bovybovy - Tumblr blog

[bovybovy]

จัดอันดับสเปรย์พ่นจมูก สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ ตัวไหนดีที่สุด

ใครเป็นภูมิแพ้ยกมือขึ้น🙌🏻🙌🏻…

จะบอกว่าดีใจด้วย..คุณไม่เป็นแค่คนเดียว😅😜🤪

วันนี้มาแบบคนคิดบวก..ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง เราเอาอยู่ค่า555

โบว์เอง เพิ่งมาเป็นภูมิแพ้เอาตอนโต ของโบว์จะแพ้ฝุ่นค่ะ 

ไปที่ไหนถ้าฝุ่นเยอะเนี่ยจมูกไวมาก..มันจะมีอาการคันในจมูกเลยนะคะ

เพลียมาก.. ซึ่งก่อนหน้านี้ก็จะใช้เป็นน้ำเกลือธรรมดาล้างจมูก

มันก็จะช่วยได้ประมาณนึง.. ก็ลองมาหลายตัวอยู่...พอลองไปเรื่อยๆ ก็เจอตัวที่ใช้ได้ดีขึ้น  

พกพาสะดวก มีส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วย Save โพรงจมูกเรา ลดการระคายเคือง และไม่แสบจมูกทุกครั้งที่ใช้ด้วยจ้า

สำหรับวันนี้….โบว์จะมาจัดอันดับสเปรย์พ่นจมูก 

สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ ว่าตัวไหนเป็นอย่างไรกันบ้าง ???

คนที่ชอบเป็นหวัด คัดจมูกอยู่บ่อยๆ ยิ่งสถานการณ์โควิดที่ยังควบคุมไม่ได้แบบนี้ 

คนที่เป็นภูมิแพ้ หรือมีโรคประจำตัวก็จะต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ

สเปรย์พ่นจมูก….แต่ละแบรนด์ที่โบว์เอามาให้ดูในวันนี้ ซึ่งเป็นตัวที่โบว์ใช้กับตัวเองมาแล้ว จริงๆ มีมากกว่า 4 ตัว แต่วันนี้คัดเอา 4 ตัวที่โบว์คิดว่าดีที่สุด ก็จะมี….

1.Marimer Hypertonic Spray

2.Sinomarin Plus Algae Allergy Relief

3.Aqua Maris Protecto

4.Betadine Cold Defence Nasal Spray

เป็นแบรนด์ที่ติดตลาดและทุกคนที่ใช้สเปรย์ทำความสะอาดจมูกเป็นประจำ น่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีนะคะ…!!!!!  

เรามาดูทีละตัวกันเลยค่า

1.Marimer Hypertonic Spray

Marimer Hypertonic Spray :: เป็นตัวสเปรย์พ่นทำความสะอาดจมูก ที่มีสารละลายน้ำทะเลเจือจาง สามารถทำการพ่นล้างทำความสะอาดโพรงจมูก เพื่อช่วยลดอาการจมูกแห้งหรืออาการคัดแน่นจมูกได้ดี และยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเยื่อบุจมูกอีกด้วย ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับการรักษาโรคติดเชื้อทางหู คอ จมูก ได้

 :: วิธีการใช้งาน ::

สอดปลายหัวพ่นเข้าไปในรูจมูก

เอียงศีรษะไปทางด้านข้าง     และพ่นยามาริเมอร์เข้าไปในส่วนบนของรูจมูก

ทำซ้ำเช่นเดิมกับรูจมูกอีกข้างหนึ่ง

เอียงศีรษะกลับเพื่อปล่อยให้มูกไหลออกมา     เช็ดสารละลายส่วนเกินออก

ความรู้สึกหลังจากได้ใช้สเปรย์ตัวนี้พ่นทำความสะอาดจมูก :: หลังจากที่โบว์ได้ใช้มาริเมอร์ สเปรย์น้ำทะเลตัวนี้แล้ว  สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยน ไม่แสบจมูก รู้สึกหายใจได้โล่งขึ้น อาการคัดแน่นจมูกมีน้อยลง แต่แอบติดว่า…มันใช้ลำบากอยู่นะ แล้วตัวกระป๋องมีขนาดค่อนข้างใหญ่ สาวๆ ที่มีรูจมูกเล็กๆ อาจจะไม่ค่อยชอบ เพราะเวลาแหย่เข้ารูจมูก คือ มันยาก แล้วก็เป็นสเปรย์พ่นลักษณะแบบก๊าซ ใครไม่เคยใช้แรกๆ อาจจะมีสะดุ้งกันนิดหน่อยเวลาฉีดพ่น

คะแนนเต็ม 5 :: ได้ 4.7 คะแนน

ข้อดีของการใช้แบบก๊าซ :: มันจะช่วยผลักสิ่งสกปรกได้ลึกขึ้น

ข้อเสีย :: ปลายหัวพ่นตัวนี้จะมีขนาดใหญ่นิดนึง เวลาแหย่เข้าไปอาจรู้สึกลำบากค่า และมีกลิ่นก๊าซนิดๆ พกพายาก เวลาใช้ คิดว่าตัวนี้ต้องเอาไว้ใช้แค่ที่บ้านแหละ ช่องทางการสั่งซื้อ : เพจ Marimer Thailand, ร้านขายยาชั้นนำทั่วไป, Lazada, Shopee

