไปให้ได้แบบเดียวกัน......
.
.
ตอนนี้มึงก็แค่ลืมว่าความสุขของมึงอยู่ตรงไหน ”
.
.
.
พี่แทซุนลุกขึ้นเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน เปิดหน้าจอคอมฯขึ้นมาอีกครั้ง เป็นสัญญาณว่าจะเริ่มเข้าโหมดทำงาน
.
.
.
ผมหลับตาลงอีกครั้ง แล้วคำพุดของนาอึนก็ลอยเข้ามาในหัว
.
.
.
“เพราะว่าอีกครึ่งของพี่แทมินเป็นของฉัน เพราะฉะนั้น พี่ต้องดูแลของที่เป็นของฉันให้ดีที่สุด จำเอาไว้นะคะ”
.
.
.
ผมเกือบลืมสิ่งที่เธอเคยบอกไว้ สิ่งสำคัญที่สุด ไม่ใช่การเอาแต่ห่วงความรู้สึกของคนที่อยู่ทางนู้น .
.
แต่เราทั้งคู่ต้องดูแลรักษาทั้งตัวกับหัวใจตัวเองให้ดี และไว้ใจให้อีกฝ่ายคอยดูแลความรู้สึกของเราที่ฝากไว้แทน
.
.
.
.
ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ความรู้สึกแย่ๆหายไปแล้ว คืนนี้ยังมีอีกอย่างที่ผมต้องทำ
.
.
.
ผมยกเบียร์ในมือขึ้นจิบอีกครั้ง เปลี่ยนสายตาไปมองที่ผนังฝั่งตรงข้ามที่ผมจำได้ว่า เมื่อหลายเดือนก่อน มันเคยมีรูปกราฟฟิกลายเส้นสีดำ เพ้นท์จนเต็มผนังทั้งด้าน ฝีมือเจ้าของห้องเองนั่นล่ะ แต่ตอนนี้กลับถูกแทนที่ด้วยรูปสีน้ำมันขนาดใหญ่ ไม่ใช่แนวภาพเหมือน รูปร่างมันไม่ได้ชัดเจนแบบนั้น แต่ก็ดูว่าเป็นภาพวิว พื้นหญ้าที่มีหิมะปกคลุม ต้นเมเปิ้ลสีแดงต้นใหญ่ยักษ์อยู่ริมขวา ท้องฟ้ายามค่ำมีดวงดาวเล็กๆ ที่เกิดจากการแต้มจุดสีขาวกระจายอยู่เต็มทั่วทั้งพื้นฟ้าสีน้ำเงินเข้ม
.
.
ถึงผมจะไม่เข้าใจความหมายของภาพซักเท่าไหร่ แต่ภาพนี้มันสวยและผมก็ชอบมัน อะไรบางอย่างที่ทำให้บรรยากาศในภาพเหมือนกับ....... ได้นั่งมองดูตัวเอง
.
.
“ ถ้าอยากได้ก็เอาไป จริงๆกูก็แค่รับฝากมันไว้อยู่แล้ว”
.
“ของนาอึนเหรอ”
.
.
“เออ... น้องเพิ่งเอามาฝากกูไว้เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว สงสัยจะรู้ ว่ายังไงมึงก็ต้องมาหากูล่ะมั้ง”
.
.
.
ผมลุกขึ้นไปยืนมองภาพนั้นใกล้ๆ ... แค่มองดูภาพ ผมก็รู้ว่าเธอวาดมันด้วยความรู้สึกแบบไหน
.
ผมเป็นคนโชคดีแบบที่พี่แทซุนบอกจริงๆ ... ความสุขของการถูกรัก มันดีแบบนี้นี่เอง
.
.
.
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมขับรถออกมาจากห้องของพี่ชายด้วยอารมณ์ที่ดีสุดๆ เปิดเพลงในเพลย์ลิสต์อันโปรด ผมร้องตามเสียงดังลั่นรถ แค่เห็นไฟแดงตรงสี่แยกก็ยังอยากยิ้มให้... มีความสุขจนแทบบ้า มันเป็นแบบนี้เอง
.
.
.
และเพลงก็แรนด้อมไปถึง เพลงที่ผมชอบที่สุดตอนนี้
.
.
.
.
“ I met you in the dark, you lit me up
You made me feel as though I was enough
We danced the night away, we drank too much
I held your hair back when you were throwing up….”
.
.
.
.
วงโคจรของเราอาจไม่ได้หมุนรอบกันและกันอีกแล้ว
แต่ความสุขของผมยังหมุนวนอยู่รอบตัวเธอเสมอ
.
นาอึนคือคนเดียวที่ผมสบตาด้วยแล้วรู้สึกว่าโลกหยุดหมุน
...คนเดียวที่ทำให้ผมยิ้มออกมาง่ายๆ เพียงแค่เห็นเธอเดินผ่านไปจากปลายตา
...คนเดียวที่ทำให้หัวใจของผมเต้นแรง เพียงได้ยินเสียงเธอพูดคุยกับคนอื่น
นาอึนคือคนเดียวในโลก ที่ผมอยากคุยเรื่องของวันพรุ่งนี้ด้วย
.
.
.
.
.
“Then you smiled over your shoulder
For a minute, I was stone-cold sober
I pulled you closer to my chest
And you asked me to stay over
I said, I already told ya
I think that you should get some rest”
.
.
.
.
.
เราอาจจะไม่ได้ยืนอยู่ข้างๆกัน คอยจับมือฝ่าฟันอุปสรรค��ุกอย่าง
.
เธออาจไม่ได้เป็นคนยื่นผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเหงื่อให้ผมหลังการซ้อมเต้น เช่นเดียวกับที่ผมไม่ใช่คนที่ทำแผลให้เธอ ตอนที่เธอสะดุดล้ม
.
..แต่เชื่อไหม เรากลายเป็นพลังให้กันและกันได้ แค่คิดว่าโลกนี้มีเธออยู่ ก็ทำให้ผมอยากเป็นคนที่ดีขึ้นในทุกๆวัน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ I knew I loved you then
But you'd never know
'Cause I played it cool when I was scared of letting go
I know I needed you
But I never showed
But I wanna stay with you until we're grey and old
Just say you won't let go….
Just say you won't let go”
.
.
.
.
.
.
.
ผมเห็นเธอจากแสงไฟ นาอึนออกมายืนรอผมอยู่หน้าบ้าน พี่แทซุนคงโทรบอกว่าผมออกมาแล้ว ในมือเธอมีถุงกระดาษใบใหญ่ ผมเดาว่ามันคงจะเป็นขนมซัก 2หรือ3อย่าง และกระติกที่ใส่ชาร้อนแบบที่ผมชอบ ..... ผมมีความสุข ..จริงๆนะ
.
.
.
.
.
.
.
“ ไง..”
.
.
.
คำแรกที่ผมทักเธอ หลังจากที่รถเคลื่อนออกมาจากหน้าบ้านได้ซักพัก ผมรู้ว่านาอึนกำลังประเมินท่าทางของผมอยู่ เธอก็เลยยังไม่พูดอะไรออกมา
.
.
.
“กลับมานานแล้วหรอคะ “
.
.
เธอหันมายิ้มให้ผม และดูตกใจนิดหน่อย ตอนที่ผมจับมือเธอขึ้นมาจูบเบาๆ ก่อนจะดึงมือเธอมาประสานเอาไว้ สายตาของผมยังไม่ละจากถนนตรงหน้า แต่ผมก็รู้ว่านาอึนกำลังหน้าแดง และทำตัวไม่ถูกอยู่ตอนนี้
.
.
.
.
ผมหอมมือเธอเบาๆครั้งหนึ่ง ก่อนจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา
.
.
“ ขอโทษนะ ...ที่เป็นฝ่ายงี่เง่าตลอด”
.
.
.
ผมหอมมือเธออีกครั้ง
.
.
“ขอโทษที่ชอบหายไป ไม่ตอบข้อความ และก็ชอบพูดคำแย่ๆให้ได้ยิน”
.
.
.
,
ผมจูบที่สร้อยข้อมือของเธอ สร้อยที่บรรจุความรู้สึกของเราสองคนเอาไว้
.
.
“ขอโทษนะ ที่ไม่ได้ดูแลตัวเองอย่างที่นาอึนนี่บอกให้ทำ ..”
.
.
.
.
ผมจูบนิ้วนางของเธอ
.
.
.
“ ขอโทษ ที่เคยลืมว่าจริงๆตัวเองเป็นคนที่โชคดีขนาดไหน “
.
.
.
.
ผมจูบนิ้วก้อยของเธอ ตอนที่รถขับมาถึงที่หมายพอดี
.
.
.
“ ขอโทษที่พี่รักษาสัญญาไม่ได้ เป็นเรื่องที่อยากขอโทษมาตลอด เรายังไม่ได้ดูหิมะแรกด้วยกันอีกเลยนะ”
.
.
“ ไม่ต้องรีบหรอกคะ ปีหน้าก็ยังมี ปีถัดมา หรือไม่ปีต่อๆไปก็ยังมีอยู่ ฉันยังรอดูหิมะแรกกับพี่ได้อีกนาน ”
.
.
เธอยิ้มกว้างให้ผม แก้มแดงๆของเธอน่าหยิกชะมัด .
.
.
.
.
สุดท้าย ผมจูบมือของเธออีกครั้ง และลูบมันเบาๆ ผมมองไปที่ตาของนาอึน และยิ้มให้เธอ
.
.
.
“ นาอึนนี่ พี่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ยึดตัวเธอเอาไว้ให้ยังอยู่ตรงนี้ คือตัวตนของพี่ในวันวานหรือเปล่า...
.
.
..แต่พี่อยากให้เธอลืมผู้ชายที่เธอตกหลุมรักเมื่อสี่ปีก่อนไปให้หมด...ได้ไหม..
.
.
.
.. ช่วยจดจำตัวพี่ในวันพรุ่งนี้ และในวันต่อไปจากตอนนี้ให้ดีก็พอ “
.
.
.
.
.
ผมทำให้นาอึนร้องไห้อีกแล้ว ผมไม่รีรอที่จะดึงตัวเธอมากอดไว้ นาอึนกอดผมไว้แน่น กอดของเราอุ่น และผมอยากมีเธอเป็นความอบอุ่นอย่างนี้ไปตลอด
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ I'm gonna love you till
My lungs give out..
I promise till death we part like in our vows
So I wrote this song for you, now everybody knows
'Cause now it's just you and me till we're grey and old
Just say you won't let go
.
.
Just say you won't let go….”
.
.
.
.
.
.
.
.
END
.
.
.
-ray-
6 notes
·
View notes
Text
OS : UNIQUE
.
.
.
.
.
ONE SHOT
.
.
.
[ UNIQUE ]
.
.
.
.
.
Taemin x Naeun
.
.
.
.
.
BGM : Ta-ku & Wafia - Love Somebody
.
.
.
.
.
โครงเรื่องดัดแปลงมาจากการ์ตูนYaoi~ Non Tea Room Chapter 5 ของอาจารย์ SHOOWA ( อ่านเว่อร์อิ้งได้ที่ mangago คะ เรท18++ >\\\<)
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.
.
.
ลีแทมิน ไม่ใช่มนุษย์
.
.
หลังจากจูบแรกของเราผ่านไป นี้คือสิ่งต่อมาที่ฉันได้รู้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Lover, I've been thinking
I've been making this mistake from the beginning
ฉันคิดว่าเรื่องของเรา มันคงผิดพลาดมาตั้งแต่เริ่มแรก
.
.
.
.
.
.
.
.
ค.ศ 2030 โลกที่ไม่ได้แตกต่างจากเมื่อ10 กว่าปีที่แล้ว ทุกวัน ผู้คนยังคงแสวงหาความพอใจในชีวิต เทคโนโลยีพัฒนา มีเครื่องจักรที่คอยทำงานหลายๆอย่างแทนให้ แต่มนุษย์ยังคงเหมือนเดิม เราคงถูกสร้างมาเพื่อให้เป็นแบบนี้ล่ะมั้ง
.
.
เพราะว่างานศิลปะที่ฉันรัก ไม่ช่วยให้ปากท้องอิ่ม ฉันถึงต้องเริ่มหางานพาร์ทไทม์ทำ หน้าประกาศรับสมัครงานที่ฉันเจอในอินเตอร์เนตดูเข้าท่าดี งานที่ทำเพียง 6 ชั่วโมงต่อวัน และจ่ายค่าตอบแทนในเรทสูงกว่าปกติ คงพอทำให้ฉันจ่ายค่าอาหารได้
.
.
.
.
งานใหม่ของฉันคือการทำ “ตุ๊กตา” ให้เป็น “มนุษย์”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ไซบอร์ก คือหุ่นยนต์ที่มีโครงสร้างเป็นเครื่องจักร แต่รูปลักษณ์ภายนอกใกล้เคียงกับมนุษย์ ทุกตัวจะถูกผลิตขึ้นตามความต้องการของลูกค้าแต่ละคน แตกต่างกันทั้งสีผิว สีตา รูปร่าง นิสัย รวมไปถึงคำสั่งพิเศษหลายๆอย่าง
.
.
.
.
บริษัทที่ฉันทำงานให้ค่อนข้างใหญ่ ทุนหนาเตอะ แถมหลายโครงการยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอีก งานพาร์ทไทม์ของฉัน คือหนึ่งในโครงการยิบย่อยเหล่านั้น ฉันมีหน้าที่เตรียมไซบอร์กให้พร้อมในขั้นตอนสุดท้าย เมื่อไซบอร์กถูกป้อนคำสั่งและนำมาพักไว้ที่โหลแก้ว จากนั้นไม่นานก็จะถูกส่งต่อมาให้พวกเรา เราใช้เจ้าหน้าที่ 1 คน ต่อไซบอร์ก 1 ตัว ทำหน้าที่แต่งตัว เติมสีตา สีคิ้ว รอยย่น รอยกระ จัดแต่งทรงผม และทำความสะอาด ตรวจเช็ครูปลักษณ์ภายนอกทุกอย่างให้ตรงตามคำสั่ง
.
.
.
.
.
อาทิตย์แรกมันดูน่ากลัวนิดหน่อยสำหรับฉัน การได้ลงสีบนใบหน้าที่ราวกับคนจริงๆ คุณจินตนาการไม่ออกหรอกว่า พวกไซบอร์กดูเหมือนกับมนุษย์ขนาดไหน
.
.
.
.
.
พอเดือนที่สองของการทำงาน ฉันถูกจัดให้เข้าทีมพิเศษ คุณฮาวอนที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบอกว่าฉันถูกคัดมาจากคะแนนความชื่นชมของลูกค้า มีเพียงคนที่เก่งที่สุดที่ได้เข้าทีมนี้
.
.
.
.
.
และนั้นคือจุดเริ่มต้นที่ฉันรู้จัก ลี แทมิน
.
.
.
.
.
.
.
.
สำหรับผู้คนที่ฉันเคยเจอ ลีแทมินคือคนที่เงียบที่สุด มีคำทักทายเกิดขึ้นในครั้งแรกที่พบกันเท่านั้น ห้องทำงานของเราคือห้องพิเศษ ลุกค้าที่เป็นเจ้าของไซบอร์กในห้องนี้อยู่ในระดับ VVVIP สมาชิ��ในทีมมีเพียงฉันและเขา ฉันทำไซบอร์กที่เป็นเพศหญิง ส่วนคุณแทมินรับผิดชอบในส่วนของเพศชาย
.
.
.
.
.
.
.
“ เธอทำสีตาสวย .. ฉันยังไม่เคยเห็นสีเขียวอมฟ้าแบบนี้มาก่อน “
.
.
.
.
.
ประโยคสนทนาแรกที่ออกมาจากปากของลี แทมิน หลังจาก 3 วันที่ผ่านมาทั้งห้องมีเพียงแค่เสียงเครื่องมือทำงานกับลมหายใจของเราเท่านั้น
.
.
.
.
“ บังเอิญนะคะ ถ้าให้ทำอีก ก็คงไม่ได้แบบนี้แล้ว”
.
.
.
“ ผมของผู้ชายคนนั้นก็ดูดีคะ ..จริงๆแล้วฉันชอบทรงผมของไซบอร์กทุกตัวที่คุณทำ มันดูดีมากๆเลยล่ะ “
.
.
.
.
.
.
.
ฉันชวนเขาไปกินอาหารเย็นในวันถัดมา และค้นพบว่า คุณลี คนที่แก่กว่าฉัน 1 ปีคนนี้ มีมุมมองหลายๆอย่างที่น่าสนใจ เราเข้ากันได้ดี โดยเฉพาะเรื่องอาหาร เขากินได้ทุกอย่างเหมือนกับฉัน ลีแทมินเป็นคนที่ใช้คำพูดเท่าที่จำเป็น ออกจะเย็นชานิดๆแต่ก็ดูจริงใจ พอเราเริ่มสนิทกัน เขาอนุญาตให้ฉันเรียกเขาว่า พี่แทมิน เราเลิกใช้ภาษาสุภาพ และการกินอาหารเย็นด้วยกัน กลายเป็นกิจวัตรประจำวันของเรา
.
.
.
.
.
.
“ เป็นศิลปินเหรอ? “
.
.
“ อืมมมม ... ไม่ใช่ศิลปินหรอคะ ฉันก็แค่ชอบเขียนภาพ และฉันคิดว่าตัวเองทำมันได้ค่อนข้างดี “
.
.
.
.
“ เธอเขียนภาพแบบไหน “
.
.
.
.
.
ฉันชวนเขามาดูภาพวาดของฉันที่สตูดิโอเล็กๆแห่งหนึ่งที่ฉันเอาพวกมันมาฝากขายไว้ พี่แทมินดูจะชอบภาพของเด็กผู้หญิงที่มองต้นซากุระกำลังร่วงหล่น ผ่านทางหน้าต่างรถไฟ มันถูกติดป้ายจองไว้ นี้เป็นงานชิ้นแรกของฉันในรอบ 2 เดือนที่กำลังจะถูกขาย
.
.
.
.
.
“ ฉันเจอเด็กผู้หญิงคนนี้บนรถไฟ ขากลับมาจากอุลซัน พอกลับถึงบ้าน ฉันก็เริ่มวาดมัน “
.
.
.
.
.
“ พี่ชอบภาพนี้ วาดให้พี่อีกได้ไหม “
.
.
.
.
.
.
ฉันยิ้มให้เขาก่อนที่จะส่ายหน้าปฏิเสธ
.
.
.
.
“ รูปวาดของฉันทุกงาน มันจะมีเพียงชิ้นเดียวในโลก ความรู้สึกตอนที่วาดรูปพวกนั้นออกมา มันคือความรู้สึก ณ ขณะนั้นของฉันที่คงจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก พี่เห็นเด็กผู้หญิงคนนี้ไหมคะ จริงๆแล้วเหตุที่เธอเดินทางไปที่อุลซันก็เพื่อร่วมงานศพของคุณปู่ที่เธอรักมาก ขากลับเธอร้องไห้มาตลอดทาง จนกระทั่งรถไฟผ่านมายังถนนที่มีต้นซากุระพวกนี้ เธอจ้องมันอยู่นาน จนน้ำตาหายไป เธอบอกฉันว่าคุณปู่ของเธอชอบต้นซากุระมาก โดยเฉพาะเวลาที่มันกำลังร่วงหล่นจากต้น มันคือการจากลาที่งดงาม มันคุ้มค่าที่ได้เฝ้ามอง”
.
.
“ ตอนที่เด็กผู้หญิงคนนั้นหันกลับมาและยิ้มให้ฉัน ฉันคิดว่ามันสวยยิ่งกว่าซากุระพวกนั้นซะอีก ....”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Darling, understand my faith
Waivers when I can't see the edge
ที่รัก, เข้าใจความศรัทธาของฉันเถอะ
หากฉันยอมสละทุกอย่างทิ้ง เมื่อมองไม่เห็นจุดจบของเรื่อง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
จูบแรกของเราเกิดขึ้นในงานเทศกาลเดือนสิงหาคม มีฉากหลังเป็นดอกไม้ไฟสีสวย อากาศภายนอกเย็น แต่อ้อมกอดของเขามันอุ่นจนร้อน เราผละออกมาสบตากันอยู่เป็นนาที ก่อนที่ฉันจะหลุดยิ้มออกมา
.
.
.
.
.
.
วันรุ่งขึ้น ฉันไปทำงานเร็วกว่าเวลาปกติ เพราะความตื่นเต้น
.
.
และนี้เป็นอีกหลายๆเรื่องในชีวิต ที่ฉันคิดว่าตัวเองไม่ควรจะทำ
.
.
.
.
.
.
“ นายต้องหยุด ในสิ่งที่นายกำลังทำอยู่ตอนนี้ นายไม่ปกติมาตั้งแต่แรก ฉันคิดว่าที่ผ่านมา มันทำให้นายดีขึ้น แต่เห็นได้ชัดว่าร่างกายของนายยังปรับตัวไม่ได้ “
.
.
.
.
บทสนทนาที่ดังออกมาจากห้องส่วนตัวของคุณฮาวอน ทำให้ฉันหยุดยืนมองไปที่ช่องว่างเล็กๆตรงกรอบประตู
.
.
.
.
คุณฮาวอน หัวหน้าฝ่ายไซบอร์ก กำลังถอดชิปสั่งการออกมาจาก ช่องเล็กๆตรงกลางหลังของพี่แทมิน
.
.
.
.
“ เมื่อคืน ตอนที่นายกลับมา จู่ๆนายก็ชัทดาวน์ตัวเองไปเป็นนาที แถมเมื่อเช้ายังมีอาการแฮงค์ กระตุกเกร็งจนฉันต้องปิดระบบ นายต้องไปเช็คร่างกาย นี้ไม่ใช่คำขอร้องนะแทมิน มันคือคำสั่งจากฉัน”
.
.
.
.
.
.
ฉันเดินออกมาจากตรงนั้นและตรงกลับบ้านทันที ฝากลางานกับเพื่อนร่วมงาน2-3คนที่เดินผ่าน สมองของฉันว่างเปล่า ฉันจำอะไรไม่ได้ นอกจากภาพของพี่แทมินในห้องนั้น ฉันยังไม่ตั้งคำถาม ฉันยังไม่ต้องการคำตอบ ฉันแค่อยากหลับตาลง แล้วพักทุกอย่างเอาไว้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
วันถัดมา สมาชิกทีมของฉันถูกเปลี่ยน คุณยูซึงโฮถูกส่งมาแทนที่ ภายในห้องทำงานยังเงียบเหมือนเมื่อก่อน และฉันพบว่าเสียงลมหายใจของพี่แทมิน คือสิ่งที่ฉันอยากได้ยินที่สุดในตอนนี้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
อากาศในเดือนตุลาคมหนาวจับใจ ฉันไม่ได้เจอพี่แทมินมาเกือบ 2 เดือนแล้วหลังจากวันนั้น ไม่มีข้อความหรือเสียงบอกลา พี่แทมินแค่หายไป มีแค่คุณฮาวอนที่เป็นคนแจ้งให้ฉันทราบว่า เพื่อนร่วมทีมของฉันลาพักด้วยเรื่องของสุขภาพ
.
.
.
.
มีเพียงข้อสงสัยเดียวที่ฉันอยากรู้ คำถามที่ฉันคิดวนไปมาซ้ำๆตั้งแต่วันที่เขาหายไป มันยังคงติดอยู่ในใจของฉันจนถึงตอนนี้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
บ่ายวันนี้อากาศเย็นกว่าเดิมเพราะฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืน ฉันมาทำงานช้ากว่าปกติเพราะการจราจรเป็นเหตุ ตอนที่เข้าไปเปลี่ยนชุดที่ห้องล็อกเกอร์ ฉันเห็นไฟบนโต๊ะทำงานของเพื่อนร่วมทีมถูกเปิดเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว
.
.
.
.
.
“ สวัสดีคะ พี่ซึงโฮ “
.
.
.
ฉันเอ่ยทัก ในระหว่างที่ผูกสายชุดคลุมให้เข้าที่
.
.
.
.
.
.
.
.
“ หวัดดี “
.
.
.
.
.
เสียงทุ้มๆที่ไม่คิดว่าจะได้ยินอีกครั้ง กลับดังขึ้น
.
.
.
.
.
.
.
“ ......พี่แทมิน? “
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
I've swallowed my pride, cause I'm willing. See,I'd rather take the blame than break it off
กลืนทิฐิลงไป ฉันเต็มใจทำ
ยินยอมรับคำก่นด่า มากกว่าที่จะปล่อยให้เรื่องของเราจบลง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ อืม .. กลับมาแล้ว “
.
.
.
.
.
.
.
คุณลีแทมิน ทำตัวปกติซะจนคิดว่า เมื่อสองเดือนที่ผ่านมาคือความฝัน เย็นนั้นเราไปกินข้าวด้วยกันเหมือนเดิม ฉันรู้ตัวว่าตัวเองเผลอจ้องอีกฝ่ายบ่อยแค่ไหน แต่พี่แทมินก็ยังไม่พูดอะไรจนกระทั่งเราสองคนเดินออกมาจากร้าน
.
.
.
.
.
.
“ ไปที่แม่น้ำฮันกันไหม “
.
.
.
.
ฉันตอบตกลง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ในมือของเรามีเครื่องดื่มร้อนกันคนละแก้ว บรรยากาศรอบข้างเงียบสงัด มีลมพัดมาเบาๆ
.
.
.
“ ไปไหนมาคะ “
.
.
.
.
เป็นฉันเองที่แพ้เกมแห่งความเงียบ
.
.
.
.
.
.
“ ทำธุระนิดหน่อย แล้วพักต่อ “
.
.
.
“ .............. “
.
.
.
.
.
.
“ พี่ดูเหมือนเดิมหรือเปล่า “
.
.
.
.
.
.
คำถามง่ายๆที่ฉันใช้เวลาคิดอยู่นาน ฉันมองใบหน้าด้านข้างของเขา มองช่วงอกที่กำลังหายใจ เอื้อมมือไปจับมืออุ่นๆของเขาไว้ สอดนิ้วของเราให้ประสานกัน และสุดท้ายฉันโผเข้ากอดเขาจนแน่น
.
.
.
.
.
ฉันได้คำตอบของคำถามเดียวที่ติดอยู่ในใจของฉันเมื่อสองเดือนที่แล้ว เสียงที่ดังก้องอยู่ในอกข้างซ้ายของเขา มันเต้นระรัวเหมือ��กันกับของฉัน
.
.
.
.
.
.
พี่แทมิน มีหัวใจ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ระหว่างที่เรากอดกัน มีอีกหลายๆคำถามที่ประเดประดังเข้ามา แต่ฉันควรตอบคำถามของพี่แทมินก่อน
.
.
.
.
.
“ พี่แทมินยังเหมือนเดิมคะ “
.
.
.
“ กอดของพี่ก็ด้วย “
.
.
.
.
ความพอใจถูกแทนที่ด้วยแรงรัดของอ้อมแขน อุณหภูมิในร่างกายถูกส่งผ่านมาให้รู้ถึงการมีตัวตนของหนึ่งชีวิตที่ยืนอยู่ตรงหน้า
.
.
.
.
.
และฉันตัดสินใจได้ว่า ฉันยอมให้เรื่องของผู้ชายคนนี้ เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องในชีวิตฉัน ที่ไม่ควรต้องรู้คำตอบ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ฉันตื่นขึ้นบนเตียงของคนแปลกหน้าในเช้าวันต่อมา แสงแดดอ่อนๆส่องผ่านรูม่านเข้ามาทำให้ห้องสว่าง สิ่งมีชีวิตที่นอนอยู่ข้างๆฉัน กลายเป็นชีเปลือยที่ไม่��อมใส่เสื้อ วงแขนใหญ่ที่กอดเอวของฉันไว้หนักเอาการแต่มันก็อุ่นเกินกว่าจะอยากให้ปล่อย ฉันซุกตัวไปที่แผงอกกว้างๆนั้น ฟังเสียงหัวใจที่เต้นอยู่ช้าๆของเขา
.
.
.
.
.
ฉันใช้ฝ่ามือไล่สัมผัสไปบนแผ่นหลังจนถึงรอยนูนที่อยู่ตรงกลาง ขนาดของมันไม่ถึงหนึ่งฝ่ามือ พี่แทมินลืมตาขึ้นมา กอดฉันไว้แน่นกว่าเดิม
.
.
.
.
.
.
“ อยากลองเปิดมันไหม “
.
.
.
.
“ ................... “
.
.
.
.
“ นาอึน ..“
.
.
.
“ ไม่คะ..... “
.
.
.
.
.
พี่แทมินสัมผัสที่แผ่นหลังของฉัน ในตำแหน่งเดียวกัน
.
.
.
.
.
“ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น มีสามอย่างที่พี่อยากให้เธอรับปากว่าจะทำ “
.
.
.
.
“ ปิดสวิทซ์ที่อยู่กลางหลังของพี่เป็นอย่างแรก “
.
.
.
“..................”
.
.
.
เขาใช้มือข้างที่เหลือ ลูบผมของฉันเบาๆ
.
.
.
.
.
.
“ กดเบอร์โทรด่วน ในโทรศัพท์ของพี่ แล้วบอกเขาว่าพี่อยู่ที่ไหน “
.
.
.
“....................”
.
.
.
.
“ วางสาย ....... แล้วรีบกลับบ้าน “
.
.
.
.
.
.
“ เธอเข้าใจมันชัดเจนใช่ไหม “
.
.
.
.
.
.
.
มีน้ำคลออยู่ที่ดวงตาทั้งสองข้างของฉัน หัวใจเหมือนถูกบีบด้วยฝ่ามือที่มองไม่เห็น แค่การหายใจตอนนี้ ก็ยังเป็นเรื่องที่ยาก
.
.
.
.
“ คะ .... “
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ มีที่ๆหนึ่ง ที่พี่อยากไป วันหยุดนี้ เราไปด้วยกันได้ไหม “
.
.
.
.
.
.
.
เพราะประโยคนั้น ตอนนี้เราสองคนถึงมาอยู่ที่หน้าสถานีรถไฟของพูซาน
.
.
.
.
.
.
.
“ เราจะไปที่ไหนกันต่อคะ “
.
.
.
.
“ ไม่ไกลจากที่นี้หรอก เดินไปอีกซักครึ่งชั่วโมง “
.
.
.
.
“ แต่ไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่า “
.
.
.
.
เราเลือกอาหารเช้าควบเที่ยงเป็นสไตล์อเมริกันง่ายๆ ใช้เวลากับมันไม่นานก็เดินทางต่อ
.
.
.
.
.
.
พี่แทมินพาฉันเดินลัดเลาะมาตามทาง อากาศดี รถไม่เยอะ และทิวทัศน์ที่นี้ก็สวย มีต้นไม้ถูกปลูกอยู่เต็มสองข้างทาง
.
.
.
.
.
.
เราหยุดที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง พี่แทมินจูงมือฉันมาที่ม้านั่งตัวยาวและไม่พูดอะไรอีก
.
.
.
.
.
.
“ เรามารอใครเหรอคะ “
.
.
.
“ ใครบางคนน่ะ”
.
.
.
.
.
.
ผ่านไปไม่นาน ก็ดูเหมือนว่าคนที่เขากำลังรอ มาถึงแล้ว
.
.
.
.
.
.
“ พี่อยากให้เธอทำแบบนี้นะ เห็นผู้ชายที่ใส่เชิ้ตลายสก็อต ที่กำลังเดินเข้ามาในสวนคนนั้นไหม”
.
.
.
.
.
.
พอมองตามมือของพี่แทมินไป ก็พบผู้ชายคนที่ว่า กำลังเดินตรงมาทางนี้
.
.
.
.
.
“ คนที่ถือหนังสืออยู่เต็มมือใช่ไหมคะ “
.
.
.
.
.
.
“ พี่อยากให้เธอแกล้งเดินไปชนเขา พูดกับเขาซัก 2-3 ประโยค แล้วเดินออกมา”
.
.
.
.
.
“ พี่จะไปรอเธออยู่ตรงลานน้ำพุด้านโน้น”
.
.
ไม่ทันได้ถามคำถามอะไร พี่แทมินก็ลุกเดินออกไป มองไปที่ผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง อีกไม่ถึง 200 เมตร เขาจะมาถึงจุดฉันนั่งอยู่ .
.
.
.
ฉันนับ หนึ่ง ถึง สาม คว้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้น .
.
.
.
“ โอ๊ะ ขอโทษคะ “
.
.
.
.
.
.
หนังสือในมือของเขาตกลงพื้น และเราทั้งคู่รีบก้มลงเก็บมัน
.
.
.
.
.
“ ขอโทษนะคะ ไม่ทันได้มองจริงๆ“
.
.
.
.
.
“ ไม่เป็นไรครับ... เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
.
.
.
.
.
