Don't wanna be here? Send us removal request.
Text
"24-04-2568อารมณ์แรกที่มาเกี่ยวข้องกับใจ เราเห็นมันเป็นไตรลักษณ์ได้ไหม เห็นเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา โดย พระครูภาวนาสุทธาจาร หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ เมื่อ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘ ณ วัดเวฬุวัน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
"ดูทุกวันนี้ธรรมะ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั้น มี อยู่ทั่วโลกดิน แดนมีอยู่ ในดินฟ้าอากาศมีอยู่หมดทุก จุดของโลกคำสอนของพระพุทธเจ้า ขอให้เรามีเครื่องรับที่ดี แต่วันนี้เครื่องรับเรามันไม่ดี มันไม่สมดล ในเมื่อเครื่องรับเราไม่สมดุล มันก็มีปัญหาแล้ว ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าที่ตัวเองมานี่ มาเกิดมาเกิดเพื่อประโยชน์อะไร เราเกิดขึ้นมาในโลกมนุษย์นี้แล้ว นี่เราจะมาทำประโยชน์อะไร เราจะมาใช้หนี้แผ่นดินหรือเรา เรา มาสร้างหนี้ให้มันเกิดขึ้น ถ้าเรามาสร้างให้มันตกกรรมลำบาก มากไปกว่านี้
🔥 "เครื่องรับธรรมะของเรา... ดีพอหรือยัง?"
"คำสอนพระพุทธเจ้ามีอยู่ทุกแห่งหน แต่หากใจเราไม่สมดุล ก็เหมือนเครื่องรับที่เพี้ยน... เราเกิดมาเพื่ออะไร? เพื่อใช้หนี้กรรม หรือสร้างกรรมเพิ่ม?"
💡 สติเตือนใจจากหลวงปู่สาคร:
ทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้น ฝึกมองให้เห็น "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" ก่อนจะถูกกิเลสครอบงำ
มนุษย์เกิดมาเพื่อชำระกรรม ไม่ใช่สร้างกรรมซ้ำ
ธรรมะคือ "สัญญาณแห่งแสง" แต่หากใจเต็มไปด้วยอวิชชา ก็เหมือนเรามีเครื่องรับที่ขาดสัญญาณ
🕯 คำถามสะกิดใจ: "วันนี้... เราใช้ชีวิตเพื่อ ‘ปลดหนี้กรรม’ หรือ ‘ก่อหนี้ใหม่’ ให้หนักกว่าเดิม?"
📖 ปฏิบัติตัวอย่างไร? ✅ ฝึกสติมองอารมณ์ผ่านไตรลักษณ์ ✅ ถามตัวเองทุกวัน: "การกระทำนี้... เป็นไปเพื่อการหลุดพ้น หรือยึดติด?" ✅ ปรับ "เครื่องรับ" ด้วยการเจริญสมาธิและปัญญา
🌿 แชร์ต่อเพื่อเตือนสติใครบางคน... #ธรรมะปลุกใจ #หลวงปู่สาคร #ใช้หนี้กรรมไม่ใช่สร้างกรรม #ไตรลักษณ์ #สติก่อนทุกการกระทำ
(เครดิต: ข้อความจากธรรมะวันที่ 24 เม.ษ. 2568 วัดเวฬุวัน จ.กาญจนบุรี)
#คำสอนพระพุทธเจ้า#เราเกิดมาเพื่ออะไร#เพื่อใช้หนี้กรรม#สร้างกรรมเพิ่ม?#ธรรมะปลุกใจ#หลวงปู่สาคร#ใช้หนี้กรรมไม่ใช่สร้างกรรม#ไตรลักษณ์#สติก่อนทุกการกระทำ
0 notes
Text

2566.01.31 ปริยัติธรรม พุทธธรรม โดย พระอาจารย์ชย สาโร ในวิดีโอนี้ พระอาจารย์ชยสาโรได้กล่าวถึง แนวคิดเกี่ยวกับสัมมาทิฏฐิและโลกียสัมมา ทิฏฐิ ซึ่งเป็นแนวทางในการเข้าใจชีวิตและ ธรรมชาติ โดยมีรายละเอียดสำคัญคือ: watch on YouTube
สัมมาทิฏฐิ: เป็นความเชื่อและการเห็น ที่ถูกต้องเกี่ยวกับธรรมชาติและการกระทำ ของมนุษย์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการเดินทางในเส้นทางพุทธศาสนา การมีสัมมา ทิฏฐิช่วยให้ผู้ปฏิบัติสามารถพัฒนาคุณธรรมและความรับผิดชอบในชีวิตได้
โลกียสัมมาทิฏฐิ: หมายถึงการเห็นและเชื่อในหลักการที่สามารถเปลี่ยนแปลง ได้ตามวัฒนธรรมและสังคม แต่ยังต้องสอดคล้องกับกฎแห่งกรรม ความเชื่อในกฎ แห่งกรรมเป็นประเด็นสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนเข้าใจถึงผลของการกระทำของตนเอง
โยนิโสมนสิการ: เป็นการพิจารณาและวิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ด้วยปัญญาที่นำไปสู่ ความเข้าใจที่ลึกซึ้งและช่วยให้ผู้ปฏิบัติพ้นจากอิทธิพลของค่านิยมและอารมณ์
โลกุตรสัมมาทิฏฐิ: เป็นความเข้าใจที่สูงขึ้นที่ไม่ขึ้นอยู่กับเวลาหรือสังคม ซึ่ง เป็นความรู้ความเข้าใจที่สามารถนำไปสู่ความหลุดพ้นและการเข้าถึงธรรมชาติที่แท้ จริง พระอาจารย์ยังพูดถึงความสำคัญของการศึกษาธรรม สัญลักษณ์ของการพัฒนาตนใน ชีวิตประจำวัน และการมีชีวิตที่มีคุณค่า โดยยกตัวอย่างการสร้างศีลและสัมมาทิฏฐิว่า เป็นสองสิ่งที่ต้องทำงานร่วมกันเพื่อสร้างพื้นฐานดีในชีวิตของผู้คน นอกจากนี้ยังพูด ถึงการฝึกปฏิบัติที่สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง���นบุคลิกภาพและการเข้าใจใน ธรรมชาติได้ดีขึ้น
"ปริยัติธรรม พุทธธรรม" (31 Jan 2023):
เนื้อหาหลักจากวิดีโอ
พระอาจารย์ชยสาโรอธิบายแนวคิดสำคัญ 4 ประการ:
สัมมาทิฏฐิ – ความเห็นถูกต้องตามหลักพุทธธรรม (โลกียะ+โลกุตตระ)
โลกียสัมมาทิฏฐิ – ความเชื่อที่ปรับได้ตามวัฒนธรรม แต่ต้องสอดคล้องกฎแห่งกรรม
โยนิโสมนสิการ – การพิจารณาอย่างแยบคายด้วยปัญญา