ราคาต่อหน่วย : 495 บาท

ปริมาณที่บรรจุ : 100 ML

 2.Sinomarin Plus Algae Allergy Relief

Sinomarin Plus Algae Allergy Relief :: เป็นสเปรย์น้ำทะเลธรรมชาติพรีเมียม จากอ่าว Cancal ที่ชายฝั่งของแคว้น Brittany ของฝรั่งเศส แบบ Hypertonic 2.3% ที่มีความเข้มข้นกว่าน้ำเกลือทั่วไป เหมาะกับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ชอบเป็นหวัดคัดจมูกอยู่บ่อยๆ ใช้สำหรับพ่นหรือล้างทำความสะอาดจมูก ช่วยไม่ให้เราคัดจมูก กำจัดสิ่งสกปรกภายในโพรงจมูก ไม่ว่าจะเป็นน้ำมูก  รวมถึงล้างสารก่อภูมิแพ้  ไวรัส แบคทีเรีย ให้ออกมากับการพ่นล้างจมูก เพราะมีส่วนประกอบที่ช่วย ป้องกันไวรัสต่าง ๆ ไม่ให้เข้าสู่ร่างกายทางโพรงจมูกโดยตรง

ที่สำคัญ ใช้แล้วจะไม่แสบโพรงจมูก อ่อนโยน ช่วยลดภาวะอาการภูมิแพ้ ทุกครั้งที่ใช้เป็นประจำ

 :: วิธีการใช้งาน ::

นำมา พ่นจมูกข้างละ 1-3 ครั้ง สามารถใช้ได้ วันละ 2-3 เวลา ใช้ได้ต่อเนื่องทุกวัน หรือตามคำแนะนำของแพทย์

เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีน้ำมูกมาก โพรงจมูกแห้ง หรือคนที่มีอาการภูมิแพ้ในโพรงจมูกทั้งตามฤดูกาลและแบบเรื้อรัง

ความรู้สึกหลังจากได้ใช้สเปรย์ตัวนี้พ่นทำความสะอาดจมูก  :: ส่วนตัวโบว์ใช้แล้วค่อนข้างประทับใจมาก อาการคัดจมูกจากภูมิแพ้ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ท��ให้เราหายใจได้โล่งขึ้น และรู้สึกปลอดภัย พ่นได้บ่อยๆ เพราะมาจากน้ำทะเลธรรมชาติ ไม่ต้องกังวลถึงผลข้างเคียงใดๆ ไม่เหมือนการทานยาแก้ภูมิแพ้ หรือใช้ยาพ่นบางชนิด ที่อาจจะทำให้เกิดอาการข้างเคียงอื่นๆ หรือง่วงซึมได้...แล้วอีกอย่างที่โบว์ชอบมาก ก็คือ ตัวนี้มีความอ่อนโยน ใช้แล้วไม่รู้สึกแสบจมูกเลย  แพ็กเกจก็พกพาสะดวก ใช้งานง่าย โบว์ใช้พ่นแค่ 2 เวลา ก็คือ ช่วงเช้าและตอนเย็น  ใช้ครั้งแรกอาจจะตกใจนิดหน่อย แต่ต่อไปก็จะเริ่มชินค่ะ 

คะแนนเต็ม 5  :: ได้ 4.9 คะแนน

ข้อดี  :: ใช้แล้วอาการภูมิแพ้คัดจมูกลดลงจริงๆ ไม่แสบจมูก ดูพรีเมียม อ่อนโยน ปลอดภัย เพราะใช้น้ำทะเลธรรมชาติที่มาจากประเทศ ฝรั่งเศส และมีความเข้มข้นเพราะเป็น Hypertonic 2.3% ฆ่าเชื้อและทำความสะอาดโพรงจมูกได้ดีกว่าน้ำเกลือทั่วไป

ข้อเสีย :: รู้สึกถึงความเค็มจากน้ำทะเลนิดๆ อาจจะเพราะมีความเข้มข้นด้วย ช่องทางการสั่งซื้อ : ร้านขายยาชั้นนำทั่วไป, Lazada : https://bit.ly/3hoexVk

ราคาต่อหน่วย : 390 บาท

ปริมาณที่บรรจุ : 50 ML

 3.Aqua Maris Protecto

Aqua Maris Protecto Nasal Spray :: ตัวนี้เป็นสเปรย์สำหรับพ่นจมูก สูตรมายด์ไฮเปอร์โทนิก (Mild hypertonic solution) เอคโตอิน ช่วยปกป้องเยื่อบุโพรงจมูก จากสภาวะภายนอกต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง สารก่อภูมิแพ้ และสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เกลือทะเลเอเดรียติก ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่เยื่อบุโพรงจมูก และสารละลายมายด์ไฮเปอร์โทนิก บรรเทาอาการคัดแน่นจมูกอย่างเป็นธรรมชาติ