เขาเงยหน้าขึ้นมองฉัน ในขณะที่เรายังคงนั่งยองๆเก็บหนังสือที่กระจายอยู่ สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดของผู้ชายคนนี้ไม่ใช่แค่หนังสือกองโตที่เขาถือมา แต่เพราะว่าใบหน้าที่เหมือนพี่แทมินราวกับฝาแฝดต่างหาก
.
.
.
.
เราสองคนมองหน้ากันอยู่นาน จนกระทั่งเข��ได้สติและรีบลุกขึ้นยืน
.
.
.
.
“ ขอโทษอีกครั้งนะคะ ช่วงนี้ฉันใจลอยไปหน่อย “
.
.
.
.
.
“ ไม่เป็นไรครับ ... “
.
.
.
“ คุณเพิ่งย้ายมาอยู่แถวนี้เหรอ ผมไม่เคยพบคุณเลย “
.
.
.
.
“ ไม่ใช่หรอกคะ มาหาเพื่อนน่ะ ........ฉันนาอึน ”
.
.
.
“ คิม จงอินครับ “
.
.
.
.
.
“ The fault in our stars เป็นหนังสือที่ดีนะคะ ฉันเองก็อ่านเหมือนกัน “
.
.
.
.
“ อ่อ .. เล่มโปรดของผมเลย “
.
.
.
ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ยิ้มสวยจริงๆ ถึงจะหน้าเหมือนพี่แทมินมากก็เถอะ แต่ให้ความรู้สึกคนละอย่างเลย ในขณะที่พี่แทมินเป็นหิมะแรก คิมจงอินคนนี้คงเหมือนใบเมเปิ้ลในฤดูในไม้ผลิ
.
.
.
.
.
.
“ ขอตัวก่อนนะคะ “
,
,
,
ฉันเดินออกมาจากตรงนั้น ได้ไม่กี่ก้าว ก็มีเสียงตะโกนไล่หลังมา
.
.
.
“ ผมทำงานที่คาเฟ่ใกล้กับสถานีรถไฟนะ ถ้ามีเวลาแวะมาบ้างนะครับ มีหนังสือที่คิดว่าคุณคงชอบอยู่เยอะเลย “
.
.
.
.
ฉันยิ้มรับ พาลนึกไปว่า ถ้าคนแบบพี่แทมินมีรอยยิ้มอบอุ่นแบบนั้นเหมือนกันล่ะก็ คงจะพิลึกน่าดู
.
.
.
.
.
.
.
.
ฉันเดินไปหาพี่แทมินที่ยืนมองน้ำพุอยู่กลางสวนเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่เงียบๆ
.
.
.
.
.
“ กลับบ้านกันได้หรือยังคะ หรือเราจะไปที่ไหนกันต่อ “
.
.
.
.
.
พี่แทมินไม่ตอบ เพียงแค่จับมือฉันไว้ พาเดินกลับไปตามทางเก่า
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เราเงียบกันตลอดทาง และเป็นอีกครั้งที่ฉันแพ้ให้เกมนี้
.
.
.
.
.
.
“ พี่จะบอกฉันไหมคะ ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร”
.
.
.
.
.
.
พี่แทมินเงียบ จนฉันพาลหงุดหงิด ฉันปล่อยมือจากเขา และเดินนำหน้าขึ้นมา
.
.
.
.
.
.
“ มันแย่กว่าที่พี่คิดเอาไว้ ความรู้สึกพวกนี้มันทำให้หัวพี่หมุนไปหมด “
.
.
.
.
.
ฉันหันกลับไปมอง พี่แทมินหยุดเดิน สองมือกุมไปที่ศรีษะ
.
.
.
.
.
ฉันรีบกอดเขาเอาไว้เพราะทำอะไรไม่ถูก ตัวของเขาสั่นจนฉันกลัวว่าเขาจะแตกออกเป็นชิ้นๆ .
.
.
.
.
.
.
“ จำที่พี่บอกไว้คราวก่อนได้ไหม .....เรื่องที่เธอต้องทำ”
.
.
.
.
ฉันพยักหน้ารับคำ น้ำตาของฉันไหลออกมาเป็นทาง ฉันกลัวจนจับใจ ตัวของพี่แทมินยิ่งสั่นขึ้น ฉันกอดเขาไว้แน่นกว่าเดิม
.
.
.
.
“ ทำให้ครบทั้งสามอย่าง ทำมันตอนนี้”
.
.
.
.
.
ฉันใช้มือที่สั่นเทาจนแทบหยิบจับอะไรไม่ได้ของตัวเอง เลื่อนไปกลางหลังของเขา เปิดช่องเล็กๆนั้นจนเห็นสวิทซ์ข้างใน พอกดมันลงไป ตัวของพี่แทมินก็หยุดสั่น การทำงานของเขาปิดตัวลง ฉันประคองให้เราสองคนนั่ง ตัวฉันยังกอดเขาไว้แน่น ฉันกลัวว่าเขาจะหายไป
.
.
.
มือถือของพี่แทมินอยู่ที่กระเป๋าเสื้อคลุมด้านขวา ฉันปลดล็อคหน้าจอและต่อสาย เบอร์โทรด่วนหมายเลข 1 ขึ้นชื่อปลายทางว่า คุณฮาวอน
.
.
.
.
.
“ สวัสดีคะ พี่แทมิน เขา....”
.
.
.
.
“ อยู่ที่ไหนครับ”
.
.
.
ไม่ทันได้พูดจบ อีกฝ่ายก็รีบแทรกขึ้นมา ราวกับว่าคาดเดาสถานการณ์ไว้อยู่แล้ว
.
.
.
“ คือฉันอยู่ที่พูซาน แต่ไม่รู้ว่า.. “
.
.
.
.
“ ที่หน้าจอ มีพิกัดGPS บอกครับ “
.
.
.
.
บทสนทนาจบลงที่เขาบอกให้รอไม่เกินสามสิบนาที เจ้าหน้าที่จะมาถึง
.
.
.
.
.
.
ฉันกดวางสาย พร้อมกับถอนหายใจโล่ง หน้าจอมือถือของพี่แทมินสว่างขึ้น เตือนว่ามีข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน ฉันถือวิสาสะกดเข้าไปดู เพราะคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับสถานการณ์นี้
.
.
.
.
.
.
.
.
“ นาอึน ...
.
.
ชื่อของฉัน อยู่ในบรรทัดแรกของข้อความ
.
.
.
.
.
พี่คิดว่าที่พี่ตกหลุมรักเธอ คงเป็นเพราะ DNA ที่พี่ได้มาจากผู้ชายที่เธอเจอในวันนี้ เพราะฉะนั้นถ้าเขาเจอเธอ เขาก็คงตกหลุมรักเธอเหมือนกัน
.
.
.
.
ถึงพี่จะจากไปแล้ว แต่ถ้าเธอยังอยากเจอพี่ เธอก็ไปที่คาเฟ่นั้นเพื่อพบเขาได้
.
.
.
.
.
อย่ารอ...
.
.
.
.
.
.
.
คงจะดีกว่า ถ้าใช้ชีวิตอยู่กับมนุษย์จริงๆ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
น้ำตาของฉันไหลออกมาราวกับเขื่อนทะลัก ฉันซุกตัวไปที่ไหล่ของเขา กอดเขาไว้ให้แน่นที่สุด และปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมาเสียงดัง
.
.
.
.
.
.
.
“ลีแทมินคนโง่ พี่ไม่ได้รู้อะไรเลยซักนิด “
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
And if one of us would walk away
When you love somebody then you'd stay
อาจจะมีคนที่เดินจากไป
แต่หากคุณรักใครซักคน ..คุณจะอยู่
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เราสองคนถูกพาตัวมาที่สถาบันในเครือบริษัทที่ฉันทำงาน ตอนคุณฮาวอนไปถึง เขาบอกให้ฉันกลับบ้านเหมือนที่พี่แทมินสั่งเอาไว้ ฉันกุมมือของพี่แทมินไว้ไม่ยอมปล่อย ร้องไห้อ้อ��วอนให้คุณฮาวอนยอมให้ฉันมาด้วย
.
ตั้งแต่เกิดมา นี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันขอร้องใครบางคนด้วยสภาพที่น่าสมเพชแบบนี้ ฉันไม่สนใจมันหรอก เพราะถ้าฉันปล่อยมือเขาในครั้งนี้ ฉันคงต้องเสียเขาไปตลอด
.
.
.
.
.
.
.
.
.
พี่แทมินนอนอยู่บนเตียงตรงข้ามกระจกบานใหญ่ที่ฉันยืนอยู่ มีสายระโยงระยางผ่านตัวเขาเต็มไปหมด เจ้าหน้าที่เกือบสิบชีวิต เดินวุ่นวายอยู่ภายในห้อง
.
.
.
.
.
“ บริษัทเราไม่ได้ทำผลิตแค่ไซบอร์ก เราได้รับสิทธิ์จากรัฐบาล ให้ทำการโคลนนิ่งมนุษย์ เพราะอัตราการให้กำเนิดลดต่ำลงในทุกปี แทมินเป็นมนุษย์โคลนรุ่นแรกของเรา มีความผิดปกติของโครโมโซมบางตัว แทมินรับรสชาติอาหารไม่ได้ การรับรู้ทางอารมณ์ก็พัฒนาได้ช้า เราตัดสินใจทดลองฝังชิพคำสั่งกับเขา ปล่อยให้เขาไปใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ให้เขาลองทำงาน มันก็ไม่ค่อยได้ผล หรอก จนเมื่อเร็วๆนี้ ..”
.
.
.
.
.
.
“ เช้าวันนึง เราเดินเข้าไปในร้านกาแฟและเขาสั่งอเมริกาโน่เย็น เขาจิบมันและบอกผมว่ามันขม ผมคิดว่าเขาดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ที่พบคุณ “
.
.
“ แต่การพัฒนาทางอารมณ์ที่เร็วเกินไป มันยังไม่เหมาะกับเขา บางครั้งร่างกายเขาถึงออกอาการerror แบบที่คุณเห็น คราวก่อน เราพยายามหาทางแก้ด้วยเทคโนโลยีที่เรามีทั้งหมด เราทำได้แค่แก้ไขในบางส่วน จนคณะกรรมการเริ่มประชุมกันว่า เราอาจจะไม่เก็บเขาเอาไว้ “
.
.
.
“ และเหมือนเขาจะรู้ เมื่ออาทิตย์ก่อน เขาเข้ามาที่ห้องทำงานของผมและเปิดดูข้อมูลมนุษย์ต้นแบบของตัวเอง ผมไม่รู้ตัวจนกระทั่งเมื่อวาน คิดว่าคงจะเกิดเรื่องขึ้น และคุณก็โทรเข้ามา “
.
.
.
.
.
“ ผมไม่เห็นด้วยกับการทำลายเขา ถึงกล่อมให้คณะกรรมการทั้งหมดเห็นด้วย มันน่าตลกนะ ที่เราจะหวังให้โคลนนิ่งออกมาเพอร์เฟค ทั้งๆที่มนุษย์ทุกคนก็มีข้อเสียอยู่ในตัวกันทั้งนั้น “
.
.
.
“ ถ้าจะมีใครซักคนช่วยเขาได้ ผมคิดว่าคนนั้นคงเป็นคุณนาอึน “
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หัวหน้าฮาวอนบอกฉันทุกอย่างเกี่ยวกับพี่แทมิน ฉันถามตัวเองว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้เปลี่ยนแปลงความรู้สึกของฉันไปไหม ผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงตอนนี้ ยังเป็นพี่แทมินคนเดิมที่ฉันรักหรือเปล่า
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เกือบหนึ่งสัปดาห์ที่ฉันมาที่นี้ทุกวันเพื่อนั่งเฝ้าเขาอยู่ข้างเตียง ฉันเปลี่ยนดอกไม้บนแจกัน เปิดทีวีให้มีเสียงเป็นเพื่อนเบาๆ และหยิบหนังสือที่ติดมาจากบ้านเล่มใหม่เปิดอ่าน
.
.
.
.
.
พี่แทมินค่อยๆขยับตัวลุกขึ้น และมองมาที่ฉัน
.
..
.
.
.
“ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี้ล่ะ “
.
.
.
.
ฉันปิดหนังสือ เอื้อมมือข้างที่ถนัดไปดีดหน้าผากคนป่วยแรงๆ
.
.
.
.
.
พี่แทมินร้องว่าเจ็บ ใช้มือลูบหน้าผากตัวเองเบาๆ
.
.
.
.
.
“ ทำไมถึงพิมพ์ข้อความแบบนั้นไว้ในเครื่องคะ จดหมายแบบนั้นมันจะนำความโชคร้ายมาให้พี่ ไม่รู้หรือไง”
.
.
.
.
ฉันทิ้งตัวลงนอนทับตักของเขาไว้ พี่แทมินใช้นิ้วมือม้วนปลายผมของฉันเล่น
.
.
.
“ พี่คิดว่า ถ้าพี่มีตัวตนอยู่ในชีวิตเธอไม่ได้ พี่ก็อยากเป็นการจากลาที่งดงามที่จะอยู่ในใจของเธอตลอดไป “
.
.
.
.
ฉันเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา สีหน้าเรียบเฉยเหมือนปกติ เขายังม้วนผมของฉันเล่นอยู่
.
.
.
.
“ อย่าทำแบบนี้อีก ยังมีเรื่องมากมายที่พี่ยังไม่รู้.........
.
.
.
.
“ และถึงบางส่วนของพี่จะพังไปบ้างก็ไม่เป็นไร แต่พี่ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อเรียนรู้มันไปกับฉัน เข้าใจใช่ไหม? “
.
.
.
.
.
.
เขาจูบฉันแทนคำตอบ
.
.
.
และอ้อมกอดเขาแทนคำสัญญา
.
.
.
.
.
.
.
.
.
มีอีกหลายเรื่อง ที่ฉันอยากให้เขาได้รู้เหมือนกับที่ฉันเรียนรู้มา
.
.
.
อย่างบนโลกใบนี้ ไม่มีใครหรอกที่จะเพอร์เฟค
.
.
.
.
.
.
.
.
.
และไม่มีใครเลย จะมาทดแทนเขาได้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Know that you are unique and special,
That the universe is a better place for having you in it
.
.
.
.
.
.
.
.
-END-
3 notes
·
View notes
Text
OS : PENGUIN [ 40 month anniversary ]
.
.
.
[ One Shot ]
.
.
.
.
.
Taemin x Naeun
.
.
.
.
.
“ PENGUIN “
.
.
.
.
.
.
BGM : Penguin - CHRISTINA PERRI
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เพนกวินเป็นสัตว์ที่มักจะมีคู่เพียงตัวเดียวไปทั้งชีวิต แต่ก็ไม่ใช่ทุกคู่ที่โชคดีแบบนั้น ความโหดร้ายของธรรมชาติเป็นอุปสรรคที่น่าหวาดกลัว ในปีหนึ่งเมื่อฤดูหนาวมาถึง เพนกวินตัวผู้ต้องฝ่าความหนาวเย็นออกไปไกลนับพันนับหมื่นไมล์เพื่อหาอาหาร หลายตัวหลงทางและตายไประหว่างนั้น และเมื่อความหนาวเปลี่ยนเป็นความอบอุ่น การรอคอยของตัวเมียจะสิ้นสุดลง หากเขาไม่กลับมา ก็ถึงเวลาที่เธอจะเปิดใจรับใครคนใหม่
.
สิ่งที่น่าสนใจของเพนกวินก็คือ ตอนพวกมันเริ่มรัก เมื่อเพนกวินตัวผู้ตกหลุมรัก มันจะเดินไปตามหาดเรื่อยๆเพื่อมองหาก้อนกรวดที่งดงามและคู่ควรกับหญิงสาว พอมันเจอกรวดที่ถูกใจที่สุด มันจะคาบไปวางไว้ตรงหน้าเธอและรอคอยคำตอบ ตัวเมียจะมองดูกรวดก้อนนั้นแล้วตัดสินใจ หากเธอคาบมันขึ้นมาและนำกลับไปวางไว้ในรังของตัวเอง มันคือการตอบรับความรักของเขา ทั้งคู่จะกลายเป็นคู่ครองกัน
.
.
.
และถ้าโชคดีพวกเขาจะได้อยู่ด้วยกัน....จนกว่าความตายจะมาพรากไป
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
..
.
.
.
.
You can’t go back to how you were before..
since you realized your feelings
So you have to come to a conclusion
คุณไม่สามารถกลับไปเป็นคุณคนเก่าได้
เมื่อใดก็ตามที่คุณตระหนักถึงความรู้สึกที่มีต่อเขาแล้ว
คุณแค่ต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อหาบทสรุปของมัน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ซนนาอึนในวัย 23 ปี เป็นผู้หญิงที่สดใสยิ่งกว่าดอกทานตะวันในยามเช้า ^ ^
โลกของฉันสว่างไสว
หากไล่ไปตามเฉดสีฟ้า ตอนนี้มันคงปกคลุมไปด้วยสีฟ้าใส Sky blue
มีดวงอาทิตย์หนึ่งดวงที่ฉายแสงส่องลงมา ให้ความอบอุ่นและเป็นแหล่งพลังงานให้กับชีวิต
.
.
ซนนาอึน คนก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นแบบนี้หรอกนะ
ถ้าเทียบกันแล้ว ก็คงเหมือนสี Aegean blue
ฟ้าอมน้ำเงินที่เหมือนกับทะเลแคสเปียน
.
สีฟ้าสวยที่ดึงดูดใจ แต่ลึกลงไปมีอะไรซ่อนอยู่มากมาย.....
.
.
.
.
.
.
ซนนาอึน ก่อนวัย 20 ปี เป็นผู้หญิงที่โง่เขลา
ฉันเชื่อเสมอว่าตัวเองจะปลอดภัยอยู่หลังกำแพงใหญ่ที่สร้างขึ้น
.
.
ฉันมักจะเริ่มทำความรู้จักคนอื่นด้วยคะแนนติดลบ 1
คุยกันสิบนาที ครึ่งวัน หรือเป็นเดือน คะแนนอาจจะขยับมาที่ 0
มันหมายความว่าฉันจัดพวกเขาไว้ในผู้คนรอบข้าง ที่เดินผ่านเพียงแค่ยิ้มทักทายตามมารยาท
.
.
ฉันให้คะแนนบวกกับคนอื่นยาก
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผู้คนเหล่านั้น.....
.
ปัญหาคือตัวฉันเองต่างหาก
.
.
.
.
.
มีหลายคนที่อยากทำความรู้จักฉัน ในความสัมพันธ์ที่เกิ��กว่าเพื่อน
คนที่เคยเข้าหาฉัน มีหลายรูปแบบ
สุภาพบุรุษที่ใช้รอยยิ้มจริงใจ
.
แบดกายเจ้าสเน่ห์
.
คนที่ค่อยๆเริ่มจากเพื่อนหรือรุ่นพี่รุ่นน้อง
.
เพราะว่าซนนาอึนคนก่อน ไม่เคยเปิดประตูออกมาง่ายๆ
คนถึงคิดไปว่า ฉันเป็นผู้หญิงเย็นชา มาตรฐานสูง และคงไม่สนใจพวกเขา
.
.
.
แต่เปล่าเลย...
.
ฉันให้โอกาสทุกคนเสมอในแบบของฉัน
.
แต่ไม่มีใครอดทนทำความเข้าใจมันต่างหาก...
.
.
.
.
.
.
โชคชะตา ทำให้ซนนาอึนในวัย 20 ปี
ได้เจอผู้ชายคนแรก ที่พยายามทำความเข้าใจตัวเธอ
.
.
.
ถ้าเทียบกันเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกกับความชอบส่วนตัวของฉันแล้ว
เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ดูดีที่สุดที่ฉันเคยเจอหรอกนะ
.
แค่คนที่ใจร้อน ตรงไปตรงมา และดูนิสัยเสียเพราะถูกตามใจมาตลอด
ประสบการณ์เรื่องความรักก็ไม่ได้มีมากเกินไปกว่าฉันเลย
.
บางครั้งฉันเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมคนๆนี้เข้ามายังโลกของฉันได้ง่ายดายนัก?
.
.
โลกที่มีผู้หญิงขี้ขลาดคนหนึ่งหลบอยู่หลังกำแพงใหญ่
.
ผู้หญิงที่ไม่เคยวางใจใครง่ายๆ เพราะว่ากลัวว่าหัวใจจะเจ็บปวด
.
ผู้หญิงที่ไม่มีความกล้าที่จะลองเสี่ยงกับอะไร
.
.
.
.
.
.
เป็นเขาคนนั้น ที่ทำให้ฉันรู้ว่า การปกป้องความรู้สึกของตัวเองคือความเห็นแก่ตัว
ทุกการกระทำ ทุกคำพูด...
ในขณะที่ฉันนึกถึงแค่ตัวเอง เขากลับคิดถึงความรู้สึกของฉันด้วยความจริงใจ
.
.
.
และในที่สุด ฉันก็เข้าใจ
ความรัก ที่หมายรวมถึงคนสองคน
ใจสองใจ...
.
ไม่ควรให้ฝ่ายใดต้องเสี่ยงเพียงลำพัง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ฉันเคยบอกว่าพี่แทมินไม่ได้เพอร์เฟค
.
แต่ใครกันละจะเพอร์เฟค?
.
ข้อดีของความเป็นมนุษย์ ก็คือ ... เราไม่ได้สมบูรณ์แบบ
เพราะว่าเรามีสิ่งที่ขาดหาย มันถึงทำให้เราใช้ชีวิตแบบที่คอยตามหาบางสิ่งมาเติมเต็มตัวเองอยู่ตลอด
.
.
บางคนมีเป้าหมายของชีวิต เป็นคนที่โชคดีที่รู้ว่าตัวเองต้องเดินไปทางไหน
และมีอีกหลายคน ที่ไขว้คว้าหาสิ่งที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าต้องการมันจริงหรือเปล่า
.
.
พี่แทมินเคยเร่งหาคำตอบให้กับเรา
เขานำฉันไปหนึ่งก้าวเสมอ
มันเคยเป็นข้อเสีย ที่ฉันคิดว่าเราทั้งคู่ไม่เหมาะกันเลย
.
.
แต่มันไม่ใช่แบบนั้น
เมื่อเขาเดินนำฉันไปหนึ่งก้าว
เขาจะเรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาดบนทางของเราก่อน
และเพราะว่าเป็นพี่แทมิน สิ่งผิดพลาดเหล่านั้น ถึงไม่ทำให้เขาถอดใจ
เขาเพียงหันกลับมา กุมมือฉันไว้ และสอนฉันว่าก้าวต่อไปฉันจะต้องทำอย่างไร
เพื่อให้ฉันยังเดินอยู่บนเส้นทางของเราได้ต่อ
.
.
.
.
เคยได้ยินคนบอกไหมว่า คนหลงทางมี 2 ประเภท
หนึ่งคือ คุณหลงทาง และรู้ว่าตัวเองมาผิดทางแล้ว
คุณยังมีความโชคดีอยู่ เพราะเมื่อคุณรู้ตัวว่าทางที่เดินอยู่ไม่ได้พาไปยังจุดหมายที่ต้องการ
คุณจะหาทางกลับออกมา ไม่ช้าก็เร็ว คุณจะต้องเจอทางออกซักวัน
.
.
สองคือ คุณหลงทาง และเข้าใจว่าตัวเองมาถูกทางแล้ว
นี้คือการหลงทางที่แย่ที่สุด เพราะคุณจะเดินต่อไปเรื่อยๆ ด้วยหัวใจที่มีความหวังว่าจะได้เห็นจุดหมายที่ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นทุกวัน แต่เมื่อคุณรู้ตัวอีกที ปลายทางที่คุณได้เจอ กลับมีแต่ความว่างเปล่า คุณตอบตัวเองไม่ได้ว่านี้คือจุดหมายที่คุณต้องการมันจริงๆไหม
.
และคุณมีทางเลือกแค่สองทาง
คือหันหลังกลับไปสู่จุดเริ่มต้นด้วยทางที่ลำบากกว่าเก่ามากมายนัก
หรือหลอกตัวเองว่าคุณพอใจกับจุดหมายนี้แล้ว และอยู่กับมันไปตลอดชีวิตของคุณ
.
.
.
.
นั้นคือเหตุผลที่เมื่อคุณเริ่มเดินทาง
คุณต้องถามตัวเองให้แน่ใจก่อนว่า ชีวิตต้องการอะไร
เดินตามทางด้วยความมั่นใจในทุกก้าวย่าง แบบที่คุณจะไม่มีวันหันกลับมาเสียใจ
คุณอาจจะเดินช้า เส้นทางที่เลือกอาจยากลำบากกว่า
แต่คุณจะไม่มีวันหลงทางแน่ๆ
.
.
.
.
ผู้ชายใจร้อน นิสัยเสีย และตรงไปตรงมาคนนั้นแหละ ที่สอนฉันให้รู้ในสิ่งเหล่านี้
.
เป็นคนที่ทำให้รู้สึกประหลาดใจได้ทุกวันจริงๆ
.
.
.
.
.
“ นาอึน-อาา .. เธอรู้ไหมว่าคนเรามีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะรักใครก็ได้ตามแต่ใจของเรา ความรักก็คือการเสี่ยงเดิมพัน ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม มันไม่ใช่ความผิดของใครเลย”
.
นี้ไม่ใช่ประโยคขอร้อง คำสัญญา หรือแม้แต่ข้อผูกมัด
เขาแค่บอกให้ฉันรู้ว่า ฉันต้องใช้หัวใจมากกว่าเหตุผลจากสมอง
.
.
และการกระทำของเขา ชัดเจนกว่าคำพูดเสมอ
.
.
.
เขาใช้มือที่ไม่ได้ใหญ่กว่ามือของฉัน เกาะกุมมันเข้าด้วยกันด้วยความอบอุ่นไม่เคยเปลี่ยน
.
“ เพราะว่าเธอคือเจ้าของพี่ พี่จะซื่อสัตย์และปกป้องเธอไปตลอด “
.
.
เขาไม่เคยขอให้รอ ในตอนที่ระยะห่างของเราไกลออกไปจนมองไม่เห็นกัน
.
“ นาอึนนี่ ....ใครที่เธออยู่ด้วยแล้วทำให้เธอมีรอยยิ้ม พี่ก็จะยิ้มไปด้วย ทุกอย่างที่เธอทำแล้วมีความสุข พี่ก็จะมีความสุขไปด้วย อย่ากังวลไปเลย ให้เรื่องของเราเป็นสิ่งที่ทำให้เธอสบายใจที่สุดนะ “
.
..
.
.
.
และเขาทำให้ฉันเชื่อว่า
แม้ทางที่เขาเดินอยู่จะยังยาวไกลออกไป จนตอนนี้ก็ยังมองไม่เห็นจุดหมายชัดเจน
แต่ปลายทางจะไม่มีวันเปลี่ยน ที่ๆเขาไปถึง เขาหวังว่าจะมีเราอยู่เสมอ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
I think about.....
how I want to give you everything in the world
But I know.. you don’t want that kind of thing
ฉันเคยคิดว่ามันจะเป็นอย่างไร ถ้าฉันให้ทุกๆอย่างบนโลกใบนี้แก่คุณ
แต่ฉันก็รู้ดีว่า คุณไม่เคยต้องการสิ่งเหล่านั้นเลย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เพนกวินตัวเมีย ต้องการเพียงก้อนกรวดหนึ่งก้อนที่ถูกใจมันในการเลือกคู่ชีวิต
ไม่ใช่เพราะว่ามันเป็นสัตว์ มันก็เลยทำอะไรง่ายๆแบบนั้น
.
ถ้าคุณรู้จักความรักดีล่ะก็
.
คุณจะรู้ ว่ามันคือเรื่องง่ายๆยิ่งกว่าเรื่องของเพนกวินซะอีก
.
.
.
การใช้ชีวิตบนโลกมันยากนะ
มีหลายอย่างที่ฉันต้องรับผิดชอบ มีหลายคนที่ฉันต้องคิดถึง
ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับงาน อยู่กับเมมเบอร์และแฟนคลับ
เวลาที่เหลือจากนั้นฉันใช้มันกับครอบครัว งานศิลปะที่รัก
หรือเรื่องใหม่ๆ อย่างแฟชั่น สุขภาพที่ฉันให้ความสนใจ
.
.
และพี่แทมินเป็นหนึ่งในคนที่ฉันอยากใช้เวลาอยู่ด้วย
.
.
.
หลังจากลองผิดลองถูกกันมา
เรามีความเห็นตรงกันว่า ความสัมพันธ์ของเรา ควรเป็นเรื่องที่ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น
.
.
เพราะเราทั้งคู่คือคนที่รับความรัก
เราทั้งคู่คือคนที่ลองเสี่ยงใช้หัวใจ
.
.
.
.
ฉันจะหัวเราะเสียงดังเวลาที่เขาทำให้ฉันมีความสุข
ฉันโกรธและจะเมินใส่ เวลาที่เขาทำตัวน่าโมโห
ฉันโทรหาเวลาที่ฉันอยากได้ยินเสียงเขา
ฉันส่งข้อความไป เวลาที่อยากบอกความรู้สึกให้เขารับรู้
.
.
.
ในความรักไม่เคยมีศักดิ์ศรีหรือเหตุผล
คุณควรทำทุกอย่างให้เป็นเรื่องง่าย
แผนการหรือความคิดซับซ้อนไม่ได้ช่วยอะไร
.
ผู้ชายที่เหมือนกับนิยายที่คุณเคยอ่าน ไม่เคยมีอยู่จริง
.
จะรอเจ้าชายไปทำไม ในเมื่อคุณไม่ใช่เจ้าหญิงที่ไหน
.
.
ในเมื่อทุกๆเช้าคุณอยากลืมตาขึ้นมาและยังมีเขาอยู่ในชีวิต
.
คุณแค่ต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาเขาไว้ให้ได้
.
.
.
.
.
.
.
.
พี่แทมิน ไม่ได้มีคำตอบให้กับทุกเรื่องในชีวิต
ไม่ได้กล้าหาญขนาดว่าทำทุกอย่างด้วยความมั่นใจ ไม่เกรงกลัว
.
.
เขากังวลเสมอว่าทุกๆก้าวที่เขาเดินไกลออกไป
พอเขาหันกลับมา ฉันอาจไม่อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว
.
.
ในอ้อมกอดของความห่างไกลนี้ ฉันรับรู้ถึงความหวาดกลัวของเขาเสมอ
.
ความกลัวว่าฉันจะหายไป ส่งผ่านมาตามสายโทรศัพท์ ผ่านมาตามตัวอักษรไม่กี่คำ
.
.
.
เพราะว่ามันไม่มีหลักประกันว่า เมื่อเวลาผ่านไป....ใจเราจะเปลี่ยนไปด้วยไหม
.
คำสัญญาเป็นเพียงลมปาก
.
สร้อยข้อมือนี้ก็เป็นเพียงแค่สิ่งของ
.
มีแต่ใจเราเท่านั้น ที่คอยบอกว่าวันนี้เราอยากมีกันและกันหรือเปล่า
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Please remember.
You are very dear to my heart
That will not ever change
ได้โปรดจดจำเอาไว้ คุณเป็นที่รักของฉันเสมอ
และสิ่งนั้นจะไม่มีวันเปลี่ยน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เห็นผู้ชายเท่ห์ๆที่แสดงอยู่บนเวทีคนนั้นไหมคะ
คนที่กำลังตรึงสายตาของทุกคนเอาไว้ทั้งหมด
.
ผู้ชายคนนั้นใช้เวลาเกินครึ่งชีวิต เรียนรู้ ฝึกฝนในสิ่งที่เขารักทุกวัน
เขาไม่เคยหยุด เพียงเพราะคิดว่าตัวเองดีพอแล้ว
.
.
.
นี้คือความฝันของเขา
ในระหว่างที่เดินตามความฝัน
เขาได้รับความรักมากมายตอบแทนกลับมา
และเขาคิดเสมอว่ามันคือสิ่งที่เขาต้องรับผิดชอบ
.
.
.
.
“ พี่มีของที่อยากได้อยู่ไม่กี่อย่างในชีวิต แต่สิ่งที่พี่อยากได้จริงๆ กลับเป็นสิ่งที่ทุกคนบอกว่าควรจะปล่อยมันไป ตัวพี่ในตอนนี้ ทำให้เธอมีความสุขไม่ได้หรอก.. วันหนึ่งเธออาจจะต้องเสียใจ พี่ถึงต้องเก่งกว่านี้ ต้องกลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยมกว่านี้ เพราะว่าเดิมพันของพี่มันสูงเหลือเกิน “
.
.
.
.
.
ฉันรักผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนั้นมาก
ผู้ชายที่เปล่งประกายและน่าประทับใจ
.
.
.
