Don't wanna be here? Send us removal request.
Text
กำหนดเปิดเขาคิชฌกูฏ 2567 จ.จันทบุรี!
กำหนดการเปิดเขาคิชฌกูฏ 2567
เปิดเขาคิชฌกูฏ เริ่ม วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ถึงวันที่ 9 เมษายน 2567
พิธีบวงสรวง "ปิดป่า - เปิดงาน" วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567
เมื่อมาถึงเขาคิชฌกูฏ การเดินเท้าขึ้นไป ซึ่งใช้เวลาในการเดิน 3-6 ชั่วโมง หรือใช้บริการ รถสองแถวบริการขึ้นเขาพระบาท ออกจากวัดพลวงไปสิ้นสุดที่บริเวณทางขึ้นยอดเขาพระบาท โดยรถที่ขึ้นยอดเขาแบ่งเป็น 2 ช่วง ค่าโดยสารช่วงละ 50 บาท/คน (รวมไป-กลับ 200 บาท) มีรถบริการตลอดเวลา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จะถึงจุดเริ่มต้นการเดินเท้าขึ้นไปรอยพระบาท
ข้อปฏิบัติในการเดินทางขึ้นไปบนยอดเขาคิชฌกูฏ
ไหว้พระบาทจำลอง ที่ต้นศรีมหาโพธิ์
ขึ้นศาลาไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 9 องค์ ปิดทองรูปใด ขอพรขอบารมีรูปนั้นให้ครบ 9 ครั้ง
จุดเทียนธูป หน้าห้องกระจก ตั้งสัจจะขอในสิ่งที่เราต้องการต่อหน้าสังขาร พระครูพุทธบทบริบาร (หลวงพ่อนัง)
ประพรมน้ำพุทธมนต์ ให้เป็นสิริมงคลก่อนขึ้นเขา
ตั้งสัจจะ ขอที่พระอภิบาลมงคลพุทธไสยาสน์
จุดเปลี่ยนรถที่ 1 ไหว้เจดีย์กลางเขา เจ้าแม่กวนอิม, พระพรหม, พระพิฆเนศวร, แม่โพสพ, บาตรแห่งมหาโชคลาภ
เปลี่ยนรถที่ 2 ไหว้พระสิวลี พระแม่ธรณีบีบมวยผมพระนอน, พระมาลัย
ท้าวเวสสุวรรณ, ท้าวพิเภก, พระพิฆเนศวร, แม่ธรณีบีบมวยผม แล้วเคาะระฆัง 2 ข้างทาง
��ิ่งมหัศจรรย์ รอยเสือใหญ่, รอยกวางทอง, พระศิวะ, พระนาคปรก
จุดพักขึ้นประตูสวรรค์ ไหว้พระป่าเรไร, ถวายสังฆทาน, ไหว้พระพรหม แล้วเคาะระฆังขึ้นสวรรค์
ไหว้หมอชีวกโกมารภัทร, ฆ้อง, ธรรมจักร, นมัสการรอยพระบาท, เจ้าแม่กวนอิม, ท้าวมหาพรหมวิหาร(กองอำนวยการ)
ลานอินทร์ เป็นลานที่พระอินทร์ลงมาประทับที่สถานที่แห่งนี้ เลยนำรูปท่านมาประดิษฐานไว้ที่นี่ และมีผู้อธิษฐานขอแล้วประสบความสำเร็จในเรื่องเนื้อคู่, ที่อยู่อาศัย, ไหว้เทพเทวดา, สักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ, พระปิยมหาราช, สมเด็จพระพุฒาจารย์โต (พรหมรังษี) ด้านข้างเป็นจุดชมวิวสวยงามมากเป็นหุบเขาที่เขียวชอุ่ม มีเขื่อนเก็บน้ำ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์
นมัสการพระสิวลี, พระพิฆเนศวร
ปิดทอง ขอพรจากลูกแก้วสารพัดนึก
สักการะบาตรพระอานนท์ (บาตรใหญ่) ลานบายศรี เป็นที่บูชาเทพ
สักการะบาตรพระสิวลี บาตรแห่งความร่ำรวย
ไหว้แม่นางตะเคียน ให้โชคให้ลาภ
ลานพรหมบรรทม เป็นสถานที่พระพรหมบรรทม ควรไหว้พระและสวดมนต์บูชาพระพรหมบาตรพระโมคคัลลานะ อยู่ใกล้กับลานพรหมบรรทม
บาตรพระสารีบุตร และผ้าแดง เป็นสถานที่เดียวกับผ้าแดง ให้เขียนชื่อ นามสกุล บ้านเลขที่บนผ้าแดงแล้วอธิษฐานจิตตามปรารถนาค่ะ
0 notes
Text
นิสัยพีคๆตามวันเกิดทั้ง 7 วัน!
รู้นะว่ามีหลายๆ คนที่ชอบในเรื่องการทายนิสัยกัน หลายๆ คนเคยดูกันมาก็คงมีหลากหลาย ทั้งทายจากราศี กรุ๊ปเลือด ซึ่งอีกอย่างที่แม่นไม่แพ้กันก็คือทายนิสัยจากวันเกิด ไม่ว่าจะเรื่องการงาน การเงิน ความรัก อยากรู้เรื่องไหนเราบอกได้หมด เล่นหวยออนไลน์ ใครที่อยากรู้แล้วว่านิสัยของตัวเองแท้จริงเป็นยังไง มีเรื่องไหนพีคๆ บ้าง พร้อมแล้วตามมาพีคกันเลย
นิสัยพีคๆ คนเกิดวันจันทร์
เรื่องพีค: เค้าว่าคนเกิดวันจันทร์อ่ะเจ้าเสน่ห์ คุยเก่ง ช่างพูดช่างเจรจา ไม่แปลกที่ใครๆ ก็ชอบคุณ บางครั้งก็แกร่งเกินร้อยแต่บางครั้งก็อ่อนไหวง๊ายง่ายเช่นกัน
งานพีค: คุณมีความเป็นผู้นำค่อนข้างสูง ถูกว่าถูกผิดว่าผิด แต่คุณไม่ใช���คนขวานผ่าซากตรงกันข้ามคือพูดจาอย่างมีชั้นเชิง
เงินพีค: คุณเป็นคนเก็บเงินเก่ง ไม่เสียเงินกับอะไรง่ายๆ จะซื้ออะไรต้องอ่านรีวิวซ้ำแล้วซ้ำอีกให้มั่นใจซะก่อน เรียกว่าไม่ชัวร์ไม่ได้กินตังค์คุณแน่นอน
รักพีค: ด้วยความที่คุณเป็นคนมีเสน่ห์จึงทำให้มีคนที่หมายปองและเป็นที่หมายปองของคนอื่นเยอะ ระวังจะรถไฟชนกันนะ! หากเจอคนที่ชอบสเปคที่ใช่แล้วก็ดูแลเค้าให้ดีเพราะเค้าจะเป็นคนที่อยู่เ��ียงข้างคุณทุกย่างก้าวเลยล่ะ
นิสัยพีคๆ คนเกิดวันอังคาร
เรื่องพีค: ตรงกว่าไม้บรรทัดก็คุณนี่แหละ มีความใจร้อนแอบขวานผ่าซากแถมมาพร้อมกับความมั่นใจเต็มร้อย กล้าคิ�� กล้าทำ กล้าลุย แต่ก็มีความจริงใจนะเออ
งานพีค: บอกเลยว่าพร้อมมาก ยิ่งท้าทายยิ่งชอบ ชอบคิดนอกกรอบ ไม่ชอบรอคำสั่งจากหัวหน้างาน อะไรที่คิดไว้แล้วแพลนไว้แล้วไม่มีทางยกเลิกต้องทำให้สำเร็จ
เงินพีค: คุณเป็นพวกนักลงทุน เทรดหุ้น, NFT เรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ ต้องยกให้คุณเลย ดังนั้นจึงทำให้คุณเป็นคนที่รู้จักวางแผนในเรื่องการเงินเป็นอย่างดี มีเงินเหลือใช้สบายๆ ในแต่ละเดือน
รักพีค: ด้วยความที่คุณเป็นคนใจร้อนปากไวแต่ก็ใจรักจริง หากได้คนที่อ่อนหวานมาคู่กายก็จะเป็นอะไรที่เวิร์คสุดๆ
นิสัยพีคๆ คนเกิดวันพุธ
เรื่องพีค: เจ้าคิดไหวพริบเป็นเลิศต้องยกให้คนเกิดวันนี้เลย คุณเป็นคนเข้าสังคมเก่ง ชอบสังเกต ช่างจดจำ ใส่ใจรายละเอียดได้แทบทุกอย่าง รู้ว่าจังหวะไหนควรพูดอะไรทำอะไร ปรับตัวเข้ากับแวดล้อมได้ดีเยี่ยมกว่าใครเลยล่ะ
งานพีค: คุณแทบจะเป็นลิเบโร่ของทีม เพราะทำได้ทุกอย่าง เสียบแทนได้ทุกตำแหน่ง! นั่นทำให้คุณกลายเป็นคนสำคัญเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานไปโดยปริยาย
เงินพีค: คุณเป็นคนที่ใช้จ่ายสิ่งต่างๆ ตามความพอใจของตัวเอง อะไรที่อยากได้ชั้นต้องได้ แม้จะเป็นการซื้อเพื่อบำบัดอารมณ์ก็ตามที แต่ก็ไม่ได้เข้าขั้นฟุ่มเฟือยนะ
รักพีค: คุณเป็นคนเลือกเยอะ ต้องตามสเปคที่ตั้งไว้ถึงจะยอมเปิดใจ พูดง่ายๆ คือรักคนยาก แต่ถ้าเจอคนที่ใช่แล้วบอกเลยว่าพร้อมเปย์นะจ๊ะ
นิสัยพีคๆ คนเกิดวันพฤหัสบดี
เรื่องพีค: คุณเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง มีความเป็นผู้ใหญ่ ทำอะไรต้องมีหลักการ ถ้าสนใจในเรื่องไหนแล้วก็จะหาคำตอบให้จงได้ไม่มีการค้างคา นอกจากนี้คุณยังเป็นคนมีน้ำใจชอบแบ่งปันความรู้ให้กับผู้อื่นอีกด้วย ไม่แปลกเลยว่าทำไมใครก็เรียกคุณว่า…จารย์!
งานพีค: ถ้าเปรียบเป็นทีมกีฬา คุณนี่จัดว่าเป็นโค้ชเป็นมันสมองของทีมเลยล่ะ ตำแหน่งใช้ความคิดต้องให้คุณเลย ก็เพราะแบบนี้คุณเลยกลายเป็นคนสำคัญของทีมเลยล่ะ
เงินพีค: นักออมเงินน่าจะเป็นฉายาที่เหมาะกับคุณที่สุด หาเก่งเก็บเก่ง ใช่เท่าที่จำเป็น นี่แหละคุณเลย
รักพีค: คุณจัดว่าเป็นนักรักโรแมนติก แต่แอบมีเกณฑ์ในใจในการเลือกคนรัก ต้องตามที่ลิสต์ไว้เท่านั้นถึงจะตกลงปลงใจได้ ยิ่งถ้าเป็นคนที่เก่งเหมือนคุณยิ่งมีสิทธิ์!
นิสัยพีคๆ คนเกิดวันศุกร์
เรื่องพีค: คนเกิดวันศุกร์จัดว่าเป็นคนที่มีรสนิยมดี ใส่ใจเรื่องรูปลักษณ์ บุคลิกดี พูดจามีเสน่ห์ ใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้แถมชอบเข้าสังคม นอกจากนี้คุณยังเป็นคนที่มีไหวพริบดี เรียกว่าใครคิดจะมาหลอกคือฝันไปเถอะ!
งานพีค: คุณเป็นคนที่ตั้งอกตั้งใจทำงาน หากอยู่ในเวลางานคือเต็มที่ บางทีแอบดูเคร่งเครียดเกินไปจนเพื่อนร่วมงานกลัวคุณซะงั้น แต่จริงๆ แล้วไม่ได้มีอะไรในใจหรอกนะ
เงินพีค: เก็บเก่งแต่ก็ใช้เก่งเอาเรื่อง อยากได้อะไรไม่ต้องคิดเยอะ รูดไปเลยสิคะ!
