Tumgik
Text
[trans] บทสัมภาษณ์ Creative Director ของทัวร์ Born Pink คุณ Amy Bowerman
📌 กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมด หากมีข้อผิดพลาดตรงไหน รบกวนแจ้งที่ทวิตเตอร์ @thepaleblood ค่ะ  📌
Tumblr media
คุณ Amy มีบริษัท visual production เป็นของตัวเองชื่อ Ceremony London ทาง YG ติดต่อเข้ามาที่บริษัทในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้เรื่องทัวร์ Born Pink และทางบริษัทต้องทำงานแข่งกับเวลามาก ๆ “พวกเราเริ่มทำงานกันตอนเดือนพ.ค.ค่ะ ซึ่งก็ไม่นานเท่าไร เรามีเพลง มีท่าเต้นแล้ว แต่ก็มีเท่านั้น มันเลยอารมณ์ประมาณว่า ‘นี่คือที่พวกเรามี… งั้นเริ่มทำโชว์จากตรงนั้นกัน’”คุณAmyนึก”นั่นคือสภาพในตอนนั้นค่ะ เรามีเวลาเหลือไม่มากและสิ่งที่ค้างคามาจากตอนโควิดคือการที่ผู้คนยังลังเลกับการล็อกดาวน์ แล้ว YG ก็ประกาศทัวร์ในเดือนสิงหา ส่วนคอนเสิร์ตจะเริ่มในเดือนตุลา ทุกอย่างผ่านไปไวแบบฟิ้ว ๆ เลยค่ะ!”
Q: จุดเริ่มต้นมาจากตรงไหนเหรอ? มีไอเดียแรกเริ่มที่ YG หรือ BLACKPINK อยากให้คุณพัฒนาขึ้นมามั้ย? 
“Pink Venom” และ ”Shutdown” กำลังจะปล่อยออกมา BLACKPINK เลยแบบว่า “นี่คือแนวทางใหม่ของพวกเราค่ะ นี่คือเพลงที่พวกเราอยากให้เป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่/กระหึ่มในคอน” พวกเธอภูมิใจกับสองเพลงนี้มาก พวกเราเลยหยิบ “Pink Venom” มาและตั้งมันไว้ที่ใจกลางของทุกๆอย่างเลยค่ะ
Q: จากไอเดียแรกเริ่มไปจนถึงการแสดงในเวอร์ชั่นท้าย มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมั้ย?
 ทั้งใช่และไม่ใช่ค่ะ พวกเราลองทำซ้ำ ๆ กันหลายรอบก็จริงแต่มันเป็นไปโดยธรรมชาติ ตอนที่ BLACKPINK ซ้อมดนตรีกัน คุณจะได้ยินแบบชัดเจนเลยเวลาที่เพลงไม่ไปด้วยกัน  พอเป็นแบบนั้น พวกเราเลยปรับวิชวล ปรับการเคลื่อนที่บนเวทีของทุกคน รวมถึงตัวเวทีเองด้วยค่ะ ไอเดียสำหรับวันแรกของพวกเราซึ่งยังอยู่จนถึงตอนนี้คือการที่ “Pink Venom” เป็นจุดศูนย์กลางของคอนเสิร์ต บางทีแฟน ๆ อาจจะไม่รู้สึก แต่คุณจะไม่ได้เห็นสีชมพูในคอนเสิร์ตจริงๆจนกว่าจะถึง “Pink Venom” หลังจากนั้นไปจนจบคอนถึงจะมีสีชมพูเยอะมาก ตอนเริ่มคอนมีแต่สีเขียวและฟ้า เป็นโลกแห่งพงไพร โลกของนิมฟ์ที่เย้ายวนและมีความเป็นผู้หญิง จากนั้นจะเข้าช่วงที่เป็นสีเดียวอย่างหนักหน่วงซึ่งทั้งรุนแรงและทรงพลัง และเป็นช่วงโซโล่ของสาวๆซึ่งถูกมิกซ์แบบฟุ้ง ๆ แปลก ๆ แล้วถึงจะเป็นการฉลองของ BLACKPINK แบบเต็มวงจริง ๆ  เพราะฉะนั้น มุมมองในภาพกว้างยังคงเหมือนเดิมค่ะ ความเป็นคู่ (สีคู่) ความเป็นเดี่ยว และความเป็นวง แต่ทุกอย่างที่อยู่รอบ ๆ นั้นเปลี่ยนแปลงไป
Q: การคำนึงถึงแฟน ๆ ในการแสดงสดจัดเป็นเรื่องท้าทายสำหรับคุณรึเปล่า? 
ท้าทายแน่นอนค่ะ เวลาวงดนตรีตะวันตกออกจากเวที เราจะพาพวกเค้าออกไปให้เร็วที่สุดและคอยพรางตอนออกไปไว้ แต่สำหรับ K-pop การแสดงสดจัดเป็นโอกาสให้แฟน ๆ ได้ใช้เวลากับศิลปิน ฉันใช้เวลาปรับตัวสักพักเหมือนกัน แต่มันน่ารักดีนะคะ ถ้าคุณได้ดูวิดีโอของทัวร์รอบนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่าง BLACKPINK กับแฟน ๆ
Q: ศิลปินหลายคนจะรักษาคาแรคเตอร์ไว้จนจบคอน แฟน ๆ จะได้อินกันแบบเต็มที่ แต่วง K-pop มีช่วงที่เข้าและออกจากคาแรคเตอร์นั้น มันส่งผลยังไงกับโลกที่คุณพยายามจะสร้างบ้างเหรอ? 
การออกแบบช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ในงานแสดงเป็นอะไรที่สำคัญมากค่ะ คุณมีช่วงเวลาตรงนี้ที่กำลังดื่มดำอยู่ แล้วก็ บู้ม คุณกลับไปสู่ความดุดันแบบทันที ฉันว่าฝั่งตะวันตกอาจมองว่าโลกของ K-pop ค่อนข้างเย็นชาเพราะการแสดงของพวกเค้าถูกขัดเกลามาอย่างดี แต่การขัดจังหวะตรงนั้นเพื่อช่วงเวลาที่เป็นมนุษย์มนา ก็เปลี่ยนมันจากสิ่งที่ยิ่งใหญ่และดูแตะต้องไม่ได้ให้กลายเป็นสิ่งที่แฟน ๆ มีปฏิสัมพันธ์ด้วยได้ขึ้นมาค่ะ
Q: อะไรคือความคิดเบื้องหลังการตัดสินใจของ YGE ในการนำบริษัทโปรดักชั่นตะวันตกเข้ามาในงานแสดงครั้งใหญ่ของวง K-pop? 
YG มีทุกอย่างที่พวกเค้าต้องการอยู่ในบริษัทแล้วค่ะ ทีมงานของพวกเค้าสุดยอดมาก ไม่ว่าจะเป็นทีมงานโปรดักชั่นที่เป็นผู้หญิงทั้งทีม ซึ่งก็เป็นเรื่องสุดยอดที่ฉันได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม แต่หลาย ๆ คนในทีมงานของ YG ก็มาจากที่ต่าง ๆ กันนะคะ วงดนตรีของพวกเค้ามาจากอเมริกา ผู้กำกับเพลงก็มาจากอเมริกา ส่วนพวกเราก็มาจากลอนดอน สาว ๆ เหล่านี้ BLACKPINK มีความสนใจแตกต่างกันไปหลายอย่าง เลยทำให้ได้มุมมองที่หลากหลายค่ะ พวกเธออยู่ในโลกแฟชั่นมีดนตรีที่ใช้อ้างอิงหลายแนวมาก ๆ การที่ผู้คนทั้งหมดนี้มารวมตัวกันเลยเป็นอะไรที่สมเหตุสมผล มันรู้สึกเหมือนเป็นงานคอลแล็บครั้งใหญ่เลยค่ะ เหมือนรังผึ้งที่ส่งเสียงอื้ออึงจากการออกไอเดีย, ลองดูว่าอันไหนจะใช้ได้บ้าง นั่งลงคุยกับ BLACKPINK และดูว่าพวกเธออยากผลักดันตัวเองไปในทิศทางต่าง ๆ ยังไงบ้าง
Q:บางครั้งคนก็มองกันว่าผู้หญิงไม่ใช่คนขับเคลื่อน K-pop ฉันเลยคิดว่าหลาย ๆ คนคงจะตกใจกันน่าดูตอนได้ยินว่ามีทีมครีเอทีฟหญิงล้วนที่มีอำนาจขนาดนั้น 
ตอนเดินเข้าไปใน YG ฉันแบบว่า ว้าว ฉันไม่เคยทำงานกับนักออกแบบแสงผู้หญิงมาก่อน แต่พวกเค้าก็บอกว่า 'นักออกแบบแสงที่นี่ทุกคนเป็นผู้หญิง' ซึ่งสุดยอดมาก ฉันเข้าไปในตึกแบบคิดว่าคงจะไม่ได้คุยกับศิลปินเยอะขนาดนั้นด้วยค่ะ BLACKPINK คงไม่ได้มีส่วนร่วมหรือออกความเห็นขนาดนั้น แต่พวกเธอมีส่วนร่วมในทุก ๆ อย่างเลยโดยเฉพาะเรื่องดนตรี  ถ้า BLACKPINK ไม่แฮปปี้ พวกเธอจะเดินเข้าไปในสตูดิโอและบอกว่า 'พวกเราต้องเปลี่ยนตรงนี้นะ' ฉันไม่คิดว่ามันเป็นความลับอะไร แต่คนคงยอมรับกันไม่มากว่าพวกเธอมีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยตัวเอง
Q: BLACKPINK กระตือรือร้นที่จะได้เห็นอะไรในคอนครั้งนี้เหรอ? 
โอโห เยอะมากเลยค่ะ! พวกเธอทุ่มเทกับดนตรีของตัวเองสุด ๆ ใช้เวลาทั้งหมดขลุกอยู่ในสตูดิโอซ้อมเต้นหรือในสตูดิโอเพลงกับเท็ดดี้ (โปรดิวเซอร์) BLACKPINK บอกฉันว่า 'พวกเรามีเพลงใหม่นี้ที่เหมือนพวกเรามากค่ะ เราอยากให้โลกได้เห็นพวกเรา สิ่งที่เราทำได้ และเห็นว่า BLACKPINK คือใคร' ความรู้สึกตรงนี้มาจากการที่พวกเธอไม่สามารถโชว์ตัวเองออกมาได้เท่าที่อยากในช่วงล็อคดาวน์ที่ผ่านมา พวกเธอขึ้นแสดงที่ Coachella อย่างงดงามก็จริง แต่ทัวร์รอบนี้ให้ความรู้สึกว่าเป็นงานใหญ่มาก มันคือการย้ำในสิ่งที่ทุกคนรักเกี่ยวกับ BLACKPINK อยู่แล้ว จากนั้นก็อวดโฉมเพลงใหม่และแสดงให้เห็นว่าคอนเหล่านี้จะสุดยอดได้ขนาดไหน มันเป็นงานฉลองครั้งใหญ่ของ BLACKPINK ของ K-pop และเอฟเฟคต์ที่พวกเธอส่งผลต่อทั่วทั้งโลก นั่นคือบทสรุปของสิ่งที่พวกเราพยายามทำให้สำเร็จในทัวร์ครั้งนี้ค่ะ
Q: เรื่องราวที่คุณจำได้แม่นจากการจัดทัวร์ครั้งนี้คือ? 
มีอยู่วันนึงที่พวกเราซ้อมงานโปรดักชั่นกันและได้เห็นงานทั้งหมดมาประกอบเป็นรูปเป็นร่างค่ะ ในที่สุดเราก็ได้เห็นการจัดเวที ท่าเต้น คอนเทนต์และดนตรี แสงไฟ และเลเซอร์ ทุกอย่างที่ผ่านมาเป็นนามธรรม/ทฤษฎีมาก ๆ จากการพูดคุยและวางแผนจนถึงวินาทีนั้น ทันที่เมมเบอร์ก้าวขึ้นไปบนเวที พวกเราก็รู้ว่าการวาด การซ้อม และการประชุมหลายสิบหลายร้อยชั่วโมงมันคุ้มค่าจริง ๆ BLACKPINK จะออกไปแสดงสิ่งนี้ให้คนดูได้ดู วันนั้นเลยเป็นวันที่ทุกคนตื่นเต้นสุด ๆ ค่ะ
Q: วิชวลของช่วงอินโทรเป็นดอกไม้อันใหญ่ผสมกับเอฟเฟคต์ glitch แสบตา นี่เป็นหนทางหนึ่งการนิยามตัวตนของ BLACKPINK ในฐานะผู้หญิงวัยรุ่น/ผู้หญิงรุ่นใหม่? 
สิ่งที่เราพยายามทำกันในทัวร์ครั้งนี้คือการที่พวกเธอมีชื่อว่าBPซึ่งมีทั้งความดาร์คและเป็นผู้หญิง เราเลยจัดซีนดอกไม้ที่แสดง ความเป็นผู้หญิงแบบสุด ๆ แต่ก็มีความประหลาด/ดิบอยู่ในนั้น อย่างเช่นดอกลิลลี่ที่ปล่อยของเหลวแวววับเหมือนเหล็กออกมาและแน่นอนว่าเสียงดนตรีก็ดาร์คด้วยค่ะ BLACKPINK มีเอเนอร์จี้ที่ดุดันและนั่นคือสิ่งที่ทำให้พวกเธอแตกต่าง ทั้งยังเป็นสิ่งที่พวกเธออยากผลักดันให้ชัดเจน ซึ่งก็คือการแสดงให้เห็นทั้งความแข็งแกร่งและงดงาม พวกเราเตรียมคู่ตรงข้ามไว้สองคู่ไปจนจบโชว์ สายน้ำกับผืนดิน เปลวไฟกับน้ำแข็ง และโชว์ทั้งสองคู่นั้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ฉันว่านั่นคือการสรุปสิ่งที่ BLACKPINK เป็นสำหรับฉัน หมายถึงการที่ของสองสิ่งอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนน่ะค่ะ
Q: BLACKPINK กังวลกับการเริ่มทัวร์ครั้งนี้บ้างมั้ยเพราะก็เป็นการวางเดิมพันที่สูง? 
พวกเธอตื่นเต้นกันมากค่ะ ทัวร์นี้มีความหมายกับพวกเธอมาก อารมณ์ประมาณว่า'ในที่สุดมันก็เกิดขึ้น พวกเราจะออกไปแสดงคอนให้ ยอดเยี่ยมที่สุดที่เป็นไปได้' มันถึงจุดที่เมมเบอร์รู้สึกว่าพวกเธอต้องมอบสิ่งที่แฟนๆรอคอยกันมานานเพราะล็อคดาวน์ให้กับพวกเค้าให้ได้ค่ะ เป็นบรรยากาศแบบทั่วๆไป ไม่มีบรรยากาศลบหรือกังวล ไม่มีความกลัวเลยค่ะ
Q: ในฐานะ creative director คุณมีทัศนะที่ชัดเจน/หนักแน่นสำหรับ Born Pink แต่ก็ต้องทำงานกับทีมขนาดใหญ่และศิลปินที่แน่วแน่อีก 4 คน สำหรับคุณแล้ว การประนีประนอมและยืดหยุ่นในงานนี้เป็นเรื่องง่ายขนาดไหน? 
งานนี้ต้องใช้คนทำงานเยอะมากแต่คุณเป็นคนเดียวตรงนั้นที่รับตำแหน่งด้าน creative  เพราะฉะนั้น คุณก็จะแบบว่า ฉันจะผลักดันส่วนไหนดี? ฉันจะถอยตรงไหนดีนะ? ฉันควรจะย้ำตรงไหน? ฉันมีช่วงที่นอนไม่หลับอยู่หลายคืนเพราะการทำให้อะไร ๆ มันใช่เป็นเรื่องยากค่ะ ฉันไม่เคยทำงานกับศิลปิน K-pop มาก่อน มันเป็นอีกโลกที่ต่างออกไป ที่ที่มีข้อกำหนดตั้งไว้แล้วและคุณก็เปลี่ยนมันไม่ได้ บางอย่างอาจไม่เวิร์คกับทัศนะของฉัน แต่คุณก็ต้องถามว่า แล้วตรงนี้อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุด? คุณอาจจะเดินหน้าเปลี่ยนตรงนู้นตรงนี้ต่อไป แต่เพื่ออะไรล่ะ? มันจะทำเป้าหมายในการนำเสนอคอนเสิร์ตที่แฟนๆจะชอบและศิลปินจะภูมิใจให้สำเร็จได้จริง ๆ ใช่มั้ย? ถ้าคุณใส่อะไรที่ศิลปินจะไม่แฮปปี้เข้าไป คุณจะเห็นได้ชัดในการแสดงของพวกเค้าทันทีค่ะ
Q: ข้อสุดท้ายแล้ว ช่วงไหนขอ Born Pink ที่ทำให้คุณขนลุก
ข้อนี้ตอบยากค่ะเพราะในคอนมีช่วงพิเศษสุดๆอยู่หลายช่วง “DDU-DU DDU-DU” คือเพลงที่เป็นไอคอนอย่างชัดเจน แต่ฉันคงเลือก “Kill This Love”….เรายก BLACKPINK ขึ้นหลังม่านพร้อมแสงสีและเครื่องเป่าในช่วงอินโทร เพราะฉันทำงานด้านครีเอทีฟให้กับเพลงนี้ มันเลยจะเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษสำหรับฉันค่ะ
source: https://i-d.vice.com/en/article/4ax8yb/blackpink-creative-director?utm_source=twitter
TH: twitter - thepaleblood
1 note · View note
thtransthepaleblood · 2 years
Text
[trans] Tally - BLACKPINK
Tumblr media
⚠️ ⚠️disclaimer: เนื้อเพลงมีการใช้คำหยาบโดยไม่มีการเซนเซอร์ (Explicit Content) อาจไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านหรือมีผู้ปกครองดูแลขณะอ่านค่ะ
[คอรัส: Rosé]
ฉันจะพูดว่า “เชี่ยแม่ง” ในตอนที่อยาก
เพราะไม่มีใครมานั่งนับสักหน่อยนี่
จะทำเรื่องที่อยากกับคนที่ชอบ
ฉันจะไม่เก็บความรู้สึกเอาไว้หรอก
ตอนที่แกเอาแต่พ่นเรื่องแย่ๆ
ฉันก็จะคว้าสิ่งที่เป็นของฉันไปเรื่อย ๆ
  [Verse 1: Lisa]
ไม่ขอโทษกับสิ่งที่ฉันทำลงไปหรอกนะ
ถ้าแกไม่พอใจ ทำไมฉันต้องสนด้วยล่ะ
มองมาที่ฉันแทนที่จะส่องกระจกดูตัวเอง
ก็ค่อนข้างแปลกนะที่
  [พรีคอรัส: Jisoo]
ทุกคนบอกให้ฉันทำตัวดีๆ
ทุกคนเอาแต่ตัดสิน แต่ช่วยดูให้ดีๆ ก่อน
ร่างกายของฉันไม่ได้เป็นของพวกเขาเลยสักคน
และฉันก็ไม่มีทางเปลี่ยนแค่เพราะแกบอก
  [คอรัส: Jennie & Rosé]
ฉันจะพูดว่า “เชี่ยแม่ง” ในตอนที่อยาก
เพราะไม่มีใครมานั่งนับสักหน่อยนี่
จะทำเรื่องที่อยากกับคนที่ชอบ
ฉันจะไม่เก็บความรู้สึกเอาไว้หรอก
ตอนที่แกเอาแต่พ่นเรื่องแย่ๆ
ฉันก็จะคว้าสิ่งที่เป็นของฉันไปเรื่อย ๆ
ฉันจะพูดว่า “เชี่ยแม่ง” ในตอนที่อยาก
เพราะไม่มีใครมานั่งนับสักหน่อยนี่
จะทำเรื่องที่อยากกับคนที่ชอบ
ฉันจะไม่เก็บเอาไว้หรอก
ฉันจะทำเหมือนอย่างที่พวกผู้ชายพูดกัน
ฉันก็จะทำบ้างเหมือนกัน
   [Verse 2: Lisa]
บอกให้ฉันเย็นหน่อย
แต่ฉันจะแหกกฎให้หมด ทำหัวใจผู้คนแหลกสลาย
เตือนฉันว่าระหว่างสร้างกฎขึ้นมาใหม่
กับแกล้งทำเป็นโง่ ไม่ใช่เรื่องที่เลือกยากนะ
แยกแยะระหว่างเรื่องที่ทำได้และห้ามทำ
