Blog of 1st thought, Book review, Self thought Instead of FB which no longer provide Note
Don't wanna be here? Send us removal request.
Text

วิธีการถูก ที่เหลือคือรายละเอียด
เดือน 5 และ เดือน 8 ปี 2564 พอรตรีเทิรน ติดลบลึก7-8% โดยสิ่งที่เหมือนกันคือ
1.หุ้นที่อยู่ในขาขึ้นนั้น ลงลึก เป็นไม้สุดท้าย
2.หุ้นเล็ก หลุดสตอป ไม่มี bid เป็น slippage ทำร้ายพอรตกว่าที่คิด
3.ขายหุ้นชุดที่ชนะ ก่อนสตอป เพราะใจสั่น CHG+RCL EPG ทำให้เสียจังหวะ ตอนตลาดกลับมา ทำให้ Return เสีย และ Win Loss Ratio เสีย
4.ดังนั้น วิธีแก้ไข ก็ตามรูปแนบ เขียนไว้เอง - อย่าให้มีครั้งที่สาม - ต้องเรียนรู้
5.เอาจริงๆ เสียหายเองน้อยกว่าความเป็นจริงครึ่งนึง เสียหายเพราะ ความโลภและกลัว - ดังนั้น 1.วิธีการใช้ได้ 2.เราเลือกหุ้นใช้ได้ อยู่ที่กล้ารันไหมและรายละเอียด 3.ลดความโลภ
6.เลยออกมาเป็นกฎ ตามแนบ
0 notes
Text
ความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ - Trade, หาหุ้น, Run Trend และ การภาวนา
Idea and Philosophy from Murakami - What I talk about, When I talk about running ความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทัณฑ์ทรมานเป็นทางเลือก - สำหรับนักวิ่งระยะไกล ก็ต้องยอมแลกกับความเจ็บปวด สำหรับคน Run Trend การ*ขาดทุนระหว่างทาง*เป็นเรื่องปรกติ การเหวี่ยงขึ้น-ลงของ NAV port เป็นเรี่องธรรมชาติ เรามีหน้าที่ซ้อมกับวิ่ง อาการระหว่างทางคืออาการที่มันเป็นเรื่องของธรรมชาติ ยอมรับมัน ชีวิตใหม่สุดสามัญมี-ระเบียบแบบแผนแน่ชัด- ได้เริ่มขึ้นแล้ว ผมตื่นก่อนตีห้า เข้านอนก่อนสี่ทุ่ม คนเราแต่ละคนมีเวลาทำงานที่ดีที่สุดแตกต่างกัน ผมเป็นมนุษย์อรุณรุ่งเบิกฟ้า ผมจะมีสมาธิเข้มข้นที่สุด และจัดการเรื่องสำคัญที่สุดในชวงเวลานั้น หลังจากนั้น... ออกกำลังและทำเรื่องอื่นๆที่ไม่ใช้สมาธิ / ข้อยกเว้นมีเพียงตอนเป็นหนุ่มสาว คนเราจำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญในชีวิต ระบุให้แน่ชัดว่าจะจัดสรรเวลาและ”พลังงาน”อย่างไร -ตามนั้น หนังสือสิบปี อ่านตอน 28 และ 38 ยิ่งเข้าใจเรื่องลำดับความสำคัญของชีวิต โชคร้ายที่ผมไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มนั้น(พวกอัจฉริยะ) ผมมองหา ไม่เห็นตาน้ำอยู่ใกล้ตัว ผมต้องคว้าสิ่วคว้าค้อน ส��ัดชั้นหิน ขุดหลุมให้ลึกก่อนจะพบสายแร่ความคิดสร้างสรรค์ ในการเขียนนิยาย ผมต้อง-เคี่ยวตัวเอง-อย่างหนักทางกายภาพ ใช้เวลายาวนาน ทุ่มเทความอุตสาหะสุดตัว / คนเราแต่ละคนจะตัดสินใจเลือกได้เองว่าเรื่องใดมีค่า เรื่องใดมีความสำคัญสำหรับตน -ก็ตามนั้น, เรารู้จักคนที่มีความสามารถในการเทรด รู้จักคนที่อ่านตลาดได้เก่ง รู้จักคนที่มีข้อมูลตลาดเยอะมาก แต่มันไม่ใช่เรา สำหรับเราคือการฝึก และฝึก มีเหตุผลสามข้อที่ผมล้มเหลวคือ ฝึกไม่เพียงพอ ฝึกไม่เพียงพอ และฝึกไม่เพียงพอ / ก่อนจะลงวิ่งมาราธอนครั้งถัดไป ผมจะกลับไปหาเรื่องพื่้นฐาน เริ่มฝึกใหม่ตั้งแต่ขั้นต้นและจะทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะฝึกอย่างหนัก - ขันนอตหลวมทุกต��วให้เข้าที่ ทีละตัว ทีละตัว ทำเรื่องทั้งหมดให้ครบถ้วน และ รอดูว่าจะเกิดผลอย่างไร -เหมือนการทำผิดกฎ การขาดทุนที่ไม่จำเป็น การไม่ทำการบ้าน การหาจุดเข้าที่ไม่คม การไม่ระวังในการบ้านขาขาย / การภาวนาที่ไม่ครบชั่วโมง ไม่ขันติ ไม่เฉยต่อร่างกาย
ตราบเท่าที่เราจู้จี้บอกว่าเราคาดหวังสิ่งใด โดยสาธิตให้เห็นว่านี่คือ ปริมาณงานทั้งหมดที่ต้องแบกรับ กล้ามเนื้อจะเชื่องเชื่อปฏิบัติตาม และจะเพิ่มความแกร่งมากขึ้น แน่นอนอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน ตราบเท่าที่เราใช้เวลา อดทนรอคอย และเพิ่มภาระะงานให้ทีละขั้น สัตว์ทรงพลังจะไม่บ่น สัตว์งานจะเชื่อฟังและเพิ่มควาแกร่งแบกรับงาน เราต้องสั่งการ*ซ้ำซาก*ว่า นี่คือ งานที่ต้องทำให้แล้วเสร็จ มัดกล้ามเนื้อของเราเป็นเด็กดีว่าง่าย ถ้าเราดำเนินไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง จะไม่เถียงไม่บ่น ....อย่างไรก็ตาม ถ้าภาระงานขาดหายไปสองสามวัน มัดกล้ามเนื่อจะอนุมานโดยอัตโนมัติว่าไม่มีความจำเป็นต้องทำงานหนักอีกแล้ว จะลดเพดานสูงสุดของตนเองทันที... -เราต้อง จู้จี้ต่อความคาดหวัง ต้องสั่ง ต้องบังคับ แล้วทั้งจิตจะแกร่ง ร่างกายจะแกร่ง เราต้องทำการบ้านหาหุ้นตลอด - เพราะทุกอย่าง ร่างกาย จิต หุ้น - สองสามวัน มันจะลงจากจุดพีคทันที สมาธิกับความอึด เป็นเรื่องที่แตกต่างออกไปจากความสามารถพิเศษ เพราะสมาธิกับความอึด เสาะหาและกล่อมเกลาให้แหลมคมได้จากการฝึกฝน / เมื่อคุณนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือเป็นประจำทุกวันและฝึกให้ตัวเองเพ่งความสนใจไปยังจุดเดียว...