Tumgik
rewraphealth · 3 years
Text
Tumblr media
ภูมิแพ้ที่ไม่รู้ว่า สาเหตุเกิดจากอะไร รักษาไม่หายซักที 💁🤷‍♀️
.
.
เรามองดูทางซ้ายที ทางขวาที เรากลับไม่พบคำตอบของโรคที่เราเป็นโดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ ที่หลายคนมักมีปัญหาในสมัยนี้ เพราะเป็นกันเยอะ แพ้ไปหมด แพ้โน้น แพ้นี่จนรุ่นพี่ที่ทำงานรับน้องในหลายมหาลัยต่างต้องทำแบบสอบถาม กันเหนียวเอาไว้ก่อน เผื่อว่ากิจกรรมที่ตนจัดจะไม่กระทบกับอาการแพ้ของรุ่นน้องในงานรับน้อง และนั้นก็เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างที่หลายคนสงสัยว่าทำไม เราถึงเป็นโรคภูมิแพ้กันเยอะในสมัยนี้ แล้วเราจะหาคำตอบได้ที่ไหน เพราะยาก็ทาน ยาก็ทาแต่หายยากจังค่ะ
1. กรรมพันธุ์ 🍃🌲 หลายคนยอมรับว่าที่เราเป็นเพราะญาติเรา พ่อ แม่ พี่น้องเรามีภูมิแพ้โรคนี้กันทุกคน เพราะฉะนั้น เราจึงมีโรคภูมิแพ้นี้เหมือนกัน หากแต่ใครจะทราบว่าวิทยาศาสตร์สมัยนี้กลับมองหาวิธีฟื้นฟูแม้เราจะมีกรรมพันธุ์ในโรคภูมิแพ้ เพราะเมื่อทำการเจาะลึกระดับ DNA แล้ว เราจะสามารถเห็นถึงระดับเซลล์ว่าจริงๆแล้วเราอาจมีความบกพร่องเช่น ขาดเอ็นไซด์ในการย่อยสารนั้น เช่น แพ้นม หรือ lactose intolerance -- อาการป่วยเพราะไม่มี lactase สารที่ย่อยนมในลำไส้ และโรคภูมิแพ้ที่คนเอเชียหลายคนเป็นและแพ้กันจนท้องร่วง -- หากแต่ในปัจจุบันเราสามารถหา lactase สารช่วยย่อยนม มาเติมเพื่อให้ย่อยนมได้ หรือบางทีเราอาจเลือกทานนมที่ไม่มี lactose
2. วิถีชีวิต 🌴☘️ เรื่องนี้ใหญ่มากเพราะฉะนั้น นันท์จะขอแบ่งเป็นหัวข้อย่อยๆ เพื่อให้เข้าใจกันได้มากขึ้น ทั้งนี้วิถีชีวิตเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้ DNA แสดงฤทธิ์อาการออกมา ถ้าเรามีวิถีชีวิตที่ไปกระตุ้นเช่น มีสารพิษคั่งค้าง ไม่ได้ถ่าย ท้องผูก โลหะหนักสะสม เป็นโรคทางเดินอาหารมานาน เครียด กังวล ฮอร์โมนไม่สมดุล ลำไส้แปรปรวน มีเชื้อรา ปรสิต แบคทีเรียไม่ดีมีจำนวนมาก สาเหตุและอาการเหล่านี้มักนำไปสู่โรคภูมิแพ้ได้
a. อาหาร - 🧅🧄🥜 อาหารกลายเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่หลายคนหันมาสนใจ เพราะโรคภูมิแพ้สมัยนี้มีทั้งในแบบที่เราเข้าใจกันอย่าง โรคภูมิแพ้ที่เป็นเพราะพันธุกรรมอย่าง lactose intolerance ซึ่งเราได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ แต่เนื่องจากวิทยาศาสตร์ทางอาหารและทางการรักษาแบบบูรณาการที่ก้าวไกล จึงมีการทำlab test หา