Aqua Maris Protecto Nasal Spray สกัดมาจากน้ำทะเลเหมือนกัน ผลิตด้วยเทคโนโลยี APF Technology ระบบนวัตกรรมป้องกันไม่ให้เชื้อจุลินทรีย์และอากาศเข้าสู่ขวด และช่วยให้ละอองสเปรย์อ่อนนุ่ม

 :: วิธีการใช้งาน ::

พ่นสเปรย์เข้ารูจมูกข้างละ 1 - 2 ครั้ง หรือพ่นได้บ่อยตามอาการ

สามารถใช้เดี่ยวๆ หรือใช้ร่วมกับยารักษาภูมิแพ้ชนิดอื่นได้

เหมาะสำหรับใช้ในเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีอาการภูมิแพ้

ความรู้สึกหลังจากได้ใช้สเปรย์ตัวนี้พ่นทำความสะอาดจมูก  :: โบว์รู้สึกว่าตัวน้ำยาในขวดที่ถูกพ่นออกมาเป็นละอองละเอียดเล็กๆ เข้าไปชะโลมอย่างอ่อนโยน เคลือบในโพรงจมูกอย่างทั่วถึง ทำให้โพรงจมูกเราก็จะรู้สึกชุ่มฉ่ำมากๆ เลยค่ะ

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อาจจะมีปัญหาโพรงจมูก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอาการจมูกแห้งง่าย แพ้อากาศ หรืออยู่ในสถานที่ ที่ต้องเจอมลภาวะเยอะ ลองมองหาตัวช่วยที่ดีอย่างสเปรย์พ่นจมูก เป็นอีกหนึ่งวิธีในการดูแลสุขภาพนะคะ ตัวนี้ ขวดเล็กๆ พกพาสะดวกมาก พกไปไหนมาไหนติดกระเป๋าเราได้ง่ายเลยค่ะ คะแนนเต็ม 5 :: ได้ 4.4 คะแนน

ข้อดี :: เล็กพกพาง่าย ขวดเป็นพลาสติกง่ายต่อการเก็บรักษา พ่นแล้วโล่งจมูก สดชื่น

ข้อเสีย  :: ใช้ยากกว่าแบบอัดแก๊สเพราะต้องกดหลายที ทำให้ตำแหน่งหัวฉีดเคลื่อนที่และไม่แรงเท่าแบบอัดแก๊สค่ะ

ช่องทางการสั่งซื้อ : เพจ Aqua Maris TH, ร้านขายยาชั้นนำทั่วไป, Lazada, Shopee ราคาต่อหน่วย : 330 บาท

ปริมาณที่บรรจุ : 20 ML

4.Betadine Cold Defence Nasal Spray

Betadine Cold Defence Nasal Spray ::  สเปรย์ป้องกันและลดเชื้อหวัด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวที่ควรมีติดบ้าน​  สเปรย์ฉีดจมูกสำหรับหวัดและภูมิแพ้​สกัดจากธรรมชาติ  ควรใช้ตั้งแต่เริ่มมีอาการเป็นหวัด​สามารถกำจัดไวรัสต่างๆ ได้​  ใช้เมื่อมีสัญญาณแรกของหวัด เช่น เวลาเริ่มมีน้ำมูก เริ่มจาม เพียงฉีดเข้าจมูก 1-2 พัฟ วันละ 2-3 ครั้ง จะช่วยลดการกระจายตัวของหวัดในโพรงจมูกได้  ช่วยกำจัดเชื้อไวรัสหวัดและไข้หวัดใหญ่ หรือกรณีที่เป็นหวัดแล้ว จะช่วยลดระยะเวลาการเป็นหวัด ช่วยให้หายหวัดเร็วขึ้นจากระยะเวลาปกติถึง 2 วัน

 :: วิธีการใช้งาน ::

ใช้เมื่อมีสัญญาณแรกของหวัด เช่น     เวลาเริ่มมีน้ำมูก

พ่นสเปรย์เข้าจมูก ข้างละ 2-3 ครั้ง พ่น 3 ครั้งต่อวัน

ตัวนี้เหมาะสำหรับผู้ใหญ่

ปราศจากตัวยาและสเตียรอยด์ ไม่มีสี     กลิ่นและสารกันเสีย

ความรู้สึกหลังจากได้ใช้สเปรย์ตัวนี้พ่นทำความสะอาดจมูก ::  ตัวนี้เป็นสเปรย์ฉีดจมูก อีกหนึ่งตัว  ที่ตัวแบรนด์ภาพลักษณ์  ออกมาทางยานิดๆ โบว์ซื้อมาใช้เพราะเค้าบอกว่า มันเหมาะสำหรับหวัดและภูมิแพ้ ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ปราศจากสารสเตียรอยด์ มีความปลอดภัย ใช้แล้วไม่มีผลข้างเคียงใดๆ สามารถช่วยลดการกระจายตัวของหวัดในโพรงจมูกได้กรณีที่เป็นหวัดแล้ว จะช่วยลดระยะเวลาการเป็นหวัด ส่วนใหญ่ตัวนี้จะใช้เมื่อตัวโบว์รู้สึกว่าเราจะเป็นหวัดและเริ่มมีน้ำมูก