ไม่มีเรื่องที่จะไม่ทำ เพราะฉันจะคว้าทุกอย่างที่เป็นของฉัน
ของของฉันเป็นของฉัน ของแกก็เป็นของฉัน
อันนี้ก็เป็นของฉัน ไปต่อแถวซะ
  [Verse 3: Jennie]
บางทีฉันก็อยากเล่นสกปรกบ้าง
เหมือนอย่างที่พวกผู้ชายเฮงซวยทำไง
เป็นสิ่งที่ฉันเลือกเองและไม่ได้ทำใครเจ็บปวดเลย
แต่มันไม่เป็นผู้หญิงนี่เนอะ
  [พรีคอรัส: Rosé]
ทุกคนบอกให้ฉันทำตัวดีๆ
ทุกคนเอาแต่ตัดสิน แต่ช่วยดูให้ดีๆ ก่อน
ร่างกายของฉันไม่ได้เป็นของพวกเขาเลยสักคน
และฉันก็ไม่มีทางเปลี่ยนแค่เพราะแกบอก
  [คอรัส: Jisoo & Lisa]
ฉันจะพูดว่า “เชี่ยแม่ง” ในตอนที่อยาก
เพราะไม่มีใครมานั่งนับสักหน่อยนี่
จะทำเรื่องที่อยากกับคนที่ชอบ
ฉันจะไม่เก็บความรู้สึกเอาไว้หรอก
ตอนที่แกเอาแต่พ่นเรื่องแย่ๆ
ฉันก็จะคว้าความสำเร็จไปเรื่อยๆ
ฉันจะพูดว่า “เชี่ยแม่ง” ในตอนที่อยาก
เพราะไม่มีใครมานั่งนับสักหน่อยนี่
จะทำเรื่องที่อยากกับคนที่ชอบ
ฉันจะไม่เก็บเอาไว้หรอก
ฉันจะทำเหมือนอย่างที่พวกผู้ชายพูดกัน
ฉันก็จะทำบ้างเหมือนกัน
  [Outro: Jennie & Rosé]
(ฉันจะพูดว่า “เชี่ยแม่ง” ในตอนที่อยาก)
(ฉันจะไม่เก็บความรู้สึกเอาไว้หรอก)
2 notes · View notes
thtransthepaleblood · 2 years
Text
[trans] เส้นทางของ BLACKPINK จากคนแปลกหน้า สู่พี่สาวน้องสาว และสู่ดาวเพลงป๊อปที่เจิดจรัส
📌 กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมด หากมีข้อผิดพลาดตรงไหน รบกวนแจ้งที่ทวิตเตอร์ @thepaleblood ค่ะ  📌
พวกเธอคือเกิร์ลกรุ๊ปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มีแต่เพลงฮิตแล้วฮิตอีก แต่ก่อนที่พวกเธอไปถึงจุดนั้น เจนนี่ จีซู ลิซ่า และโรเซ่ได้กลายเป็นครอบครัวเดียวกัน
Tumblr media
[บทความโดยคังแฮรยอน]
ในย่านที่ค่อนข้างธรรมดาของกรุงโซล สำนักงานใหญ่ของ YG Entertainment ตั้งตระหง่านสูงราวกับยานอวกาศใหญ่ยักษ์เหนือแม่น้ำฮัน YG เป็นหนึ่งในค่ายเพลงที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ สร้างสรรรค์ศิลปิน K-pop รวมถึงนักแสดงและโมเดลระดับนานาชาติมากมาย ตึกใหม่ของ YG ที่เปิดตัวขึ้นในปี 2020 ขยายขึ้นเหนือพื้นดิน 9 ชั้นและขยายลงใต้ดินอีก 5 ชั้น ชั้นที่อยู่เหนือพื้นดินจะสว่างและโปร่งโล่ง ประกอบด้วยห้องประชุมที่มาพร้อมหน้าต่างบานใหญ่ โรงอาหารพนักงาน และแม้แต่ภัตตาคารเฝอ พนักงาน YG นับร้อยเดินขวักไขว่ไปมา มีจออยู่ทั่วทุกที่ซึ่งฉายภาพศิลปินมีชื่อของ YG
ชั้นใต้ดินให้ความรู้สึกเหมือนเป็นถ้ำลับ นี่คือที่ที่เหล่าศิลปินฝึกซ้อมกันในสตูดิโอเต้นและห้องอัดเสียง เด็กฝึกของค่ายปนเปไปกับนักร้องดัง และยังเป็นที่ที่ BLACKPINK เกิร์ลกรุ๊ปที่ป๊อปที่สุดของโลก กำลังอัดเพลงในอัลบั้มถัดไปของพวกเธออยู่ อัลบั้มแรกนับตั้งแต่การระบาดของโควิดในช่วงแรก เมื่ออัลบั้มนี้ (ที่จะปล่อยออกมาสักช่วงในปีนี้) เสร็จสมบูรณ์ กิจกรรมมากมายก็จะเริ่มขึ้นอีกครั้ง พนักงาน YG จะได้มีเรื่องใหม่ ๆ ให้กระพือออกไปและส่งสาว ๆ ทั้ง 4 คน เจนนี่ จีซู ลิซ่า และโรเซ่ไปสู่ความสำเร็จมากมาย
เจนนี่ที่เหมือนกับเพื่อนร่วมวงคนอื่น ๆ ของเธอในช่วงบ่ายเดือนเมษายนนี้ แต่งตัวง่าย ๆ และแต่งหน้าน้อยมาก เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนอธิบายถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น “ช่วงนี้…ฉันคิดทุกวันเลยว่า ‘โอเค ฉันจะเตรียมตัวสำหรับสองปีถัดไปที่ยุ่งสุด ๆ ยังไงดี’ ” เธอกล่าว สลับไปมาระหว่างภาษาเกาหลีและอังกฤษ หลังสัมภาษณ์เสร็จ เธอก็กระโดดขึ้นเครื่องบินไปร่วมงาน Coachella และแวะเข้าร้าน Flagship ของแบรนด์แว่นตา Gentle Monster เจนนี่เป็น Ambasssador สำหรับแบรนด์ดังกล่าวรวมถึง Chanel ส่วนเมมเบอร์อีกสามคนก็คล้าย ๆ กันด้วยแรงรักจาก Celine (ลิซ่า) Saint Laurent (โรเซ่) Dior (จีซู) และอีกมากมาย ในปีนี้ก่อนหน้านี้ สาว ๆ ทั้งสี่เดินทางไปทั่วปารีสเพื่อนั่งเก้าอี้แถวหน้าของแฟชั่นวีค
BLACKPINK เป็นหนึ่งในศิลปินจากเกาหลีใต้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด พวกเธอเป็นศิลปินที่มียอดติดตามบน Youtube สูงที่สุด คุณสามารถเห็นพวกเธอได้ทุกที่บนถนนทั่วกรุงโซล ตั้งแต่จอเล็ก ๆ ในลิฟต์ไปจนถึงป้ายโฆษณาบนตึกสูงระฟ้า แม้แต่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ยังยกความดีความชอบให้พวกเธอเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกวัฒนธรรมจาก “การมอบความหวังและความสุขให้กับผู้คนมากมายทั่วโลก” ในสหรัฐอเมริกา BLACKPINK เติมเต็มอารีนาและได้ร่วมงานกับศิลปินชื่อดังอย่าง Lady Gaga และ Cardi B “ในแง่การบริหารและธุรกิจ พวกเรามีมุมมองและวิสัยทัศน์ต่ออเมริกาและประเทศนอกเอเชียเป็นของตัวเอง” กล่าวโดยแดเนียล ฮง ซีอีโอของ YG สาขาสหรัฐฯ “ใครบ้างจะไม่อยากขึ้นแสดงในอเมริกา”
อัลบั้มเต็มล่าสุดของพวกเธอที่มีชื่อเรียกง่าย ๆ ว่า The Album มียอดขายราว ๆ 1.2 ล้านอัลบั้มในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนหลังปล่อยออกมาในปี 2020 ส่งให้ BLACKPINK เป็นเกิร์ลกรุ๊ป K-pop วงแรกที่มียอดอัลบั้มถึงหนึ่งล้าน ในไตรมาสแรกของปี 2021 YG รายงานถึงรายรับที่ก้าวกระโดดขึ้นจากปีก่อนถึง 84% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจาก BLACKPINK ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของพวกเธอเป็นส่วนหนึ่งของกระแสความนิยมวัฒนธรรมเกาหลี (Korean Wave) ที่หมายถึงความนิยมในอุตสาหกรรมวัฒนธรรมของเกาหลีใต้ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
“ฉันภูมิใจในตัวพวกเธอมาก เหมือนฉันกำลังถูกรัก/เป็นที่รักอยู่เลยค่ะ” คำพูดจากจองยูจอง หญิงสาววัย 23 ปีจากปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ จองเป็นบลิ๊งค์ หนึ่งในแฟนคลับ BLACKPINK หลายล้านคนทั่วโลก “เวลาฉันเห็นพวกเธอได้ถ่ายรูปหรือขึ้นแสดงกับศิลปินดังระดับโลกเหล่านี้ ฉันจะรู้สึกภูมิใจค่ะ ข้อเสียก็คือพวกเราไม่ได้เห็นพวกเธอในเกาหลีบ่อยขนาดนั้น”
บทเพลงของ BLACKPINK นำเสนอแรงพลังสุดกระหึ่มและชวนดึงดูดที่ทั้งทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวาและติดหู พวกเธอทำเพลงฮิตสุดปังต่าง ๆ ผสานบีทฮิปฮอปอันทรงพลังเข้ากับแนว House, EDM และอีกมากมาย MV ของพวกเธอเต็มไปด้วยสีสันตระการตาและท่าเต้นเจ๋ง ๆ ที่สื่อถึงลักษณะเด่นของ YG อย่าง “Swag” ซึ่งถูกติดไว้ตัวใหญ่ ๆ ในห้องน้ำห้องหนึ่งของบริษัท และยังสื่อถึงผู้หญิงที่ไม่พึ่งพาใครและดุดัน “แทนที่จะขับเน้นความน่ารักหรือความเป็นผู้หญิง” ยูจองกล่าว “ความมั่นใจของ BLACKPINK เหมือนจะมาจากความมั่นใจในตัวเองค่ะ อารมณ์แบบ ‘ถ้าเธอไม่ชอบฉัน เธอจะต้องเสียใจ! ฉันทั้งน่ารักและเท่ แค่เธอไม่รู้’ ”
BLACKPINK ตัวจริงนั้นติดดินมาก พวกเธอชอบเสียงหัวเราะและคุยกันไม่มีหยุด “คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจในตัวฉัน แต่ฉันไม่รู้สึกเหมือนเป็นศิลปินระดับโลกเลยค่ะ” จีซูพูดเป็นภาษาเกาหลีขณะอยู่ในห้องประชุม ใส่มาสก์สีเบจที่เธอมักดึงลงมาเพื่อจิบกาแฟเย็น “ฉันยังคงเป็นคน ๆ นั้นที่เริ่มฝึกตอนอยู่ม.ปลาย สถานะทางสังคมของฉันอาจเปลี่ยนไป แต่สำหรับฉันแล้ว ฉันก็ยัง...เป็นตัวฉัน”
“พวกเราอยากเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดา ๆ ยิ่งกว่าใครค่ะ” เจนนี่กล่าว “แน่นอนว่ามันก็มีตอนที่พวกเราคุยกันเรื่องอิทธิพลที่เราอาจเป็น แต่เรื่องที่พวกเราชอบคุยกันจริง ๆ คือเรื่องหมาแมว ของอร่อย ๆ และสถานที่สวย ๆ”
BLACKPINK มาจากพื้นเพแตกต่างกัน ลิซ่า (ชื่อจริง: ลลิษา มโนบาล) วัย 25 ปีมาจากประเทศไทย แดนเซอร์และแรปเปอร์ที่แรปเป็นภาษาต่าง ๆ ราวกับพ่นไฟ โรเซ่ (โรเซนน์ แชยอง พัค) อายุ 25 เช่นกัน เกิดที่นิวซีแลนด์และโตขึ้นที่ออสเตรเ���ีย เธอเป็นเมนโวคอลที่ชอบเล่นกีตาร์และขึ้นไฮโน้ตได้ด้วย “เสียงทอง (เสียงสวรรค์)” อย่างที่แฟน ๆ ชอบเรียก เจนนี่คิมวัย 26 ปี แรปเปอร์หลักของวงโตที่โซลและนิวซีแลนด์ก่อนเข้า YG ในปี 2010 เธออาศัยอยู่กับคุณแม่ในกรุงโซลในปีที่ผ่านมา ใน BLACKPINK ไม่มีลีดเดอร์แต่เจนนี่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนผู้นำในบางครั้ง นิ่งและสงบ คอยตอบคำถามยาก ๆ ในนามของวง และคิมจีซูวัย 27 ปี เติบโตขึ้นที่กุนโป ห่างออกไปทางใต้ของสำนักงานใหญ่ YG 20 ไมล์ เธอเป็นลีดโวคอลและนักประสานเสียงผู้เชี่ยวชาญ ทั้งยังมีไหวพริบและเยือกเย็นในการให้สัมภาษณ์
ทุกวันนี้ BLACKPINK พยายามใช้เวลาอันเงียบสงบนี้กับครอบครัวและเพื่อน ๆ ให้ได้มากที่สุด “รู้สึกเหมือนกำลังได้ชาร์จแบตให้ตัวเองค่ะ” จีซูกล่าว “ชีวิตฉันช่วงนี้ไม่ยุ่งมากเท่าไรเพราะเรายังไม่ได้มีงานแสดงเพลงเยอะ ๆ ฉันอยากคัมแบคพร้อมเพลงใหม่ไว ๆ แล้วค่ะ ฉันอยู่คนเดียวแต่คุณพ่อคุณแม่ก็อยู่ในอพาร์ตเมนต์หลังเดียวกัน พวกเราเลยกินข้าวด้วยกัน”
เมื่อไม่นานมานี้ ลิซ่าเองก็เพิ่งกลับไปกรุงเทพเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีเพื่อฉลองวันเกิดของตัวเอง “คุณแม่และคุณพ่อของฉันอายุเยอะขึ้นทุกวันค่ะ” เธอกล่าวด้วยความคิดถึงเป็นภาษาอังกฤษและเกาหลี “ไม่ว่าเมื่อไรที่มีเวลา ฉันก็อยากกลับไปเมืองไทย ไม่อยากเสียเวลาค่ะ อยากเจอพวกเขาให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้”
โรเซ่ผู้เพิ่งเป็นโควิดไปเมื่อสี่สัปดาห์ก่อนกล่าวขออภัยสำหรับการไอแห้ง ๆ ของเธอขณะเคี้ยวข้าวผัดของร้านเฝอตุ้ย ๆ ตอนยังเป็นเด็กน้อยในเมลเบิร์น เธอจะเล่นเปียโนและกีตาร์และร้องเพลงจนดึกดื่น จนพ่อแม่และพี่สาวของเธอ อลิซ (ซึ่งตอนนี้ล้วนอาศัยอยู่ในโซล) ต้องผลัดกันมาบอกให้เธอหยุด เมื่อเร็ว ๆ นี้ โรเซ่ได้จับกีตาร์เป็นครั้งแรกหลังไม่ได้จับมานาน เธอเล่าเป็นภาษาเกาหลีและอังกฤษถึงการอัดเสียงลงบน iPad การค้นหา การเล่น และการทดลอง “ฉันไม่ได้ทำแบบนั้นเลยตลอดสองสามเดือนที่ผ่านมาค่ะ” เธอบอก “ฉันยุ่งวุ่นวายกับชีวิตมาก ถึงขั้นบอกแม่ว่า ‘หนูอยากอยู่คนเดียวสักสองสามวัน’ แม่เลยไม่ได้แวะมาหา”
ถึงจะประสบความสำเร็จมหาศาล เส้นทางของ BLACKPINK ก็ไม่ได้ง่ายเลย ในขณะที่เรื่องหมาแมว ของอร่อย และที่สวย ๆ ย่อมเป็นหัวข้อบทสนทนาอย่างแน่นอน พวกเธอก็ยังได้คิดถึงคำถามที่ใหญ่ขึ้นมาเกี่ยวกับดนตรี เสียงของแต่ละคน และตัวตนที่เป็น นอกตึกสำนักงานใหญ่ที่จอแจของ YG ท่ามกลางร้านขายของเล็ก ๆ สัญลักษณ์ “เราล้างรถของคุณด้วยมือ” และตึกอพาร์ตเมนต์ธรรมดา ๆ ชื่อ “Korea Proud” ชีวิตช่างเงียบสงบนัก
ดอกซากุระร่วงหล่นราวกับหิมะทั่วทั้งตรอกซอกซอยของย่านฮับจองดง ย่านนี้คือช่วงเวลาวัยเยาว์ของ BLACKPINK พวกเธอใช้ชีวิตวัยรุ่นตอนเป็นเด็กฝึกอยู่ที่นี่ อยู่ไกลจากครอบครัว ร้อง แรป และฝึกเต้นวนไปมากกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน พวกเธอไม่ย่อท้อแม้แต่นิดกับการได้ปล่อยเพลงและแสดงต่อหน้าสาธารณชน “เดบิวต์ เดบิวต์ เดบิวต์” ลิซ่ากล่าว “นั่นคือเรื่องเดียวที่อยู่ในหัวพวกเราค่ะ”
“พวกเราอยู่ในโหมดเซอร์ไวเวิล” เจนนี่พูด “ทุก ๆ เดือน เพื่อน ๆ ของเราต้องกลับบ้านไป จะรู้สึกเครียดก็ดี รู้สึกลำบากก็ดี ความรู้สึกพวกนั้นเป็นเรื่องรอง สิ่งสำคัญคือการได้เดบิวต์ค่ะ”
YG Entertainment ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1996 ได้สร้างศิลปิน K-pop ชื่อดังระดับโลกอย่าง BIGBANG และ 2NE1 ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของ BLACKPINK ทั้งคู่ เมมเบอร์ทั้ง 4 คนของ BLACKPINK ผ่านการออดิชั่นและเข้ามาเป็นเด็กฝึกใน YG ในเวลาต่าง ๆ กัน เจนนี่เป็นคนที่อยู่มานานที่สุด ใช้เวลาเป็นเด็กฝึกอยู่ 6 ปีก่อนพวกเธอจะได้เดบิวต์ด้วยซิงเกิ้ล “Whistle” และ “Boombayah” ในปี 2016 จีซูฝึกมา 5 ปี เท่ากันกับลิซ่าที่จากกรุงเทพมาเป็นเด็กฝึกในปี 2011 โรเซ่เข้ามาในปี 2012 จากการคว้าอันดับ 1 จากผู้เข้าแข่งขัน 700 คนในการออดิชั่นของ YG ที่ซิดนีย์ เธอจากครอบครัวและชีวิตในเมลเบิร์นมาตอนอายุ 15 และเดินเข้าสู่สำนักงานใหญ่ของ YG พร้อมสะพายกีตาร์ตัวเดิมที่เธอ��ังเล่นอยู่ในทุกวันนี้ “กีตาร์ตัวนี้อายุมากกว่า 10 ปีแล้วค่ะ” โรเซ่เสริม “อายุเยอะกว่าหมาของฉัน แฮงค์ ซะอีก”