Food sensitivity เพื่อหาโรคภูมิแพ้แฝง ซึ่งจะตรวจหาสารเคมีอันตรายที่ร่างกายปล่อยออกมาเวลาที่เราทานอาหารที่เราแพ้แฝง ทั้งนี้เรามักใช้อาหารบำบัดในการรักษาด้วยการตัดสินใจงดกินอาหารที่แพ้แฝงนั้นไปหรือแบบค่อยลดอาหารดูตามอาการของร่างกาย ทั้งนี้อาหารแพ้แฝงนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่จำเป็นต้องทำบำบัดอาหารจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจ หากหลายคนไม่เข้าใจ ส่งผลให้สารอันตรายที่ร่างกายหลั่งออกมานี้ไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบภายใน นานเข้าอาการอักเสบก็ส่งผลให้มีโรคต่างๆตามมา ดังจะเห็นได้จากโรคภูมิแพ้ที่มักหาสาเหตุไม่ได้ ได้แต่ให้ยาแก้แพ้ หรือยาทาsteroid มาทาน ซึ่งช่วยเราในระยะสั้นแต่ไม่ได้ตอบโจทย์เราในระยะยาว
b. โรคทางเดินอาหารสะสม - 🍓🍒🥔 " ไม่มีใครบอกคุณว่าป่วยเป็นโรคท้องผูกนี้ควรหาทางรักษาที่ยั่งยืนน่ะ " เพราะโรคนี้เป็นกันจนเคยชิน ซึ่งนั้นส่งผลให้ร่างกายเราสะสมสารพิษ ถ้าเรามีอาการอาหารไม่ย่อยสะสม หรือมีเชื้อรา ปรสิต แบคทีเรียไม่ดีมีจำนวนมากในระบบทางเดินอาหาร อาจทำให้ลำไส้เล็กดูดซึมสารพิษแทนสารอาหาร เพราะอาหารไม่ย่อยไปหมักหมมตามอวัยวะ ทำให้ลำไส้ใหญ่ไม่สมดุล สารอันตรายจึงเข้าสู่ร่างกายก่อให้เกิดการอักเสบภายใน จนไปกระตุ้นให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ นานเข้าจึงเป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคร้ายอย่างโรคภูมิแพ้ตัวเอง หรือ Autoimmune diseases ไม่ก็โรคผิวหนังเรื้อรัง มีข้อมูลและงานวิจัยมากมายที่ลิ้งค์ระบบทางเดินอาหาร ไว้กับระบบภูมิคุ้มกัน
c. การดูแลรักษาร่างกาย - 🥦🥬🌽 ความไม่สมดุลในปัจจัยพื้นฐานการดูแลร่ากายเช่น การนอนหลับไม่เพียงพอ นอนดึก ดื่มน้ำน้อย เลือดข้น ออกกำลังกาย เคลื่อนไหวร่างกายน้อย อารมณ์ขุ่น เครียด ยึดติด กังวล ไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ สาเหตุเล็กๆน้อยๆนี้กลายเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่สะสมทำให้ฮอร์โมนไม่สมดุล ฟื้นฟูตัวช้า มีผลต่อโรคภูมิแพ้ ร่างกายไม่ได้อยู่ในภาวะ parasympathetic หรือระบบประสาทพาราซิมพาเธติก - ภาวะร่างกายที่ส่งเสริมการฟื้นฟูร่างกาย การปรับสมดุลชีวิต การซ่อมแซมอวัยวะ ซึ่งสำคัญต่อโรคภูมิแพ้ที่ต้องการลดอาการอักเสบภายใน ลดอาการแดงที่ผิว ลดผื่นคัน ซึ่งเราจะมีสภาวะนี้ได้เวลาที่เราผ่อนคลายอารมณ์ เช่นในยามนอน หรือในยามนั่งสมาธิ