คะแนนเต็ม 5 :: ได้ 4.6 คะแนน

ข้อดี :: ตัวนี้ใช้แล้วหายใจสดชื่นมาก ขวดเล็กพกพาง่าย

ข้อเสีย :: ด้วยความที่ขวดเป็นแก้ว ต้องเก็บให้ดีระวังแตก ใช้ยากกว่าแบบอัดแก๊สเพราะต้องกดหลายทีทำให้ตำแหน่งหัวฉีดเคลื่อนที่และไม่แรงเท่าแบบอัดแก๊สค่ะ

ช่องทางการสั่งซื้อ : เพจ BetadineTH, ร้านขายยาชั้นนำทั่วไป, Lazada, Shopee

ราคาต่อหน่วย : 350 บาท

ปริมาณที่บรรจุ : 20 ML

ซึ่งถ้าสรุปจากสเปรย์ฉีดจมูก 4 ตัวนี้ ส่วนตัวโบว์ชอบ Sinomarin Plus Algae Allergy Relief ที่สุด 

ข้อดี :: ชอบที่สุดเพราะใช้แล้ว ไม่แสบจมูก และชอบความพรีเมียมที่เป็นน้ำทะเลธรรมชาติจากประเทศฝรั่งเศส ที่มีความเข้มข้นสูง  และที่สำคัญใช้แล้ว รู้สึกว่าช่วยเรื่องภูมิแพ้ได้จริงๆ จมูกสะอาดโล่งสบาย สังเกตได้เลยว่าถ้าหากเราใช้ช่วงตอนเย็น จะมีเศษฝุ่นดำๆออกมา

(ประมาณว่าฝุ่นที่สูดดมเข้าไประหว่างวันที่ติดอยู่ภายในจมูกโดนชะล้างออกมา) และหัวสเปรย์เล็กเรียว ใช้งานง่ายกว่าแบรนด์อื่น 

ข้อเสีย :: อาจจะรู้สึกถึงความเค็มนิดๆของน้ำทะเล แต่ก็เพราะเค้ามีความเข้มข้น และขวดเป็นแบบสเปรย์อัดก๊าซ ทำให้มีกลิ่นก๊าซปนอยู่บ้าง เผื่อใครไม่ชอบฟีลนี้

บางคนอาจจะรู้สึกเขิล เนื่องจากวิธีใช้เราต้องแหย่เข้าไปที่รูจมูกทั้งสองข้างแล้วก็ลึกพอสมควร 55  โบว์ขอสาธิต ให้ดูเบื้องต้นหนึ่งตัวแล้วกันจ้า🤣😅

ใช่แล้วค่ะ..เวลาที่เราจะใช้ หรือพ่นตัวสเปร่ย์ล้างทำความสะอาดจมูกของเรา เราก็จะเอาปลายสีเหลืองนี้..ใส่เข้าไปในจมูก 555

เข้าไปลึกพอควร..แล้วก็กดสเปรย์ฉีดเข้าไปในโพรงจมูกของเราได้เลยค่ะ

 โบว์ของแนะนำว่า...สำหรับใครที่เป็นภูมิแพ้คัดจมูกแล้วยังไม่เคยลองใช้สเปรย์พ่นจมูกบอกเลยว่าพลาดมากค่ะ  ถ้าได้ลองใช้แล้ว จะรู้สึกเลยว่ามันสบายแล้วก็โล่งจมูกมาก..และมันยังช่วยให้เราลดเรื่องของการทานยาไปได้ในตัวด้วยนะ แต่สำหรับใครที่กังวล อาจจะลองปรึกษาและขอคำแนะนำจากแพทย์ประจำที่เรารักษาอยู่ก่อนก็ได้จ้า

ขอย้ำว่า : ยิ่งช่วงนี้มีโควิด..การทำความสะอาดจมูกก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งเลยนะคะ