รักพีค: คนรสนิยมดีอย่างคุณไม่ใช่แค่เรื่องทั่วไปแต่รวมถึงความรักด้วย หากเจอคนที่ใช่ ดูแลตัวเองดีเหมือนคุณ นั่นแหละเป้าหมายชั้นเลย
นิสัยพีคๆ คนเกิดวันเสาร์
เรื่องพีค: เลือดนักสู้มันไหลเวียนในตัวคุณอย่างเต็มเปี่ยม หนักแน่น จริงจัง มั่นคง หนักเอาเบาสู้ต้องยกให้คนเกิดวันนี้เลย!
งานพีค: คุณเป็นคนตั้งใจทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบ ถ้าได้โจทย์งานมาบอกเลยว่างบร้อยคิดล้าน แต่จะติดตรงที่คุณเป็นคนตรงไปตรงมาบางทีคำพูดอาจไปกระทบใจคนฟังบ้างเป็นบางครั้ง จังหวะไหนเบาได้เบานะเธอ
เงินพีค: เรียกว่าสภาพคล่องเลยล่ะ คุณเป็นคนหาเงินเก่ง แถมยังใช้เงินเป็น ไม่ฟุ่มเฟือย บอกเลยว่ามีกินมีใช้สบายๆ
รักพีค: ถึงจะดูตรงไปตรงมากึ่งขวานผ่าซากไปบ้างในบางครั้ง แต่คุณก็เป็นคนโรแมนติกไม่ใช่เล่น หากใครมาหลงรักคุณเข้าแล้วรับรองว่าติดงอมแงมเลยทีเดียว
นิสัยพีคๆ คนเกิดวันอาทิตย์
เรื่องพีค: เฮฮา สดใสน่ารัก รักความสนุก นี่แหละตัวคุณเลย ที่สำคัญคุณเป็นคนรักพวกพ้องมากๆ ใครใจมาชั้นใจกลับ หากไม่สนิทด้วยอาจคิดว่าคุณเป็นคนเงียบขรึม แต่หากรู้จักจะรู้ว่าหน้ามอกับหลังมือมันต่างกัน!
งานพีค: เรื่องคิดนอกกรอบนี่ยกให้คุณเลย ต่อให้โจทย์งานมาเหมือนเดิม 10 รอบ งานที่คุณคิดก็ต่างกันหมดทุกครั้ง เพราะคุณไม่ชอบอะไรจำเจและชอบความท้าทาย แถมคุณยังเป็นคนที่คอยเติมพลังให้เพื่อนร่วมงานอีกด้วย
เงินพีค: ไม่เจ๋งจริงไม้ได้เงินคุณไปแน่นอน จะเสียเงินให้กับอะไรสักอย่างต้องมั่นใจเต็มที่ก่อน ส่วนเรื่องการหาเข้าบอกเลยว่าคุณอ่ะอย่างเก่ง!
รักพีค: คุณมีความขี้งอนเล็กๆ ฉะนั้นคนที่จะเป็นคู่ของคุณต้องเข้าใจในจุดนี้ เพราะคุณชอบคนประเภทเป็นทั้งเพื่อนทั้งแฟนได้ ถ้าเข้าใจในจุดนี้คุณรักหมดใจเลย
1 note
·
View note
Text
10 ต้นไม้ฟอกอากาศปลูกในห้องดูแลง่าย!
ถึงแม้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้เราต้องอยู่บ้านไม่ต้องเสี่ยงออกไปเจอไวรัส แต่ก็ใช่ว่าค่าฝุ่น PM 2.5 จะลดลงแต่อย่างใด เราเลยอยากชวนชาวชิลไปไหนมาฟอกปอดเติมความสดชื่นในบ้านด้วยการแนะนำ 10 ต้นไม้ฟอกอากาศ ปลูกในห้องนอนได้ ราคาไม่แพง! เล่นหวยออนไลน์ เผื่อเพื่อนๆ จะเลือกซื้อมาประดับตกแต่งไว้ในห้องตามจุดต่างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศความเขียวขจีและเติมความมีชีวิตชีวาได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังช่วยฟอกอากาศภายในบ้านได้อีกด้วยนะ แต่จะต้นไหนน่าสนใจบ้าง ไปทำความรู้จักพร้อมๆ กันเลย💚🍀
1.ปาล์มไผ่ (Bamboo Palm)
สร้างอารมณ์พักผ่อนที่ชายหาดในช่วงซัมเมอ��์ให้กับบ้านด้วย ปาล์มไผ่ ต้นไม้ฟอกอากาศ ใบเรียวยาวคล้ายต้นมะพร้าว ที่มีความทนทานปลูกง่าย ชอบแสงแดด ต้องการการรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ (สัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง) และใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำเจือจางเดือนละ 1 ครั้ง โดยสามารถวางไว้ในห้องนอนที่ดูสบายๆ เป็นธรรมชาติช่วยให้ห้องมีความมินิมอลมากยิ่งขึ้น
2.เฟิร์นบอสตัน (Boston Fern)
เฟิร์นบอสตัน ในการดูดสารฟอร์มาลดีไฮด์และเชื้อราซึ่งถือเป็นหนึ่งในมลพิษภายในบ้าน และลักษณะภายนอกที่ดูสวยงามเป็นพุ่มเล็กๆ น่ารักมีชีวิตชีวานี้เอง ที่ทำให้ต้นไม้ฟอกอากาศชนิดนี้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทย ซึ่งตัวต้นไม้ต้องการการดูแลรดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น และใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำเจือจางเดือนละ 1 ครั้ง
3.มอนสเตอร่า (Monstera)
มอนสเตอร่า ราชินีใบไม้ มีจุดเด่นเป็นใบขนาดใหญ่ โคนใบเว้าลึกเป็นรูปหัวใจแปลกตา แถมยังมีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษอันตรายต่างๆ ในอากาศ มีการดูแลที่ไม่ยาก โดยการวางไว้ในบริเวณที่ไม่ได้รับแสงแดดโดยตรง รดน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือมากน้อยตามความชื้นในอากาศเพื่อใบที่เขียวสวยงาม แต่ไม่ควรมีการเคลื่อนย้ายบ่อย มิเช่นนั้นอาจทำให้ต้นมีการเติบโตที่ช้าลงได้
4.ฟิโลเดนดรอน เซลลอม (Selloum Philodendron)
เรียกได้ว่าโด่งดังไปทั่วประเทศกับต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน ฟิโลเดนดรอน เซลลอม เพราะความเลี้ยงง่ายแสนง่าย อีกทั้งยังสามารถอยู่ได้ทุกสภาพอากาศและทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะแสงเยอะหรือน้อยแค่ไหน ก็เติบโตได้ดีไม่แพ้กัน เพียงแค่รดน้ำให้พอชุ่มชื้น ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำเจือจางเดือนละ 1 ครั้ง ก็ทนทานมากพอแล้ว
5.ดราแคนน่า (Dracaena)
ดราแคนน่า หรือ ต้นวาสนา ต้นไม้ในห้องนอนอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ นอนหลับสบาย ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย เป็นได้ทั้งไม้ประดับและ ต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน ที่ทำให้สุขภาพของผู้อยู่อาศัยดีขึ้น ซึ่งการดูแลก็ง่ายๆ ด้วยการตั้งบริเวณที่มีแดดรำไร รดน้ำเป็นประจำไม่ให้ดินแห้ง แต่ข้อจำกัดของต้นไม้ชนิดนี้คือ ถ้าหากคุณมีสัตว์เลี้ยง ไม่ควรปลูกภายในบ้านเพราะพวกมันเป็นพิษต่อสุนัขและแมวนั่นเอง
6.ลิ้นมังกร (Snake Plant)
ถ้าหากจะพูดถึงต้นไม้ที่สวยงาม หลายคนก็คงจะนึกถึงต้นไม้ชื่อเป็นมงคลอย่าง “ลิ้นมังกร (Snake Plant)” มีลักษณะใบที่สวยงามเรียวยาวคล้ายหอก ซึ่งสามารถปลูกได้ทั้งบริเวณร่มและมีแดด มีคุณสมบัติในการดูดคาร์บอนไดออกไซด์ และคายออกซิเจนออกมาในตอนกลางคืน จึงเป็นอีกหนึ่งต้นไม้ฟอกอากาศที่ควรปลูกไว้ภายในห้องนอน โดยการดูแลรดน้ำวันละ 1 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว
7.ไอวี่ อังกฤษ (English ivy)
ไอวี่ อังกฤษ หรือชื่อเรียกภาษาไทยว่า ตีนตุ๊กแกฝรั่ง ถือเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่องค์กรนาซายืนยันว่า สามารถช่วยฟอกอากาศได้ดีที่สุด เพราะมีคุณสมบัติในการดูดซับสารฟอร์มาลดีไฮด์ ซึ่งสามารถพบได้ในน้ำยาทาเล็บของสาวๆ อีกทั้งยังมีการดูแลไม่ยาก ด้วยการรดน้ำ 3 วันต่อ 1 ครั้ง หรือเมื่อดินแห้งสนิท โดยสามารถตกแต่งไว้ในบริเวณที่มีร่มเงาหรือมีแสงในระดับปานกลาง เป็นต้นไม้ที่นิยมตกแต่งบ้านในแถวทวีปยุโรป
8.ลาเวนเดอร์ (Lavender)
เชื่อไหมว่า ลาเวนเดอร์ ต้นไม้ที่หลายคนคุ้นเคย ก็มีข้อดีในการฟอกอากาศในห้องนอนให้บริสุทธิ์ไม่แพ้ต้นไม้อื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากนี้ ยังมีเอกลักษณ์เป็นกลิ่นหอมที่มีคุณสมบัติในการช่วยไล่ยุงหรือแมลง บรรเทาอาการปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ลดความเครียด ความกังวล ภาวะนอนไม่หลับ ซึมเศร้า และทำให้จิตใจสงบได้ ซึ่งการดูแลก็ไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อย อีกทั้งยังต้องการแสงที่ไม่เยอะมากเท่าไรอีกด้วย
9.ต้นยางอินเดีย (Rubber Plant)
ต้นยางอินเดีย อีกหนึ่งต้นไม้ที่หลายคนเลือกปลูก เพราะมีลักษณะใบสีเขียวเข้มเงาเป็นวงรีสวยงาม สามารถวางตัดในห้องนอนสีขาวได้ลงตัว และยังเติบโตง่าย ทนทาน ไม่ต้องดูแลมากเท่าไรนัก เพียงแค่รดน้ำเป็นประจำ ตั้งไว้บริเวณที่โดนแสงแดด ซึ่งเจ้าตัวต้นยางอินเดียก็มีคุณสมบัติในการกำจัดสารพิษ รวมถึง เปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นออกซิเจนเช่นเดียวกับต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอนอื่นๆ
10.เดหลี (Peace Lily)
