Photo


yaowarat
นางสาวแพรวพรรณ มงคลชัชวาลย์
นายจักรพงษ์ จั่นแก้ว
นายอรชุน กาฬภักดี
0 notes
Photo




นางสาวณัฐวดี สมบัติสุวรรณ 5811200064
นางสาวแพรววลัย เสนาวุธ 5811200200
นาย ภวัต สถิตกาญจนะ 5811200218
นางสาวอันนา วรรธนะสิน 5811200277
1 note
·
View note
Photo


กรรณิกา ชูอุตสาหะ 5811200030
พิรญษณ์ เศวตมาลานนท์ 5811200170
ภณิกา สิงห์อุดม 5811200676
โยษิตา ศรีบุศย์ดี 5811200706
0 notes
Text
DESIGN SOLUTION FOR VARIOUS USER
จากกลุ่มผู้ใช้งานเดิม ได้แก่ กลุ่มครอบครัวที่ประกอบไปด้วย พ่อแม่ เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ ซึ่งไม่ค่อยพบผู้ใช้งานกลุ่มวัยรุ่น ทั้งๆที่โครงการตั้งอยู่ติดมหาวิทยาลัย ทำให้เกิดแนวคิดที่จะเพิ่มพื้นที่พักผ่อนที่ตอบรับกับผู้ใช้งานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
กลุ่มผู้ใช้งานวัยรุ่น มีพฤติกรรมในพื้นที่สาธารณะทั้งto see และto be see จึงเกิดกิจกรรมในพื้นที่ ได้แก่ ติวหนังสือ พูดคุย อ่านหนังสือ ผ่อนคลาย โดยจัดพื้นที่กิจกรรมตามสภาพแวดล้อมเดิม
โดยนำรูปแบบของอิฐมาลดทอนเพื่อใช้เป็นองค์ประกอบในงานออกแบบทั้งลานน้ำพุและเฟอร์นิเจอร์
ลานน้ำพุ เป็นพื้นที่จุดรวมสายตาของคนในโครงการ โดยสร้างกิจกรรมหลากหลายรูปแบบเพื่อดึงคนเข้ามาใช้งานในโครงการ
พื้นที่ติวหนังสือเน้นการใช้งานเป็นกลุ่ม และแยกแต่ละกลุ่มเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว
พื้นที่พูดคุย มี 2 รูปแบบ คือ เป็นกลุ่มและเป็นคู่ ซึ่งแบบเป็นคู่จะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า
พื้นที่อ่านหนังสือ แยกเป็นกลุ่มอย่างชัดเจน ซึ่งตอบรับกับการใช้งานที่ต้องการสมาธิ
พื้นที่สร้างความผ่อนคลาย แยกออกเป็นยูนิตเพื่อความเป็นส่วนตัวสำหรับคนที่มาคนเดียว
0 notes
Text
POINT OF VIEW
อุทยานจุฬาฯ 100 ปี
ความสัมพันธ์ของสวนกับชุมชนในแต่ละด้านและมุมมองที่เกิดขึ้นจากจุดต่างๆตามโซนเมื่อมองออกไปนอกสวน - access การเข้าถึงอุทยาน

อุทยานจุฬา100ปี เป็นจุดศูนย์กลางของสามย่าน และมีถนนตัดผ่านจากพระราม 1 ถึงพระราม 4 มีถนนโดยรอบโครงการเพื่อเป็นการเชื่อมต่อกับชุมชน เป็นจุดแลนด์มาคสำหรับคนในพื้นที่ใกล้เคียงและสะดวกต่อการเดินเท้าเข้ามาใช้งานพื้นที่ในอุทยาน และถนนจุฬาฯ100ปี(ซอยจุฬาฯลงกรณ์5) ที่ต้องการให้เป็นต้นแบบถนนสีเขียว ร่มรื่่นด้วยต้นไม้ใหญ่ พร้อม��ั้งรูปแบบที่ส่งเสริมให้รถขับช้า(slow traffic) เอื้อต่อการเดินเท้า ขี่จักรยาน และการใช้รถโดยสารขนส่งมวลชน เพื่อเข้ามาพักผ่อนหรือทำกิจกรรมต่างๆ