เขาทำให้ฉันนึกถึง เพนกวินที่ต้องฝ่าฟันพายุหิมะเพื่อหาอาหารในที่ๆไกลออกไป
ตั้งแต่ก้าวแรกที่มันออกเดินทาง มันแบกความรับผิดชอบยิ่งใหญ่ไว้บนบ่าเล็กๆนั้น
มันกล้าหาญและอดทน เพื่อสิ่งสำคัญ
ความสำเร็จเท่านั้นที่มันจะนำกลับมาให้คนที่รอมันอยู่
.
.
.
.
เพราะฉะนั้น ตัวฉันในตอนนี้ ถึงมีสิ่งที่ต้องการเพิ่มขึ้นอีกอย่าง
นอกจากงานที่เป็นความฝัน การรับผิดชอบต่อหน้าที่ ต่อความรักของทุกคน
.
.
ฉันพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะเป็น บ้านที่คู่ควรกับเขา
.
บ้านที่เขาจะกลับมา ในตอนที่หนีจากทุกอย่างที่ทำให้เขาอ่อนล้า
.
เป็นที่ที่เขาหัวเราะเสียงดังได้อย่างไม่อายใคร
.
ที่ๆเขาร้องไห้ออกมาได้เป็นเด็กๆ
.
ที่ๆให้ความอบอุ่น
.
ที่ๆเติมพลังให้เขาก้าวเดินต่อไป
.
.
.
.
.
.
.
.
หากทุกอย่างในชีวิตเป็นเรื่องยากสำหรับคุณแล้วล่ะก็
.
.
จงรักให้เป็นเรื่องง่าย เหมือนการหายใจก็พอ ^ ^
.
.
.
.
.
.
.
.
ถ้าคุณได้ตกหลุมรักใครซักคน
คุณคือหนึ่งในผู้โชคดี ที่ได้พบคนที่ทำให้ชีวิตของคุณมีความหมาย
.
และหากว่าเขาตอบรับความรักของคุณ
...ยินดีด้วยคะ
คุณได้เจอคุณค่าของการมีชีวิตแล้ว
.
จงทำให้เขารู้เสมอ ว่าคุณรักเขามากแค่ไหน
.
โอบกอดเขาไว้ด้วยอ้อมแขนที่อบอุ่น
.
.
.
จงเป็นเพนกวินของกันและกัน ^ ^
.
.
.
.
.
.
.
Can you find the time to let your lover hold you He needs somebody to hold to His love is strong and so true His arrows aiming for you And he's the one that you were born to love
Love like this may come once Baby it's fate Like a soul mate
.
he's your penguin …….
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
-END-
1 note
·
View note
Text
OS #TAEMINDAY
. .
SPECIAL DAY #TAEMINDAY . . . .
[ LITTLE THINGS ] . . . . . Taemin x Naeun
. . . . . . BGM : One Direction - Little Things .
. . . . . . . . . . . . . . .

. . . . . . . . . . . . . . .
.
.
. Your hand fits in mine like it’s made just for me But bear this in mind, it was meant to be And I’m joining up the dots with the freckles on your cheeks, And it all makes sense to me
มือของคุณมีขนาดพอดีกับมือของผม ราวกับว่ามันถูกสร้างมาเพื่อกัน จำเอาไว้ให้ขึ้นใจ ว่ามันถูกสร้างขึ้นอย่างมีความหมาย ผมกำลังลากเส้นจากจุดรอยกระบนแก้มของเธอ และมันล้วนเป็นสิ่งที่มีเหตุผลสำหรับผม
. . . . . . . . . .
เขาชอบอะไรในตัวนาอึนที่สุด? . . . ดวงตากลมโตที่ดูจริงใจเสมอหรือเปล่า คุณบอกตัวตนของนาอึนได้เพียงแค่ได้มองตาเธอไม่กี่วินาที . . จมูกเล็กๆนั้นเหรอ…… หรือจะเป็นริมฝีปากสีเชอรี่ที่กำลังขยับเบาๆไล่อ่านตัวหนังสือในบัตรเชิญอย่างตั้งอกตั้งใจกัน . . . . “ พี่กำลังจะชวนฉันไปงานแต่งงานอย่างที่บอกไว้ในการ์ดนี้เหรอคะ”
. . . . . . . . . . เขาพยักหน้ารับ รอดูปฏิกิริยาของคนตัวเล็กที่กำลังกระพริบตาปริบๆ . . . . . . อ่อ..หรือจะเป็น รอยแผลเป็นเล็กๆข้างแก้มขวาของเธอ ผลจากความซนที่ได้ตั้งแต่ตอนเป็นลิตเติ้ลนาอึนวัยสามขวบ ผมชอบที่เธอไม่เคยอยากทำให้มันหายไปเหมือนกับคนอื่น ตำหนินั้น มันทำให้นาอึนคือนาอึน คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผม . . . . “ แต่ว่า….วันนั้นฉันจะบินกลับมาทันหรือเปล่าก็ไม่รู้ “ . . . .
นาอึนหยิบสมุดตารางงานขึ้นมา พูดเสียงเบาเหมือนบ่นกับตัวเอง ผมเท้าคางมองหน้าเธอ ตอนนี้ในหัวของนาอึนคงมีหลายอารมณ์ตีกันอยู่ แปลกใจที่ผมชวนออกงาน ดีใจที่ได้ไปไหนด้วยกัน และกังวลว่าอาจจะเกิดเรื่องขึ้น ผมยื่นกระดาษอีกแผ่นไปวางแปะไว้บนสมุดนั้น ส่งยิ้มให้เธอผ่อนคลาย ข้อความในกระดาษคือแผนผังเวลาที่ผมวางเอาไว้ นาอึนจะบินกลับมาที่อินชอนในตอนค่ำของวันที่ 11 ผมจะขับรถไปรับ จุดหมายของเราคือคังนึน งานยากที่สุดก็คือ ผมต้องมาส่งเธอให้ทันขึ้นเครื่องไปที่กวมตอน11โมง เรามีเวลารวมๆ 10 ชม.ที่จะอยู่ด้วยกันและนั้นก็มากพอแล้ว . . . . . . มันดูน่ารักและก็ตลกดี ตอนที่ความคิดทั้งหมดของเธอถูกแสดงออกมาทางสีหน้าเวลาที่เธอเผลอ อย่างคิ้วที่ขมวดเป็นปม กับการที่แอบมองผมเป็นพักๆแล้วเขียนอะไรหยุกหยิกในกระดาษ คงมาจากที่เธอกำลังคิดเรื่องแผนการณ์ที่ดูรีบร้อนของผม เราต้องทำทุกอย่างตามเวลาแบบผิดพลาดไม่ได้ และเธอคงเป็นห่วงที่ผมต้องรีบออกจากห้องซ้อมมหาโหด ขับรถติดต่อกันหลายชม. จนไม่มีเวลานอนพัก
. . . . . วันนี้ผมไม่มีเวลามากนัก ทั้งๆที่อยากจะนั่งมองหน้าเธออยู่แบบนี้ทั้งวัน จึงรวบรัดคำตอบว่าเอาตามนี้แล้วรีบขอตัวออกมา ปล่อยให้เจ้าตัวคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย พิธีจะจัดขึ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้า นาอึนคงเอาแต่คิดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอดแน่ๆ เธอเป็นคนคิดมากกับทุกๆเรื่อง เพราะว่าใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้างเสมอ มันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ผมอยากให้เธอเอาแต่ใจตัวเองให้มากขึ้นกว่านี้อีกหน่อย ผมชอบเวลาที่นาอึนดื้อกับผม เพราะว่าเธอไม่ได้เป็นผู้หญิงประเภทที่ชอบทำแบบนี้กับใคร การที่เธอเอาแต่ใจกับคุณ มันหมายถึงว่าเธอต้องการความรักจากคุณเท่านั้นเอง . . . . .
I know you’ve never loved the crinkles by your eyes when you smile, You’ve never loved your stomach or your thighs The dimples in your back at the bottom of your spine ผมรู้ว่าคุณไม่เคยชอบรอยย่นที่ตาเวลาที่คุณฉีกยิ้ม คุณไม่เคยชอบหน้าท้องหรือต้นขา แม้แต่รอยบุ๋มด้านหลังส่วนล่างสุดของกระดูกสันหลังของคุณ
But I’ll love them endlessly แต่ผมนะ รักพวกมันสุดจะบรรยายเลยล่ะ . .
I know you’ve never loved the sound of your voice on tape You never want to know how much you weigh You still have to squeeze into your jeans ผมรู้ว่าคุณไม่เคยชอบเสียงของคุณที่ถูกอัดไว้ คุณไม่เคยอยากรู้น้ำหนักของตัวเอง คุณยังพยายามใส่ยีนส์รัดๆให้ได้ . . But you’re perfect to me แต่คุณนะ…สมบูรณ์แบบแล้วสำหรับผม . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ผมทำงานหนักมากในสองเดือนที่ผ่านมา ผมเครียด เจ้าอารมณ์และขี้หงุดหงิดมากกว่าปกติสองเท่า ผมหลีกเลี่ยงการโทรหานาอึน เธอรู้เหตุผลดี นาอึนถึงส่งข้อความและรูปเซลฟี่ของเธอมาให้ผมมากกว่าปกติ พวกฮยองบอกว่ามันคือยันต์กันผี เพราะผมนะร้ายกาจเกินกว่าพวกเขาจะรับมือ เลยต้องพึ่งข้อความของนาอึนเท่านั้น -*- . . . . . . พอต้นเดือนกรกฎาคม ผมก็เริ่มผ่อนคลาย ไม่ใช่เพราะตารางงานน้อยลงหรอกนะ กลับกันมันยิ่งมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ผมเข้าห้องซ้อมทุกวันตั้งแต่สิบโมงจนถึงเกือบเช้าของอีกวัน แต่เพราะว่ามันคือเดือนเกิดของผม เป็นเดือนที่ผมโปรดปราน แถมไม่กี่วันก็จะเป็นวันนัดของผมกับนาอึน . . . . . . . . .
วันนี้คือวันดีเดย์ ผมตั้งใจซ้อมมากกว่าปกติ ไม่มีอาการงอแงให้เห็นแบบทุกวัน เพื่อทำมันออกมาให้ดีที่สุด ผมต้องขอร้อง อ้อนวอนแจวอนฮยองแบบเอาเป็นเอาตาย เพื่อจะได้เวลาเลิกซ้อมที่เร็วกว่าปกติมาสามชั่วโมง T^T . . . . . .
นาอึนมาถึงโซลตอนห้าทุ่ม ผมรอเพียงไม่นานเธอก็เดินมาขึ้นรถ ระหว่างทางเธอยื่นแก้วชาร้อนมาให้ผมจิบ ผมนึกขำเพราะสำหรับผมชาร้อนอาจจะทำให้หายง่วง แต่สำหรับนาอึนมันเป็นตัวกล่อมที่ทำให้เธอหลับสนิท และเพราะแบบนั้นพอผ่านไปได้แค่ 30 นาที ผมถึงไม่ได้ยินเสียงของนาอึนอีก . . . . . คืนนี้อากาศดี ฟ้าเปิดและเห็นดวงดาวเต็มไปหมด นาอึนเคยบอกว่า ทุกคนอาจจะชอบพระจันทร์เวลาที่มันเต็มดวง เพราะว่ามันสวยและก็ดูน่าหลงใหล แต่เธอชอบจันทร์เสี้ยวมากกว่า มันยอมสวยน้อยลง เพื่อให้หมู่ดาวเปล่งประกายสดใส และท้องฟ้าคืนนั้นก็จะสวยกว่าทุกวัน . . . . ผมยิ้มกว้างระหว่างคิดถึงคำพูดของนาอึน ผมมีเรื่องดีๆของนาอึนให้คิดถึงอยู่ตลอดไม่ว่าจะมองไปทางไหน เธอทำให้โลกใบเดิมดูแปลกไป มันน่าอยู่ขึ้นเพราะความรู้สึกดีๆพวกนั้นที่เธอใส่เข้ามาในใจของผม
. . . . ผมเหลือบตาไปมองที่นั่งด้านคนขับ นาอึนยังนอนหลับสนิทอยู่ ผมดีใจที่แก้มของเธอดูกลมขึ้นกว่าครั้งล่าสุดที่เจอกัน ตอนนั้นเธอกำลังคลั่งการเข้ายิมเพราะต้องฟิตหุ่นถ่ายแบบให้นิตยสาร แถมเธอยังฝากพี่เมเนมาบอกผมว่าให้งดซื้อขนมมาฝากเธอ ผมจะไม่บอกว่านาอึนนะผอมซะจนเอวเล็กขนาดที่มือของผมกำรอบได้ ขาของเธอก็ไม่ได้ใหญ่แบบที่เธอคิด และแก้มกลมๆที่เธอชอบบ่นว่าอยากทำให้มันหายไปนั่นนะ คือสิ่งที่ทำให้เธอน่ารักที่สุดสำหรับผม
. . . . . . . . . . . . . ผมขับรถโดยไม่ได้หยุดแวะที่ไหน เลยทำให้เรามาถึงที่พักเร็วกว่ากำหนดเกือบครึ่งชั่วโมง นาอึนรู้สึกตัวตอนที่ผมลงไปเปิดประตูด้านหลังหยิบเป้และกระเป๋าสะพายของเธอ เธ���สะลึมสะลือลุกขึ้นโดยที่ตายังไม่เปิด ไม่แน่ใจว่าตื่นหรือละเมอกันแน่ ผมจับที่ข้อมือของเธอและเดินพามาตามทางจนถึงห้องพักของโรงแรม ผมจองห้องในส่วนที่ไม่ติดทะเล ซึ่งคนเข้าพักน้อยกว่าแต่วิวสวยไม่แพ้กัน ผมเคยมาที่นี้ 2-3 ครั้ง เพราะว่าบ้านเพื่อนสนิทของผมอยู่ถนนเส้นเดียวกับที่ตั้งโรงแรม. . . . . . นาอึนตื่นเต็มตาตอนที่ผมเปิดประตูระเบียงออกและเธอได้ยินเสียงคลื่นที่ลอดเข้ามา ตาของเธอโตยิ่งกว่าเดิม เธอเดินมาที่ระเบียง ยืนอยู่ข้างๆผม หลับตาสูดหายใจลึกเอาอากาศดีๆเข้าเต็มปอด และหันมาฉีกยิ้มกว้างเป็นรางวัลให้กับผม . . . . . . ทะเลสวย ท้องฟ้าก็สวย ทุกอย่างที่นี้สวยไปหมด หัวใจของผมพองโต หายเหนื่อยและผ่อนคลาย ผมมองใบหน้าด้านข้างของนาอึนระหว่างที่เธอกำลังตั้งใจถ่ายรูปวิวตรงหน้า และความคิดเดิมก็เริ่มกลับมา . . . . . . ผมชอบอะไรในตัวของนาอึนที่สุด? . . . . . . . . . . . . . . . . .
.
. . . . . . . . . . . I won’t let these little things. Slip out of my mouth But if I do, it’s you. Oh it’s you, they add up to ผมจะไม่พูดสิ่งเล็กๆเหล่านี้ออกมาหรอก แต่ถ้าผมเผลอพูดไป นั้นก็เพราะคุณ ….ทั้งหมดนั้นรวมกันอยู่ที่คุณ I’m in love with you and all these little things ผมตกหลุมรักคุณ รวมถึงสิ่งเล็กๆเหล่านั้นด้วย . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . เข็มสั้นของนาฬิกาบนผนังชี้เลยเลขสี่มาเกือบครึ่งแล้ว ทั้งห้องมืดสนิท มีเพียงแสงไฟที่ระเบียงส่องเข้ามา เราอยู่กันที่โซฟาเดย์เบดตัวใหญ่กลางห้อง นาอึนนอนซุกตัวอยู่ที่แขนของผม ปีนี้เป็นปีที่ 4 ที่ผมรู้จักนาอึน ผมจะพูดเป็นครั้งที่ร้อย ว่าผมคือคนที่โชคดี นาอึนมีแต่พลังด้านบวก ทุกอย่างทีเป็นเธอ มันดูน่ารักไปหมด . . . . . ผมจะบอกความจริงเกี่ยวกับซน นาอึนให้คุณรู้ …. . . . . . เธอมีขนมอย่างน้อย 2อย่างพกไว้ในกระเป๋าเสมอ แต่ชอบบ่นว่าน้ำตาลทำให้เธออ้วนง่าย
. . . ถ้ามีเชอรี่ลูกเดียวอยู่บนเค้ก เธอจะกินมันหลังสุด ( แต่ถ้ามีมากกว่าหนึ่ง เธอจะกินมันก่อน และเก็บเอาไว้หนึ่งลูกเพื่อกินเป็นอย่างสุดท้ายเหมือนเดิม ) . . . . . เธอชอบอ่านนิยายรักและวรรณกรรมแปล ในนั้นจะมีประโยคที่ทำให้เธอร้องไห้ และไม่ว่าเธอจะกลับมาอ่านมันเป็นรอบที่ร้อย เธอก็จะเสียน้ำตาให้มันทุกครั้ง . . . . . เธอใจร้ายแบบที่น้อยครั้งจะแบ่งของโปรดของตัวเองให้คนอื่น แต่ถ้าคุณเศร้าหรือกำลังรู้สึกแย่ล่ะก็ ไม่ต้องเอ่ยปาก คุณก็จะได้รับมันแบบง่ายๆเลยล่ะ . . . . เธอชอบฟังเพลงเศร้า ชอบดูหนังรักโรแมนติก แต่ก็ชอบกีฬาเอ็กตรีมน่ากลัวพวกนั้นพอๆกัน . . . . . เธอดูน่ารักมากเวลาที่ใส่กระโปรงหวานๆ และดูมีสเน่ห์ทุกครั้งเวลาที่สวมยีนส์รัดรูปขาดๆกับเสื้อสีขาว . . . ถ้าเธอกำลังตีหน้าเฉย ทำตาโตและเม้มปากยิ้ม จำเอาไว้ ว่าเธอกำลังไม่มั่นใจในตัวเอง เธอกำลังอึดอัดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ….และนั้นคือสัญญาณ S.O.S ของเธอ . . . . เธอชอบให้พูดว่า นาอึนนี่คนเก่ง แต่เธอจะทำเหมือนว่าเธอไม่ได้ยินมันและแอบไปยิ้มกับตัวเอง . . . .
คุณอาจจะใจเต้นทุกครั้งที่เธอมองมา แต่เชื่อเถอะว่าเธอเองก็เขินไม่แพ้กัน . . . . . . . . ผมไม่เคยเบื่อที่จะคอยสังเกตเรื่องพวกนี้ของเธอเลย ผมรักมันทุกอย่างนั้นแหละ ทุกอย่างที่เป็นเธอ ทำให้หัวใจของผมเต้นแรง รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ . . . . . .
นาอึนขยับตัวเพราะว่าผมเผลอหัวเราะออกมา ผมมองไปที่นาฬิกาอีกครั้ง และผมควรจะปลุกเธอได้แล้ว . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . You’ll never love yourself half as much as I love you And you’ll never treat yourself right …Darlin’ but I want you to. If I let you know I’m here for you Maybe you’ll love yourself. Like I love you
คุณไม่เคยรักตัวเองได้เท่าครึ่งหนึ่งที่ผมรักคุณ และคุณไม่เคยดูแลตัวเองให้ดีเลยซักครั้ง ที่รัก …. แต่ผมนะ อยากให้คุณทำมันนะ ถ้าผมบอกให้คุณรู้ ว่าผมอยู่ตรงนี้เพื่อคุณเสมอ บางทีคุณอาจจะรักตัวเอง ได้เท่ากับที่ผมรักคุณ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . เราตื่นมาทันดูพระอาทิตย์ขึ้น เป็นการเริ่มต้นวันที่ดี ใช้เวลาไม่นานเราสองคนก็อยู่ในชุดออกงาน ผมเป็นคนเตรียมชุดให้นาอึน เพราะอยากให้ชุดของเราดูเข้ากัน เธอดูน่ารักมากตอนที่เธอเดินออกมาแล้วทำหน้าอายๆเพราะผมเผลอจ้องเธอนานไปหน่อย . . . . . โบสถ์ที่จัดงาน ห่างจากโรงแรมไม่ถึง 5 นาที ผมเลยมีเวลาแวะซื้ออเมริกาโน่ให้นาอึน เธอบอกผมว่ากาแฟขมๆที่กินตอนเช้าจะทำให้เราไม่ค่อยหิวข้าวไปทั้งวัน แต่พายเมล่อนที่เธอถืออยู่ในมือตอนนี้ก็เป็นชิ้นที่สามที่เธอกินเข้าไปแล้วล่ะ …..ผมบอกแล้ว ว่านาอึนน่ะ น่ารัก >\\< . . . . . . พิธีแต่งงานเล็กๆ ที่เหมือนกับงานรวมรุ่นโรงเรียนประถม เพื่อนร่วมห้องของผม 19 คนมากันครบทุกคน แขกในงานมีแต่คนสนิท เจ้าบ่าววันนี้ดูหล่อขึ้นผิดปกติ แต่ผมจะไม่ชมมันหรอก . . . เมื่อคืนก่อนจะเผลอหลับไป นาอึนให้ของขวัญวันเกิดล่วงหน้ากับผม เป็นต่างหูแฮนเมด ข้างนึงมีเม็ดทับทิมเล็กๆประดับอยู่ ส่วนอีกข้างคืออามิทีสต์ เธอบอกว่ามีของอีกอย่างที่เธอจะให้ แต่เธอจะให้ผมในวันเกิดจริง … นาอึนร้ายกาจชะมัดเลย ผมอยากรู้แล้วซิว่ามันคืออะไร -*- . . . . เธอดูแปลกใจที่ผมก็มีของมาให้เธอเหมือนกัน พวงกุญแจเงินอันเล็กที่คล้องหิน Lapis Lazuli เอาไว้ เธอเอาไปคล้องที่กระเป๋าสตางค์ใบโปรด เธอบอกว่าจะได้พกมันไปไหนมาไหนได้ตลอดโดยไม่ลืม ตอนนี้เธอถือกระเป๋าสตางค์เอาไว้ในมือ มันทำให้ผมยิ้มกว้างออกมา นาอึนยังไม่รู้ความหมายของหินก้อนนี้ และผมกำลังจะบอกเธอ . . . . . . . “ความรักนั้น อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่าง แม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ มีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง…….” 1 โครินธ์ 13:4-7
. . . . . เจ้าบ่าวบรรจงจูบเจ้าสาว และทุกคนในงานก็ส่งเสียงโห่ร้องแสดงความยินดี ในที่สุดเจ้าสาวก็ร้องไห้ออกมา หลังจากน้ำตาคลอตั้งแต่ตอนสวมแหวน ผมหันไปที่คนข้างๆ ก็เห็นว่าดวงตาของเธอชุ่มไปด้วยน้ำ ขี้แยยิ่งกว่าเจ้าสาวซะอีก ผมเห็นเธอกัดปากกลั้นน้ำตาตั้งแต่ได้ยินเจ้าบ่าวพูดว่า"รับครับ" . . . ผมยิ้มให้ และเธอเอียงหน้าหลบ ผมกระชับมือที่จับเธอเอาไว้ เพื่อให้เธอขยับเข้ามาใกล้ และเปลี่ยนมาโอบเธอจากด้านหลังแทน . . . . พิธีเสร็จสิ้นตั้งแต่ยังไม่แปดโมง เพราะคู่แต่งงานต้องรีบไปให้ทันไฟท์บิน ทริปฮันนีมูนตอน 10 โมงนี้ มันเป็นของขวัญแต่งงานจากผม แลกกับการเลื่อนการทำพิธีให้เร็วขึ้นจากเดิม 4 ชม. …… ก็ผมอยากพานาอึนมาด้วยนิ 6*6 . . . . . . . ผมใช้นิ้วขยับเล่นพวงกุญแจที่ห้อยอยู่ที่กระเป๋าสตางค์ของนาอึนให้แกว่งไปมา นาอึนพิงหลังมาที่ตัวของผมมากขึ้น ตอนที่ทุกคนเดินออกไปหน้าโบสถ์ส่งคู่แต่งงานขึ้นรถ . . . . . ’ นาอึน~อา…. รู้ไหม Lapis Lazuli แปลว่าหินที่มีสีฟ้าเหมือนท้องฟ้า เป็นตัวแทนของความจงรักภักดี เกียรติแห่งชายชาติและความสัตย์จริง . . และยังมีอีกหนึ่งความหมายที่พี่ชอบมันมากที่สุดด้วย …. . . . . . . เพราะว่าเราใกล้กันมาก ผมก็เลยรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังประหม่าแบบที่ทำตัวไม่ถูก ยิ่งเวลาที่ผมพูดแล้วลมหายใจไปกระทบที่ข้างใบหูของเธอ สีแดงบนแก้มก็ยิ่งเข้มขึ้น มันทำให้ผมจงใจโน้มตัวลงไปให้ใกล้เธอมากกว่าเดิม….. . . . . . . . ’ An Eternal Vow ’ . . มันแทนคำสาบานชั่วนิรันด์ . . . . . . . . . . น้ำตาของนาอึนหยดลงบนมือของผม และผมยิ้มกว้างออกมา … . . . . . ผมไม่ได้ดีใจที่ทำให้เธอร้องไห้ได้หรอกนะ น้ำตามันมีหลายความหมาย ผมรู้ดีว่าน้ำตาของเธอตอนนี้แทนความสุขใจที่สุดเหมือนกับรอยยิ้มของผม . . . . . . . . . . . . . . ผมคือ ลี แทมิน คนที่ชอบเพลงและการเต้นเป็นชีวิตจิตใจ คนที่มีความฝันไม่เคยสิ้นสุด ผมคือศิลปินที่ได้รับความรักมากมาย เป็นผู้ชายที่โชคดี ที่ความรักและความฝันของผมดำรงอยู่ด้วยกันได้ . . . . นาอึนนี่ . . . ผู้หญิงขี้กลัว ที่ทำให้ผมเข้มแข็ง . . เธอให้โอกาสผมใช้หัวใจ ทำให้โลกของผมสว่างสดใส และผมตอบแทนด้วยการจับมือเธอเอาไว้ไม่มีวันปล่อย . . . ขอบคุณที่อดทนเรียนรู้กัน . . . ขอบคุณที่ทำให้ผมมั่นใจ ….ว่าตัวเองเกิดมาถูกที่แล้วจริงๆ . . . . . . ผมคือลี แทมิน ปีนี้ผมอายุ 24 . . . . . . …ผมมีความสุขดี และปีต่อๆไปก็จะเป็นแบบนี้เช่นกัน ^ ^ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . You are scared because you thought… ‘Your heart will disappear once you gave it to someone you love’ คุณหวาดกลัวเพราะคุณคิดว่า … ’ หัวใจของคุณจะหายไปทันทีที่คุณมอบมันให้ใครซักคนที่คุณรัก’ .
But the truth is it doesn’t แต่ในความจริง……มันไม่ได้เป็นแบบนั้น You end up with two…. your and his together And then they slowly blend into one ท้ายที่สุด คุณจะได้หัวใจทั้งสอง…. ทั้งของคุณและของเขาอยู่เคียงกัน จากนั้นพวกมันจะค่อยๆผสานเข้าหากัน . . . A stronger ..and more solid one แข็งแกร่งขึ้น จนสมบูรณ์เป็นหนึ่งเดียว . . . . . That’s what love is. และนั่น….. คือสิ่งที่รักเป็น . ( Total Captivated ) . . . . . . . . END . . . .
[ H.B.D The Taemin that I know ] . . . -ray-
6 notes
·
View notes
Text
[ ExoPink : SeYoung Couple ]
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
The Keeper
.
.
.
.
.
.
Pairings : SEHUN x HAYOUNG
.
.
.
.
.
.
BGM : How Did I Fall In Love With You
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมเกลียดฝน.......
.
ฝนทำให้สนามบาสกลางแจ้งเปียก
.
.
ผมเกลียดการเล่นบาสในโรงยิมปิดทึบ
.
โรงยิมที่มีแต่การแข่งขัน มีความทุ่มเทตั้งใจอัดแน่นอยู่เต็มไปหมด
.
.
ผมเกลียดความทุ่มเทตั้งใจพวกนั้น
.
เพราะว่ามันมีบางอย่าง ที่ถึงคุณจะทุ่มลงไปทั้งตัวและหัวใจ
.
.
.
.
... คุณก็จะไม่ได้อะไรกลับคืนมา
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
พยากรณ์อากาศบอกว่าหน้าฝนปีนี้จะยาวนานกว่าทุกปี และมันหมายความว่า จะมีวันที่ผมไม่ชอบมากขึ้น ถึงฝนจะไม่ตกหนักทุกวัน แต่สำหรับผม ละอองฝนที่ตกปรอยๆลงมาพวกนั้น ทำให้ทุกอย่างดูแย่ไปหมด
.
.
.
.
ผมไม่เคยเห็นข้อดีของฝน ไม่เคยเห็นตั้งแต่ของสำคัญทุกอย่างของผมถูกฝนทำให้หายไป
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
พี่เซฮุน วันนี้ก็จะไม่มาโรงยิมเหรอคะ? โค้ชอิมจองกำลังรอพี่อยู่นะคะ T^T
.
.
.
ผมเปิดข้อความดู และเก็บมือถือใส่กระเป๋าเสื้อโค้ททันทีที่อ่านจบ ผู้จัดการทีมบาสของมหาลัย คิมยุนอา คงจะเริ่มชินกับสถานการณ์แบบนี้แล้ว เราเรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยมปลายปี 1 เป็นโรงเรียนในเครือเดียวกับมหาวิทยาลัยที่ผมกำลังเรียนอยู่ตอนนี้ ผมเป็นนักกีฬาทีมบาสของโรงเรียนและเธอเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมตอนเทอม 2
.
.
ผมเลิกเล่นบาสตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย จนตอนนี้จะหมดเทอมสุดท้ายของปี 2แล้ว แต่โค้ชอิมจองก็ยังไม่เลิกเรียกตัวผมไปโรงยิม ผมรู้ว่าโค้ชเป็นครูหัวดื้อ คงเป็นเรื่องยากที่จะยอมแพ้ แต่ผมเองก็ไม่ใช่คนเปลี่ยนใจอะไรง่ายๆเหมือนกัน
.
.
.
ผมคือ โอ เซฮุน
.
ถ้าหากคุณเป็นผู้ชายและเพิ่งเคยเจอผมเป็นครั้งแรก คุณอาจจะคิดว่าโลกไม่ยุติธรรมสำหรับคุณ
.
.
ผมมีใบหน้าที่ดูดี รูปร่างสูง และช่วงขาที่ยาว ผมไม่ได้หลงตัวเองนะ เพราะผมไม่คิดว่ารูปลักษณ์ภายนอกพวกนี้มันเป็นข้อได้เปรียบกว่าคนอื่น ผมแค่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นก็เท่านั้น ผมเป็นคนดังในคณะ ทั้งที่ไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมของชั้นปีเท่าไหร่ ผมมีฉายาว่าเจ้าชายน้ำแข็งมาตั้งแต่มัธยม เพื่อนในกลุ่มบอกว่ารุ่นน้องเรียกผมแบบนั้นเวลามาดูการแข่งบาสของเรา ผมไม่ใช่คนประเภทใส่ใจคนรอบข้างนอกจากคนสำคัญในชีวิต และบางทีจินตนาการของเด็กผู้หญิงก็ไกลเกินกว่าผมจะไปถึง -*-
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ตอนนี้ทางเดินริมถนนเปียกเพราะฝนที่ตกลงมาตั้งแต่เช้า กว่าคลาสเรียนสุดท้ายจะจบลงก็เย็นมากแล้ว ผมออกจากมหาวิทยาลัยมาพร้อมๆกับฝนที่เริ่มซ่าลง ผมทำสอบย่อยท้ายคาบได้ไม่ดีนัก พอได้ยินเสียงฝนที่ตกลงกระทบร่มของผม มันเลยทำให้ผมยิ่งหงุดหงิด ก่อนกลับไปที่ห้องพัก ผมควรหาอะไรทำเพื่อปรับอารมณ์ตัวเอง
.
.
ผมคิดถึงชาชิมิโอโทโร่สดๆจากร้านดังที่ไม่ได้กินนานมากแล้ว เพราะคิวที่มักจะยาวเหยียดแถมราคาก็ค่อนข้างสูง แต่วันนี้ฝนตกลงมาทั้งวัน ลูกค้าคงไม่เยอะเท่าไหร่ เป็นโอกาสดีที่ผมจะกลับไปเยือน
.
.
.
