bitcointhai999-blog

[bitcointhai999-blog]

สกุลเงินดิจิตอลเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยในปี2018ไหม

ปัจจุบันนี้ อาจจะมีหลายคนได้ข่าวว่าข่าวสารเยอะของสกุลเงินดิจิตอลบน social media บิทคอยน์ เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ซึ่งเกิดจากปี 2009 แต่ในหลายเดือนที่ผ่านมา สกุลเงินดิจิตอลได้เข้าสติของโลกและแต่ละประเทศ

คุณอาจจะได้มองเห็นการเติบโตของสกุลเงินดิจิตอลที่เป็นอย่างมากในปี 2017 และอาจจะรู้เรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนที่ลงทุนในสกุลเงินดิจิตอล มีปัญหาหนึ่งในปัจจุบันนี้คือ เราได้ลงทุนต่อสกุลเงินดิจิตอลและมองมันเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยและสิ่งที่มีประโยชน์ไหม

คำตบคือ ได้แน่นอน ซึ่งมีคำเตือนว่า แม้แต่ตามกฎหมายและหลักการ สกุลเงินดิจิตอลก็เป็นอุปกรณ์ปลอดภัยได้

ทำการศึกษา

จนถึงม.ค. 2018 จำนวนของสกุลเงินดิจิตอลในโลกนี้มีมากกว่า 1000 ประเภท ตามเวลาที่ผ่านมา เลขนี้จะสูงขึ้นแน่นอน สกุลเงินดิจิตอลต่าง ๆเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นที่ขาดแคลนหรือไร้เป้าหมาย จุดยืนของมันคือเพื่อการใช้ความกระตือรือร้นของมนุษย์ต่อสกุลเงินดิจิตอล

การลงทุนต่อสกุลเงินดิจิตอลอย่างหนึ่งโดยไม่รู้จักก็เหมือนกับหวย แต่ที่สุดท้ายก็อาจจะชนะได้ ถ้าคุณอยากลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลอย่างปลอดภัย งั้นคุณต้องทำการศึกษาอย่างเต็มที่ในสกุลเงินดิจิตอลที่คุณอยากเลือก

ที่หนึ่ง คุณต้องเข้าเว็บของสกุลเงินดิจิตอลนั้น มันมีความเชี่ยวชาญไหม และที่สองต้องอ่านคำอธิบายของแพลตฟอร์มและสกุลเงินดิจิตอลนี้ มีปัญหาอะไรต้องแก้ไข ทำไหมสกุลเงินดิจิตอลนี้เป็นส่วนที่สำคัญในตลาดนี้ สกุลเงินดิจิตอลที่น่าไว้เนื้อเชื่อใจต้องมี white book ซึ่งได้อธิบายเทคโนโลยี และเป้าหมายของภารกิจนี้อย่างละเอียด สุดท้ายนี้ ต้องตรวจสองกรุ๊ปนี้มีคนนวัตกรรมเทคโนโลยีหรือเปล่า

โดยใช้การตรวจสอบที่ได้บอกดังนี้ คุณได้หาเจอสกุลเงินดิจิตอลที่มีค่าจริง ๆ

[bitcointhai999-blog]

ราคา Bitcoin ร่วงแตะ 8,068 ดอลลาร์ ตลาดยังคงเป็นขาลง

ตลาดเหรียญคริปโตทั้งหมดร่วงตาม

การร่วงลงของราคานั้นดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่เฉพาะ Bitcoin เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเหรียญอื่น ๆ อย่าง Ethereum, Bitcoin Cash, Ripple, Cardano และ Litecoin ที่ร่วงลงมาด้วยเช่นกัน โดยแต่ละเหรียญนั้นต่างก็มีอัตราการลดลงของราคากว่า 10%

นักวิเคราะห์เชื่อว่าการร่วงลงของราคานั้นมีสาเหตุมาจากการเปิด hearing ของทางรัฐบาลสหรัฐฯเกี่ยวกับหัวข้อของการระดมทุนผ่าน ICO ซึ่ง��ัวแทนจากรัฐบาลจากเขตที่ 12 ของเมืองนิวยอร์นาง Carolyn Maloney กล่าวว่าตลาด cryptocurrency นั้นถือเป็นฟองสบู่แล้ว