โลกุตรสัมมาทิฏฐิ – ความเข้าใจอันเหนือกาลเวลา นำสู่ความหลุดพ้น
แฮชแท็กแนะนำ
พุทธธรรมประจำวัน – ธรรมะปรับใช้ในชีวิตจริง
กฎแห่งกรรม – เน้นย้ำหลักเหตุผลของการกระทำ
ฝึกปัญญา – พัฒนาความคิดวิเคราะห์ผ่านโยนิโสมนสิการ
เส้นทางหลุดพ้น – เป้าหมายสูงสุดของโลกุตรธรรม
ศีลกับปัญญา – การทำงานร่วมกันของศีลและสัมมาทิฏฐิ
ความหมายแฮชแท็กเพิ่มเติม
ชีวิตมีคุณค่า – การใช้ธรรมะสร้างความหมายในชีวิต
เปลี่ยนตัวเองด้วยธรรม – ฝึกปฏิบัติเพื่อเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ
เข้าใจธรรมชาติจริง – การเข้าถึงสัจธรรมด้วยโลกุตรสัมมาทิฏฐิ
เหมาะสำหรับผู้สนใจ #ธรรมะปฏิบัติได้จริง และ #พัฒนาตนเองแบบพุทธ
หมายเหตุ: แฮชแท็กเหล่านี้ช่วยจัดหมวดหมู่เนื้อหาและเน้นสาระสำคัญของคำสอนพระอาจารย์ชยสาโรในอัลกอริทึมโซเชียลมีเดีย
#สัมมาทิฏฐิ#โลกียสัมมาทิฏฐิ#โยนิโสมนสิการ#โลกุตรสัมมาทิฏฐิ#พุทธธรรมประจำวัน#ธรรมะปรับใช้ในชีวิตจริง#กฎแห่งกรรม#ฝึกปัญญา#เส้นทางหลุดพ้น#ศีลกับปัญญา#ชีวิตมีคุณค่า#การใช้ธรรมะสร้างความหมายในชีวิต#เปลี่ยนตัวเองด้วยธรรม#ฝึกปฏิบัติเพื่อเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ#เข้าใจธรรมชาติจริง#การเข้าถึงสัจธรรมด้วยโลกุตรสัมมาทิฏฐิ
0 notes
Text
ถ้าตัวเราคือธาตุรู้มารวมกับขันธ์ทั้ง 5ที่หลวงพ่อเคยบอกว่า ธาดุเป็นอมตะไม่ตายแสดงว่าธาดุไม่อยู่ในกฎไตรลักษณ์ใช่ หรือไม่ครับฃึ่งมันก็จะขัดกับคำสอนที่ว่าทุกสรรพสิ่ง ล้วนอยู่ในใต้กฎไตรลักษณ์หรือเปล่าครับ สิ่งใดที่มีการผสมปรุ่งแต่ง อยู่ภายใด้กฎไตรลักษณ์ เช่นร่างกายนี้ มีการผสมปรุ่งแต่ง ด้วยธาตุสี่ มันก็เป็นของชั่วคราว มารวมตัวกันชั่วคราว เดี๋ยว มันก็แยก ออกออกไป แต่ตัวธาตุ ที่มารวมนี้ มันไม่มัน ไม่เปลี่ยนมันไม่หาย มันไม่เกิดมันไม่ดับ ธาตุดินน้ำลมไฟ ธาตุรู้นี้มีอยู่ตลอดเวลา
🤔 ปริศนาธรรม: ธาตุรู้ vs. กฎไตรลักษณ์ 🤔
หลวงพ่อสอนว่า "ธาตุรู้" รวมกับขันธ์ 5 คือตัวเรา และธาตุเป็นอมตะ ไม่ตาย! 🤔 ถ้าธาตุไม่ตาย แสดงว่าไม่อยู่ใต้กฎไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) ใช่หรือไม่? 🤔
แต่คำสอนก็ย้ำว่าทุกสรรพสิ่งล้วนอยู่ใต้กฎไตรลักษณ์… เอ๊ะ! 🤔
ร่างกายเรามีการปรุงแต่งจากธาตุ 4 เลยเป็นของชั่วคราว รวมตัวชั่วคราวแล้วก็แยก… แต่ตัวธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ และ "ธาตุรู้" ที่มารวมกันนี้… มันไม่เกิด ไม่ดับ ไม่เปลี่ยน ไม่หาย… มันมีอยู่ตลอดเวลา!
🤯 เพื่อนๆ มีความเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้บ้างครับ? 🙏 #ธรรมะ #ปริศนาธรรม #กฎไตรลักษณ์ #ธาตุรู้ #ขันธ์5
พุทธศาสนา (Buddhism)
ธรรมะ (Dhamma/Dharma)
ไตรลักษณ์ (Three Marks of Existence)
อนิจจัง (Impermanence)
ทุกขัง (Suffering)
อนัตตา (Non-Self)
ธาตุรู้ (Element of Knowing)
จิตเดิมแท้ (Original Mind)
ปฏิบัติธรรม (Dhamma Practice)
เจริญสติ (Mindfulness Practice)
สติ (Mindfulness)
ปัญญา (Wisdom)
ศูนยตา (Emptiness)
Key Phrases: ธาตุรู้คืออะไร (What is the element of knowing?) กฎไตรลักษณ์คือ (The three marks of existence are…) ขันธ์ 5 คือ (The five aggregates are…) จิตเดิมแท้คืออะไร (What is the original mind?) อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา (Impermanence, Suffering, Non-Self) การปฏิบัติธรรมเพื่อ (Dhamma practice for…) การเจริญสติ (Mindfulness practice) ความว่างคือ (Emptiness is…) การพิจารณาธรรม (Dharma contemplation) ลดการยึดติด (Reducing attachment)
0 notes
Text
"จิตพ้นจากขันธ์ 5 : เมื่อการภาวนาทำให้ 'ไม่ต้องรักษาใจ' อีกต่อไป"
📿 แก่นธรรมจากเทศน์วันนี้: _"จิตที่รู้แจ้ง...จะไม่เกาะขันธ์ 5
หยั่งลงในร่างกาย เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
แต่ไม่ยึดมั่น...โยนทิ้งได้เมื่อรู้จริง
สุดท้าย 'ขันธ์อยู่ส่วนขันธ์ วิญญาณอยู่ส่วนวิญญาณ'_
✨ ปฏิบัติอย่างไร? ✅ ภาวนาให้เห็นความไม่เที่ยงของขันธ์ ✅ อย่าสร้างตัวตนจากรูป-นาม (ร่างกาย/จิต) ✅ "ไม่ต้องระวังใจ" = ความหลุดพ้นจริง
"ปล่อยวาง...ไม่ใช่ละทิ้ง แต่คือเห็นตามจริง" #ธรรมะรู้แจ้ง #ขันธ์5 #จิตวิวัฏฏ์
หัวข้อ: สภาวะจิตเหนือขันธ์ห้า: หลุดพ้นจากการยึดมั่น
"จิตมันจะพรากออกจากขันธ์ห้า…นะ มันจะไม่เกาะ ในขณะที่จิตพวกเรามันจะหยั่งลงไปที่ขันธ์ห้าตลอดเวลา"
คำสอนอันลึกซึ้งที่ชี้ให้เห็นถึงธรรมชาติของจิตและการหลุดพ้น เมื่อจิตของเรายังไม่ได้รับการฝึกฝน จะจมดิ่งและยึดมั่นใน:
ร่างกายของเรา เวทนาของเรา (ความรู้สึก สุข ทุกข์) สัญญาของเรา (ความจำ ความหมาย) สังขารของเรา (ความคิดปรุงแต่ง ดี ชั่ว) จิตของเรา (ความคิดว่า 'นี่คือตัวเรา') แต่เมื่อ "ภาวนารู้แจ้งแทนตลอดนะ จิตมันพรากออกจะขันธ์ โยนทิ้ง ไม่ต้องรักษาอีกต่อไป สิ่งที่ต้องทำ ทำเสร็จแล้ว"
การภาวนาจนเกิดปัญญาญาณอย่างแท้จริง จะนำไปสู่การปล่อยวางความยึดมั่นในขันธ์ทั้งห้า จิตจะไม่เกาะเกี่ยว ไม่ต้องคอยดูแลรักษา "ไม่ต้องระวังอีกต่อไปแล้ว"
"ขันธ์ก็อยู่ส่วนขันธ์ วิญญาณธาตุก็อยู่ส่วนวิญญาณธาตุ ไม่คล้องแวะกัน…นะ"
ร่างกายก็เป็นเพียงธาตุตามธรรมชาติ จิตวิญญาณก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง เมื่อจิตหลุดพ้นจากการยึดมั่น ก็จะไม่ผูกพันหรือยึดถือขันธ์อีกต่อไป นี่คือสภาวะแห่งความอิสระที่แท้จริง
วันนี้ธรรมะลึกซึ้งขึ้น… ขอให้พวกเราพิจารณาและฝึกฝนเพื่อเข้าถึงความจริงนี้ครับ 🙏
ธรรมะ #จิต #ขันธ์ห้า #การภาวนา #ปัญญา #ความหลุดพ้น #การปล่อยวาง #อิสระ #เตือนใจ
จิตมันจะพรากออกจากขันธ์ห้า…นะ
มันจะไม่เกาะในขณะที่จิตพวกเรามันจะหยั่งลงไปที่ขันธ์ห้าตลอดเวลา
หยั่งลงไปในร่างกาย ร่างกายของเรา
หยั่งไปในเวทนา เวทนาของเรา
หยั่งไปในสัญญา สัญญาของเรา
หยั่งลงในสังขาร อันนี้ความดีของเรา ความเลวของเรา
หยั่งลงไปในจิต จิตของเรา จิตคือตัวเรา
พอภาวนารู้แจ้งแทนตลอดนะ
จิตมันพรากออกจะขันธ์
โยนทิ้ง
ไม่ต้องรักษาอีกต่อไป
สิ่งที่ต้องทำ ทำเสร็จแล้ว
คือไม่ต้องไปรักษาจิตใจอีกต่อไปแล้ว
ไม่ต้องระวังอีกต่อไปแล้ว
ขันธ์ก็อยู่ส่วนขันธ์
วิญญาณธาตุก็อยู่ส่วนวิญญาณธาตุ
ไม่คล้องแวะกัน…นะ
วันนี้ไง เทศน์ยากขึ้น ยากขึ้น.
#วัดสวนสันติธรรม#พระปราโมทย์ ปาโมชฺโช#“จิตมันจะพรากออกจากขันธ์ห้า…”#เมื่อถึงเวลาที่จิตได้รับรู้แจ้ง มันจะไม่เกาะติดในแต่ละขันธ์#2/4: หยั่งลงไปในร่างกาย#เวทนา#สัญญา#สังขาร ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เคยคล้องจิตเรา#แต่เมื่อภาวนาได้ผล จิตก็จะโยนทิ้งมันไป โดยไม่ต้องรักษาหรือระวังอีกต่อไป#ขันธ์และวิญญาณแต่ละส่วน ยังคงอยู่ในที่ของตน จิตที่รู้แจ้งอยู่ในอิสระ#ตรัสรู้#จิตอิสระ#ธรรมะ
0 notes
Text



หลวงปู่สาคร ธัมมวุโธ อธิบายเทคนิคการถอนตัวจากการทำสมาธิที่วัดเวฬุวัน (21 พ.ย. 2024) ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญ:
รับรู้ถึงการถอนสมาธิที่ไม่สมบูรณ์ ("จิตยังไม่คาย") ทำให้เกิดอาการงุนงง ค่อยๆ กระตุ้นการรับรู้ของร่างกายอีกครั้งก่อนที่จะยืน ใช้ธาตุดิน/น้ำ/ลม/ไฟเป็นพื้นฐานหลังการทำสมาธิ หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนอย่างกะทันหันจากการดูดซึมลึก (appana samadhi)
แน่นอน! นี่คือตัวอย่างโพสต์สำหรับแพลตฟอร์ม Tumblr (ภาษาไทย) ที่สรุปเนื้อหาจากคลิป “ถาม-ตอบ ปัญหาธรรมะ คณะศิษย์ชาวเวียดนาม” โดย หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ ซึ่งถ่ายทอดหลักธรรมะเกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิและการเจริญปัญญาอย่างลึกซึ้ง:
🕊️ ธรรมะจากหลวงปู่ | วัดเวฬุวัน จ.กาญจนบุรี
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 | ถาม-ตอบ ปัญหาธรรมะกับคณะศิษย์ชาวเวียดนาม 🎥 รับชมคลิปเต็ม: YouTube “เมื่อจิตยังไม่ถอนจากสมาธิ จะมีอาการงุนงง จิตไม่เป็นปกติ ต้องกลับมาพิจารณากายก่อน แล้วค่อยถอยจิตออกมาอย่างมีสติ”
🧘♀️ หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ ได้เมตตาแสดงธรรมเรื่องการฝึกสมาธิให้ถึงอัปปนาสมาธิ และเทคนิคการถอยจิตออกมาอย่างถูกต้อง รวมถึงแนวทางพิจารณากาย ธาตุ และไตรลักษณ์ เพื่อพัฒนาจิตให้ละเอียด พร้อมเน้นว่า:
“จิตที่ยังไม่ผ่านการฝึก ยังไม่ขัดเกลา ย่อมไม่สามารถข้ามภพชาติได้ ต้องผ่านขบวนการของศีล สมาธิ ปัญญา จึงจะมีพลังแท้จริง”
🌿 เนื้อหาเหมาะสำหรับผู้ที่ก��ลังปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิ หรือกำลังค้นหาความเข้าใจในวิปัสสนา
📌 คำสอนละเอียด ลึกซึ้ง เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้สนใจธรรมะอย่างจริงจัง
#ธรรมะ #หลวงปู่สาคร #ภาวนา #สมาธิ #ไตรลักษณ์ #อริยสัจ4 #วัดเวฬุวัน #กาญจนบุรี #Dhamma #Meditation #ไทยพุทธ #วิปัสสนา #พุทธะ #ธรรมะวันนี้
#ส่วนประกอบภายใน #วิปัสนา #อัปนาสมาธิ #กาญจนบุรี
0 notes
Text
เป้าหมายของคำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านให้ละสักกายทิฏฐิ ละวิจิกิจฉา ละสีลัพพตปรามาส
เพียงแต่เราทำลายตัวสักกายทิฏฐิลงไปได้เท่านั้น