ต้นไม้ในบ้านที่มีความเป็นสิริมงคลอย่าง เดหลี ก็เป็นอีกต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอนที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยเช่นเดียวกัน เพราะความเชื่อที่ว่า จะทำให้สมาชิกในบ้านมีโชคลาภ มีอายุยืน และปัดเป่าอันตราย ซึ่งใบของต้นเดหลีจะมีลักษณะมันวาวสีเขียวเข้ม และช่วยดูดซับสารพิษและเปลี่ยนห้องนอนให้หอมสดชื่น โดยคุณจำเป็นต้องดูแลรดน้ำเพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้น
1 note
·
View note
Text
ดอกไม้มงคลประจำ 12 ราศี
ดอกไม้เป็นพืชสวยงาม และแฝงความหมายไว้ในตัวเอง การให้ดอกไม้แก้ผู้อื่นก็เช่นกัน ตามประเพณีไทยและความเชื่อตั้งแต่อดีต มีความเชื่อเกี่ยวกับความหมายของดอกไม้แต่ละชนิดแตกต่างกัน ความหมายของดอกไม้อาจรับผลกระทบมาจากเหตุการณ์ เล่นหวยออนไลน์ หรือวันสำคัญต่างๆทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ วันนี้ จะมาแนะนำดอกไม้ประจำราศีทั้ง12มีความหมายอย่างไรไปดูกัน😍🌹
ดอกเบญจมาศ เป็นดอกไม้ประจำราศีมังกร
เบญจมาศเป็นดอกไม้ตัวแทนชนชั้นสูง ราชวงศ์ หรือกษัตริย์ ทนนานและมีพลังฉลาดแฝงอยู่มากเป็นพิเศษ คน��าศีมังกรจึงเต็มไปด้วยความฉลาด มีความคิดวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน เป็นดอกไม้แห่งความสำเร็จจึงมักจะมีผู้ให้การช่วยเหลือหรืออุปถัมภ์ตลอด
คนราศีมังกรมักเป็นนักวางแผนที่ดี มีการวางแผนด้านการเงินเป็นเลิศ จึงเหมาะกับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ อาชีพที่เหมาะคือ วิศวกร สถาปนิก ผู้ผลิตรายการสื่อต่าง ๆ งานเกี่ยวกับการเงิน ด้านความรักเป็นคนที่จริงใจและซื่อสัตย์ เพราะคนราศีมังกรจะเป็นพวกหัวอนุรักษ์นิยมเกี่ยวกับประเพณีและความเชื่อมาก
ดอกกล้วยไม้ เป็นดอกไม้ประจำราศีกุมภ์
กล้วยไม้เป็นไม้ที่ต้องการการดูแลอย่างดี เป็นตัวแทนของการเอาใจใส่ดูแลอย่างลึกซึ้ง กล้วยไม้มักจะถูกจัดไว้ในที่ที่โดดเด่นโดยมี ดอกไม้อื่นแวดล้อม ชาวราศีกุมภ์จึงเต็มไปด้วยการเอื้ออาทรผู้คนรอบข้าง มีความฉลาดในตัวเอง รักธรรมชาติ ใจกว้าง
ชาวราศีกุมภ์จะชอบสิ่งของไฮเทค จึงเหมาะกับงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี โทรทัศน์ นักเขียน ศิลปิน อีกด้านก็สนใจเรื่องศาสนา ประวัติศาสตร์ และของโบราณ เขาสามารถผสมผสานศาสตร์เก่าและใหม่เข้ากันได้อย่างดี ด้านความรักจะชอบยึดมั่นในคำสัญญา ซื่อสัตย์และจงรักภักดีมาก
ดอกคาร์เนชั่นแดง เป็นดอกไม้ประจำราศีมีน
ดอกคาร์เนชั่นสีแดงเป็นตัวแทนของศิลปิน เป็นดอกไม้แห่งความฝันอันลึกลับ มีความคิดจินตนาการสูง อาชีพที่เหมาะสมจะเป็นพวกนักแสดง นักเขียน จิตกร นักแต่งเพลง นักวิจารณ์อาหาร นักสังคมสงเคราะห์
คนราศีมีนมีอารมณ์ปรวนแปรง่าย ด้านความรักก็มักจะอ่อนไหว อารมณ์รักปรวนแปรแต่ก็เขาก็เป็นคนมีเสน่ห์เร้าใจใช่เล่น มีความชอบส่วนตัวในเรื่องศาสนา และมีสัมผัสพิเศษด้านจิตวิญญาณ หรือ มีสัมผัสที่ 6
ดอกลิลลี่ เป็นดอกไม้ประจำราศีเมษ
ลิลลี่เป็นดอกไม้แห่งความโดดเด่นและการเ��็นผู้นำ นับเป็นดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่มักจะถูกวางไว้ในจุดที่สูงส่ง แต่ถึงแม้จะอยู่ในจุดที่ไม่สูงนักแต่ความเด่นของดอกลิลลี่ก็มักจะเป็นจุดสนใจเสมอ เหมือนกับคนราศีเมษที่จะมีความโดดเด่นกว่าคนอื่น
นักบริหารธุรกิจ นักแสดง นายทหารชั้นผู้ใหญ่ หรือนักประดิษฐ์คิดค้นต่าง ๆ เป็นอาชีพที่เหมาะสมกับคนราศีเมษ ด้านความรักเป็นคนโรแมนติก ชอบการครอบครองและเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ
ดอกลีลาวดี เป็นดอกไม้ประจำราศีพฤษภ
บุคลิกของดอกลีลาวดีคือการรอคอยสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง มีการคิดและวางแผนระยะยาวอย่างรอบคอบและสุขุม รักสงบและมองโลกในแง่บวก จึงเป็นคนโกรธยากและมีความจำเป็นเลิศ
คนราศีพฤษภจะใช้จ่ายอย่างมีเหตุผลและเป็นนักลงทุนที่ดี เหมาะที่จะทำอาชีพแพทย์ สถาปนิก วิศวกร โบรกเกอร์หุ้น มัณฑนากร เขาเป็นพวกชอบความงามตามธรรมชาติและมีสัมผัสพิเศษในเรื่องปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ส่วนเรื่องความรักจะเป็นคนรักษาสัญญา เห็นอกเห็นใจและปกป้องคู่รักดี
ดอกเล็บมือนาง เป็นดอกไม้ประจำราศีมิถุน
เล็บมือนางเป็นดอกไม้ที่มีความงามเฉพาะตัว มีเสน่ห์แบบง่าย ๆ คนราศีนี้จึงมีความคิดเปิดกว้างและยืดหยุ่นสูง อาชีพที่เด่นและเหมาะที่สุดคือการเป็นนักหนังสือพิมพ์ นักดนตรี ศัลยแพทย์ ช่างภาพ นักกวีและงานที่เกี่ยวกับศิลปะทุกชนิด
แต่คนราศีมิถุนเป็นพวกรสนิยมสูงรายได้ต่ำ จึงมักจะสร้างหนี้สินล้นพ้นตัวอยู่บ่อยครั้ง ด้านความรักเป็นคนอ่อนไหวง่าย ชอบหว่านเสน่ห์และเจ้าชู้ เนื่องจากชอบความรักแบบตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา
ดอกบัว เป็นดอกไม้ประจำราศีกรกฎ
ดอกบัวจัดเป็นดอกไม้แสนสวย อ่อนหวานและสงบ เรียบร้อย เป็นระเบียบ แต่ก็มักจะจมปลักอยู่กับความฝันอันสวยงามที่วาดขึ้นโดยไม่ยอมตื่น ขึ้นมาพบกับความจริงของชีวิต และมักจะคาดหวังสูง ให้ความใส่ใจในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์
คนราศีกรกฎเป็นคนไม่ชอบความฟุ่มเฟือยนัก แต่หากเป็นเรื่องของการตกแต่งบ้านชาวดอกบัวจะยอมทุ่มไม่อั้น อาชีพที่เหมาะสมคือ นักจิตวิทยา นักลงทุนในตลาดหุ้น หรืองานที่ช่วยประสานงานโครงการต่าง ๆ ด้านความรักเป็นคนโรแมนติก รักคนยาก แต่ถ้าลองได้รักแล้วก็จะซื่อสัตย์มาก ชอบความรักแบบไม่หวือหวาโลดโผน
ดอกทานตะวัน เป็นดอกไม้ประจำราศีสิงห์
ดอกทานตะวันจะเต็มไปด้วยความเป็นมิตร ร่าเริง สนุกสนาน ชาวราศีสิงห์ยังเป็นคนไม่เรื่องมาก ไม่ชอบเรียกร้องความสนใจจากใคร เพราะเขาต้องการแสวงหาความสุขใส่ตัวมากกว่าการต้องระวังตัวท่ามกลางคนหมู่มาก
คนราศีสิงห์เป็นคนรักและชื่นชอบธรรมชาติ แต่ดันชอบของฟุ่มเฟือย อาชีพที่เหมาะสมคือการเป็นนักเขียน ทนายความ นักพูด ส่วนความรักมักจะไม่ชอบการผูกมัด แต่ชอบแสดงออกเรื่องรักและเป็นคนโรแมนติก เรียกว่าเป็นคนเจ้าชู้เล็ก ๆ ก็ว่าได้
ดอกทิวลิป เป็นดอกไม้ประจำราศีกันย์
ดอกทิวลิปเป็นตัวแทนของความนิ่มนวล และการถูกขัดเกลาอย่างดี ชาวราศีกันย์จึงเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากกว่าคนในราศีใด ๆ ชอบเห็นใจผู้อื่น และฉลาดหลักแหลม นอกจากนี้ยังเจ้าระเบียบ และตรงต่อเวลาอย่างมาก
จุดเด่นอีกอย่างที่เป็นที่อิจฉาของใครๆ ของคนราศีกันย์ก็คือเป็นคนที่เก็บเงินเก่ง อาชีพที่เหมาะ คือ แพทย์ บรรณารักษ์ นักวิจารณ์ละครและงานศิลปะ สำหรับเรื่องความรักนั้นจะเต็มไปด้วยความอ่อนหวาน เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
ดอกกุหลาบ เป็นดอกไม้ประจำราศีตุลย์
กุหลาบเป็นดอกไม้ที่ประณีต สวยงาม โดดเด่น คนราศีตุลย์จึงมีเสน่ห์ในวงสนทนาเป็นพิเศษ แต่เขาไม่ใช่คนมีระเบียบมากนัก อาจจะรกรุงรังมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ
ราศีตุลย์อาจเป็น นักดนตรีระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์กราฟิก มัณฑนากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ที่ปรึกษาด้านภาพลักษณ์ เป็นอาชีพที่เหมาะสมกับคนราศีนี้ที่สุด เขายังเป็นคนมีความเชื่อด้านความรักอย่างลึกซึ้ง ความรักของเขาจึงเต็มไปด้วยความโรแมนติกและอ่อนหวาน แต่ก็ให้อิสระด้านความคิด
ดอกกระบองเพชร เป็นดอกไม้ประจำราศีพิจิก
ดอกกระบองเพชรมีความลึกลับทั้งด้านการเกิดและกลีบดอก ชาวดอกกระบองเพชรจึงมีความลับเยอะ และสิ่งนี้ที่ส่งให้เขามีเสน่ห์น่าค้นหาตลอดเวลา เป็นคนเงียบ ๆ เก็บงำเรื่องราวของตนเองไว้โดยไม่บอกให้ใครรู้ ไม่ชอบออกงานสังคม