นอกจากนี้ยังมีรายงานจากบริษัทยักษ์ใหญ่มูลค่าระดับ 8 หมื่นล้านดอลลาร์อย่าง Allianz ที่อ้างว่า Bitcoin นั้นไม่มีมูลค่าที่แท้จริง และราคาอาจจะร่วงลงมาได้ “ในมุมมองของเรานั้น มูลค่าที่แท้จริงของมันจะต้องเป็น 0 แน่ ๆ เหรียญ Bitcoin นั้นมันใช้อ้างอิงถึงอะไรไม่ได้เลย เช่นพันธบัตร, สินทรัพย์ หรือเงินกระดาษ และมันไม่สามารถช่วยสร้างกระแสรายได้ได้เลย” กล่าวโดยนาย Stefan Hofrichter หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจและกลยุทธ์ของบริษัทดังกล่าว

นอกจากนี้ยังมีตัวแปรด้านอื่น ๆ อีกด้วย อย่างเช่นการเทขายเหรียญคริปโตของ Mt. Gox และรวมถึงสื่อกระแสหลักที่รายงานข่าวด้านการร่วงลงของราคาเหรียญ cryptocurrency

ดูเหมือนว่านักวิเคราะห์ด้าน cryptocurrency จะยังคงเชื่อว่าราคานั้นมีโอกาสที่จะขยับขึ้นมาได้อีกครั้งหนึ่งในช่วงฤดูร้อนนี้ แต่ก็อาจจะเป็นแค่ระยะเวลาสั้น ๆ

[bitcointhai999-blog]

“Bitcoin ไม่ใช่คำตอบของสังคมไร้เงินสด” กล่าวโดย ผู้บริหารนโยบายการเงินของธนาคารกลาง

Bitcoin และ  Cryptocurrency ตัวอื่น ๆ ไม่สามารถที่จะเป็นคำตอบให้กับสังคมที่ใช้เงินสดน้อยลงในการทำธุรกรรมในชีวิตประจำวันได้ กล่าวโดยสองผู้กำหนดนโยบายการเงินของยุโรป

นี่เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความคิดเห็นจากรายงานที่ถูกเผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาของนาย Benoit Couere สมาชิกคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป และนาย Jacqueline Loh ประธานคณะกรรมการตลาดธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศของสวิสเซอร์แลนด์ (BIS)

ในรายงานกล่าวว่า เนื่องจากไม่มีการตั้งราคาสินค้าเป็น Cryptocurrency เท่าไรนัก ดังนั้นการที่มีผู้คนนำมันมาใช้เป็นหนึ่งในทางเลือกในการชำระเงินจึงไม่ได้มีความหมาย เหรียญต่าง ๆ นั้นเหมือนการ “เล่นการพนันในคาสิโนซะมากกว่า”

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองก็เชื่อว่าการที่มีผู้ชำระเงินแบบไม่ได้ใช้เงินสดเพิ่มสูงขึ้น ทำให้อาจมีรูปแบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิคส์เกิดขึ้นตามมา

“แม้ว่า Bitcoin และเหรียญอื่น ๆ นั้นจะเป็นเพียงความหวังลม ๆ แล้ง ๆ แต่พวกมันอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับมือถือปาล์มในอดีตที่เป็นผู้ปูทางให้กับ Smart Phone ในปัจจุบัน” ในรายงานกล่าว

“เงินสดไม่สามารถเป็นราชาได้ตลอดไปหรอก ถึงแม้ว่าหลายประเทศทั่วโลกจะยังใช้มันอยู่ก็ตาม”

เงินสดเป็นอย่างเดียวที่ปัจจุบันทุกคนสามารถเข้าถึงได้และมีการหนุนหลังโดยธนาคารกลาง แต่ถ้าเงินสดได้หายไปจากท้องถนนละก็ เศรษฐกิจในประเทศคงจะต้องพึ่งพาสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ทั้งหมด