ผมเปลี่ยนเส้นทางกลับบ้าน เดินตัดเข้าสวนสาธารณะที่ไม่ได้ใช้มานาน 2ปีแล้วที่ผมไม่เคยผ่านมาทางนี้ ผมเดินทะลุมาตรงทางเดินที่ติดริมฝั่งแม่น้ำ ตรงนี้ไม่มีใครนอกจากผม วันที่ฝนตกแบบนี้ทุกคนคงรีบกลับบ้านกันหมด ผมมองไปที่สุดทางเดินด้วยความเคยชิน มีคนประหลาดคนหนึ่งกำลังนั่งตากฝนอยู่ที่เก้าอี้ไม้ตัวยาวข้างทาง ที่ตรงนั้นเคยเป็นสถานที่ประจำ สำหรับนัดรวมตัวของสมาชิกทีมบาส มันดูเก่าลงไปเยอะจากครั้งสุดท้ายที่ผมเห็น ผมไม่ใช่คนที่ชอบนึกถึงวันคืนเก่าๆที่เคยมีหรอกนะ มันไม่มีประโยชน์ที่จะคิดถึง ความทรงจำดีๆบางอย่างไม่ได้ให้อะไร นอกจากจะคอยกัดกินความรู้สึกเราเท่านั้น
.
.
.
.
ร่มในมือเกือบจะปลิวตกไป ตอนที่เดินมาใกล้พอจะได้เห็นเสื้อโค้ทกันฝนตัวยาวสีกรมท่าแบบเดียวกับที่แขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้าของผม ฮู้ดเสื้อถูกใช้คลุมใบหน้าของคนๆนั้นจนมองแทบไม่ออกกว่าเป็นใคร แต่คงไม่ใช่สำหรับผม ผมคิดว่าวันนี้ผมตัดสินใจผิด ทุกอย่างอาจจะดีกว่านี้ ถ้าผมเลือกจะตรงกลับหอพักเหมือนอย่างเคย
.
.
ผมจำเธอได้ทันที ใบหน้าที่วนเวียนอยู่ในความคิดมาตลอด 2 ปี ผมอยากทำเป็นมองไม่เห็น ผมอยากเดินผ่านไปให้เร็วเหมือนมันไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจ แต่ขาของผมหนักราวกับโดนถ่วงด้วยก้อนหินหนักเป็นตัน ใจของผมสั่น ลมหายใจของผมปั่นป่วน และสิ่งที่แย่ที่สุดก็คือ ........ ผมลืมเหตุผลที่ผมเกลียดฝนไปซะสนิท
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Once I see you... I’ll still love you unconditionally
แค่เห็นคุณอีกเพียงครั้ง ...ผมก็รู้ว่ายังรักคุณโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมเปิดประตูห้องพักด้วยความยากลำบากเพราะสองมือถูกใช้อุ้มใครอีกคนเอาไว้ ตัวของผมเปียกฝนจนชุ่ม แต่ยังดีที่คนที่สลบไปเพราะพิษไข้ยังไม่เปียกเท่าไหร่
.
.
.
.
.
ผมวางเธอลงที่เตียงช้าๆ ถอดเสื้อโค้ทออก ห่มผ้าให้เธอ หยิบรีโมทมากดเร่งฮีทเตอร์และเดินออกจากห้องนอนมาที่ครัว เสียบปลั๊กต้มน้ำ หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กและยาลดไข้บนชั้นด้านบนออกมา เธอแพ้แอสไพรินและไม่ชอบกินยาเม็ดใหญ่ ผมทำทุกอย่างตามที่สมองสั่งด้วยความเร่งรีบ
.
.
.
.
ผมหยุดยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ครัว น้ำฝนจากเสื้อผ้าที่ผมสวมอยู่หยดไหลลงพื้นเป็นทางยาว ของทุกอย่างถูกเตรียมไว้ครบแล้ว เหลือแค่รอให้น้ำทีต้มเดือด ผมมองไปที่ประตูห้องนอนสีดำที่ถูกปิดสนิท ลมหายใจของผมกลับมาเป็นปกติ และสมองเริ่มประมวลผลทุกอย่างตามเดิม
.
.
.
.
โอ ฮา ยอง กำลังนอนหลับอยู่ที่เตียงของผม ผมคิดถึงเหตุผลที่เธอกลับมา เหตุผลที่เธอนั่งตากฝนอยู่บนม้านั่งตัวนั้น ว่ากันตามจริง เรื่องบ้าๆแบบนี้ไม่ควรมีเหตุผล แต่ผมพอจะเดาได้ว่าเธอทำแบบนั้นทำไม
.
.
.
......คนราทุกคนจะมีข้อยกเว้นเสมอ
.
.
.
.
สำหรับผม.... โอ ฮายอง คือข้อยกเว้น
.
.
.
.
.
และสำหรับเธอ ผู้ชายคนนั้น คือข้อยกเว้นเช่นกัน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมตื่นขึ้นเพราะเสียงขยับตัวจากคนข้างๆ ผมคงเผลอหลับไป หลังจากเช็ดตัวและป้อนยาให้เธอ ผมนั่งอยู่ที่โซฟาข้างเตียง ตัวของผมปวดไปหมดเพราะท่านั่งที่ไม่สบายตัว ผมเงยหน้าขึ้นเพื่อสบตากับดวงตาคู่สวยที่มองมาที่ผมอยู่ก่อนแล้ว เธอยิ้มให้ผม และขยับตัวกอดผ้านวมผืนหนาเอาไว้
.
.
.
.
หิวแล้วคะ
.
.
.
.
.
นั่นคือประโยคแรกในรอบหลายปีที่ผมได้ยินจากเธอ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
โจ๊กสำเร็จรูปที่แค่เปิดฝาเติมน้ำ รอ3นาทีก็กินได้ ถูกยกมาวางไว้ให้คนป่วย ฮายองอมยิ้มทันทีที่เห็น เธอรู้จักผมดีพอๆกับที่ผมรู้จักเธอ เพราะฉะนั้นข้างๆถ้วยโจ๊กสำเร็จรูป ถึงมีชาดาร์จีลิงร้อนวางอยู่ และฮายองเลือกจะหยิบมันมาจิบเป็นอย่างแรก
.
.
.
ผมไม่ได้อยู่รอให้เธอกินอาหารพวกนั้นจนหมด ผมยังอึดอัดกับบรรยากาศตอนนี้ เลยตัดสินใจเดินออกมา ผมมีเส้นแบ่งระหว่างเราและผมยังต้องการระยะห่างนี้อยู่ ก่อนจะพ้นประตูห้องออกมา ผมก็ยังได้ยินเสียงขอบคุณของเธอ
.
.
.
.
.
.
.
.
ครั้งนี้เสียงฝนที่ตกกระทบหลังคาระเบียงอย่างหนักเป็นสิ่งที่ทำให้ผมสะดุ้งตื่น นาฬิกาบอกเวลาตีสองสิบห้านาที โชคดีที่พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ และผมไม่มีคลาสเรียนพิเศษ.
.
.
.
.
เมื่อตอนค่ำ หลังจากกินอาหารเย็นง่ายๆ อาบน้ำและจัดการตัวเองเรียบร้อย ผมเดินไปที่ห้องนอนเช็คคนป่วยอีกครั้ง เธอหลับสนิทเพราะฤทธิ์ยา ผมถึงเริ่มทำกิจวัตรประจำวัน ทำความสะอาดห้อง เช็ดพื้นที่เปียกและจัดข้าวของให้เข้าที่ ให้อาหารปลา เอาผ้าเปียกเข้าเครื่องซัก ผมเอนตัวลงนอนที่โซฟาตัวโปรดเมื่อทำทุกอย่างเสร็จ เสียบหูฟังและเปิดเสียงบรรยายบทเรียนของอาจารย์ในวันนี้ ยานอนหลับชั้นดีที่ได้ผลทุกครั้ง ผมคิดว่าคงหลับไปตั้งแต่ 30 นาทีแรกที่ฟังเพราะวันนี้ผมใช้พลังงานไปเยอะกว่าปกติ
.
.
.
.
เสียงของตกดังออกมาจากห้องนอน ผมรีบลุกจากโซฟาไปดู พอเปิดประตูก็เจอคนป่วยที่ตอนนี้สวมเสื้อผ้าของผมอยู่กำลังก้มเก็บกรอบรูปที่หล่นอยู่บนพื้นข้างเตียงขึ้นมา
.
.
เธอตกใจนิดหน่อย ก่อนจะส่งยิ้มมาให้ผมแบบเด็กที่กลัวความผิด ผมยืนพิงประตูไว้ กอดอกมอง���ปที่เธอนิ่งๆ ผมรู้จักโอ ฮายอง และประโยคที่เธอจะพูดต่อไปก็คือ
.
.
.
ขอโทษคะ...... ฉันจะหากรอบรูปอันใหม่มาใช้คืนให้นะคะ
.
.
.
.
.
.
.
เธอพยายามเก็บเศษกระจกที่แตก ทั้งที่ในห้องมีแค่โคมไฟหัวเตียงที่เปิดอยู่ ผมทนมองอยู่ได้ไม่นานก็ต้องเดินมาหา
.
.
.
ปล่อยมันไว้แบบนั้นแหละ พรุ่งนี้พี่จะเก็บมันเอง
.
.
.
.
ผมคว้ากรอบรูปที่อยู่ในมือเธอมาถือไว้ ผมไม่เคยวางกรอบรูปบนโต๊ะข้างเตียง ของชิ้นนี้ถูกเก็บไว้ที่ตู้เซฟเล็กๆ ในลิ้นชักล่างสุด มันใช้รหัสสี่ตัวในการเปิด และผมรู้ว่ามันคงไม่เกินความสามารถของโอ ฮายอง ผู้หญิงที่รู้จักผมดียิ่งกว่าใคร
.
.
.
โอ ฮายองกลับไปนั่งที่เตียง กอดหมอนหนุนเอาไว้ มองดูผมที่กำลังเก็บกรอบรูปเข้าที่เดิม
.
.
.
ผมกลัวว่าเธอจะเผลอเดินเหยียบเศษกระจก เลยเข้าไปหยิบผ้าเช็ดตัว2-3ผืนในห้องอาบน้ำที่อยู่ในห้องนอนออกมาวางปูทับพื้นที่มีเศษกระจกแตกกระจายอยู่ เธอก้มหัวลงซุกกับหมอนที่กอดเอาไว้จนแน่น ผมรู้ว่าเธอกำลังเสียใจ
.
.
.
.
.
.
ขอโทษนะคะ ฉันทำลายของสำคัญของพี่อีกแล้ว
.
.
.
.
.
.
.
ผมหยุดการกระทำทั้งหมดและมองไปที่โอ ฮายอง
.
.
.
.
.
.
ตัวของเธอสั่นเพราะแรงสะอื้น ผมรู้ว่าเธอเห็นรูปนั้น รูปที่อยู่ในกรอบที่เธอทำแตก รูปที่มีแต่ความทรงจำดีๆอัดแน่นอยู่เต็มไปหมด
.
.
รูปของเราสามคน
.
.
.
.
.
.
.
.
โอ ฮายองยังเหมือนเดิม เธอดูตัวเล็กลงทุกครั้งที่ทำอะไรผิด เธอเข้มแข็งกับเรื่องที่ควรอ่อนแอ และขี้แยเป็นเด็กๆกับเรื่องที่มีผลต่อหัวใจของคนสำคัญ
.
.
.
.
.
.
.
ผมไม่ควรดีใจที่ยังได้เป็นคนสำคัญของเธอ ผมไม่ควรเจ็บปวดตอนที่เห็นเธอร้องไห้ ผมไม่ควรเดินข้ามเส้นที่ขีดเอาไว้ และผมไม่ควรโผเข้ากอดเธอแบบในตอนนี้
.
.
.
.
.
.
.
เสียงสะอื้นของเธอดังขึ้น เธอกอดตัวผมไว้แน่นเหมือนกลัวว่าผมจะหายไป เสื้อของผมกำลังเปียกไปด้วยน้ำตาของเธอ ผมจำกลิ่นแชมพูที่เธอใช้ได้ และผมยังไม่ลืมว่า ...อ้อมกอดของโอ ฮายองอบอุ่นแค่ไหน
.
.
.
.
ผมกระชับตัวเธอเข้ามากอดให้แน่นขึ้นกว่าเดิม
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมไม่เคยรู้ตัวเลย ว่าผมคิดถึงเธอมากขนาดนี้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
................LOADING 50 % ..................
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
PS.
Keeper : ผู้ที่ได้สิทธิ์ดูแล / ผู้ปกป้องคุ้มครอง
และเป็นคำแสลง หมายถึง คนที่ใช่ ..คนที่คุณควรจะเก็บรักษาไว้ให้ดี
.
0 notes
Photo



#SMSว่าด้วยความสัมพันธ์ของกลางวันกับกลางคืน
ความรักมีหลายแบบ
สำหรับคนเหล่านี้ ....
คือรัก........
.
.
.
........แบบที่ตายไปพร้อมกันได้ก็คงดี ^______________^
2 notes
·
View notes
Text
[One Shot] Because to me, you are irreplaceable
.
.
.
.
.
.
ONE SHOT
.
.
.
[ Because to me, you are irreplaceable ]
.
.
.
.
Taemin x Naeun
.
.
.
.
.
BGM : Bumkey & Rhythmking - Love Song
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ครั้งแรกที่ได้ยินเสียงเพลง
.
.
.
ครั้งแรกที่เริ่มขยับตัวตามจังหวะ
.
.
.
.
ผมรู้ได้ทันทีว่าตัวเองชอบอะไร
.
.
.
.
มันคือความโชคดีที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน ผมชอบเสียงเพลง ผมชอบเต้น ผมชอบอารมณ์ความรู้สึก รวมถึงเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านท่วงทำนอง
.
.
.
.
.
.
ผมชอบความเป็นศิลปิน ผมโปรดปรานงานที่ทำ ความพยายามและการฝึกฝนนับพันนับหมื่นชั่วโมง ทำให้ผมสามารถทำในสิ่งที่ผมชอบได้ดีกว่าเดิม มันกลายมาเป็นความฝัน ที่ผมคิดว่าถ้าเดินต่อไปเรื่อยๆ ฝันก็จะสุดทาง และชีวิตของผมก็จะถูกเติมเต็ม
.
.
.
.
แต่ทุกอย่างมันผิดไปหมด คุณรู้ใช่ไหมว่าการใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้มันยากแค่ไหน เราเกิดมาท่ามกลางกิเลสตัณหา ความละโมบ ความเห็นแก่ตัว และการไขว่คว้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อฝันของผมไปถึงจุดหนึ่ง ผมกลับมีฝันที่ใหญ่ยิ่งกว่า มีเส้นทางที่ยังทอดยาวออกไปเรื่อยๆ และคุณจะไม่มีวันรู้ ว่าความพึงพอใจในชีวิตของคุณสิ้นสุดที่ตรงไหน หากไม่ลองเดินออกไปค้นหา
.
.
.
.
.
8 ปีแล้วที่ผมเดินตามความฝันกับเส้นทางที่ยาวออกไปจนไร้จุดหมาย และปีที่ผมอายุ 21 พระเจ้าทรงประทานพรให้แก่ความพยายามเหล่านั้น
.
.
.
.
.
.
.
ฝ่ามือขนาด 16.2 เซนติเมตร กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้ว่า ชีวิตที่ถูกเติมเต็มเป็นอย่างไร
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ในปีหนึ่งผมเป็นไอดอลแทมินเกือบ 340 วัน จะกลับมาเป็นแทมิน ลูกชายคนที่สองของตระกูลลี เด็กหนุ่มข้างบ้านคนธรรมดา รวมกันแล้วไม่ถึง 2 อาทิตย์ ผมทำงานหนักมาก ตารางงานแน่นซะจนบางครั้งผมหายใจไม่ออก
.
.
.
ช่วงที่ผมทำงานหนักที่สุด คงจะเป็นการออกอัลบั้มเดี่ยว เพราะว่าผมโตขึ้น มีประสบการณ์ในการทำงานมากขึ้น ผมถึงอยากมีส่วนร่วมกับทุกอย่างในอัลบั้มไปทั้งหมด ผมใช้ชีวิตในห้องซ้อมแทนห้อ��นอนที่บ้าน ผมคุยกับคนแปลกหน้ามากกว่าเพื่อนและครอบครัวหรือคนที่ผมรัก ช่วงที่ผมเหนื่อยจนถึงขีดสุด ผมทำให้ฮยองที่ดูแลผมหัวหมุนด้วยการนอนนิ่งๆ ไม่ขยับทำอะไรไปครึ่งวัน แต่เพราะว่าฮยองดูแลผมมานาน ก็เลยรู้วิธีจัดการกับผม
.
.
.
ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน ผมก็มีความสุข ผมสนุกกับสิ่งที่ผมทำอยู่เสมอ และเพราะว่าผมมีความโชคดีอีกอย่าง ความโชคดีที่ผม เรียกมันว่าแรงบันดาลใจ เป็นสิ่งยึดเหนี่ยว เป็นสิ่งผลักดัน เป็นทุกๆอย่างที่ผมต้องการในยามเหนื่อยล้า … เป็นเสียงใสๆกับแก้มกลมๆ เป็นมือที่แสนอบอุ่น เป็นดวงตาคู่สวยที่มองแค่ผมเพียงคนเดียว
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมหยุดโปรโมทอัลบั้มเดี่ยวที่สองไปแล้วกว่าสัปดาห์ ผมหยุดพักหายใจ 1 วันครึ่ง และเริ่มกิจกรรมกลุ่มต่อ เรามีทัวร์คอนเสิร์ตที่เหลืออยู่ในครึ่งปีแรกอีก 6 หรือ 7 หรือ… 10 …หรือ …..ช่างเถอะ .. อย่าไปสนใจมันดีกว่า เอาเป็นว่า ผมเดินทางบ่อยจนแทบจะสนิทกับเจ้าหน้าที่ในสนามบินทุกคนแล้ว
.
.
.
.
.
.
.
มินโฮฮยองบอกว่าช่วงนี้ผมเริ่มงอแง เอาแต่ใจและขี้หงุดหงิด ผมไม่เถียงหรอก เพราะว่าการเป็นมักเน่คือสิ่งที่ผมจะโดนอ้างถึงเวลาที่โดนฮยองรุมแกล้ง ผมถึงต้องเอาคืนบ้าง และยิ่งตอนนี้ผมมีจุดอ่อน เป็นจุดอ่อนที่ทุกคนรู้ คำ 2 คำที่ส่งผลให้ผมมักตกเป็นรอง ………… นาอึน - -*
.
.
.
.
.
.
เรากำลังเริ่มทัวร์แถบอเมริกาและยุโรป นั้นหมายความว่า ตารางงานที่แสนยุ่งนั้น จะยุ่งยิ่งขึ้นอีกหลายเท่าตัว ทุกคนเหนื่อย ผมรู้ แต่ไม่เคยมีใครอยากจะเลิก เพราะว่ามันคือความสุข จงฮยอนฮยองเคยบอกผมว่า ไม่ใช่ทุกคนที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักแบบเดียวกับพวกเรา เพราะฉะนั้นจงภูมิใจเอาไว้เสมอและทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ด้วยความทุ่มเทตั้งใจ มันคือการตอบแทนความรักของทุกคน คือการเคารพความฝันของเรา
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมไม่ได้ยินเสียงของนาอึนอีกเลยตั้งแต่วันเกิดของเธอที่ผ่านมา มีแค่ข้อความที่เราส่งหากัน กับของที่ฝากผู้จัดการมาให้ นาอึนชอบของกิน เวลาผมเห็นขนมแปลกๆหรือดูน่าอร่อยจะซื้อมาฝากเธอทุกครั้ง แถมผมยังถือสิทธิ์ในการซื้อที่มัดผมให้เธอเอาไว้แค่คนเดียว ห้ามใช้ของๆคนอื่นเด็ดขาด! นาอึนชอบฝากพวกของบำรุงกับจดหมายกลับมา เป็นผมอีกนั้นแหละ ที่บอกว่ากระดาษที่มีลายมือของเธออยู่เต็มไปหมด มันทำให้ผมมีกำลังใจมากกกกกกกกแค่ไหน >O<
.
.
.
.
.
.
.
แต่พรุ่งนี้แล้วล่ะ ผมจะมีเดทแรกในรอบ 198 วันของความห่างไกล เราจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน!! ….. ตลกดีนะ พอได้มาเจอกับตัวเองถึงเพิ่งรู้ว่าความรู้สึกห่าง มันไม่ได้วัดกันที่ระยะทางจริงๆ ครั้งหนึ่งผมกับนาอึนเคยยืนอยู่ใกล้กันแค่ช่วงแขน แค่ผมเอื้อมมือไปก็ถึง แต่ผมก็ทำไม่ได้ และมันทำให้ผมรู้ว่า นั้นคือระยะห่างที่ทรมานที่สุด
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เมื่อวานนาอึนโทรมาหาผมเกือบตีสอง สำหรับเธอถือเป็นเวลาที่แปลก และยิ่งฟังเสียงของเธอพูดไม่กี่ประโยค ผมก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ผมกดตัดสายตอนที่นาอึนพูดค้างอยู่ และคอลเฟสไทม์กลับไปหาแทน เธอนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนที่บ้าน มีผ้าห่มผืนหนาปิดไปจนครึ่งหน้า ตาเธอแดงก่ำ แก้มเธอก็ด้วย ถามหาสาเหตุก็เจอกับเรื่องน่าเศร้า เพื่อนของนาอึนตอนมัธยมเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นเหตุร้ายจากอาชญากรรมที่เธอไม่รู้รายละเอียดมากนัก ผู้หญิงคนนั้นอายุเท่ากับนาอึน
.
.
.
.
.
พิธีศพจะจัดขึ้นพรุ่งนี้ และเธออยากไปเคารพศพด้วย นาอึนบอกว่า เธอต้องร้องไห้วันนี้ให้เยอะที่สุด เพราะว่าวันพรุ่งนี้เธอไม่อยากร้องไห้ให้ใครเห็น นาอึนดูตกใจมาก ตอนที่ผมบอกว่าผมจะไปเป็นเพื่อนเธอ ผมยืนยันว่าการใช้เวลาในวันหยุดอยู่กับเธอ คือการพักผ่อนที่ผมต้องการเสมอ
.
.
.
.
.
.
“ พรุ่งนี้พี่จะขับรถไปรับตอน 11 โมงนะครับ จะเอาครัวซองต์ที่แม่ของพี่ทำไปฝากด้วย ดูท่าว่านาอึนนี่จะไม่ยอมกินอะไรแน่ๆ นอกจากกาแฟที่เธอติดมันงอมแงม ใช่ไหมล่ะ ^ ^ “
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

.
.
.
Because to me, you are irreplaceable
เพราะสำหรับผมแล้ว…..เธอคือคนที่ไม่มีใครมาแทนที่ได้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เรามาถึงที่โบสถ์ก่อนพิธีจะเริ่มนิดหน่อย ที่นั่งหลังสุดยังว่าง ผมและนาอึนเดินแยกไปนั่งคนละฝั่ง คนที่มาร่วมงานมีไม่ถึง 50 คน เหมือนเป็นงานเล็กๆที่มีแค่ญาติและเพื่อนสนิท น้องสาวของผู้ตายเป็นคนกล่าวคำไว้อาลัย มันฟังดูเศร้าจับใจ จนผมอดมองไปที่ที่นั่งของนาอึนไม่ได้ ตัวของเธอสั่นหน่อยๆ นาอึนก้มหน้า หมวกปีกกว้างของเธอใช้ซ่อนน้ำตาได้อย่างดี
.
.
.
.
.
.
.
พอถึงตอนที่ต้องจุดเทียน ผมรอให้เธอลุกขึ้นไปต่อแถวและเดินตามเป็นคนสุดท้าย ผมจับมือนาอึนที่ยืนอยู่ข้างหน้าไว้หลวมๆ ลูบนิ้วมือของเธอที่เย็นเฉียบเบาๆ
.
.
.
.
.
.
หญิงวัยกลางคน เป็นคนจุดเทียนให้ ผมคิดว่าเธอน่าจะเป็นแม่ของผู้ตาย เธอส่งยิ้มให้นาอึนที่กำลังกั้นน้ำตาอยู่ นาอึนส่งยิ้มตอบด้วยหน้าตาเหยเก ยัยเด็กขี้แงคนนั้นยังเป็นคนเดิมไม่มีเปลี่ยน
.
.
.
.
นาอึนเดินถือเทียนไปหยุดยืนที่หน้าโลงศพ ก้มหน้าลง สูดลมหายใจลึก เธอใช้เวลามากกว่าคนอื่น เพราะตอนนี้เหลือเพียงผมแค่คนเดียว ผมไม่รู้ว่าเธอพูดกับเพื่อนของเธอว่าอะไร แต่ตอนที่เธอดับเทียนและหันกลับมามองที่ผม ผมไม่เห็นน้ำตาของเธออีกแล้ว
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมเดินตามนาอึนออกมาที่สวนด้านหลัง เธอนั่งอยู่บนชิงช้าไม้ ใช้สองขาดันให้มันแกว่งไปเบาๆ สายตาของเธอมองไปที่พุ่มดอกยิปโซสีขาวและฟ้า ผมทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ไม้ด้านข้าง วันนี้อากาศดี ไม่มีเมฆฝนสีขมุกขมัวอย่างที่นาอึนเกลียดโผล่มาให้เห็นเลย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เรานั่งกันอยู่ซักพัก ผมถึงเริ่มบทสนทนาทำลายความเงียบ
.
.
.
.
.
.
.
“ พอเราโตขึ้นเรื่อยๆ เราก็เริ่มเห็นว่าชีวิตที่เราคิดว่ามันคงยาวนานเพียงพอ จริงๆแล้วมันสั้นแค่ไหน คนบางคนอาจไม่มีโอกาสตอบแทนดูแลคนที่ตัวเองรักด้วยซ้ำ พี่คิดว่าอะไรที่อยากได้ สิ่งที่อยากทำ คงต้องรีบกลับไปทำให้มันเป็นจริงแล้วล่ะ”
.
.
.
.
.
.
“ ถ้าทุกคนเป็นอมตะ ก็คงไม่ดีเหมือนกันใช่ไหมละคะ โลกที่ไม่รู้จักการสูญเสีย คงจะวุ่นวายยิ่งไปกว่านี้อีกหลายเท่าแน่ๆ “
.
.
.
.
.
.
เสียงของนาอึนยังฟังดูสั่น และเธอยังไม่หันมาสบตาผม
.
.
.
.
.
.
.
.
“ ถ้าสมมุติว่าพี่มีพลังอมตะเหมือนกับเอ็ดเวิร์ด ในเรื่องทไวไลท์ ล่ะ เธอจะตัดสินใจเหมือนกับเบลล่า นางเอกของเรื่องไหม ? ยอมทิ้งความเป็นมนุษย์เพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน “
.
.
.
.
.
นาอึนมองมาที่ผมด้วยสองตาที่ยังคงมีน้ำคลออยู่ เธอเพียงแค่มองมา โดยไม่พูดอะไร
.
.
.
.
.
“ แต่ถ้าพี่เป็นเอ็ดเวิร์ดจริงๆ พี่จะไม่มีวันยอมให้เธอกลายเป็นอมตะเด็ดขาด แม้ว่าพี่จะต้องเสียใจแค่ไหนก็ตาม พี่ก็อยากให้คนที่พี่รักมีความสุขที่สุด พี่อยากให้เธอสวยงามและร่วงโรยไปตามวิถีแห่งชีวิตที่พระผู้เป็นเจ้ามอบให้”
.
.
.
.
.
.
นาอึนลุกจากชิงช้าและเดินมานั่งที่ว่างตรงข้างผม เธอสอดแขนเข้ามาที่แขนของผม กระชับตัวเราให้ชิดกัน และส่งยิ้มบาง
.
.
.
.
.
.
“ พี่แทมินรู้อะไรไหมคะ ฉันคิดว่าเบลล่าเองก็คงรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดต้องคิดแบบนั้นแน่ๆ เพราะว่าเอ็ดเวิร์ดรู้ดีว่าความทรมานแห่งชีวิตอมตะมันโหดร้ายทารุณแค่ไหน ความโดดเดี่ยวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แย่ยิ่งกว่าความเจ็บป่วยใด เขาคงไม่ยอมให้คนที่เขารักต้องมาเจออะไรแบบนั้นแน่ๆ”
.
.
.
.
.
นาอึนเอนตัวมาซบไหล่ของผม เธอหลับตาลงฟังเสียงหัวใจของผมที่กำลังเต้นระรัว
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ แต่เธอจะจากไปอย่างมีความสุขได้อย่างไรกันคะ ถ้าต้องทิ้งคนที่ตัวเองรักให้ทุกข์ทรมานเพียงลำพัง ……..
…..เพราะฉะนั้น ถ้าต้องเลือกระหว่างการมีชีวิตอยู่อย่างมนุษย์ธรรมดา สวยงาม ดับไป และต้องทิ้งสัมผัสอบอุ่นแบบที่ฉันได้รับตอนนี้ กับใช้ชีวิตอย่างทนทุกข์ทรมานจากความอมตะไปด้วยกันและยังได้ซบไหล่กว้างๆของพี่แบบนี้ต่อไป พี่รู้แล้วใช่ไหมคะ ว่าฉันจะเลือกแบบไหน ^ ^ ”
.
.
.
.
.
.
อาาาา … เพราะแบบนี้ไง ผมถึงได้ตกหลุมรักเธอซ้ำแล้วซ้ำอีก….
.
.
……. ซน นาอึน ………..
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมดึงแขนข้างที่เธอกอดเอาไว้ออกเบาๆและเปลี่ยนมาโอบเธอไว้แทน ใช้มือข้างที่เหลือกุมมือเธอไว้จนแน่น มือของนาอึนเย็นกว่ามือของผมเสมอ และมันทำให้เวลาที่เรากุมมือกัน มือของเราจะอุ่นพอดี มือของนาอึนเหมือนกับบ้าน มันให้ความปลอดภัย ความสบายใจ และความเป็นเจ้าของ มันคือที่อยู่ของหัวใจ และผมยินดีที่จะฝากมันไว้ให้เธอดูแลไปอีกแสนนาน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
It’s wonderful to be busy …?
การที่มีเรื่องให้ทำมากมายจนไม่มีเวลาพัก คือความอัศจรรย์
It’s the proof of how fulfilling our lives are
มันคือหลักฐานว่าเราเติมเต็มชีวิตของตัวเองกันอย่างไร
And yet, loneliness and hardships still find their way into our lives…….
และถึงแม้ ….ความโดดเดี่ยวและความยากลำบาก ยังคงหาทางเข้ามาในชีวิตของเราจนได้
.
.
.
However, I can’t be with anyone but you
แต่ถึงอย่างไร ……ผมก็ไม่สามารถอยู่กับใครได้อีก นอกจากคุณ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
END
4 notes
·
View notes
Text
SUN x MOON x SKY : Chapter I
.
.
.
.
.
.
.
.
[SF]
.
.
Title : SUN x MOON x SKY
.
.
Pairings : Taemin x Naeun
.
.
.
Chapter I : Our orbit
.
.
.
.
.
#SMSว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์ของกลางวันกับกลางคืน
.
.
.
.
.
.
.
.

.
BGM : Keira Knightley | A Step You Can’t Take Back
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
คริสต์มาสเมื่อปีที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันอธิษฐานขอของขวัญจากคุณซานต้า ว่ากันว่าถ้าเราเป็นเด็กดี เราจะสมปรารถนา …..
.
.
.
ผ่านเข้าสู่ต้นเดือนพฤษภาคม ของขวัญที่ขอไว้ มาช้าจนฉันเกือบจะลืม
.
.
.
.
ฉันยังจำครั้งแรกที่ได้พบมัน วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม สามทุ่มกับสี่สิบสี่นาที จำได้แม้กระทั่งเสียงของแก้วจินโทนิคที่กระทบเคาน์เตอร์บาร์ จังหวะหัวใจที่เต้นแปลกไป ราวกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า ….มันแปลกนะ เพราะของที่ฉันขอคุณซานต้าเอาไว้ จริงๆแล้วควรจะได้เจอในตอนที่ฟ้าสว่างสดใส แต่ฉันกลับพบมันในเวลากลางคืนแบบนี้.
.
.
ตอนที่ได้เห็น พระอาทิตย์ยามค่ำ มันสวยซะจนล่อลวงให้สำนึกรู้คิดขาดหาย ท่ามกลางความมืดมิดรอบตัว กลับส่องประกายเจิดจ้าจนทำให้ตาพร่ามัว คล้ายดั่งคลื่นใต้น้ำที่ถาโถมเข้ามาไม่ทันได้รู้ตัว พัดเอาลมหายใจให้ดำดิ่งลงไปจนปอดเกือบขาดอากาศ และเมื่อตั้งสติได้ตะเกียกตะกายตนขึ้นมา กลับตะหนักรู้ว่าความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้น
.
.
.
.
คำอธิษฐานที่อยากลองใช้หัวใจให้คุ้มกลายเป็นความจริง
.
.