วันนั้นคือวันที่สาว ๆ ทั้ง 4 ได้เจอกัน ร้องเพลงอย่างสนุกสนานอยู่ในห้องครัวของหอ YG ในชุดนอนจนถึงเช้า มีเด็กฝึกคนอื่น ๆ อีกหลายคนที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์นานหลายปีในการฟอร์มวง BLACKPINK แต่อาจจะด้วยโชคชะตาฟ้าลิขิต เมมเบอร์ 4 คนสุดท้ายของวงถูกจัดให้อยู่ในหอห้องเดียวกันตั้งแต่วันแรก ๆ โรเซ่เพิ่งจะเช็ดน้ำตาบอกลาพ่อแม่มาก่อนเจอเข้ากับเพื่อนร่วมวง “ฉันว่าเจนนี่พูดว่า ‘แชยอง เล่นอะไรให้พวกเราฟังหน่อย!’ ” โรเซ่นึกย้อน เธอถูกเพื่อน ๆ เรียกชื่อด้วยทั้งแชยองและโรซี่ “พวกเรานั่งล้อมวงรอบโต๊ะกินข้าวพร้อมกีตาร์ของฉัน พี่จีซูประสานเสียงเก่งมากเลยค่ะ”
“พวกเราเริ่มจากนั่งบนเก้าอี้แล้วค่อย ๆ ขึ้นไปอยู่บนโต๊ะ” ลิซ่าพูดกลั้วหัวเราะในการสัมภาษณ์ของทั้งวง “แล้วทุกคนก็ประมาณว่า ‘วู้ววววว’ มันสนุกมากเลย”
“เก้าอี้ของฉันหันเข้าหาหน้าต่างห้องครัวค่ะ จำได้ว่าพระอาทิตย์ลอยขึ้นมา” จีซูบอก 
“พระเจ้า พวกเราโชคดีมากที่เพื่อนบ้านไม่มาเคาะห้องบ่น” โรเซ่หัวเราะคิกคัก
“ถ้าวันนั้นเธอนอนเร็ว เธออาจจะเศร้ากว่าเดิมก็ได้นะ” เจนนี่บอกโรเซ่อย่างห่วงใย
ในอพาร์ตเมนต์ขนาด 3 ห้องนอนที่มีกำแพงสีขาวซึ่งจางลงจนเป็นสีงา สาว ๆ ทั้ง 4 แชร์ห้องนอน 2 ห้องด้วยกัน ส่วนผู้จัดการของพวกเธอนอนในอีกห้องที่เหลือ พวกเธอใช้วิธีเป่ายิงฉุบเพื่อตัดสินว่าใครจะใช้ห้องน้ำเดี่ยวในตอนเช้าเป็นคนแรก
“การไปซื้อของกินเป็นอะไรที่สนุกมากค่ะ” โรเซ่เล่าถึงความทรงจำ “พวกเราจะทำอาหารกินด้วยกันหลังฝึกมาทั้งวัน ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ทุกอย่างเป็นอาหารแช่แข็งหมด แต่ฉันยังคงคิดถึงรสชาติของของพวกนั้น”
“ฉันทำไข่คนด้วยนมค่ะ” เจนนี่บอก
“แล้วเราก็กินมันกับแยมสตรอว์เบอร์รี” โรเซ่ช่วยเสริม “มันอร่อยนะคะ”
พวกเธอต้องสนิทกันเข้าไว้ เพราะชีวิตของการเป็นเด็กฝึกต้องเสียสละอะไรหลายอย่าง ระบบการฝึกของ K-pop ซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก Motown ในสหรัฐอเมริกาและ Johnny’s Entertainment ในญี่ปุ่นมักเผชิญกับคำวิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง มันไม่มีการการันตีความสำเร็จซึ่งแปลว่าเด็กฝึกทั้งหลายอาจติดอยู่ในความไม่แน่นอนเป็นปี ๆ หลักสูตรการเรียนแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัท สำหรับ YG สมาชิก BLACKPINK ในอนาคตต่อมาต้องผ่านระบบการสอบรายเดือนที่เข้มงวด เด็กฝึกต้องแสดงทั้งแบบเดี่ยวและเป็นทีมให้กรรมการดู คิดทุกอย่างเองตั้งแต่ท่าเต้นไปจนถึงการแต่งตัว
“เมื่อไรมันจะจบลงสักทีนะ? อารมณ์แบบ เมื่อไรกัน? พวกเราต้องสอบทุกเดือนเลยหรอ?” ลิซ่าผู้ไม่ได้พูดภาษาเกาหลีมาตั้งแต่แรก (T/N: หมายถึงไม่ได้เป็นคนที่พูดภาษาเกาหลีเป็นภาษาแม่) แต่ตอนนี้กลับพูดได้คล่อง “ฉันจะโทรหาคุณแม่ [ที่ไทย] บอกแม่ว่าอยากออกแล้ว แม่ก็จะบอกให้ฉันอดทนไว้อีกปี อดทนไว้ค่ะ”
“ถ้าฉันรู้สึกว่ากำลังลำบาก ฉันก็จะไปห้องน้ำ ปล่อยโฮออกมาแล้วก็ไปต่อค่ะ” โรเซ่บอก “เหมือนฉันอยู่ในระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเลย ถ้าคุณบอกให้ฉันไปเป็นเด็กฝึกอีกครั้ง ฉันคงทำไม่ได้แล้ว”
นอกเหนือจากชั่วโมงการฝึกอันยาวนาน เด็กฝึกทั้งหลายยังมีข้อบังคับแตกต่างกันไป BLACKPINK ถูกห้ามไม่ให้เดต ขับรถ และดื่ม ถึงแม้อาจจะไม่ชัดเจนว่าพวกเธอทำตามกฎอย่างเข้มงวดมากน้อยแค่ไหน ครั้งหนึ่ง โรเซ่เคยพูดในรายการ TV ของเกาหลี Radio Star ว่า “ข้อห้ามพวกนี้สามารถต่อรองกับบริษัทได้ค่ะ พวกเขาแค่ไม่อยากให้เราไปทำลับหลัง”
บรรดาเมมเบอร์เล่าว่าพวกเธอเข้าชั้นเรียนเกี่ยวกับสุขภาพจิต รวมถึงเข้ารับการบำบัดด้วย แต่สุดท้ายพวกมันก็ไม่ได้ช่วย “พวกเราเจอปัญหาเดียวกัน เพราะงั้นถ้าเราคุยกันเองมันจะดีกว่าค่ะ” จีซูกล่าว
“พวกเราก็แค่อดทนไว้” เจนนี่เสริม
ความยากลำบากในการเดินทางของ BLACKPINK และความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของพวกเธอค่อย ๆ จางหายไปเมื่อเมมเบอร์ทุกคนอยู่ด้วยกัน สองสามวันก่อนที่พวกเราได้พบกันที่ YG พวกเธอนั่งอยู่ในห้องพักเรียบ ๆ ขณะรอถ่ายโฟโต้ชู้ต (เผื่อคุณสงสัย เมมเบอร์ของ BLACKPINK ชอบหันซ้ายถ่ายรูปมากกว่า ยกเว้นแต่จีซูที่ชอบหันขวา) เมื่อโรเซ่ชี้ลิปสติกที่ติดอยู่บนฟันของลิซ่า ลิซ่าก็ยิ้มยิงฟันกลับไป จีซูร้องออกมาตอนยุงบินหนีไปจากเธอ ส่วนเจนนี่ก็เอาเปลือกถั่วมาสวมเป็นเล็บปลอม หญิงสาวทั้งสี่หวีดร้องพร้อมเสียงหัวเราะ นึกย้อนถึงวันวานตอนเป็นเด็กฝึกที่ห้องพักเต็มไปด้วยเสียงโหวกเหวกและไออุ่นของห้องครัว
ย้อนกลับไปตอนเป็นเด็กฝึก บางครั้งเหล่าเมมเบอร์จะคิดแผนโดดการฝึก หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องราวของคุณครูมันฝรั่ง นักออกแบบท่าเต้นที่อยู่มาอย่างยาวนานของ YG ซึ่งเป็นคนสอนเต้นให้ BLACKPINK (ครูมันฝรั่งผู้มีชื่อจริงว่าคิมฮีจองนี้ได้ชื่อเล่นมาจากตอนอยู่ประถม ในตอนนั้นการเรียกชื่อเพื่อนในห้องด้วยชื่อผักผลไม้เป็นที่นิยมอย่างมาก) “เธอเป็นเหมือนตำนานค่ะ ทุกคนเลยกลัวเธอ” โรเซ่บอก
“แต่พวกเราเต้นกันทุกวันจริง ๆ บางครั้งเราเลยอยากพักมาก ๆ” จีซูเริ่มเล่า “เพราะฉะนั้น ในวันหนึ่ง…”
“ไม่เอาน่า” ลิซ่าร้องกลั้วเสียงหัวเราะ
“...พวกเราดึงสาย”
“อ๊ากกกก!” ลิซ่าร้องออกมา พยายามปกป้องความลับของพวกเธอเป็นครั้งสุดท้าย
“พวกเราดึงหนึ่งในสายเคเบิ้ลมากมายออกจากลำโพงและพูดว่า ‘ห๊ะ? ทำไมเสียง (เพลง) ไม่ออกล่ะ?’ ” จีซูเล่าต่อไม่หยุด “คลาสของเรายาว 1 ชั่วโมง สุดท้ายแล้ววิศวกรก็มาซ่อมมัน ภายใน 30 นาที”
“แต่แม้แต่เวลา 30 นาทีนั้นก็มีค่ามาก ๆๆๆ เลยค่ะ” เจนนี่บอก
“พวกเราเป็นเด็กมีปัญหาจริง ๆ” โรเซ่เล่าไปหัวเราะไป
“ฉันว่าจนถึงตอนนี้ คุณครูมันฝรั่งก็ยังไม่รู้เรื่องนี้เลยค่ะ” จีซูกล่าว
BLACKPINK มีส่วนร่วมในทุก ๆ ขั้นตอนของกระบวนการสร้างสรรค์ ตั้งแต่การระดมสมองคิดคอนเซปต์ไปจนถึงการแต่งตัวในขั้นสุดท้าย พวกเธอยังเป็นนักเขียนเพลงร่วมในเพลงดังอย่าง “Lovesick Girls” และอีกหลาย ๆ เพลง รวมถึงเพลงโซโล่ของตัวเองซึ่งบางเพลงก็เป็นเพลงฮิตระเบิดด้วย
“พวกเราไม่ได้แค่คอยรอรับเพลงที่เสร็จแล้วค่ะ ”จีซูกล่าว”พวกเรามีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น ตั้งแต่สร้างรากฐาน แต่งเติมฟีลลิ่ง แลกเปลี่ยนความเห็นกัน กระบวนการทำเพลงตรงนี้ทำให้ฉันภูมิใจกับดนตรีของพวกเราค่ะ ถ้าพวกเราได้เพลงสำเร็จรูปมาแล้ว มันจะรู้สึกเหมือนเป็นเครื่องจักร ฉันชอบการมีกระบวนการทำเพลงมากกว่า เพราะพวกเราได้พูดว่า ‘ถ้าเพิ่มตรงนี้เข้าไปในเนื้อเพลงล่ะ? ถ้าเพิ่มท่านี้เข้าไปในท่าเต้นล่ะ?’ ”
หัวใจสำคัญในดนตรีของพวกเธอคือเท็ดดี้พัค โปรดิวเซอร์หลักของ BLACKPINK ประโยคที่แสนจะเป็นเอกลักษณ์อย่าง “BLACKPINK in your area!” ซึ่งปรากฏอยู่ในเพลงของพวกเธอหลาย ๆ เพลงก็มาจากเท็ดดี้
“อปป้า (พี่เขา) กำกับทุกอย่างสำหรับ BLACKPINK เลยค่ะ” ลิซ่ากล่าวโดยใช้คำเรียกสำหรับผู้ชายที่อายุมากกว่า “เขารู้จักเราดีมาก” เธอกล่าวต่อ “และผลักดันพวกเราหนักมาก ‘อีกรอบ อีกรอบ อีกรอบ’ พี่เขาจะพูดแบบนี้”
“วันหนึ่งเขาก็จะโทรหาฉันแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย บอกว่า ‘โย่ เจนนี่ พวกเราต้องเร่งเครื่องแล้ว’ ” เจนนี่บอก “เขาเป็นเหมือนนาฬิกาปลุก คอยเตือนให้พวกเราไปต่อในทางดนตรี ที่เขาต้องทำก็แค่โทรมาว่า ‘เฮ้ เป็นไงบ้าง?’ แล้วฉันก็จะแบบว่า ‘โอ้มายก็อด’ ตึงเครียดขึ้นมาเลย แต่มันเป็นความตึงเครียดที่ดีที่ BLACKPINK ต้องการค่ะ”
เท็ดดี้เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีจากลอสแองเจลิสซึ่งมีชื่อเสียงในสื่อกระแสหลักของเกาหลีในช่วงปลายทศวรรษ 1990 แรกเริ่มเป็นแรปเปอร์ในวงบอยแบนด์ฮิปฮอปที่โปรดิวซ์โดย YG “1TYM” พวกเขามักถูกมองเป็นรุ่นพี่ของ BIGBANG ผสานการแรป เต้น และลุคที่ดูดีตามแบบฉบับวงไอดอล K-pop ทั่ว ๆ ไปเข้าด้วยกัน “ความเป็นฮิปฮอปมันซึมเข้าไปถึงกระดูกของเท็ดดี้” เจนนี่พูด “และพวกเราก็รับสืบต่อมาค่ะ”
คงเป็นเรื่องยากถ้าจะพูดถึง K-pop โดยไม่พูดถึงหัวใจหลักที่เต้นเป็นทำนองฮิปฮอป MTV ซึ่งเปิดตัวขึ้นในปี 1981 ได้รับการถ่ายทอดสดในเกาหลีผ่าน AFKN บริการถ่ายทอดสัญญาณของกองทัพสหรัฐฯ ทหารเกณฑ์อเมริกันและชาวเกาหลีเต้นตามเสียงเพลงในไนท์คลับใกล้ฐานทัพสหรัฐฯ ในกรุงโซล ตั้งแต่เพลงของ New Jack Swing ไปจนถึง Michael Jackson Seo Taeji and Boys บรรพบุรุษคนสำคัญของไอดอล K-pop ในปัจจุบันก็เริ่มต้นเส้นทางอาชีพจากการดวลเต้นที่คลับ Moon Night ในย่านอีแทวอน
“ความเป็นมาของฮิปฮอปในเกาหลีไม่ได้เริ่มต้นจากแรปเปอร์และดีเจ แต่เริ่มจากบรรดาแดนเซอร์ที่เอาเพลง New Jack Swing มาแสดง” บล็อกเกอร์ T.K. Park และนักวิจารณ์เพลง คิมยองแดจาก Vulture เขียนไว้ “การที่เพลงฮิปฮอปในเกาหลีเติบโตได้เพราะแดนซ์คลับมีความหมายโดยนัยอย่างลึกซึ้งซึ่งสามารถเห็นได้ใน K-pop กระแสหลักในปัจจุบันนี้… อัตลักษณ์ของฮิปฮอปเกาหลีในการเป็นเพลงสำหรับใช้เต้นหลั่งไหลเข้าสู่วงไอดอล K-pop กระแสหลักทั้งหลาย โดยเฉพาะเมื่อผ่านมือโปรดิวเซอร์ YG”
ยางฮยอนซอก หนึ่งในสมาชิก Seo Taeji and Boys และเป็นผู้เข้าแข่งขันผู้เป็นตำนานของ Moon Night ได้ตั้งค่าย YG Entertainment ขึ้นในเวลาต่อมา ในช่วงเวลาที่เพลงป๊อปเกาหลีเริ่มมองข้ามชายแดนประเทศไป ค่ายเพลงแห่งนี้สร้างวงฮิปฮอปอย่าง Jinusean และ 1TYM จากนั้นก็ประสบความสำเร็จกับ BIGBANG ในช่วงกลางทศวรรษ 2000 (หยางลาออกจากตำแหน่งในปี 2019 ท่ามกลางขอกล่าวหามากมายที่เกี่ยวพันกับคนดังที่สุดของค่ายบางคนซึ่งรวมถึงการค้ามนุษย์และปกปิดข่าวฉาวเกี่ยวกับยาเสพติด)
เท็ดดี้แทบไม่เคยให้สัมภาษณ์ ในปี 2013 เขาบอกกับสำนักข่าวเกาหลี OSEN ว่าเขาจะเข้านอนตอน 9.00 น. และตื่นตอน 15.00 น. ในช่วงที่ตื่น/ใช้ชีวิตอยู่ก็จะทำเพลงเป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้เท็ดดี้จะอยู่เบื้องหลังเพลงฮิตที่ประสบความสำเร็จบนชาร์ตมากมาย เขากลับบอกว่าเขาไม่ได้ชอบเพลงฮิตติดชาร์ตโดยมีเหตุผลคือ “ผมอยากกินอาหารที่บรรจงทำด้วยมือในร้านเก่า ๆ โทรม ๆ มากกว่าอาหารแฟรนไชส์ที่มีขายอยู่ทั่วอย่างกับมันมีปีก”
ตำนานอย่าง Deux, The Movement Crew และ Verbal Jint มองว่าฮิปฮอปเกาหลีเป็นมากกว่าไอดอล K-pop แต่ศิลปินติดป้าย YG ที่มีเท็ดดี้เป็นศูนย์กลางนี้เป็นหนึ่งในศิลปินที่ได้รับความนิยมทั่วโลกมากที่สุดอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย ด้วยศักยภาพของ BLACKPINK ดนตรีสุดล้ำ ผสมจิตวิญญาณความ Swag และมั่นใจในตัวเองของ YG เข้ากับช่วงเวลาของความเปราะบางและบีทสุดเจ๋ง “Love to Hate Me” ทำให้นึกถึง R&B ในทศวรรษ 2000 “How You Like That” เต็มไปด้วยจังหวะเพลงแทร็ปและท่อนเด่นของเพลงที่ร้องซ้ำไปซ้ำมาแสนติดหู (พบได้ทั่วไปในเพลงของ BLACKPINK) “Crazy Over You” อัดแน่นด้วยบีทฮิปฮอปแบบเรโทร กลิ่นอายของบอลข่าน (T/N: หมายถึงพื้นที่คาบสมุทรบอลข่านทางตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป) และท่อนร้องที่มีลูกเล่นต่าง ๆ อย่าง  “Simple is so so, I need that oh no/Don’t you know I’m loco” ที่ลิซ่าแรปอย่างเชี่ยวชาญ
“ฮิปฮอปอยู่ในสายเลือดของฉันค่ะ” ลิซ่ากล่าว เธอเพิ่งปล่อยเพลงโซโล่เป็นครั้งแรกด้วยซิงเกิ้ลที่เท็ดดี้เป็นคนเขียน “Lalisa” เป็นการผสมระหว่างการแรป, EDM, เสียงริฟเบส และแม้กระทั่งเครื่องเสียงไทยโบราณแบบจัดเต็มไม่มีกั๊ก ส่วนซิงเกิ้ลโซโล่อีกเพลง “Money” ก็โค่น Drake และขึ้นเป็นอันดับ 1 ในชาร์ต Rap Digital Songs Sales ของ Billboard
“ฉันไม่คิดว่าฮิปฮอปเกี่ยวกับการแรปอย่างเดียวเท่านั้น ดูอย่าง Rihanna สิคะ เธอทำให้ทุกอย่างเป็นฮิปฮอปได้ ทุกคนมีคำนิยามให้ฮิปฮอปแตกต่างกันไป” เจนนี่ผู้ชื่นชอบ Brockhampton กล่าว (เธอได้ไปดูพวกเขาที่ Coachella ด้วย)
“สำหรับฉัน มันคือจิตวิญญาณของความเท่ค่ะ บรรยากาศของเพลง ความ swag แล้วแต่คุณจะใช้คำ ฮิปฮอปของ BLACKPINK คือสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน” เธอกล่าวต่อไป “พวกเรา สาว ๆ ในช่วงวัย 20 ปีทั้งสี่คนจากพื้นเพที่แตกต่างกัน กำลังใช้ภาษาเกาหลีและอังกฤษถักทอเพลงป๊อปโดยใช้เพลงฮิปฮอปเป็นพื้นฐาน บางทีถ้าแรปเปอร์ที่เท่มาก ๆ ในอเมริกา คนที่ทำ ‘เพลงฮิปฮอป’ จริง ๆ มาดูพวกเรา ภาพที่เห็นก็อาจจะดูเหมือนเด็กน้อยที่กำลังทำเรื่องต่าง ๆ อยู่บ้าง ฮิปฮอปของเราไม่ได้เป็นแนวต่อต้าน แต่เรากำลังทำอะไรที่เจ๋งสุด ๆ อยู่ค่ะ นี่มันฮิปฮอปแบบไหนเนี่ย? ฉันก็ไม่รู้ค่ะ! แต่มันเท่!”