ในขณะที่สกุลเงินของธนาคารกลางดิจิตอล (Central Bank Digital Currency : CBDC) สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ แต่ก็อาจ disrupt ระบบการเงินและเศรษฐกิจเดิม

“CBDC นั้นท้าทายรูปแบบปัจจุบันของธนาคารที่ยังรับเงินจากลูกค้าและเอาเงินจำนวนนั้นไปปล่อยกู้เพื่อเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”

“ผลที่ตามมาสำหรับรูปแบบธุรกิจของธนาคารและความมั่นคงทางการเงินจะต้องมีการวิเคราะห์อย่างละเอียด”

นอกจากนี้ในรายงานยังกล่าวอีกว่า สกุลเงินดังกล่าวนั้นไม่ควรที่จะให้ใช้ได้โดยไม่ระบุตัวตนหรือที่มาเหมือนเงินสด เนื่องจากมันอาจถูกนำไปใช้งานในทางที่ผิดกฏหมายและอาจสร้างปัญหาต่าง ๆ นา ๆ ออกไปได้ ทำให้ธนาคารกลางต้องแบกรับจำนวนข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน Cryptocurrency อันมหาศาลอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน

[bitcointhai999-blog]

เว็บโซเชียลมีเดียที่ดังที่สุดในรัสเซียประกาศรับชำระด้วย Bitcoin และ Bitcoin Cash สำหรับค่าโฆษณา

เว็บ Vkontakte ซึ่งเป็นเว็บโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในหมู่ผู้ที่สื่อสารด้วยภาษารัสเซีย และเว็บ Odnoklassniki ซึ่งได้รับความนิยมจากกลุ่มประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตในอดีต ได้ประกาศว่าจะรับชำระเงินจากผู้ลงโฆษณาด้วย Bitcoin นอกจากนี้ทั้งสองเว็บก็กำลังจะเริ่มจ่ายเงินให้แก่ผู้พัฒนารวมถึงหุ้นส่วนต่าง ๆ เป็น Cryptocurrency อีกด้วย

การชำระเงินด้วย Bitcoin (BTC) และ Bitcoin Cash (BCH) จะดำเนินการโดย Bitpay

ทางเว็บ Vkontakte และ Odnoklassniki จะรับชำระด้วย Bitcoin และ Bitcoin Cash ผ่านแพลตฟอร์มนามว่า Mytarget โดยธุรกรรมเงินคริปโตจะถูกส่งผ่านเว็บ My.com ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทย่อยของ Mail.ru Group (Mail.ru Group นั้นเป็นบริษัทแม่ของทั้ง Vkontakte และ Odnoklassniki ด้วยเช่นกัน) หลังจากนั้นทางผู้ให้บริการรับชำระเงินจากสหรัฐอเมริกานามว่า Bitpay จะเป็นผู้ดำเนินการต่อ อย่างไรก็ตาม นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นและแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องจะยังคงได้รับเงินค่าจ้างในรูปแบบสกุลเฟียต (เงินสกุลปกติ) โดยทางบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มตัวเลือกในการรับเงินเป็นเงินคริปโตเร็ว ๆ นี้

[bitcointhai999-blog]

ข่าวสารข่าว Bitcoin เทรนด์คำค้นหา ‘Bitcoin’ บน Google ร่วงลงพร้อม ๆ กับราคา

หลังจากราคาของ Bitcoin ร่วงลงมาต่ำกว่า 7,000 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ความสนใจในตัวเหรียญ cryptocurrency ดังกล่าวลดลง อ้างอิงจากเทรนด์คำค้นหาบน Google โดยร่วงลงไปต่ำสุดจากเดือนตุ��าคมของปีที่แล้ว

เทรนด์คำค้นหาบน Google แสดงให้เห็นถึงคำค้นหาคำว่า Bitcoin ที่ได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อวันที่ 17-23 ธันวาคม ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่พอดีกับช่วงที่ราคาของมันพุ่งขึ้นแตะ 20,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในวันที่ 17 ธันวาคม 2017