ดวงตาของฉันไม่เคยหันมองสิ่งใดอีกเลยนับจากวันที่ได้เจอพระอาทิตย์ยามค่ำดวงนี้
.
.
.
….. ฉันกลายเป็นดอกทานตะวันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ….
.
.
.
.
.
><><><><><><><><><><><><
.
.
.
.
.
What number am I to you?
ฉันคือลำดับที่เท่าไหร่สำหรับคุณคะ?
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
‘อ๊ะ……..อื้ออ …….อ๊ะ ‘
.
.
เสียงหวานดังระงมมาจากห้องเก็บของในอาคารจอดรถด้านหลังของของตึกศิลปกรรมศาสตร์ เป็นผลจากบทรักของนักศึกษาสาวสวยกับเดือนคณะ
.
.
.
.
.
‘ ปังๆๆๆ…. ‘
.
.
“ อีกห้านาที มึงไม่ออกมา กูทิ้ง!! ”
.
.
.
เสียงของคนที่รอด้านนอก ทำเอากิจกรรมที่กำลังดำเนินอยู่สะดุดกลางคัน แต่ถึงอย่างนั้นคนทั้งคู่ก็พากันถึงฝั่งฝันได้ในทันเวลาที่กำหนด
.
.
.
ร่างบางสวมกอดชายหนุ่มที่กำลังสวมเสื้อผ้าให้เข้าที่ ซุกหน้าเข้ากับแผ่นหลังกว้าง ใช้เสียงหวานออดอ้อนอีกฝ่ายอย่างที่เคยทำมา
.
.
“ น่าน้อยใจจังเลย พี่แทมินดูรีบร้อนจัง……..ให้เวลากับโฮยอนบ้างซิค่ะ ”
.
.
.
.
เดือนคณะยืดตัวขึ้นเต็มความสูงปรับเข็มขัดให้เข้าที่ หยิบหนังสือเรียนที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาปัดฝุ่นออก ก่อนจะหันกลับมากอดเอวบางที่กระโปรงนักศึกษายังเลิกขึ้นเห็นต้นขาสวยแถมด้านบนมีเพียงชุดชั้นในตัวเดียวปกปิดผิวขาว เขามองตาเธอและส่งยิ้มหวานให้
.
.
.
.
“ พี่ไม่ชอบใช้ของซ้ำๆนะครับ คราวนี้คงจอกันครั้งสุดท้ายแล้วล่ะ ขอโทษด้วยนะ “
.
.
.
.
.
.
.
เป็นฝ่ายเดือนคณะที่ต้องรีบวิ่งหนีเสียงกรี๊ดดังลั่นของนักศึกษารุ่นน้องออกมา ติดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ถูกปลดออกด้วยมือของฝ่ายหญิงให้เรียบร้อย เสยผมชุ่มเหงื่อลวกๆแล้วเดินไปหาเพื่อนสนิทที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว
.
.
.
.
.
“ มึงนี้หื่นแต่เช้าเลยนะ ไอ้สัส โทรหาก็เสือกไม่รับ คิดว่ากูอยากมาฟังพวกมึงเย กันไหม”
.
.
.
.
“ เออๆ โทดที กูปิดเสียงไว้ว่ะ “
.
.
.
.
.
น้ำเสียงที่ใช้ไม่ได้รุ้สึกผิดเหมือนคำพูด แทมินหยิบมือถือในกระเป๋าหลังกางเกงยีนส์ออกมาเพื่อเปิดเสียงตามเดิม
.
.
.
“ อ่อ… แล้วคุณเซฮุนเข้าใจผิดนะครับ กูเป็นฝ่ายโดนลากเข้าไปบ้างเหอะ นี้ก็แค่ส่งท้ายให้น้องโฮยอนคนน่ารักนิดหน่อยเอง “
.
.
.
.
“ ถุย!! หล่อเนอะ ไอ้สัส… …กูอยากให้ดาวคณะบัญชีปี2 มาเห็นความเชี่ยของมึงจะๆตาซะจริง”
.
.
.
.
คนตัวสูงชะงักไปเล็กน้อยกับประโยคต่อปากต่อคำของเพื่อน เหล่ตาไปมองรอยยิ้มยียวนของมัน ก่อนจะหันกลับมาดูรายชื่อที่แจ้งว่าเป็น missed call หนึ่งในนั้นคือคนที่เพื่อนของเขาเพิ่งพูดถึง
.
.
.
.
.
‘ Naeun‘
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
..
.
.
.
Because I could watch you for a single minute
And find a thousand things that I love about you
เพียงมองคุณแค่นาทีเดียว ฉันก็หาเหตุผลเป็นพันที่ฉันรักในตัวคุณได้
.
.
.
.
.
.
.
.
แทมินเปิดเข้าโปรแกรมแชทยอดฮิตเพื่อกดส่งข้อความไปหาคนที่อยู่ในหัวข้อสนทนา
.
.
T_to_the_M: อยู่อาคารจอดรถ มีอะไรหรือเปล่า
.
.
.
ข้อความที่ส่งไปขึ้นว่าปลายทางอ่านมันเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่มีข้อความตอบกลับ เซฮุนชวนเขาเดินไปทางมินิมาร์ทข้างตึกเพื่อหาอะไรรองท้องก่อนเข้าเรียน เสียงทักทายจากรุ่นน้องรุ่นพี่มีมาตลอดทาง จนกระทั่งเดินมาถึงหน้าคณะ คนแรกที่เข้ามาอยู่ในกรอบสายตาคือคนที่เขากำลังรอข้อความอยู่
.
.
.
.
.
สำหรับเอกนาฏศิลป์สากล ที่ขึ้นชื่อว่านักศึกษาส่วนใหญ่มีสไตล์การแต่งตัวเป็นตัวของตัวเองไม่แพ้คณะไหน ภาพสองสาวในชุดนักศึกษาแบบถูกระเบียบ กำลังนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะม้าหินใต้ตึก กลับเป็นสิ่งคุ้นตาที่ดูค่อนข้างแปลกประหลาด และนั้นคือจุดรวมสายตาของพวกลิง ค่างและกอริลล่ายักษ์เพศชาย ที่ตอนนี้ป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้นเต็มไปหมด
.
.
.
ดาวคณะบัญชีปี 2 ‘ซน นาอึน’ ผู้หญิงที่วางสมาร์ทโฟนของตัวเองเอาไว้ข้างตัว แต่ไม่คิดจะตอบกลับข้อความของเขา และเพื่อนสนิทที่ความสวยไม่ทิ้งห่างกันเลย ‘ โอ ฮายอง’ คนที่ทำให้คุณชายโอเซฮุน หลุดปากมาว่าเป็นงานยากสำหรับมัน?
.
.
.
.
.
.
“ หึ ... รีบ ..รีบ.... ไอ้สัส “
.
.
.
. “อะไรของมรึง “
.
.
.
.
“ มรึงเดินเร็วไปป่ะ? “
.
.
.
.
.
เขาไม่อยากหันไปต่อปากต่อคำกับไอ้ฮุน การที่เป็นเพื่อนกันมานาน ทำให้มันรู้จักเขาไปซะทุกอย่าง เขาก็แค่อยากเดินไปให้ถึงหญิงสาวที่คนในมหาวิทยาลัยรู้กันดีว่าอยู่ในสถานะแฟนของเขาให้เร็วขึ้นอีกหน่อย เขาเริ่มจะหงุดหงิดกับสายตาเพื่อนร่วมเอกที่พากันมองไปที่เธอ
.
.
.
.
โชคไม่ดีที่โต๊ะของรุ่นน้องกลุ่มหนึ่งเรียกเขาไว้ เซฮุนยิ้มมุมปาก คว้าถุงของกินที่อยู่ในมือเขาและมันก็รีบเดินไป เขาตอบคำถามเรื่องคลาสเรียนคลาสสิคัลบัลเล่ต์ของปี2ให้ทั้งกลุ่มฟัง เขากำลังพาลแต่ก็ยังคุมน้ำเสียงให้ปกติได้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ หวัดดีครับน้องนาอึน *O*”
.
.
.
เซฮุนที่เดินมาถึงก่อนและทักทายแฟนของเพื่อนสนิท ทิ้งตัวลงนั่งที่ม้าหินฝั่งตรงข้ามข้างๆกับหญิงสาวอีกคนและเขาจงใจไม่เอ่ยทักทายเธอ
.
.
.
นาอึนยิ้มกว้างทันทีที่เห็นเพื่อนสนิทของคนรัก
.
.
“ หวัดดีค่ะพี่เซฮุน “
.
.
.
“ ทานข้าวหรือยังครับ ทำไมวันนี้มาหาไอ้แทมแต่เช้าเลย “
.
.
,
เซฮุนวางถุงขนมลง หยิบขวดน้ำมะเขือเทศในถุงของแทมินไปวางตรงหน้านาอึน เธอกล่าวขอบคุณพร้อมรอยยิ้มเต็มแก้มแบบที่ทำให้ใจสั่นได้ไม่ยาก และเป็นอีกครั้งที่เซฮุนแกล้งทำเหมือนคนที่นั่งข้างๆเขาไม่มีตัวตน
.
.
,
.
.
.
“ มีของมาให้พี่แทมินนะคะ .... พี่เซฮุ....”
.
.
.
.
.
.
“ ทำไมไม่ตอบข้อความ “
.
.
.
ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะจบประโยค แทมินที่เดินมาถึงช้ากว่าก็พูดแทรกขึ้นมา ขวดน้ำมะเขือเทศของนาอึนถูกแย่งไปจากมือ เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างเธอ หยิบหลอดออกมาจากถุงพลาสติก เปิดฝาขวดแล้วส่งคืนให้ การกระทำที่เกิดจากความเคยชิน ส่งผลให้คนตัวเล็กยิ้มกว้างออกมา
.
.
.
.
“ ก็คิดว่า อีกเดี๋ยวพี่แทมินคงเดินมาถึงแล้วนี้ค่ะ ลานจอดรถอยู่ใกล้แค่นิดเดียวเอง ....... ขอบคุณนะคะ“
.
.
.
.
.
.
“ สวัสดีคะ พี่แทมิน “
.
.
ฮายองส่งเสียงทักทายคนรักของเพื่อนสาวบ้าง แทมินก้มหัวให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมามองใบหน้าด้านข้างของคนตัวเล็กต่อ
.
.
.
.
.
“ อ้าวววววววว น้องฮายอง มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ”
.
.
.
.
.
ฮายองใช้แค่หางตามองคนพูดที่แกล้งตกใจจนน้ำที่ดื่มอยู่เกือบจะหก ถ้าไม่ติดว่าควรให้ความเคารพคนที่เป็นรุ่นพี่ แถมพ่วงตำแหน่งเพื่อนของแฟนเพื่อนแล้วล่ะก็นะ เธอจะไม่เสียเวลาเสวนากับคนๆนี้เด็ดขาด
.
.
.
“ พี่เซฮุนควรไปหาหมอบ้างนะค่ะ ถ้าใกล้ขนาดนี้แล้วมองไม่เห็น คงไม่ใช่ตาถั่วอย่างเดียวแล้ว ประสาทตาอาจจะเสื่อม เผลอๆสมองก็อาจจะเสื่อมไปด้วย“
.
.
.
“ ฮายอง-อาาาาา “
.
.
.
นาอึนพยายามห้ามทัพก่อนคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามจะเปิดศึกกันใหญ่โต ยิ้มหวานๆเมื่อกี้ของโอฮายองมันน่าขนลุกน้อยซะที่ไหน
.
.
.
.
“ หูยยยยย ….คิดอะไรกับพี่หรือเปล่าครับเนี่ย เป็นห่วงพี่ขนาดนี้ “ ^ ^
.
.
.
.
.
ยังไม่วายจะต่อคำกลับ เซฮุนรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายต้องพูดอะไรทำนองนี้ ถ้าเขากำลังป่วยด้วยโรคอะไรซักอย่าง ก็คงเป็นโรคที่ชอบฟังคำด่าจากปากคนที่นั่งข้างๆเขานี้แหละ เขาไม่ได้เป็นโรคจิตนะ!!! ก็ดูโอฮายองคนนี้ซิ ผู้หญิงอะไรยิ่งโมโหยิ่งดูเซ็กซี่กว่าเดิม
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ในฐานะที่ชื่อสกุลเหมือนกัน ฮายองพยายามทำความเข้าใจผู้ชายที่คนในมหาวิทยาลัยให้ฉายาว่าเป็นคุณชายโอ ไม่รู้ทำไมถึงชอบทำตัวสติออบซอกับเธอนัก ทั้งที่เวลาปกติก็ดูมีมาดสมราคาคุยอยู่หรอก ยิ่งตอนอยู่บนเวทีการแสดงด้วยแล้วนะ ถึงเธอจะมีอคติ แต่เธอก็ต้องยอมรับว่าผู้ชายคนนี้ดูเท่ห์มากๆเลยล่ะ ไลฟ์สไตล์ของเด็กเอกนาฏศิลป์สากล ยากแท้จะเข้าใจจริงๆ -*-
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“มารอนานหรือยัง”
.
.
แทมิน เริ่มคุยกับคนข้างๆบ้าง ตอนนี้คนตัวเล็กกำลังอมยิ้มให้กับความขี้เล่นของเพื่อนสนิทเขา
.
.
“ ไม่ค่ะ มาถึงก็โทรหาเลย”
.
.
.
“ โทษที ปิดเสียงไว้น่ะ “
.
.
“ คราวหน้าไม่ต้องมารอตรงนี้ ถ้ามีอะไรพี่จะไปหาที่คณะเอง “
.
.
.
.
นาอึนยิ้มรับคำของเขา ถึงประโยคจะฟังดูใจร้ายแค่ไหน แต่เธอก็เข้าใจเจตนาดีของอีกฝ่าย คนตัวสูงไม่ชอบให้เธอมานั่งรอให้ตกเป็นเป้าสายตาหรือเป็นหัวข้อในวงสนทนาของนักศึกษาหญิง
.
.
.
.
.
.
นาอึนหยิบของที่เธอเตรียมมาให้กับชายหนุ่มออกจากกระเป๋าผ้าใบใหญ่
.
.
.
“ อันนี้ชีทวิชาสถิติที่ฉันเรียนไปเมื่อเทอมที่แล้ว ของพี่แทมินเป็นวิชาบังคับเหมือนกันใช่ไหมค่ะ”
.
.
.
นาอึนหลีกเลี่ยงคำพูดที่ว่า พี่แทมินควรจะสอบให้ผ่านภายในปีนี้ได้แล้ว พอขึ้นปี4ก็คงจะยุ่งเรื่องโปรเจคจบจนไม่มีเวลาได้เก็บหน่วยกิตที่เหลือ พี่แทมินหัวดี วิชาเอกทั้งหมดได้คะแนนติดTop10 เพราะเป็นเรื่องที่ชอบถึงทำออกมาได้ดีตลอด แต่กับวิชาอย่างคณิตศาสตร์หรือสถิติที่เกลียดนักหนา เขาจะทิ้งมันแบบที่ไม่เหลียวมองเลยด้วยซ้ำ
.
.
.
.
แทมินรับของมาเปิดดู พยักหน้ารับคำช้าๆ มองดูชีทเรียนที่อีกคนเตรียมมาให้ ด้านในมีโน้ตย่อกับวิธีการทำอย่างละเอียดเขียนไว้เต็มไปหมด แถมลายมือก็ยังเป็นระเบียบ จนอดสงสัยไม่ได้ว่า ปกติเจ้าตัวเป็นคนทำอะไรเรียบร้อยแบบนี้อยู่แล้วหรือตั้งใจเขียนมาให้เขาเข้าใจได้ง่ายๆกันแน่
.
.
.
“ ตรงที่ขีดสีแดงแบบนั้น คือข้อสอบที่ออกเทอมที่แล้วนะคะ... ส่วนตรงนี้ ...... “
.
.
นาอึนเริ่มพูดเรื่องแถบสีเรนโบว์ในชีทวิชาสถิติที่เธอเตรียมมาให้เขา
.
.
.
.
.
.
เพราะว่าเธออยากให้เขาเข้าใจมันทั้งหมด ถึงอธิบายแต่ละส่วนที่เธอทำโน๊ตไว้ช้าๆ ตรงไหนที่พูดออกมาแล้วเขาทำเฉย เธอจะขยับตัวเข้ามาให้แน่ใจว่าเขาได้ยินมันชัดเจน
.
.
เขาไม่ได้อยากแสดงบทหวานแหววต่อหน้านักศึกษาหลายสิบชีวิตตรงนี้หรอก แต่เพราะว่านาอึนทำให้เขาขยับตัวไปจนไม่มีที่เหลือ แทมินจึงจำเป็นต้องพาดแขนไปไว้ด้านข้างตัวเธอเหมือนกับกำลังโอบเธอไว้ เพราะเขากำลังจะตกจากม้านั่ง
.
.
นาอึนจอมมึนก็ยังไม่รู้ตัว จนฮายองต้องทักขึ้นมา
.
.
.
“ คุณซนนาอึน ขยับมาทางนี้หน่อยดีไหมคะ? ... “
.
.
.
คนที่เพิ่งรู้ตัว เงยหน้าออกจากกองชีทขึ้นมาสบตาเขา เธอถอยตัวรวดเดียวกลับไปที่เดิมและส่งยิ้มเขินๆมาให้ แทมินขยับตัวนั่งให้ดี ก่อนจะใช้มือข้างที่ว่างอยู่เอื้อมไปโย��ศรีษะเล็กนั้นเบาๆและเอ่ยขอบคุณ
.
.
.
“ ขอบใจนะ ชีทอันนี้ช่วยได้เยอะเลย”
.
.
.
การกระทำเล็กน้อยแค่นี้ ก็ทำให้เช้านี้หัวใจของนาอึนพองโตขึ้นกว่าเดิม
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ไปกันเถอะ นาอึนนี่ .. ขอตัวก่อนนะค่ะพี่แทมิน “
.
.
ฮายองเอ่ยบอกแล้วลุกขึ้นยืน ทำให้นาอึนต้องรีบหยิบของบนโต๊ะแล้วขยับลุกตาม
.
.
“ ไปก่อนนะค่ะ “
.
.
.
สองสาวบอกลาเขากับเซฮุนพร้อมกัน แทมินพยักหน้ารับก่อนจะก้มดูชีทในมือต่อ เขาไม่ได้เดินไปส่งเธอ เพราะว่าตึกคณะบัญชีอยู่ข้างๆกับคณะของเขา และนาอึนแอบบอกกับเขาว่า ฮายองไม่ค่อยชอบที่คุณชายโอเซฮุนไปเที่ยวโปรยสเน่ห์ใส่สาวบัญชี ทุกครั้งที่มันไปที่คณะของเธอ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
I know my place very well, all I want is him beside me
ฉันรู้ดี....ว่าฉันควรวางตัวเองไว้ตรงไหน
ทั้งหมดที่ฉันต้องการ คือเขายังยืนอยู่ตรงนี้.....อยู่ข้างๆฉัน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ เกือบลืมบอกเรื่องสำคัญไปเลย วันนี้ฉันเอารถมา พี่แทมินไม่ต้องมารับนะคะ “
.
.
.
.
.
หน้าที่ประจำที่เขาทำได้ดีที่สุดในฐานะแฟน ก็คือการไปส่งคนตัวเล็กกลับคอนโดทุกวัน ( เขาตื่นเช้าไปรับเธอไม่ได้ เพราะเวลาที่เขาตื่นนอน เป็นเวลาที่นาอึนมาถึงมหาวิทยาลัยแล้ว ) นาอึนไม่ค่อยชอบไปไหน หากไม่ติดกิจกรรมของคณะหรือรายงานกลุ่ม เธอจะกลับบ้านตรงเวลาเสมอ ก่อนหน้านี้เธอไปไหนมาไหนกับฮายองตลอด ก็เลยไม่ค่อยได้ขับรถ จนเมื่อสองเดือนที่แล้ว ฮายองขอให้เขาขับรถไปส่งนาอึนกลับบ้านเป็นครั้งแรกเพราะเธอติดธุระกระทันหัน
.
.
.
.
เขาทั้งคู่ไม่เคยอยู่ด้วยกันลำพังแบบนี้ ทั้งที่คบกันมาเกือบสองอาทิตย์ และการขับรถไปส่งเธอ ทำให้เขาพบว่าช่วงเวลาสั้นๆที่นั่งอยู่บนรถกับนาอึน เป็นเวลาที่เขาได้เห็นโลกในด้านใหม่ นาอึนเป็นผู้หญิงมีสไตล์ เธอถามคำถามด้วยความฉลาดและตอบคำถามด้วยความจริงใจ เธอเล่าเรื่องราวด้วยน้ำเสียงสดใส นาอึนมีออร่าสีขาวลอยอยู่รอบตัวเต็มไปหมด เป็นคนประเภทที่ต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง และมันอาจเป็นสาเหตุที่เขาชอบช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเธอสองคนที่สุด
.
.
จนกลายเป็นว่าตอนเย็นของวันถัดมา เขาออกปากรับหน้าที่ไปส่งเธอกลับบ้านทุกวันด้วยตัวเอง
.
.
.
.
.
.
.
.
“ ทำไมถึงขับรถมาเอง “
.
.
แทมินถามเสียงห้วนออกไปเพราะความแปลกใจ นาอึนยังส่งยิ้มให้เขาก่อนจะตอบคำถาม
.
.
.
“ รถของฮายองเสียนะคะ แล้วเย็นนี้เราสองคนต้องไปรับเพื่อนที่เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น ฉันเลยคิดว่าเอารถมาเองสะดวกกว่า”
.
.
.
“ กลับเมื่อไหร่ “
.
.
“ ตอบไม่ได้คะ แต่คงจะดึก “
.
.
.
.
“ …….. “
.
.
“ …….. “
.
.
เพรา��ต่างฝ่ายต่างเงียบ บุคคลที่สามเลยอาสาส่งเสียงทำลายบรรยากาศอึดอัดนี้แทน
.
.
.
“ ไปเรียนเถอะครับนาอึน เดี๋ยวจะสาย “
.
.
.
.
“ ไปก่อนนะคะพี่แทมิน พี่เซฮุน “
.
.
นาอึนโค้งตัวลารุ่นพี่แล้วเดินไปหาฮายองที่หยุดรออีกฝ่ายอยู่ไม่ไกล ก่อนจะพากันเดินไปยังตึกคณะบัญชี
.
.
.
.
.
“ ซึนเข้าไปไอ้สัส ซึนเข้าไป.... กูถามหน่อย ทำไมคนที่ชอบพูดอะไรตรงๆแบบไม่เคยนึกถึงจิตใจคนฟังอย่างมึง ถึงแพ้ทางผู้หญิงตัวเล็กๆแบบนั้นว่ะ ถ้ามึงเป็นห่วงเขา ไม่อยากให้เขาขับรถกลับบ้านดึกๆ ทำไมมึงไม่พูดกับเขา มึงเล่นจ้องหน้าเขาแบบนั้น มึงเปลี่ยนมาใช้วิธีสื่อสารทางโทรจิตแล้วเหรอ “
.
.
.
เพราะว่าเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่หัวยังเกรียน เขารู้ทุกเรื่องของแทมิน และมันเองก็รู้จักเขาดีที่สุด เขากับเดือนคณะปีสามเพื่อนสนิทเป็นคนดังระดับต้นๆของมหาวิทยาลัย เราเป็นพวกต้นทุนสูง หน้าตาดี การเงินมั่นคงและมนุษสัมพันธ์ดีเริ่ด ผู้หญิงที่ผ่านๆมาเป็นฝ่ายเข้าหาพวกเราก่อนทั้งนั้น เหมือนกับคนอื่นๆที่อยากเข้ามาทำความรู้จักแบบที่หวังแต่ผลประโยชน์ เขาไม่ได้ใส่ใจ เขาผ่านความจอมปลอมพวกนั้นจนรู้ว่าควรให้ความสนิทในแบบไหน กับใคร
.
.
.
.
เมื่อสามเดือนที่แล้วเพื่อนสนิทคนเดียวของเขาทำในสิ่งที่เขาประหลาดใจที่สุดในรอบปี อยู่ๆก็พาแฟนมาแนะนำตัว แถมเป็นถึงดาวคณะบัญชีปี2 คนที่ผู้ชายเกือบครึ่งมหาวิทยาลัยอยากทำความรู้จัก อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ใครๆก็พนันกันไว้ว่าคงไม่เกินเดือนก็เลิก ผ่านมานานขนาดนี้ถือว่าลบคำสบประมาทได้ดีเกินคาด
.
.
.
.
.
เราสองคนมีสิ่งที่เหมือนกันมากอย่างหนึ่ง คือเราทั้งคู่ไม่เหมาะกับความสัมพันธ์จริงจัง เรามีความสุขกับสิ่งชั่วคราวมากกว่า แทมินเป็นโรคที่ลูกคนรวยชอบเป็นกัน คือมันขาดความอบอุ่น ถูกเลี้ยงมาด้วยเงินเพียงอย่างเดียว ส่วนเขา โตมากับแม่ที่เป็นเหมือนโลกทั้งใบ ผู้หญิงที่เท่ห์และเก่งกาจไปซะทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่การเลี้ยงดูเขา เขาไม่ได้รู้สึกมีปมด้อย แต่แม่ทำให้มาตราฐานผู้หญิงสำหรับเขาสูงเกินไป
.
.
.
สำหรับเขา ผู้หญิงแบบนาอึน เป็นเหมือนนางฟ้าที่ไม่ควรจะมีอยู่จริง เธอเพอร์เฟคเกินไป นาอึนไม่เคยทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ เธอใส่ใจแต่ไม่เคยสร้างความรำคาญ เธอทิ้งระยะห่างในจุดที่ทำให้อีกฝ่ายสบายใจที่สุด
.
.
ข้อสำคัญคือเธอรับมือกับความแบดบอยเกรดพรีเมี่ยมของเพื่อนเขาได้น่าประทับใจจนเหลือเชื่อ ไม่เคยมีคำถาม ไม่มีความสงสัย ไม่เคยตั้งเงื่อนไขให้เพื่อนเขาต้องทำตาม นาอึนมีเพียงดวงตาที่จริงใจ และมันจะมองตรงไปที่เพื่อนของเขาด้วยความรักใคร่เสมอ พูดง่ายๆคือนาอึนทำให้มันรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเอง โดยที่ไม่ต้องเอ่ยปาก
.
.
เขาคิดว่าครั้งนี้ เพื่อนของเขาแม่งโคตรรรรรรรรรรรจะโชคดี และคงเป็นเวรกรรมจากชาติก่อนของนาอึน ถึงโดนไอตัวเชี่ยนี้ฉุดมายืนบนโคลนตม
.
.
.
.
.
.
“ มึงนี้แสนรู้ทุกเรื่องเลยนะ อ้ออออ กูลืมไปว่ามึงเป็น FCนาอึนนี่ รุ่นฮาร์ดคอร์ “
.
.
.
“ ขึ้นเรียนได้แหละ ไป ไปสัส ..ลุก!! “
.
.
.
.
เซฮุนอยากจะเบ้ปากเป็นเลขแปดกลับไป เรื่องแบบนี้ตัวใครก็ตัวมัน โตแล้วคงจะคิดเองได้ เรื่องของเขาเองกับเพื่อนสนิทนาอึนยังไปไม่ถึงไหน เขาไม่อยากรับเอาความโง่ของมันมาคิดให้ปวดหัว หวังว่าก่อนที่มันจะคิดได้ นาอึนจะยังให้โอกาสมันเป็นคนโชคดีคนนั้นอยู่
.
.
.
.
.
.
เพราะว่าลิฟท์โดยสารของคณะ มีคนรอคิวยาวเหยียด แทมินกับเซฮุนเลยเปลี่ยนจุดหมายไปที่บันไดทางขึ้นแทน ตึกเรียนแค่หกชั้นไม่เกินกำลังของชายหนุ่มร่างกายกำย่ำแข็งแรงแบบพวกเขาหรอก ระหว่างที่เดินขึ้นบันได แทมินชวนเขาไปดูสตรีทแบทเทิ่ลคืนนี้ โฮยอนเป็นพริตตี้ในงานและน้องบอกมันว่ามีคนเจ๋งๆมาแข่งหลายคน
.
.
.
.
“งานมาแล้วมึง ไอ้แทม พุดถึงโฮยอน กูนึกออกเลย “.
.
.
.
“ ว่า... “
.
.
.
“ ถ้านาอึนเอารถมาวันนี้ ก็ต้องเอาไปจอดที่อาคารจอดรถคณะเราอ่ะดิ “
.
.
.
.
“ ใช่มินิคูเปอร์สีขาวครีม........ที่จอดข้างๆรถมึงป่ะ ”
.
.
.
.
แทมินหยุดเดินกลางคัน หันมาจ้องหน้าเพื่อนสนิท ก่อนจะเดินต่อเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่จังหวะการเดินที่ช้าลง เหมือนกำลังคิดย้ำอยู่ทุกก้าว ทำให้เซฮุนรู้ว่าเพื่อนของเขากำลังประมวลความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างหนัก
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ มึงรู้ใช่ไหมไอ้ฮุน ว่านาอึนเป็นผู้หญิงฉลาด นิสัยก็ดี เหมือนกับว่าเขาแม่งเพอร์เฟคไปซะทุกอย่าง ”
.
.
.
.
“ มึงก็รู้ว่ามาตราฐานผู้หญิงของกูสูงขนาดไหน แต่กูยอมยกให้นาอึนอยู่เหนือกว่ามาตราฐานของกูทุกขั้นเลยนะเว้ยยยย ถึงจะแพ้ฮายองไปนิดหน่อยก็เถอะ ...หึ “
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ กูไม่รู้ว่าเขาชอบอะไรในตัวกู กูมีอะไรที่คนอื่นไม่มีว่ะ มึงว่ามันตลกไหม ขนาดกูยังเกลียดตัวเองเลย “
.
.
.
.
.
.
.
ไม่ใช่แค่คนอื่นหรอกนะที่แปลกใจเรื่องที่พวกเขาคบกัน แทมินเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนตัวเล็กคนนั้นจะเป็นฝ่ายมาสารภาพความในใจกับเขาก่อน มีแค่เซฮุนเพื่อนสนิทของเขาที่รู้เรื่องนี้ ทุกคนคิดว่าเขาเป็นฝ่ายตามจีบนาอึนก่อนทั้งนั้น
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ ฉันชอบพี่ค่ะ ถ้าพี่ยังไม่มีใคร รับฉันไว้พิจารณาได้ไหมค่ะ “
.
.
.
พอเดินออกมาจากห้องชมรมที่เขาและเซฮุนใช้ซ้อมเต้นกันทุกเย็นเพื่อเตรียมแข่งประกวดในสัปดาห์หน้า ดาวคณะบัญชีปี 2 ที่เขาพอจะได้ยินข่าวความดังและเคยเห็นหน้าอยู่สองสามครั้งก็มายืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว ความประหลาดใจจู่โจมใส่ตั้งแต่นาทีแรกที่พบจนกระทั่���จบความในใจของอีกฝ่าย
.
.
.
.
เขาเคยได้ยินมาว่า เธอมีดวงตาที่แค่มองก็สั่นหัวใจใครต่อใครได้ และเขาว่ามันคือความจริง ดวงตาของเธอแทนความสัจจริงทุกอย่าง สายตาที่เธอมองตรงมาที่เขา มันเหมือนว่าเขาคือคนสำคัญที่สุดของเธอ
.
.
แต่นาอึนเป็นผู้หญิงประเภทที่เขาหลีกเลี่ยงมาทั้งชีวิต .......ความรู้สึกของเธอบริสุทธิ์เกินไป
.
.
.
.
มันไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะ ที่มีคนมารอเขาหน้าห้องซ้อมพร้อมกับสถานการณ์แบบนั้น แทมินเองก็เป็นถึงเดือนคณะ หน้าตา ส่วนสูง กำลังทรัพย์ก็ดีเกินมาตรฐาน แต่ทุกครั้งเขาจะปฏิเสธกลับไปด้วยเหตุผลง่ายๆว่ายังไม่พร้อมผูกมัดกับใคร ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง และบ่อยครั้งที่อีกฝ่ายมักจะยื่นขอเสนอเร้าใจ ที่ต่างฝ่ายต่างพึงพอใจกลับมาแทน
.
.
.
แต่สำหรับดวงตากลมใสที่ดูแน่วแน่คู่นั้น ถ้อยคำที่เขาใช้ปฏิเสธความรู้สึกดีๆพวกนั้นก็ถูกกลืนหายไปหมด เขาเปลี่ยนเรื่อง ด้วยการลองถามเธอกลับไป ว่าเธอรู้จักเขาดีแค่ไหน ไม่เคยได้ยินข่าวลือไม่ดีของเขาบ้างเลยเหรอไง
.
.
.