จากจุดประสงค์ของอุทยานคือการเชื่อมต่อกับชุมชนและเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้กับนิสิต และคนทั่วไป จึงสร้างความเชื่อมต่อโดยกำหนดการเข้าถึงแต่ละส่วนจากหลายทิศทาง

การเปิดทางเข้าโดยรอบของอุทยาน เป็นการเชื่อมต่อกับชุมชนและความสะดวก ในการเข้ามาใช้พื้นที่ในสวน โดยเปิดทางเข้าด้านข้างให้กับคนที่เดินมาจากชุมชน,ห้าง I’m Park และด้านหน้า ที่ติดกับถนนใหญ่ เนื่องจากส่วนมากของคนที่มาใช้สวนมาจากชุมชนด้านหลังสวน สำหรับผู้ที่มาโดยรถส่วนตัวก็มีทางเข้าให้มาจอดรถอยู่ที่ด้านล่างของสวน สามารถจอดรถได้ 200 คัน และเชื่อมต่อกับส่วนนิทรรศการด้านในอาคาร การเดินทาง -สำหรับนิสิต ฬ มีรถปอ.พ.ผ่าน 2 สายคือสาย 5 ผ่านด้านหน้าสวนและสาย 2 ลงจากป้ายธรรมสถาน -ผู้ที่เดินทางมาจากรถไฟฟ้า สามารถลงสถานีสนามกีฬา นั่งรถมอเตอร์ไซต์รับจ้างหรือ จะเดินมาผ่านทางจุฬาฯซอย 9 ใช้เวลาเพียง 10-15 นาที -ส่วนผู้ที่มาโดยรถส่วนตัว มีที่จอดรถทั้งในสวนและห้าง I’m Park และมีรถจากห้างบริการรับส่งในบริเวณใกล้เคียง
- POINT OF VIEW การเชื่อมต่อของสวนและชุมชนทางสายตา มุมมองที่เกิดขึ้นเมื่อมองจากด้านในสวนออกไปตามจุดต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับเมืองและชุมชนโดยรอบ โดยมีจุดที่สูงสุดของโครงการที่โซน B ทำให้เป็นจุดที่เห็นวิวเมืองมากที่สุดและเป็นจุดชมวิวหลักของโครงการ