การรีวิวจัดอันดับสเปรย์พ่นจมูก สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ ตัวไหนดีที่สุด ในรอบนี้ก็ต้องบอกว่า โบว์คัดสรรเลือกเอาแต่สเปรย์ตัวที่โบว์ใช้เป็นประจำ นำมาฝากเพื่อนๆ และคิดว่าก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งบทความที่มีประโยชน์ไม่มากก็น้อย...ในช่วงสถานการณ์โควิดระบาดแบบนี้ เราต้องเน้นการดูแลสุขภาพร่างกายของเราให้มีภูมิคุ้มกันที่ดี ร่างกายแข็งแรงในทุกๆ วัน แม้ว่าทุกคนยังจะต้องอยู่บ้านกักตัวกันไปก็ตาม สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้วเราจะปลอดภัย อย่าลืมดูแลสุขภาพ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่  นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ในสเตปการดูแลตัวเองขั้นพื้นฐานให้ดีกันด้วยนะจ๊ะ…วันนี้โบว์ต้องขอตัวไปก่อนแล้วจ้า….และสำหรับครั้งหน้าโบว์จะมารีวิวอะไรให้เพื่อนๆ ได้ชมกันอีก รอติดตามกันในครั้งต่อไปได้เลยนะจ๊ะ….วันนี้ไปก่อนละ….บะบายจ้า

[bovybovy]

รีวิวคอลลาเจนจาก 4 แบรนด์ดัง ปี 2021 ยิ่งทานยิ่งปัง

รีวิวคอลลาเจนจาก 4 แบรนด์ดัง ปี 2021 ยิ่งทานยิ่งปัง

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้โบว์มี คอลลาเจน 4 แบรนด์สุดปัง ที่ช่วยบำรุงผิวให้สวยใส แก้ปัญหาริ้วรอยความหมองคล้ำ มาแนะนำให้ เพื่อนๆ เพื่อเป็นแนวทาง ให้ได้เลือกทานกัน ซึ่งทั้ง 4 ตัวนี้เป็นคอลลาเจนแบบผงสำหรับชงดื่ม ก่อนหน้านี้ โบว์เองได้ลองทานมาแล้วหลายๆ ตัว แต่วันนี้โบว์ขอหยิบยกมาเพียงส่วนหนึ่ง กับคอลลาเจน 4 แบรนด์ ที่โบว์เอามาแนะนำในวันนี้ น่าจะเป็นคอลลาเจนที่โบว์ทานแล้ว รู้สึกได้ถึงผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง เด่นชัด ความกระจ่างใสมากที่สุดแล้วจ้า โบว์ก็เลยอยากจะมารีวิวแชร์ข้อมูลต่างๆ ให้เพื่อนๆ ได้ทราบกัน เผื่อจะเป็นแนวทางสำหรับใครที���กำลังมองหาคอลลาเจนดีๆ ซักตัว  จะได้นำข้อมูลที่โบว์มาแชร์ในวันนี้ ไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อคอลลาเจนมาทาน เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและลดความหมองคล้ำ เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวของเรากันค่ะ โดยการรีวิวของโบว์ครั้งนี้ เป็นเพียงประสบการณ์ ความรู้สึก และความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ

มาเริ่มที่ตัวแรก Colligi Collagen Tripeptide + Vitamin C

ตัวนี้ ที่โบว์อยากจะแนะนำเป็นคอลลาเจนชนิดผง ที่โบว์ลองทานด้วยตัวเองแล้วรู้สึกว่าชอบ ก็คือ เรื่องของกลิ่นคาว คือ มีกลิ่นคาวของคอลลาเจนแบบน้อยมาก จนแทบจะไม่ได้กลิ่นคาวเลย เวลาชงดื่มกับน้ำเปล่า ให้ความรู้สึกเหมือนโบว์ทานน้ำเปล่าเลยค่ะ เป็นคอลลาเจน ไตรเปปไทด์จากปลา 5000 มิลลิกรัม ซึ่งโบว์เองจะชอบชงดื่มก่อนทานอาหารเช้าเป็นประจำ เสียอย่างเดียว ตัวนี้เป็นคอลลาเจนชนิดผงที่ไม่ได้จัดแพคเกจมาให้เหมาะสำหรับการพกพา เวลาไปไหนมาไหนพกพาลำบาก จึงทำให้โบว์ขอตัดคะแนนในส่วนของแพคเกจคอลลาเจนตัวนี้นะคะ  สำหรับ Colligi Collagen Tripeptide + Vitamin C เป็นคอลลาเจนแบบผงที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ช่วยเรื่องการดูดซึมได้ดี ช่วยบำรุงผิว บำรุงข้อเข่า ผม เล็บ ให้แข็งแรง ถึงแม้ว่าตัวนี้จะเป็นคอลลาเจนชนิดผง แต่สามารถละลายได้ดี แม้โบว์จะชงในน้ำเย็นก็ตาม สามารถละลายได้เพียง 30 วินาทีเท่านั้น

คอลลาเจนตัวนี้นอกจากสาวๆ ที่สามารถชงดื่มได้แล้ว คุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ที่มีอายุ 40+ ขึ้นไปสามารถชงดื่มได้ด้วยนะคะ เพราะเค้าเน้นที่เรื่องช่วยดูดซึมและบำรุงกระดูก ส่วนคุณสมบัติอื่น ๆ ก็เหมือนคอลลาเจนทั่วๆ ไปนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปัญหาริ้วรอยจากสิว ผิวหมองคล้ำจากแดด ผิวแตกแห้งกร้าน เนื่องจากคอลลาเจนในร่างกายลดลงตามช่วงอายุวัยที่มากขึ้น เป็นต้น แต่ก็ต้องใช้เวลานิดนึงอาจจะไม่ได้เห็นถึงความแตกต่าง การเปลี่ยนแปลงชัดเจนรวดเร็วขนาดนั้น