จีซูนั่งอยู่ในห้องประชุมของ YG ที่อยู่สูงเหนือแม่น้ำฮันอันกว้างใหญ่ ผู้คนรู้จักเธอว่าเป็นคนตลกในบรรดาเมมเบอร์ แต่วันนี้เธอเงียบและจริงจัง คิดใคร่ครวญถึงคำถามใหญ่ ๆ และสวมหมวกที่เขียนว่า “เมื่อเวลาผ่านไป มันจะดีขึ้น” จีซูเป็นเมมเบอร์คนเดียวที่ยังไม่ได้ปล่อยเพลงโซโล่ แม้จะมีเสียงลือหนาหูว่าเธออาจปล่อยโซโล่ในสักช่วงในปีนี้ “ฉันยังไม่แน่ใจว่าตัวเองอยากปล่อยเพลงโซโล่แค่ไหนค่ะ” เธอกล่าว “เพลงที่ฉันฟัง เพลงที่ฉันทำได้ และเพลงที่ฉันอยากทำ ฉันควรจะเลือกอันไหนนะ? ฉันชอบเพลงที่มีเครื่องดนตรีเยอะ ๆ ฉันชอบวงนู้นวงนี้และเพลงร็อค ผู้คนอยากได้เพลงแบบไหนจากฉันกัน? มีคำถามที่ขัดแย้งกันวุ่นวายเต็มไปหมดเลยค่ะ”
มันชัดเจนว่า BLACKPINK กำลังมุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วเต็มกำลัง แต่เบื้องหลังภาพความสมบูรณ์แบบของเพลงป๊อปนี้ เหล่าเมมเบอร์ยังคงมองหาเส้นทางของตัวเองในฐานะศิลปินเดียวอยู่ พวกเธอแต่ละคนล้วนมีงานเดี่ยว สำหรับจีซูเป็นงานแสดง ส่วนสาว ๆ อีก 3 คนก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลซึ่งรวมถึงเพลงฮิตปังบางอัน แม้แนวดนตรีโดยรวมอาจไม่ได้ต่างจากแนวเพลงของ BLACKPINK มากนักเนื่องจากเท็ดดี้มีส่วนร่วมในเพลงส่วนใหญ่
“ฮิปฮอปเป็นแนวเดียวที่ฉันทำได้ดีหรือเปล่านะ?” ลิซ่านึกสงสัย “ถ้ากลายเป็นว่าฉันทำแนวไทยโบราณได้ดีด้วยเหมือนกันล่ะ?” เพลงโซโล่ปี 2021 ของเธอ “Lalisa” มีภาพและเสียงดนตรีไทยแบบต่าง ๆ อยู่ด้วย เธอยกศิลปินอย่าง Rosalía ขึ้นมาเป็นตัวอย่าง “Rosalía เจ๋งมากเลยค่ะ เธอมีวัฒนธรรมสเปนของเธอเองที่อยู่ในตัวเธอและมีอิทธิพลต่อเพลงของเธอ… ฉันอยากรู้ว่าตัวเองจะขยายไปได้ถึงขนาดไหน ทั้งในแง่ของดนตรี แง่ของการเต้น รู้สึกเหมือนฉันยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกค่ะ”
“เจนนี่ที่คุณเห็นมาจนถึงตอนนี้เป็นแค่การซ้อมค่ะ” เจนนี่พูด เธอเป็นเมมเบอร์คนแรกที่ปล่อยโซโล่ในปี 2018 ด้วยเพลง “Solo” ที่เธอผสมเสียงร้องอันนุ่มนวลเข้ากับการแรปสุด Swag ตามบุคลิกของเธอ (MV มียอดวิวบน Youtube มากกว่า 800 ล้านครั้ง) “ฉันมีอะไรที่ชอบหลายอย่าง ฉันชอบการร้อง การแรป การเต้น ฉันใส่ทั้งหมดนั่นเข้าไปได้ในเพลงเดียว ฉันมีความหลากหลายตรงนั้นค่ะ”
จะสนุกหรือไม่สนุก การทำเพลงก็เต็มไปด้วยความกดดัน สาว ๆ ทั้งสี่ย้อนนึกถึงเรื่องนั้นในช่วงเบรกจากการถ่ายโฟโต้ชูด “ตอนที่สนุกที่สุดก็คือตอนก่อนเราเริ่มทำมันค่ะ” จีซูกล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ
“หรือตอนที่มันกลายเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว” เจนนี่พูดพลางหัวเราะคิกคัก
“ตอนฉันอัดอะไรสักอย่างเป็นครั้งแรกค่ะ” โรเซ่กล่าว “ฉันตื่นเต้นมากเพราะฉันไม่รู้ว่ามันจะดีกว่านี้ได้ยังไง มันก็เลยสนุก ฉันอิจฉาช่วงเวลานั้นค่ะ พอเป็นตอนนี้ ไม่ว่าจะพยายามหนักแค่ไหน ส่วนหนึ่งของตัวฉันก็ไม่เคยพอใจเลย”
“นั่นมันเป็นโรคทางอาชีพ” ลิซ่าบอกกับโรเซ่ “และฉันก็รู้สึกเหมือนกันเป๊ะ”
จีซูชอบการสรรค์สร้าง ชอบการก่อร่างเพลงตั้งแต่เป็นเพียงแค่แบบร่างกับทีมผู้เชี่ยวชาญ แต่ในบางครั้งบางคราว เธอก็ต้องเผชิญกับคำถามให้ขบคิดถึงเป้าหมายและความกดดันของการมีชื่อเสียง “จริง ๆ แล้วฉันชอบอะไรกันแน่?” เธอถาม “มันยังคงเป็นปริศนาอยู่ค่ะ ฉันชอบการแสดงบนเวทีแต่ก็ไม่ได้ชอบอยู่ในสปอตไลท์เสมอไป คิดว่าคงต่างจากเมมเบอร์คนอื่น ๆ พวกเธอชอบอยู่ใต้สปอตไลท์/ชอบที่ได้รับความสนใจ รู้สึกมีพลังจากผู้คนที่มาดูพวกเรา และรู้สึกซึมเล็กน้อยเมื่อการแสดงจบลงและความเงียบโรยตัว ฉันต่างออกไปนิดหน่อย เวลาอยู่บนเวที ฉันจะคิดถึงการไม่ทำพลาด บางครั้งการแสดง (บนเวที) ก็รู้สึกเหมือนเป็นการสอบมากกว่าอะไรที่สนุกจริง ๆ”
ลิซ่าพูดถึงช่วงเวลาของการต่อสู้กับเสียงของเธอเอง “หนึ่งปีนั้นระหว่าง ‘As If It’s Your Last’ [2017] และ ‘Ddu-du Ddu-du’ [2018] เป็นช่วงที่ยากลำบากสำหรับฉันค่ะ” เธอกล่าว นั่งอยู่ใต้แสงไฟสลัวของสตูดิโออัดเพลงที่ชั้นใต้ดินของ YG “ฉันร้องเพลงไม่ได้ พอเข้าสตูดิโอไปอัดเพลงก็ไม่มีอะไรออกมาเลย ฉันร้องไห้เพราะรู้สึกเหมือนเป็นตัวถ่วงทีม เท็ดดี้ผลักดันฉันหนักมาก ‘เธอทำไม่ได้หรอ? ไม่ พยายามมากกว่านี้ กลับเข้าไป’ เพราะเท็ดดี้ ฉันถึงผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ค่ะ”
เจนนี่ฝึกพิลาทีส โยคะ ต่อยมวย และการออกกำลังแบบอื่น ๆ เป็นประจำเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ “สำหรับฉัน จนถึงตอนนี้แล้ว ถ้าร่างกายแข็งแรงดี ฉันจะรู้สึกมีความสุขมากขึ้นและสุขภาพจิตดีขึ้น…การมีคนดี ๆ อยู่รอบตัวที่คุณสามารถเชื่อใจได้ก็มีส่วนด้วย” เธอเสริม “รวมถึงสัตว์เลี้ยงด้วยค่ะ”
ตอนนี้ BLACKPINK กำลังเร่งปล่อยเพลงใหม่ ปล่อยเพลงฮิตสุดปังออกมาอีกเพื่อเสริมความมั่นคงให้กับการเป็นหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลของพวกเธอซึ่งยังคงมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด “ฉันหมายถึงว่า BLACKPINK จะอยู่ไปอีก 10 ปีใช่ไหมล่ะคะ? ถึงตอนนั้นพวกเราคงใกล้ 40 แล้ว” ลิซ่ากล่าว “สักวันหนึ่งพวกเราคงแต่งงานหรืออะไรแบบนั้นกัน แต่ฉันก็เห็น Spice Girls กลับมารวมตัวกันในคอนเสิร์ตรวมวง สักวันพวกเราทำแบ��นั้นเหมือนกันได้ไหม? ตอนนั้นฉันจะยังเต้นแบบตอนนี้ได้อยู่ไหมนะ?” จากนั้นก็หัวเราะร่า
“ถึงพวกเราจะอายุ 70 และใช้ชีวิตแตกต่างกัน ฉันก็ยังคงรู้สึกเหมือนตัวเองเป็น BLACKPINK ค่ะ” เจนนี่พูด “มันคงฟังดูเลี่ยนมากแต่ฉันไม่คิดว่าในใจฉัน BLACKPINK จะมีวันสิ้นสุดลงเลย มันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของฉัน คุณปฏิเสธครอบครัวตัวเองไม่ได้หรอก”
เมื่อปีก่อน โรเซ่ปล่อยซิงเกิ้ลโซโล่แรกของเธอ “On the Ground” เมื่อฉันถามว่าเนื้อเพลงท่อน “Everything I need is on the ground (ทุกสิ่งที่ฉันต้องการอยู่บนพื้นนี้นี่เอง)” มีความหมายยังไงสำหรับเธอ โรเซ่เงียบไป ผมบลอนด์ยาวประบ่าปรกหน้าเธอขณะที่เธอหรี่ตาลงเพื่อโฟกัส “หมายถึงพวกเราที่เป็นแค่คนธรรมดาค่ะ อาจจะเมื่อปีครึ่งหรือสองปีก่อน จำได้ว่าพวกเรานั่งกินอาหารกัน มีพวกเรา4คนและเท็ดดี้ พวกเราเป็นแค่คนหิวทั่วๆไป เราไปที่ร้านอาหาร หิวไส้กิ่ว อาหารอร่อยมากเลย นี่คือสิ่งที่ทำให้พวกเรารู้สึกเหมือนเป็นคนทั่วๆไป แค่เราได้นั่งกินอาหารกับคนที่เรารักค่ะ”
source: Rolling Stone - https://www.rollingstone.com/music/music-features/blackpink-lisa-jennie-rose-jisoo-new-music-1354784/
TH: twitter - thepaleblood
2 notes · View notes
thtransthepaleblood · 2 years
Text
สาวน้อยจากยูเครนและ BLACKPINK
📌 กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมดค่ะ หากมีข้อผิดพลาดตรงไหน รบกวนแจ้งที่ทวิตเตอร์ @thepaleblood  📌
Tumblr media
 ในคืนวันที่ 16 มีนาคม 2565 (ตามเวลาท้องถิ่น) ณ กรุงวอร์ซอว์ ประเทศโปแลนด์ เด็กน้อยคนหนึ่งกำลังเล่นตุ๊กตาขณะรอแม่ของเธอซึ่งออกไปเอาเสื้อผ้าจากกองเสื้อผ้าบริจาคในเต็นท์ภายในท่ารถบัสของกรุงวอร์ซอว์ตะวันตก วอร์ซอว์ /ผู้สื่อข่าวคิมฮเยยุน
ณ เวลา 10.00 น. ของวันที่ 14 เดือนก่อน ฉันยืนอยู่ที่ชายแดนระหว่างโรมาเนียและยูเครน ท้องฟ้าเหมือนกับผืนผ้าใบที่ถูกระบายเป็นสีฟ้า ต้นไม้เต็มท้องทุ่ง ช่างดูเหมือนภาพของหมู่บ้านที่เงียบสงบอันงดงามในภาพวาด แต่ยังไงก็ดี ภาพเบื้องหน้าฉันคือเหล่าผู้อพยพที่กำลังข้ามชายแดนมาจากยูเครนพร้อมสัมภาระ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล เหนื่อยล้า และสิ้นหวัง ตัดกับภาพทิวทัศน์แสนสวยงามโดยสิ้นเชิง
อิซาเบลล่าที่พวกเราได้เจอที่ศูนย์ผู้อพยพซึ่งสนับสนุนโดยมูลนิธิศุภนิมิต (World Vision) ข้ามชายแดนมาพร้อมกับคุณแม่ของเธอ เด็กน้อยอิซาเบลล่าวัย 7 ขวบรู้จักประเทศเกาหลีจากวงเกิร์ลกรุ๊ปเคป๊อป BLACKPINK เมื่อเราโชว์วิดีโอของ BLACKPINK ให้เธอดู อิซาเบลล่าก็เริ่มโยกไหล่เหมือนกับกำลังสนุกอยู่และร้องเพลงตามไปด้วย แม่ของเธอก็ยิ้มกว้างสดใสขณะมองดูเด็กน้อย นี่เป็นช่วงเวลาที่พวกเราได้เห็นเสียงดนตรีก้าวข้ามผ่านเขตแดนระหว่างประเทศและเชื้อชาติและบันดาลให้เกิดสันติสุข อิซาเบลล่ามอบน้ำแอปเปิ้ลที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้ให้กับฉัน บอกว่า ‘ช่วยมอบให้ BLACKPINK ด้วยนะคะ’ ฉันสัญญากับเธอว่าจะส่งต่อให้แน่ เมื่อถามว่าตอนนี้ต้องการอะไรที่สุด อิซาเบลล่าก็ตอบว่า ‘หนทางที่จะได้กลับบ้าน’
ฉันเดินทางกลับเกาหลีพร้อมน้ำแอปเปิ้ลที่อิซาเบลล่าให้มาในมือ หวังว่าเธอจะได้กลับสู่บ้านและได้ชีวิตประจำวันกลับคืนมา ได้ร้องเพลงของ BLACKPINK กับเพื่อน ๆ ของเธอและมีความสุข/รู้สึกสนุก ฉันยังสัญญาไว้อีกอย่างด้วย นั่นคือฉันจะอยู่เคียงข้างจนกว่าเด็ก ๆ ทุกคนจะได้กลับไปใช้ชีวิตปกติรวมถึงอิซาเบลล่า
source: https://n.news.naver.com/article/028/0002589021
EN: BBU_BLACKPINK
TH: thepaleblood on twitter
1 note · View note
thtransthepaleblood · 3 years
Text
[trans] เส้นทางสู่การเป็นวงเกิร์ลแบนด์เคป๊อปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของ BLACKPINK
Note: บทความต้นฉบับถูกโพสต์บนเว็บตั้งแต่ก่อน Blackpink จะปล่อย How You Like That นะคะ
ด้วยอัลบั้มใหม่ของพวกเธอที่ใกล้จะปล่อยออกมา เจนนี่ จีซู โรเซ่ และ ลิซ่า อยู่ท่ามกลางความสำเร็จระดับโลกของพวกเธอ ตั้งแต่ทำลายสถิติยอดสตรีมไปจนถึงสร้างความตื่นเต้นให้กับเก้าอี้แถวหน้าของแฟชั่นโชว์ เรามาลองดูกันว่าพวกเธอทั้งสี่กลายมาเป็นหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปเพลงป๊อปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกได้อย่างไร
Blackpink ใช้เวลาเพียงสี่ปีเท่านั้นในการกลายเป็นหนึ่งในเกิร์ลแบนด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เมมเบอร์ของวง เจนนี่ จีซู โรเซ่ และลิซ่า ทุบสถิติใหม่ ๆ แล้วสร้างสถิติอันใหม่ขึ้นแทนอย่างต่อเนื่อง พวกเธอเป็นเกิร์ลกรุ๊ปเคป๊อปวงแรกที่ได้ขึ้นแสดงที่ Coachella และมียอดวิวบน Youtube ถึง 1,000 ล้านวิว และในตอนนี้ Blackpink ก็เป็นศิลปินกลุ่มที่มียอดผู้ติดตามสูงสุดบนแพลทฟอร์ม ทั้งยังเป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกจากประเทศใด ๆ ที่ได้อยู่ในรายชื่อ Under 30 ของ Forbes Asia
ในปี 2019 พวกเธอทำลายสถิติของกินเนสเวิร์ลเรคคอร์ดไปสามอันด้วยซิงเกิ้ล Kill This Love ที่มียอดสตรีมบน Spotify สูงกว่า 312 ล้านครั้งและยอดเข้าชมบน Youtube มากกว่า 824 ล้านวิว ซึ่งเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ส่วนเดียวของยอดสตรีม ยอดดาวน์โหลด ยอดวิว และยอดผู้ติดตามหลักพันล้านของสาว ๆ ทั้งสี่คน ในปีเดียวกันนั้น Blackpink ยังได้จัดทัวร์คอนเสิร์ตซึ่งเป็นทัวร์ของศิลปินกลุ่มหญิงเกาหลีที่ประสบความสำเร็จด้านเม็ดเงินมากที่สุด พวกเธอยังเป็นบุคคลประจำที่นั่งแถวหน้าของแฟชั่นโชว์และเป็น face ของแบรนด์ยักษ์ใหญ่หลายเจ้า รวมถึง Chanel, Puma, Louis Vuitton และ Dior ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นด้วยเพลงจำนวนน้อยนิดในรายชื่อเพลงของพวกเธอ แล้ว Blackpink ทำมันได้อย่างไรกัน
เกิร์ลแบนด์เจนใหม่
เพราะเป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกในรอบเจ็ดปีของ YG Entertainment (ค่ายของศิลปินที่เป็นตำนานแห่งวงการเคป๊อปอย่าง BigBang และ 2NE1 ทั้งยังเคยเป็นบ้านเก่าของ Psy) ความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นก่อนการเดบิวต์ในเดือนสิงหาคม 2016 ของ Blackpink จึงพุ่งสูงถึงขีดสุด พวกเธอต้องเจอกับงานหนัก วงเกิร์ลกรุ๊ปบุกเบิกที่เป็นที่รักอย่าง 2NE1 มาถึงจุดสิ้นสุด และ BLACKPINK ก็ถูกคาดหวังให้ชุบชีวิตแนว EDM pop ที่ฝังอยู่ในตัวพวกเธอ Square One ซึ่งเป็น EP เดบิวต์กลายเป็นเพลงฮิตถล่มทลายในชั่วข้ามคืน การบิลด์เพลงขึ้นอย่างต่อเนื่องของ Whistle และท่อนฮุคสุดมั่นใน Boombayah สร้างคำแนะนำตัวสั้น ๆ แต่ก็เร้าใจให้คนดูรู้จักกับ Blackpink
ในเดือนพฤศจิกายน 2016 อัลบั้มซิงเกิ้ลที่สอง Square Two ประกอบด้วยเพลงป๊อปสุดปังอย่าง Playing With Fire เพลง Whistle เวอร์ชั่นอะคูสติก และ Stay เพลงที่ได้รับอิทธิพลจากแนวคันทรี่ซึ่งเปิดโอกาสให้ Blackpink ได้ยืดหยุ่นโวคอลพวกเธอออกจากคอนเซปต์ ‘เกิร์ลครัช’ (ศัพท์ของวงการเคป๊อปสำหรับลุคที่ดูดุดันและดนตรีที่พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่าเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ฟังชาวต่างชาติ)
ถึงแม้ในช่วงรุกกี้ของพวกเธอจะถูกเรียกว่าเป็น ‘new 2NE1’ การได้ดูรายการวาไรตี้เกาหลีที่พวกเธอไปออกบางส่วนนำไปสู่การโฟกัสที่ความมุ่งมั่นของ Blackpink ในการแกะสลักเอกลักษณ์ของตัวเองนอกเหนือไปจากความบันเทิงสุดอลหม่านของพวกเธอเท่านั้น โวคอลอย่าง จีซู กลายเป็น face ให้กับแบรนด์เครื่องสำอางอย่าง Kiss Me และ Dior แรปเปอร์และโวคอลอย่าง เจนนี่ ขยับขยายไปเป็นศิลปินเดี่ยวกับ influencer ที่ทรงอิทธิพล โวคอลที่โดดเด่น ผู้เกิดที่นิวซีแลนด์อย่าง โรเซ่ ได้ร่วมร้องในเพลงฮิตของ G-Dragon ส่วนแรปเปอร์และแดนเซอร์จากเมืองไทยอย่าง ลิซ่า ก็เป็นเคป๊อปสตาร์ที่มียอดฟอลโลว์บน Instagram สูงที่สุด
จากตอนนั้นถึงตอนนี้ พวกเธอยอมรับถึงความต้องการในตัวกันและกันเพื่อเติมเต็มเคมีในวงซึ่งทำให้พวกเธอเป็นที่รักของผู้คนหลายล้าน “ฉันไม่คิดว่าเมมเบอร์คนใดคนหนึ่งควรจะเต้นมากกว่า หรือเมมเบอร์คนหนึ่งร้องเพลงมากกว่านะคะ ฉันว่าความกลมกลืนของ Blackpink สมบูรณ์ได้เพราะพลังงานของเมมเบอร์แต่ละคนค่ะ” เจนนี่บอกกับ Vogue Korea ก่อนหน้านี้
เหล่าบลิ๊งค์
อาวริล บลิ๊งค์ (ชื่อแฟนคลับของ Blackpink) วัย 16 ปีจากเปรูค้นพบพวกเธอในปี 2018 “ทุกอย่างเกี่ยวกับ Blackpink ทำให้ฉันกลายเป็นแฟนคลับค่ะ” เธอบอกกับ Vogue ผ่านทวิตเตอร์ “การแสดงของพวกเธอ เพลงและท่าเต้นดัง มิตรภาพของพวกเธอ หรือแม้แต่การแต่งตัว Blackpink (ทั้งหมด) อยู่ในอีกระดับหนึ่งเลย” ในขณะเดียวกัน แมคเอลวิน แฟนคลับขาประจำวงการเคป๊อปวัย 22 ปีจากฟิลิปปินส์นั้นติดตามมาตั้งแต่ก่อนพวกเธอเดบิวต์เสียอีก “Blackpink มีแรงดึงดูดและมีเสน่ห์” เขาอธิบายผ่านทวิตเตอร์ “พวกเธอคือภาพของความสามารถล้วน ๆ และ energy ที่วงเกิร์ลกรุ๊ปต้องมี สำหรับผม พวกเธอครบจบสมบูรณ์ทั้งหมด”
วิสัยทัศน์อันยาวนานของเคป๊อปในฐานะโลกแฟนตาซีสุดแวววาวและดึงดูดชวนฝันนี้ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัททั้งสาม YG Entertainment, JYP Entertainment และ SM Entertainment บริษัท YG เป็นที่รู้จักสำหรับงานภาพสุดตระการตาและดนตรีหนัก ๆ เหมาะเปิดในผับซึ่งเป็นผลงานของนักเขียนเพลง/โปรดิวเซอร์ประจำค่ายอย่าง เท็ดดี้ พัค ชายหนุ่มผู้อยู่เบื้องหลังเพลงดังที่สุดและติดหูที่สุดบางเพลงของวงการเคป๊อป และองค์ประกอบทั้งหมดนี้ถูกนำร้อยเรียงกันเป็นเพลงป๊อปสุดเกินต้านในเพลง Ddu-du-ddu-du (DDDD โดยย่อ) ในปี 2018 ของ Blackpink
แอลลี่ (นามสมมติ) วัย 19 ปี ชาวสิงคโปร์ที่ทำแอคแฟนคลับใหญ่บนทวิตเตอร์เรียก DDDD ว่าเป็น “การทะลวงอย่างหมดจดของพวกเธอ” ความสำเร็จนั้นฝังอยู่ในท่อนฮุคชวนติดหูซึ่งมีชื่อเพลงอยู่ ท่าเต้นทำมือเป็นรูปปืนที่น่าจดจำ และวิดีโอ��ุดอลัง และยังฝังอยู่ในตัว Blackpink เอง��ีกด้วย พวกเธอนั้นมุ่งมั่นทะเยอะทะยานแต่ก็สามารถเป็นแบบอย่างที่เดินรอยตามได้ ดุดันอย่างงดงามแต่ไม่ข่มขวัญ ฆ่าเรียบบนเวทีแต่นอกเวทีก็น่ารักน่าเอ็นดู EP ที่มีสี่เพลงอย่าง Square Up  ประสบความสำเร็จอย่างมากในเกาหลีใต้ ส่วน DDDD มียอดขายดิจิตอลถึง 500,000 ยูนิตในสหรัฐอเมริกา กลายเป็นวิดีโอยอดวิวพันล้านตัวแรกของพวกเธอ และ Kill This Love ก็ทำให้พวกเธอเป็นเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีวงแรกที่เข้าชาร์ตซิงเกิ้ลของสหราชอาณาจักรได้
ยิ่งน้อยยิ่งมากจริงหรือ?
ความสำเร็จเหล่านี้มาจากฐานแฟนคลับที่เติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงปลายปี 2016 แต่พวกเขาก็ต้องรออีกแปดเดือนสำหรับซิงเกิ้ลปี 2017 As If It’s Your Last และอีกหนึ่งปีเต็ม ๆ กว่า Square Up จะตามมา การปล่อยเพลงหนึ่งครั้งต่อปีเคยเป็นมาตรฐานในวงการเคป๊อปในตอนที่ยังมีวงแย่งชิงส่วนแบ่งของตลาดเล็ก ๆ ในประเทศน้อยกว่านี้ ณ ตอนนี้ วงเคป๊อปปล่อยเพลงกันปีละสองหรือสามครั้งโดยเฉลี่ย (เป็นที่รู้จักกันว่า ‘คัมแบค’) เพื่อพยายามขยายและรักษาฐานแฟนคลับเอาไว้ แต่ YG Entertainment หนึ่งในค่ายเพลงเคป๊อปที่เก่าแก่ที่สุดของเกาหลีใต้ ยังคงยึดหลัก ‘ยิ่งน้อยนิ่งมาก’ แบบไม่แคร์อะไรใด ๆ
นี่ไม่ใช่แผนเน้นปลอดภัยไว้ก่อน ทั้งยังนำมาซึ่งเสียงตำหนิ คำร้อง และคำขู่บอยคอตจากแฟน ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่วิธีแบบดั้งเดิมในยุคของความอิ่มตัวที่มากจนล้นและความพึงพอใจไม่มีหยุด ก็ได้สร้างแรงปรารถนาและความต้องการมากขึ้นไปอีก ทุกการคัมแบคถูกเปลี่ยนให้เป็นอีเวนท์ระดับโลก นำพลังสตรีมของแฟนคลับไปสู่ตัวเลขที่จะเป็นพาดหัวข่าวและระเบิดโปรแกรม spreadsheet ซึ่งดึงดูดผู้บริหารค่ายเพลงได้มากมาย
คนโปรดแถวหน้าของวงการแฟชั่น
ก็เหมือนอย่างนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จหลาย ๆ คน Blackpink เข้าใจถึงอำนาจในการผสานโลกดนตรีและโลกแฟชั่นเข้าด้วยกัน ความเข้าใจจากภายในของพวกเธอเรื่องสไตล์ทำให้พวกเธอเป็นที่นิยมอย่างมาก ด้วยตอนนี้ สาว ๆ เป็นขาประจำในที่นั่งแถวหน้าของแฟชั่นวีค เดือนกันยายน 2019 จีซูเดินทางไปลอนดอนสำหรับงานของ Burberry ส่วนโรเซ่ทำให้ผู้คนต้องตกตะลึงในงานของ Saint Laurent (ทั้งยังได้รับคำขอจาก Anthony Vaccarello ให้เป็นแบรนด์แอมบาสเซเดอร์) ในขณะเดียวกัน เจนนี่พบว่าเธอนั่งไหล่กระทบไหล่กับ Cardi B ที่งานของ Chanel ซึ่งเธอก็เป็นแบรนด์แอมบาสเซเดอร์ให้ทางแบรนด์อีกด้วย
เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 ลิซ่า ซึ่งตอนนี้เป็นมิวส์ให้กับ Celine ของ Hedi Slimance เดินทางไปยังมิลานสำหรับงาน Prada Autumn/Winter 2020 ด้วยพลังในการขายซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วของพวกเธอ นิตยสารที่มีรายงานว่าต้องพิมพ์เล่มเพิ่มเป็นสี่เท่าเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการและทัวร์คอนเสิร์ตซึ่งขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่กี่วินาที ความสัมพันธ์ระหว่าง Blackpink และแบรนด์ชั้นนำแห่งวงการแฟชั่นคงจะยังงอกงามต่อไปอีกนาน
แผนระดับโลก
Blackpink เซ็นสัญญากับ Interscope Records จากสหรัฐฯ ในช่วงปลายปี 2018 ซึ่งเป็นการเข้าสู่ตลาดอเมริกาโดยตรงและเป็นสิ่งที่ไม่มีเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีวงใดลองทำมาตั้งแต่ Girls’ Generation ในปี 2012 ทั้ง ๆ ที่มีทั้งทักษะและประสบการณ์ การแสดงในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ที่งุ่มง่ามและไม่น่าสนใจของ Blackpink ในรายการ Good Morning America และ The Late Show with Stephen Colbert กลายเป็นที่วิจารณ์ในวงกว้าง แต่ต่อหน้าผู้ชมที่ส่วนใหญ่ไม่รู้จักเคป๊อปมาก่อนจำนวนมากที่งาน Coachella เพลงของ Blackpink แพร่หลายไปทั่วและได้รับคำชื่นชมต่าง ๆ จุดที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือ Kill This Love สุดเร้าใจ เพลงไตเติ้ลจาก EP ใหม่ของพวกเธอ
Kill This Love เข้า top 40 ของสหราชอาณาจักรและ top 50 ของสหรัฐอเมริกา ส่งให้ Blackpink และ BTS เป็นวงป๊อปเกาหลีเพียงสองวงที่สามารถสร้างอิทธิพลต่อชาร์ตซิงเกิ้ลที่ไปถึงได้ยากเหล่านี้ มันจะมีคนที่ไม่สนใจเคป๊อปด้วยเหตุผลต่าง ๆ เช่น เรื่องกำแพงภาษา อยู่เสมอ แต่ถึงอย่างนั้น ก็เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ผู้ฟังที่ไม่ได้พูดภาษาเกาหลีเข้าถึงบทเพลงได้อย่างมีความหมาย และ Blackpink ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น “เพลงของพวกเธอทำให้คุณอินได้ เพลงที่จะสร้างความมั่นใจให้คุณ คุณสามารถลบล้างเศร้าออกไปได้หมดเลยโดยแค่ฟังเพลงของพวกเธอ” แมคเอลวินบอก ส่วนแซนซี บลิ๊งค์ชาวฝรั่งเศสวัย 18 ปี อธิบายถึงเพลงของ Blackpink ผ่านทางอีเมลว่าเป็น “การผสมกันระหว่างความเศร้าและความสุข Blackpink ใส่ความรักมากมายลงไปในทุก ๆ อย่างที่พวกเธอทำ พลังงานและออร่าพลังบวกจากพวกเธอนั้นแรงมาก”
เป็นเรื่องที่หาได้ยากที่เมมเบอร์ของวงจะไม่ยุ่ง แม้แต่ในเวลาที่ไม่มีเพลงให้โปรโมท พวกเธอมักจะใช้อินสตาแกรมเป็นช่องทางสื่อสารกับยอดผู้ติดตามรวมกัน 128 ล้านคน (รวมบัญชีหลักของ Blackpink (@blackpinkofficial) ด้วย) และเน้นความสนใจไปที่การทำให้สถานะเอ-ลิสต์ของตัวเองในฐานะแฟชั่นไอคอน (ยกตัวอย่างเช่น งานคอลแล็บเมื่อไม่นานมานี้ของเจนนี่กับแบรนด์แว่นหรูหรา Gentle Monster) เมนเทอร์ของวงการ และราชินีไวรัลโดยไม่ได้ตั้งใจนั้นมั่นคง (บทบาทของลิซ่าในรายการเซอร์ไวเวิล Youth With You และวิดีโอเต้นของเธอซึ่งกลายเป็นมีม Did it work?)