กนกวรรณ ฉิมมารักษ์ 5811200463
0 notes
Text
ผลจากการศึกษาพื้นที่ภายใน Soi Cowboy
สรุปการศึกษาและวิเคราะห์พื้นที่ภายในซอยคาวบอย
PART1
จากการที่ศึกษาซึ่งแบ่งออกเป็นสามห้ัว��้อได้แก่ 1.Social Space 2.Timing Gap 3.Characteristic จะเห็นว่าภายในซอยจะมีการใช้งานที่แตกต่างกันในแต่ละเวลา ซึ่งในตอนเช้ากลุ่มคนที่มาใช้งานจะมีลักษณะที่ชัดเจน ยกตัวอย่าง พนักงานออฟฟิศที่ใช้งานเป็นทางลัด หรือ กลุ่มพื้นที่ที่เป็นพื้นที่รวมกลุ่มคิวมอเตอร์ไซต์รับจ้าง แต่ในช่วงเวลาเย็นหัวค่ำนั้นรถยนต์และพื้นที่ค้าขายแผงลอยจะเข้ามาน้อยลง การเปิดพื้นที่หน้าร้านจะมากขึ้น พื้นที่ที่เคยอยู่ด้านในร้าน จะขยับเลื้อยออกมาใช้งานด้านนอกมากยิ่งขึ้น ไฟหน้าร้านก็จะเริ่มเปิด เริ่มเห็น space ที่มีความเป็นอุโมงค์มากยิ่งขึ้น ส่วนในเวลากลางคืนจะเป็นสถานบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ มีลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามาใช้งานเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นย่านที่มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่เยอะ เริ่มมีหญิงขายบริการการออกมาเรียงลูกค้า แสง สี เสียงจะมากขึ้น
จากข้อมูลพื้นฐานที่วิเคราะห์มาข้างต้น จึงได้นำมาจัดทำเป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อให้ได้รู้จักซอยคาวบอยมากยิ้งขึ้น
จากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานของ Soi Cowboy ทำให้คนพบว่าเอกลักษณ์ที่เด่นชัดของ Soy Cowboy คือ Space ที่มีลักษณะคล้ายความเป็นอุโมงค์ และการใช้งานของพื้นที่ที่หลากหลายและมีความแตกต่างกันสองช่วงเวลา จึงจะนำสองข้อดังกล่าวมาเป็นโจทย์หลักในการนำมาออกแบบพัฒนาพื้นที่ให้เอกลักษณะมีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น
……………………………………..
PART 2
จากการที่ได้วิเคราะห์พื้นที่และเอกลักษณ์ของซอยแล้ว ค้น��บว่ามีซอยมีหัวใจหลักๆ คือ Space ที่มีลักษณะคล้ายความเป็นอุโมงค์ และการใช้งานของพื้นที่ที่หลากหลายและมีความแตกต่างกันสองช่วงเวลา จึงจะนำมาเป็นโจทย์ออกแบบชูความเป็นเอกลักษณ์ให้มีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากการวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสียของพื้นที่
โดยสิ่งที่พัฒนาต่อจากการวิเคราะห์ต้องการ จัดการ ระเบียบการเดินในซอยคาวบอยอีกทั้งส่งเสริมเอกลักษณ์เดิมของซอยไว้โดยลักษณะแสงจากสองฝั่งถนนรวมกันก่อเกิดลักษณะคล้ายอุโมงค์แสง โดยการออกแบบในขั้นตอนนี้จะเป็นการเน้นและการดึงลักษณะนี้ออกมาให้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ต้องอยากให้ก่อเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งด้านการใช้งานและการสร้างประสบการณ์
จากรูปตัดจะเห็นว่าจะมีการเว้นระยะกว้างพอสมควรนั้นเพื่อรองรับรถที่มีขนาดกว้างเช่นรถส่งของเป็นต้นเพื่อใช้ในกลางวันแต่พอกลางคืนนี่นพื้นที่ทางรถจะปรับเปลี่ยนเป็นทางคนเดินอีกทั้งพื้นที่นั่งสำหรับขายขอวหรืออาหารสตตรีทฟู้ดสามารถขยายตัวออกมาได้อย่างเป็นระเบียบ

สิ้งที่ได้รับจากการเรียน
1.ได้รู้จักการสังเกตและตั้งปัญหาเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์และใช้เป็น
2.ได้รู้จักการทำงานกันเป็นทีม การแบ่งงานตามความเหมาะสม
3.ได้ประสบการณ์ในการศึกษาสถานที่ที่ไม่เคยได้เข้าไป หรือไม่เคยได้สัมผัส
สมาชิกกลุ่ม
1.นางสาว ธิติสุดา ภวังคนันท์ 5811200099
2.นาย กิตติกุล นนทแก้ว 5811200480
3.นาย ปฐมพร งามตั้งจิตสกุล 5811200609
0 notes
Text
STOP OF USER
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความพึงพอใจในสิ่งต่างๆแตกต่างกันต่อการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 นำไปสู่การศึกษาและสำรวจพฤติกรรมการหยุดของผู้ใช้งานในแต่ละพื้นที่ของโครงการ การหยุดในที่นี้ไม่ได้หมายถึง การหยุดนิ่ง/อยู่กับที่ แต่หยุดเพื่อมองสิ่งที่อยู่ไกลออกไป(urban)/ใกล้เข้ามา(คนรอบข้าง/ธรรมชาติ) หยุดเพื่อนับรู้กลิ่น(ดอกไม้) หยุดเพื่อฟังเสียงของสายลม/นก/รถยนต์ที่วิ่งผ่าน/หรือแม้กระทั่งเสียงของหัวใจตัวเอง หยุดเพื่อสัมผัสกับสนามหญ้า/ผิวสัมผัสของที่นั่งซึ่งเป็นระแนงไม้/ก้อนหิน

