Tumgik
tumblock1 · 3 years
Text
งาขาว
Tumblr media
ชื่อสมุนไพร งาขาว ชื่ออื่น ๆ / ชื่อท้องถิ่น นีโซไอยู่มั้ว (จีน) ซะแปะ ซะเจี่ย (เมื่อน) ชื่อสามัญ Sesame seeds (white) ชื่อวิทยาศาสตร์   Sesamum  orientale Linn. วงศ์  PEDALIACEAE
Tumblr media
ลักษณะทั่วไปงาขาว
           งาขาว เป็นพืชล้มลุกที่มีอายุฤดูเดียว มีลำต้นตั้งตรงจรดยอด สูงประมาณ 50-150 เซนติเมตร ลำต้นไม่แตกกิ่งแขนง แต่บางพันธุ์อาจมีการแตกกิ่งแขนง ลำต้นมีลักษณะอวบน้ำ เป็นสี่เหลี่ยม มีขนสั้นๆปกคลุมหนา ลำต้นมีร่องยาวตามความสูงของลำต้น เปลือกลำต้นบาง สีเขียวเข้มหรือมีสีอมม่วง สามารถดึงลอกเป็นเส้นได้ ใบงาขาว ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามกันตามความสูงของลำต้น ประกอบด้วยก้านใบทรงกลมสีเขียวหรือสีม่วงแดง ยาวประมาณ 5 เซนติเมตร ส่วนแผ่นใบมีลักษณะเป็นรูปหอกยาว กว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 8-15 เซนติเมตร โคนใบมน เป็นฐานกว้าง และค่อยเรียวลงจนปลายใบแหลม แผ่นใบมีสีเขียวสด มีร่องตามเส้นแขนงใบ ขอบใบเรียบหรือเป็นหยัก
Tumblr media
           ดอกงาขาวเป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มบริเวณซอกใบ 1-3 ดอก ประกอบด้วยก้านดอกสั้น ประมาณ 3-5 มิลลิเมตร ถัดมาเป็นกลีบรองดอกสีเขียว จำนวน 5 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกันหุ้มฐานดอก ถัดมาเป็นกลีบดอกที่มีลักษณะเป็นกรวยยาว กลีบดอกอ่อนมีสีเขียวอมเหลือง เมื่อแก่หรือบานจะมีสีขาว ยาวเป็นทรงกรวย ประมาณ 4-5 เซนติเมตร ปลายกลีบห้อยลงดิน และแยกออกเป็น 2 กลีบ คือ กลีบล่างที่ยาวกว่า และกลีบบนที่มีปลายหยักเป็น 3 แฉก ถัดมาด้านในดอกจะมีสีกลีบดอกด้านในเป็นสีเหลือง มีเกสรตัวผู้ 4 อัน แบ่งเป็น 2 คู่ แต่งละคู่ยาวไม่เท่ากันส่วนเกสรตัวเมียมี 1 อัน ยาว 1.5-2 เซนติเมตร ปลายก้านเกสรแยกออกเป็น 2-4 แฉก
Tumblr media
           ทั้งนี้ ดอกงาขาวจะเริ่มบานในช่วงเช้า และกลีบดอกจะร่วงลงดินในช่วงเย็นผลของงาขาวเรียกว่า ฝัก ฝักอ่อนมีลักษณะทรงกระบอกค่อนข้างกลม ปลายฝักเป็นจะงอยแหลม เมื่อฝักใหญ่จะแบ่งเป็นร่องๆตามความยาวของฝัก ยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร เปลือกฝักหนา มีสีเขียว และมีขนปกคลุม เมื่อฝักแก่เปลี่ยนเป็นสีดำอมเทา และปริแตก ทำให้เมล็ดร่วงลงดิน  ด้านในฝักมีเมล็ดขนาดเล็กสีขาวจำนวนมาก เรียงซ้อนแยกกันในแต่ละร่องพู เมล็ดมีรูปไข่ เปลือกเมล็ดบางมีสีขาว มีกลิ่นหอม ใน 1 ฝัก จะมีเมล็ดประมาณ 70-100 เมล็ด
Tumblr media
ประโยชน์และสรรพคุณของงาขาวและถิ่นกำเนิดงาขาว            เมล็ด  ช่วยบำรุงกำลังให้มีแรง ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย แต่ทำให้ดีกำเริบ ให้รสฝาดๆ หวานๆ ขมๆ น้ำมัน – ใช้ทำเป็นน้ำมันเพื่อใส่บาดแผล ให้รสฝาดร้อน ซึ่งนอกจากประโยชน์ของงาขาวในการนำมาเป็นส่วนประกอบหรือโรยหน้าบนอาหาร และขนมต่างๆ แล้ว ยังสามารถนำมาสกัดน้ำมันที่มีประโยชน์มากมายจากเมล็ดงานี้อีกด้วย และในเมล็ดงาขาวนี้จะมีน้ำมันอยู่ถึงร้อยละ 44 – 46 เลยทีเดียว โดยกลิ่นและรสของเมล็ดงาขาวนี้จะคล้ายกับถั่ว ประโยชน์ของน้ำมันงานั้นจะช่วยต่อต้านการเกิดออกซิไดซ์ได้ดี