ไม่ต่างอะไรไปจากการฝึกอบรมมัดกล้ามเนื้อที่ผมพึ่งกล่าวถึง คุณจะส่งสัญญาณส่งเรื่องเข้มข้นที่คุณเพ่งอยู่ บอกกล่าวให้ร่างกายทั้งร่างได้ทราบและสอบทานให้แน่ใจว่าร่างกายของคุณโอบรับข้อมูลจำเป็นที่จะช่วยให้คุณเขียนหนังสือได้ทุกวัน และ-เพ่ง-ความสนใจไว้ที่งานที่อยู่ตรงหน้า ไม่ช้าไม่นาน คุณจะ-เพิ่มเพดาน-ของขีดความสามารถ ยกระดับตัวเองให้สูงขึ้น ไม่ต่างไปจากการออกวื่งทุกวันเพื่อฝึกมัดกล้ามเนื้อให้แข็งแกร่ง / เติมสิ่งกระตุ้นเข้าไปและรักษาระดับนั้นไว้ -ทำซ้ำ-อีกหลายรอบ ความอดทนข่มกลั้นถือได้ว่า-จำเป็น-สำหรับกระบวนการเหล่านี้ ผมรับประ��ันได้ว่าผลลัพธ์สุดสวยเกิดขึ้นแน่นอน
-มันมาด้วยกันทั้งหมดในเรื่องของ วินัยและความทนทาน การหาหุ้นทุกวัน การอยู่กับตลาดทุกวัน หาจุดสังเกตุ เหลี่ยวมองความเกี่ยวข้องต่างๆมันเกี่ยวกันทั้งหมด มันต้องฝึก-ทุกวัน หรือในเรื่องการภาวนาทุกวันก็ต้องการวินัยแบบนี้ เพื่อจุดหมายที่ยิ่งใหญ่ มันมีสิ่งที่ต้องแลก

0 notes
Text
การเกิดเป็นมนุษย์ เอาจริงๆก็เพื่อถอดถอนภพชาติ เพื่อการจบกิจ
แต่ก็มาพร้อมภาระ หน้าที่ และความสัมพันธ์ ลากเราไปเรื่อยๆ เงยหน้ามาก็หมดปี
ขนาดมี ขนาดเจอครูบาอาจารย์ ก็ต้องเสียเวลาวางหมาก วางแผนชีวิตใหม่ ถ้ามีคู่ชีวิต มีพ่อมีแม่ที่ไม่เข้าใจ ก็ยิ่งหนัก
บวชได้ก็บวชเถอะ ทำให้จบ ชีวิตมันวุ่นวาย
0 notes
Text
ปักหมุดเลย เกษียณอายุ 45
แฮงค์เอาท์ตัวเองแหล่งใหม่คือ park Hyatt rooftop
0 notes
Text
เพื่อการสร้างบารมี
กว่าต้นไม้ใหญ่จะโต มันใช้เวลา มันผ่านแดด ผ่านลม มันผ่านอุปสรรค รากมันแข็งแรง ลงทั่งทางดิ่งและทางกว้าง มันมีช่วงที่ต้องผลัดใบออก เพื่อผลิใบใหม่ มันมีคน มีสัตว์มาทั้งอาศัย ทั้งขี้ใส่ ทั้งทำลาย
ผ่านไปวัน เดือน ปี... เกือบตายก็มี ชุ่มฉ่ำก็ได้แค่ยิ้มเฉยๆ... อ่าว นกมากินเมล็ด สร้างบ้าน ขี้ใส่อีก... อ่าว มาผูกผ้า ขูดผิว... อ่าว เด็กมาเด็ดกิ่งไปเล่นกับเพื่อน
ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็มีใหม่ เดี๋ยวก็โตใหม่ โตแล้วเด็กคนนั้นก็มานั่งพัก นั่งพิง นกก็มาสร้างครอบครัว
#selfdevelop
0 notes
Text
กำลัง ของใจ
ในการยึด...ถือ...ครอง
สิ่งของ...หรือสิ่งใด
กำลังของกาย ย่อมสำคัญ
ยืน เดิน นั่งหรือนอน
หากขาดกำลังของกาย... การทำการใดๆย่อม คาดหวังผลลัพธ์ไม่ได้
ร่างกายที่แข็งแรงย่อมยังประโยชน์ทางโลกให้...
ในการปล่อย.. ในการวาง
อัตตา..หรือเครื่องเศร้าหมองใจ
กำลังของใจสำคัญยิ่ง
เพราะต้องฝืน ต้องทวน เพื่อปลดสิ่งที่ฉุดเราให้อยู่ในวัฏฏะมานานแสนนาน
ถ้าใจ.. หรือจิตไม่มีกำลัง
จะหลับตาหรือลืมตา...
ย่อมพ่ายแพ้ต่อสงครามในการปลดปล่อยดวงจิต...
สงครามที่ชนะได้ยาก...