โดยจะแบ่งพื้นที่สำรวจออกเป็น 5 โซน
A - พื้นที่ที่เด็กจะหยุดเพื่อเล่นsliderด้วยกันโดยใช้กล่องลัง
B - พื้นที่สูงสุดของโครงการ มองเห็นชุมชนได้โดยรอบ หรือแม้กระทั่งชุมชนเมือง(ตึกสูง)ที่อยู่ถัดออกไป
C - พื้นที่ลาดชัน และที่ราบ มีผิวสัมผัสของผนังที่มีรูปแบบน่าสนใจ รวมไปถึงสนามหญ้าสีเขียวตรงกลาง
D - พื้นที่แหล่งน้ำ คนหยุดตำแหน่งนี้มักต้องการใช้สมาธิ (โยคะ)
E - พื้นที่ทางเดิน มีที่นั่งพักเป็นระยะ มีความลาดชันเพื่อนำไปสู่จุดสูงสุดของโครงการ มักจะพบคนนั่งเพื่อทำอะไรบางอย่าง คนเดิน และคนวิ่ง
แบ่งผู้ใช้งานออกเป็น 3 กลุ่ม
- เด็ก - ผู้ใหญ่ - ผู้สูงอายุ
ปัจจัยที่มีผลต่อการหยุด : กระแสลม / อุณหภูมิ / เสียง / แสง วัยผู้ใหญ่ เลือกที่จะหยุดบริเวณที่นั่งหรือพื้นหญ้าที่มีร่มเงาของต้นไม้ วัยเด็ก มักจะหยุดเพื่อเล่นเฉพาะจุด และมีการเคลื่อนย้ายเพื่อไปหยุดตำแหน่งอื่นๆที่มีความน่าสนใจแตกต่างกันในแต่ละที่ วัยผู้สูงอายุ มีการหยุดที่น้อยที่สุด เนื่องจากส่วนใหญ่นั้นมีเป้าหมายมาสวนเพื่อออกกำลังกายตามเส้นทางของสวน แต่มีคุณยายที่กำลังออกกำลังกายอยู่กับที่โดยการแกว่งแขนไปมา และคุณตาที่หยุดเพื่อยืดเส้นก่อนจะเริ่มวิ่ง
จากการแบ่งพื้นที่และสำรวจ 5 โซนหลัก พบว่า

โซน A - มีผู้ใช้งาน2กลุ่ม ได้แก่ เด็ก(สีชมพู) ผู้ใหญ่(สีฟ้า) ซึ่งเด็กเลือกตำแหน่งหยุดที่เล่นด้วยกันผ่านhard landscape โดยมีผู้ใหญ่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้เพื่อความปลอดภัย

โซน B - เป็นจุดสูงสุดของโครงการ มีที่นั่งให้หยุดพักหรือยืดเส้น ซึ่งมีพุ่มไม้เตี้ยๆเป็นเขตแดน คนที่นั่งพักจึงมักจะนั่งแล้วมองลงไปยังพื้นที่สนามหญ้าด้านล่าง แต่คนที่ยืดเส้นจะหันหน้าไปทางที่ดวงอาทิตย์ตกดิน

โซน C - เป็นพื้นที่สนามหญ้าโล่ง ที่คนใช้งานวัยผู้ใหญ่จะหยุดเพื่อจับกลุ่มคุยกัน ออกลังกาย หรือถ่ายรูป ส่วนวัยผู้สูงอายุ(สีเหลือง) จะออกกำลังกายโดยการแกว่งแขนอยู่กับที่ ซึ่งตำแหน่งนี้ของโครงการเป็นจุดที่ไม่ได้รับแสงโดยตรงจากดวงอาทิตย์และเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ทำให้มีคนหยุดใช้งานมากกว่าตำแหน่งอื่นของโครงการ

โซน D - มีผู้ใช้งาน 2 กลุ่มคือเด็ก และผู้ใหญ่ เด็กจะหยุดเล่นในส่วนของสนามเด็กเล่นและบ่อทราย โดยมีผู้ปกครองนั่งดูแลอยู่ใกล้ๆเพื่อความปลอดภัย และมีกลุ่มผู้ใหญ่ยืดเว้นและนั่งอยู่ริมน้ำโดยหันหน้าเข้าหาบ่อน้ำ ซึ่งเป็นจุดที่รับลมที่พัดผ่านบ่อน้ำ ทำให้ผู้ใช้งานเกิดความสบาย