ฐานที่ตั้งของกิเลสทั้งมวลมันไม่มี เพราะมันไม่มีฐานเป็นที่ตั้ง ของทุกอย่างมันจะต้องมีฐานเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าทิฏฐิ มานะ อาสวกิเลส มันมีฐานที่ตั้ง
คือใจของเรา ถ้าเราเข้ามาถึงใจของเราแล้ว ใจที่เป็นตัวปฏิสนธิวิญญาณ ทิฏฐิ มานะ อาสวกิเลสมันอยู่ไม่ได้
เพราะมันมีมรรคเป็นทางดำเนิน
(*)(*)(*) โดย พระครูภาวนาสุทธาจาร หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ เมื่อ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘ ณ วัดเวฬุวัน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
Summary
🗣️ The YouTube video features a sermon (ธรรมาวุโวาส) by Luang Pu Sakorn Thammawuttho from Wat Weluwan in Kanchanaburi, Thailand, delivered on April 4, 2568 BE (Buddhist Era), which corresponds to April 4, 2025 CE.
🎯 The core message of the Buddha's teachings, according to the sermon, is to abandon Sakkayaditthi (belief in a permanent self), Vicikiccha (doubt), and Silabbhatuparamasa (attachment to rites and rituals).
🔑 The speaker emphasizes that eliminating Sakkayaditthi is crucial because it serves as the foundation for all defilements (kilesa), including ego (mana) and defilements that perpetuate the cycle of rebirth (asavakkilesa).
❤️ Once Sakkayaditthi is eradicated from the mind (the base of consciousness or Patisandhi-vinyana), these defilements cannot reside there because the Noble Eightfold Path (magga) prevents them.
🐒 There's an unclear concluding remark about encountering something described as "jing kong" in various states (standing, lying down, with holes), and another one that is unknown.
Follow-up Questions
🤔 Could you elaborate on the specific practices or understandings that lead to the abandonment of Sakkayaditthi, Vicikiccha, and Silabbhatuparamasa?
❓ What is the deeper meaning of the "jing kong" analogy used at the end of the sermon? Does it represent a specific obstacle or concept in Buddhist practice?
🔄 How does the eradication of Sakkayaditthi directly dismantle the foundation of other defilements like ego and the defilements that cause rebirth?
🧘 How does the Noble Eightfold Path actively prevent defilements from arising once Sakkayaditthi is eliminated from the mind?
#เป้าหมายของคำสอนของพระพุทธเจ้า#ท่านให้ละสักกายทิฏฐิ#ละวิจิกิจฉา#ละสีลัพพตปรามาส#หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ#คนจะต้องเห็นยังไง#ความถือเขาถือเรา#ถือเขาสิบข้อ#ถือเราสิบข้อ#ถือว่าเราหยิ่งกว่าเขา#ถือว่าเขาหยิ่งกว่าเรา#ถือว่าเราต่ำต้อยกว่าเขา#ถือว่าเขาต่ำต้อยกว่าเรา#เราจะต้องทำลายตัวนี้ลงไป
0 notes
Text

ดูก่อนกัสสปะ สติสัมโพชฌงค์ (องค์ธรรมเพื่อการตรัสรู้คือความระลึกได้) เรากล่าวไว้ชอบแล้ว อันบุคคลเจริญแล้ว กร���ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความรู้แจ้ง เพื่อนิพพาน ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ (องค์ธรรมเพื่อการตรัสรู้คือความสอดส่องสืบค้นธรรม) … วิริยสัมโพชฌงค์ (องค์ธรรมเพื่อการตรัสรู้คือความเพียร) … ปีติสัมโพชฌงค์ (องค์ธรรมเพื่อการตรัสรู้คือความอิ่มใจ) … ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ (องค์ธรรมเพื่อการตรัสรู้คือความผ่อนคลายสงบเย็นกายใจ) … สมาธิสัมโพชฌงค์ (องค์ธรรมเพื่อการตรัสรู้คือความมีใจตั้งมั่น) … อุเบกขาสัมโพชฌงค์ (องค์ธรรมเพื่อการตรัสรู้คือความมีใจเป็นกลางเพราะเห็นตามเป็นจริง) เรากล่าวไว้ชอบแล้ว อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความรู้แจ้ง เพื่อนิพพาน
โพชฌงคปริตร
มหากัสสปโพชฌังคสูตร เป็นพระสูตรในพระไตรปิฎกที่กล่าวถึงการตรัสรู้ธรรมของพระมหากัสสปะเถระ โดยมีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับโพชฌงค์ 7 ประการ ซึ่งเป็นธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้ หรือองค์ของผู้ตรัสรู้ ได้แก่
สติสัมโพชฌงค์ (ความระลึกได้)
ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ (ความเฟ้นธรรม)
วิริยสัมโพชฌงค์ (ความเพียร)
ปีติสัมโพชฌงค์ (ความอิ่มใจ)
ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ (ความสงบกายสงบใจ)
สมาธิสัมโพชฌงค์ (ความตั้งใจมั่น)
อุเบกขาสัมโพชฌงค์ (ความวางใจเป็นกลาง)