ราศีพิจิกเหมาะที่จะทำอาชีพนักโบราณคดี ทนายความ ที่ปรึกษาการลงทุน เภสัชกร ศัลยแพทย์ ด้านความรักจะเป็นคนเข้มงวดมาก เจ้าอารมณ์ แต่ก็มีความอ่อนไหวและลึกซึ้ง เขายังมีเสน่ห์ดึงดูดใจเรื่องบนเตียงเป็นอย่างมาก แถมยังเป็นคู่รักที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความปรารถนา
ดอกเบิร์ด ออฟ พาราไดส์ เป็นดอกไม้ประจำราศีธนู
ผู้เกิดราศีนี้จะมีความสนุกสนานในชีวิต ชีวิตเต็มไปด้วยความพยายามและทะเยอทะยาน แต่ก็มีอารมณ์ผ่อนคลายและยืดหยุ่น จึงเป็นคนมองโลกในแง่ดี
ราศีธนูเหมาะที่จะเป็นนักเดินทาง นักวาดการ์ตูน นักแสดงตลก นั��การเมือง สัตวแพทย์ และนักบิน ด้านความรักจะเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว มีความซื่อสัตย์ในรัก และชอบการผจญภัย
0 notes
Text
14 กุมภาพันธ์ "วันแห่งความรัก"💕
💕วันวาเลนไทน์ Valentine's Day ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี หรือที่รู้จักกันว่า "วันแห่งความรัก" เล่นหวยออนไลน์ ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นวันที่ผู้คนมากมายนิยมเฉลิมฉลองเพื่อแสดงออกถึงความรักและความห่วงใยต่อกัน โดยเฉพาะคู่รัก แต่ก็รวมถึงสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนฝูงด้วยเช่นกัน🌹
💕20 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์💕
1.วันวาเลนไทน์เกิดขึ้นเพื่อระลึกถึงนักบุญเซนต์วาเลนไทน์ (Saint Valentine) ผู้รับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 เพราะในยุคนั้นมีกฎหมายห้ามไม่ให้มีการแต่งงานของพวกคริสเตียน แต่เซนต์วาเลนไทน์ยังแอบจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักคริสเตียนจนถูกจับขังและรับโทษ
โดยในขณะที่ถูกคุมขังนั้น เขาก็พบรักกับสาวตาบอดซึ่งเป็นลูกสาวของผู้คุม ด้วยความรักและคำอธิษฐานของเขา พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของสาวคนรักหายเป็นปกติ แต่เมื่อความนี้ล่วงรู้ถึงหูก��ัตริย์ เซนต์วาเลนไทน์จึงถูกประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ ต่อมาเมื่อคนทั่วไปทราบเรื่องราวจึงเกิดความประทับใจและยึดถือเอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น วันแห่งความรัก นั่นเอง
2.คนที่ฟ้าส่งมาให้รักเรามากที่สุดคือ พ่อแม่ เป็นรักไม่มีวันหมดอายุ ไม่มีเงื่อนไข เพราะต่อให้เราอ้วน น่าเกลียด พิการ ทำตัวงี่เง่ายังไง พ่อแม่ก็ยังรักและพร้อมจะเสียสละเพื่อเราเสมอ ดังนั้นในวันวาเลนไทน์ จึงอยากให้คุณๆ ทำดีต่อคุณพ่อคุณแม่ให้มากๆ นะคะ
3.คนที่ไม่มีแฟนไม่ใช่คนอาภัพน่าสงสารในวันวาเลนไทน์ เพราะคนโสดก็มีความรักได้ และคนที่น่าสงสารที่สุดก็คือคนที่ไม่มีความรักในหัวใจต่างหากล่ะ อีกอย่าง...คนที่มีแฟน แต่แฟนห่วยแตก ชีวิตเหมือนถูกขังให้ทรมานไปวันๆ น่าสงสารกว่าคนโสดเป็นไหนๆ
4.จากการสำรวจพบว่าในวัยเรียน เด็กคอซอง คนที่ให้ของขวัญบอกรักกันมากที่สุดในวันวาเลนไทน์ ไม่ใช่ คู่รัก แต่เป็น เพื่อน ดังนั้นอย่าเครียดไปเลยที่แม้ว่าจะยังไม่มีแฟนมาควงแขนอวดใครในวันวาเลนไทน์ เพราะถึงยังไง เราก็ยังมีเพื่อนมากมายที่มอบความรักต่อกันได้อยู่นะ
5.กุหลาบราคาแพงไม่ได้แสดงว่าเขารักเรามากจริงๆ ดังนั้นอย่าไปเชื่อคำพูดของใครว่า รักเรามาก เพียงเพราะเขาให้ดอกกุหลาบราคาแพงหูฉี่ เรื่องแบบนี้อยู่ที่ใจล้วนๆ
6.ครูที่ปรึกษาหลายท่านร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง เมื่อลูกศิษย์ประจำห้องมอบดอกกุหลาบวันวาเลนไทน์ให้ท่านคนละดอก ลองวางแผนเซอร์ไพรส์ครูดูไหมล่ะ ให้เพื่อนๆ เอาดอกไม้ไปไหว้ครูพร้อมๆ กัน ได้เห็นครูน้ำตาร่วงเพราะซึ้งใจชัวร์
7.เมื่อเธอมองรอบตัวจะพบสิ่งมีชีวิต ลองเป็นผู้ให้ความรักแก่พวกเขา มีเมตตาแก่พวกเขาดู แล้วเธอจะเต็มอิ่มไปด้วยรักในหัวใจ
8.คนที่ได้ดอกกุหลาบมากที่สุด ไม่ได้หมายความว่าจะมีความรักที่น่าอิจฉาที่สุด ตรงกันข้าม คนที่ไม่ได้ของขวัญวาเลนไทน์สักชิ้น อาจจะมีรักที่น่าอิจฉาที่สุดเลยก็เป็นได้
9.ของขวัญวาเลนไทน์ที่มีค่าที่สุด อาจลงทุนน้อยที่สุด เช่น การ์ดที่ตั้งใจทำกับมือ ดาวกระดาษที่พับมาเป็นเดือนๆ หรือของราคาถูกแต่ตั้งใจหาซื้อมาด้วยใจ เพราะฉะนั้น อย่าตีค่าความรักของใครด้วยราคาของขวัญที่เขาให้ เราดูที่การกระทำดีกว่านะ ก็มีค่ายิ่งใหญ่สุดๆ แล้ว
10.เดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นเดือนแห่งความรัก กลับเป็นเดือนที่มีวันน้อยที่สุดของปี บอกให้เรารู้ว่า ความรักจะสั้นหรือยาวไม่ได้อยู่ที่วันเวลาที่คบกันมา แต่อยู่ที่การทำทุกนาทีให้มีค่าร่วมกัน
11.วันวาเลนไทน์ไม่ใช่วันเสียตัวแห่งชาติ เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะกลายเป็นแฟชั่นแปลกๆ ไปแล้วว่าวาเลนไทน์โรงแรมม่านรูดจะต้องเต็ม! ไม่เวิร์คเลย เพราะที่สุดแล้ว คนที่จะต้องมานั่งเสียใจในภายหลังก็คือเราคนเดียวเท่านั้น การมีอะไรกันไม่ได้บ่งบอกว่ารักกันเสมอไป ควรมีเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
12.วันวาเลนไทน์ แม้จะตื่นเต้นยังไง ก็ยังต้องเรียนหนังสือ ไม่ใช่เอาแต่เหม่อมองรอคอยใครมาให้ดอกไม้ หรือร่าเริงโดดเรียนไปเที่ยวซะงั้น บางคนพอถึง วันวาเลนไทน์ สติแตก เอาแต่วางแผนว่าจะเซอร์ไพรส์แฟนยังไง ทำอะไรบ้าง สรุปวันนี้สอบตกเพราะไร้สติโดยสิ้นเชิงล่ะ
13.คนโสดก็มีวาเลนไทน์ที่อบอุ่นได้แค่เพียงรักตัวเอง ขอให้จำไว้เลยว่า แค่เพียงเราใช้วันวาเลนไทน์เป็นวันที่เราดูแลสุขภาพร่างกาย มอบความรักให้ตัวเอง เราก็จะเป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุดได้อยู่แล้ว
14.อย่าเสียเงินไปซื้อดอกไม้หรือตุ๊กตามาเดินถือ เพียงเพราะกลัวขายหน้าที่ยังไม่มีใครให้ของขวัญวาเลนไทน์ มันเป็นอะไรที่ไร้สาระมากๆ เพราะการเดินมือเปล่าในวันวาเลนไทน์ไม่ใช่เรื่องน่าอายซักกะหน่อย ถ้ารวยนักละก็ เอาเงินไปบริจาคให้เด็กยากจนดีกว่านะ
15.ถ้าอยากให้ของขวัญวาเลนไทน์ที่อยู่นานๆ ต้นไม้ในกระถางก็น่ารักดี ดีกว่าดอกไม้ราคาแพงหูฉี่ แต่สามวันเน่า ลองไปหาซื้อไม้ใบ ไม้ดอกสวยๆ เอามามอบให้กัน ราคาถูกกว่า แถมอยู่ได้นานกว่าด้วย อีกอย่างมันก็มีความหมายเป็นนัยว่า รักของเราจะมั่นคงยาวนาน เหมือนต้นไม้ที่เติบโตและไม่เหี่ยวเฉาง่ายๆ ถ้าได้รับการดูแลอย่างดี
16.ผู้ชาย 55 เปอร์เซ็นต์มองว่าการให้ดอกไม้วาเลนไทน์เป็นเรื่องไร้สาระ บางคนถือว่าการให้ดอกไม้ผู้หญิงเป็นพวกเชยระเบิด ถ้าจะต้องทำเซอร์ไพรส์ให้เราวันวาเลนไทน์ เพราะความรักของเขาอาจจะไม่ได้โฟกัสที่ตรงจุดนั้น
17.สิ่งที่จะทำให้ผู้ชายซึ้งใจและรักเรามากคือความเข้าใจ ไม่ใช่ของขวัญวาเลนไทน์ราคาแพง เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นเลยที่เราจะต้องอดข้าว อดน้ำเพื่อซื้อของราคาแพงเกินตัวให้เขา ถ้าเขารักเราจริง เขาคงไม่สบายใจที่เห็นเราต้องทรมานตัวเองแบบนั้นหรอกนะ ความเข้าใจในตัวของเขาและอยู่กับเขาโดยสร้างความสุขให้กันได้ทุกวันสำคัญสุดแล้ว
18.โลกของเราก็อยากได้ของขวัญวาเลนไทน์ ลองหันมารักโลก ทำสิ่งดีๆ ให้โลกกันดูไหม เช่น ปลูกต้นไม้ สัญญากับตัวเองว่าจะลดการใช้ถุงพลาสติก ประหยัดไฟ ประหยัดน้ำ ฯลฯ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ
19.ความสำคัญของการมีแฟนไม่ได้อยู่ที่มีคนเดินด้วยในวันวาเลนไทน์เท่านั้น ฉะนั้น อย่าคิดโง่ๆ แค่ว่าอยากมีแฟนเพราะจะได้มีคนมาเดินข้างๆ ในวันวาเลนไทน์ จนต้องรีบควานหาเอาใคร��็ได้มาเคียงคู่ เพียงเพราะว้อนท์อยากมีแฟนใจจะขาด แบบนั้นเธอเสี่ยงจะเจอรักคุดหรือรักสุดแย่ได้
20.เราสามารถมีวันวาเลนไทน์ได้ทุกวัน แค่เพียงทำทุกวันให้เป็นวันแห่งความรัก ดูแลกันและกันทุกวัน ใส่ใจกันทุกวัน แล้วเธอก็จะพบว่า ไม่ว่าวันไหน โลกก็เป็นสีชมพูได้ แค่เพียงยังมีกันและกันอยู่เสมอ
0 notes
Text
ประโยชน์ของลูกพลับ!