โซน E - เป็นตำแหน่งที่คนจะหยุดเพื่อทำกิจกรรมส่วนตัวบางอย่างที่ต้องการความเป็นส่วนตัว โดยมีแนวต้นไม้บังสายตา อย่างเช่น การยืดเส้นที่ต้องมีการยกขา การกระโดดเชือก การนั่งคุยกันเป็นคู่ ดอกไม้ที่ปลูกในพื้นที่บริเวณนี้มีกลิ่นหอม ทำให้ผู้งานรู้สึกผ่อนคลาย
จากการสำรวจพบว่า ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ หยุดในพื้นที่โซน C มากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับข้อสรุปในเรื่องsocial space ที่คนส่วนใหญ่ หยุดแล้วทำกิจกรรม ร่วมกันเป็นกลุ่มย่อยๆ แบ่งออกเป็นการหยุดนิ่ง ได้แก่ นั่งคุย ถ่ายรูป อ่านหนังสือ เอนตัวนอนเล่น ปิคนิคกั��ครอบครัว และหยุดเพื่อทำกิจกรรมบางอย่าง ได้แก่ ออกกำลังกาย โดยมีปัจจัย คือ กระแสลม เงาใต้ต้นไม้ ความยืดหยุ่นของการใช้พื้นที่ และพื้นผิวสัมผัสของสนามหญ้าที่นุ่ม มากกว่าที่จะหยุดบริเวณอื่นที่มีเก้าอี้นั่ง ซึ่งในโซนอื่นๆจะเป็นโซนที่ติดกับทางวิ่งรอบสวน การหยุดจึงอยู่ในรูปแบบของการหยุดเพื่อพักหรือยืดเส้น เพราะอยู่ในตำแหน่งที่มีกระแสลมพัดผ่านช่วยในการระเหยเหงื่อ
1 note
·
View note
Text
Movement
การใช้งานของคนที่เข้ามาใช้งานในกิจกรรมต่างๆ ทั้งการเดิน วิ่ง ออกกำลังการ ส่งผลให้เกิดทิศทางการเคลื่อนที่ภายในอุทยาน 100 ปีจุฬาลงกรณ์ ในหลายเส้นทาง ซึ่งมีความหนาแน่นแตกต่าง จึงต้องการสำรวจถึงเส้นทางที่ผู้คนเลือกที่จะใช้งานมาที่สุดว่าคือเส้นทางใด และเพราะเหตุใด ผู้คนจึงเลือกใช้เส้นทางนั้นมากว่าเส้นทางอื่นๆ ที่มีให้เลือกหลากหลายเส้นทาง

แสดงเส้นทางที่มีการเคลื่อนที่ของผู้คน

จะเห็นว่าเกิดลูปของเส้นทางหลัก2เส้น คือลูปวนภายนอกและลูปวนภายใน


ซึ่งเส้นทางที่คนเลือกที่จะใช้เป็นเส้นทางวิ่ง เกิดจากปัจจัยต่างๆ คือ
ความต่อเนื่องของการมองเห็น ซึ่งเกิดจากแนวของต้นไม้ที่เป็นระนาบนำสายตาในเกิดความต่อเนื่อง
แนวแกนนำสายตาของต้นไม้ ทำให้มองเห็นเส้นทางต่อๆไปเรื่อยๆ
ปัจจัยด้านสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม อย่างมุมมองมุมสูง เห็นวิวโดยรอบของโครงการ เป็นพื้นที่รับลม อากาศเย็นและถ่ายเทดี
อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีความชันและไกลที่มากกว่า ทำให้รู้สึกเหนื่อยเกิดการเผาผลญ เหมาะกับการออกกำลังการที่มากกว่า