สรุปความคิดเห็นส่วนตัวจากโบว์ กับ Colligi Collagen Tripeptide + Vitamin C

โบว์ชอบเรื่องของรสชาติความคาวที่แทบจะไม่รู้สึกถึงกลิ่นคาวเลย..ละลายน้ำได้ดี และพ่อแม่ของโบว์ ท่านก็สามารถดื่มได้ แต่ ขอหักคะแนนเรื่องของความสะดวกในการพกพา..ถ้าทำแบบซองมาด้วยก็จะดีมาก เพราะถ้าจะให้โบว์ ตักแบ่งแยกไป ก็ลำบากอีก จะพกพาเป็นกระป๋องเอาไปไหนมาไหนก็ยากนิดนึงค่ะ

คะแนนการรีวิวของแบรนด์นี้ โบว์ให้ 4.5/5 คะแนนจ้า

ตัวที่ 2 ที่อยากแนะนำก็คือ VISTRA Pure Collagen Dipeptide 5000 Mg

ตัวนี้มาในรูปแบบกล่อง ภายในบรรจุคอลลาเจนชนิดผงมาในรูปแบบซองขนาดเล็กแบ���พกพาจำนวน 30 ซอง เป็นคอลลาเจน ไดเปปไทด์ 5000 มิลลิกรัม ซึ่งวัตถุดิบต่างๆ นำเข้ามาจากญี่ปุ่น ตัวโบว์เอง ก็เลือกและมั่นใจกับชื่อเสียงของแบรนด์นี้ เพราะในตลาดอาหารเสริมบ้านเรา รู้จักกันเป็นอย่างดี จึงมั่นใจ และไว้วางใจได้ว่าปลอดภัย ส่วนเรื่องคุณสมบัติของคอลลาเจนไดเปปไทด์ ตัวนี้คัดเฉพาะกรดอมิโน 2 ชนิด ที่เรียงต่อกัน คือ Proline ต่อกับ Hydroxyproline (คู่ PO) และ Hydroxyproline ต่อกับ Glysine (คู่ OG) เป็นคอลลาเจนไดเปปไทด์ ที่มีโมเลกุลเล็กที่สุด ดูดซึมไวสุดและเห็นผลดีที่สุดในปัจจุบัน ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมเอาไปใช้ได้ดีและเร็วกว่าคอลลาเจนแบบทั่วไป เรียกได้ว่าตอบโจทย์คนใจร้อน ที่อยากจะมีผิวเนียนนุ่ม ดูสว่างกระจ่างใส ลดปัญหาความแห้งกร้าน หมองคล้ำได้เป็นอย่างดี

จากที่โบว์ได้ลองทาน ก็รู้สึกว่าคอลลาเจนตัวนี้ไม่ค่อยมีกลิ่นคาว ทานง่ายอยู่เหมือนกันนะ จะทานในรูปแบบของผงชงดื่มผสมกับเครื่องดื่มต่างๆ ได้ คุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้สูงอายุก็สามารถทานได้เช่นกันค่ะ ส่วนใหญ่แล้วโบว์ก็จะนำเอาผงคอลลาเจนตัวนี้ไปผสมกับอาหารหรือเครื่องดื่มที่เราชอบได้เลย ซึ่งไม่ทำให้เสียรสชาติทั้งตัวอาหารหรือเครื่องดื่มเมนูนั้นๆ แต่อย่างใด  และไม่ต้องห่วงเรื่องอุณหภูมิร้อน/เย็น เพราะตัวนี้ผงคอลลาเจนละลายง่าย พกพาสะดวก นอกจากจะได้ทานของอร่อยๆ แล้ว ยังได้คอลลาเจนดีๆ ผสมอยู่ในนั้น ทำให้ได้ทั้งเรื่องสุขภาพความสวยความงาม แถมช่วยดูแลผิวพรรณของเราให้ดีขึ้นได้อีกด้วย ส่วนผลลัพธ์หลังจากทาน โบว์รู้สึกว่า ผิวพรรณของโบว์ดูเปล่งปลั่งขึ้น ริ้วรอยดูจางลง ผิวดูฉ่ำ อิ่มน้ำกว่าเดิม หลังจากที่โบว์ทานคอลลาเจนตัวนี้ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ก็เริ่มสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจนมีคนทักแล้วค่ะ อ่อลืมบอกไปตัวนี้ เค้ามีเครื่องหมายฮาลาลด้วยนะ คนนับถืออิสลามก็สามารถทานได้จ้า