บทเพลงใหม่
และในที่สุด หนึ่งปีหลังปล่อยเพลงครั้งล่าสุด การรอคอยก็ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว BLACKPINK จะได้ทั้งร่วมงานกับ Lady Gaga ในเพลง Sour Candy จากอัลบั้ม Chromatica และคัมแบคในเดือนมิถุนายน บรรดาบลิ๊งค์ปลื้มอกปลื้มใจเป็นอย่างมาก “Blackpink ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยค่ะ” อาวริลกล่าว “ชื่อของพวกเธอยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ฉันภูมิใจมาก พวกเธอคู่ควรกับมัน” ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเพลงใหม่ก็จะกลายเป็นความสำเร็จอีกเหมือนกัน สำหรับสาว ๆ ทั้งสี่แล้ว พวกเธอไม่ที่ไหนให้ไปนอกจากก้าวขึ้นไปอีกเพียงเท่านั้น
คำถามอาจจะเป็นว่าความสำเร็จในครั้งนี้จะหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่ ในที่สุดพวกเธอจะกลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปเคป๊อปวงแรกที่เจาะตลาดตะวันตกได้หรือไม่ โอกาสอยู่ตรงนั้นให้คว้าแล้ว แต่นั่นแปลว่าความสำเร็จใหม่ ๆ ต้องได้รับการสนับสนุน ส่วนแผนงานเก่า ๆ ก็ต้องได้รับการทบทวนและขัดเกลา ณ ตอนนี้คือเวลาที่ Blackpink จะได้เป็นการปฏิวัติอย่างแท้จริง
source: Vogue India - https://www.vogue.in/culture-and-living/content/how-blackpink-became-the-biggest-k-pop-girl-band-in-the-world
TH: thepaleblood
กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมดค่ะ หากผิดพลาดตรงไหนรบกวนแจ้งที่ทวิตเตอร์ @thepaleblood นะคะ
2 notes · View notes
thtransthepaleblood · 4 years
Text
[trans] Lovesick Girls
Lovesick girls (สาวคลั่งรัก)
Lovesick girls 
ค่ำคืนที่ไม่รู้จักจบสิ้น
รักลวงเราให้ติดอยู่ในห้องไร้หน้าต่าง
พวกเราจะพูดอะไรได้
โหยหาความรักแม้มันจะทำให้เจ็บปวดไปทุกครั้ง
เจ็บปวดและพังทลายลง
ฉันไม่รู้ว่าอะไรยังยื้อฉันไว้
ยังไงถ้าฉันจากไป ในความเจ็บปวดที่เป็นอยู่นี้ ฉันจะเกลียดคุณ
เราจะจบมันลงก่อนที่มันจะจบลงจริงๆไม่ได้นะ
มันราวกับว่าพวกเราเฝ้ารอความทรมานนี้มาตลอด
บางทีทั้งหมดนี่อาจจะแค่ชั่วขณะหนึ่ง
อะไรคือสิ่งที่พวกเรากำลังมองหาอย่างไร้จุดหมาย
แต่ฉันไม่สน ฉันจะทำมันซ้ำแล้วซ้ำอีก
ฉันแค่ต้องการคุณในชีวิต
We are the lovesick girls (พวกเราคือสาวคลั่งรัก)
คุณจะทำให้ความรักครั้งนี้จบลงด้วยตัวคุณเองไม่ได้นะ
We are the lovesick girls
ไม่มีบาดแผลนี้ ฉันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว
แต่พวกเราเกิดมาเพื่ออยู่ตัวคนเดียว
ใช่แล้ว พวกเราเกิดมาเพื่อตัวคนเดียว
ใช่แล้ว พวกเราเกิดมาเพื่อตัวคนเดียว
แต่ทำไมเราถึงยังมองหาความรักอยู่อีกนะ
ไม่มีจดหมายรัก ไม่มีจูบ ไม่มีกอด
ไม่มีความรัก ไม่มีทาง แฟนเก่าฉันรู้ดี
ไม่มีแหวนเพชร ตามนั้นเลยนะ
แล้วก็ผ่านไป ควรจะถูกทิ้งไว้คนเดียวดีกว่า
ไม่ได้อยากเป็นเจ้าหญิง ฉันราคาสูงจนประเมินไม่ได้เลยล่ะ
เจ้าชายไม่ได้อยู่ในลิสต์ของฉันด้วยซ้ำ
ความรักคือยาเสพติดที่ฉันเลิกแล้ว
หมอไหนก็ช่วยไม่ได้เวลาฉันคลั่งรัก
บางทีทั้งหมดนี่อาจจะแค่ชั่วขณะหนึ่ง
อะไรคือสิ่งที่พวกเรากำลังมองหาอย่างไร้จุดหมาย
มองไปที่คุณด้วยสายตาที่กังวล
คุณคือทั้งหมดที่ฉันต้องการแม้มันจะเจ็บปวดก็ตาม
We are the lovesick girls (พวกเราคือสาวคลั่งรัก)
คุณจะทำให้ความรักครั้งนี้จบลงด้วยตัวคุณเองไม่ได้นะ
We are the lovesick girls
ไม่มีบาดแผลนี้ ฉันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว
แต่พวกเราเกิดมาเพื่ออยู่ตัวคนเดียว
ใช่แล้ว พวกเราเกิดมาเพื่อตัวคนเดียว
ใช่แล้ว พวกเราเกิดมาเพื่อตัวคนเดียว
แต่ทำไมเราถึงยังมองหาความรักอยู่อีกนะ
ความรักลื่นไถลและตกลงไป
ความรักกำลังฆ่าคุณอยู่นะที่รัก
ความตื่นเต้นที่ไม่เกรงกลัวนั่นกลับมาอีกครั้งในตอนที่บาดแผลทุเลาลง
ฉันไม่ได้ยินว่าคุณพูดอะไร
ฉันมีความสุขกับบาดแผลนี้นะ
คุณสงสารฉัน แต่ฉันสงสารคุณที่มาสงสารฉันยิ่งกว่าอีก
We are the lovesick girls (พวกเราคือสาวคลั่งรัก)
คุณจะทำให้ความรักครั้งนี้จบลงด้วยตัวคุณเองไม่ได้นะ
We are the lovesick girls
ไม่มีบาดแผลนี้ ฉันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว
1, 2!
Lovesick Girls
ในที่สุดทุกคนก็ออกไป
Lovesick Girls
ฉันชินชากับการร้องไห้แล้วล่ะ
Lovesick Girls
เจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่า
Lovesick Girls
แต่พวกเราก็ยังคงมองหาความรัก
via: translation in MV and genius.com
TH:thepaleblood  
กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตค่ะ
1 note · View note
thtransthepaleblood · 4 years
Text
[trans] BLACKPINK พูดถึง ‘The Album’ “แสงสปอตไลท์ที่สาดมาหา K-Pop นั้นเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น”
📌 กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมดค่ะ หากมีข้อผิดพลาดตรงไหน รบกวนแจ้งที่ทวิตเตอร์ @thepaleblood นะคะ  📌
ณ จุดหนึ่งของบทสนทนา หัวข้อเรื่องความกดดันในการเป็น BLACKPINK ก็โผล่ขึ้นมา ปลายสายเงียบไปสักพัก ต่างจากเสียงหัวเราะที่มีชีวิตชีวาก่อนหน้านั้นอย่างสิ้นเชิง อาจเป็นนัยถึงการคิดทบทวนในขณะที่เมมเบอร์ทั้งสี่คนของ BLACKPINK ลิซ่า เจนนี่ จีซู และโรเซ่คิดถึงฉายาที่มักถูกพูดถึงคู่กับชื่อวงของพวกเธอบ่อย ๆ นั่นคือ “เกิร์ลกรุ๊ปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก”
แต่นั่นก็ไม่ใช่การกล่าวเกินจริง แค่มองดูตัวเลขก็สามารถพิสูจน์เรื่องนี้ได้ ใน 24 ชั่วโมงแรกของการปล่อยเพลงของพวกเธอในเดือนมิถุนายน เพลง pre-release แรกจาก The Album “How You Like That” ก็ทุบสถิติโลกของกินเนสไปห้าสถิติ ด้วยยอดวิว 86.3 ล้านครั้งในตอนนั้นจึงทำให้มันกลายเป็นวิดีโอบน Youtube และ Music Video ที่มียอดผู้เข้าชมสูงที่สุดในโลก “How You Like That” ยังเปิดตัวที่อันดับ 33 บนชาร์ต Billboard Hot 100 เสมอกับเพลง “Sour Candy” ของ Lady Gaga ที่พวกเธอร่วมฟีทด้วย ส่งผลให้ BLACKPINK เป็นศิลปินหญิงของเกาหลีใต้ที่มีอันดับสูงสุดในขณะนั้น
ก่อนหน้านี้ในปี 2019 สาว ๆ ทั้งสี่กลายเป็นวง K-Pop วงแรกที่มียอดวิวถึง 1 พันล้านครั้งบน Youtube ด้วยซิงเกิ้ล “Kill This Love” พวกเธอยังส่งการแสดงของเพลง Kill This Love สุดร้อนแรงที่ Coachella ตามมาด้วย และสร้างหน้าประวัติศาสตร์อีกครั้งในฐานะวงเกิร์ลกรุ๊ป K-Pop วงแรกที่สามารถทำอย่างนั้นได้
นอกจากความหนักอึ้งที่มาจากฉายานั้นแล้ว ชื่อดังกล่าวยังครอบคลุมการเดินทางครั้งใหญ่ที่ทั้งสี่คนต้องผ่านมาในช่วงเวลาที่ใช้ก่อร่างสร้างวง ถ้าให้ชัดเจนก็คือสี่ปี เพราะฉะนั้น ขอเวลาสักสองสามวิจากเมมเบอร์ของ BLACKPINK ในการคิดถึงเรื่องนี้ รบกวนด้วยนะ
“มันทำให้พวกเราประหลาดใจมากเลยค่ะ” ในที่สุด เจนนี่ก็เอ่ยขึ้น “ทุกๆวัน พวกเราพยายามจะยอมรับว่าเราซาบซึ้งใจขนาดไหน แต่มากกว่าความกดดันนั้น พวกเราพร้อมที่จะตอบแทนพวกเขากลับไปให้มากเท่าที่พวกเขา (แฟนคลับของพวกเธอ บลิ๊งค์) มอบให้เรา มันมอบแรงผลักดันให้พวกเราไปไกลยิ่งกว่าที่พวกเราได้ฝันไว้ค่ะ”
ถ้าคุณคุ้นเคยกับลักษณะพื้นฐานของ BLACKPINK ล่ะก็ คุณจะเห็นแววของมันมา��่อนแล้ว สำหรับส่วนที่ดีกว่าของช่วงสี่ปีนั้น บรรดาเมมเบอร์ยืนหยัดกับข้อความเรื่องความมั่นใจและการรู้จักตนเองในบทเพลงของพวกเธอ ไม่ว่าจะเป็นความท้าทายไหน หนทางของ BLACKPINK ก็คือการทะยานขึ้นไปเสมอ และตอนนี้ ในขณะที่พวกเธอเตรียมพร้อมที่จะทำให้ตัวเองคุ้นเคยกับโลกใบนี้อีกครั้งด้วยอัลบั้มเต็มแรก The Album ความมุ่งมันเดียวกันนั้นมีอยู่มากมาย
“พวกเราพยายามใส่สีสันเข้าไปในเพลงของเราให้มากขึ้นค่ะ อย่างสีดำ (black) และสีชมพู (pink)” ลิซ่ากล่าว “ฉันหวังว่าเมมเบอร์แต่ละคนจะมีการแสดงออกบนเวทีที่แข็งแรงมากขึ้น และออกสำรวจแนวเพลงต่างๆมากกว่านี้ค่ะ และก็หวังว่าผู้คนจะไม่รู้ว่าจะคาดหวังอะไรจากพวกเรานอกเหนือไปจากสิ่งที่ดียิ่งขึ้น เราอยากเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้”
ก่อนการปล่อย The Album GRAMMY.COM ได้มานั่งจับเข่าคุยกับ BLACKPINK ถึงเรื่องงาน ความสำเร็จ แรงผลักดัน และอนาคต
นี่จะเป็นอัลบั้มเต็มแรกของคุณหลังเดบิวต์ กระแสเลยจริงมาก ๆ ตอนคุณได้ยินว่ากำลังมีกระแสอยู่ อารมณ์ของคุณเป็นยังไงหรอ
โรเซ่: ตอนแรกเริ่มเลยนะคะ ตอนพวกเขาบอกว่าเราจะปล่อยอัลบั้มแรกของเรา เราตื่นเต้นมากค่ะเพราะรู้ว่าแฟน ๆ ของเรารอคอยเวลานี้กันมานานมาก ๆ เราตื่นเต้นมากแต่ก็กังวลในเวลาเดียวกันเพราะเรารู้ว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ เป็นครั้งแรกเลยที่พวกเราได้ดึงสีสันของเราทั้งหมดออกมาแล้วใส่เข้าไปในอะไรสักอย่าง พวกเรามีความรู้สึกที่ปนเปกันไปนะคะ แต่โดยรวม ๆ แล้วมันก็เป็นบรรยากาศในทางบวกมาก และเราก็ตื่นเต้นมากที่ในที่สุดก็ได้ปล่อยอัลบั้มเต็มค่ะ
The Album กำลังจะปล่อยออกมาหลังเกือบสี่ปีของการเดบิวต์ ซึ่งก็เป็นเวลาที่นานนะ ทำไมคุณถึงคิดว่านี่คือเวลาที่เหมาะสมสำหรับมันล่ะ
โรเซ่: พวกเราใช้เวลาสี่ปีในการสร้างสีสันของตัวเองในฐานะ BLACKPINK ตลอดสี่ปีนั้น พวกเราได้สำรวจแนวเพลงต่าง ๆ กันและเจอสีสันที่ใช่และชัดเจนของเราค่ะ เพราะฉะนั้น ฉันถึงรู้สึกว่า (ใน) อัลบั้มนี้ พวกเราสามารถใส่สไตล์ดนตรีที่เราเตรียมไว้ รวมกับแนวเพลงใหม่ ๆ ที่พวกเรายังคงสำรวจอยู่เมื่อเร็ว ๆ นี้ (นั่นเลยเป็นสาเหตุว่าทำไม) ฉันถึงคิดว่าตอนนี้คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะปล่อยอัลบั้ม เพราะถ้ามาหลังจากนี้มันก็จะช้าไป และถ้ามาก่อนหน้านี้ พวกเราก็อาจจะเร่งเกินไป เรารู้สึกว่าตอนนี้แหละ พวกเราพร้อมที่จะปล่อยอัลบั้มเต็มที่เสร็จสมบูรณ์สุด ๆ แล้วค่ะ
คุณคิดว่าอัลบั้มนี้สื่อถึงศิลปินแบบที่คุณเป็นยังไง มันแสดงถึงสีสันของคุณยังไงหรอ
เจนนี่: ฉันว่าพวกเราเคยพูดเรื่องนี้ไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่อัลบั้มใหม่ของพวกเราเต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ค่ะ เราชอบที่จะเชื่อว่ามันเป็นอะไรที่ไม่เคยมีใครลองมาก่อน เราอยากนำอะไรใหม่ ๆ มา อัลบั้มนี้มันเจ๋งค่ะ และเราก็พยายามเอาสีสันทั้งหมดของ BLACKPINK ที่เราได้สร้างขึ้นมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว
คุณเริ่มต้นปีนี้ด้วยงานคอลแล็บที่น่าทึ่ง อะไรคือสิ่งที่คุณมองหาเวลาทำงานกับศิลปินท่านอื่น ๆ อะไรคือพื้นที่ตรงกลางระหว่างสไตล์ของคุณและสไตล์ของพวกเขา
เจนนี่:  ในเมื่อพวกเรามีกันอยู่สี่คนแล้ว เราเลยปรับตัวสุด ๆ เวลาทำงานกับคนอื่น เพื่อคนมาใหม่จะเป็นที่ต้อนรับเสมอ พวกเขานำมุมมองใหม่ ๆ มาให้วงของเรา มันเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดนะคะ เหมือนเราได้ก้าวออกจากขอบเขตปกติของเราเองไปสู่โลกที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อน การได้สร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ กับศิลปินที่ยอดเยี่ยมอย่าง Lady Gaga และ Dua และอีกมากมาย(ที่จะเกิดขึ้น) มันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเราในฐานะศิลปินและในฐานะวงค่ะ
การทำ The Album แตกต่างไปจาก EP ก่อน ๆ ของพวกคุณยังไง The Album ค่อนข้างเหนียวแน่นกว่านะ มันยาวกว่า เพลงเยอะกว่า และมีโอกาสมากกว่าด้วย มันเป็นยังไงบ้างหรอ
โรเซ่: ���น่นอนค่ะ เพราะมันไม่เหมือนโปรเจคแยกออกไปเลยเหมือนอย่างที่เราทำ ในอดีต เวลาเราทำโปรเจคเดี่ยว ทั้งหมดก็จะเกี่ยวกับเพลง “เพลงหนึ่ง” หรือคอนเซปต์ “แบบหนึ่ง” ที่เราปรากฏตัวพร้อมมันเป็นหลักค่ะ แต่เพราะนี่คืออัลบั้ม พวกเราต้องคิดถึงความไหลลื่นและความหมายเบื้องหลังของมัน ฉันรู้สึกว่ารอบนี้มีเพลงส่วนตัวอยู่ในนั้น (ในอัลบั้ม) ด้วยค่ะ เป็นสิ่งที่บอกเล่าเรื่องราวของพวกเรา เป็นอะไรที่สนุก
และเพราะชื่อของพวกเราคือ BLACKPINK พวกเราแสดงถึงความหลากหลายในบุคลิกของเรา ทั้งในฐานะปัจเจกบุคคลและในฐานะศิลปิน เราเลยรู้สึกว่าพวกเราต้องผลักดันและพูดถึงเรื่องนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ค่ะ
คุณเล่าให้ฉันฟังว่าอัลบั้มนี้เปลี่ยนจากคอนเซปต์ไปสู่รูปสุดท้ายยังไงและคุณแสดงสีสันยังไง มีส่วนไหนในกระบวนการผลิตที่คุณให้ความสนใจเป็นพิเศษไหม
โรเซ่: ฉันรู้สึกว่าพวกเราอยู่ในสตูดิโอกันสักพัก เราไม่อยากให้แค่มีเพลงจำนวนหนึ่งเขียนเตรียมไว้ให้เราแล้วเราก็ไปอัดเสียง เราใช้เวลาอยู่ในสตูดิโอเยอะมากค่ะ พยายามหาว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเราอยากร้องจริง ๆ ดนตรีแบบไหนที่เราอยากปล่อยออกมา เราใช้เวลาสักพักในการรวบรวมรายชื่อเพลงดี ๆ เพื่อเราจะได้เข้าสู่โหมดอัดเพลงได้ นั่นเป็นกระบวนการที่ใหญ่มากนะคะ เราแฮงก์เอาท์กันในสตูดิโอและทำให้แน่ใจว่าเราสนุกกัน เพื่อเราจะได้ตรงไปตรงมาได้
มาคุยกันถึงความสำเร็จเมื่อเร็ว ๆ นี้ของพวกคุณสักหน่อยดีกว่า คุณทำลายสถิติที่หลาย ๆ คนเคยคิดว่ามันคงไม่สามารถทำให้สำเร็จได้โดยเฉพาะสำหรับศิลปินเอเชีย คุณขึ้นแสดงที่ Coachella คุณเป็นศิลปิน K-Pop ที่มียอดผู้ติดตามสูงที่สุดใน Youtube “How You Like That” ทุบสถิติมากมายทันทีหลังจากที่ปล่อยออกมา ด้วยทั้งหมดนั่น แรงกดดันของการเป็น BLACKPINK ต้องรุนแรงมากแน่
เจนนี่: มันเป็นเรื่องที่ทำให้พวกเราประหลาดใจมากค่ะ สถิติทั้งหมดเป็นผลจากแฟน ๆ ของพวกเรา บลิ๊งค์ และการสนับสนุนที่ไม่มีเงื่อนไขของพวกเขา ทุก ๆ วันพวกเราพยายามแสดงให้เห็นว่าเราซาบซึ้งใจขนาดไหน แต่ยิ่งกว่าความกดดัน พวกเราเตรียมพร้อมที่จะตอบแทนพวกเขากลับไปให้มากเท่าที่เราได้รับ มันผลักดันให้เราก้าวไปไกลยิ่งกว่าที่เราเคยฝันค่ะ
มันมีเส้นกั้นระหว่างตัวตนที่คนอื่นมองเห็นและตัวตนจริง ๆ คุณทำให้แน่ใจยังไงว่าความคาดหวังที่คนอื่นมีต่อคุณนั้นสมจริง คือสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตการงานของคุณ ไม่เป็นการสะท้อนคนที่คุณเป็นก็เป็นสิ่งที่แยกจากกันไปเลย
จีซู: พวกเราซึ้งใจนะคะ ในฐานะศิลปิน ในฐานะปัจเจกบุคคล ที่ผู้คนคาดหวังกับเรามาก และเราก็พร้อมที่จะแบกรับภาระที่มาพร้อมกับความคาดหวังนั้น เรา เลือก ที่จะทำแบบนี้ค่ะ เราพยายามสื่อสารข้��ความนั้นผ่านดนตรีของพวกเรา เพื่อแสดงให้เห็นความมั่นใจและความกล้าของเราในการรับความท้าทาย
ฉันรู้สึกเหมือนตอนนี้คุณไปเกินคอนเซปต์ของเกิร์ลกรุ๊ปดั้งเดิมแล้วนะ BLACKPINK ไม่ได้เป็นแค่ชื่อ มันเหมือนกลายเป็นพลังธรรมชาติที่ทุกคนรู้ว่าพวกคุณเป็นใคร ด้วยตำแหน่งแบบนั้น มันต้องมีอันตรายจากการคิดว่า “ฉันไม่เป็นไรที่จะอยู่ตรงนี้ ฉันโอเค มันสบายดี” ตำแหน่งนั้นจะสร้างขีดจำกัดให้กับการเติบโต พวกคุณทำให้แน่ใจได้ยังไงว่าคุณคอยนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอด
โรเซ่: ในขณะที่พวกเรารู้สึกขอบคุณมากกับจำนวนความสำเร็จที่เราทำได้และทุก ๆ อย่างที่ตามมาจากมัน เราก็เป็นแค่สาวน้อยสี่คนที่รักดนตรีมากอยู่เสมอ และเราก็สนุกกับการแสดงค่ะ การเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ จึงไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป เรามองสิ่งที่อยู่ถัดไปอยู่เสมอ ฝันถึงเรื่องต่าง ๆ ที่พวกเราอยากทำมาตลอด แต่เราจะไม่หยุดอยู่แค่สิ่งที่เรามีในตอนนี้แน่นอนค่ะ พวกเราทุกคนโลภมากเมื่อเป็นเรื่องนี้ (หัวเราะ)
เจนนี่: เรามีกันและกันให้มองดูและเกิดแรงบันดาลใจ เราบอกให้รู้กันว่าเรากำลังทำอะไรอยู่และกำลังมุ่งไปทางไหน
ลิซ่า: พวกเราเหมือนเป็นคน ๆ เดียวกันเลยค่ะ
โรเซ่: ฉันว่าเมมเบอร์ของเราทุกคนพยายามย้ำเตือนกันว่าเราเป็นแค่มนุษย์นะ กระแส/ความคลั่งไคล้ เราพยายามไม่ให้มันมาถึงตัวเรา/ทำให้เราลอย พวกเราไม่แบบว่า “โอ้ พระเจ้า พวกเราทำลายสถิติได้เยอะขนาดนี้เลยหรือนู่นนี่นั่น…” เราแค่มองกันและก็...