.
“ ฉันไม่รู้ว่าข่าวลือพวกนั้นมันจริงสักแค่ไหน อันที่จริงฉันไม่ได้เอามันมาสนใจเลยต่างหาก เพราะสิ่งที่ทำให้ฉันมายืนต่อหน้าพี่ตอนนี้ ทำในสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกล้า ฉันตัดสินใจทำมันจากความรู้สึกของฉันเท่านั้นค่ะ “
.
.
.
.
เธอตอบด้วยน้ำเสียงแสนจริงใจกับรอยยิ้มที่ทำเอาลมหายใจสะดุด
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
และวันนั้นคือวันแรกที่ผมอนุญาตให้นาอึน ผู้หญิงที่กำลังจะเปลี่ยนวงโคจรของผมเข้ามาในชีวิต
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Here comes the rain, so hold your hat
And don't pray to God, cause He won't talk back
Are you ready for the last act?
To take a step you can't take back
‘
‘
‘
‘
.
.
.
.
.
.
.
.
.
-TBC-
1 note
·
View note
Text
[OS] CALM DOWN !... YOU LOVE FOOL #ทอ500คำ
.
.
.
.
.
.
.
[ แทอึน 500 คำ ]
.
.
.
ตอน : CALM DOWN !... YOU LOVE FOOL
( ใจเย็นๆก่อนนะ ! เจ้าพวกโง่เง่าในความรัก )
.
.
.
.
.
.
BGM : K.will(케이윌) _ Talk Love(말해! 뭐해?)
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
LOVE turns people into idiots **
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ช่วงนี้ซนนาอึนเป็นผู้หญิงที่โดดเดี่ยวคะ ทั้งงานถ่ายแบบ งานแฟชั่น ถ่ายละคร มีแต่งานที่ต้องทำคนเดียวทั้งนั้นเลย ได้ทั้งความสนุกและประสบการณ์ใหม่ๆเยอะเลยคะ แต่ก็อดคิดถึงเมมเบอร์ในวงไม่ได้ ถ้ามาด้วยกั��คงจะยิ่งสนุกเพิ่มขึ้นไปอีก (。。)
แต่ฉันไม่ได้งานยุ่งมากหรอกนะคะ ฉันมีเวลาอยู่ในโลกงานศิลป์ที่รัก มีเวลาไปกินข้าว จิบน้ำชากับออมม่าและก็น้องสาว ...ชีวิตดี๊ดีเนอะ ... (≧∇≦)
.
.
.
วันนี้จบงานถ่ายแบบกับนิตยสารเล่มนึง ตอน 4 โมงเย็น เร็วกว่าที่คิดไว้เกือบ 2 ชั่วโมง เห็นการทำงานแบบมืออาชีพยิ่งประทับใจ ....ซนนาอึนพัฒนาไปอีกก้าวแล้วคะ!!!
.
.
.
..
“ นาอึนนี่ มีของมาส่งอ่ะ พี่วางไว้ตรงหน้าต่าง Walk in closet นะ “
.
“ เอ๋...? ทำไมไปวางไว้ตรงนั้นล่ะคะ ??!??”
.
“ เห็นแล้วก็รู้เองแหละ ^ ^ “
.
.
.
.
.
.
.
กลับมาถึงหอพักตอนหนึ่งทุ่มตรง ลืมที่พี่ฮยอนซูบอกไปแล้ว จนมาเห็นกระถางต้นไม้ใบหย่อม ตอนที่เข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อหยิบชุดนอนนี้แหละ
.
กระถางต้นไม้ที่มีป้ายชื่อติดไว้ “ Taem Taem 화이팅 !!!..” ???
.
.
ไม่ทันจะได้สงสัยนาน เสียงเตือนจากโปรแกรมเฟสไทม์ก็ดังขึ้น ….สายจากเจ้าของต้นไม้นั้นแหละ
.
.
“ นาอึน-อา ปลูกต้นไม้ต้นนั้นให้อปป้าด้วยนะ...อ้อ อย่าไปหาข้อมูลของมันจากอินเตอร์เนตด้วย “ ( ̄ー+ ̄)
.
“ ทำไมล่ะคะ ? “ o(゜ー゜*o)
.
“ คึคึคึคึคึ ... (゜艸゜◎) พี่จะบอกเหตุผลกับเธอ หลังจากที่มันออกผลแล้ว “
.
“ เดี๋ยวอปป้าส่งวิธีการดูแลไปให้นาอึนนี่น้า ... ดูแลมันให้ดี พี่คาดหวังกับเธอนะรู้ไหม “
.
.
.
.
พี่แทมินวางสายไปซักพักก็ส่งวิธีการดูแลมาทางแชท ไม่ได้ยุ่งยากเหมือนที่คิดไว้ซักเท่าไหร่ เพราะต้นไม้ถูกเตรียมมาเพื่อให้ดูแลง่าย มันอายุ 30 วันแล้ว มีดอกสีเหลืองแปลกๆด้วย สิ่งที่ฉันจะต้องทำก็คือหมั่นรดน้ำมันทุกวัน ( เจ้า��้นนี้ชอบน้ำมากๆเลย ) คอยสังเกตดินและเติมดินปลูกลงไปถ้ามันยุบลง กำจัดแมลงกวนใจ(´ヘ`;) สุดท้ายคือส่งรูปไปให้พี่แทมินดูบ่อยๆ
.
.
.
.
.
.
.
ฉันดูแลต้นไม้มา 2 อาทิตย์แล้ว วันไหนงานยุ่งมากจริงๆก็จะฝากเมมเบอร์หรือพี่ผู้จัดการรดน้ำให้ ฉันจะกลับมาตรวจดูอาการของมันทุกวันในตอนค่ำ ไปได้สวยเลยแหละ ตอนนี้ก็เริ่มจะรู้แล้วว่ามันคือต้นอะไร ที่ยังไม่รู้คือเหตุผลของภารกิจนี้นะซิ เด็กอนุบาลคนนั้น ทำอะไรประหลาดแบบนี้เสมอเลย (。_。*))((*。_。)
.
.
.
.
.
วันนี้เป็นวันเก็บเกี่ยวผลผลิตจาก เจ้าแทมแทมสู้ๆ ตื่นเต้นสุดๆ ฉันรักมันมากเลยนะ แน่ละ เฝ้าเลี้ยงดู ประคมประงมด้วยตัวเองนี้น่า และมันก็ตอบแทนความรักของฉันด้วยการออกผลสวยๆมาให้ตั้ง 5 ลูกแน่ะ น่ารักจริงๆเลยยยย
.
.
.
.
.
มาถึงบ้านพี่แทมินตอนสามทุ่ม ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากทุกคนเหมือนทุกครั้ง ฉันส่งมอบภารกิจให้พี่แทมิน ตอนที่พวกเรานั่งกันอยู่ที่ห้องรับแขก ฉันผูกโบว์สวยๆให้มันด้วยนะ พอออมม่าเห็นมันก็หัวเราะใหญ่เลย และก็เอาแต่พูดว่า “ เจ้าแทมบ๊องเอ้ยยย !!! ”
.
.
.
.
เพราะว่าพวกเราเลิกงานกันดึกเกินไป บนโต๊ะอาหารก็เลยเหลือแค่เราสองคน พอเริ่มลงมือกินอาหารไปได้ซักพัก ฉันก็อดท้วงถามเหตุผลไม่ได้
.
.
.
“ จะบอกได้หรือยังคะ ว่าทำไมถึงต้องให้ฉันปลูก แตงกวา มาให้ ”
.
.
.
.
พี่แทมินหยิบแตงกวาในชามขึ้นมา กัดมันเข้าปากไปหนึ่งคำ แล้วส่งยิ้มกว้างมาให้ทั้งๆยังเคี้ยวของในปากอย่างเอร็ดอร่อย พอหมดลูกก็ยิ้มกว้างกว่าเดิม
.
.
.
.
.
.
“ นาอึนนี่ รู้ไหม ว่าอปป้านะ เกลียดแตงกวาที่สุดเลย..... กลิ่นเหม็นๆของมันทำให้พี่ขนลุก “
.
.
“ เอ๋ ..?? ..แล้ว ทำไม... “
.
.
.
.
“ จำที่พี่นัดพวกเพื่อนๆไปเล่นเวคบอร์ดคราวก่อนได้ใช่ไหม นั่นนะเป็นการรวมตัวเพื่อนของพี่ที่เยอะที่สุดในรอบหลายปีเลย ไปกันตั้ง 12 คน อปป้าสนุกสุดๆเลยล่ะ “
.
.
“ จำได้คะ.... เกี่ยวกันยังไงค่ะ ??..”
.
.
“ เพราะว่าเจ้าอ้วนควอนโฮนั่นไง!!! เพราะเจ้าหมูนั่นนะรู้จักกับพี่มานาน ก็เลยรู้จุดอ่อนไม่กี่ข้อของผู้ชายคูลๆอย่างอปป้าคนนี้ ตอนที่ทุกคนกำลังกินข้าวกลางวันกันอยู่ เจ้าหมูนั่นก็แฉมันออกมา!!!
“ แทมินนี่ของพวกเรา ยังเกลียดการกินแตงกวาอยู่เลยนะ” แถมยังบังคับให้พี่กินมันต่อหน้าทุกคนอีก พวกนั้นน่ะล้อเลียนพี่กันใหญ่เลย อ๊ากกกกกก ให้ตายเถอะ!!!! “
.
.
“ อ่าาา ... แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ?? “ (・・?
.
.
“ ไอกู .....นาอึนจอมมึน เธอยังไม่เข้าใจอีกหรอ “
.
.
.
พี่แทมินเอื้อมมือมาลูบหัวฉันเบาๆ แล้วลุกขึ้นไปหยิบกระถางต้นไม้ที่วางไว้ข้างโต๊ะอาหารมาให้
.
.
.
.
“ ต้นนี้นะ ปลูกง่ายกว่าแตงกวาอีก ภารกิจต่อไปของนาอึนนี่ครับ “
.
.
“ ตอนที่นาอึนดูแลแตงกวาต้นนี้ เธอใส่ทั้งความตั้งใจและก็ความรักลงไปด้วยใช่ไหมล่ะ อปป้านะ แค่เห็นเจ้าแตงกวาพวกนี้ก็รู้แล้วล่ะ ถึงต้องเป็นนาอึนนี่คนเดียวเท่านั้นไง “
.
.
.
“ เพราะว่าเป็นนาอึนนี่ อปป้าจะรับผิดชอบความรู้สึกทุกอย่างของเธอไว้ทั้งหมดโดยไม่มีข้อแม้ ถึงจะเป็นสิ่งที่พี่เกลียดที่สุด ถ้ามันเกิดมาจากความรักของนาอึนแล้วล่ะก็ ........
.
. “.............มันล้ำค่าเสมอนั่นแหละ ^ ^ “
.
.
.
.
ฉันคิดว่าตอนนี้ตัวเองต้องหน้าแดงมากแน่ๆ ใจพองฟูเหมือนหลุดลอยออกไปไกล
(o*゜ー゜)o เผลอจ้องหน้าพี่แทมินอยู่นาน เรียกสติกลับมาได้ตอนได้ยินเสียงพี่แทมินกระแอมไอ เหมือนเขินๆกับปฎิกิริยาตอบรับของฉันเหมือนกัน
.
.
.
.
“ พี่คิดไว้ ว่ามันต้องรู้สึกดีมากแน่ๆ ตอนที่ได้กินแตงกวาพวกนี้ของเธอ และมันก็เป็นแบบที่คิดไว้เลยล่ะ พี่ไม่ได้เกลียดมัน แถมอยากกินมันอีกเยอะๆ “
.
“ ... กระถางที่พี่ให้นาอึนไปใหม่นั่นนะ คือต้นมะเขือเทศเชอรี่ ....”
.
.
.
“ ของโปรดของเราทั้งคู่ ... ( ของโปรดของเราทั้งคู่ ) “ (ノ゜O゜)ノ☆
.
พี่แทมินกับฉันพูดขึ้นมาพร้อมกัน เราสองคนก็เลยขำกันใหญ่
.
.
.
พี่แทมินยิ้มกว้าง แล้วเริ่มพูดต่อ
.
.
.
.
“ เพ��าะว่ามีอีกอย่างที่พี่อยากรู้ .....
.
.
.....มันจะเป็นความรู้สึกที่ดีขนาดไหนกันนะ ตอนที่ได้กินสิ่งที่พี่ชอบมากที่สุดซึ่งถูกปลูกขึ้นจากคนที่พี่รักมากที่สุด ....... “
.
.
.
“ พี่อยากสัมผัสความรู้สึกแบบนั้นซักครั้งจริงๆ “ ^ ^
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ นาอึนออนนี่ พี่เมื่อยหน้าบ้างไหมคะ “ (・・?
.
.
.
.
เสียงของฮายองทำให้ฉัน ละความสนใจจากต้นไม้ตรงหน้าไปหา
.
.
.
“ ไม่นะ.... ทำไมหรอ? “
.
.
“ ไอกู ... นาอึนออนนี่ของพวกเรา .... พี่นั่งยิ้มให้กระถางต้นไม้พวกนั้น อยู่นานมากแล้วนะคะ “
.
.
.
“ ไม่เชื่อดูนี้เลย ... นัมจูถ่ายรูปพี่ไปลงIG เมื่อชั่วโมงที่แล้ว ออนนี่ทำท่าเดียวกันกับที่ฉันเห็นก่อนหน้านี้เป๊ะๆเลย “
.
.
.
.
อา...ยัยนัมจูตัวร้าย ( ̄ ̄|||)
.
.
.
sarangdungy นาอึนออนนี่ของพวกเรา ..... ฉันชอบที่พี่มีความสุขจังเลยคะ แต่ยิ้มให้ต้นไม้ทั้งวันแบบนี้ มันประหลาดไปแล้วนะคะ (TヘTo)
.
.
.
.
.
“ อ่ะ นั่นเพื่อนของพี่แทมินมาคอมเมนท์ด้วยคะ ........ “ ทางนี้ก็ดูประหลาดสุดๆเหมือนกัน (´ヘ`;) “ …. เอ๋..? แปลว่าอะไรอ่ะคะ “
.
.
.
.
พอฮายองกดเข้าไปที่หน้า IG ของพี่ควอนโฮ ก็ได้คำตอบทันที
.
.
.
.
.
รูปล่าสุดที่พี่ควอนโฮ อัพลง IG คือ รูปของพี่แทมินที่ยิ้มกว้างจนปากแทบฉีก กำลังนั่งกอดชามใบใหญ่ ที่ใส่แตงกวากับมะเขือเทศเชอรี่เอาไว้เต็มไปหมด
.
.
.
.
.
.
.
.
.
** ความรัก...เปลี่ยนให้คนธรรมดา กลายเป็นพวกบ้าบอ **
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
. END .
.
.
.
.
.
.
.
*** เรื่องปลูกต้นไม้เนี่ย จำมาจากหนังสือการ์ตูนที่เคยอ่านนะคะ แต่จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไร ใครรู้แอบกระซิบบอกด้วยนะคะ อยากอ่านอีกจัง ...ขอบคุณคะ ^ ^ ****
2 notes
·
View notes
Text
แทอึน 500 คำ : Special part
.
.
.
.
.
[ แทอึน 500 คำ ]
.
.
.
Special part
.
.
.
.
- The Precious One-
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
** No one knows what will happen tomorrow
So you don’t have regrets
with all your power
Stay close to your precious ones.
.
.
.
.
.
.
.
.
ช่วงนี้ได้วันหยุดคะ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์อยู่บ้านมาเป็นวันที่ 2 แล้ว แถมวันพรุ่งนี้ก็เป็นวันเกิดของฉันคะ ^_____________^ อา ..ซนนาอึนจะอายุครบ 23 ปีแล้ว!!!! พักอยู่ที่บ้านจนร่างกายได้เฮลลิ่งขึ้นเยอะเลย แต่วันนี้แตกต่างกว่าเมื่อวานนิดหน่อยก็ตรงที่ ในตอนที่ฉันกำลังเบิกบานกับอาหารเย็นที่บ้านฝีมือคุณนายซนอยู่ มีเสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้นหลายสิบครั้ง จนต้องเร่งกินของหวานให้หมดแล้วรีบไปเช็คดู
.
.
.
.
คุณนาอึน ขอโทษที่รบกวนเวลาพักผ่อนของเธอนะ แต่แทมของเราอยู่กับเธอหรือเปล่า?
.
.
อา รบกวนอีกครั้งนะ ติดต่อกลับมาหน่อยได้ไหม
.
.
พี่หาแทมไม่เจอ พี่ต้องแย่แน่ๆ T^T
.
.
.
.
ตามมาด้วยอีกหลายข้อความทำนองเดียวกัน จากคนๆเดียว ...... ผู้จัดการของพี่แทมิน
.
.
.
... เด็กอนุบาลหายไปไหน ?
.
.
.
พอลองโทรออกไปหาก็ติดต่อไม่ได้จริงๆด้วย คุยกันล่าสุด พี่แทมินเฟสไทม์มาจากห้องซ้อม บอกว่าเหนื่อยมากๆเลย
.
.
.
ไปไหนของเขากันน้าาา ?
.
เฮ้อออออ เอาจริงๆนะ พอพี่แทมิน นัมจาผู้มาดแมนเข้าโหมดเด็กอนุบาลเจ้างอแงทีไร รับมือได้ยากมากกกกกกทุกที -*-
.
.
.
มินโออปป้า นี้นาอึนนะคะ... ... พี่อยู่ที่แม่น้ำฮันหรอคะ อ่อ พี่แทมินชอบไปที่ร้านขายอาหารหน้าคอนวีเนียสโตร์คะ ...... พี่อยากให้ฉันไปดูที่บ้านให้เหรอคะ ....อ่าาา ได้คะ ไม่ได้รบกวน ............. คะ ฉันจะโทรกลับไปบอกนะคะ
.
.
.
.
.
.
มาถึงบ้านพี่แทมินตอนเกือบสองทุ่ม บ้านยังเงียบเหมือนเดิม เพราะครอบครัวพี่แทมินไปเที่ยวต่างประเทศกันหมด อีฟกับอดัมก็เอาไปฝากไว้ที่บ้านน้าสาวของพี่แทมิน นี้ก็อีกเรื่องที่เด็กอนุบาลบ่นให้ฟังซ้ำๆว่าช่วงนี้ไม่มีใครอยู่ให้กำลังใจเลย
.
.
.
เปิดประตูห้องนอนเข้ามา สิ่งแรกที่เห็นคือแสงจากโคมไฟแกแลกซี่ขนาดเล็กข้างเตียงที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ลองตะโกนเรียกอยู่ 2-3 ครั้งก็ไม่มีเสียงตอบกลับ ทั้งห้องว่างเปล่า ฟูกนอนและผ้าห่มเย็นเฉียบแบบที่เจ้าของมันคงไม่ได้กลับมาที่นี้หลายวันแล้ว
.
.
พอกำลังจะหยิบเจ้าโคมไฟที่ไม่รู้ถูกเปิดทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่มาปิด สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจสุดๆคงเป็น ซองจดหมายสีแดงขนาดเล็ก จ่าหน้าถึง “ นาอึนนี่ “ อันนี้ล่ะ
.
.
.
.
.
นาอึนนี่ คนใจร้าย,
นาอึนนี่ผู้ได้เวลาพักผ่อนมากมายแต่กลับไม่ยอมมาพบหน้ากันเลย
นาอึนนี่ที่เห็นหนังสือเล่มใหม่สำคัญกว่าการคอลหาอปป้าผู้กำลังเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานอย่างหนัก T__T
นาอึนนี่ที่แสนใจร้ายคนนั้น กำลังตามหาอปป้าอยู่ใช่ไหม ?
.
อปป้าจะไม่อยู่ให้นาอึนนี่ลำบากใจหรอก ...... bye
.
.
.
ปล. ไม่ต้องไปตามหาอปป้าที่สวนสนุกที่เคยไปดับเบิ้ลเดทหรอกนะ อปป้าไม่ได้ชอบชิงช้าสวรรค์ที่เคยนั่งกับนาอึนนี่เลยซักนิดเดียว
.
.
.
.
อาาาาา ...... เด็กอนุบาลแทมิน ฉันจะบ้าตายกับพี่จริงๆ
.
.
.
.
.
.
เวลาตอนนี้คือห้าทุ่มกับยี่สิบสามนาที อุณหภูมิ – 2 องศา ค่ำคืนที่ฉันควรซุกตัวในผ้าห่มผืนหนา จิบชาอุ่นๆและอ่านหนังสือเล่มใหม่ให้จบ แต่ตอนนี้ฉันกลับมายืนอยู่หน้าสวนสนุกที่ไร้ผู้คน กวาดสายตามองหามนุษย์เด็กอนุบาลที่คงหลบอยู่ที่ไหนซักแห่งในนี้
.
.
อาจัชชี่ที่คอยดูแลที่นี้ใจดีมาก ถึงจะดูแปลกไปหน่อยตอนที่ฉันถามหาคนที่ยังอยู่ด้านในและได้รับอนุญาตให้เดินเข้ามาดูด้านในได้ทันที
.
คุณลุงคงจะไม่เดือดร้อนเพราะพวกเราใช่ไหมคะ T^T
.
.
.
.
เพราะว่าฉันไม่ได้มาเที่ยวที่แบบนี้นานมากแล้วก็เลยไม่มีข้อมูลอะไรเลย แต่ดูจากเครื่องเล่นบางอย่างที่ยังคงทำงาน และไฟประดับตามทางยังสว่างอยู่ อาจจะยังไม่ถึงเวลาปิดทำการของที่นี้ละมั้ง
.
เดินไปตามป้ายบอกทางเรื่อย ผ่านเครื่องเล่นที่เคยมาเล่นกับพี่แทมิน คีย์ฮยองแล้วก็อึนจิออนนี่ ก็ทำให้คิดถึงวันนั้นขึ้นมา เราสี่คนสนุกกันมากจริงๆ
.
.
.
พอมาถึงชิงช้าสวรรค์ จุดหมายปลายทางของฉันในคืนนี้ ก็ต้องผิดหวังซ้ำสอง เครื่องเล่นถูกปิดการทำงานไปแล้ว ไฟที่บันไดทางขึ้นก็มืดสนิท มองไปรอบๆไม่พบสิ่งมีชีวิตใดอยู่เลย ทั้งที่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าต้องพบพี่แทมินที่นี้แน่ๆ ก็คว้าน้ำเหลวอีกจนได้
.
.
แต่พอตอนที่หันหลังกำลังจะเดินออกไป เสียงเครื่องจักรดังเอี๊ยดอ๊าดเบาๆแว่วมาตามลมให้ได้ยิน ลองมองกลับไปก็เห็นไฟจากบันไดสว่างขึ้นมา ถึงจะแปลกใจอยู่บ้าง แต่สองขากลับพาเดินขึ้นมาตามทาง
.
.
.
ชิงช้าสวรรค์กำลังทำงาน ไฟประดับรอบๆดูสวยแปลกตาจากครั้งก่อน มีตุ๊กตาหมีตัวใหญ่สวมชุดเหมือนพนักงานต้อนรับวางตั้งอยู่บนพื้นตรงทางขึ้นชิงช้า เพราะทุกอย่างดูน่ารักสวยงามไปหมดก็เลยเผลอมองสำรวจไปทั่วจนลืมคนที่มาตามหา
.
.
.
.
.
กระทั่งวิสัยทัศน์ถูกปิดบังด้วยอะไรบางอย่าง ลมหายใจอุ่นเป่ารดที่ข้างแก้ม ถึงจะรู้ว่าไม่ได้ระวังตัวซะจนไม่รู้เลยว่าคนข้างหลังมายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ อาการตื่นตกใจในคราแรกหายไปเพราะว่ากลิ่นโคโลญจน์กับสัมผัสที่คุ้นเคย
.
.
.
นาอึนนี่รู้ไหม ว่าคนธรรมดาอย่างอปป้าต้องใช้ความพยายามขนาดไหนถึงจะจองสวนสนุกที่นี้ได้ซัก 3 ชม. โดยไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากใครเลย
.
ไฟประดับตรงนู้นติดยากมากเลยล่ะ อปป้าหัวหมุนไปหมด เจ้าหมีอ้วนตรงนั้นก็ตัวหนัก ใส่เสื้อผ้ายากด้วย จนคิดว่าจะทำทุกอย่างไม่ทันเวลาซะแล้ว
.
.
.
.
... ฉันคิดว่าน้ำตาของฉันกำลังจะไหล โชคดีจริงๆที่พี่แทมินผูกผ้าปิดตาของฉันเอาไว้
.
.
.
.
มันสวยใช่ไหมล่ะ ความตั้งใจของอปป้าดูเท่ห์สุดๆไปเลยใช่ไหม
.
.
.
.
พี่แทมินออกแรงดันพาให้ฉันเดินไปข้างหน้า ผ่านทางขึ้นชิงช้าและเข้ามานั่งด้านในกระเช้า ฉันคิดว่ามันคงเป็นกระเช้าชิงช้าเดิมที่เราสองคนเคยนั่ง พี่แทมินขยับไปนั่งฝั่งตรงข้าม ชิงช้าเริ่มเคลื่อนตัวช้าๆ
.
.
.
.
รอให้พี่นับถึง 10 นาอึนนี่ก็เปิดผ้าปิดตาออกมาได้ เด็กน้อย...อย่าร้องไห้จนกว่าจะเห็นของที่อยู่ตรงหน้าเด็ดขาดนะ
.
.
1
2
3
4
5
6
.
เพราะว่าพยายามห้ามน้ำตา เลยไม่รู้ตัวว่าเผลกลั้นหายใจไปด้วยตอนไหน ฉันรู้แค่ว่าหัวใจของฉันกำลังใกล้จะระเบิด
.
.
7
8
9
.
.
10 .........
.
.
.
.
แสงจากเทียนที่ปักอยู่บนเค้กผลไม้ก้อนเล็กคือสิ่งแรกที่เห็น พี่แทมินส่งยิ้มกว้างมาให้เหมือนทุกครั้ง และด้านหลังที่นั่งของพี่แทมินคือบอร์ดประกาศประดับไฟที่ติดรูปโพลารอยด์ของฉันไว้เต็มไปหมด กับข้อความที่ทำให้ความพยายามกลั้นน้ำตาของฉันทลายลงไปจนหมด
.
.
.
.
HAPPY BIRTHDAY TO... MY NAEUN .. MY MARCELLA … MY PRECIOUS
Don’t worry about old age
I’ll always be beside you until the very end.
.
.
.
.
.
.
แฮปปี้ เบิร์ดเดย์ นาอึนนี่ ... อธิษฐานแล้วเป่าเค้กก่อนนะครับคนดี
.
.
.
.
.
หลับตาลงและอธิษฐาน ขอเพียงสิ่งเดียวเหมือนกับทุกๆครั้ง
.
.
“ ขอให้ความสุขที่มีอยู่ตอนนี้ อยู่ข้างๆกับฉันไปอีกนานแสนนาน “
.
.
.
.
.
.
.
.
ขอบคุณนะคะ เด็กอนุบาลของฉัน
ขอบคุณ รุ่นพี่แทมิน
ขอบคุณ แทมินอปป้าสุดเท่ห์
.
.
.
.
.
... my precious
.
.
.
.
.
.
**ไม่มีใครรู้หรอกว่า วันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ดังนั้นเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง
จงใช้พลังทั้งหมดของคุณทำทุกอย่าง
เพียงเพื่อได้ยืนอยู่ใกล้สิ่งล้ำค่าของคุณ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
-END-
3 notes
·
View notes
Text
One shot : Sweet Liar
.
.
.
.
[ OS ]
.
.
.
.
.
.
- Sweet Liar -
.
.
.
.
.
.
.
.
BGM : Dream – Suzy ,BAEKHYUN
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
well I don’t care.... even if you’re a sweet liar
.
.
.
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Naeun’s Part
.
.
.
เคย��ังเพลงที่เราไม่เข้าใจความหมายของเนื้อร้องแต่กลับชอบมันมากไหมคะ แค่ได้ยินเมโลดี้ดังขึ้นไม่กี่ตัวโน้ตก็รู้สึกชอบขึ้นมาเฉยๆ จนกลายเป็นว่าเพลงๆนั้นติดอยู่ในความคิดเราจนเผลอฮัมทำนองออกมาอยู่บ่อยๆ
.
.
.
ฉันคิดว่ามันก็เหมือนกับการตกหลุมรักใครซักคน เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพียงแค่สบตาหรือได้ฟังเสียงเขาพูดซักประโยค กลับกลายเป็นเราเฝ้า��ต่คิดถึงคนๆนั้นอยู่ตลอด
.
.
.
ผู้ชายที่ฉันตกหลุมรักเขาอยู่ เป็นคนที่ให้ความรู้สึกแบบนั้นแหละคะ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน สายตาและน้ำเสียงของเขา วนเวียนอยู่ในความคิดของฉันตลอดเวลา และคำพูดหวานหูทุกคำนั้นมีผลให้หัวใจของฉันเต้นแรง
.
.
.
.
สวัสดีครับ .... ยินดีที่ได้รู้จัก
.
.
.
คิดว่าเป็นคนที่สวยมากเลยล่ะ
.
.
.
.
ตอนที่เขาให้วงกลมเลือกคนที่ชอบอ่ะ พี่วงชื่อเธอด้วยนะ
.
.
.
.
นาอึน..อา ....คิดถึงจังเลย
.
.
.
.
คิดถึงตลอดเวลาเลยแหละ
.
.
.
.
ขอจับมือหน่อยได้ไหม
.
.
.
.
ทำไมน่ารักแบบนี้ล่ะ .... น่ารักจริงๆเลย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หวานซะจนเหมือนโดนมอมเมาและไม่รู้ตัวเลยว่าเริ่มติดมันตั้งแต่เมื่อไหร่
.
.
.
.
.
.
ถึงฉันจะเป็นพวกปากกับใจไม่ค่อยตรงกัน เวลาที่เขินมากๆก็จะเปลี่ยนเรื่องคุยหรือเผลอพูดอะไรตรงข้ามกับความรู้สึกไปซะหมด แต่พอเขาส่งรอยยิ้มกับสายตาเจ้าเล่ห์แบบที่มองทะลุเข้ามาเห็นความคิดทุกอย่างของฉัน ฉันคิดว่าเขาคงเข้าใจมันแล้วล่ะ
.
.
.
.
เบื้องหลังของคำพูดหวานหูพวกนั้น อาจมีเหตุผลซ่อนอยู่เป็นร้อยแปด ถึงมันจะเป็นแค่การเอาอกเอาใจ บางครั้งคงพูดด้วยความชินปาก หรือร้ายที่สุดมันอาจเป็นเพียงแค่คำโกหก
.
.
.
.
แต่คุณรู้อะไรไหม เหตุผลเหล่านั้นไม่ได้สำคัญไปกว่า ทุกๆประโยคนั้น มีเพียงคุณคนเดียวเท่านั้น ที่เขาต้องการที่จะบอก
.
.
.
.
มีคนเคยบอกว่า ยิ่งได้ฟังมันบ่อย ความหมายของมันจะยิ่งน้อยลงจนอาจเหลือเพียงแค่คำพูดพล่อยๆ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็คงต้องโทษที่ความใจง่ายของฉันแล้วล่ะ ที่มันไม่เคยห้ามหัวใจไม่ให้เต้นแรงได้ ไม่เคยห้ามความรู้สึกสุขใจได้สักครั้ง สุดท้ายฉันถึงไม่เคยเบื่อที่จะฟังคำพูดพวกนั้นเลย
.
.
.
.
.
.
ไม่เชื่อก็ลองหลับตาจินตนาการดูถึงมันสักครั้งซิคะ
.
.
.
.
.
.
.
.
คุณนั่งรอเขาที่มุมด้านในคาเฟ่ร้านโปรด เขาหยุดที่หน้าประตูและเรียกคุณให้ลุกไปหา ตรงหน้าคุณคือผู้ชายที่คุณชอบเขามากเหลือเกิน จมูกเขาแดงนิดหน่อยเพราะอากาศหนาว คุณเผลอขยับตัวเข้าไปใกล้เพื่อส่งแก้วโกโก้ร้อนไปอังตรงข้างแก้มเขา หวังว่ามันจะทำให้เขาอุ่น ดวงตากลมสวยคู่นั้นก้มมองมาที่คุณด้วยแววตาหวานเยิ้ม โหนกแก้มที่ยกขึ้นสูงเพราะกำลังยิ้มกว้าง มือของเขาจับทับมือคุณที่ถือแก้วอยู่ และส่งมืออีกข้างเอื้อมมาแตะลงที่กลุ่มผมด้านหลังของคุณ สัมผัสจากปลายนิ้วเย็นเฉียบ แรงรั้งดึงที่มีเพื่อกักตัวคุณไว้ไม่ให้พ้นจากอ้อมแขน ไออุ่นจากลมหายใจที่รินรดข้างแก้มตอนที่เขาโน้มตัวเข้าใกล้ น้ำเสียงอบอุ่นเอาใจที่กระซิบผ่านให้คุณได้ฟังตรงข้างหู คำพูดที่เหมือนเมโลดี้เพลงบัดลาดช้าๆที่คุณไม่เคยได้ฟังมันจากที่ไหน ... และเมื่อจบประโยคนั้น คุณตระหนักรู้ได้ทันทีว่า
.