สรุปความคิดเห็นส่วนตัวจากโบว์ กับ VISTRA Pure Collagen Dipeptide 5000 Mg

บอกเลยว่าชอบเรื่องของแพคเกจ คอลลาเจนตัวนี้มากๆ ค่ะ เพราะทุกวันนี้โบว์เองก็ยังพก VISTRA Pure Collagen Dipeptide 5000 Mg ตัวนี้ติดกระเป๋า ไปด้วยทุกที่ เพราะรู้สึกว่า พกพาง่าย และสะดวก ซองเล็กกระทัดรัด ทีนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าเวลาไปไหน จะไม่ได้เติมคอลลาเจนให้ร่างกายเพื่อบำรุงสุขภาพผิว โบว์ชอบคอลลาเจนตัวนี้ตรงที่สามารถเทผสมกับเครื่องดื่ม หรือพวกเบเกอรี่ของหวานต่างๆได้ทุกเมนู และยังมีกลิ่นคาวน้อย แล้วก็เป็นคอลลาเจนแบบ Dipeptide ซึ่งโมเลกุลเล็กสุดๆ ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ง่าย ดูดซึมได้เร็ว ผิวแข็งแรงขึ้น ดูกระจ่างใสขึ้นจนเห็นได้ชัด แนะนำเลยว่า ใครอยากได้ผลลัพธ์ที่ดีเรื่องผิวพรรณที่ผ่องใส แบบมีออร่าจนคนรอบตัวต้องทักต้อง ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งตัวที่โบว์ชงดื่มเป็นประจำค่ะ

คะแนนการรีวิวของแบรนด์นี้ โบว์ให้ 4.5/5 คะแนนจ้า

มาถึงตัวที่ 3 CHAME' KRYSTAL COLLAGEN

ตัวนี้ก็จะมาในรูปแบบแพ็กเกจแบบกระป๋อง ข้างในจะมีคอลลาอยู่ทั้งหมด 30 ซอง ซองละ 5,000 มิลลิกรัม ถือเป็นคอลลาเจนอีกตัวที่พกพาง่าย แล้วก็ราคาไม่แพงด้วย ซึ่ง CHAME' KRYSTAL COLLAGEN ตัวนี้จะเป็นการรวมคอลลาเจน 3 ชนิด เข้ามาไว้ด้วยกัน นั้นก็คือ มีคอลลาเจน ไทป์ทูที่สกัดจากอกไก่, คอลลาเจนไดเปปไทด์ และคอลลาเจนไตรเปปไทด์จากปลาน้ำจืด รวมไปถึงมีวิตามินซี ที่ช่วยเรื่องการดูดซึม ซึ่งส่วนผสมทั้งหมดนี้จะช่วยในเรื่อง เล็บ ผม ข้อต่อกระดูก และผิว ให้มีสุขภาพดีไปพร้อมๆ กัน

ในเรื่องของผลลัพธ์จากที่โบว์ได้ลองทานจนหมดทั้ง 30 ซองแล้ว รู้สึกว่าผลลัพธ์ที่ได้ ก็ไม่ต่างจากคอลลาเจนตัวที่ 1 และตัวที่ 2 ที่โบว์ได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้ กลิ่นคาวก็มีเล็กน้อย ผสมน้ำละลายได้โอเคระดับหนึ่ง  แต่เพียงรู้สึกว่าอาจจะเห็นผลช้าไปหน่อย บางคนอาจจะต้องทานต่อเนื่องถึงจะเห็นผลชัดเจน ซึ่งในส่วนนี้หากใครไม่ซีเรียส และมีงบจำกัด โบว์ก็แนะนำให้ลองตัวนี้ด้วยเช่นกันจ้า

สรุปความคิดเห็นส่วนตัวจากโบว์ กับ CHAME' KRYSTAL COLLAGEN

ส่วนตัวแล้วที่โบว์เลือกคอลลาเจนแบรนด์นี้มา เพราะชอบเรื่องของคุณสมบัติตัวคอลลาเจนที่สกัดมาจากปลาน้ำจืด ก็เลือกซื้อมาลองชงดื่มดู สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนหากเปรียบเทียบกับ 2 ตัวแรก คือ อาจจะเป็นเพราะตัวคอลลาเจนไม่ได้เป็นเพียวคอลลาเจน ทำให้ละลายน้ำได้ช้ากว่าตัวอื่นๆ ต้องคนซักพักเพื่อให้ละลายกับน้ำได้ดีขึ้น แล้วก็ปริมาณการบรรจุต่อ 1 ซอง รู้สึกเหมือนปริมาณน้อยกว่าตัวที่ 2 ก็เลยอาจจะต้องเพิ่มความเข้มข้นด้วยการทาน 2 ซองต่อครั้งจ้า