จีซู: เราก็แค่มีความสุขว่าเรามาได้ไกลขนาดไหน
คุณคิดว่าคุณโตขึ้นยังไงเมื่อเทียบกับตอนเป็นเด็กฝึก
โรเซ่: พอเป็นงานนี้ พวกเราก็เป็นมืออาชีพขึ้นนิดหน่อยล่ะมั้งคะ ตอนเรายังเป็นเด็กฝึก เราก็ฝึกสำหรับงานเพลงอย่างเดียว แต่งานนี้มันเป็นงาน/อาชีพจริงๆค่ะ
เจนนี่: มันมีเรื่องให้สนใจมากกว่าแค่ดนตรีเยอะมากเลยค่ะ แต่ยังรวมถึงการแสดงพฤติกรรม/มารยาทในฐานะคนที่มีอิทธิพลหรือคนที่เป็นที่นับถือด้วย
ลิซ่า: เราแค่มีความสุขกับทุกย่างก้าวของมันค่ะ และเวลาเราอยู่นอกกล้อง พวกเราก็ค่อนข้างจะยังเป็นแค่สาวน้อยสี่คน
โรเซ่: สาววัยรุ่นค่ะ (หัวเราะ)
บอกฉันหน่อยสิว่าหลังปล่อยอัลบั้มแล้วพวกคุณจะผ่อนคลายกันยังไง จะมีปาร์ตี้หรือสังสรรค์กันที่บ้านในกลุ่มสาว ๆ ไหม
โรเซ่: สิ่งที่บ้าก็คือหลังปล่อยอัลบั้มออกมา พวกเราจะโปรโมทและทำคอนเทนต์ข้างนอกนั่นให้มากที่สุดทันทีเลยเพื่อแฟนๆ ของพวกเราค่ะ แน่นอนว่าคงมีฉลองแต่ฉันว่าพวกเราจะอยู่ในโหมดทำงาน
เจนนี่: แต่เป็นโหมดทำงานที่ตื่นเต้นนะคะ เพราะแฟน ๆ มีอัลบั้มอยู่ในมือกัน
ลิซ่า: (ตะโกนมาจากด้านหลัง) พวกเราเป็นพวกบ้างานค่ะ!
โรเซ่: และการฉลองที่ใหญ่ที่สุดของเราก็จะประมาณ อยู่บ้าน ซุกอยู่ในเตียง นอนมันทั้งวัน อะไรแบบนั้นจะเกิดขึ้นค่ะ หวังว่านะ
การโปรโมทหลาย ๆ อย่างของพวกคุณอาจจะไม่เป็นไปตามแผนเพราะโควิด การประสานพลังกันกับแฟน ๆ ของคุณมีผลต่อการแสดงของคุณยังไงบ้าง คุณคาดหวังอะไรในครั้งนี้
จีซู: ถึงโอกาสที่พวกเราจะได้เจอกับแฟน ๆ ของเราด้วยตัวเองจะมีน้อยลง แต่ณ จุด ๆ นี้ เราก็ซาบซึ้งใจกับโซเชียลมีเดียค่ะ ที่จริงฉันรู้สึกเหมือนว่าเพราะพวกเรามีโซเชียลมีเดีย เราเลยมีพื้นที่ให้เชื่อมต่อกับแฟน ๆ มากขึ้นในระดับที่ใหญ่ขึ้น เราเลยรู้สึกขอบคุณมันในครั้งนี้ เราแค่หวังว่าเราจะไปถึงแฟน ๆ และมอบความหวังให้กับพวกเขาผ่านดนตรีและคอนเทนต์ได้มากขึ้นค่ะ
พวกคุณอยู่ในตำแหน่งที่คุณเป็นหนึ่งในผู้นำการแผ่ขยายของ K-Pop ในปัจจุบัน ตั้งแต่คุณเดบิวต์มา พวกเราได้เห็น K-Pop เติบโตขึ้นมาก ๆ คุณคิดว่าส่วนตัวแล้วคุณมีความรับผิดชอบแบบไหนในการแผ่ขยายของ K-Pop ไปทั่วโลก
โรเซ่: มันเป็นเรื่องน่าทึ่งที่ K-Pop เผยแพร่ไปรอบโลกในฐานะวัฒนธรรมในตัวมันเอง มีศิลปิน K-Pop อื่น ๆ อีกหลายท่านข้างนอกนั่นที่พยายามจะปล่อยเพลงออกมาในตอนนี้ เรารู้สึกซึ้งใจมากค่ะที่เราจะได้ก้าวเข้าไปและเป็นส่วนหนึ่งของการทำอย่างนั้น
เจนนี่: เพราะเราได้รับโอกาสและสถิติที่สุดยอดเหลือเกินจากผู้คนที่สนใจจะดู K-Poo อยู่ในตอนนี้ เราอยากจะรับความรับผิดชอบนั้นค่ะ เราทุ่มเทกับงานเต็มที่ เราอยากรู้สึกภูมิใจเวลามองกลับไปในประวัติศาสตร์ของพวกเราตอนแก่แล้วค่ะ
(โรเซ่หัวเราะ)
เจนนี่: เราอยากภูมิใจในตัวเอง ฉันไม่อยากทำให้ตัวพวกเราเองต้องผิดหวังค่ะ เราเลยเพิ่มเวลา เพิ่มความพยายามเป็นพิเศษกับทุกซิงเกิ้ลที่เราปล่อยออกมา ฉันว่านั่นเลยเป็นสาเหตุว่าทำไมสำหรับพวกเราแล้วมันถึงใช้เวลานิดหน่อย แต่เราอยากทำให้คุณภาพของสิ่งที่เราปล่อยออกไปนั้นสมบูรณ์แบบ เพื่อเราจะได้เป็นตัวแทนวง K-Pop ให้กับผู้คนทั่วโลกค่ะ
โรเซ่: มันน่าทึ่งนะคะกับสิ่งต่าง ๆ ที่กำลังเป็นไป มันเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็เป็นความรับผิดชอบที่ดีที่พวกเรามีค่ะ
source: grammys - https://www.grammy.com/grammys/news/blackpink-talk-album-spotlight-shed-k-pop-just-beginning
TH: thepaleblood
5 notes · View notes
thtransthepaleblood · 4 years
Text
[trans]ชาวเน็ตพูดถึงเพลงที่ดีที่สุดของ BLACKPINK, Twice, Izone และ Red Velvet
เจ้าของกระทู้: BLACKPINK - Kick It
youtube
ความเห็นอื่น ๆ ในกระทู้
-อ่า~ ของ BLACKPINK ควรจะเป็น Forever Young นะ~
-ฉันฟังเพลงของ BLACKVELVET มาทุกเพลงละ คิคิคิ ตั้งตารอการปล่อยอัลบั้มปกติอัลบั้มแรกของ BLACKPINK อยู่นะ
- Red Velvet:  In & Out
  BLACKPINK:  Don’t Know What To Do
-Twice: Do It Again
  BLACKPINK:  Don’t Know What To Do
  Red Velvet:  In & Out
  Izone: Sunflower
-พูดอะไรของคุณเนี่ย อันที่ดีที่สุดคือ Really ของ BLACKPINK ต่างหาก
-BLACKPINK: Forever Young
-Really ของ BLACKPINK
-Stay ของ BLACKPINK
-See You Later ของ BLACKPINK
-ชอบทุกเพลงของ BLACKPINK และ Red Velvet มากเลย...ฉันเลือก See You Later กับ Love Is The Way
-See You Later ของ BLACKPINK
-คุณพูดถูกนะเรื่องเพลง Kick It ของ BLACKPINK
-Don’t Know What To Do ของ BLACKPINK !!!!!!!
-ควรจะเป็น Don’t Know What To Do ของ BLACKPINK ไม่ใช่หรอ
-BLACKPINK: Don’t Know What To Do และ Forever Young
-สำหรับฉันคือ Stay ของ BLACKPINK ล่ะ ฮึฮึ
-ของฉันเป็น See You Later นะ
-ชอบเพลง Stay ของ BLACKPINK อะ
-ทำไมถึงไม่มี Don’t Know What To Do ของ BLACKPINK ล่ะ
-แน่นอนว่าเป็น Forever Young
source: theqoo- https://theqoo.net/index.php?mid=hot&filter_mode=normal&page=2&document_srl=1623119826
EN: lilitopian
TH: thepaleblood
0 notes
thtransthepaleblood · 4 years
Text
[trans]คห.ชาวเน็ตกับการที่BLACKPINKมียอดพรีออเดอร์อัลบั้มเต็มแรกของพวกเธอเกิน800,000ชุด
-ฮอล! แดบัก!
-ดูเหมือนจะขายดีนะ ตั้งตารออัลบั้มอยู่
-BLACKPINKคือตำนาน!
-พวกเธอจะขายได้800,000แบบง่ายๆเลยเมื่อคิดว่าวันนี้/ตอนนี้พวกเธอเป็นที่รู้จักขนาดไหน
-แต่ฉันไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรว่าทำไมพวกเธอถึงคัมแบคช่วงชูซอก(T/N: 30กันยา-2ตุลาเป็นช่วงวันหยุดยาวเนื่องในเทศกาลชูซอกของเกาหลีค่ะ)
-ถ้าตอนนี้พวกเธอมียอดพรีออเดอร์รวมสะสมถึง800,000แล้ว ชัดเจนว่าพวกเธอจะขายได้มากกว่านั้น(ในเวลาต่อไป)
-นี่เป็นอัลบั้มปกติแรกอัลบั้มแรกของ BLACKPINK ฉันเลยตั้งตารอมันอยู่
-อะไรนะ สุดยอดอะ! ที่น่าทึ่งกว่าคือนี่เป็นอัลบั้มปกติอัลบั้มแรกของพวกเธอ
-ความต้องการอัลบั้มสูงมากเลย เพราะฉะนั้น ได้โปรด มาปล่อยอัลบั้มให้บ่อยกว่านี้กันเถอะ
-พวกเธอกำลังสร้างประวัติศาสตร์ให้ไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปถ้าพวกเธอขายได้มากขนาดนี้ หวังว่าจะไปถึง1ล้านอัลบั้มนะ
-โว้ว! แฟนคลับของBLACKPINKโตไปเยอะขนาดนั้นเลยหรอ *สั่น* แดบัก!
-ไอดอลกรุ๊ปฝั่งชายคือBTS ไอดอลกรุ๊ปฝั่งหญิงคือBLACKPINK
-นี่มันอย่างบ้า! นี่เป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดตลอดกาลสำหรับไอดอลหญิงเลยนะ
-BLACKPINKมีแฟนคลับอยู่ทั่วโลก! พวกเธอกำลังเขียนหน้าประวัติศาสตร์!
-ฉันอยากให้BLACKPINKสร้างสถิติใหม่ให้กับไอดอลหญิง
-ฉันหวังว่าจะไปถึง1ล้านอัลบั้มเลยนะ
-ยังไม่ได้ซื้ออัลบั้มเลย ควรจะรีบไปซื้อให้เร็วที่สุด
-ฉันก็จะซื้อสักอัลบั้มเหมือนกัน
-S.E.Sขายได้760,000อัลบั้ม งั้นBLACK PINKก็จะขึ้นอันดับ1ไป
-นี่เป็นอัลบั้มปกติอัลบั้มแรก ทุกคนเลยดูบ้าคลั่งกับการซื้ออัลบั้มกัน นี่จะเป็นครั้งแรกที่วงไอดอลหญิงขายได้1ล้านอัลบั้มรึเปล่านะ
-แค่ในเกาหลีใต้ พวกเธอก็ขายได้เกิน 500,000แล้วหรอ...บ้าไปแล้ว!
-BLACKPINKก็อยู่มานานแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเธอจะปล่อยอัลบั้มปกติงั้นหรอ จริงจังนะ YGไม่ได้สนับสนุนBLACKPINK เลยสักนิด
-BLACKPINKเติบโตมาอย่างดีและจะยิ่งขยายใหญ่ขึ้นไปอีกในอนาคต
-ยังไม่ได้ซื้อสักบั้มเลยแต่ฉันต้องไปซื้อมัน
-นี่เป็นอัลบั้มปกติแรกและพวกเธอก็ขายได้มากขนาดนี้แล้วㅠㅠㅠทำได้ดี BLACKPINK
-YG นี่เป็นอัลบั้มปกติอัลบั้มแรกสุดของพวกเธอได้ยังไงกัน
-พวกเธออยู่มาก็นานล่ะนะ แต่นี่เป็นอัลบั้มปกติแรกของพวกเธองั้นหรอ
-สุดยอดอ่า ฉันต้องไปซื้ออัลบั้มละ
-ฉันก็จะซื้อด้วยอัลบั้มนึงเหมือนกัน
-ตัวท็อปในบรรดาแฟนคลับของเกิร์ลกรุ๊ป
-ก็อดแบล็คพิงค์!
-โว้ว! สำหรับวงไอดอลหญิงบางวง ขายให้ได้100,000อัลบั้มยังเป็นเรื่องยากเลย แต่ BLACKPINKอยู่ข้างนอกนั่นด้วยยอดพรีออเดอร์เกือบ1ล้านชุด
-ยอดพรีออเดอร์ของTreasureขยับขึ้นจาก
100,000ไปเป็น150,000และ200,000 อัลบั้ม ถ้าคุณมองแบบนี้ BLACKPINKก็มี
แนวโน้มที่จะมียอดพรีออเดอร์เกิน1ล้านชุดใน1สัปดาห์นะ
-จนถึงตอนนี้พวกเธอยังไม่ได้ปล่อยอัลบั้มปกติเลยงั้นหรอ
-ฉันไม่ใช่แฟนคลับนะแต่อยากซื้อจัง...เชี่ยเอ๊ย! ฉันรอBLACKPINKปล่อยอัลบั้มปกติมานานมากๆอะ! YG..พวกเวรนั่น
source:theqoo-https://theqoo.net/index.php?mid=hot&filter_mode=normal&page=2&document_srl=1599892315
EN:lilitopian
TH:thepaleblood
0 notes
thtransthepaleblood · 4 years
Text
[trans] แฟนแอคของคุณ @lalisjihope
-จีซูรับสายเป็นคนแรก เธอบอกฉันว่าเธอชอบเมคอัพและผมจุกของฉัน -แล้วฉันก็ถามว่าเธอเป็นยังไงบ้างและบอกเธอว่าเธอดูสวย -ฉันถามจีซูเกี่ยวกับตอนที่เธอบอกว่าจะแร็พท่อนของลิซ่าและถามว่าพวกเราสามารถตั้งตารอแรพเปอร์จีซูในอัลบั้มใหม่ได้มั้ย! เธอบอกว่าเธอกำลังพยายามอยู่! ฉันเลยบอกประมาณว่าเอาตรงๆนะ อะไรก็ตามที่คุณทำมันเจ๋งทั้งนั้น!! จีซูหัวเราะแล้วขอบคุณฉัน!! -จากนั้นฉันก็คุยกับเจนนี่! ฉันบอกเธอว่าชุดของเธอน่ารักมาก เธอบอกขอบคุณและบอกว่าวันนี้เธอพยายามให้(ออกมา)ดูน่ารัก! เจนนี่บอกฉันอีกว่าเธอชอบเมคอัพและทรงผมของฉัน! -ฉันบอกเธอเกี่ยวกับงานคอลแล็บJentle Houseและบอกว่ามันดีขนาดไหน เธอไนซ์มากและรู้สึกขอบคุณมาก -บอกเธอว่าฉันซื้อแว่นมาหลายอันและเธอทำงานได้ดีแค่ไหน -ฉันบอกเธอเรื่องรูป50รูปบนอินสตาแกรมของเธอช่วยชีวิตฉันไว้ เธอหัวเราะและถามว่าฉันมาจากไหน -ฉันบอกเธอเรื่องที่ฉันไปดูพวกเธอที่coachella เธอเลยพูดว่าเธอชอบcoachellaมากแค่ไหน คิดว่านะ (พาร์ทนั้นไม่ค่อยได้ยินเท่าไร :( ) -แล้วเธอก็ส่งต่อฉันไปที่ลิซ่า -ลิซ่าบอกฉันว่าเธอชอบผมจุกของฉัน ฉันเลยพูดประมาณว่า ขอบคุณ!! คุณดูสวยมากเลย!! -แล้วฉันก็บอกเธอเรื่องลิลิฟิล์ม 4และบอกว่าเธอทำได้สุดยอดขนาดไหน แล้วเธอก็แบบ 4หรอคะ?? ฉันเลยบอกไปประมาณว่า"ใช่แล้ว!! แต่เอาตรงๆนะ ตั้งแต่ลิลิฟิล์ม1 คุณเก่งมากๆๆเลย และทุกการเต้นตั้งแต่นั้นมาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ" เธอมีความสุขมากและก็ยิ้มพร้อมพูดขอบคุณ -ฉันบอกเธอว่าเธอเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับฉันและผู้คนมากมาย และบอกว่าฉันตื่นเต้นแค่ไหนกับอัลบั้มและการที่พวกเราจะสนับสนุนพวกเธอเสมอไม่ว่าจะยังไง ฉันอดใจรอที่จะได้เห็นความสำเร็จครั้งต่อไปไม่ไหวแล้ว!! เธอดีมากๆ ดูซาบซึ้งใจ และพูดประมาณว่า"ขอบคุณมากนะคะ แต่ฉันต้องส่งคุณต่อให้โรซี่" -แล้วฉันก็เลยคุยกับโรซี่!! ฉันทักทายว่าไฮ!!ไป ถามเธอเรื่องวันของเธอ!! แล้วเธอก็ถามเรื่องวันของฉันบ้าง!! เธอยังพูดด้วยว่าเธอชอบเมคอัพของฉัน ฉันเลยตอบไปประมาณว่า"ขอบคุณค่ะ! แต่งลุคแบบblackpinkน่ะ" แล้วพวกเราก็หัวเราะกัน -และมันก็เงียบ เธอเลยบอกว่ามีอะไรที่อยากถามอีกมั้ย ฉันเลยบอกว่า"คือ ฉันไม่มีอะไรจะถามนะคะแต่อยากบอกว่าพวกเราตื่นเต้นกับโซโล่ของคุณมากกก!! ฉันรู้ว่ามันจะต้องดีมากๆๆ คุณจะทำได้สุดยอด!!" เธอก็ตอบว่า"ขอบคุณมากนะคะ นั่นมีความหมายมากเลย" -ฉันเลยบอกว่าไม่เป็นไรค่ะ!! แล้วเธอก็ถามว่าฉันมาจากไหน! ฉันตอบเธอว่ามาจากแคลิฟอร์เนีย เธอก็พูดว่าเธอชอบแคลิฟอร์เนีย!! -ฉันก็เล่าให้เธอฟังว่าฉันบอกเจนนี่ว่าฉันไปดูพวกเธอครั้งแรกที่Coachella! เธอถามว่าสุดสัปดาห์ไหน พอฉันตอบว่าทั้งสองสัปดาห์เลย เธอก็พูดว่า"ว้าว ทั้งคู่เลยหรอคะ!!? นั่นมีความหมายมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ นั่นเป็นหนึ่งในวันที่ยอดเยี่ยมที่สุด" ฉันเลยบอกว่า"นั่นก็เป็นวันที่ยอดเยี่ยมที่สุดของฉันเหมือนกัน" -นั่นคือทั้งหมด จากนั้นฉันก็บอกลาแล้วมันก็จบลง!! แต่พวกเธอทุกคนนิสัยดีและใส่ใจมากๆๆๆ
source: lalisjihope on twitter - https://twitter.com/lalisjihope/status/1286610009531379713
TH:thepaleblood
0 notes
thtransthepaleblood · 4 years
Text
[trans] ความเห็นชาวเน็ตในกระทู้ “BLACKPINK จะคอลแล็บกับ Lady Gaga”
📌 กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมดค่ะ
เจ้าของกระทู้:
เขาบอกกันว่า BLACKPINK จะได้ฟีทในอัลบั้มของ Lady Gaga และพวกเธอก็ปล่อยมันออกมาอย่างเป็นทางการ...