ลูกพลับมีประโยชน์และโทษอย่างไร ช่วงนี้ พลับ หรือ ลูกพลับ (ภาษาอังกฤษ Persimmon) ผลไม้หน้าหนาว ผลไม้มงคล เล่นหวยออนไลน์ เริ่มออกวางขายให้เห็นมากขึ้นแล้วตามท้องตลาด วันนี้เราเลยจะขอพาทุกคนมาส่อง ประโยชน์ สรรพคุณ ของ ลูกพลับ กันค่ะ บอกเลยว่าถึงจะเป็นผลไม้รสหวาน แต่ลูกพลับก็มีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น มีไฟเบอร์สูง แคลอรี่ต่ำ แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ อีกหลายชนิดเลย 😍💗
20 ประโยชน์ของลูกพลับ💗
มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็ง
ลูกพลับเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น ช่วยบรรเทาอาการร้อนในได้
เป็นแหล่งที่ดีของไฟเบอร์ ฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี
เหมาะกับผู้ที่กำลังควบคุมอาหาร เพราะลูกพลับเป็นผลไม้ที่มีแคลอรี
วิตามินเอในลูกพลับจะช่วยบำรุงสายตา ชะลอความเสื่อมของดวงตา
ช่วยให้การมองเห็นในเวลากลางคืนดีขึ้น
ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยเฉพาะในลูกพลับพันธุ์ฝาด
ช่วยบำรุงผิว ชะลอริ้วรอยแห่งวัย
ช่วยบำรุงหัวใจ ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
ช่วยเสริมสร้างความจำ ลดความเสี่ยงของโรคทางระบบประสาท
ปริมาณวิตามินซีของลูกพลับมีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้
ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
ไฟเบอร์ในลูกพลับสามารถช่วยลดระดับ คอเลสเตอรอลที่ไม่ดี
ช่วยบำรุงระบบขับถ่าย ลดความเสี่ยงของการเกิดโณคมะเร็งลำไส้ใหญ่
ลดอาการท้องผูก บรรเทาอาการริดสีดวงทวาร
อุดมด้วยวิตามินซี ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง
ช่วยลดการดูดซึมไขมันของร่างกาย
ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกพรุน
ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนในผู้หญิง
0 notes
Text
ประโยชน์ของสับปะรด!🍍
สับปะรด ถือเป็นผลไม้ชื่อดัง คุณประโยชน์เยอะ ภายในสับปะรด อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย เล่นหวยออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 แร่ธาตุ ได้แก่ กรดโฟลิก ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุแมงกานีส ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์บรอมีเลน ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายอีกด้วย 🍍🍍
คุณค่าทางโภชนาการของสับปะรด
สับปะรด 100 กรัม
พลังงาน 50 กิโลแคลอรี
โปรตีน 0.54 กรัม
ไขมัน 0.12 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 13 กรัม
น้ำตาล 9.8 กรัม
🍍ประโยชน์สรรพคุณของสับปะรด🍍
1. วิตามินซีสูง Jackie Newgent นักโภชนาการด้านการทำอาหารในเมืองนิวยอร์ก และเป็นเจ้าของหนังสือ The All-Natural Diabetes Cookbook กล่าวว่า สารอาหารที่โดดเด่นในสับปะรดคือ วิตามินซี ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ และสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
2. ย่อยง่าย สับปะรดมีกลุ่มเอนไซม์ย่อยอาหารที่เรียกว่าโบรมีเลน (Bromelain) ทำหน้าที่สร้างกรดอะมิโนและเปปไทด์ขนาดเล็ก ที่ช่วยย่อยโปรตีน และให้ดูดซึมผ่านลำไส้เล็กได้สะดวกยิ่งขึ้น แถมยังมีแมงกานีสสูง ซึ่งช่วยเผาผลาญอาหาร ทำให้เลือดแข็งตัว และช่วยให้กระดูกแข็งแรง
3. ลดน้ำหนัก มีการศึกษาหนึ่งพบว่า น้ำสับปะรดช่วยลดการสร้างไขมันและเพิ่มการสลายไขมันได้ มีแคลอรีต่ำ มีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญสูง Colleen Christensen นักโภชนาการในมิชิแกน กล่าวว่า ในสับปะรดนั้นเต็มไปด้วยไฟเบอร์ที่สามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และทำให้คุณรู้สึกอิ่มนาน
4. ต้านการอักเสบสับปะรดนั้นมีโบรมีเลน เอนไซม์ย่อยอาหารที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ และบรรเทาอาการปวด ช่วยลดอัตราการเกิดโรคไซนัสอักเสบ โรคข้อเข่าเสื่อม ทั้งยังบรรเทาอาการขาแพลง หรือแผลไหม้ นอกจากนี้วิตามินซีในสับปะรดยังเป็นยาต้านการอักเสบอ่อนๆ อีกด้วย
5. ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งการศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า สับปะรดมีสารประกอบโบรมีเลน ที่ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็ง ยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งในผิวหนัง ท่อน้ำดี ระบบย่อยอาหาร และลำไส้ใหญ่ เนื่องจากมีคุณสมบัติลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน และลดการอักเสบได้ นอกจากนั้นยังกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ผลิตโมเลกุลที่ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวมีประสิทธิภาพมากขึ้น
6. กระดูกแข็งแรงตามรายงานของศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ พบว่า สับปะรดเป็นหนึ่งในแหล่งอาหารชั้นนำของแร่ธาตุ (แมงกานีส) ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนและช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก และแร่ธาตุ เสริมกระดูกของคุณให้สตรองมากยิ่งขึ้น
7. ลดความเครียดสับปะรดมีเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งมีคุณสมบัติลดความเครียด ช่วยให้ฮอร์โมนและเส้นประสาทของคุณผ่อนคลาย การดื่มน้ำสับปะรดในวันที่คุณรู้สึกวิตกกังวลจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น
8. ความดันโลหิตการบริโภคผักและผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น สับปะรด สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ ผลจากการสำรวจของ National Health and Nutrition Examination Survey
สับปะรด หนึ่งในผลไม้ทรอปิคอลที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน โดดเด่นด้วยรสชาติสดชื่นฉ่ำน้ำ สามารถรังสรรค์ได้ทั้งอาหาร ขนมหวาน เครื่องดื่ม และแน่นอนว่าเต็มไปด้วยประโยชน์ดีๆ ต่อร่างกายของเรา
0 notes
Text
ประโยชน์ของส้ม!🍊
ส้มเป็นผลไม้ที่มีการเพาะปลูกมาหลายพันปี โดยส้มที่อยู่ในตระกูลซิตรัสเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนและเขตกึ่งร้อนของทวีปเอเชีย รวมไปถึงในหมู่เกาะมลายู เล่นหวยออนไลน์ ส่วนในไทยมีหลักฐานเป็นรายงานที่กล่าวถึงส้มชนิดต่าง ๆ คือ ส้มโอ ส้มแก้ว และมะกรูด โดยเป็นรายงานที่มีต้นฉบับเป็นภาษาฝรั่งเศส แปลและจัดพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. 2236 🍊
🍊ส้ม!มีประโยชน์อะไรบ้างไปดูกัน🍊
1. ผลไม้แก้ท้องผูกส้มเป็นหนึ่งในผลไม้แก้ท้องผูกได้ เพราะมีใยอาหารสูง ช่วยในระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย โดยกินส้ม 1 ผลใหญ่ก็จะได้ใยอาหาร 2.0 กรัมแล้วนะคะ
2. กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายด้วยความที่ส้มพกวิตามินซีมาไม่น้อย จึงทำให้ส้มจัดเป็นผลไม้กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยป้องกันอาการป่วยเบสิก ๆ ไปจนถึงอาการป่วยที่หนักหนาได้ เพราะเมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดี เราก็จะป่วยยาก เชื้อโรคและไวรัสต่าง ๆ ก็มีโอกาสจู่โจมเราได้น้อยนั่นเอง
3. ปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือดน้ำตาลฟรุกโตสในเนื้อส้มมีส่วนช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงหลังจากกินส้มเข้าไป อีกทั้งไฟเบอร์ในส้มยังช่วยให้ร่างกายควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกทาง จึงจัดว่าส้มเป็นผลไม้ช่วยคุมระดับน้ำตาลในเลือดอีกชนิดหนึ่ง
4. ช่วยลดความดันโลหิตส้มเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม และยังมีปริมาณโซเดียมค่อนข้างต่ำ จึงช่วยในกระบวนการไหลเวียนโลหิตได้ดี ทำให้ร่างกายควบคุมความดันโลหิตได้อย่างสมดุล และยังช่วยลดความดันเลือดในคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงด้วยนะคะ
5. ลดคอเลสเตอรอลในเลือดในเนื้อส้มเองก็ไม่มีคอเลสเตอรอล ขณะที่วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีในเนื้อส้มก็ยังมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้ โดยสารต้านอนุมูลอิสระจะเข้าไปปกป้องหลอดเลือดไม่ให้อนุมูลอิสระเข้ามาเกาะและก่อให้เกิดไขมันพอกพูนไปเรื่อย ๆ จนก่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอย่างโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจเป็นต้น
สำหรับส้มเขียวหวานนั้น มีข้อสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการเพาะเมล็ดและขยายพันธุ์ของส้มแก้ว หรือมีต้นกำเนิดจากพันธุ์ที่ชาวจีนนำเข้ามาปลูกในภาคกลางเมื่อประมาณร้อยกว่าปีมาแล้ว และนับจากนั้นก็มีการขยายพันธุ์ส้มเขียวหวานไปปลูกในภาคอื่น ๆ และที่เรียกส้มเขียวหวานเพราะเมื่อผลแก่จัดจะมีสีเขียว แต่เนื้อส้มข้างในมีรสหวานอร่อยนั่นเอง
1 note
·
View note
Text
ประโยชน์ของทับทิม!
ทับทิมคือผลไม้ที่ได้รับความนิยมมายาวนานกว่าพันปีเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากจะเป็นผลไม้ที่ให้รสชาติอร่อย หวานอมเปรี้ยว เล่นหวยออนไลน์ และให้ความรู้สึกสดชื่นหลังจากได้กินแล้ว ยังเป็นผลไม้ที่ให้คุณประโยชน์อีกหลากหลายอีกด้วย มาดูกันดีกว่าว่าประโยชน์ที่ได้จากการกินทับทิมมีอะไรกันบ้าง 💋
ทับทิมมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน
1.ลดการอักเสบ
กรดเอลลาจิแทนนินที่อยู่ในเปลือกทับทิม มีส่วนช่วยลดอาการอักเสบได้ดี ซึ่งการทดลองพบว่าสารดังกล่าวสามารถยับยั้งการสร้างไนตริกออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการแข็งตัวของหลอดเลือดต่างๆ ในร่างกายเมื่อจุดต่างๆ เกิดการอักเสบได้ดี
2.ป้องกันไข้หวัด
สารพูนิคาลาจินและสารฟลาโวนอยด์ในทับทิม มีฤทธิ์ช่วยต้านไวรัสโรคหวัดได้เป็นอย่างดี ซึ่งสารดังกล่าวนี้ยังมีความสามารถในการช่วยยับยั้งไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ฮ่องกงได้อีกด้วย
3.ป้องกันโรคหัวใจ
ทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มากมาย ดังนั้นจึงมีส่วนช่วยป้องกันไขมันชนิดไม่ดี โดยจะทำหน้าที่ช่วยกำจัดไขมันเลวโดยตรง อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการออกซิเดชั่นของไขมันเลว จึงทำให้ไขมันเลวไม่สามารถเกาะผนังเลือดได้ นอกจากนี้สารสกัดจากน้ำทับทิมยังส่งผลดีต่อการป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้ดี เพราะน้ำทับทิมมีส่วนช่วยลดความข้นของเลือดซึ่งเกิดจากภาวะไขมันในเลือดสูงนั่นเอง
4.ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
สารพูนิคาลาจินที่อุดมอยู่ในทับทิมนั้น ได้ถูกนำมาทดลองในห้องแล็บของมหาวิทยาลัยฮัดเดอร์สฟิลด์ ซึ่งแสดงผลให้เห็นว่า สารชนิดนี้สามารถยับยั้งการอักเสบในเซลล์สมองส่วนที่เรียกว่า Micrologia ซึ่งเป็นสาเหตุที่มีโอกาสทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ได้
5.ป้องกันอาการอักเสบในช่องท้อง
สารพูนิคาลาจินที่อยู่ในทับทิมมีส่วนช่วยลดเซลล์อักเสบ ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร เริ่มตั้งแต่ในส่วนของกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่ได้อย่างมีนัยสำคัญ
6.ป้องกันโรคมะเร็ง
กรดเอลลาจิกที่ค้นพบในทับทิม มีฤทธิ์ช่วยต้านมะเร็งในเนื้อเยื่อหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งลำไส้ ทางเดินอาหาร ปอด ตับ ลิ้น หรือผิวหนัง โดยกรดชนิดนี้มีฤทธิ์กระตุ้นการเกิดกระบวนการตายของเซลล์มะเร็งบางชนิด รวมทั้งมีฤทธิ์ต้านสารก่อมะเร็งได้ดี
7.ลดระดับน้ำตาลในเลือด
สารชีวเคมีที่พบได้ทั้งในดอก เมล็ด และเปลือกทับทิม ล้วนมีฤทธิ์ช่วยลดน้ำตาลในเลือด อีกทั้งสารสำคัญจากผลทับทิมยังช่วยกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการดูดซึมน้ำตาลในเลือด และกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อีกทั้งยังมีหน้าที่ช่วยยับยั้งการดูดซึมและการสร้างกลูโคสอีกด้วย
8.กระตุ้นความจำ
งานวิจัยหนึ่งได้ทำการทดลองให้สารสกัดจากผลทับทิมแก่ผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดในปริมาณ 2 กรัม ทำให้พบว่า ผู้ป่วยมีอัตราสูญเสียความทรงจำภายหลังการผ่าตัดลดน้อยลง หรือบางรายแทบจะไม่สูญเสียความทรงจำแต่อย่างใดเลย
9.มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
น้ำทับทิมที่ได้จากการคั้นสดให้สารต้านอนุมูลอิสระแก่ร่างกายสูงมาก ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในทับทิมนั้นจัดเป็นสารกลุ่มโพลีฟีนอลและแอนโธไซยานิน อีกทั้งยังมีงานวิจัยค้นพบว่า น้ำทับทิมคั้นสดมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระเป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับไวน์แดงและชาเขียว
10.อุดมด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ
นอกจากจะเป็นผลไม้ที่ให้รสชาติอร่อยแล้ว ยังเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญอยู่มากมาย เช่น ไฟเบอร์ โปรตีน วิตามินซี วิตามินเค โฟเลท โพแทสเซียม และน้ำตาลธรรมชาติ
0 notes
Text
ประโยชน์ของแคนตาลูป!