ในพระสูตรนี้ พระพุทธเจ้าได้ตรัสถึงคุณประโยชน์ของโพชฌงค์ 7 ประการเหล่านี้ว่า เป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน และเมื่อพระมหากัสสปะเถระได้สดับพระธรรมเทศนานี้แล้ว ก็ได้บรรลุอรหัตผลในที่สุด
นอกจากนี้ ��ังมีความเชื่อในหมู่พุทธศาสนิกชนว่า การสวดสาธยายคาถา หรือปาฐะที่เกี่ยวเนื่องกับโพชฌงค์ อันได้แก่ มหากัสสปโพชฌังคสุตตปาฐะ, มหาโมคคัลลานโพชฌังคสุตตปาฐะ, มหาจุนทโพชฌังคสุตตปาฐะ แล้ว จะช่วยให้หายจากอาการป่วยไข้ได้ เหมือนดังที่พระเถระได้เคยเป็นมาดังปรากฏในพระสูตร#### มหากัสสปโพชฌังคสูตร **มหากัสสปโพชฌังคสูตร** เป็นหนึ่งในพระสูตรสำคัญในพระพุทธศาสนา ซึ่งถือเป็นการสอนที่มีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับการบรรลุธรรมและการปฏิบัติในเส้นทางแห่งการหลุดพ้น โดยสูตรนี้มักจะเน้นไปที่การเข้าใจในธรรมชาติของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตและวิธีการที่ทำให้เราสามารถเข้าถึงความจริงได้ #### เนื้อหาหลัก - **โพชฌังค** หมายถึง “องค์แห่งการรู้” ซึ่งในสูตรนี้จะมีการกล่าวถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติสามารถเข้าถึงการรู้แจ้ง - มีการสอนเกี่ยวกับ **สติ**, **สมาธิ**, และ **ปัญญา** ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการปฏิบัติธรรม - เน้นการพัฒนาจิตใจเพื่อให้เข้าใจในสภาวะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น #### ความสำคัญ การศึกษาและปฏิบัติตามมหากัสสปโพชฌังคสูตรจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติสามารถเข้าใจถึง **ความทุกข์** และ **หนทางการหลุดพ้น** ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการพัฒนาจิตใจให้มีความสงบและมีสติในการดำเนินชีวิตประจำวัน หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาหรือการตีความในบริบทต่าง ๆ ของสูตรนี้ สามารถถามเพิ่มเติมได้เลย! 😊
มหากัสสปโพชฌังคสูตร เป็นพระสูตรในพระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค ที่เกี่ยวข้องกับโพชฌงค์ 7 หรือธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้[1][2] โดยมีรายละเอียดดังนี้:
ที่มาและบริบท
เหตุการณ์สำคัญ: สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสพระสูตรนี้ที่เวฬุวันมหาวิหาร ใกล้กรุงราชคฤห์ เมื่อเสด็จเยี่ยมพระมหากัสสปะ ที่กำลังป่วย[1][2]
อาการป่วย: อธิบายว่าเป็นโรคจากลมพิษที่เกิดจากต้นไม้ใกล้ภูเขา[2]
ผลลัพธ์: หลังพระพุทธเจ้าแสดงโพชฌงค์ 7 พระมหากัสสปะหายจากอาการป่วย[1][3]
การใช้ประโยชน์
การรักษาโรค: เชื่อว่าสวดบทนี้ช่วยหายจากโรคภัยไข้เจ็บ[1][4]
การสวดเสริม: บางครั้งใช้สวดคู่กับโพชฌงคปริตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ[4]
คุณสมบัติ: ถือเป็นโอสถและมนต์ที่รวมคุณธรรมอันประเสริฐ[1]
บทสวด
บทขัดโพชฌงค์เริ่มต้นด้วย:
"สังสาเร สังสะรันตานัง สัพพะทุกขะวินาสะเน สัตตะ ธัมเม จะ โพชฌังเค มาระเสนาปะมัททะเน" (แปลว่า: "ขจัดทุกข์ทั้งปวงด้วยโพชฌงค์ 7 ซึ่งเป็นธรรมที่พระองค์ตรัสไว้")[1]
ข้อมูลเพิ่มเติม
สามภาณ: รวมบทสวด 3 ประเภท ได้แก่ มหากัสสปโพชฌังคสูตร, มหาโมคคัลลานโพชฌังคสูตร และมหาจุนทโพชฌังคสูตร[5]
การประยุกต์ใช้: นอกจากรักษาโรคแล้ว ยังช่วยสร้างจิตใจที่สงบและพ้นจากอุปสรรค[3][8]
0 notes
Text
18-03-2568 การภาวนามันต้องมีมัชฌิมา การภาวนาต้องมีอริยสัจ
วัดป่ามณีกาญจน์ Mar 20, 2025 #ธรรมะ #พระพุทธศาสนา #วัดเวฬุวัน ()()() ในสถานะของความเป็นบริษัท ๔ เราต้องมีคติ ในความเป็นไปกับมรรค ต้องมีคติ ในความเป็นไปกับอริยสัจ อริยมรรค ไม่เป็นอิฏฐารมณ์ หรือไม่เป็นอนิฏฐารมณ์ ()()()
โดย พระครูภาวนาสุทธาจาร หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ เมื่อ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ณ วัดเวฬุวัน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
Summary
The sermon emphasizes that meditation should follow the Middle Way (มัชฌิมา) and incorporate the Four Noble Truths (อริยสัจ).
️ It highlights the importance of the Noble Eightfold Path (อริยมรรค) in the lives of the fourfold assembly (บริษัท 4).
A specific instance is mentioned where a substance offered as a gift was found to contain steroids, leading to its rejection.
The sermon also refers to "Miang" (เมี่ยง), a Northern Thai delicacy made from tea leaves.