ทำให้สรุปผลได้ว่า
โดยส่วนใหญ่ ผู้คนเข้ามาใช้เส้นทางดังกล่าว เพื่อใช้เป็นเส้นทางในการวิ่งออกกำลังกาย โดยวิ่งวนเป็นลูป พบว่าเส้นทางที่มีความหนาแน่นในการใช้งานมากที่สุด คือ ลูปรอบนอกของเส้นทางภายในสวน100ปี
อันมีผลมาจากปัจจัย 4 ด้าน คือ
1.ความต่อเนื่องของเส้นทางและกรมองเห็น
2.แนวแกนต้นไม้นำสายตา
3. ปัจจัยจากสภาวะแวดล้อม : ลม วิว
4.ระยะทาง ความชัน ที่ส่งเสริมประสิทธิภาพของการออกกำลังกาย
โดยระยะทางของลูปรอบนอก มีระยะทางต่อรอบ = 612 ม. หากต้องการวิ่งออกกำลังกายให้เกิดประโยชน์ คือควรวิ่งอยู่ที่ระยะทาง 3.5-5 กม. คือ ควรวิ่งวงลูปอย่างน้อย 6 รอบจึงเหมาะสม
และจะเห็นได้ว่า มีเส้นทางที่เกิดขึ้นใหม่จากการใช้งานของคนที่เข้ามาใช้พื้นที่ เป็นเส้นทางตัดกลางสนามของ โซน C เพราะ เป็นเส้นทางที่สั้นและเร็วกว่า ในการเข้าถึงพื้นที่ที่ต้องการเข้าใช้งาน ต่างจากเส้นทางโค้งด้านข้างที่ Fail เพราะถูกเลือกใช้งานน้อยและใช้ระยะทางในการเดินมากกว่า
นรยา มหาวิจิตร์ 5811200102
1 note
·
View note
Text
POINT OF VIEW
สรุป point of view อุทยานจุฬาฯ 100 ปี
จากการลงพื้นที่ สังเกตุและเลือกมุมมองจากแต่ละจุดตามโซนต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับเมืองและชุมชนโดยรอบ เมื่อมองออกไปด้านนอกอุทยานจะเห็นวิวเมืองที่แตกต่างกัน โดยมีจุดที่สูงสุดของโครงการที่โซน B ทำให้เป็นจุดที่เห็นวิวเมืองมากที่สุดและเป็นจุดชมวิวหลักของโครงการ

ภาพมุมมองจากจุดต่างๆเมื่อมองออกไปด้านนอกอุทยาน
กนกวรรณ ฉิมมารักษ์ 5811200463
0 notes
Text
Character
(สรุป)



Thitisuda Pawangkanan 5811200099
0 notes
Text
DOES ARI MEE ARAI?
สรุปผลการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างการตกแต่งหน้าร้านกาแฟ ช่องเปิดหน้าร้าน และการดึงดูดลูกค้าเข้าร้าน พบว่าร้านที่มีช่องเปิดมาก ส่วนใหญ่จะดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า เช่นร้าน Casa Lapin และ Porcupine แต่ในทางตรงกันข้าม มีบางร้านที่แทบไม่มีช่องเปิดเลย แต่ก็มีคนเต็มร้าน เช่น ร้าน Puritan เพราะร้านนั้นใช้การสะท้อนการตกแต่งพื้นที่ภายในออกมาด้วยการวางองค์ประกอบต่างๆที่คล้ายคลึงกับที่ใช้ตกแต่งภายในมาวางไว้ภายนอกร้าน ด้วยช่องเปิดที่น้อยมาก และของตกแต่งที่เยอะมากจนแทบจะเกินความจำเป็น จึงสร้างความน่าดึงดูดและความลึกลับ ทำให้ลูกค้าอยากเข้ามาภายในร้าน นอกจากนั้น ร้านกาแฟหลายร้านยังใช้สื่อทางโซเชียลช่วยในการประชาสัมพันธ์ร้านกาแฟของตน ปัจจัยเรื่องโซเชียลจึงเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่เข้ามาส่งผลต่อความนิยมและปริมาณคนในร้านพอๆกับปริมาณของช่องเปิดหน้าร้าน

