technologysbusines
technologysbusines
Technologysbusines
2 posts
Don't wanna be here? Send us removal request.
technologysbusines · 6 years ago
Photo
Tumblr media
0 notes
technologysbusines · 6 years ago
Text
คือ อะไร เทคโนโลยีสุดล้ำที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต
รู้จักคร่าว ๆ Cloud Computing คือ อะไรกันแน่ ?
หากพูดถึงคำว่า Cloud หลาย ๆ  คนก็อาจจะนึกถึงบริการ ICloud, Dropbox, Google Drive หรือ Microsoft  Onedrive กันใช่ไหมคะ เพราะบริการเหล่านี้เป็นบริการที่เราคุ้นเคยกันดี เนื่องจากใช้กันอยู่บ่อย ๆ เป็นประจำ เพื่อไว้ใช้จัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ แต่ถ้าหากเราถามถึงคำว่า Cloud Computing คือ อะไร หลายคน ๆ ก็อาจจะชักสับสนและไม่แน่ใจว่า มันต่างหรือมันเหมือนกันอย่างไรกันแน่ เชื่อว่าหลายคนก็อาจจะเดาว่าชื่อคล้ายกันก็น่าจะคล้ายกันสิ ��ึ่งคำตอบก็คือ ถูกแค่ครึ่งเดียวค่ะ บริการข้างต้นที่เราได้กล่าวกันมานั้นแท้จริงแล้วเป็น เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของบริการ Cloud Computing เท่านั้น ซึ่งมีชื่อเรียกว่า Cloud Starage
“แล้วอย่างงี้ Cloud Computing ที่เราพูดถึงคือ อะไรกันแน่ล่ะ ?”
บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้คำว่า Cloud Computing  กันมากขึ้น รวมไปถึงทำความรู้จัก คลาวด์ประเภทต่าง ๆ ว่ามีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไรบ้าง พร้อมเคสเปรียบเทียบว่า Cloud Computing จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างไร ถ้าพร้อมแล้วเราลองไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
Cloud Computing คือ บริการที่ให้เราใช้หรือเช่าใช้ระบบคอมพิวเตอร์หรือทรัพยากรด้านคอมพิวเตอร์ ของผู้ให้บริการ โดยครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล และระบบออนไลน์ต่างๆ ผ่านอินเตอร์เน็ต  ซึ่งเราสามารถเลือกกำลังการประมวลผล เลือกจำนวนทรัพยากร ได้ตามความต้องการในการใช้งาน พูดง่ายก็คือ ใช้เท่าไหร่ ก็จ่ายเท่านั้นนั่นเอง นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าถึงข้อมูลบน Cloud จากที่ไหนก็ได้เรียกได้ว่าทั้งสะดวกสบายแถมยังประหยัดเวลาแบบสุด ๆ
ประเภทของ คลาวด์คอมพิวติ้ง มีแบบไหนบ้าง
Private Cloud
คือการตั้งคลาวด์ส่วนตัว โดยแต่ละบริษัทหรือองค์กรจะลงทุนจัดตั้ง Hardware และ Software ที่ใช้เป็นพื้นฐานในการทำ Cloud Datacenter ขึ้นมาเป็นของตัวเอง เพื่อให้พนักงานในองค์กรใช้เท่านั้น
 ข้อมูลปลอดภัยเพราะจัดเก็บอยู่ภายใน Datacenter ของตัวเอง
ไม่สามารถ Scale out แบบกะทันหัน เมื่อเกิด Workload Peak time ได้เหมือนกับ Public Cloud  และมีค่าใช้จ่ายสูงเพราะต้องลงทุนซื้อ Hardware และ Software รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบเองทั้งหมด
Public Cloud
คือ คลาวด์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานได้ โดยจะมีผู้ให้บริการระบบคราวด์เป็นคนตั้ง ระบบ Hardware และ Software ขึ้นมา แล้วให้แต่ระบริษัทหรือองค์กรเข้าไปเช่าใช้บริการ อาจจะจ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปี
ประหยัดเงินได้มากกว่า เพราะไม่ต้องลงทุนตั้ง Cloud Datacenter เป็นของตัวเอง
อาจจะมีปัญหาด้าน IT Policy Audit ในบางบริษัท เพราะบางบริษัทห้ามเก็บข้อมูลไว้นอกองค์กร
Hybrid Cloud
คือ เป็นการเอาข้อดีของระหว่าง Private Cloud และ Public Cloud มาใช้ร่วมกัน เช่น การนำ Private Cloud มาใช้สำหรับเก็บข้อมูลภายในองค์กร และใช้ Public Cloud มาใช้เพื่อการ Scale out ในการประมวลผลในช่วงที่เกิด Workload Peak time เป็นต้น
เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการได้มากขึ้นและอุดข้อเสียของทั้ง 2 รูปแบบนั้นได้