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น เทรนด์คำค้นหาคำว่า ‘Bitcoin’ ก็ได้ร่วงลงมาอย่างมาก ส่งผลทำให้คะแนนคำค้นหาเหลือเพียงแค่ 19 เท่านั้นในช่วงครึ่งแรกของเดือนมีนาคม

โดยอ้างอิงจาก Google นั้น เทรนด์คำค้นหา “Bitcoin” มีคะแนนอยู่ที่ประมาณ 19 เป็นครั้งแรกเมื่อช่วงสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม 2017 เมื่อราคาของมันอยู่ที่ประมาณ 4,300 ดอลลาร์บน Coinmarketcap

รายงานเผยว่าอดีตผู้ที่ Mt. Gox ไว้ใจนั้นได้ทำการขาย Bitcoin เป็นมูลค่ากว่า 400 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนธันวาคมมาจนกระทั่งถึงเดือนกุมภาพันธ์ โดยเป็นที่คาดการณ์ว่าการร่วงของราคา Bitcoin นั้นเกิดขึ้นจากการกระทำของพวกเขา

[bitcointhai999-blog]

ที่มาของราคา Bitcoin ในปัจจุบัน

ได้มีการพูดถึง Bitcoin สมัยก่อนว่า ในยุคแรกเริ่มมีแต่คนที่เป็นกลุ่ม Geek หรือกลุ่มเฉพาะเท่านั้นที่ซื้อ โดยที่ ณ ตอนนั้นก็ยังไม่มีร้านค้าหรือสถานที่ที่มายอมรับเงินดิจิทัลตัวนี้ ถึงแม้ Bitcoin จะกำเนิดมานานแล้วก็ตาม ซึ่งจุดเปลี่ยนจริง ๆ ของ Bitcoin นั้นคือช่วงต้นปี 2017 เกิดเหตการณ์คือ มีหลายคนที่เริ่มมีการเข้ามาซื้อเหรียญ ซึ่งพอกระแสที่เกิด ทำให้ผู้คนเริ่มเข้ามาลงทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะกำไรที่เห็นสูงมากและสามารถเริ่มต้นเทรดได้ง่าย

ในปี 2015 คนมองเห็นว่า Bitcoin เหมือนแชร์ลูกโซ่ แต่เริ่มต้นคือวันที่ 1 เมษายน 2017 ประเทศญี่ปุ่นเริ่มสามารถนำเงิน bitcoin มาซื้อขายสินค้าได้ และในหลาย ๆ ประเทศเริ่มเปิดรับมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้เกิดความนิยมขึ้นในระดับขับเคลื่อนประเทศได้ซึ่งการซื้อขายเงิน Cryptocurrency นี้กลายมาเป็นการแลกเปลี่ยนที่จะเปลี่ยนโลกได้ เพราะไม่ต้องมีคนกลางในการซื้อขาย และในอนาคตเชื่อว่าการซื้อขาย จะกลายมาเป็นการซื้อรูปแบบ Token ทำให้กลุ่มผู้เล่นหุ้นในตลาด Wall Street หันมาจับตามองและหลาย ๆ คนได้ก้าวเข้ามาเป็น trader เต็มตัว

ไม่เพียงแค่มูลค่าของ Bitcoin ที่เติบโตสูง แต่ยังมี Cryptocurrency อีกหลายตัวที่ได้เติบโตขึ้นในปี 2017 นี้ ไม่ว่าจะเป็นเงินสกุล ethereum ที่โตขึ้นเป็น 400 US$ จาก 10$ และการเทรดเหล่านี้สามารถทำได้ง่าย เพียงแค่สมัครเว็บไซต์และยืนยันตัวตนเท่านั้นเอง

แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการเทรด Cryptocurrency นี้ยังมีความไม่แน่นอนว่าเป็นเรื่องถูกต้องหรือไม่ เพราะภาครัฐฯ ยังไม่ประกาศออกมาชัดเจนว่า ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ซึ่งต่างประเทศหลาย ๆ แห่งให้การยอมรับแล้ว และเชื่อว่าจะมีความชัดเจนในปี 2018 นี้

[bitcointhai999-blog]