.
.
.
.
.
หัวใจอีกครึ่งของคุณนั้น เขาถือสิทธิ์ครอบครองมันอยู่เสมอ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
well I don’t care.... cause I will make you believe
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Taemin’s Part
.
.
.
.
เคยฟังเพลงที่เราไม่เข้าใจความหมายของเนื้อร้องแต่กลับชอบมันมากไหมครับ แค่ได้ยินเมโลดี้ดังขึ้นไม่กี่ตัวโน้ตก็รู้สึกชอบขึ้นมาเฉยๆ จนกลายเป็นว่าเราต้องค้นหาสิ่งที่คนแต่งต้องการสื่อ ค้นหาคอร์ดเพลงทั้งเพลง และหัดเล่นเพลงนั้นซ้ำๆจนเป็น
.
.
.
.
ผมคิดว่ามันเหมือนกับการตกหลุมรักของผม มีผู้หญิงคนหนึ่งที่แค่เจอกันครั้งแรกผมก็รู้ได้ทันทีว่าเธอพิเศษไปกว่าคนอื่นๆที่ผมเคยเจอ... มันติดอยู่ที่ว่า เริ่มแรกนั้นผมไม่รู้ว่าความพิเศษของเธอคืออะไร? -*-
.
.
.
.
.
โครงหน้า ดวงตา ริมฝีปากและผมดัดลอนยาว ........ผมยอมรับว่าเธอสวย สวยมากเลยล่ะ แต่ด้วยอาชีพของผมแล้ว เธอไม่ใช่ผู้หญิงสวยคนแรกที่ผมเคยเจอซักหน่อย
.
.
เธอขี้อายและค่อนข้างประหม่า ...... ผมมีรุ่นน้องที่ขี้อาย และไม่ชอบคุยกับเพื่อนต่างเพศอยู่หลายคนนะ
.
.
.
รสนิยมของเราเข้ากันได้ เรามีอะไรหลายอย่างเลยล่ะที่คล้ายกัน ..... จริงๆผมมีฝาแฝดต่างพ่อต่างแม่อยู่ 2 คนนะ เราสามคนเหมือนกันมาก และผมไม่ได้ตกหลุมรักพวกมันเลยซักนิด -*-
.
.
.
.
.
แล้วทำไม ช่วงเวลาที่เธอหันกลับมาสบตาของผม ประโยคแรกที่เธอเอ่ยทักทายด้วยความประหม่า มันถึงติดอยู่ในความคิดของผมตลอดเวลาแบบนี้ ผมเริ่มหาเหตุผลด้วยการทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น
.
.
.
.
.
ผมเล่นมุขไม่ค่อยฮาอ่ะ แต่ทำไมเธอหัวเราะดังจัง ........ยิ้มกว้างแบบนี้ไงที่น่ารัก
.
.
.
เอวเล็กมากกกก ... ทำไมกินเยอะล่ะ แถมแก้มตุ้ยๆตอนเคี้ยวอยู่เต็มปากนี้ อยากถ่ายรูปเก็บไว้ตลอด
.
.
.
ชอบอ่านนิยายแวมไพร์ เชื่อในรักนิรันดร์ .... เธอยังไม่คบใครมาก่อนเลย แต่กลับคิดว่าจะมีแค่รักแรกและรักเดียว ผมชักอยากจะเป้นคนๆนั้นของเธอแล้วซิ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ทุกครั้งที่เราเจอกัน กลายเป็นว่าผมคอยมองสำรวจทุกอย่างของเธอไปซะหมด จนอดไม่ได้ที่จะพูดคำชมหวานๆออกไป เพราะว่าเธอน่ารัก เพราะเธอเป็นเธอ ทุกๆอย่างที่เธอใส่ ทุกๆอย่างที่เธอทำ ทุกๆอากัปกริยา มันดูพิเศษกว่าทุกคนในสายตาของผม
.
.
.
.
เราไม่ค่อยได้มีเวลาเจอกัน ทุกครั้งที่เจอหน้า ผมถึงหลุดปากบ่อยๆคล้ายคนละเมอว่า ผมคิดถึงธอ
.
.
.
วันที่เธอใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าบูธ กับเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ ......... เธอน่ารักมากกกก
.
.
.
ตอนที่เธอทำท่าหยิ่งๆ เพราะงอนผมเรื่องที่ผมแกล้งให้เธอเสียใจแถมยังทำเคสโทรศัพท์หายไปไหนไม่รู้.. ..... เธอน่ารักเท่าโลกกกกเลยล่ะ
.
.
.
.
และชุดเจ้าสาวที่เธอใส่วันนั้น ...... ทำให้เธอกลายเป็น ผู้หญิงที่สวยที่สุดที่ผมเคยเจอ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมไม่รู้ว่าผมพูดมันออกมาบ่อยแค่ไหน ผมรู้แค่ทุกครั้งที่เธอได้ยิน ดวงตาของเธอวูบไหว แก้มกลมๆของเธอขึ้นสีแดงระเรื่อ บางครั้งเธอหลบตาไปอีกทาง บางทีก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน และบางครั้งเธอเปลี่ยนเรื่องคุย ร้ายที่สุดเธอจะทำใจกล้าจ้องตาผมกลับมาแล้วบอกว่าเธอไม่เชื่อคำที่ผมบอกด้วยเสียงอ่อยๆ
.
.
นั้นแหละ ช่วงเวลาที่เธอน่ารักที่สุด......ผมคงเป็นโรคจิตไปแล้วล่ะมั้ง -*-
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
มีคนเคยบอกว่า ยิ่งบอกคำหวานออกมาบ่อย ความหมายของมันจะยิ่งน้อยลง จนอาจเหลือเพียงแค่คำพูดพล่อยๆ ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่เคยห้ามปากได้สักครั้ง มันยากยิ่งกว่าให้เลิกกินเนื้อย่างของโปรดของผมซะอีก
.
.
.
.
.
ไม่เชื่อ คุณลองหลับตาจินตนาการดูซิ
.
.
.
.
.
.
.
.
ที่นั่งมุมด้านในสุดของร้านคาเฟ่คือผู้หญิงที่คุณชอบเธอมาก เธอสวมเดรสกระโปรงตัวหนากับคาดิแกนสีที่คุณเคยบอกว่าเหมาะกับเธอ ผมยาวของเธอถูกปล่อยปลิวสยายถึงกลางหลัง เธอหันหน้ามาตามเสียงเรียกของคุณ ริมฝีปากบางที่ค่อยๆขยับเอ่ยทักทายกลับมา ดวงตากลมโตคู่นั้นมองมาที่คุณคนเดียวเสมอ ทุกก้าวที่เธอเดินเข้ามา เหมือนมีตัวโน้ตเพลงบัดลาดช้าๆ วนเวียนเข้ามาอยู่ในหัวของคุณ และเมื่อเธอเดินมาหยุดตรงหน้า เธอทำให้คุณประหลาดใจด้วยการขยับมาใกล้จนปลายเท้าชิดกัน พร้อมกับยื่นแก้วโกโก้ร้อนมาอังที่แก้มของคุณเพื่อให้คุณอุ่นขึ้นจากอากาศหนาว คุณจ้องไปที่ตาของเธอและเธอสบตาคุณกลับ แก้มของเธอแดงเพราะว่าคุณทั้งคู่ยืนอยู่ใกล้กันมาก เธออมยิ้ม ดวงตาของเธอไหวสั่น คุณห้ามตัวเองไว้ไม่ได้จนเผลอยื่นมือไปโน้มตัวของเธอเข้ามาใกล้และบอกเธอถึงความรู้สึกทั้งหมดของคุณในตอนนั้น วินาทีที่คุณขยับตัวออกห่างเพื่อกลับมามองหน้าเธออีกครั้ง และพบว่าเธอหลุบสายตาลงต่ำ กัดริมฝีปากล่างเพื่อกั้นความรู้สึก คุณจะรู้ได้ทันทีว่าสำหรับคุณแล้ว
.
.
.
.
.
.
.
.
ทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นเธอ คือความสุขที่ทำให้หัวใจของคุณอิ่มเอม
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Dream ....
that I can never have again That was really sweet I think you are just like the dream
Dream .....
that I get to keep thinking about all day That was really sweet That’s you
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
-END-
4 notes
·
View notes
Text
SPECIAL : #1000dayswithTAEUN
.
.
.
.
.
.
.
[ OS ]
.
.
.
.
.
.
.
“ The Taemin that I know “
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
BGM : Latch - Disclosure
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
You lift my heart up when the rest of me is down You... you enchant me even when you’re not around
เธอ คนที่ทำให้หัวใจฉันเบ่งบาน แม้ยามที่ร่างกายทุกส่วนอ่อนล้า เธอ..... คนที่ร่ายมนต์สะกดฉัน กระทั่งยามที่เธอไม่ได้อยู่ใกล้ๆ
.
.
.
.
.
.
.
.
สิ่งที่ชอบในตัวพี่แทมินที่สุดคืออะไร?
.
.
.
.
.
.
.
พอมานึกดูก็คงต้องย้อนไปตั้งแต่วันแรกที่เจอกันแล้วล่ะมั้ง (´・ω・`)
.
.
.
.
เริ่มจาก “ รุ่นพี่แทมิน “ เลย
.
.
.
.
เวลาที่ได้เห็นรุ่นพี่บนเวที รู้สึกทุกครั้งเลยล่ะว่าเป็นคนที่เท่ห์มากๆคนหนึ่ง ทั้งการเต้น การแสดงออกทางสีหน้า พอได้มองทีไรก็คิดเสมอว่าอยากจะเก่งแบบนี้บ้าง รู้มาเหมือนกันว่าพี่แทมินนะ ซ้อมหนักอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าเป็นเมนเต้น ก็เลยต้องทำให้ออกมาให้ดีที่สุด เป็นหนึ่งในรุ่นพี่ในวงการที่น่ายึดถือเอาเป็นแบบอย่าง
.
.
.
.
.
.
.
If there are boundaries, I will try to knock them down I’m latching on, babe, now I know what I have found
ถ้ามีป้อมปราการขวางอยู่ ฉันจะพยายามทำให้มันพังทลายลงไป ตอนนี้ฉันว่า ฉันพบคนที่ใช่และฉันจะล็อคตัวเองไว้กับเธอ
.
.
.
.
.
.
.
เจ้าบ่าวแทมิน
.
.
.
.
.
อาาาา .... เขินเหมือนกันแหะ พอมาคิดถึงตอนนั้น (〃_〃)
.
.
.
.
.
.
คำว่าเจ้าบ่าว-เจ้าสาว ฟังดูลัดขั้นตอนความสัมพันธ์ไปซักหน่อย แต่เอาเข้าจริงๆแล้วตั้งแต่เจอกันที่เกาะเชจูครั้งแรก มันเหมือนการได้เริ่มทำความรู้จักใครซักคนตั้งแต่ 0 ลบภาพรุ่นพี่แทมินสุดเท่ห์ที่เคยเห็นไปหมดเลย
.
.
.
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณลี แทมิน
.
.
.
ระหว่างเราไม่เคยมีบรรยากาศของคู่แต่งงานอะไรแบบนั้นเลย เราเริ่มจากการเป็นคนแปลกหน้า แนะนำกันว่าเป็นใครมาจากไหน พี่แทมินคอยทำให้การพูดคุยของเราดูไม่น่าเบื่อ พอมาเจอคนเงียบๆแบบฉัน ไม่รู้ว่าจะรำคาญหรือเปล่า ต้องขอบคุณทุกครั้งที่ทำให้ฉันไม่รู้สึกแย่ แถมช่วยให้กล้าแสดงออกมากขึ้นกว่าเดิม เพราะว่าเขาเองก็พยายามจะรู้จักฉันทีละนิด ฉันเองก็ต้องพยายามด้วยเหมือนกัน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
I feel we’re close enough I wanna lock in your love I think we’re close enough Could I lock in your love, baby?
รู้สึกว่าเราใกล้กันมากพอแล้ว ฉันอยากถูกขังไว้ในความรักของเธอแบบนี้ รู้สึกว่าเราใกล้กันมากพอแล้ว
ล็อคประตูขังฉันไว้ในความรักของเธอได้ไหม?
.
.
.
.
.
.
ตอนที่ได้เบอร์โทรศัพท์ของอีกฝ่ายมา เกิดความรุ้สึกแปลกๆบางอย่าง ฉันเองเผลอคิดอยู่บ่อยครั้งในวันที่เราไม่ได้พบกัน ว่าถ้ามีวิธีติดต่ออีกฝ่ายก็คงจะดี พอได้รู้ว่าเขาเองก็คิดเหมือนกัน มันก็เลยทำให้หัวใจของฉันพองโต
.
.
.
.
.
.
ถึงจะแลกเบอร์โทรกันแล้ว แต่พี่แทมินก็ไม่ได้โทรหาหรือส่งข้อความบ่อยๆ เพราะว่างานของเรายุ่งมากทั้งคู่ แต่รู้อะไรไหม ทุกครั้งที่เขาส่งข้อความมา มันมักจะเป็นเวลาเดียวกับที่ฉันคิดถึงเขาเสมอ
.
.
.
.
อย่างตอนที่ฉันซ้อมหนักจนเกือบเช้าเพราะใกล้คัมแบค ข้อความแรกที่ได้รับจะมาจากพี่แทมิน
.
“ พักผ่อนด้วย อย่าดื่มกาแฟ ดูแลตัวเองนะ ..สู้ๆ“
(^ー^)
.
.
.
หรือยามบ่ายที่อากาศสดใส แต่แล้วฝนก็ตกลงมา
.
“พกร่มด้วย!! ฝนหลงฤดูจะทำให้เธอเป็นหวัดได้ง่าย ......นาอึนนี่ คิดถึงเธอจัง “
(´ヘ`;)
.
.
.
หรือตอนค่ำที่ท้องฟ้าสวยกว่าทุกวัน ..... คืนที่พระจันทร์เต็มดวง
.
“ มองฟ้าคืนนี้แล้วคิดถึงพี่เยอะๆนะ อปป้าก็กำลังคิดถึงนาอึนอยู่เหมือนกัน “
(^皿^○)
.
.
.
.
.
.
นั้นแหละพี่แทมิน ทุกช่วงเวลาที่ทำให้คิดถึงใครบางคนที่พิเศษ เขาทำให้ฉันรู้ว่าใครคนนั้นเป็นฉันเสมอ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Now I got you in my space I won’t let go of you Got you shackled in my embrace I’m latching on to you
และตอนนี้ฉันมีเธออยู่ในที่ของฉันแล้ว ฉันจะไม่มีวันปล่อยเธอไปไหน จะผูกติดเธอไว้ในอ้อมกอดฉัน ล็อคเราเอาไว้ให้อยู่ด้วยกันตลอดไป
.
.
.
.
.
.
.
พี่แทมินเป็นคนใจร้อน แม้กระทั่งความสัมพันธ์ของเราสองคน ผิดกับฉันที่ไม่ค่อยมั่นใจ ความรู้สึกของฉันถึงเป็นไปอย่างช้าๆ แต่เราทั้งคู่ก็หาทางมาเจอกันตรงกลางได้ไม่ยาก ความรู้สึกที่อยากมีอีกฝ่ายในชีวิตเป็นแรงผลักดันให้เกิดความพยายาม จนกลายเป็นวงกลมสองวงที่คล้องเกี่ยวกันไว้ เราต่างมีพื้นที่ของตัวเราเอง และพื้นที่ที่เรามีกันและกัน เป็นความสบายใจที่เรามอบให้อีกฝ่าย
.
.
.
.
ฉันชอบเวลาที่เราสองคนอยู่ด้วยกัน ฉันชอบความรู้สึกของเขาที่ส่งผ่านมาให้ฉันตลอดเวลา มันชัดเจนเสมอ ทั้งแววตาและการกระทำ ไม่จำเป็นต้องบอกให้ใครรู้ ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ใครเข้าใจ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
I’m so encaptured, got me wrapped up in your touch
Feel so enamored, hold me tight within your clutch How do you do it, you got me losing every breath What did you give me to make my heart beat out my chest
ฉันรู้สึกเหมือนถูกครอบครอง ถูกสัมผัสของเธอตระคองกอดไว้
หลงรักเธอเข้าแล้ว ได้โปรดโอบกอดฉันไว้ให้แน่น เธอทำแบบนั้นได้ยังไง? .... เธอทำให้ฉันเกือบหมดลมหายใจ แล้วเธอทำได้ยังไง? ทำให้หัวใจฉันกลับมาเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาอีกครั้ง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ลี แทมิน ผู้ชายของฉัน
.
.
.
.
งืออออ ... คำนี้น่าอายสุดๆเลย ≧△≦ ≧△≦
.
.
.
.
.
.
พี่แทมินที่ฉันรู้จัก ทุ่มเทให้กับสิ่งที่เขารักเสมอ เขารู้ว่าตัวเองชอบอะไร รู้ว่าควรจะทำอะไร รู้ว่าทำแบบไหนถึงจะอยู่กับสิ่งๆนั้นได้ พี่แทมินยังเป็นผู้ชายที่เท่ห์ที่สุดเวลาอยู่บนเวที และเป็น พาโบอปป้าคนเดิมเวลาที่อยู่กับฉัน
.
.
.
.
.
.
.
ผู้ชายที่ซ้อมเต้นจนลืมวัน ลืมเวลา พอได้ตั้งใจทำอะไร จะไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลย
.
.
“ ห๊ะ ..เมื่อวานวันเกิดจงอิน ... นาอึนนี่บอกไปหรือเปล่าว่าพี่ฝากอวยพรด้วยเหมือนกัน พี่ไม่เห็นข้อความที่เราส่งมาเตือนเลยนะ ทำไงดีหว่า “
(。_。*))((*。_。)
.
.
.
.
ผู้ชายที่พูดประโยคเดิมๆ ทำอะไรเดิมๆ เพราะเป็นคนไม่ละเอียดอ่อน
อย่างตอนที่เราทะเลาะกัน...............
.
“ นาอึน..อา จะไม่ทำอีกแล้ว หายโกรธเถอะนะ “
(TヘTo)
.
ประโยคขอโทษเดิมๆ ที่มาพร้อมกับกล่องเค้กร้านโปรดของฉันเหมือนเดิมทุกครั้ง
.
.
.
.
.
ผู้ชายที่ขี้ลืม ทำของหายง่ายๆ
.
“ หน้าจอแตกอีกแล้วอ่ะ เคสที่สปอนเซอร์ให้มาเมื่อวานก่อนหายไปไหนไม่รู้ ใส่ขายของแค่ครั้งเดียวเอง เมเนเจอร์ต้องว่าพี่อีกแน่ๆเลย นาอึนนี่ “
ヾ(;゜ロ゜)
.
.
.
.
.
.
ฉันจะไม่บอกว่าฉันรู้จักเขาดีที่สุด เพราะพี่แทมินมีบางด้านที่แสดงออกมาให้เพื่อนรักของเขาเห็นเท่านั้น ฉันไม่เคยคิดว่าจะเป็นที่หนึ่งในชีวิตของเขา เพราะฉันชอบพี่แทมินที่คิดถึงครอบครัวและทุกคนที่รักตัวเองก่อนเสมอ
.
.
.
.
.
ไม่ใช่ทุกคนที่จะตามหาคนที่คุณอยู่ด้วยแล้วสบายใจทุกครั้งเจอหรอกนะ ดังนั้นการได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขาคือความโชคดีของฉันแล้ว ฉันไม่เคยถูกคาดหวังให้ทำนู้นทำนี้ให้ ฉันไม่เคยถูกขอให้เปลี่ยนแปลงตัวเอง พี่แทมินให้โอกาสฉันเป็นตัวของตัวเองเสมอ เรามีความสุขกับวงกลมสองวงที่เกี่ยวพันกันไว้ในความสัมพันธ์นี้ เรายังเป็นตัวของตัวเองได้ เราดูแลกันและกันได้ และเราพร้อมที่จะเดินจับมือกันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
สำหรับ 1000 วันที่อยู่ด้วยกันมา ขอบคุณที่รักในความเป็นฉัน เหมือนกับที่ฉันรักในส่วนที่ขาดไป 2% ของคุณมากเหลือเกิน ขอบคุณตัวตนที่มีอยู่จริง ขอบคุณที่เป็นผู้ชายธรรมดาของฉัน ขอบคุณที่คนๆนั้นเป็นพี่ .......
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
..... ขอบคุณคะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Now I got you in my space I won’t let go of you Got you shackled in my embrace “ I’m latching on to you “
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
..
.
.
.
.
.
.
.
.
.
END
5 notes
·
View notes
Text
แทอึน 500 คำ (ตอนที่ 3)
.
.
.
.
.
.
.
.
[ แทอึน 500 คำ ]
.
ตอน : la la la la …….
.
( กรุณาออกเสียงเป็นทำนองเพลง Blue Breeze Blow ♪(>ω<o) )
.
นึกไม่ออกเชิญฟังได้ที่ >> https://youtu.be/URrb-QBaQYc
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ช่วงนี้ ig ของพี่แทมินมีแต่ตัวเลขกับเฉดสีหม่นๆ
.
.
.
LTM174 5093 ................... So far (´ヘ`;)
.
.
.
.
.
.
วันแรกของการเดินทางมาอีกซีกโลก
.
.
Hellooooooooo Vancouver!!!!
.
.
ทุกอย่างดูตื่นตาตื่นใจไปหมดเลย เหมือนกับการได้เที่ยวหลังปีใหม่ คุณรู้ใช่ไหมสวรรค์ของผู้หญิงคือการช้อปปิ้ง!!! เราชอบของสวยๆงามๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งเมืองสวยๆ บรรยากาศแสนดี และผู้คนแปลกตา
.
.
.
.
LTM174 1452 ....... Step closer (´_`。)
.
.
.
ที่ต่อมาของการทัวส์(มินิ)คอนเสิร์ต อากาศดี ท้องฟ้าสดใส #หัวใจก็เช่นกัน (≧∇≦) ถ้าไม่นับข้อความจากเด็กชายแทมินวัยประถมสี่ล่ะก็นะ โลกของฉันตอนนี้จะเป็นสีชอกกิ้งพิ้งค์ไปหมดเลย
.
.
และนี้คือข้อความจากคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ( ̄ー ̄)
.
.
นาอึน – อาาาา อปป้าเหนื่อยมากกก ขอกำลังจายโหน่ยยยยยยยย (TヘTo)
.
.
.
เป็นคนเดียวกับที่ส่งมาเมื่อ 2 วันก่อน
.
.
อปป้าไม่มีเวลาจะหายใจแล้ววววว ถ้าพี่ตายไป นาอึนนี่ต้องคิดถึงพี่มากๆนะ
T___________T
.
.
ช่วงนี้พี่แทมินยุ่งมาก และยิ่งยุ่งมากแค่ไหน สกิลการเรียกร้องความสนใจก็เพิ่มขึ้นแปรผันตามกัน
.
.
.
.
LTM174 369 …… in a jiffy ( ̄ー+ ̄)
.
.
.
.
วอ 1 เรียก วอ 2 ....
ช้อปปิ้งสนุกมากไหม มีเวลาตอบข้อความหรือเปล่าน้าาา (◎´ェ`)ゞ
.
.
.
.
ข้อความล่าสุดหลังจากที่ฉันและเพื่อนอัพรูปลง ig เด็กชายแทมินที่เหนื่อยและไม่มีเวลาแม้กระทั่งหายใจ ยังคงมีเวลาให้กับฉันเสมอ เป็นผู้ชายที่ดูใส่ใจดีใช่ไหมล่ะ
( ̄▼ ̄|||)
.
.
เฮ้อออออออออออออ
.
.
.
เอาเป็นว่ากดคอลไปหาเลยดีกว่า
.
.
.
.
ว่างเหรอคะ ถ้าไม่ตั้งใจทำงานให้ดี ฉันจะโกรธพี่จริงๆด้วย ¬ω¬
.
.
.
ม่ายยยยนะ นาอึนนี่ ...อปป้าพยายามโชว์ด้านสุดคูลลลลให้เธอดูอย่างเต็มที่เลย ヾ(´ε`*)
.
.
.
คนพูดหมุนกล้องไปมา เลยได้เห็นบรรยากาศที่ดูแปลกตากว่าปกติ
.
.
��าาาา ... คงถ่ายทำเสร็จแล้วซินะ
.
.
อยู่ไหนคะ (・・?
.
.
.
ด้านหลังของพี่แทมินเป็นทางเดินเลียบชายหาด ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าใสสุดๆ ลมพัดเบาๆกับเหล่าชายฉกรรจ์ที่กำลังคุยกันบ้าง ปั่นจักรยานบ้าง ชิลกันน่าดูเลยแหะ เริ่มอิจฉานิดๆแล้วซิ (*´;ェ;`*)
.
.
พี่มารอนาอึนนี่ ที่ท่าน้ำ Santa Monica ทุกวันเลยยยยย ~ヽ('ー`)ノ~
.
.
.
.
.
.
และฉันมาถึงที่สุดท้ายของการเดินทางอย่างปลอดภัย การบินหลายไฟท์ในรอบหนึ่งสัปดาห์ ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกเหนื่อยเลย ตรงกันข้ามร่างกายกลับรู้สึกได้รับการเยียวยา เราไม่ได้มามอบความสุขให้แฟนๆอย่างเดียว แต่เรามารับความรักจากทุกคนกลับไปด้วย อยากจะขอบคุณๆๆ ขอบคุณซ้ำๆอยู่แบบนี้ ขอบคุณจริงๆคะ ปีนี้ก็เหมือนกัน ฉันจะเติบโตเป็นคนที่ทุกคนภาคภูมิใจยิ่งขึ้นไปอีกให้ได้คะ!!! v(=∩_∩=)v
.
.
.
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.
.
โอ๊ะ นี้ภาพล่าสุดจาก ig พี่แทมินคะ แสงสุดท้ายของที่นี้สวยใช่ไหมคะ
.
.
.
... เราชอบมันมาก หวังว่าพวกคุณจะชอบเหมือนกัน
.
(*'────────────'*)
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
END
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
** 5093 ไมล์ คือระยะห่างของ Soul, South Korea กับ Vancouver BC, Canada
** 1452 ไมล์ คือระยะห่างของ Dallas TX กับ North Hollywood, Los Angeles
** 369 ไมล์ คือระยะห่างของ San Francisco CA กับ North Hollywood, Los Angeles
0 notes
Text
แทอึน 500 คำ ( ตอนที่ 2)
.
.
.
.
.
[ แทอึน 500 คำ ]
.
ตอน : แผนของเด็กอนุบาลหมีน้อย
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
พี่แทมินเป็นคนโลว์เทค ถึงเราจะเปลี่ยนโทรศัพท์เป็นแบบที่มีเทคโนโลยีล้ำสุดๆพร้อมกันเป็นรอบที่สองแล้ว แต่คนบางคนก็ยังใช้งานอยู่แค่ kakao talk / YOUTUBE และเว็บเสิร์ชเอนจิ้นอย่างNEVER ( ̄ー ̄)
.
.
อ้อออ เกือบลืม ฟังชั่นที่ผู้ชายคนนั้นใช้บ่อยที่สุดอีกอย่าง
.
.
.
FaceTime
.
.
..
.
.
นาอึน ~ อา ......
สมัครแอคเค้าท์ instagram ให้พี่หน่อยซิ (´・ω・`)
o(゜ー゜*o) เอออ๋..ทำไมถึงอยากเล่นล่ะคะ
ก็...ก็ ..ก็นาอึนนี่ก็มีใช่ไหมล่ะ แล้วอีกอย่างคราวก่อน เจ้าหมูควอนโฮทำมาเป็นพูดว่าเพราะพี่ไม่มี ig ก็เลยไม่ได้แท็กรูปอยู่คนเดียว (→o←)
.
.
.
อา ... เด็กอนุบาลแทมิน อยากได้หุ่นยนต์รบไปอวดเพื่อนแก็งค์หมีน้อยซินะ (。。;)
.
.
.
พอวางสายเฟสไทม์ เสียงข้อความก็ดังขึ้น พี่แทมินส่งอีเมลล์และรหัสผ่านพร้อมชื่อแอคเค้าท์มาให้เสร็จสรรพ แถมให้เลือกรูปที่ยืนหันหลังมองทะเลเป็นรูปดิสเพลย์อีก
.
.
.
ทำตามคำขอเสร็จก็ส่งชื่อและรหัสผ่านกลับไปให้เจ้าตัว ผ่านไปไม่ถึงนาที พี่แทมินก็ส่งรูปยิ้มเห็นฟันครบทุกซี่กับหน้าจอมือถือที่กำลังเปิดโปรแกรม ig อยู่กลับมา ตอนนี้คงกำลังตามให้เพื่อนมาฟอลตัวเองอยู่แน่ แปลกใจเหมือนกัน คนที่ไม่ค่อยยอมตอบข้อความเพื่อน กลับอยากจะเล่น ig ขึ้นมาเฉยๆ
.
.
.
พวกเรากำลังซ้อมการแสดงพิเศษสำหรับงานสิ้นป��� เพราะว่ามีเวลาน้อยมาก วันนี้ทั้งวันฉันเลยอยู่แต่ในห้องซ้อม ส่วนของพี่แทมินเห็นว่าซ้อมใหญ่ไปแล้วเมื่อวานก่อน ไม่ยอมบอกว่าแสดงอะไร แค่ว่าให้รอดูเองวันงาน (・・?
.
.
ซ้อมกันอยู่เกือบ 2 ชม. ก็ถึงเวลาเบรก หยิบมือถือมาเช็คดูก็เห็นแจ้งเตือนคนฟอลโลวจากไอจี จะเป็นใครไปได้นอกจากคุณแทมิน และข้อความที่บอกว่าถ้าว่างแล้วให้รีบโทรกลับมา
.
.
.
.
นาอึน ~ อา ......
.
เริ่มประโยคแบบนี้ทุกทีเลยซินะ เด็กอนุบาลแทมิน (´_`。)
.
สอนอปป้าลงรูปกะวิดีโอเท่ห์ๆหน่อย (人゛ ∀゛)。
.
.
.
.
ผู้ช่วยของฉัน คิมนัมจู เด็กสาวแห่งโลกโซเชียลเป็นคนทำหน้าที่สาธิตวิธีให้และฉันอัดคลิปส่งไป
.
.
ออนนี่ ทำไมอปป้าถึงจะมาหัดเล่น ig ล่ะคะ ?
มันเป็นเรื่องของแก็งค์เด็กอนุบาลนะนัมจู-ย่าา พี่เองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันแหละ (。_。*)
.
.
.
.
.
.
.
เราออกจากห้องซ้อมกันเกือบเที่ยงคืน ตอนนี้ฉันคิดถึงเตียงนอนนุ่มๆมาก พอขึ้นรถตู้มาได้ก็หยิบมือถือมาเปิดเครื่อง มีการแจ้งเตือนเข้ามาเยอะเลย แต่สิ่งที่แปลกตาที่สุดคงเป็น
.
.
.
Kwonho799 mentioned you in a comment : คลิปมันแท็กคนอื่นได้ที่ไหนล่ะ พาโบแทมินนี่!! @naeunnnn คู่นี้หวานกันน้อยๆหน่อยได้ไหม สงสารคนโสดบ้าง (TヘTo)
.
.
พอกดเข้าไปดูใน ig ก็เจอคลิปที่พี่แทมินลงไว้เป็นคลิปแรก
ผู้ชายใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวในคลิปนั่งอยู่หน้าแกรนด์เปียโน ยิ้มให้กล้องแล้วพูดว่า
เซอร์ไพร์ส!!!(^皿^○)
ก่อนจะเริ่มเล่นเพลง because I love you ของรุ่นพี่ Yoo Jae Ha
“ The first time I felt your gaze......
.
.
.
จนถึงท่อน But now I realize, I was only yours พี่แทมินก็หยุดเล่นก่อนจะพูดว่า อปป้าเท่ห์สุดๆเลยใช่ไหมล่ะ (≧艸≦)
.
.
.
.
.
.
.
อา ........... นี้เองซินะเหตุผลที่วันนี้ถามมาทั้งวัน
.
.
.
.
.
พาโบ อปป้า ..... หน้าฉันร้อนไปหมดแล้ว ≧△≦ ≧△≦
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
END
.
.
.
.