มีความยุ่งยาก เพราะรายละเอียดของ Cloud ทั้งสองแบบนั้นต่างกันมาก ต้องมีผู้เชี่ยวชาญปรับแต่งระบบให้ทำงานร่วมกัน และทดสอบบ่อย ๆ เพื่อให้เกิดความเสถียร
บริการ ของคลาวด์คอมพิวติ้ง  (Cloud Service Models) มีอะไรบ้าง
Software as a Service (SaaS)
คือ บริการที่ให้ใช้หรือเช่าใช้บริการ Software และ Applicationผ่านอินเทอร์เน็ต โดยประมวลผลบนระบบของผู้ให้บริการโดยที่เราไม่ต้องกังวล หรือหาคนมาดูแล Infrastructure และคนมาสร้าง Application ให้เรา เพราะทุกอย่างได้ถูกจัดเตรียมมาโดยผู้ให้บริการเรียบร้อยแล้ว
Highlight : ไม่ต้องลงทุนในการสร้างระบบคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์เอง , ซอฟต์แวร์จะถูกเรียกใช้งานผ่าน Cloud จากที่ไหนก็ได้
Case Study : ตัวอย่างที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดเช่น Google Docs หรือ Google Apps ที่มาในรูปแบบการใช้ซอฟต์แวร์ผ่านเว็บบราวเซอร์ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ลงบนเครื่อง หรือWeb-based Email Service ต่างๆ เช่น Hotmail, Gmail, Facebook, Twitter ที่มีการเก็บโปรแกรมและข้อมูลต่างๆไว้ที่ Host แล้วให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ application ต่างๆ ผ่านทางเว็บได้ ก็ถือว่าเป็นบริการประเภทนี้อีกเช่นเดียวกันเป็นต้น
Platform as a Service (PaaS)
คือ การให้บริการด้าน Platform สำหรับผู้ใช้งานเช่น นักพัฒนาระบบ หรือ Developer ที่ทำงานด้าน Software และ Applicationโดยผู้ให้บริการ Cloud จะจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการพัฒนา Software และ Application เอาไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็น Hardware, Software, หรือชุดคำสั่ง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถต่อยอดได้เลย
Highlight : สามารถช่วยลดต้นทุนและเวลาที่ใช้ในการพัฒนาซอฟท์แวร์ได้
Case Study : ตัวอย่างบริการทางด้านนี้เช่น Google App Engine, Microsoft Azure ที่สามารถนำมาพัฒนาแอพที่ให้บริการคนจำนวนมหาศาลได้ โดยใช้เวลาพัฒนาไม่นานด้วยทีมงานแค่ไม่กี่คน
Infrastructure as a Service (IaaS)
คือ บริการที่ครอบคลุมเฉพาะในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีได้แก่ ระบบเครือข่าย (Network), ระบบจัดเก็บข้อมูล (Database), ระบบประมวลผล (CPU) ไปจนถึงอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น Servers และ ระบบปฏิบัติการ (OS)ใ นรูปแบบระบบเสมือน (Virtualization)  โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อ Hardware ที่มีราคาแพง
Highlight : ไม่ต้องลงทุนซื้อเอง , สามารถขยายได้ง่ายตามการเติบโตของบริษัท และมีความยืดหยุ่นสูง ,ลดความยุ่งยากในการดูแลระบบเอง
Case Study : ตัวอย่างของคราวด์ประเภทนี้เช่น บริการ  Cloud storage ต่าง ๆ เช่น Dropbox , ICloud Drive ,Google Drive หรือ Microsoft Onedrive เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีบริการให้เช่ากำลังประมวลผล, บริการให้เช่า เซิร์ฟเวอร์เสมือน เพื่อใช้ลงและรันแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่เราต้องการเช่น  OpenLandscape Cloud, Google Compute Engine, Amazon Web Services, Microsoft Azure เป็นต้น
สรุป
จะเห็นได้ว่าแท้จริงแล้ว Cloud Computing ไม่ได้เป็นเทคโนโลยีที่ไกลตัวเราเลยค่ะ ซึ่งเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับธุรกิจทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก หรือแม้กระทั้งโปรเจคเล็ก ๆ ของเราให้ดำเนิดไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มศักยภาพทั้งในด้านของความรวดเร็ว ความยืดหยุ่น และความปลอดภัย รวมไปถึงยังสามารถช่วยลดต้นทุนและประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากอีกด้วยเช่นกันค่ะ สำหรับใครที่อยากรู้ว่า ประโยชน์ ของ Cloud Computing
0 notes