พวกเธอไม่ได้บอกว่าเพลงจะปล่อยออกมาเมื่อไร แต่ฉันอยากให้พวกเธอปล่อยมันเร็ว ๆ นี้ และขอให้มันเป็นอัลบั้มเต็มด้วยเถอะ  ㅠㅠㅠㅠㅠ
Tumblr media
ผลตอบรับกระทู้:  +219, -55
ความเห็นชาวเน็ต:
[+147, -19] มีศิลปินสามคนที่ได้ร่วมงานกับ Lady Gaga ในครั้งนี้ Ariana Grande, Elton John และ BLACKPINK...ฉันยอมรับในความระดับโลกของพวกเธอเลย
[+115, -11] ขอให้มันเป็นอัลบั้มเต็มเถอะนะ... ... ㅜㅜㅜㅜㅜㅜㅜㅜㅜㅜ พวกเธอไม่ทำกิจกรรมมาปีครึ่งแล้วเนี่ย...
[+103, -18] แดบัก (สุดยอด) นั่นเป็นเพราะ BLACKPINK มีเมมเบอร์ที่พูดอังกฤษได้ดีอยู่สามคน
[+62, -4] BLACKPINK ดังมากอะ พวกเธอระดับโลกจริง ๆ นะเนี่ย.. บน Pann นี่พวกเธอโดนเกลียดเป็นบ้า แต่พวกเธอกำลังยืนไหล่กระทบไหล่กับ Ariana Grande, Dua Lipa และ Lady Gaga จริงจังนะ ความเกลียดชังบน Pann นี่เป็นตัวพิสูจน์ความนิยมของพวกเธออะ คิคิคิคิ พวกแกปฏิเสธความจริงทั้งหมดและพูดอยู่ตลอดว่าความนิยมของ BLACKPINK ในต่างประเทศเป็นเรื่องไร้สาระ แต่พอมีโพสต์เรื่องดาราดังต่างชาติไล่ตาม BLACKPINK ก็เงียบเป็นเป่าสากกันหมด ทำไมกันนะ
[+48, -5] ถึงคอมเม้นข้างล่าง พวกแกจะบอยคอตนักแสดงใน YG อย่างคิมฮีแอ ชาซึงวอน คังดงวอน จางคียง อีซูฮยอก ชเวจีอู และยูอินนาด้วยงั้นหรอ แม้แต่ฮันซึงยอน KARA ที่เซ็นสัญญากับ YG เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ด้วยงั้นสิ คิคิคิ งั้นพวกแกจะเลิกใช้ล็อตเต้มาร์ท ห้างล็อตเต้ ล็อตเต้โฮมช็อปปิ้ง และผลิตภัณฑ์ของล็อตเต้มั้ยล่ะ หยุดพูดเรื่องบอยคอต YG และพูดอะไรที่มันสมเหตุสมผลหน่อยเถอะ คิคิคิคิ งั้นพวกแกก็ควรบอยคอต ‘Three Meals a Day’ ที่มีชาซึงวอนกับซนโฮจุนด้วยนะ คิคิคิ
(T/N: ล็อตเต้/Lotte เป็นกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่ผูกขาดธุรกิจในเกาหลีใต้ ถ้าเทียบกับที่ไทยก็ประมาณเครือ CP ค่ะ)
source: Pann - https://m.pann.nate.com/talk/reply/view?pann_id=350863737&replyOrder=R&currMenu=&vPage=1&order=B&stndDt=&q=&gb=&rankingType=total
EN: knetizen - https://www.knetizen.com/blackpink-will-be-collaborating-with-lady-gaga/
TH: @thepaleblood​ on twitter
0 notes
thtransthepaleblood · 4 years
Text
[trans] ความเห็นชาวเน็ตในกระทู้ “เมมเบอร์ที่เพอร์เฟกต์สำหรับเพลงของ BLACKPINK แต่ละเพลง”
📌 กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมดค่ะ
เจ้าของกระทู้:
เมมเบอร์ที่เพอร์เฟกต์สำหรับเพลงของ BLACKPINK แต่ละเพลง (ในความเห็นของฉัน)
1. WHISTLE - โรเซ่/ลิซ่า (ฉันเลือกระหว่างพวกเธอสองคนไม่ได้)
Tumblr media
โทนของโรเซ่ที่นุ่มละมุนและมีเสน่ห์ดึงดูด+ลีลาการเต้นและท่าทางสุดน่าทึ่งของลิซ่าเหมาะสมกับเพลงนี้มาก
2. BOOMBAYAH - เจนนี่
Tumblr media
ฉันรู้สึกเหมือนเพลงนี้เขียนมาเพื่อเจนนี่เลย แล้วตอนท่าเมมเบอร์อุ้มเธอขึ้นก็ด้วย ฉันอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เธอในระหว่างการแสดง
3.  PLAYING WITH FIRE – ลิซ่า
ผมบลอนด์ของเธอเหมาะกับเพลงนี้สุด ๆ ท่อนแร็พของเธอก็เท่มาก ฉากที่เธอนอนบนใบไม้ที่ร่วงลงมาคือสุดยอดที่สุด เธอดูสวยมาก
4. Stay – โรเซ่
เสียงของโรเซ่สวยมากแถมยังเข้ากับเพลง ฉันชอบเวลาเธอจับกีตาร์จัง  ㅠㅠㅠㅠ
5. AS IF IT’S YOUR LAST – เจนนี่
Tumblr media
เมคอัพแบบคล้าย ๆ แมว + ชุด + ทรงผมของเธอมันสมบูรณ์แบบไปหมด ฉันรู้สึกว่าพวกเราได้ภาพ gif เจนนี่ระดับตำนานหลายอันเลยจาก MV นี้
6. DDU-DU DDU-DU – ลิซ่า 
ชุดและสเต็ปเต้นคม ๆ ของเธออย่างสะดุดสายตาเลย ลิซ่าเจ๋งที่สุด
7. Forever young – จีซู
Tumblr media
 จริงจังนะ  ㅠㅠㅠㅠㅠㅠㅠ  ชุดของจีซูสำหรับสเตจ Forever Young คือตำนานทุกชุด  ㅠㅠㅠ โดยเฉพาะชุดเดรสสีฟ้า Forever Young = จีซู
8. Kill This Love – โรเซ่
Tumblr media
ใน MV โรเซ่สวยมาก ฉันยังลืมไม่ได้เลยว่าตอนดู MV ฉันช็อคขนาดไหน  ㅠㅠㅠ
9. Don’t Know What To – โรเซ่
Tumblr media
โรเซ่ผมบลอนด์นี่อย่างกะเจ้าหญิงเลย
ความเห็นชาวเน็ตในกระทู้:
[+82, -4] ไม่ใช่แฟนคลับนะ แต่ฉันมีภาพ gif ของเธออยู่ 6 อันที่จีซูดูสวยมาก ๆ 
Tumblr media
[+77, -4] อธิบายไม่ถูกแต่ความรู้สึก/บรรยากาศที่คอนเซปต์เพลง WHISTLE มีนี่มันสุดยอดอะ
Tumblr media
[+71, -6] AS IF IT’S YOUR LAST เหมาะกับเจนนี่มาก
Tumblr media
[+33, -4] สำหรับฉัน ถ้า Kill This Love ก็เป็นลิซ่านะ
Tumblr media
[+29, -2] สวยมากแม่ ㅠㅠㅠ
Tumblr media
[+26, -2] เมื่อไร BLACKPINK จะคัมแบคด้วยคอนเซปต์คล้าย ๆ Kill This Love อะ  ㅠㅠㅠ
Tumblr media
source: Pann
EN: knetizen - https://www.knetizen.com/the-perfect-member-for-each-blackpink-song/
TH: @thepaleblood on twitter
0 notes
thtransthepaleblood · 4 years
Text
[trans] Is BLACKPINK Going To Release A New Album In 2020?
📌 กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมดค่ะ เราไม่ได้แปลหมดทั้งบทความนะคะ ถ้าอยากอ่านบทความเต็ม สามารถคลิกลิงก์ท้ายบล็อกได้เลยค่ะ
ณ ช่วงนี้ของปีที่แล้ว BLACKPINK เป็นที่ฮือฮาอย่างมาก ในเดือนเมษายน ปี 2019 เราได้เห็นวง K-pop ที่มีสมาชิก 4 คนกับซิงเกิ้ลใน Top 50 ของ Billboard Hot 100 อย่าง “Kill This Love” และอัลบั้มใน Top 25 ด้วย EP ชื่อเดียวกัน ซึ่งพวกเธอได้ขึ้นแสดงที่งาน Coachella 2019 เดือนที่มีงานแน่นขนัดนี้ปรากฏขึ้นในระหว่างการเวิร์ลทัวร์ BLACKPINK In Your Area ที่จัดคอนเสิร์ตรอบสุดท้ายขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หนึ่งปีแล้วนับตั้งแต่เมื่อปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเธอคือจุดสูงสุดของเกม แฟน ๆ ก็เกิดความสงสัยว่าเมื่อไรกันที่ BLACKPINK จะปล่อยอัลบั้มใหม่ 
เมื่อขาดแคลนข่าวสารเกี่ยวกับเพลงใหม่จาก BLACKPINK ซึ่งยุ่งอยู่กับแคมเปญโฆษณา การปรากฏตัวในโทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งเปิดตัวแฟชั่นไลน์ของตัวเอง ย่อมก่อให้เกิดความกังวลในใจแฟน ๆ ทั่วโลกที่เฝ้าหวังว่า BLACKPINK จะกลับคืนสู่พื้นที่เสียงเพลงของพวกเธอ หลังคำสัญญาก่อนหน้านี้จากทางค่าย การที่ไม่มีข่าวเรื่องอัลบั้มของปี 2020 ที่วางแผนไว้เลย ก็ทำให้แฟน ๆ กังวลว่าเพลงใหม่ของ BLACKPINK จะมาถึงหรือไม่
ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องปกติสำหรับวงศิลปินตะวันตกที่จะใช้เวลาเป็นปีกว่าจะปล่อยเพลงใหม่ออกมา แต่สำหรับโลก K-pop นั้น ศิลปินที่เป็นที่นิยมที่สุดหลายรายมักจะปล่อย EPหรือมินิอัลบั้มและอัลบั้มเต็มทุกปี หลาย ๆ คนปล่อยมากกว่านั้นเสียด้วยซ้ำ คอยทำให้แฟน ๆ ของพวกเขาพึงพอใจกับการปล่อยเพลงรอบแล้วรอบเล่า BLACKPINK ผู้โด่งดังจากซิงเกิ้ลเดบิวต์อย่าง “Boombayah” และ “Whistle” ในเดือนสิงหาคม 2016 ได้ปล่อยอัลบั้มจำนวนหนึ่งออกมาในระยะเวลาแบบนั้นเช่นกัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะเป็นซิงเกิ้ลหรือ EP ส่งผลให้ตลอดอายุวง(ที่ผ่านมา)แล้ว พวกเธอมีเพลงน้อยกว่า 20 เพลงถึงแม้พวกเธอจะเป็นหนึ่งในวง K-pop ที่ยิ่งใหญ่ของรุ่นนี้ก็ตาม
ไม่มีข่าวใด ๆ เกี่ยวกับเพลงที่ได้รับการคอนเฟิร์มจากทางวงซึ่งประกอบไปด้วยเจนนี่ โรเซ่ ลิซ่า และจีซู กระตุ้นให้เกิดการตอบสนองอย่างถล่มทลายจากแฟน ๆ ของพวกเธอซึ่งเป็นที่รู้จักในนามของ BLINK การประท้วงเมื่อปลายปีก่อนส่งผลให้ต้นสังกัดของ BLACKPINK YG Entertainment ออกมาชี้แจงว่า อัลบั้มที่กำลังจะมาถึงนี้มีกำหนดที่จะปล่อยออกมาในช่วงต้นปี 2020 ภายหลังบรรดาแฟน��ลับเกิดข้อสงสัยว่าเพลงใหม่ ๆ ทั้งของวงและของสมาชิกเดี่ยวซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นตามที่มีประกาศก่อนหน้านี้นั้นอยู่ที่ใดกัน การประท้วงบนอินเทอร์เน็ตเป็นประจำของแฟน ๆ ด้วยการเทรนด์แฮชแท็กเพื่อเรียกร้องถึงความชัดเจนว่าเพราะเหตุใดถึงยังไม่มีอัลบั้ม กลายมาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติในกลุ่มแฟนคลับของ BLACKPINK โดยเหล่า BLINK ทั่วโลกได้เทรนด์อะไรอย่างแฮชแท็กเมื่อเร็ว ๆ นี้ “BLACKPINK1YearOfHiatus” เนื่องจากพวกเขาต้องการข้อมูลจาก YG เกี่ยวกับสถานะของเพลงที่กำลังจะมาถึงของ BLACKPINK
ถึงแม้ต้นสังกัดของพวกเธอจะคอยให้ความมั่นใจกับแฟน ๆ อยู่เสมอถึงเรื่องเพลงใหม่ แต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ชัดเจนว่าจริง ๆ แล้ว อะไรคือสิ่งที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้น��ับ BLACKPINK ในปี 2020 บ้างในขณะที่ปี 2020 นี้ได้ผ่าน “ช่วงต้นปี” ของปีไปแล้วเรียบร้อย เมื่อปีที่แล้ว เราได้เห็น YG ทุกข์ทรมานกับการสูญเสียครั้งใหญ่ ภายหลังการสืบสวนซึ่งเป็นที่สนใจของสาธารณชนมากมายรอบตัวศิลปินและผู้บริหารของค่าย รวมถึงการออกจากค่ายที่ตามมาเป็นชุด แต่ศิลปินรายอื่นอย่าง WINNER และ iKON ก็ได้ปล่อยเพลงมาตั้งแต่ปีใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อบริษัทเกาหลีใต้นี้ดูเหมือนจะเริ่มคงที่หลังจากปีก่อนหน้าที่เต็มไปด้วยความโกลาหล
เมื่อถูกถามถึงข่าวคราวอัพเดทเกี่ยวกับสถานะของอัลบั้มที่ถูกกล่าวถึงว่าอยู่ระหว่างการทำจากBLACKPINK YG Entertainment ไม่ได้ตอบความเห็นใด ๆ กลับมา
ถึงแม้อัลบั้มของ BLAKPINK ที่ประกาศออกมาก่อนหน้านี้จะยังมาไม่ถึง แต่ก็หวังว่าเพลงใหม่ที่มีพวกเธอร่วมด้วยจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้ ภายหลังข่าวลือสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า โลกทวิตเตอร์ก็ลุกเป็นไฟในวันพุธ (22 เมษายน) ด้วยความตื่นเต้น หลังเว็บ Target ดูเหมือนจะบังเอิญทำแทร็คลิสต์อัลบั้ม Chromatica ของ Lady Gaga ที่ถูกเลื่อนออกไปเพราะโคโรนาไวรัส หลุดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งในแทร็คลิสต์นั้นปรากฏเพลง Sour Candy ที่มี BLACKPINK อยู่ด้วย หลังจากนั้นในวันเดียวกัน ตัว Lady Gaga เองก็ได้ยืนยันแทร็คลิสต์ผ่านโพสต์บน Instagram คอนเฟิร์มว่าโลกจะได้อัลบั้ม 16 เพลงที่ไม่ได้มีเพียงแค่ “Sour Candy” ที่มี BLACKPINK มาร่วมเท่านั้น แต่ยังมีเพลงที่มี Ariana Grande และ Elton John อีกด้วย อัลบั้มดังกล่าวอยู่ในช่วงว่างเว้นจากวันปล่อยอัลบั้มที่ตั้งไว้ในตอนแรกเมื่อ 10 เมษายน แต่หวังว่ามันจะมาถึงในเร็ววัน
source: Forbes - https://www.forbes.com/sites/tamarherman/2020/04/22/is-blackpink-going-to-release-a-new-album-in-2020/#28c72c5a33da
TH: @thepaleblood on twitter
0 notes
thtransthepaleblood · 4 years
Text
[trans]ความเห็นชาวเน็ตต่อข่าวการเตรียมเดบิวต์เกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ของ YG
📌 กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมดค่ะ ทั้งเครดิตของแปลภาษาอังกฤษและเราที่เป็นคนแปลภาษาไทย
ชื่อบทความ: “YGจะเดบิวต์เกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้”
source: https://entertain.naver.com/read?oid=477&aid=0000234044
Tumblr media
[+70, -2] แทนที่จะเดเกิร์ลกรุ๊ปใหม่ พวกเขาควรให้ BLACKPINK ได้ทำกิจกรรมในเกาหลีมากกว่านี้นะ
[+45, -3] ไม่ ไม่ใช่แค่แฟน ๆ หรอกนะ แต่มักเกิ้ล (คนที่ไม่ติ่ง) ทั่ว ๆ ไปก็เหมือนกัน คิคิคิ แม้แต่ BLACKPINK ยังแทบไม่คัมแบคเลย เกิร์ลกรุ๊ปใหม่หรอ???? นี่ล้อฉันเล่นรึไง? คิคิคิคิ นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะทำกับเด็ก ๆ ได้นะ... ถ้าคุณเดเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่มา แล้ว BLACKPINK ก็จะไปแต่ต่างประเทศงั้นหรอ? แล้วในเกาหลีล่ะ?
[+35, -2] YG บ้าไปแล้ว ช่วยดูแล BLACKPINK ด้วย
[+34, -2] คัมแบคสองรอบทุกปีทีเถอะ ฉันอยากฟังเพลงใหม่ของพวกเธอ
[+23, -1] แค่ให้ BLACKPINK คัมแบค
[+8, -0] ถ้า BLACKPINK ได้โปรโมทในเกาหลีดี ๆ และคัมแบคสองรอบทุกปี ฉันก็ไม่โกรธหรอก นี่คุณกำลังบอกฉันว่าคุณจะเดเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปีงั้นหรอ เป็นบริษัทที่โง่อะไรขนาดนี้เนี่ย
[+7, -0] ช่วยดูแล BLACKPINK ด้วย....พวกเธอเดบิวต์มาห้าปีแล้ว แต่มีแค่มินิอัลบั้มสองอันเอง... คัมแบคครั้งเดียวทุกปีเลยสินะ?
[+7, -1] ให้ BLACKPINK คัมแบคสักที...
ชื่อบทความ: YG “พวกเรากำลังวางแผนเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่”...ภายหลังสี่ปีของ BLACKPINK
source: https://entertain.naver.com/now/read?oid=382&aid=0000801505
Tumblr media
[+50, -0] ดูแลศิลปินที่คุณมีอยู่เถอะ แล้วนี่คุณจะเดเกิร์ลกรุ๊ปแบบไหนมาโดยที่ BLACKPINK ไม่คัมแบคอะนะ?
[+21, -1] “ได้โปรดปล่อยอัลบั้มเต็มของ BLACKPINK และโปรโมทกิจกรรมในเกาหลีของพวกเธอด้วย” แม้แต่หลังจากส่งรถบรรทุกป้ายไฟไป มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างไหมเนี่ย?