d. โลหะหนักสะสม - ⛹🏽‍♂️⛹🏻⛹🏽‍♂️⛹🏼‍♂️ วิถีชีวิตเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เราได้รับสารโลหะหนักเข้าสู่ร่างกายเกิน เช่น สารปรอท สารตะกั่วจากโรงงาน จากอาหารทะเล สารอมัลกัม จากเครื่องมือที่ใช้อุดฟัน สารพิษทางอากาศ จากบุหรี่ ควันพิษ สารโลหะหนักจากอาหาร เช่น เครื่องดื่มที่กระตุ้นร่างกายเกิน จากยาและอาหารเสริมที่ไม่ได้สำรวจดู เช่นยาฮอร์โมน ยาคุม หรือสารโลหะจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้รอบตัว เช่น ยาเบื่อ ยากำจัดวัชพืชและแมลงทางการเกษตร สารเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกัน ก่อให้เกิดการอักเสบภายใน และก่อกวนระบบการทำงานของตับ - อวัยวะที่สำคัญในการขับสารพิษ
e. สารเคมีจากผลิตภัณฑ์ 🥡 วัคซีน เครื่องใช้ส่วนตัว เช่นเครื่องสำอาง แชมพู สบู่ น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาซักผ้า ยาสีฟัน ครีมต่างๆ ยาทำสีผม ยาทาเล็บ ที่หน้าตกใจคือแม้กระทั่งจากวัคซีนในเด็กอ่อนแรกเกิด เราก็ควรระมัดระวังเพราะไม่มีใครอยากเห็นเด็กเล็กได้รับสารพิษ หากแต่มีการฉีดสารพิษเข้าร่างกายโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคุณพ่อคุณแม่หลายคนไว้ใจโรงพยาบาลโดยเฉพาะในต่างประเทศ (เช่น งานวิจัย https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4344667/) สารพิษ สารเคมีเหล่านี้มีผลกระทบโดยตรงต่อระบบภูมิคุ้มกันทำให้เกิดอาการแพ้ชัดเจนเช่น ผื่น คัน
3. สิ่งแวดล้อม 🌳 หลายครั้งที่เราควรพิจารณาว่าสิ่งแวดล้อมรอบกายเรานั้นมีอะไรที่เปลี่ยนแปลง เช่นเหตุการณ์ที่มีกองขยะใกล้บ้านมากเกิน แล้วเราไม่ได้สังเกตเห็น เหตุการณน้ำท่วมที่นำเอาสารพิษ สารเคมีจากโรงงานมายังท่อน้ำใกล้บ้าน การฉีดยากำจัดปลวกของเพื่อนบ้าน บ้านมีเชื้อราเยอะ บ้านชื้น บ่านไม่โปร่ง ไม่มีอากาศถ่ายเท เป็นต้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหล่านี้ บางครั้งเรากลายมาเป็นเหยื่อโดยที่เราไม่ได้สังเกต และกว่าจะรู้ตัวก็มีอาการต่างๆเรียบร้อย
🌱 ปัจจัยเหล่านี้เป็นเหมือนรากฐานของร่ายกายเราที่จะเจริญสมบูรณ์ หากเราสามารถนำวิวัฒนาการทางการแพทย์ อาหารและยาที่พัฒนาอย่างรวดเร็วมาประยุกต์รวมกับหลักการธรรมชาติของร่างกายเช่นการทานอาหารที่มีประโยชน์ การหลีกเลี่ยงสารเคมีและโลหะหนัก การดูแลปัจจัยพื้นฐาน แล้วย้อนรอยหาสาเหตุและปัจจัยที่ส่งผลการเกิดโรคภูมิแพ้ เหมือนแพทย์นักสืบที่ค้นคว้าหาทางออกให้กับโรคนี้ไปพร้อมกับตัวผู้ป่วยเอง 🍀