กำลังของกาย ยิ่งบริหารออกกำลังก็ยิ่งได้คืน ความสกปรกใดที่หนักกาย ยิ่งหมั่นชำระ กายยิ่งสะอาด
กำลังของใจ ก็ต้องหมั่นฝึกฝนอบรม
ใจที่ไม่ฝึกให้ดี ย่อมไม่มีกำลังทำกิจการใดๆเช่นกัน
0 notes
Text
เปลี่ยนเบอร์ ครบประมาณ 2 เดือน :
เอาจริงๆ ถ้าจะเชื่อแต่แรกคือ ภรรยาและแม่ ภาวนาและอธิษฐานช่วยเราตลอด -พรจากพระอุปคุตช่วงเดือน 7-8/63 นำมาสู่คาถาเงินล้าน และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ช่วงปลายปี63 และ นำมาสู่การเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ในหน้าฉาก(แต่หลังฉากเราเชื่อว่าเป็นการเปลี่ยนสนามพลังงาน) ตั้งแต่ปลายๆปี 63 เป็นเบอร์จากพี่แอม
ผลที่ได้ในสองเดือนคือ นิ่งขึ้นในทุกสเตป,เซนส์ดีขึ้น, ใจเย็นขึ้น - การลงทุน beat เป้าและลงล๊อค อุปสรรคคลี่คลายได้ง่าย(ปลดล๊อคการทำหนังสือภาพท่านอาจารย์) ---- นำมาสู่ยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อเล็ก, ตะกรุดแม่หลวงดา และ มงกุฎเพชรหลวงพ่อฤาษี
ต่อไปคือ รอโบนัส, ปรับแผนทำงาน ,ปรับแผนการเงินตัวเองและครอบครัว วางเป้าหมายใหม่
เค้าว่า เปลี่ยนเบอร์แล้วให้สังเกตมันจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงในหกเดือน เดี๋ยวรอรีเช็คอีกทีช่วงมิถุนายน
เดี๋ยวรอ CRV ออกจากอู่ อาจจะเปลี่ยนทะเบียนด้วย
โน้ตให้ตัวเองคือ มั่นใจได้แต่อย่าได้ใจ และให้มี Exit Strategy ในทุกสถานการณ์
#เปลี่ยนเบอร์ #selfdevelop
0 notes
Text
มีนาคม 2564 :
ปิดเดือนกุมภาแบบควรอิ่มเอมใจสักระยะ เพราะการลงทุนหลังจากเรียนมาครบ 1 ปี ถึงเป้าหมายแล้ว - ความสำเร็จดีใจได้วันเดียว - เป้าหมายต่อไปของเราเป็นทั้งรีเทิร์นและเพิ่มasset ดังนี้
1.เรียนรู้ข้อผิดพลาดและคุมความเสี่ยง
2.หาวิธีสกรีนหุ้นเพิ่ม
3.เพิ่มconnectionทั้งด้านข้อมูลและฐานเงิน (มีในใจแล้ว)
เมื่อคุมความเสี่ยงได้ กองหลังแน่นแล้ว เราก็บุกได้เต็มที่
เรื่องที่ควรจัดการเพิ่มเติมคือ สร้างฐานด้านอื่นให้แน่นขึ้น ด้วยคอนเซปท์ที่ว่า เงินแต่ละก้อนมีช่วงเวลาของมัน เงินรายได้ เงินลงทุน เงินเก็บ เงินเกษียณ แล้วเราก็ต้องมา Risk Reward และวิธีปลูกมันให้โต
ที่เรียนมาได้ใช้ทั้งหมด เทรนด์เทรด อ.รักษ์, Econ God Father อ.ทวีสุข - เรียนไปในปี 2020 คืนทุนหมดแล้ว หาลวิธีต่อยอดเอา (หาเพิ่ม การสกรีน,การหาข่าว, การสร้างยูนิเวิร์ส)
พอเรื่อง พื้นฐานแน่นแล้ว ต่อไปคือเกมส์ใหญ่ คือสร้างWealthและPort
37 ไป 40 เรารวยแน่ๆ
#selfdevelop
0 notes
Text
The Power of Output : ศิลปะของการปล่อยของ
เนื้อหาของการพัฒนาตัวเองแบบปรกติ ผ่านการ ฟัง พูด อ่าน เขียน แต่เน้น ด้าน Output ให้มากกว่า Input ไปสู่ระดับ In to Out = 3 : 7 โดยการลงมือทำ จะเป็นการย้ำการใช้กล้ามเนื้อเพื่อให้สมองจดจำ ซึ่ง ข้อมูลที่ถูกนำมาใช้เป็น output (พูด อ่าน เขียน) 3 ครั้ง ภายใน 2 สัปดาห์จะกลายเป็นความจำระยะยาวได้อย่างสบายๆ