อันนา วรรธนะสิน 5811200277
0 notes
Text
Stop of User (Conclude)
—————
สรุปผลการศึกษา สวนอุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า
ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ หยุดในพื้นที่โซน C มากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับข้อสรุปในเรื่องsocial space ที่คนส่วนใหญ่ หยุดแล้วทำกิจกรรมร่วมกันเป็นกลุ่มย่อยๆ แบ่งออกเป็นการหยุดนิ่ง ได้แก่ นั่งคุย ถ่ายรูป อ่านหนังสือ เอนตัวนอนเล่น ปิคนิคกับครอบครัว และหยุดเพื่อทำกิจกรรมบางอย่าง ได้แก่ ออกกำลังกาย โดยมีปัจจัย คือ กระแสลม เงาใต้ต้นไม้ ความยืดหยุ่นของการใช้พื้นที่ และพื้นผิวสัมผัสของสนามหญ้าที่นุ่ม มากกว่าที่จะหยุดบริเวณอื่นที่มีเก้าอี้นั่ง ซึ่งในโซนอื่นๆจะเป็นโซนที่ติดกับทางวิ่งรอบสวน การหยุดจึงอยู่ในรูปแบบของการหยุดเพื่อพักหรือยืดเส้น เพราะอยู่ในตำแหน่งที่มีกระแสลมพัดผ่านช่วยในการระเหยเหงื่อ

ด้วยสาเหตุนี้ ทำให้มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในโครงการ คือ ผู้ใช้งานไม่ใช้ที่นั่งภายในโครงการ เพราะไม่มีที่บังแดด มีผิวสัมผัสที่แข็งกระด้าง และไม่ตอบรับกับสรีระของมนุษย์ ซึ่งนำไปสู่การคิดแนวทางการแก้ไขปัญหาในงานที่ได้รับมอบหมายชิ้นต่อไป
1 note
·
View note
Text
สรุป THOSE TREES ON THE FOOTPATH
ข้อสังเกตที่1 คือ ทำไมจึงมีการใช้พื้นที่บนฟุตบาทที่นอกจากการใช้เพื่อการสัญจร
จากการสำรวจพบว่า ต้นไม้บนฟุตบาทเป็นตัวกำหนดขอบเขตซึ่งทำให้เกิด space ย่อย ขึ้นมา จึงมีคนมาใช้งาน space เหล่านั้น
ข้อสังเกตที่2 คือ ต้นไม้เป็นตัวกำหนดขอบเขตพื้นที่การใช้งานบนฟุตบาทแต่ทำไมจึงมีประเภทของการใช้งานของพื้นที่เหล่านั้นต่างกันไป
จากการสำรวจพบว่า ระยะห่างระหว่างต้นไม้ รูปทรงของต้นไม้ และขนาดความกว้างของพื้นที่ฟุตบาท เป็นตัวกำหนดขนาดของ space ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดเป็นการใช้งานประเภทต่างๆ ทั้งนี้พบว่า ประเภทของการใช้งาน space เหล่านี้ จะขึ้นอยู่กับบริบทโดยรอบด้วย เช่น ถ้าเป็นพื้นที่บริเวณหน้าปากซอย จะเป็นร้านอาหารริมทาง ถ้าเป็นในซอยย่อยจะเป็นพื้นที่จอดจักรยาน เป็นต้น
สรุป ระยะห่างและรูปทรงของต้นไม้ ขนาดของฟุตบาท และบริบทโดยรอบเป็นตัวกำหนดให้พื้นที่ใต้ต้นไม้เหล่านั้น มีลักษณะที่เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภทที่แตกต่างกันไปโดยส่วนใหญ่แล้ว พื้นที่ใต้ต้นไม้ที่เกิดกิจกรรมนี้จะกินพื้นที่บนฟุตบาทเกือบทั้งหมดและเหลือพื้นที่ไว้สำหรับให้คนสัญจรไปมาประมาณ 90 เซนติเมตร หรือถ้าเป็นทางรถจะประมาณ 3 เมตร
0 notes
Text
สัญลักษณ์แห่งเยาวราช
สรุป จากการสำรวจทางรูปภาพของนักท่องเที่ยวจาก Social Network และการลงพื้นที่ พบว่า สิ่งที่สามารถบ่งบอกได้ถึงความเป็นเยาวราชนั้น คือ ป้ายแนวตั้งตามลักษณะการเขียนแบบจีน ตัวอักษรภาษาจีนและตัวอักษรไทยแบบจีน