ดูคุณแทมินสุดเท่ห์เล่นเพลงเต็ม >>> https://youtu.be/z2vd-9FJjPw?t=22s
3 notes
·
View notes
Text
แทอึน 500 คำ
.
.
.
.
.
[ แทอึน 500 คำ ]
.
.
ตอน : พาโบ คัพเพิล
.
.
.
.
BGM : Geeks - 답답해
.
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
นาอึน ~ อาาาาาาา .....
.
.
เสียงเรียกของคนเพิ่งตื่นดังออกมาจากห้องนอน ในตอนที่ฉันกำลังอ่านวิธีทำพาจอน เพื่อจะทำเป็นมื้อกลางวันอยู่ พอหันไปดูเวลาก็เกือบ 11 โมงแล้ว นี้คงเพิ่งจะลืมตาตื่นขึ้นมาไม่ถึงนาทีแน่ๆ
.
.
มาแล้วคะ ...
.
.
.
และก็เป็นอย่างที่คิด ผู้ชายตรงหน้ายังลืมตาได้แค่ข้างเดียว ผมสีบรอนซ์สว่างชี้ไปมาไม่เป็นทรง พี่แทมินกำลังนั่งกอดหมอนพยายามเรียกสติอยู่บนเตียง พอได้ยินเสียงขานรับก็ส่งยิ้มกว้างตาหยีมาให้
.
>∀<
.
.
มานั่งนี้เร็ว
.
พูดพร้อมกับตบบนฟูกที่ว่างข้างตัวเบาๆ เวลาเพิ่งตื่นนอนพี่แทมินจะเอาแต่ใจพิเศษแบบนี้เสมอ ถ้าไม่รีบเดินไปหาล่ะก็นะ คงได้พาลกันทั้งวันเป็นแน่
.
.
(づ ̄ ³ ̄)づ
Do you want to kiss me?
(・・? )……. Why?
Why not?
………?
Just morning kiss !! (^皿^○)
Noooooo ( ̄ー ̄)
.
.
นาอึน ~อาาาาาา (TヘTo)
.
เด็กชายแทมินเตะขาไปมาอยู่บนที่นอนเพราะถูกขัดใจ ผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังเป็นผู้ชายที่น่าแกล้งที่สุดของฉันเหมือนเดิมเลยล่ะ
.
.
.
โอเคๆ พี่รู้แหละ เป่ายิ้งฉุบกัน (人゛ ∀゛)。
.
.
พี่แทมินเงยหน้าขึ้นมาจากหมอนที่กอดเอาไว้ หลังจากระบายอารมณ์อยู่พักใหญ่ คงนึกวิธีการแก้ปัญหาได้แล้วซินะ
.
.
แต่ฉันเป่ายิ้งฉุบไม่เก่งนี้นา (。。;)
อย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆซิ นาอึนนี่ ...ครั้งนี้เธอต้องชนะพี่แน่ๆ (゜ω゜)
.
คนพูดแสดงความจริงใจโดยการจ้องตาไม่กระพริบ
.
.
.
โอเคค่ะ แล้ววว ....คนชนะได้อะไรคะ?
.
ถ้าเธอชนะ พี่จะทำตามที่เธอขอ 1 อย่าง แต่ถ้าพี่ชนะ พี่ก็จะได้จูบ (≧∇≦)
.
ยิ้มซะจนโหนกแก้มเห็นชัดขนาดนี้ คงจะปฏิเสธไม่ได้แล้วมั้ง
.
.
.
.
เอาละนะ .......
เป่า .... ยิ้ง ..... ฉุบ
.
.
.
.
ฉันออกค้อน และคุณแทมิน...........
.
.
.
.
.
.
............. ออกกระดาษ (´・ω・`)
.
.
.
.
.
นาอึนนี่ ผู้น่าสงสาร …. เธอต้องจูบพี่แล้วล่ะ ψ≧∪≦ψ
.
((゜д゜;))).
.
.
.
.
พี่แทมินยกมือลูบหน้าแรงๆ 2 ครั้ง แล้วเอียงแก้มซ้ายป่องๆรอ
.
.
อา ...เด็กน้อยแทมินนี่
.
.
.
.
.
จุ๊บ !
.
.
.
.
พอริมฝีปากของฉันกำลังจะกดลงไปโดนแก้มป่องๆนั้น พี่แทมินก็หันกลับมา เลยกลายเป็นว่าสิ่งที่มันได้สัมผัสกลับเป็นริมฝีปากของอีกฝ่ายแทน
.
.
>__________________________________<
.
.
พอถอยตัวห่างออกมา ก็ได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนตรงหน้า ยิ้มที่กว้างกว่าตอนนี้คงจะไม่มีอีกแล้วล่ะมั้ง (◎´ェ`)
.
.
.
.
อาาาาา ......ตื่นเต็มตา สดชื่นจริงๆเลยเน๊าะวันนี้ .. ♪(>ω<o)
.
พี่แทมินบิดตัวไปมาอยู่ 2-3 ครั้งก็ลุกออกจากเตียง เดินตรงไปหยุดที่ประตูหน้าห้องน้ำ โดยไม่ลืมที่จะพูดจาเยาะเย้ยคนแพ้อย่างฉันอีกนิดหน่อย
.
.
.
พาโบ นาอึนนี่ ....
รู้ไหมเวลาที่เราเล่นเป่ายิ้งฉุบกัน เธอจะออกค้อนก่อนทุกครั้งเลย ...เธอถึงได้แพ้พี่ตลอดไงล่ะ (*≧V≦*)
.
.
พี่แทมินยิ้มยีฟันให้ดูอีกครั้งแล้วก็รีบเข้าห้องน้ำไป คนอารมณ์ดียังส่งเสียงฮัมเพลงดังออกมาให้ได้ยินตลอด
*´∀`)*´∀`)´∀`)*´∀`)♪
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เฮ้อออออออ .......
.
.
.
.
.
พี่แทมินคนโง่ .... ฉันออกค้อน เพราะฉันรู้ว่า ฉันจะแพ้พี่ตั้งหากล่ะ
(。_。*))((*。_。)
.
.
.
.
.
.
END
1 note
·
View note
Text
So...this is CHRISTMAS
ONE SHOT
.
.
.
[So… This Is Christmas]
.
.
.
.
Taemin x Naeun
.
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.
.
BGM : HAPPY CHRISTMAS - MAROON 5
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
What do you what for Christmas ?
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ คริสต์มาสปีนี้อยากได้อะไรค่ะ? “
.
.
.
.
คำถามจากนาอึนเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ตอนที่เราสองคนนั่งอยู่บนรถของผม ในมือของเราทั้งคู่มีคัพเค้กที่นาอึนกับโชรงนูน่าลองหัดทำ เธอสวมโค้ทสีดำ แก้มเธอแดงนิดหน่อยเพราะอากาศหนาว และน้ำหอม Salvatore Ferragamo Incanto Shine ของเธอยังคงร้ายกาจเสมอ กลิ่นหอมของมันทำให้ผมใจเต้นได้ทุกที
.
.
.
.
.
ผมใช้นิ้วโป้งเช็ดครีมที่เปื้อนอยู่ข้างแก้มออกให้นาอึน ก่อนจะส่งมันเข้าปากตัวเอง เธอกระพริบตาถี่ๆเพราะอาการประหม่า ผมยิ้มให้เธอและเริ่มกินคัพเค้กต่อ
.
.
.
.
“ พี่ก็แค่อยากลองชิมครีมสตอเบอร์รี่ดูบ้าง “
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ แล้ว....คริสต์มาสปีนี้อยากได้อะไรคะ “
.
.
.
.
.
นาอึนถามซ้ำอีกครั้ง หลังจากกินคัพเค้กของเธอหมด เปิดกระบอกเก็บความร้อนและรินชาใส่แก้ววางเตรียมไว้ให้ผม ผมมองตรงไปข้างหน้า แม่น้ำฮันตอนกลางคืนยังสวยอยู่เสมอ
.
.
.
.
.
“ นาอึน-อาาาา...ดูซิ ..ไฟดาวตกตรงนั้นสวยมากเลย “
.
.
.
.
และเป็นอีกครั้งที่ผมไม่ได้ตอบ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เวลาของความสุขผ่านไปเร็วเสมอ เรามีเวลาอยู่ด้วยกันไม่ถึงยี่สิบนาที แต่ผมว่ามันคุ้มกับการขับรถมารอเธอที่กำลังฝึกซ้อมอยู่เกือบๆสามชั่วโมง ผมขับรถมาส่งเธอที่หอพัก และก่อนจะลงรถนาอึนก็ยังไม่ลืมที่จะทวงคำตอบ
.
.
.
.
.
“ พี่แทมินยังไม่ได้ตอบคำถามนะคะ “
.
.
.
.
.
.
นาอึนปลดสายคาดเบลล์ออก ผมเอื้อมตัวไปหยิบผ้าพันคอที่เบาะด้านหลังมาพันปิดถึงครึ่งหน้าให้ แก้มป่องๆของเธอดูน่าหยิกขึ้นทุกทีที่อากาศหนาว ผมใช้หลังมือลูบแก้มขวาของเธอเบาๆ ก่อนจะสอดมือทั้งสองข้างไปที่กลุ่มผมที่เริ่มยาวของเธอ โน้มตัวไปจูบที่หน้าผากเล็กๆนั้น และครั้งนี้ผมตอบคำถาม
.
.
.
.
.
.
.
.
“ ที่พี่ไม่ตอบเพราะว่านาอึนนี่ ถามคำถามที่ตัวเองก็รู้คำตอบอยู่แล้วไงครับ ^ ^ “
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
If it’s for you I can give my all …
to become a man who can always stay by your side
.
.
.
.
.
.
.
.
.
สองอาทิตย์ที่ผ่านมาตารางงานผมแน่นเอี้ยด ช่วงเดือนธันวาคมจะเป็นแบบนี้เสมอ มีการแสดงพิเศษสำหรับงานสิ้นปีหลายๆงาน ผมใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อจำการแสดงแต่ละสเตจให้ได้อย่างเร็วที่สุด ผมซ้อม ....ซ้อม และก็ซ้อมอยู่อย่างนั้น จนแทบไม่ได้นอนพัก ผมไม่ได้คุยกับนาอึนอีกเลยหลังจากวันนั้น มีแค่การส่งข้อความหากัน เป็นแบบที่ผมส่งไปอรุณสวัสดิ์เธอตอนหกโมงเช้าหลังจากเพิ่งเลิกซ้อม และเธอตอบกลับมาตอนเที่ยง บอกให้ผมอย่าลืมหาอะไรกินด้วย ซึ่งกว่าผมจะได้อ่านมันก็ตอนที่ฟ้ามืดลงแล้ว
.
.
.
เวลาของเราไม่เคยตรงกัน แต่มันไม่ใช่ปัญหา เพราะว่านาอึนไม่ได้ส่งแค่ข้อความมา เธอส่งความห่วงใย ส่งความรัก ส่งความคิดถึงมาด้วยตลอด และทุกคำในนั้น ทำให้ใจผมอุ่น
.
.
.
.
.
.
.
สิ่งพิเศษที่สุดของนาอึนคือ ทุกครั้งที่ผมคิดถึงเธอ ผมพยายามมากขึ้น ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเธอ มันเติมพลังให้ผมเข้มแข็ง และทุกครั้งที่ผมสัมผัสเธอ ชีวิตทั้งหมดของผมถูกเติมเต็ม
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมมีความฝัน นาอึนก็ด้วย เราพยายามเพื่อฝันของเรามาตลอด โชคดีที่ฝันของนาอึนและผมอยู่บนเส้นทางเดียวกัน ผมมันโง่เง่าที่ตอนนั้นจะทิ้งทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอ จนลืมคิดไปว่า ถ้าผมทิ้งทุกอย่าง ผมอาจไม่ได้เสียแค่ความฝัน แต่ผมจะเสียเธอไปด้วย ผมจะเป็นคนธรรมดาไปทำไม ผมจะรักเธอได้ยังไงถ้าเราไม่ได้ยืนอยู่บนโลกเดียวกัน ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงให้อภัยความโง่เขลานั้น ขอบคุณพระองค์ที่มอบโอกาสอีกครั้งให้ผม
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากที่ซ้อมหนักมาหลายวัน ความพยายามของผมส่งผลสำเร็จตามที่คิด และเพราะว่านี้คือคริสต์มาส ผมถึงได้รับความใจดีให้กลับบ้านได้ก่อนสี่ทุ่ม โอกาสสุดท้ายของการพักผ่อนคงจะมีแค่คืนนี้เท่านั้น ผมมีมุมโปรดในห้องนอน ฝั่งด้านซ้ายของห้องที่ติดระเบียง เดย์เบดขนาดใหญ่ โปรเจคเตอร์ฉายหนัง พรมนุ่มๆที่พื้นสำหรับอดัมและอีฟ ไฟประดับบนต้นคริสต์มาสขนาดหย่อมกระพริบช้าๆ มีตุ๊กตาหมีสองตัววางอยู่ข้างๆ ผมปรับฮีทเตอร์เพื่อทำให้ห้องอุ่นขึ้นกว่าเดิม เปลี่ยนจากชุดวอร์มมาใส่ชุดนอนแขนยาวตัวหนา และนั่งรอเวลาให้ของขวัญคริสต์มาสปีนี้มาถึง
.
.
.
.
.
..
.
.
.
เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นทำลายความเงียบ สามชีวิตในห้องสะดุ้งตกใจ อีฟกระโดดลงจากตักผมและวิ่งนำไปก่อน อดัมตามไปติดๆ และผมเดินรั้งท้าย
.
.
.
เปิดประตูโดยไม่ส่องตาแมวดูก่อน ผมคิดว่าตัวเองเป็นเด็กดีนะ ซานต้าคงไม่ใจร้ายกับผมหรอก ......
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ ไก่ทอดที่สั่งมาส่งแล้วครับ “
.
.
.
.
.
... น่าผิดหวังชะมัด -*-
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
พอใกล้จะเที่ยงคืน หิมะก็ตกลงมา ธรรมชาติมักรู้เวลาเสมอ เพราะนี้คือคืนคริสต์มาสอีฟ อะไรจะดีไปกว่าเบียร์กับไก่ทอด ผ้านวมผืนใหญ่ และกรอบหน้าต่างที่มองเห็นหิมะกำลังตก
.
.
.
.
.
.
.
.
แรงยวบจากเบาะนั่งทำให้ผมเริ่มรู้สึกตัว ผมเผลอหลับไปตอนที่กำลังดูหิมะตกอยู่เพลินๆ อีฟคงจะกระโดดขึ้นมาหาที่ซุกตัว ผมกระชับผ้าให้คลุมกายมากขึ้นอีกเพราะรู้สึกว่าอากาศในห้องเริ่มหนาว
.
.
.
.
.
.
.
ผมได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังเดินไปเดินมา ตอนนี้ตาของผมหนักเกินกว่าจะลืมขึ้น ประสาทสัมผัสอื่นก็ยังไม่ทำหน้าที่เพราะความง่วง แต่ผมคิดว่าผมจำกลิ่นนี้ได้ มันลอยปนมากับกลิ่นของเนยหอมๆ ปนมากับกลิ่นชอคโกแลต กลิ่นที่หอมกว่าของหวานชนิดไหน กลิ่นที่ทำให้ใจผมเต้นทุกครั้ง
.
.
.
.
.
.
.
อาาาาา ........... Salvatore Ferragamo Incanto Shine ของนาอึน
.
.
.
.
.
.
.
.
ภาพแรกที่เห็นหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมาได้สำเร็จ คือแสงเทียนปักเค้กที่อยู่บนโต๊ะ และแสงต่อมา ที่สว่างกว่า คือดวงตาของนาอึน ... เธอส่งยิ้มให้ผม และพูดคำที่ไพเราะที่สุดในค่ำคืนนี้
.
.
.
.
.
“ Merry Christmas คะ พี่แทมิน ^ ^ .... “
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
และเป็นอีกปี ที่นาอึนให้ของขวัญเพียงอย่างเดียวที่ผมอยากได้ในวันคริสต์มาส
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
[ You are the one that I stay up all night thinking about, and I wake up deeper and deeper in love with you ]
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.... so this is Christmas I hope you have fun The near and the dear one The old and the young A very Merry Christmas And a happy New Year Let's hope it's a good one Without any fear
.
.
.
.
-END-
1 note
·
View note
Text
OS Special - “ Mr. florist “ [ For My Birthday ^ ^]
[ OS ]
.
.
.
“ Mr. florist “
.
.
.
.
.
.
Taemin x Naeun
.
.
.
.
.
.
.
BGM - Meghan Trainor - Like I'm Gonna Lose You ft. John Legend.
.
.
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ดอกสึบากิ – การยกย่อง
”คุณคือคนรักในอุดมคติ... เป็นเหมือนของขวัญนำโชคของผม”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมตกหลุมรักผู้หญิงอยู่คนหนึ่งมาเกือบ3ปีแล้ว ทุกวันเสาร์ที่ 2 ของเดือน เธอจะมารอคนรักที่หน้าสถานีรถไฟ เธอสวย แต่ก็ดูเย็นชา ทุกครั้งเธอจะสวมเดรสกระโปรง สะพายกระเป๋าข้างใบเล็ก ดวงตาของเธอสดใส เธอจะนั่งรอที่โต๊ะริมกระจกฝั่งที่มองเห็นประตูทางออกของสถานีได้ชัดที่สุด หน้าร้อนเธอจะสั่งอเมริกาโน่เย็น หน้าหนาวผมเห็นเธอชอบจิบคาปูชิโน่ร้อน และฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาเธอสั่งโกโก้มิ้นต์ทุกครั้ง
.
.
.
สิ่งที่เธอไม่เคยรู้เลยคือคนรักของเธอจะมาถึงก่อนเวลาเสมอและแวะที่ร้านขายดอกไม้ของผม เขาซื้อดอกสึบากิสีขาวดอกใหญ่ที่สุดในร้าน จ่ายเงินในราคาเดิมทุกครั้งและไม่รอเอาเงินทอน จนกลายเป็นว่าทุกต้นเดือน ผมจะสั่งดอกสึบากิพันธ์ที่ดีที่สุดมาเตรียมไว้ให้ ผู้ชายคนนั้นจะเดินไ���ที่ร้านหนังสือฝั่งตรงข้ามกับร้านกาแฟ เลือกหนังสือตรงชั้นติดกระจกและคอยมองเวลาที่คนรักมาถึง เขาจะรอจนใกล้จะถึงเวลานัดจริงๆ ถึงจะออกจากร้านหนังสือไปพบเธอ ผมไม่เคยเข้าใจการกระทำของเขาจนกระทั่งได้มองตามไป
.
.
มันเป็นช่วงเวลาที่เหมือนได้ตกหลุมรักทุกวัน ใครกันจะอยากพลาดเวลาที่ได้มองอากัปกิริยาน่ารักแบบนั้น ภายนอกที่เหมือนตุ๊กตาญี่ปุ่นดูเย็นชาและไม่แสดงสีหน้าใด แต่กลับออกอาการประหม่าทุกครั้งที่ใกล้ถึงเวลานัด สายตาที่เธอมองไปที่ประตูทางออกสถานีด้วยความมุ่งหวัง ท่าทางแบบเด็กๆเวลาที่เธอจิบเครื่องดื่มเพื่อลดความตื่นเต้น หรือแม้กระทั่งรอยยิ้มเล็กๆที่เผลอแสดงออกมาตอนกำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ
.
.
ผมเคยคิดว่าเขาช่างน่าอิจฉา ก็แน่ละ ผมหลงรักคนมีเจ้าของ หมดสิทธิ์ครอบครองทุกกรณี แต่เพราะว่าคนรักของเธอคือผู้ชายคนนั้น ทุกอย่างที่เขาทำให้เธอ มันเหมือนว่าเธอคือสิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิต ผมถึงรู้สึกยินดีไปกับเธอด้วย มันเป็นความรู้สึกอิ่มเอมใจ ทุกครั้งเวลาที่ผมได้เห็นดวงตาพราวระยับคู่นั้นกับรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า ตอนที่เขาเดินมานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามและยื่นดอกสึบากิให้เธอ แม้รอยยิ้มนั้นจะไม่ได้เป็นของผมก็ตาม.........
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ดอกไฮเดรนเยีย - แทนคำขอบคุณ
ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกัน
ขอบคุณที่ไม่ถือสาความเย็นชาของฉัน
ขอบคุณนะ....ที่รักและห่วงใยฉันเสมอมา
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมรู้สึกว่าชีวิตช่วงนี้มันน่าเบื่อ เกือบครึ่งปีแล้วที่ผมไม่ได้พบเธอ ที่นั่งริมกระจกในวันเสาร์ที่ 2 ของเดือน ว่างเปล่า ไม่มีรอยยิ้มสดใสนั้น และดอกสึบากิดอกใหญ่ที่สุดของผมถูกทิ้งรวมไว้กับขยะอื่นๆทุกสิ้นเดือน
.
.
.
เธอหายไป..................... เขาคนนั้นก็ด้วย
.
.
.
.
.
.
.
ผมพยายามคิดในแง่ดีว่า หากเธอไม่ต้องมารอเขาที่หน้าสถานีรถไฟแล้ว คงเป็นเพราะเขาย้ายมาอยู่ที่นี้และไม่ต้องเดินทางอีก ซึ่งเป็นเรื่องดี มันคงจะทำให้เธอยิ้มกว้างที่สุด แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ไม่ได้เลิกสั่งดอกสึบากิในทุกต้นเดือนอยู่ดี ก็แค่เผื่อเอาไว้ ถ้าวันไหนผู้ชายคนนั้นแวะมาเพื่อซื้อมันอีก ผมอยากให้เธอได้รับดอกสึบากิที่สวยที่สุดในเมืองไป
.
.
.
.
.
.
อาทิตย์ที่แล้ว ผมแทบไม่มีเวลาว่าง มีงานที่โบสถ์ในตัวเมือง เป็นพิธีงานศพที่ผมคิดว่ามันดูแปลกกว่างานอื่นๆ ผมถูกกำชับจากเจ้าของงานว่าให้ใช้ดอกไฮเดรนเยียเป็นตัวหลัก ดังนั้นจึงมีดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าและขาวกว่าสามพันดอกภายในงาน ซึ่งมันทำให้บรรยากาศในงานดูคล้ายพิธีแต่งงานซะมากกว่า ผมจัดดอกไม้ในคืนก่อนวันงาน ผม รู้เพียงแค่คนที่นอนอยู่ในโลงที่ผมจัดช่อดอกไม้ด้านบนให้ เป็นผู้ชายอายุรุ่นเดียวกันกับผม และเพราะมันคืองานที่ค่อนข้างใหญ่ มีคนมาร่วมงานหลายร้อยคน ผมถึงรู้ว่าเขาเป็นที่รักของคนมากมาย จะมีคนร้องไห้ในงานกี่คนกันนะ ผมไม่อยากให้เขาเศร้าเกินไป ผมถึงตั้งใจจัดดอกไม้ให้สวยที่สุดเท่าที่จะทำได้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
คาร์เนชั่นสีชมพู - “ ฉันจะไม่ลืมคุณ “
.
.
.
.
.
.
.
.
เดือนธันวาคมเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง เช้านี้งานผมจึงยุ่งกว่าทุกวัน ได้นั่งพักจิบคาปูชิโน่ร้อนเอาตอนเกือบจะ 11 โมง ฤดูหนาวมาเยือนได้เกือบสามสัปดาห์แล้ว หิมะแรกตกไปเมื่อคืนวาน และวันนี้อากาศก็ยังคงหนาวจับใจ มือของผมเริ่มอุ่นขึ้นเพราะความร้อนจากแก้วกาแฟ ทุกครั้งที่ยกมันขึ้นจิบ ผมคิดถึงเธอคนนั้น ตอนนี้เธออาจจะนั่งอยู่ใต้โต๊ะโคทัตสึ ค่อยๆจิบกาแฟไประหว่างที่เขาคนนั้นกำลังอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ ผมอยากให้เธอมีความสุข
.
.
.
.
.
เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังในขณะที่ผมกำลังจัดช่อดอกไม้ในตะกร้าตามออเดอร์ที่โทรมาสั่งไว้อยู่หลังร้าน ผมตะโกนบอกให้เขาเดินชมดอกไม้ในร้านรอก่อน เพราะอยากผูกริบบิ้นให้เสร็จทีเดียว
.
.
.
หอบตะกร้าดอกไม้ใบใหญ่ออกมาหน้าร้าน กลิ่นหอมสะอาดที่ไม่ได้มาจากดอกไม้ดอกใดในร้านลอยมาเตะจมูก ผมชอบมันจัง เหมือนได้สูดกลิ่นอากาศยามเช้า ทั้งสดชื่น ทั้งสดใส ....
.
.
.
ผู้หญิงผมยาวปะบ่าสีน้ำตาล เธอสวมโค้ทสีดำตัวยาวกับกางเกงยีนส์สีดำเข้ารูป รองเท้าหนังส้นสูงก็ยังเป็นสีดำ มีเพียงผ้าพันคอผืนนุ่มที่เป็นสีครามสลับน้ำเงินเข้มพันปิดรอบคอบจนจนเกือบครึ่งใบหน้า
.
.
ผมจำเธอได้เพียงแค่เห็นดวงตาคู่นั้น แม้ว่าวันนี้เธอจะดูแปลกตากว่าทุกครั้งที่เคยเห็นก็ตาม ด้านหน้าของเธอคือโซนที่แช่ดอกไม้เฉดสีขาวชมพูไปจนถึงแดงเข้ม เรียงเต็มผนังด้านนั้น ลูกค้าชอบบอกว่าผมจัดร้านแปลกกว่าร้านขายดอกไม้ในเมืองร้านอื่น แต่มันก็ดูสวยที่สุดเหมือนกัน
.
.
.
.
ผมเกือบลืมวิธีหายใจตอนที่เธอเดินตรงเข้ามาที่เคาน์เตอร์แล้วสั่งให้ผมจัดช่อดอกไม้เล็กๆให้ เธอคงคิดว่าผมป่วยตอนที่ผมกระแอมไอเสียงดังเรียกสติให้ตัวเองเพราะเผลอจ้องหน้าของเธอนานเกินไป ดวงตาของเธอดูสงบนิ่ง เย็นชา และโดดเดี่ยว ผมคิดว่ามีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้น
.
.
.
.
และผมคิดว่าตัวเองคิดถูก เมื่อเธอเลือกดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าพาสเทลกับคาร์เนชั่นสีชมพูมาให้จัดช่อ ผมให้เธอเลือกสีริบบิ้นและเธอชี้ไปที่ริบบิ้นขาวลายดอกไม้ ซึ่งทำให้ผมอมยิ้มได้ไม่ยาก ผมเพิ่งจะซื้อริบบิ้นนั้นมาเมื่อวันก่อนเพราะมันทำให้คิดถึงชุดเดรสกระโปรงสวยของเธอ บางทีผมอาจจะชอบเธอมากกว่าที่ตัวเองคิดก็ได้
.
.
.
.
เธอจ่ายเงินในราคาที่สูงกว่าค่าดอกไม้โดยไม่รอรับเงินทอน แต่ก่อนที่เธอจะเดินไปถึงประตูหน้าร้าน หิมะก็ตกลงมาพอดี ดวงตาของเธอดูหม่นลงกว่าเดิม ผมรู้สึกแย่นะที่มันเป็นแบบนั้น ผมคิดถึงดวงตาคู่สวยที่เคยดูสดใสกว่านี้ ผมหยิบร่มที่วางไว้ข้างเคาน์เตอร์เดินไปยื่นให้ และเป็นอย่างที่คิด เธอปฏิเสธที่จะรับมันไว้ในคราวแรก ผมบอกเธอว่าถ้าช่อดอกไม้โดนหิมะมันจะเปียก กว่าที่มันจะไปถึงผู้รับมันคงจะไม่สวยแบบนี้ เธอดูลังเลแต่สุดท้ายก็รับมันไว้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
กุหลาบสีขาว – พอใจที่ได้รัก แม้จะไม่ได้สิ่งใดกลับคืน
.
.
.
..
.
.
.
.
.
.
.
.
และเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม ผมพบเธออีกครั้ง ผมเธอยาวกว่าเดิมเล็กน้อย เธอสวมแจกเกตลายเท่ห์สีดำ กางเกงยีนส์สีซีดกับผ้าใบสปอร์ตสีดำขลิบขาว ทำเอาผมอดสงสัยไม่ได้ว่าผู้หญิงที่ชอบสวมชุดเดรสหวานๆคนนั้น จริงๆแล้วเธอแต่งตัวแบบนี้เป็นประจำหรือเปล่า เดรสกระโปรงจะถูกใช้กับช่วงเวลาพิเศษเท่านั้น และมันหมายความว่าผมคงไม่ได้เห็นมันอีกครั้งเป็นแน่
.
.
.
เธอสั่งช่อดอกไม้แบบเดิมและถามหาริบบิ้นสีขาวลายดอก เพราะมันไม่อยู่บนชั้นโชว์ที่เดิม ผมยิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนจะเปิดลิ้นชักหยิบริบบิ้นออกมา ผมเก็บมันเอาไว้ในนี้ เพราะไม่อยากใช้มันจัดช่อดอกไม้ให้ใคร ผมเก็บมันไว้ให้เป็นของพิเศษสำหรับเธอ
.
.
เธอยืนรออยู่ฝั่งด้านนอกเคาน์เตอร์เหมือนเดิม ตอนที่ผมจัดช่อดอกไม้ วันนี้ใบหน้าเธอสดใสกว่าครั้งก่อน อาจเป็นเพราะไม่มีผ้าพันคอสีหม่นมาปิดไว้ เธอทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้แล้วรีบเดินออกไปนอกร้าน พอจัดช่อดอกไม้เสร็จได้ซักพัก เธอก็เดินกลับเข้ามาพร้อมร่มในมือ .... ร่มที่ผมให้เธอไปวันนั้น
.
.
.
.
ร่มในมือไม่ได้ทำให้ผมประหลาดใจเท่ากับแก้วกาแฟที่ยื่นมาคู่กัน ตอนที่เธอบอกว่ามันแทนคำขอบคุณเพราะจำได้ว่าวันนั้นผมดื่มคาปูชิโน่ร้อนอยู่ เธอพูดด้วยดวงตาที่เกือบเหมือนครั้งแรกที่ผมเคยตกหลุมรัก มันเปล่งประกาย แต่ไม่สว่างเท่าครั้งนั้น ผมคิดว่ามันไม่ได้แย่เท่าไหร่ เพราะผมเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไปมันจะสดใสกว่านี้ ผมจำไม่ค่อยได้ว่าผมตอบเธอไปว่าอะไร แต่ผมมั่นใจว่าตัวเองยิ้มกว้างและ เป็นยิ้มที่สดใสกว่าทุกวันในชีวิตของผม
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมบอกเธอว่าเรามีการ์ดแถมให้ด้วย เธอสามารถเขียนข้อความแทนความรู้สึกลงไปได้ ระหว่างที่เธอกำลังยืนเลือกการ์ดจากกองการ์ดบนถ้วยใบใหญ่ที่วางไว้บนโต๊ะ ผมเดินมาหยิบถังใส่กุหลาบสีขาวพันธ์ดีดอกใหญ่มาไว้หน้าร้าน เธอหันมาชมว่ามันสวย และพูดต่อว่า ........
.
.
..
.
“ แปลกนะคะ ฉันคิดว่ากุหลาบสีขาวเข้ากับคุณดีจัง”
.
.
.
.
ผมเลือกหยิบดอกที่คิดว่าสวยที่สุดออกมาจากถังใส่ดอกไม้แล้วส่งให้เธอ เธอดูแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ยื่นมือมารับมันไว้ ผมบอกว่าแทนคำขอบคุณสำหรับคาปูชิโน่ร้อน เธอทำตาโตแล้วสุดท้ายก็หัวเราะออกมา เสียงใสดังกังวานที่ผมเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก ส่งเสียงก้องไปถึงหัวใจ เป็นผลให้กล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดในร่างกายทำหน้าที่ผิดปกติ มันขยันบีบรัดหน้าอกด้านซ้ายจนผมรู้สึกเหมือนมันจะหลุดออกมา ดวงตาของเธอเปล่งประกายสดใส และคำบอกลาของเธอยังเพราะกว่าทุกครั้ง มันคงสลักไว้ในหัวใจผมไปอีกนาน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ คราวหน้าฉันจะซื้อโกโก้มิ้นต์มาให้ลองนะคะ พอหมดหน้าหนาวคุณอาจจะติดใจมันจนต้องกินไปตลอดฤดูใบไม้ผลิเลยก็ได้ ^ ^ ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
I will open the secret door that only I know and invite you
… Welcome to my heart … “ Mr. florist “
.
.
.
.
.
.
.
.END
0 notes