คำเทศนาเน้นว่าการภาวนาควรดำเนินตามหลักมัชฌิมาปฏิปทา (ทางสายกลาง) และต้องมีอริยสัจ 4 ประกอบด้วย เน้นความสำคัญของอริยมรรค (มรรคมีองค์ 8) ในชีวิตของบริษัท 4 (พุทธศาสนิกชน 4 ประเภท) มีการกล่าวถึงกรณีที่สิ่งของที่นำมาถวายตรวจพบสารสเตียรอยด์ จึงถูกปฏิเสธ มีการกล่าวถึง "เมี่ยง" อาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือที่ทำจากใบชา
จากคำกล่าวของหลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ ที่ว่า "ในสถานะของความเป็นบริษัท ๔ เราต้องมีคติ ในความเป็นไปกับมรรค ต้องมีคติ ในความเป็นไปกับอริยสัจ อริยมรรค ไม่เป็นอิฏฐารมณ์ หรือไม่เป็นอนิฏฐารมณ์" สามารถอธิบายได้ดังนี้
อริยสัจ 4 คือความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ได้แก่ [5]
ทุกข์ (Dukkha) สภาวะที่ทนได้ยาก เป็นความจริงเกี่ยวกับความทุกข์ในชีวิต
สมุทัย (Samudaya) เหตุแห่งทุกข์ เป็นความจริงเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดทุกข์
นิโรธ (Nirodha) ความดับทุกข์ เป็นความจริงเกี่ยวกับภาวะที่ทุกข์ดับไป
มรรค (Magga) หนทางสู่ความดับทุกข์ เป็นความจริงเกี่ยวกับหนทางที่นำไปสู่การดับทุกข์ [5]
มรรคมีองค์ 8 หรือ อริยมรรคมีองค์ 8 คือหนทางสู่ความดับทุกข์ ประกอบด้วย [1]
สัมมาทิฐิ (Samma ditthi) ความเห็นชอบ
สัมมาสังกัปปะ (Samma sankappa) ความดำริชอบ
สัมมาวาจา (Samma vaca) เจรจาชอบ
สัมมากัมมันตะ (Samma kammanta) กระทำชอบ
สัมมาอาชีวะ (Samma ajiva) เลี้ยงชีพชอบ
สัมมาวายามะ (Samma vayama) พยายามชอบ
สัมมาสติ (Samma sati) ระลึกชอบ
สัมมาสมาธิ (Samma samadhi) ตั้งใจชอบ [6]
จากคำกล่าวของหลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ นั้นท่านกำลังกล่าวถึงการที่ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นควรที่จะมีสติและปัญญาในการที่จะเจริญตามมรรคที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนไว้ โดยการที่ผู้ที่ปฎิบัติธรรมนั้นไม่ควรที่จะยึดติดกับ อารมณ์ที่ตนเองนั้นชอบ(อิฏฐารมณ์) หรืออารมณ์ที่ตนเองนั้นไม่ชอบ(อนิฏฐารมณ์) เพื่อการปฎิบัติธรรมนั้นจะได้เป็นไปอย่างราบรื่น
คำว่า "อิฏฐารมณ์" เป็นคำศัพท์ทางพระพุทธศาสนา มีความหมายดังนี้:
อิฏฐารมณ์ หมายถึง อารมณ์ที่น่าปรารถนา เป็นสิ่งที่บุคคลชอบใจ พอใจ หรือต้องการ [1.3]
โดยทั่วไป อิฏฐารมณ์มักเกี่ยวข้องกับสิ่งที่นำมาซึ่งความสุขทางกายและทางใจ เช่น ลาภ ยศ สรรเสริญ และสุข [1.3]
ในบริบทของคำกล่าวของหลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ ที่ว่า "อริยมรรค ไม่เป็นอิฏฐารมณ์ หรือไม่เป็นอนิฏฐารมณ์" หมายความว่า การปฏิบัติธรรมตามอริยมรรคนั้น ไม่ควรยึดติดกับอารมณ์ที่น่าปรารถนา (อิฏฐารมณ์) หรืออารมณ์ที่ไม่น่าปรารถนา (อนิฏฐารมณ์) แต่ควรมีจิตใจที่เป็นกลาง เพื่อให้การปฏิบัติธรรมเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกต้อง
#การภาวนา#ควรดำเนินตามหลักมัชฌิมาปฏิปทา#ทางสายกลาง#ต้องมีอริยสัจ 4 ประกอบด้วย#เน้นความสำคัญของอริยมรรค#มรรคมีองค์ 8#ในชีวิตของบริษัท 4#พุทธศาสนิกชน 4 ประเภท#มีการกล่าวถึง “เมี่ยง” อาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือที่ทำจากใบชา#ธรรมะ#พระพุทธศาสนา#วัดเวฬุวัน#ในสถานะของความเป็นบริษัท ๔#เราต้องมีคติ ในความเป็นไปกับมรรค#ต้องมีคติ ในความเป็นไปกับอริยสัจ อริยมรรค#ไม่เป็นอิฏฐารมณ์ หรือไม่เป็นอนิฏฐารมณ์#โดย พระครูภาวนาสุทธาจาร#หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ
0 notes
Text
คนทุกวันนี้ไม่พัฒนาตัวเอง อยากจะไปพัฒนาอย่างอื่น อยากไปพัฒนาคนอื่น ตัวเองไม่คิดที่จะพัฒนาตัวเองเลย คำว่ารู้จักหา รู้จักการเก็บรักษา รู้จักจับจ่าย คำว่ารู้จักหา ก็คือหาสติปัญญาความรู้ใส่ตัวเอง ให้มีความรอบรู้ต่างๆ และมีมาแล้ว ก็รู้จักเก็บรักษาความรู้ ไม่สุรุ่ยสุร่ายในความรู้ หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ
หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ ได้กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาตนเองในด้านสติปัญญาและความรู้ ซึ่งสามารถสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้
การรู้จักหา (สติปัญญาความรู้) หมายถึงการแสวงหาความรู้และสติปัญญาใส่ตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีความรอบรู้ในด้านต่าง ๆ การเรียนรู้จากความสำเร็จและความล้มเหลวของผู้อื่น เป็นวิธีหนึ่งในการพัฒนาตนเอง [3] การรู้จักเก็บรักษา (ความรู้) หมายถึงการรักษาความรู้ที่ได้มา ไม่ปล่อยให้สูญเปล่า หรือใช้ไปในทางที่ไร้ประโยชน์ การรู้จักจับจ่าย (ความรู้) การนำความรู้ที่ตนเองมีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาตนเองในด้านต่าง ๆ ดังนี้
การเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง [6] การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องช่วยให้เราปรับตัวได้ทันต่อสถานการณ์ เพิ่มโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ และสร้างความมั่นใจในตนเอง การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และการมีวินัยในตนเอง เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้น การพัฒนาตนเองจึงเป็นกระบวนการที่สำคัญในการเติบโตและประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งไม่เพียงแต่หมายถึงการพัฒนาความรู้และสติปัญญาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาทักษะด้านอื่น ๆ ด้วย
#พัฒนาตัวเอง#หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ#คำว่ารู้จักหา#รู้จักการเก็บรักษา#รู้จักจับจ่าย#ก็คือหาสติปัญญาความรู้ใส่ตัวเอง#ให้มีความรอบรู้ต่างๆ#รู้จักเก็บรักษาความรู้#ไม่สุรุ่ยสุร่ายในความรู้
0 notes
Text
ทำสมาธิภาวนามาเต็มสติกำลังของเราแล้ว การทำความเพียรเราก็กำหนดได้ ว่าจะแตกดับเวลาไหนวันไหน มันกำหนดได้หมด เพราะเราสร้างความรู้ของเราขึ้นมาแล้วหรือยัง แต่ถ้าหากเรายังมืดบอดอยู่ นี่แหละ ตัวปัญหาของสัตว์โลกที่เกิดขึ้นมาในโลกอันนี้ เมื่อ ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๘ หลวงปู่สาคร ธมฺมาวุโธ ณ วัดเวฬุวัน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
#ทำสมาธิภาวนามาเต็มสติกำลังของเราแล้ว#เมื่อ ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๘#หลวงปู่สาคร ธมฺมาวุโธ#ณ วัดเวฬุวัน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี#เราสร้างความรู้ของเราขึ้นมาแล้วหรือยัง#ตัวปัญหาของสัตว์โลกที่เกิดขึ้นมาในโลกอันนี้
0 notes
Text
ท่านพุทธทาส ทำบุญ ไม่พ้นทุกข์ ความรู้พาพ้นทุกข์
0 notes
Text