โดยจากข้อมูลยังทราบอีกว่า ถนนเยาวราช นั้นได้ถูกอนุมานให้เป็นถนนมังกร เนื่องจากมีรูปร่างคดเคี้ยวคล้ายมังกร แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนหัวมังกรนับจาก Bangkok China town Gate ท้องมังกร และหางมังกร ตามลำดับ

โดยจากข้อมูล กล่าวว่า บริเวณท้องมังกรเป็นทำเลที่ดีและเหมาะแก่การทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้อีกว่า ป้ายแนวตั้งนั้นเป็นตัวบ่งบอกความเจริญของทำเลที่ตั้งนั้นได้เช่นกัน
0 notes
Text
Density
สรุปเรื่องความหนาแน่นภายในถนนข้าวสาร จากปัจจัยหลายอย่างเช่น หนาแน่นเพราะรถเข็นขายของ หนาแน่นเพราะการตกแต่งของร้านที่มีการดึงดูดนักเที่ยว และเสียงของร้านบาร์

ถนนภายในตอนกลางวันที่มีความหนาแน่นน้อยและหนาแน่นบางจุด จะสังเกตได้ว่าภายในถนนยังไม่ค่อยร้านรถเข็นมาตั้งมากนัก

ถายในถนนตอนเช้ายังมีรถวิ่งอยู่และยังไม่ค่อยมีการลามของร้านต่างๆ

ถนนภายในตอนกลางคืนจะมีควาทหนาแน่นมากกว่าตอนกลางวันบริเวณทั้งสองจุดมีความหนาแน่นของนักเที่ยว โดยบริเวณดังกล่าวมีการตกแต่งร้านที่ดึงดูดนักเที่ยวอย่างมาก

แบบขยายดังกล่าวมีการลามของร้านรถเข็นและร้านๆต่างที่ออกมายังถนนจึงทำให้ถนนแคบลงและนักท่องเที่ยงเพิ่มขึ้นและร้าน2ร้านนี้มีการเจาะพท.เข้าไปเมื่อมองจากภายนอก ยังไม่สามารถเห็นร้านได้แต่เมื่อถึงหน้าร้านจึงเกิดการช็อคซีน ที่ทำให้เกิดการหยุดกระทันหันเลยทำให้เกิดควาทหนาแน่นชั่วขณะ


1 note
·
View note
Text
Density
สรุปเรื่องความหนาแน่นภายในถนนข้าวสาร จากปัจจัยหลายอย่างเช่น หนาแน่นเพราะรถเข็นขายของ หนาแน่นเพราะการตกแต่งของร้านที่มีการดึงดูดนักเที่ยว และเสียงของร้านบาร์

ถนนภายในตอนกลางวันที่มีความหนาแน่นน้อยและหนาแน่นบางจุด จะสังเกตได้ว่าภายในถนนยังไม่ค่อยร้านรถเข็นมาตั้งมากนัก

ถายในถนนตอนเช้ายังมีรถวิ่งอยู่และยังไม่ค่อยมีการลามของร้านต่างๆ

ถนนภายในตอนกลางคืนจะมีควาทหนาแน่นมากกว่าตอนกลางวันบริเวณทั้งสองจุดมีความหนาแน่นของนักเที่ยว โดยบริเวณดังกล่าวมีการตกแต่งร้านที่ดึงดูดนักเที่ยวอย่างมาก

แบบขยายดังกล่าวมีการลามของร้านรถเข็นและร้านๆต่างที่ออกมายังถนนจึงทำให้ถนนแคบลงและนักท่องเที่ยงเพิ่มขึ้นและร้าน2ร้านนี้มีการเจาะพท.เข้าไปเมื่อมองจากภายนอก ยังไม่สามารถเห็นร้านได้แต่เมื่อถึงหน้าร้านจึงเกิดการช็อคซีน ที่ทำให้เกิดการหยุดกระทันหันเลยทำให้เกิดควาทหนาแน่นชั่วขณะ


1 note
·
View note