ดังนั้น ถ้าเรา repeat ข้อมูลที่แย่ๆ เช่น ด่า ว่า นินทา โกรธ บ่อยๆ มันก็จะฝังในความทรงจำระยะยาวนั่นล่ะ การสอนคนอื่นๆต่อ จะเป็นการทำ output ให้เราเกิดการพัฒนาได้ดีที่สุด ส่วนกระบวนการการพัฒนา มันก็ต้องอาศัย feedback และการยอมรับ feedback เพื่อพัฒนาตนเอง กล่าวโดยสรุป คือ ถ้าเอาแต่ อ่าน/ดู แต่ไม่ถ่ายเทออกมาเป็นการเขียน การสอน การกระทำ และไม่ยอมรับ feedback เพื่อพัฒนาตัวเองต่อ มันก็จะแต่ อ่านแล้ว ดูแล้ว แต่ไม่รู้จริง ไม่ได้พิจารณาจริง ไม่ได้แก้ไขจริง
เอาจริงๆ ก็คือ อิทธิบาท 4 นั่นละ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา มีรายละเอียดเพิ่มเล็กๆน้อยๆ น่าสนใจหลายอย่าง เช่น ที่สำคัญและ���่าสนใจ เช่น
>เวลาเหม่อลอย คือ การใช้สมองแบบมีคุณภาพเพราะสมองทำงานมากกว่าเวลาตั้งทำงาน 15 เท่า และมันดีกว่าเอาสมองไปยุ่งเรื่องบนโซเชี่ยลหรือเล่นเกม เพราะช่วงเหม่อลอยบ้าง สมองมันจะเชื่อมจุดต่อของ input มาประมวลๆๆๆ แล้ว อ๋อ.. !!! ซึ่ง ระยะเวลา อ๋อ มันจะแค่ 0.1 วินาที (อ๋อ ตอน ZMICO นี่ก็แค่แว้บ ถอดรองเท้า) มันคือ การเรียนรู้โดยฉับพลัน (ซาโตริ ไหม !) ขณะนั้นและจะทำให้เราเป็นคนใหม่ที่ต่างไปจากเดิม วงจรประสาทเปลี่ยนการเชื่อมโยง ตัวเราจะพัฒนาขึ้นจากวินาทีก่อนหน้าอย่างก้าวกระโดด ซึ่งวงจรใหม่ จะเกิดขึ้นเหมือน “ทางเดินป่า” เพราะถ้าเราไม่ทำอะไรในช่วงเวลา 30 วินาที – 1 นาทีจากนี้ มันก็จะเหมือนมีหญ้าขึ้นกลับกลายเป็นความทรงจำเดิม(คล้ายตื่นจากฝัน)
ดังนั้น เวลา อ๋อ แล้วต้องรีบย้ำ รีบจดไม่ให้เกิน 30วินาที - 1 นาที – เพราะการเขียน คือ การใช้ข้อมูลเพื่อถางทางเดินป่าให้ราบกลายเป็นถนน
>นอนให้พอ ประมาณ 7 ชม - นอนไม่พอ ทำร้ายตัวเองมากกว่าสูบบุหรี่ >ถ้าตอนเช้าสมองไม่พร้อม คือ พังได้ทั้งวัน >เวลาถูกรบกวนสมาธิ ต้องใช้เวลาประมาณ 5 นาที ถึงจะ resume อันนี้ล่ะ ที่โคตรกวนใจ กวน Flow งาน >วิธีแก้ปัญหา คือ เรียนรู้วิธีแก้ปัญหาต่างๆ ใส่ input เข้าไปเยอะๆ แล้วให้เวลาสมองฟักไข่ อย่างไปบีบคั้น แล้วมันจะ อ๋อ.. >ตั้งเป้าหมายที่ท้าทายเล็กๆไปเรื่อยๆ ลงมือทำเลย ทำไปเรื่อยๆ อย่าคิดว่าพร้อมแล้วจึงเริ่ม – เริ่มไปเลย -to do list โคตรสำคัญ และ ต้องเขียนออกมา ไม่ใช้พิมพ์ - และดูมันในสิ่งที่ไม่ควรจะเป็นมือถือ เพราะจะได้ไม่ดึง focus ออกจากเรื่องที่ควรทำ >การเขียนด้วยลายมือสำคัญมาก และดีกว่าการพิมพ์ เพราะเป็นการให้สมองได้จดจำการเคลื่อนไหว เขียนไปเลย เยอะๆ เขียนไปเลยรัวๆ คิดอะไรออกก็เขียนๆๆๆๆ มันออกมา
ประมาณนี้ล่ะ อ่านวันเดียวจบ เลยเขียนออกมา หลายเรื่องเล็กๆ น้อยๆ น่าเอาไปใช้ มันจะเกิดการพัฒนาอย่างใหญ่หลวง
1 note
·
View note