คนก็เอาคนมาต่อ คนดูที่ ในแหล่งอบาย ภูมิ เที่ยวกลางคืนเที่ยว มหรสพแล้วรัฐบาลก็จะมาประกาศทำมหรสพเองทำ บ่อนการพนันเอง นะไอ้บ่อนที่มีอยู่แล้วก็ให้มันเจริญ ขึ้นไปแล้วมันมีแต่ เรื่องที่มันไม่เป็นไปกับศีลธรรมพอมีแต่ เรื่องที่ไม่เป็นไปกับศีลธรรมแล้วบผู้ คนมันก็หลงอยู่แล้วมันก็มีความโลภอยู่ แล้วแล้วก็เอาความโลภใส่เข้าไป

#01-03-2568 ใจที่มันเป็นอภัพพบุคคลไปแล้ว การที่จะมากอบกู้ใจให้มันขึ้นมาเป็นคนปกติ มันยาก#Description#โดย พระครูภาวนาสุทธาจาร#หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ#เมื่อ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘#ณ วัดเวฬุวัน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี#คนก็เอาคนมาต่อคน#ดูที่ในแหล่งอบายภูมิ#เที่ยวกลางคืน#เที่ยวมหรสพ#แล้วรัฐบาลก็จะมาประกาศทำมหรสพเอง#ทำบ่อนการพนันเอง#นะ#ไอ้บ่อนที่มีอยู่แล้วก็ให้มันเจริญ#ขึ้นไปแล้วมันมีแต่เรื่องที่มันไม่เป็นไปกับศีลธรรม#เรื่องที่ไม่เป็นไปกับศีลธรรม#ผู้คนมันก็หลงอยู่แล้วมันก็มีความโลภอยู่แล้ว#แล้วก็เอาความโลภใส่เข้าไป
0 notes
Text
Summary (English):
The video features Luang Pu Sakorn Dhammawuttho from Wat Weluwan in Kanchanaburi, delivering a Dharma talk on February 22, 2568. The teachings explore the concept of seeking what is "non-existent" rather than what is "existent" in life, particularly focusing on the mind and its tendencies toward defilements, which can lead to suffering and lower realms (Abyssal states). The key ideas revolve around the impermanence of all things and the importance of recognizing and cultivating mindfulness and wisdom.
Seek What Is Non-Existent: We should search for the things that are not present or exist in the mind (i.e., the non-material and non-temporal aspects like wisdom and mindfulness), as opposed to pursuing desires rooted in defilements (greed, anger, ignorance) which only lead to suffering.
Mindfulness and Wisdom: The mind is what creates our suffering through defilements and desires. The path of Buddhism involves cultivating virtues like morality (Sīla), concentration (Samādhi), and wisdom (Paññā). We need to refine our hearts and understanding through these practices.
Impermanence of All Things: Everything in the material world is impermanent. This includes our body, wealth, and worldly possessions. Recognizing this truth helps one let go of attachment and desire.
The Four Noble Truths and the Eightfold Path: The talk references the Buddha's teachings on suffering, its causes, the cessation of suffering, and the path to liberation. By practicing the Eightfold Path, one can reach Nirvana.
Personal Practice: The speaker emphasizes that true understanding of the Dharma comes from practice, not just theory. The importance of examining one’s life, observing one’s defilements, and aligning with the Buddha’s teachings is key to liberation.
Chapter Breakdown with Timestamps:
00:00-03:00 - Introduction to the Dharma Talk
Luang Pu Sakorn introduces the topic and talks about seeking the "non-existent" instead of the "existent."
03:00-07:00 - The Mind and Defilements
Discusses how greed, anger, and ignorance can lead one to lower realms, emphasizing the need to purify the mind.
07:00-10:00 - Impermanence and Suffering
Explanation on the impermanence of all things, including the body and possessions.
10:00-13:00 - The Four Noble Truths and the Eightfold Path
The speaker introduces the Four Noble Truths and emphasizes the importance of the Eightfold Path in liberating oneself from suffering.
13:00-17:00 - Personal Practice and Reflection
Encouragement to focus on one’s personal practice, examining one’s desires, and aligning with the teachings of the Buddha for true understanding and liberation.
Summary (Thai):
วิดีโอนี้นำเสนอการแสดงธรรมจากหลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ วัดเวฬุวัน จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 การแสดงธรรมเกี่ยวกับการแสวงหาสิ่งที่ไม่มีอยู่ในโลกวัตถุ เช่น ปัญญาและสมาธิ แทนที่จะไปแสวงหาสิ่งที่มีอยู่ซึ่งเป็นแค่ความโลภ ความโกรธ และความหลง ซึ่งจะนำพาไปสู่อบายภูมิ
แสวงหาสิ่งที่ไม่มีอยู่: ควรแสวงหาสิ่งที่ไม่เป็นวัตถุ เช่น ปัญญาและสมาธิ โดยหลีกเลี่ยงการแสวงหาความโลภ ความโกรธ ความหลงที่นำไปสู่อบายภูมิ
การมีสมาธิและปัญญา: จิตใจเป็นตัวสร้างความทุกข์จากอาสวะและกิเลส การฝึกฝนในศีล สมาธิ และปัญญาช่วยให้เราหลุดพ้นจากทุกข์
ความไม่เที่ยงของทุกสิ่ง: ทุกสิ่งในโลกนี้ไม่เที่ยง รวมถึงร่างกายและทรัพย์สมบัติ เมื่อเข้าใจเรื่องความไม่เที่ยงจะทำให้เราไม่ยึดติดกับสิ่งเหล่านี้
อริยสัจ 4 และมรรค 8: การแสดงธรรมเกี่ยวกับอริยสัจ 4 ที่บอกถึงทุกข์ สาเหตุของทุกข์ การดับทุกข์ และวิธีการดับทุกข์ โดยใช้มรรค 8
การปฏิบัติส่วนตัว: การทำความเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าต้องผ่านการปฏิบัติ ไม่ใช่แค่การเรียนรู้จากทฤษฎี ควรทำความเข้าใจในชีวิตประจำวันและการฝึกฝนตัวเอง
Chapter Breakdown with Timestamps (Thai):
00:00-03:00 - เริ่มต้นการแสดงธรรม
หลวงปู่สาครเริ่มต้นการแสดงธรรมและพูดถึงการแสวงหาสิ่งที่ไม่มีอยู่ในโลกวัตถุ
03:00-07:00 - จิตใจและกิเลส
พูดถึงการที่กิเลส เช่น ความโลภ ความโกรธ และความหลง สามารถนำไปสู่การตกในอบายภูมิ
07:00-10:00 - ความไม่เที่ยงและความทุกข์
อธิบายเรื่องความไม่เที่ยงของทุกสิ่ง เช่น ร่างกายและทรัพย์สมบัติ
10:00-13:00 - อริยสัจ 4 และมรรค 8
แนะนำอริยสัจ 4 และวิธีการเดินตามมรรค 8 เพื่อนำไปสู่การหลุดพ้นจากทุกข์
13:00-17:00 - การปฏิบัติและการสำรวจตนเอง
เน้นความสำคัญของการปฏิบัติจริงและการสำรวจตัวเองตามแนวทางของพระพุทธเจ้า
The video features a Dhamma talk by Luang Pu Sakorn Dhammavuddho from Wat Weluwan in Tha Khanun, Thong Pha Phum District, Kanchanaburi Province, delivered on February 22, 2568 (Buddhist Era). The central theme of the talk is the exploration of what truly leads us towards spiritual progress and liberation, as opposed to what binds us to the cycle of suffering.