0 notes
rewraphealth · 3 years
Text
สุขภาพการกิน < Fix up >
Tumblr media
เรารู้จัก #ระบบทางเดินอาหาร กันดีแล้วหรือยังค่ะ เพราะจริงๆแล้วหลายคนมีปัญหาเรื่องทานอาหารไม่ย่อย ท้องผูก หรือไม่ก็ทานอาหารเยอะแต่ไม่ได้น้ำหนัก หรือกล้ามเนื้อที่ต้องการ เราเป็นกันเยอะจนคิดว่าเป็นเรื่องปรกติกันไปเลยทีเดียวคะ เท่านั้นยังไม่พอ ภัยเงียบนี้ยังส่งผลกระทบไปยังระบบอื่นๆ เช่น
1. #ระบบภูมิคุ้มกัน โรคทางเดินอาหารมีผลโดยตรงกับความสามารถในการป้องกันร่างกายเรา ถ้าเราเป็นโรคอาหารไม่ย่อย 
คือปัญหาเรื่องกรดในกระเพาะ โอกาสที่เราจะติดเชื้อ เช่น เชื้อโรคH. Pylori มีจำนวนมากในกระเพาะก็สูงตามไปด้วย หรือบางทีอาหารที่เราทานย่อยไม่สมบูรณ์ เกิดไปหมักในลำไส้เล็ก ทำให้ร่างกายเราดูดซึมสารเคมีร้ายนี้ แทนสารอาหารที่มีประโยชน์ จนสารเคมีร้ายตามไปโจมตีอวัยวะต่างๆ ลดภูมิคุ้มกันโรค มีความเสี่ยงที่ป่วยง่าย เหนื่อยอ่อนเพลีย มีแผลเรื้อรัง เป็นโรคภูมิแพ้บ่อย แพ้ง่าย หรือนานเข้าโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเองก็ง่ายมากขึ้น
2. #ระบบประสาท ปัจจุบันมีงานวิจัยมากมายที่ชี้ให้เห็นว่า ท้องของเรานี่เป็นสมองที่ 2 ของร่างกายเ��าเลย
 เนื่องด้วยจากจำนวนเซลล์ประสาทที่อยู่ในกระเพาะ ลำไส้เล็ก หรือลำไส้ใหญ่นี่มีจำนวนมาก ทำให้เรารับประสาทไว อารมณ์ขึ้นๆลงๆเป็นผลกระทบโดยตรงจากอาหารที่ทาน เช่นทานโปรตีนในตอนเช้า เราจะรู้สึกอิ่มได้นาน หรือทานน้ำตาลเยอะ ไม่นานซัก 1-2 ชั่วโมง เรากลับมีอารมณ์กระปี้กระเป้ามากขึ้นมาทันที ซึ่งนานวันเข้าโรคเบาหวานอาจถามหาได้
3. #ระบบน้ำเหลือง เรื่องของระบบน้ำเหลืองนี่เกี่ยวเนื่องกับการขับสารพิษของร่างกายเรา ถ้าเรามีอาหารหมักหม่มในกระเพาะ มีจำนวนเชื้อจุลลินทรีย์ไม่สมดุล จะทำให้ระบบน้ำเหลืองเราสะสมไปด้วยสารพิษ สารเคมีอันตราย 
ยิ่งถ้าเราไม่ขับน้ำเหลืองด้วยการออกกำลังกาย นวด ขยับร่างกายบ่อยๆหรือมีโรคท้องผูก ขับถ่ายเอาสารพิษออกได้ไม่ดีนัก ความเสี่ยงเรื่องโรคต่างๆจะง่ายมากขึ้นเรียกได้ว่าอาหารที่เราทาน และอาการที่เราเป็นนั้นล้วนมีผลกระทบต่อระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ เพราะฉะนั้นเราควรระวังอาการสะสมที่เป็นมานาน ยิ่งโรคที่เราเป็นจนกลายเป็นความเคยชินแล้วนั้น ยิ่งต้องระมัดระวัง เพราะเราไม่รู้ว่าโรคนี้อาจเป็นบ่อเหตุให้เกิดโรคอื่นๆตามมาอีกหรือไม่
1 note · View note