ความเสี่ยงของการลงทุน Cryptocurrency

ซึ่งแน่นอนว่ามือใหม่ ณ ตอนนี้ถ้าอยากเข้ามาเทรดในปี 2018  จะต้องยอมรับความเสี่ยงเพราะหลาย ๆ คนที่เล่นกันมาก่อนหน้านี้ก็ได้กำไรไปแล้ว และราคามีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเขาได้แนะนำนักลงทุนว่า ไม่ควรนำเงิน 100% มาลงทุนเพื่อเพิ่มเป็น 2 เท่า แต่ควรวางแผนที่จะลงทุนเพียง 20% เพื่อให้กลายเป็นเงิน 100% แล้วนำเงินนั้นไปต่อยอด ถึงจะปลอดภัยกว่า

และยังมีคำแนะนำว่า เงินที่นำมาใช้เทรด ไม่ควรเป็นเงินที่กู้มา เพราะตลาดมีความผันผวนสูงจนเกินไป บางทีมูลค่าอาจจะหายไปถึง 50% ในวันเดียว หรือจะโตขึ้น 200% ในวันเดียวก็เป็นได้ ต้องศึกษาทำความเข้าใจให้ชัวร์ก่อนลงทุนจะดีที่สุด

และทิศทางของตลาดเทรดเงินดิจิทัลก็ได้มีกองทุนอย่าง Crypto Hedge Fund หรือกลุ่มการเงินที่คอยเก็งกำไร กับค่าเงิน Cryptocurrency ซึ่งทั่วโลกมีอยู่กว่า 200 กองทุนและมีเงินทุนสูงกว่า 50 M US$ คอย Monitor ค่าเงินต่าง ๆ อีกด้วย จึงทำให้คุณไม่สามารถควบคุมความเสี่ยงเอาไว้ได้เลยแม้แต่น้อย เพราะถ้ากลุ่มใหญ่เคลื่อนไหว ยังไงตลาดต้องมีความผันผวนแน่นอน

และมุมมองต่อมูลค่าของ Bitcoin คาดว่าปัจจุบันอาจจะเป็นฟองสบู่ใกล้จะแตกหรือไม่ ก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้ เพราะจะยังมีกลุ่มคนที่มีเงินเป็นหลักพันล้าน รอที่จะเข้ามาในตลาดอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกล่าวได้ว่า Bitcoin มีอายุเพียง 1 ปีเท่านั้นหากดูจากความตื่นตัวของตลาด และปัจจุบันมี Demand ที่มากขึ้นเพราะการขุดจะยากขึ้นเรื่อย ๆ ตามจำนวนผู้เข้ามา รวมไปถึงปัจจุบัน เงิน BTC กว่า 90% ถูกกลุ่มคนเพียงไม่ถึง 1,000 คนถือครองอยู่แบบไม่มีการเคลื่อนไหว ซึ่งถ้ากลุ่มนี้มีการถล่มขาย ก็อาจเกิดสภาวะค่าเงิน Bitcoin ดิ่งเหวก็เป็นได้

เมื่อเทียบตลาด Cryptocurrency ปัจจุบันยังมีมูลค่าการซื้อขายไม่ถึง 1% ของตลาดเทรดหุ้นระดับโลก ซึ่งเชื่อได้ว่าตลาดนี้จะมีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในสภาพแวดล้อมของโลกปัจจุบันที่คนมีเงินก็ไม่รู้จะเอาเงินไปเก็บไว้ในธนาคารทำไม เพราะไม่ได้ดอกเบี้ยแล้ว เอามาฝากเป็นเงิน Cryptocurrency ที่เล็งเอาไว้ดีกว่า มีโอกาสงอกเงยกว่ามาก

โดยในงานนี้ก็ได้ให้คำเตือนเอาไว้ว่า

[bitcointhai999-blog]