แคนตาลูปเป็นผลไม้ที่มีรสชาติไม่หวานมาก หาซื้อได้ง่าย ไม่ว่าจะกินเป็นผลสด หรือนำไปเป็นส่วนผสมในเมนูต่าง ๆ เช่น ขนมหวานหรือสลัด ก็สามารถทำได้ ✨เล่นหวยออนไลน์ ✨มาดูกันดีกว่าว่านอกจากความอร่อยแล้ว แคนตาลูปจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง
สรรพคุณของแคนตาลูป
มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงธาตุ
มีส่วนช่วยรักษาโรคความดั่นโลหิต
ช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
ช่วยในการลดไข้ เพราะน้ำแคนตาลูปเป็นผลไม้เย็น
ช่วยดับร้อน แก้กระหาย
ช่วยเป็นยาขับปัสสาวะ
ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ
ช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการอักเสบของลำไส้
ช่วยบรรเทาอาการท้องปั่นป่วนจากการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา
ช่วยในการขับน้ำนม
ช่วยในการขับเหงื่อ
ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ประโยชน์ของแคนตาลูป
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
ช่วยในการชะลอวัยและลดการเกิดริ้วรอย
มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง
ช่วยเสริมสร้างภูมิร่างกายให้แก่ร่างกาย
ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
มีส่วนช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
มีส่วนช่วยในเรื่องของการเกิดสมาธิ
น้ำแคนตาลูปปั่น หวานสดชื่น ดับร้อน แก้กระหายได้เป็นอย่างดี
สำหรับการเลือกซื้อแคนตาลูป ควรซื้อแคนตาลูปจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและสะอาด โดยก่อนรับประทานควรล้างแคนตาลูปก่อนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจปนเปื้อนมากับเปลือก สำหรับรูปทรงและสีสันของแคนตาลูป ควรเลือกแคนตาลูปที่สุกเต็มที่แล้ว มีสีส้มเหลือง ไม่มีรอยเขียวหรืออาจมีแค่เล็กน้อย ไม่มีรอยช้ำ และรูปร่างกลมสมมาตรกันดี
0 notes
Text
ประโยชน์ของสตรอเบอรี่!
ไหนใครชอบกินสตรอว์เบอร์รีลูกใหญ่ๆ เนื้อแน่นๆ กันบ้างไหมคะ ทราบกันไหมคะว่านอกไปจากรสชาติอมเปรี้ยวอมหวานของสตรอว์เบอร์รี เขายังมีดีอีกหลายด้าน อัดแน่นไปด้วยประโยชน์อันแสนหลากหลายภายใน 1 ลูก เราเองก็เป็นคนที่ชอบกินสตรอว์เบอร์รีมากๆ ✨เล่นหวยออนไลน์✨ โดยเฉพาะลูกใหญ่ๆ แน่นๆ จะรีบคว้ามาทันที สตรอว์เบอร์รี มีความน่าสนใจอย่างไร? ประโยชน์ที่โดดเด่นของสตรอว์เบอร์รีเป็นแบบไหน มาดู 6 ประโยชน์แสนหลากหลาย ที่ซ่อนอยู่ใน "สตรอว์เบอร์รี" กันได้เลย
คุณค่าทางสารอาหารและพลังงานของสตรอว์เบอร์รี
สตรอว์เบอร์รี ปริมาณ 100 กรัม มีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้
ให้พลังงาน 33 kcal
คาร์โบไฮเดรต 8 กรัม
ไฟเบอร์ 2 กรัม
น้ำตาล 4.9 กรัม
โปรตีน 0.7 กรัม
ไขมัน 0.3 กรัม
นอกไปจากสารอาหารหลักเหล่านี้แล้ว ในสตรอว์เบอร์รียังอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และสารสำคัญอื่นๆ อยู่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินเอ สารต้านอนุมูลอิสระ (เคอซิติน เคมเพอรอล แอนโทไซยานิน ฯลฯ) โพแทสเซียม และอื่นๆ อีกมากมาย
สตรอว์เบอร์รีช่วยให้ร่างกายแข็งแรง เป็นหว��ดยาก
เพราะในสตรอว์เบอร์รี มีวิตามินซีสูงมาก โดยมีมากกว่าส้มถึง 1 เท่า (เมื่อเทียบในปริมาณเท่ากัน) โดยวิตามินซีนั้นมีบทบาทสำคัญในการทำให้ภูมิคุ้มร่างกายของเราแข็งแรงอยู่เสมอ พอทหารประจำบ้านของเราดีก็จะกำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกายได้ดีมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติกับร่างกายได้น้อยกว่า เราจึงป่วยยาก ไม่เป็นไข้บ่อยๆ หรือถ้าเป็นไข้ครั้งนึงก็จะฟื้นตัวได้ดี กลับมาหายเป็นปกติได้ไว
สตรอว์เบอร์รีช่วยบำรุงสายตา
ข้อนี้เป็นที่ทราบกันดีค่ะ เพราะผลไม้ตระกูลเบอร์รีเขาขึ้นชื่อเรื่องการบำรุงจอประสาทตาอยู่แล้ว สตรอว์เบอร์รีก็เช่นกัน เพราะในสตรอว์เบอร์รีมีวิตามินเอ ซึ่งเป็นวิตามินที่บำรุงสายตาโดยตรง การกินสตรอว์เบอร์รีจึงช่วยบำรุงดวงตาของเราให้แข็งแรง มีการมองเห็นที่เป็นปกติ นอกไปจากนี้ในสตรอว์เบอร์รียังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกหลายตัวที่จะช่วยยับยั้งการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา
ช่วยลดความดันโลหิต บำรุงหัวใจ
สารฟลาโวนอยด์ที่มีในสตรอว์เบอร์รี มีส่วนช่วยลดความดันโลหิตภายในร่างกาย เมื่อระดับความดันเป็นปกติ สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดก็จะดีไปด้วย ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือด ลดโอกาสการเกิดปัญหาความดันโลหิตสูง
ช่วยต้านมะเร็ง
สตรอว์เบอร์รีมีสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟีโนลิก ซึ่งจัดเป็นสารพฤกษเคมีชนิดหนึ่งพบได้จากพืช ผักและผลไม้ โดยสารฟีโนลิกมีส่วนช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ
เพราะสตรอว์เบอร์รีนั้นเป็นผลไม้ที่เป็นแหล่งของเส้นใยอาหาร (Fiber) ซึ่งเส้นใยธรรมชาติเหล่านี้จะเข้าไปช่วยชะลออัตราการดูดซึมน้ำตาลและไขมันในเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่มากกว่า นี่จึงเป็นคำตอบด้วยว่าผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ที่ต้องคุมน้ำตาลในเลือดสามารถกินสตรอว์เบอร์รีได้เหมือนกัน เพราะสตรอว์เบอร์รีมีน้ำตาลน้อย(เป็นความหวานจากธรรมชาติ) คาร์บต่ำ และมีเส้นใยอาหารเรียกได้ว่าสตรอว์เบอร์รีเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพก็ว่าได้
สตรอว์เบอร์รีเป็นผลไม้ช่วยลดน้ำหนัก
ข้อนี้ตอบโจทย์ดีต่อใจคนที่กำลังลดน้ำหนักสุดๆ เพราะเราสามารถกินสตรอว์เบอร์รีแทนของหวานได้แบบสบายใจ รสชาติเปรี้ยวหวานลงตัว น้ำตาลน้อย คาร์บต่ำ แถมในสตรอว์เบอร์รียังมีส่วนกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนในร่างกายที่ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญให้สูงขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นความอร่อยที่ได้ประโยชน์แบบ 2 เด้ง คือทั้งอิ่มอร่อย ช่วยลดความอยากขนมและของหวานให้น้อยลง ทั้งยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานในร่างกายอีกด้วย
วิธีกินสตรอว์เบอร์รีให้ดีต่อสุขภาพ
ถึงแม้สตรอว์เบอร์รีจะเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ แต่เราก็จะต้องมีวิธีการกินที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหารชนิดไหนถ้าเรากินไม่ถูกวิธี กินมากเกินไปยังไงก็อาจสร้างผลเสียต่อสุขภาพได้เหมือนกัน
0 notes
Text
ประโยชน์ของชมพู่!
ชมพู่ (Rose Apple) 💗 จัดเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี หลายคนชอบกินชมพู่มาก โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน เพราะกินแล้วสดชื่น ยิ่งหากแช่เย็นก่อนกินก็จะยิ่งกรอบ อร่อยขึ้นไปอีก 👉เล่นหวยออนไลน์ 👈แต่คุณรู้ไหมว่า นอกจากความอร่อยแล้ว ชมพู่ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากด้วย ว่าแต่ประโยชน์สุขภาพของชมพู่จะมีอะไรบ้าง แล้วเวลาบริโภคเราจะต้องระมัดระวังอะไรหรือเปล่า เราไปหาคำตอบจากบทความนี้กันเลย
คุณค่าทางโภชนาการในชมพู่
ชมพู่เป็นผลไม้ฉ่ำน้ำที่มีแคลอรี่ต่ำ แต่อุดมไปด้วยสารอาหารนานาชนิด ชมพู่สด 100 กรัม ให้พลังงาน 25 กิโลแคลอรี่ และให้สารอาหารต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
โปรตีน 0.60 กรัม
วิตามินเอ 8.4 มิลลิกรัม
วิตามินบี 1 (ไทอามิน) 0.020 มิลลิกรัม
วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) 0.030 มิลลิกรัม
วิตามินบี 3 (ไนอาซิน) 0.800 มิลลิกรัม
วิตามินซี 22.3 มิลลิกรัม
แคลเซียม 29 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม 123 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม 5 มิลลิกรัม
นอกจากวิตามินและแร่ธาตุข้างต้นแล้ว ในชมพู่ยังมี ซัลเฟอร์ (Sulfer) ฟอสฟอรัส (Phosphorus) แมงกานีส เหล็ก รวมถึงสารพฤกษเคมี เช่น กรดบิทูลินิก (Betulinic acid) สารแจมโบไซน์ (Jambosine) ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ต้านมะเร็ง ต้านการติดเชื้อราที่ผิวหนัง
ประโยชน์สุขภาพของชมพู่
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ในชมพู่มีสารแอลคาลอยด์ (Alkaloid) ซึ่งสารประกอบอินทรีย์ที่มีไนโตรเจนเป็นส่วนประกอบ ที่เรียกว่า แจมโบไซน์ (Jambosine) ซึ่งงานศึกษาวิจัยเผยว่า สารประกอบชนิดนี้มีส่วนช่วยกระบวนการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลของร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ อีกทั้งชมพู่ยังเป็นผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ จึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งอาจส่งผลดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานด้วย
ช่วยในการขับถ่าย
นอกจากจะฉ่ำน้ำแล้ว ชมพู่ยังเป็นแหล่งไฟเบอร์ชั้นยอด เมื่อร่างกายของเราได้รับน้ำและไฟเบอร์อย่างเพียงพอ จะช่วยให้อาหารเคลื่อนผ่านจากกระเพาะอาหารไปสู่ลำไส้ใหญ่ได้สะดวกขึ้น จึงช่วยบรรเทาปัญหาเกี่ยวกับระบบอาหารและการขับถ่าย เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก ได้
ดีต่อสุขภาพหัวใจ
สารอาหารนานาชนิด และไฟเบอร์ที่มีมากในชมพู่ช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดของเราแข็งแรงขึ้นได้ นอกจากนี้ ชมพู่ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและโพแทสเซียมสูง ที่ช่วยให้ระดับคอเลสเตอรอล (Cholesterol) ในเลือดเป็นปกติ ความเสี่ยงในการเกิดโรคในระบบหัวใจและหลอดเลือดที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น ภาวะหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง จึงลดลงตามไปด้วย
ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
วิตามินซี (Vitamin C) เป็นวิตามินที่มีส่วนสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และชมพู่ก็เป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีวิตามินซีสูงมาก ชมพู่ 100 กรัม มีวิตามินซีถึง 22.3 ไมโครกรัม กินแล้วจึงช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน (Collagen) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเช่นกัน นอกจากนี้ คอลลาเจนยังช่วยบำรุงผิวหนัง ชะลอการเกิดริ้วรอย ทั้งยังดีต่อสุขภาพข้อต่อและกระดูกด้วย
ช่วยป้องกันมะเร็ง
วิตามินซีและวิตามินเอที่มีมากในชมพู่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นยอด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยืนยันแล้วว่า ช่วยขัดขวางการเจริญเติบโตของเนื้องอกและเซลล์มะเร็ง จึงลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งบางชนิดได้ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปอด
ความเสี่ยงในการบริโภคชมพู่ ที่เราควรรู้
เมล็ด ราก และใบชมพู่มีสารพิษอย่าง ไซยาไนด์ (Cyanide) อยู่ในปริมาณเล็กน้อย หากเผลอกินเข้าไปจะส่งผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำให้ความดันโลหิตลดลงอย่างฉับพลัน และอาจร้ายแรงถึงขึ้นทำให้หยุดหายใจได้ ฉะนั้น เวลากินชมพู่ คุณจึงต้องระวังให้ดี อย่าให้มีเมล็ดติดไปกับเนื้อชมพู่ และคุณไม่ควรกินชมพู่มากเกินไปด้วย เพราะอาจทำให้เกิดอาการคันคอและไอได้
0 notes
Text
ประโยชน์ของแตงโม!