คะแนนการรีวิวของแบรนด์นี้ โบว์ให้ 4/5 คะแนนจ้า

และตัวที่4 MANA Premium Collagen Dipeptide Plus

ตัวนี้ เป็นคอลลาเจนตัวสุดท้ายใน 4 ตัว จะบอกว่าตัวนี้เพื่อนแนะนำโบว์มาให้ลองทานดู เรามันสาวสวยสายคอลลาเจนอยู่แล้ว ถ้าจะลองเพิ่มอีกตัวก็ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้วจ้า ตัวนี้จะมาในรูปแบบกระป๋อง ปริมาณบรรจุ 110,000 มิลลิกรัม โดย MANA Premium Collagen Dipeptide Plus จะมีส่วนผสมเกรดพรีเมี่ยม 4 ชนิด คือ คอลลาเจนไดเปปไทด์และไตรเปปไทด์, Q10, วิตามินซี, เซราไมด์จากข้าว

ซึ่งมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระและช่วยบำรุงผิวพรรรณให้ดูขาวใสเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อ และจากที่โบว์ได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่าตัวนี้ไม่มีแป้งและน้ำตาลผสมอยู่ ทำให้สามารถชงดื่มได้ง่าย ส่วนในเรื่องผลลัพธ์ของเค้าก็เห็นผลไวเหมือนกัน โดยเฉพาะในเรื่องเส้นผมและโทนสีผิวที่เคยหมองคล้ำก็จะดูสว่างขึ้น

สรุปความคิดเห็นส่วนตัวจากโบว์ กับ MANA Premium Collagen Dipeptide Plus

ในเรื่องของผลลัพธ์สำหรับโบว์แล้ว ถือว่าของเค้าเห็นผลเร็ว เวลาชงก็ละลายในน้ำได้ดี ส่วนในเรื่องของกลิ่นคาวสำหรับโบว์แล้ว กลิ่นค่อนข้างแรงกว่าตัวอื่นๆ ที่โบว์ลองทานมาก่อนหน้านี้ทั้งหมด ซึ่งสำหรับใครที่ไม่เคยทานคอลลาเจนมาก่อน อาจจะทานลำบากนิดหนึ่งนะคะ ค่อนข้างซีเรียสในเรื่องของกลิ่น โบว์แนะนำให้ลองผสมชงกับเครื่องดื่มอื่นๆ ดู จะช่วยให้ทานได้ง่ายขึ้นได้ แล้วก็เรื่องของการพกพาไปทานในสถานที่ต่างๆ ก็อาจจะพกพายากสักหน่อยนะคะ

คะแนนการรีวิวของแบรนด์นี้ โบว์ให้ 4/5 คะแนนจ้า

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจและอยากจะหาซื้อคอลลาเจนทั้ง 4 ตัวไปลองชงดื่ม ลองทานกัน ก็หาซื้อได้ไม่ยากนะคะ ทั้งซื้อตัวนี้สามารถหาซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ Lazada, Shopee, หรือตาม Shop ชั้นนำทั่วไป เช่น Watsons, Boots หรือ ร้านขายยาชั้นนำทั่วไปได้เลยคะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับคอลลาเจนทั้ง 4 ตัวที่โบว์หยิบมารีวิวและแชร์ประสบการณ์ตรงให้กับเพื่อนๆ หลายๆ คนที่อาจจะกำลังมองหาคอลลาเจนดีๆ สักตัวไว้ชงดื่มกันสักหน่อย เพื่อนเห็นตรงกับโบว์มั้ย นี่เป็นแค่แนวทางนะคะ เพื่อนๆ เคยทานตัวไหนและเป็นยังไงลองมาแชร์แลกเปลี่ยนไอเดีย แนวทางการดื่มคอลลาเจนกับผลลัพธ์ดีๆ กับโบว์ได้คะ

1 ใน 4 คอลลาเจนชนิดผง ที่โบว์พกติดตัวไว้ตลอด เวลาจะทานหรือดื่มอะไรก็จะไม่ลืมที่จะเทผสมชงดื่มด้วยทุกครั้ง เพราะผู้หญิงเราหยุดความสวย ให้หายไปตามกาลเวลาของอายุที่มากขึ้นได้อย่างไร

ทุกวันนี้ทำงานหาเงินมาต้านความแก่ค่ะ555+ อยากสวยต้องรวยก่อน เพราะความสวยต้องใช้ตังค์ระหว่างเส้นทางก็ต้องดูแลตัวเอง คอลลาเจนสำคัญกับผญเรามากกกก..ยิ่งอายุที่มากขึ้นมันจะผลิตน้อยลงเพราะฉะนั้นเราก็ต้องเติมคอลลาเจนเข้าไปทดแทนค่ะ..เพื่อชะลอให้ร่างกายของเรายังดูอ่อนเยาว์สวยใสให้นานขึ้น..วันนี้โบว์นำคอลลาเจนแต่ละแบรนด์มาเปรียบเทียบให้เห็นข้อแตกต่างมาให้เห็นกันแล้ว ซึ่งเพื่อนๆสามารถเอาไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อได้เลยนะคะ

สุดท้ายนี้ขอให้เพื่อนๆทุกคน อย่าลืมดูแลตัวเองและสุขภาพของตัวเองกันด้วยนะคะ..จะได้สวยและสุขภาพดี เป็นสาวสองพันปีไปเลยจ้า…..