บางคนนับล้านในหนึ่งวัน

ชาวอเมริกันที่อ้างตัวว่าเป็น Mr. Smith เริ่มซื้อ Bitcoin ในปี 2010 ในขณะที่เขาเป็นนักเขียนโปรแกรมใน Silicon Valley เขาได้ศึกษาพื้นฐานทางเทคนิคของสิ่งใหม่นี้อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน ในมุมมองของ Smith สกุลเงินดิจิทัลมีโอกาสไม่จำกัดและสามารถลงทุนได้อย่างสมบูรณ์ Smith ซื้อ 20,000 bitcoins ในราคา $ 0.15 ในช่วงสามปีถัดมานักลงทุนมือใหม่แทบจะลืมการลงทุนนี้ แต่ในปีพ. ศ. 2556 Bitcoin ได้เปิดตัวและกลายเป็นจุดสนใจของข่าวการเงิน สกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้น 2,000 เท่ามากกว่าชามิดท์ที่ซื้อ เมื่อ Smith เห็น Bitcoin มูลค่า 350 เหรียญสหรัฐฯเขาขาย 2,000 Bitcoins และไม่กี่วันต่อมาสกุลเงินเสมือนได้เพิ่มขึ้นเป็น 800 เหรียญสหรัฐ ฯและไม่สามารถช่วยได้ขายหมายเลขเดียวกัน เขาเป็นคนร่ำรวยที่จริง ได้รับ2.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สมิ ธ ลาออกและ เดินทางไปทั่วโลกกับแฟนสาวของเขา ในอีกไม่กี่ปี เขาได้โยนไอเทมบางอย่างออกมาอย่างต่อเนื่องและเพิ่มความมั่งคั่งมากกว่าเก้าเท่า เขาเป็นแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของ Bitcoin สมิ ธ ใช้เวลาอยู่กับแฟนสาวของเขาและเดินทางไปตามเมืองและเมืองต่างๆในฝันเช่นโมนาโกสิงคโปร์ซูริคลาสเวกัสและมอสโก

[bitcointhai999-blog]

ข่าววงการเกมNvidia บอกควรขายการ์ดจอให้คอเกมมากกว่านักขุด Bitcoin

เรียกว่าเป็นประเด็นมาตลอดสำหรับการขาดตลาดของ การ์ดจอ หลังจากมีนักขุดซื้อไปขุดเหรียญ Bitcoin กันหมด แม้แต่ในไทยก็มีการขาดตลาดอย่างหนักจนราคาแอบพุ่งขึ้นไปด้วยเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าผู้ผลิตการ์ดจออย่าง Nvidia จะไม่ปลื้มเท่าไรนัก

เพราะล่าสุดคุณ Boris Böhles จาก Nvidia เยอรมัน ได้ออกมาประกาศสำหรับค่าย Nvidia นักเล่นเกมต้องมาก่อน และ กิจกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ GeForce ของเรามีเป้าหมายแฟนเกมเป็นหลัก ในสถานการณ์ปัจจุบัน ทางค่ายขอแนะนำให้คู่ค้าของเราจัดเตรียมสินค้าให้ผู้ที่ซื้อไปเล่นเกมก่อน

ซึ่งทาง Nvidia ได้ระบุว่าร้านค้าปลีกมีอิสระในการเลือกขายให้ใครก็ได้โดยจะไม่มีการแทรก แซง ส่วนทาง Nvidia ได้มีแนวทางในการขายที่ทำให้แฟนเกมมั่นใจได้ว่าจะมีสินค้า โดยเฉพาะการขายผ่านช่องทาง เว็บอย่างเป็นทางการของ Nvidia เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีสินค้าไปถึงแฟนเกมมากกว่าคนขุด Bitcoin

ซึ่งสาเหตุที่ทาง Nvidia ให้ความสำคัญกับแฟนเกมมากกว่าเพราะในระยะยาว การเล่นเกมก็ยังคงอยู่ และจะมีการอัพเกรดรุ่นขึ้นเรื่อยๆเท่ากับว่าได้แฟนประจำในระยะยาว และมีกิจกรรมทำกันแฟนเกมตลอด แต่สำหรับการขุดเหรียญ Bitcoin คนที่ซื้อไปจะเห็นว่ามันคือแค่เครื่องมือขุดเหรียญเท่านั้น ซึ่งถ้าหากเหมืองแตกเมื่อไรมันก็ถึงจุดจบ

อ้างอิง

https://wccftech.com/nvidia-instructs-retailers-stop-selling-miners-sell-gamers/