Key Points from the Talk Seeking the Right Things
The speaker emphasizes that our quest should be for things that are not material or tangible but rather spiritual and intangible. He makes a distinction between what truly exists in the spiritual sense and what is merely an illusion created by our desires and defilements.
The Role of Desires and Defilements
The mind is often covered by defilements such as pride, greed, anger, and ignorance. These defilements lead us to the four lower realms of suffering (อบายภูมิ 4): hell, hungry ghosts, animals, and asuras (demigods with negative traits).
Impermanence of Worldly Things
Everything in the worldly realm is impermanent, including our own bodies and material possessions. The speaker stresses the importance of seeking things that are not subject to change and decay.
Path to Liberation
The talk outlines the path to liberation, which involves the practice of morality (ศีล), concentration (สมาธิ), and wisdom (ปัญญา). These practices help purify the mind and lead to spiritual awakening.
Historical Context and Teachings
The speaker references historical Buddhist figures and their practices, such as Anathapindika, Visakha, and stories from the time of the Buddha. These examples illustrate the application of the Dhamma teachings in real life.
Realization of True Nature
A story is shared about a young monk who learned to see the body and mind's true nature, leading to a breakthrough in his spiritual practice. This story highlights the importance of correct understanding and continuous practice.
Conclusion
The talk concludes by encouraging listeners to pursue the spiritual path earnestly and diligently. By understanding the impermanent nature of worldly things and focusing on inner virtues, one can achieve peace and ultimately Nirvana.
สรุปอย่างละเอียด วิดีโอนี้มีการแสดงธรรมโดยหลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธจากวัดเวฬุวันในตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี การแสดงธรรมเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 (พ.ศ.) นี้มีธีมหลักคือการสำรวจว่าอะไรที่นำพาเราไปสู่ความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณและการปลดปล่อย
ประเด็นสำคัญจากการแสดงธรรม การแสวงหาสิ่งที่ถูกต้อง
ผู้พูดเน้นให้เรามุ่งหาในสิ่งที่ไม่มีตัวตนหรือวัตถุ แต่มุ่งหาในทางจิตวิญญาณและคุณธรรม โดยแยกแยะระหว่างสิ่งที่มีอยู่จริงในทางจิตวิญญาณและสิ่งที่เป็นเพียงภาพลวงที่สร้างขึ้นโดยความอยากและกิเลส
บทบาทของความอยากและกิเลส
จิตใจมักถูกปกคลุมด้วยกิเลส เช่น ทิฐิ มานะ โลภ โกรธ หลง ซึ่งเหล่านี้นำเราไปสู่อบายภูมิ 4: นรก เปรต สัตว์เดรัจฉาน และอสูร
ความไม่เที่ยงของสิ่งในโลก
ทุกสิ่งในโลกนี้ไม่เที่ยงรวมถึงร่างกายของเราและทรัพย์สมบัติ ผู้พูดเน้นให้เราแสวงหาในสิ่งที่ไม่ถูกเปลี่ยนแปลงและเสื่อมสลาย
หนทางสู่การ��ลุดพ้น
การแสดงธรรมนี้สรุปหนทางสู่การหลุดพ้น ซึ่งประกอบด้วยการปฏิบัติศีล สมาธิ และปัญญา การปฏิบัติเหล่านี้ช่วยทำให้จิตใจบริสุทธิ์และนำไปสู่การตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ
บริบททางประวัติศาสตร์และคำสอน
ผู้พูดอ้างถึงบุคคลสำคัญในพระพุทธศาสนาในอดีตและการปฏิบัติของพวกเขา เช่น อนาถบิณฑิกเศรษฐีและนางวิสาขา เรื่องราวเหล่านี้แสดงถึงการประยุกต์ใช้คำสอนทางธรรมในชีวิตจริง
การตระหนักถึงธรรมชาติที่แท้จริง
มีการเล่าเรื่องของสามเณรที่เรียนรู้ธรรมชาติที่แท้จริงของร่างกายและจิตใจ จนนำไปสู่ความสำเร็จทางธรรม เรื่องราวนี้เน้นความสำคัญของการเข้าใจและปฏิบัติที่ถูกต้อง
บทสรุป
การแสดงธรรมจบลงด้วยการกระตุ้นให้ผู้ฟังมุ่งมั่นปฏิบัติธรรมให้จริงจังและตั้งใจ โดยการเข้าใจถึงความไม่เที่ยงของสิ่งในโลกและมุ่งหาในคุณธรรมภายใน จะนำเราไปสู่
#Dhamma talk by Luang Pu Sakorn Dhammavuddho from Wat Weluwan#หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ#วัดเวฬุวัน#พระธรรมเทศนาของหลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ#เน้นเรื่องการแสวงหาสิ่งที่ไม่มี#ใจของเราคือสิ่งที่ไม่มี และเป็นสิ่งที่ควรแสวงหา#กิเลส#ตัณหา#อาสวะ#จะนำพาเราไปสู่อบายภูมิ#การแสวงหาสิ่งที่ไม่เที่ยงจะนำไปสู่ความทุกข์#อบายภูมิ4ิ#ชองที่ไม่มี
0 notes
Text
เดียรถีย์
0 notes
Text









หลวงพ่อผินะ ปิยธโร วัดสนมลาว หมู่ที่ 2 ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี
0 notes