[+8, -0] ไม่เอาน่า แม้แต่จะดูแลวง คุณยังไม่ทำเลย แล้วทำไมคุณถึงอยากจะเดเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ล่ะ? คิคิคิคิคิคิ
[+3, -0] ช่วยปล่อยอัลบั้มเต็มและแผนสำหรับ BLACKPINK ทีเถอะ โปรโมทพวกเธอไปเรื่อย ๆ และให้พวกเธอคัมแบค อย่าเอาแต่ส่งศิลปินเก่ง ๆ ไปต่างประเทศ ดูแลพวกเขาด้วยสิ! อย่าให้แม้แต่แฟน ๆ ในประเทศเองก็ทิ้งไป/เลิกตามเลยนะ
[+2, -0] คุณบ้าไปแล้วหรอ? ฉันไม่รู้หรอกนะว่า BLACKPINK จะคัมแบคเมื่อไร แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ แฟน ๆ ที่ตั้งตารอการคัมแบคของ BLACKPINK จะเลิกตามกันหมด
EN: knetizen - https://www.knetizen.com/yg-to-debut-a-new-girl-group-in-the-second-half-of-this-year/
TH: @thepaleblood on twitter
1 note · View note
thtransthepaleblood · 4 years
Text
[trans]คห.ชาวเน็ตในบทความ “BLACKPINKกำลังเตรียมโปรเจคระดับโลกสุดยิ่งใหญ่อย่างลับๆ”
Tumblr media
source:https://entertain.naver.com/ranking/read?oid=421&aid=0004455464
[+174, -10] ตั้งตารอเลย ช่วยทำให้มั่นใจด้วยนะว่าจะคัมแบคเร็วๆน่ะ ㅠㅠ
[+113, -8]  มันควรจะเป็นตอน6โมงเย็นนะ ได้โปรดอย่าทำอะไรแปลกๆอย่างตอนเที่ยงคืนเลย ทำอะไรธรรมดาๆกันเนอะ... และช่วยให้ความสนใจ/ใส่ใจกับในเกาหลีด้วยเถอะ ไปออกรายการเพลงและรายการวาไรตี้กัน
[+104, -5] คาดหวังเลย ❤❤ BLACKPINK ไฟท์ติ้ง!!
[+92, -5] อยากให้ปักวันคัมแบคของBLACKPINKที ㅠㅠㅠㅠㅠ รออยู่นะ
[+72, -5] BLACKPINK ♡♡
[+28, -0] พออ่านบทความแล้วฉันก็ร้องไห้เลย  ㅠㅠ อยากฟังเพลงใหม่ BLACKPINK แล้ว
[+27, -2]  2 คัมแบคและโซโล่ในปีเดียว ช่วยทำให้ดีที่สุดกับการให้ BLACKPINK ไปออกงานปลายปีปีนี้และกิจกรรมในเกาหลีด้วยนะ
[+23, -1] YG ปีนี้มาทำงานให้ดีกันเถอะ^^ ช่วยให้ BLACKPINK คัมแบค 2 รอบในปีเดียวและโซโล่ของจีซู โรเซ่ และลิซ่าด้วย
[+20, -0] BLACKPINK สู้ๆ....
[+18, -1] ข่าวดีรับวันเกิดโรเซ่เลยนะเนี่ย! หวังว่าพวกเธอจะไปออกรายการวาไรตี้เกาหลีเยอะๆ
EN: knetizen - https://www.knetizen.com/blackpink-is-secretly-preparing-major-global-project/
TH: thepaleblood on twitter
📌 กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมดค่ะ
0 notes
thtransthepaleblood · 5 years
Text
[trans]BLACKPINK: “เพื่อจะประสบความสำเร็จ พวกเราต้องจากครอบครัวมา”
***Note: ตามที่คนแปลอังกฤษบอก นิตยสารฉบับนี้เป็นหนึ่งในนิตยสารที่สำคัญที่สุดของอิตาลี แต่ก็เป็นนิตยสารgossipเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ข้อมูลที่ปรากฏก็อาจจะมีคลาดเคลื่อนไปบ้างค่ะ 😅
เรามาดูเรื่องราวของนักร้องสาวทั้งสี่จากวงดนตรีสัญชาติเกาหลีใต้ที่กำลังครองโลกอยู่ในขณะนี้รวมถึงอิตาลีไปด้วยกันเถอะ
BLACKPINK:  “เพื่อจะประสบความสำเร็จ พวกเราต้องจากครอบครัวมา”
“พวกเราเข้าวงมาตอนที่ยังเด็กมากๆอยู่เลยค่ะ เราเติบโตขึ้นมาโดยที่ต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องเรียนรู้ที่จะเป็นคนแกร่ง”
พวกเธอถูกเรียกว่า BLACKPINK เป็นวงดนตรีจากเกาหลีใต้ ทั้งยังเป็นวงยอดนิยม ช่วงเวลาสองสามเดือนที่ผ่านมา สาวๆชาวเอเชียสี่คนนี้ได้รวบรวมความสำเร็จอย่างต่อเนื่องอันน่าประทับใจ สร้างสถิติซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยกตัวอย่างเช่น MVของพวกเธอบนYoutubeมียอดวิวนับหลายร้อยล้าน โดยเฉพาะเพลง DDU-DU DDU-DU นั้นมียอดวิวทะลุ 800 ล้านวิวไปแล้ว ตัวเลขที่น่าทึ่งนี้กำลังทำให้เจนนี่ จีซู โรเซ่ และลิซ่า (นั่นคือชื่อของพวกเธอ) ก้าวขึ้นมาครองโลก ในการทัวร์ที่สหรัฐเมื่อไม่นานมานี้ พวกเธอได้รับการต้อนรับในฐานะดาวดัง และในยุโรปที่พวกเธอมาเยือนในตอนนี้ก็เป็นแบบนั้นเช่นเดียวกัน
“โชคไม่ดีที่ไม่มีคอนเสิร์ตที่อิตาลีเลย แต่พวกเราหลายคนก็มีแผนที่จะไปดูพวกเธอในต่างประเทศ อย่างฉันก็ได้ตั๋วไปดูพวกเธอที่อัมส์เตอร์ดัม” หนึ่งในแฟนคลับชาวอิตาลีของ BLACKPINK กล่าว “ในช่วงสองสามอาทิตย์มานี้ พวกเราได้เปิดลงชื่อทางอินเทอร์เน็ตเพื่อโน้มน้าวให้ BLACKPINK มาแสดงที่อิตาลี แม้แต่ในปีหน้าก็ตาม มีแฟนๆมาลงชื่อกันหลายพันคนแล้ว และตัวเลขนี้ก็เพิ่มขึ้นทุกๆวัน พวกเธอดังเป็นพลุแตกโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากความสำเร็จในอเมริกาทั้งหมดนั่น”
ความสำเร็จของ BLACKPINK ‘ติดต่อ’ ไปถึงผู้คนทั่วโลกนับล้าน รวมทั้งทำให้ดนตรีของเกาหลีใต้เป็นที่สนใจมากยิ่งขึ้นหลังจากความสำเร็จอันโดดเด่นของ Gangnam Style บทเพลงของ Psy ที่ประสบความสำเร็จไปทั่วโลกรวมถึงอิตาลีด้วยเมื่อเจ็ดปีก่อนในปี 2012
แต่ BLACKPINK คือใคร แล้วความลับเบื้องหลังความสำเร็จของพวกเธอคืออะไร พวกเธอประสบความสำเร็จกับการสร้างชื่อเสียงในระดับโลกได้อย่างไรกัน “พวกเราถูกเลือกมาผ่านการออดิชั่นค่ะ” พวกเธอย้อนนึกถึงความหลัง “ช่วงประมาณปี 2010 YG หนึ่งในค่ายเพลงที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ตัดสินใจจะทำเกิร์ลกรุ๊ป พวกเขาเลยเริ่มจัดออดิชั่น แล้วพวกเราทั้งสี่ก็ถูกเลือกมาทีละคนๆ แต่ก่อนจะได้เดบิวต์ พวกเราต้องฝึกกันนานมากเลยค่ะ บริษัทฝึกพวกเราอยู่หลายปีทั้งเรื่องร้องและเรื่องเต้น ก่อนจะปล่อยพวกเราออกมาสู่ตลาด คนแรกที่ถูกเลือกมาคือเจนนี่ เธอเข้าโปรเจคต์มาตอนปี 2010 เธอเทรนเกือบ6ปีก่อน BLACKPINK จะเดบิวต์อย่างเป็นทางการในปี 2016 ค่ะ”
BLACKPINK ถูกสร้างขึ้นมาใน “ห้องทดลอง” อย่างพิถีพิถันด้วยวัฒนธรรมตามแบบฉบับของชาวเอเชียที่มีการเสียสละและการทำงานอย่างหนักเป็นค่านิยมพื้นฐาน และสี่สาวนักร้องก็ต้องเผชิญกับการเสียสละมากมาย “เพื่อจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวง พวกเราต้องจากครอบครัวมาเพื่อจะเข้ามาอยู่ในหอซึ่งทางบริษัทได้เตรียมไว้ให้ด้วยกันทั้งหมด” ดาวดังทั้งสี่อธิบายต่อไป “มันไม่ง่ายเลยนะคะ เป็นเพราะพวกเรายังเด็กมากในตอนที่การเดินทางนี้ได้เริ่มต้นขึ้นด้วย พวกแต่ละคนต้องเติบโตขึ้นไวๆ พวกเราต้องเข้มแข็งไว้ค่ะ” ทีนี้ มาดูเรื่องราวของพวกเธอสี่คนกันเถอะ
เรื่องราวของเจนนี่
“ตอนอายุ 9 ขวบ คุณพ่อคุณแม่ส่งฉันไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติสุดพิเศษที่นิวซีแลนด์เพราะพวกเขาฝันไว้ว่าฉันจะกลายเป็นทนายหรือCEO” เจนนี่ผู้มาจากครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะกล่าว เธอถูกจัดว่าเป็นคนดังของวง “ฉันอยู่ที่นั่นอยู่หลายปีเพราะอยากให้พวกท่านภูมิใจ แต่ฉันไม่มีความสุขค่ะ ฉันจำได้ว่าตอนอายุ 13 ฉันโทรหาคุณแม่ ร้องไห้และบอกท่านว่า ‘หนูคงไม่มีทางเป็นทนายอย่างที่แม่ฝันอยากให้หนูเป็น ความฝันของหนูคือการร้องเพลง แม่ก็รู้ ให้หนูกลับบ้านเถอะนะคะ  ให้หนูทำตามความฝันตัวเองเถอะ” ยังดีที่คุณแม่ฟังฉันค่ะ หลังจากนั้นไม่นาน ฉันก็ออดิชั่นเข้า YG และได้รับเลือก ฉันฝึกเพื่อจะกลายเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จอยู่ 6 ปี ฉันผ่านช่วงเวลายากลำบากมามากมาย แต่ฉันเรียนรู้ที่จะผ่านพวกมันมาด้วยตัวเอง ฉันไม่อยากพึ่งใครค่ะ”
เรื่องราวของโรเซ่
“ฉันเข้าออดิชั่นตอนอายุ 16 ค่ะ คุณพ่อคุณแม่ฉันเป็นคนเกาหลีแต่ฉันโตมาที่ออสเตรเลียซึ่งพวกเขาได้ย้ายมาอยู่ ฉันไม่มีทางลืมตอนที่ YG บอกว่าฉันได้รับเลือกเข้าวงเลย ยังไม่ทันจะฉลอง ฉันก็เห็นคุณแม่ออกไปแล้ว ฉันถามท่านว่า “คุณแม่จะไปไหนหรอคะ” ตอนนั้นเองที่ฉันตระหนักว่า จากนี้ไป ฉันจะไม่มีท่านหรือคุณพ่อคอยอยู่ข้างๆ ฉันอยู่ตัวคนเดียว แล้วมันไม่ง่ายเลยค่ะโดยเฉพาะในตอนเริ่มต้น”
เรื่องราวของลิซ่า
“ฉันเป็นคนไทยค่ะ ในการจะมาเข้าวงนี้ ฉันไม่ใช่เพียงแค่ต้องจากที่บ้านมาแต่รวมถึงประเทศของฉันด้วย ตลอดระยะเวลาหลายปี ฉันเรียนร้อง เรียนเต้น รวมถึงเรียนภาษาเกาหลี ในช่วงหลายปีนั้น ฉันต้องผ่านช่วงเวลายากลำบากหลายต่อหลายครั้ง แต่ยังดีที่เพื่อนๆของฉัน (T/N:ลิซ่าหมายถึงเมมเบอร์คนอื่นๆ) อยู่กับฉันเสมอค่ะ โดยเฉพาะโรเซ่ที่เข้าใจสถานการณ์ของฉันและจีซูที่เข้มแข็งที่สุดในหมู่พวกเรา เธอเป็นคนเดียวที่ไม่เคยร้องไห้เลย”
เรื่องราวของจีซู
“พวกเธอบอกว่าฉันเป็นคนที่เข้มแข็งที่สุดเพราะไม่เคยร้องไห้เลย พวกเราแต่ละคนผ่านความยากลำบากเหล่านั้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ แต่เพราะว่าฉันเป็นคนที่อายุมากที่สุดในวง ฉันจึงรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพี่สาวคนโตที่ต้องดูแลพวกเธออยู่เสมอค่ะ”
6 ปีแห่งการฝึกอันหนักหน่วง
(T/N:อ่านจากที่แปลมาเข้าใจว่าในนิตยสารน่าจะมีรูปด้วย แต่คนแปลอังกฤษไม่ได้ใส่มาด้วยนะคะ)
BLACKPINK กับการปรากฏตัวที่งาน Coachella เทศกาลดนตรีแนว ‘alternative’ จัดขึ้นทุกปีที่อินดิโอ้ แคลิฟอร์เนีย จากซ้ายไปขวา เจนนี่ (24) โรเซ่ (22) ลิซ่า (22) และจีซู (24)  ถึงแม้พวกเธอจะเดบิวต์ในปี 2016 นักร้องสาวเหล่านี้ก็ทำโปรเจคต์ BLACKPINK มาตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว “บริษัทฝึกพวกเรามาเกือบ 6 ปีก่อนจะเดบิวต์เพราะพวกเขาอยากให้เราสมบูรณ์แบบค่ะ”
พวกเธอสูงขนาดไหนและหนักเท่าไรกัน
ลิซ่าเป็นนักร้องคนเดียวใน BLACKPINK ที่ไม่ใช่ชาวเกาหลีใต้ เกิดที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทยในวันที่ 27 มีนาคม 1997 สูง 167 เซนติเมตรและหนัก 46 กิโลกกรัม มีชื่อจริงว่าลลิษา
โรเซ่เป็นลูกสาวของชาวเกาหลีใต้สองคน แต่เธอเกิดที่นิวซีแลนด์��นวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1997 และเติบโตที่ออสเตรเลีย สูง 168 เซนติเมตร หนัก 46 กิโลกรัม ชื่อจริงของเธอคือพัคแชยอง
จีซูเกิดที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 3 มกราคม 1995 เป็นเมมเบอร์คนโตของ BLACKPINK สูง 162 เซนติเมตรและหนัก 45 กิโลกรัม ชื่อจริงของเธอคือคิมจีซู โดยคิมนั้นคือนามสกุล
เจนนี่เกิดที่อันยาง เกาหลีใต้ วันที่ 16 มกราคม 1996 สูง 163 เซนติเมตร หนัก 50 กิโลกรัม เจนนี่คือชื่อจริงของเธอ และเธอเป็น ‘แฟชั่นนิสต้า’ ที่สุดใน BLACKPINK
📍 กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมดเวลารีโพสต์ค่ะ ไม่ว่าจะในplatformไหนก็ตาม twitter ,facebook หรือ pantip
source: https://twitter.com/annascup/status/1144947366224703490?s=21
EN: annascup - https://twitter.com/annascup/status/1144964492863913984
TH: @thepaleblood on twitter
0 notes
thtransthepaleblood · 5 years
Text
[trans]ความเห็นชาวเน็ตในกระทู้ “หลายๆคนบอกว่าตั๋วขายไม่ออกหรอก (แต่นี่คือ)ผลที่ปรากฏในการทัวร์อเมริกาเหนือของBLACKPINK”
***Note: อาจมีความคลาดเคลื่อนเกิดขึ้นได้เนื่องจากเป็นการแปลข้ามภาษาหลายภาษาค่ะ โดยแปลจากKR>CH จากCH>EN และจากEN>THในท้ายที่สุด***
source: theqoo - https://theqoo.net/square/1089410957
Tumblr media Tumblr media Tumblr media Tumblr media Tumblr media Tumblr media
ความเห็นชาวเน็ต
-อ่า อิจฉาจัง หวังว่าไอดอลของฉันจะทำแบบนี้ได้เหมือนกัน
-สุดยอด
-ผลที่ได้นี่ตรงข้ามกับที่พวกแอนตี้หวังไว้เลย โคตรจะชื่นใจอะ คิคิคิคิ
-ยิ่งพวกแอนตี้เป็นบ้าเท่าไร BLACKPINKก็ยิ่งรุ่งเรืองมากขึ้นเท่านั้นตลอดเลย ในฐานะคนนอกแล้ว ฉันมีความสุขมาก คิคิคิคิคิ
-ฉันคาดการณ์เรื่องนี้ไว้แล้ว คิคิ ที่เกลียดพวกเธอกันก็ไม่ได้มาจากfactอะไรทั้งนั้นหรอก แต่มาจากธรรมชาติ/นิสัยที่ชั่วร้ายมากกว่า* (*T/N:เข้าใจว่าเจ้าของโพสต์พูดถึงธรรมชาติ/นิสัยของแอนตี้นะคะ)
-ตอนแรกฉันก็รู้สึกว่าYGรีบพาพวกเธอเข้าตลาดUSไวเกินไปหน่อย แต่เด็กๆBLACKPINKก็คว้าโอกาสนี้ไว้ได้
-ฉันชอบBLACKPINKนะ!! ในอนาคตก็คงประสบความสำเร็จมากขึ้นไปอีก
-พยายามหาทางจะเกลียดพวกเธอแต่ผลที่ได้ในตอนท้ายเนี่ยสิ คิคิคิ น่าพอใจสุดๆเลย
-งั้นภาพแคปที่ว่ายังเหลือที่ว่างอีกตั้งหลายที่ซึ่งใครสักคนเป็นคนโพสต์มันทั้งวันก็เป็นของปลอมงั้นหรอ
-ในอนาคต BLACKPINKจะประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นไปอีก
-ฉันว่าผู้ชมก็คงไม่น้อยกว่านี้หรอก ทุกครั้งเวลาเห็นคนโพสต์ว่าคอนเสิร์ตคงจะโล่ง ฉันก็จะตอบกลับไปว่า ตั๋วรีเซลล์ขายดีออก ตั๋วบนเว็บเองก็เติมสถานที่จัดให้เต็มได้นะ ตอนนั้นมีคนพยายามจะสอนฉันด้วยว่าอย่าคิดว่ามันน่ายกย่อง/ชื่นชม
-ทัวร์คอนมันก็ดี แต่ฉันก็หวังว่าพวกเขาจะทำดนตรีใหม่ให้พวกเธอด้วย ให้พวกเธอได้มีอีเวนท์เยอะขึ้น
-ตอนไปตีตลาดUS ฉันเห็นหลายๆคนโพสต์ว่าไม่มีใครไปดูคอนของพวกเธอหรอก ที่จริงแล้วนั่นคือข่าวลือจากพวกแอนตี้หรอกหรอ... ดูเหมือนBLACKPINKจะป๊อปมากจริงๆนั่นแหละ ถึงได้มีบรรดาhaterโง่ๆพวกนั้นด้วย
-ไม่ใช่แฟนคลับนะ แต่ฉันล่ะเกลียดพวกที่คอยโจมตีBLACKPINKอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยสุดๆเลย
-ว้าว เพราะคำด่าทอที่รุนแรง ฉันเลยคิดจริงๆนะว่าคอนเสิร์ตจะโล่ง
-ยินดีด้วย พวกบ้านั่นเห็นโพสต์นี้ละต้องรู้สึกอึดอัดมากแน่ คิคิคิ
-ที่นั่งเหลือเยอะก็ถูกแล้วล่ะ ที่อเมริกาเค้าจะขายกันยันวันคอนนู่นเพื่อจะได้รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วขายไปได้เยอะขนาดไหน นอกจากนี้นะ ที่เมกาเค้าจะเขียนข่าวเรื่องยอดขายกันด้วย พอเห็น/อ่านก็จะรู้ว่าขายได้เท่าไรกันแน่
-YGก็เห็นแล้วนี่ว่าเด็กๆประสบความสำเร็จมาก ปล่อยเพลงให้มากกว่านี้สักหน่อยสิ
-BLACKPINK บินให้สูงยิ่งขึ้นไปอีกนะ
-ประสบความสำเร็จมากแต่เสียดายsetlistนิดหน่อย ทำไมถึงไม่เขียนเพลงให้BPมากกว่านี้ล่ะ
-น่าพอใจ
-ยินดีด้วยน้า BP
-รู้สึกเหมือนโดนบังคับเลยในตอนแรก* แต่Coachellaประสบความสำเร็จมาก พัฒนาขึ้นเรื่อยๆเลยนะเนี่ย (*T/N:ไม่แน่ใจว่าเจ้าของคอมเม้นพูดถึงBPรึเปล่านะคะ)
-ว้าว เป็นเรื่องจริงแฮะ แล้วที่นั่งที่เหลือในตอนนั้นคือ?
-ให้ผู้คนได้เห็นมันซะสิ ภูมิใจและชื่นใจมากเลย คิคิคิคิคิคิคิ
-พวกhaterบ้าบอ คิคิคิคิ ตอนเข้าชาร์ตbillboardได้ พวกมันก็บอกว่าจะยอมรับก็ต่อเมื่ออยู่ในชาร์ตได้2สัปดาห์ติดต่อกันเท่านั้น แล้วพอเพลงอยู่ในชาร์ตได้อีกสัปดาห์นึง พวกมันก็หายหัวกันหมด คิคิคิคิ อย่างตลกอะ คิคิ
-ยินดีด้วยนะ ผลตอบรับสำหรับเพิร์ฟที่Coachellaดีมากเลยล่ะ ฉันภูมิใจมาก
-(BP)จะประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น!
-มีโพสต์อยู่โพสต์นึงที่บอกว่าBPบังทางไม่ให้รุ่นน้องK-popได้เติบโต โพสต์นั้นมีคอมเม้นเป็นร้อย แต่ตอนนี้ไม่เห็นคนพวกนั้นแล้วล่ะ คิคิคิคิคิคิ BPจะเจริญยิ่งขึ้นไปอีกแน่นอน
-BPจะประสบความสำเร็จไปมากกว่านี้อีก
-ยอดเยี่ยม ก่อนหน้านี้มีโพสต์ของแอนตี้ติดเทรนด์ทุกวันเลย
-หน้าของพวกเด็กๆเล็กอย่างกับเม็ดถั่วแน่ะ เครื่องหน้าพวกเธอนี่ของจริงใช่ไหมเนี่ย
-BP ไฟท์ติ้ง
KR>CH: 花花走花路 
CH>EN: lilogurl88 (https://twitter.com/lilogurl88/status/1127744676088258560)
EN>TH: @thepaleblood 
📌 กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตทั้งหมดค่ะ
0 notes