ประโยชน์ของแตงโม ผลไม้คลายร้อน รสชาติหวานฉ่ำอร่อย ยิ่งแช่เย็นๆ อื้อหือฟิน! บอกเลยว่าภายใต้ความฉ่ำอร่อยนี้ แตงโมมีสรรพคุณดีต่อร่างกาย ซ่อนอยู่หลากหลายทีเดียวค่ะ คุณค่าทางโภชนาการของแตงโม ก็มีเยอะไม่แพ้ผลไม้สีแดงชนิดอื่นๆ เลย เข้าสู่ฤดูร้อนแบบนี้👉 เล่นหวยออนไลน์ 👈ทานแล้วชื่นใจแน่นอน จะมีข้อควรระวังในการทานยังไงบ้าง ตามเรามาดูกันเลยค่ะ
คุณค่าทางโภชนาการของแตงโม
เนื้อแตงโม 100 กรัม
พลังงาน 30 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 7.55 กรัม
น้ำตาล 6.20 กรัม
เส้นใยอาหาร 0.40 กรัม
ไขมัน 0.15 กรัม
โปรตีน 0.61 กรัม
น้ำ 91.45 กรัม
วิตามินเอ 28 ไมโครกรัม 3%
วิตามินบี 1 0.033 มิลลิกรัม 3%
วิตามินบี 2 0.021 มิลลิกรัม 1%
วิตามินบี 3 0.178 มิลลิกรัม 1%
วิตามินบี 5 0.221 มิลลิกรัม 4%
วิตามินบี 6 0.045 มิลลิกรัม 3%
กรดโฟลิก 3 ไมโครกรัม 1%
วิตามินซี 8.1 มิลลิกรัม 14%
ธาตุแคลเซียม 7 มิลลิกรัม 1%
ธาตุเหล็ก 0.24 มิลลิกรัม 2%
ธาตุแมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม 3%
ธาตุฟอสฟอรัส 11 มิลลิกรัม 2%
ธาตุโพแทสเซียม 112 มิลลิกรัม 2%
ธาตุสังกะสี 0.10 มิลลิกรัม 1%
ประโยชน์และสรรพคุณของแตงโม
ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
ช่วยดับกระหายคลายร้อน ทำให้ร่างกายสดชื่น
ช่วยลดความดันโลหิต
ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
ช่วยลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด
ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ
ช่วยบำรุงสายตา
ช่วยขับปัสสาวะและช่วยลดอาหารบวมน้ำได้
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้นและเส้นผมให้แข็งแรงเงางาม
ช่วยลดอาหารปวดเมื่อยจากการออกกำลังกายได้
ช่วยเสริมสร้างระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดีขึ้น
ช่วยลดอาการติดเชื้อ
ช่วยรักษาแผลในช่องปาก
ช่วยลดอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร
ช่วยป้องกันหวัด
ข้อควรระวังในการกินแตงโม
การกินแตงโมในปริมาณมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการจุกเสียดได้ ผู้ที่มีอาการท้องอืด หรืออาหารไม่ย่อย ควรหลีกเลี่ยงผู้ป่วยโรคไตที่ต้องจำกัดปริมาณการทานน้ำ ควรหลีกเลี่ยงการทานแตงโม เพราะจะทำให้ไตทำงานหนักผู้ที่ตั้งครรภ์และเป็นโรคเบาหวานร่วมด้วย ไม่ควรทาน เพราะเสี่ยงที่จะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงแตงโมที่หั่นทิ้งไว้จนสัมผัสกับอากาศเป็นเวลานาน อาจเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคและสิ่งสกปรก เสี่ยงต่ออาการท้องร่วง ท้องเสีย หรืออาหารเป็นพิษได้
กลืนเมล็ดแตงโม ได้ไหม ?
ในการทานแตงโม แน่นอนว่าจะต้องเจอเจ้าอุปสรรคเมล็ดเล็กๆ สีดำๆ ที่แทรกอยู่ในเนื้อฉ่ำสีแดง ถ้าขี้เกียจแยกออก แล้วกลืนลงไปพร้อมๆ กันเลย ทำได้ไหม ? เมล็ดจะไปโตในท้องหรือไม่ ? ร่ายกายของเราไม่สามารถย่อยเมล็ดผลไม้ได้ เมื่อกลืนเมล็ดเข้าไป อาจติดค้างอยู่ภายในทางเดินอาหาร โดยเฉพาะที่ตำแหน่งหูรูดของทางเดินอาหาร เช่น ตำแหน่งที่ลำไส้เล็กต่อเข้าลำไส้ใหญ่ จนอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ หรือหากกลืนเข้าไป เมล็ดไม่พ้นหลอดลม อาจเกิดอาการสำลักได้ แพทย์จึงไม่แนะนำให้กลืนเมล็ดผลไม้ และหากเผลอกลืนเมล็ดผลไม้ และมีอาการปวดท้องรุนแรงต้องมาพบแพทย์ทันที
0 notes
Text
ประโยชน์ของแอปเปิ้ล!
“แอปเปิ้ล” 💥💚หนึ่งในผลไม้ที่คนไทยคุ้นเคย นอกจากกินสดๆ แล้วยังสามารถนำมาทำได้หลากหลายเมนูทั้งคาว-หวาน เครื่องดื่ม และยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เล่นหวยออนไลน์ ได้แก่ ช่วยต้านมะเร็ง ลดความอ้วน ส่งเสริมระบบย่อยอาหารให้ทำงานดียิ่งขึ้น บำรุงหัวใจ เป็นต้น ดีขนาดนี้แล้วช้าอยู่ใยรีบหามาหม่ำสักผลเถอะ!
แอปเปิ้ลสีเขียว
รสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อกรอบ คุณประโยชน์ทางโภชนาการอาจไม่แตกต่างจากแอปเปิ้ลสีอื่น ๆ มาก แต่ มีน้ำตาลน้อยกว่า ให้พลังงานน้อยที่สุดในบรรดาแอปเปิ้ลทั้งหมด จึงขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้สำหรับการลดน้ำหนัก น้ำตาลน้อย ทำให้รับประทานได้แบบไม่กลัวอ้วน มีปริมาณไฟเบอร์และวิตามินซีมากกว่าสีอื่นเล็กน้อย ซึ่งไฟเบอร์ดีต่อลำไส้ใหญ่ ส่วนวิตามินซีมีส่วนช่วยในเรื่องของการป้องกันไข้หวัด โรคเลือดออกตามไรฟัน ป้องกันโรคมะเร็ง และริ้วรอยแห่งวัย รวมทั้งยังช่วยลดความอยากอาหารได้อีกด้วย
แอปเปิ้ลสีชมพูอมแดง
ให้รสชาติหวาน ไม่กรอบมากเหมือนสีแดง มีประโยชน์ไม่แพ้แอปเปิ้ลสีแดง มีปริมาณของวิตามินซีถึง 1 ใน 4 ของปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวัน ซึ่งวิตามินซีนี้จะมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการอักเสบ ลดริ้วรอยแห่งวัย ลดอาการเลือดออกตามไรฟัน ช่วยทำให้ผนังของหลอดเลือดฝอยแข็งแรงมากขึ้น
แอปเปิ้ลสีเหลือง
เราอาจจะไม่ค่อยได้พบเห็นกันบ่อยนักตามท้องตลาด สามารถช่วยในเรื่องล้างสารพิษ มีการศึกษาพบว่าแอปเปิ้ลชนิดนี้ช่วยล้างสารพิษจากตับได้ ช่วยบำรุงสายตา และยังมีการศึกษาพบว่าการรับประทานผลไม้ชนิดนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจกบำรุงรักษาดวงตา สารเพ็กตินที่อยู่ในแอปเปิลสีเหลืองสามารถป้องกันการเกิดของก้อนเนื้อมะเร็งได้ และ ช่วยล้างสารพิษที่สะสมในตับออกจากร่างกาย
โดยรวมแล้วไม่ว่าจะเลือกรับประทานแอปเปิ้ลสีไหนไป คุณก็จะได้รับคุณค่าทางด้านโภชนาการสูงทั้งหมด เหมาะสำหรับผู้คนที่รักสุขภาพ เป็นอีกหนึ่งผลไม้ชิ้นดีที่ให้ประโยชน์มากมาย ใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่นั้น บอกได้เลยว่าแอปเปิ้ลเป็นหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะสำหรับทานเป็นอาหารว่างที่ดีเลยทีเดียว
0 notes
Text
ประโยชน์ของอะโวคาโด🥑
ถ้าพูดถึง อะโวคาโด Avocado 🥑💚 หลายๆ คนคงรู้ว่าเป็นหนึ่งในผลไม้ไม่กี่ชนิดที่มีไขมันสูง แต่บอกเลยว่าไขมันที่ว่า คือ ไขมันดี จ้าา ซึ่งอะโวคาโด ก็คือพืชพื้นเมืองของประเทศเม็กซิโก เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายข้อเลย มีทั้งไขมันดี และมีไฟเบอร์สูง วันนี้เราเลยขอรวบรวม ประโยชน์ สรรพคุณของอะโวคาโด ใครอยากรู้ว่ากินอะโวคาโดทุกวันดีไหม แล้วกินตอนไหนดีที่สุด หรือมีข้อควรระวังอะไรในการกินอะโวคาโดบ้าง ตามเรามาดูกันเลยค่ะ เยี่ยมชม✨
ประโยชน์ของอะโวคาโด้และสรรพคุณอะโวคาโด้
ช่วยลดน้ำหนัก
หลาย ๆ คนที่ต้องการจะควบคุมน้ำหนักก็มักจะใช้อะโวดาโด้เป็นอาหารว่าง หรือบางครั้งก็รับประทานแทนอาหารเย็นไปได้ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะประโยชน์ของอะโวคาโด้ก็คือช่วยให้อิ่มท้อง หรือถ้าหิวมาก ๆ ก็สามารถทานเพื่อให้อยู่ท้องลดความหิวไปได้ เพราะสรรพคุณอะโวคาโด้ คือ มีไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตที่จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกอิ่มได้
ต้านอนุมูลอิสระ
ถ้าใครที่ชื่นชอบการอ่านบทความสุขภาพจาก ‘วัตสัน’ เป็นประจำก็จะพอทราบว่าวิตามินซีนั้นเป็นวิตามินหลักที่ช่วยในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในประโยชน์ของอะโวคาโด้และอีกด้วย เพราะสรรพคุณอะโวคาโด้ คือ มีวิตามินซีอยู่ พร้อมด้วยวิตามินอื่น ๆ ที่จะไปช่วยเสริมสร้างการต้านอนุมูลอิสระให้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยเรื่องการขับถ่าย
อีกสรรพคุณอะโวคาโด้ที่หลาย ๆ คนมักจะคาดกันไม่ถึงก็คือช่วยในเรื่องการขับถ่าย อย่าลืมว่า ‘อะโวคาโด้’ นั้นจัดให้เป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง และส่วนมากในผักและผลไม้ก็มักจะมีส่วนกากใยอยู่ปริมาณพอสมควรเลยทีเดียว
ดังนั้นการรับประทานอะโวคาโด้และได้รับประโยชน์ของอะโวคาโด้เป็นประจำก็จะช่วยให้ระบบการขับถ่ายเป็นไปด้วยดีมากขึ้นด้วย
ป้อนกันอาการหวัด
วิตามินซีที่เป็นสรรพคุณอะโวคาโด้นั้นถือว่าอยู่ในสัดส่วนที่สูงพอใช้ได้ทีเดียว ดังนั้นหากรับประทานเป็นประจำก็จะช่วยให้ได้รับประโยชน์ของอะโวคาโด้ และช่วยในเรื่องของการป้องกันการเกิดอาการหวัดได้ ด้วยการทำงานของวิตามินซีที่จะเข้าไปช่วยเร่งการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงนั่นเอง
ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
อีกสรรพคุณอะโวคาโด้ คือ เป็นผลไม้ที่มีโปรตีนอยู่สูงมากเมื่อเทียบกับผลไม้อื่น ๆ ดังนั้นประโยชน์ของอะโวคาโด้ที่จะได้รับไปอย่างเต็ม ๆ เมื่อรับประทานเป็นประจำก็คือการได้โปรตีนที่เป็นโปรตีนสร้างขึ้นจากธรรมชาติ ไม่ผ่านการสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งนั้น ร่างกายจึงสามารถดูดซึมและนำไปใช้ซ่อมแซม และเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็ว
เสริมสร้างกระดูกและฟัน
สรรพคุณอะโวคาโด้อีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือ ‘วิตามินเค’ วิตามินตัวนี้จะทำงานร่วมกับแคลเซียมเพื่อเข้าไปช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟันให้แข็งแรงมากขึ้น ซึงจำเป็นอย่างยิ่งเมื่ออายุมากขึ้น เพราะประโยชน์ของอะโวคาโด้ชนิดนี้จะช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงของอายุที่มีผลทำให้มวลกระดูกเปลี่ยนแปลงไปได้เช่นเดียวกัน
ช่วยเสริมสมองให้เด็ก
สรรพคุณอะโวคาโด้ข้อนี้น่าจะถูกใจคนเป็นพ่อแม่มากทีเดียว เพราะประโยชน์ของอะโวคาโด้ข้อนี้ก็คือ การเสริมสร้างการทำงานของสมอง เพราะในอะโวคาโด้นั้นมีไขมันดีประเภท DHA ที่จะไปช่วยเสริมทัพการทำงานของสมองให้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น จึงทำให้พร้อมเรียนรู้ได้มากกว่า
ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
สรรพคุณอะโวคาโด้ข้อนี้ก็มาจากจุดขายของเจ้าผลไม้สีเขียวนี่ก็คือ ‘ไขมันดี’ ที่อุดมอยู่เต็มผล หากรับประทานเป็นประจำไขมันดีจากอะโวคาโด้ก็จะเข้าไปแทนที่และลดไขมันที่ไม่ดี รวมถึงคอเรสเตอรอลให้ออกไปจากร่างกาย
จึงทำให้เลือดไหลเวียนได้ตามปกติ เพราะไม่มีไขมันไปเกาะตามหลอดเลือด ซึ่งถือว่าเป็นภาวะอันตรายและเสี่ยงต่อหลายโรคทั้งหัวใจ ความดัน เส้นเลือดอุดตัน และอีกเพียบ ถือเป็นประโยชน์ของอะโวคาโด้ที่เด่นที่สุดเลยทีเดียว
0 notes
Text
ประโยชน์ของฝรั่ง!
ฝรั่ง เป็นผลไม้ที่ทานง่าย รสชาติหวาน กรอบ อร่อย อีกทั้งยังหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง แถมยังเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ และเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุด สูงกว่าส้มถึง 5 เท่า ซึ่งในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปดูประโยชน์ของฝรั่ง ผลไม้หาซื้อง่าย วิตามินซีสูง ที่มีดีกว่าที่คิด ที่สำคัญแคลอรี่ต่ำ น้ำตาลน้อย เหมาะกับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักอีกด้วย ถ้าอยากรู้แล้วว่าฝรั่งมีประโยชน์อะไร ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ เยี่ยมชม 💥
ประโยชน์ของฝรั่ง ที่มีมากกว่าวิตามินซีสูง
มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดสารพิษในร่างกาย ฝรั่งมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ทั้งสารโพลีนอล และสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ มีฤทธิ์ช่วยลดความ เสื่อมของเซลล์จึงมีฤทธิ์ยับยั้ง และป้องกันเซลล์มะเร็ง ทั้งยังช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ จอประสาท ตาเสื่อม โรคข้ออักเสบ นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติช่วยลดสารพิษในร่างกาย พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้ไขมันไปจับที่ผนังหลอดเลือดอีกด้วย
มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันหวัด ฝรั่ง น้ำหนักประมาณ 100 กรัม จะมีวิตามินซีราว ๆ 160 มิลลิกรัม จึงทำให้ฝรั่งจัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง โดยส่วนที่มีวิตามินซีมากจะอยู่บริเวณเปลือกฝรั่ง ดังนั้น ต้องกินฝรั่งทั้งเปลือก จะได้วิตามินซีช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ช่วยป้องกันหวัด แถมรอรับประโยชน์อื่น ๆ ของวิตามินซีตามนี้ไปด้วยเลย
แก้อาการท้องผูก
ผลฝรั่งมีสารแพคตินอยู่มาก ซึ่งเป็นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ และมีคุณสมบัติคล้ายเจล เมื่อเข้าไปในลำไส้ก็จะช่วยจับกับอาหารที่ถูกย่อย และทำให้อุจจาระมีน้ำหนัก นุ่ม ง่ายต่อการขับถ่าย ดีต่อคนที่มีอาการท้องผูก แถมยังป้องกันโรคริดสีดวงทวาร และมะเร็งลำไส่ใหญ่ได้อีกด้วย
ช่วยดับกลิ่นปาก
ฝรั่งช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ช่วยบำรุงเหงือกแ ละฟันให้แข็งแรง รักษาโรคเหงือก บรรเทาอาการปวดฟันจากเหงือกบวม เหงือกอักเสบ อีกทั้งใบของฝรั่งยังช่วยระงับกลิ่นปาก เพียงเคี้ยวใบฝรั่งสดแล้วคายกากทิ้งจะช่วยทำให้ลมหายใจสดชื่น ดับกลิ่นปากได้ผล
ช่วยควบคุมน้ำหนัก ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
ฝรั่งเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน หรือกำลังควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากฝรั่งเต็มไปด้วยกากใยอาหาร ช่วยให้อิ่มนาน และทำให้หิวช้า เพราะกากใยจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ นอกจากนี้กากใยยังช่วยล้างพิษโดยรวมได้ จึงส่งผลทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งสดใสนั่นเอง
สรุป ฝรั่ง เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง และมีประโยชน์มากมาย และฝรั่งยังมีแคลอรี่ต่ำ น้ำตาลน้อย เหมาะกับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักอีกด้วย แต่ทั้งนี้การทานฝรั่งที่ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด คือ การทานทั้งเปลือก เพื่อให้ได้วิตามินซี และประโยชน์อื่น ๆ อีกด้วย
0 notes
Text
ประโยชน์ของกีวี!🥝
กีวี เ���็นผลไม้รสชาติหวานอมเปรี้ยว ทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น นอกจากรสชาติที่อร่อยของผลไม้ชนิดนี้ กีวี ยังเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ มีวิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค และมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ทั้งนี้ยังเป็นผลไม้ยอดนิยมของคนลดน้ำหนัก ที่สำคัญเป็นผลไม้ที่ช่วยต้านมะเร็ง แถมไฟเบอร์เยอะ ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายอีกด้วย ซึ่งในบทความนี้เราจะพาคุณไปดูประโยชน์ของกีวี ที่มีดีมากกว่ารสชาติ มาฝากทุกคนกันค่ะ เยี่ยมชม 😍
ประโยชน์ของกีวี ผลไม้วิตามินซีสูง🥝
วิตามินซีสูง กีวีมีหลายชนิด นอกจากกีวีสีเขียวแล้ว ยังมีกีวีสีทอง โดยกีวีทั้งสองแบบมีวิตามินซีสูง เพราะปริมาณกีวี 100 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 105 มิลลิกรัม ซึ่งมีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 3 เท่า จึงช่วยป้องกันโรคหวัดหรือโรคภูมิแพ้ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ๆ ขึ้นมาทดแทนอีกด้วย
ไฟเบอร์สูง กีวีจัดเป็นผลไม้ที่มีใยอาหารสูงกว่ากล้วย และแอปเปิลเสียอีก เมื่อทานไปแล้วจะทำให้รู้สึกอิ่ม ทำให้ทานอาหารในปริมาณน้อยลง นอกจากนี้ยังช่วยทำความสะอาดลำไส้ ทำให้การย่อยอาหารมีประสิทธิภาพดีขึ้น ป้องกันโรคท้องผูก ช่วยให้ขับถ่ายอย่างสะดวก และสม่ำเสมอ อีกทั้งยังป้องกันโรคริดสีดวงทวาร และป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
โพแทสเซียมสูง ในกีวี 100 กรัม มีโพแทสเซียมสูงถึง 312 มิลลิกรัม จึงช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจ ลดความเสี่ยงในการเกิดความดันโลหิต โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในร่างกายให้ดียิ่งขึ้น และช่วยป้องกันไขมันอุดตันเส้นเลือด
ลดคอเลสเตอรอลในเลือด เนื่องจากกีวีมีวิตามินอี ที่มีประโยชน์ในด้านการลดระดับคอเลสเตอรอล ทำให้การไหลเวียนของเลือดเป็นปกติ ซึ่งกีวีก็ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลร้าย แอลดีแอล ( LDL Cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด แล้วช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี เฮชดีแอล (HDL Cholesterol) จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
บำรุงสายตา ในกีวีมีสารลูทีน และซีแซนทีน จึงช่วยลดความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคตา เช่น ป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม ลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก โรคจุดรับภาพเสื่อม และตาฝ้าฟาง
บำรุงการตั้งครรภ์ สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ ควรรับประทานกีวีเป็นประจำ เพราะมีโฟเลต ซึ่งดีต่อทารกในครรภ์มาก ๆ เนื่องจากโฟเลตเป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของทารก และจะช่วยบำรุงเซลล์เม็ดเลือดให้แข็งแรงอีกด้วย
0 notes