นอกจากนี้ยังนำมาใช้ผลิตสบู่ ยา และน้ำมันหล่อลื่น รวมทั้งเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางบางอย่างอีก งาขาว มีถิ่นกำเนิดเช่นเดียวกันกับ งาดำ คือ งาขาวเป็นไม้ล้มลุกที่มีมาแต่โบราณ มีแหล่งกำเนิดในแถบประเทศเอธิโอเปีย ต่อมาก็ถูกนำเข้าไปยังอินเดีย จีน รวมถึงแถบแอฟริกาเหนือและเอเชียใต้ ในราวประมาณ 2000 ปี ก่อนคริศตกาลและในศตวรรษที่ 17 ได้ถูกนำเข้าไปในทวีปอเมริกาส่วนในประเทศไทย งา ก็เป็นที่รู้จักกันมาช้านาน ซึ่งนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งทางยา อาหาร และเครื่องสำอาง
Tumblr media
การขยายพันธุ์งาขาว
           ส่วนการปลูกงาขาวนั้นสามารถทำได้ดังนี้ การเตรียมดิน การเตรียมดินเป็นปัจจัยที่สำคัญในการปลูกงาเนื่องจากเมล็ดงามีขนาดเล็ก ควรมีการเตรียมดินให้ร่วนซุย จะช่วยให้งางอกได้ดีและมีความสม่ำเสมอ การไถพรวนจะมากหรือน้อยครั้งขึ้นอยู่กับโครงสร้างและชนิดของเนื้อดิน ถ้าเป็นดินร่วนทรายจะไถ 1-2 ครั้ง ส่วนดินเหนียวจะต้องไถมากครั้งกว่าดินร่วนโดยไถ 2-3 ครั้ง เพื่อย่อยดินให้ละเอียดจะให้ผลผลิตสูงกว่าไถเพียงครั้งเดียว วิธีปลูก การปลูกงาขาวมีอยู่ 2 วิธีคือการใส่ปุ๋ย ดินทรายหรือดินร่วนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในอัตรา 20-30 กิโลกรัม/ไร่ ดินร่วมปนดินเหนียว ใช้ปุ๋ยสูตร 20-20-0 ในอัตรา 20-25 กิโลกรัม/ไร่ การปลูกแบบหว่าน เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมปลูกงาด้วยวิธีนี้ โดยหลังจากเตรียมดินดีแล้ว จะใช้เมล็ดงาหว่านให้กระจายสม่ำเสมอ อัตราเมล็ดพันธุ์ 1-2 กิโลกรัม/ไร่
Tumblr media
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการเว็บ Fast98 เป็น เว็บพนันออนไลน์  ฝาก-ถอนระบบออโต้ มีแอดมินบริการตลอด 24 ชั่วโมง
0 notes
tumblock1 · 3 years
Text
ปลาไหลเผือก
Tumblr media
ชื่อสมุนไพร ปลาไหลเผือก ชื่ออื่นๆ ตงกัดอาลี (มุสลิม) พญารากเดียว (ทั่วไป) ตุงสอ แฮพันชั้น (ภาคเหนือ) เพียก (ภาคใต้) หยิกบ่อถอง เอี่ยนด่อน (ภาคอีสาน) ไหลเผือก (ตรัง) คะนาง (ตราด) ตรึงบาดาล (ปัตตานี) ชื่อวิทยาศาสตร์  Eurycoma longifolia jack. วงศ์  SIMAROUBACEAE 
Tumblr media
ลักษณะของปลาไหลเผือก
           ต้นปลาไหลเผือก จัดเป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก ลำต้นตั้งตรง มีความสูงตั้งแต่ 1-10 เมตร เปลือกต้นเป็นสีน้ำตาล แตกกิ่งก้านน้อย กิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาล ก้านใบออกจากลำต้นตรงส่วนปลายของลำต้น เรียงกันหนาแน่นช่วงปลายกิ่ง กิ่งก้านสั้นเป็นกระจุกที่ปลายยอดของลำต้น เป็นไม้ลงราก รากมีลักษณะกลมโตสีเขียวและยาว ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ด และวิธีการตอนกิ่ง จัดเป็นพรรณไม้กลางแจ้งที่ต้องการน้ำและความชื้นสูง เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกประเภท มักพบขึ้นกระจายทั่วไปตามป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น และป่าเต็งรัง ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลจนถึงประมาณ 700 เมตร รากปลาไหลเผือก รากมีลักษณะยาวและหยั่งลึกลงไปใต้ดิน กลมโต สีขาวนวล รากยิ่งมีอายุหลายปีก็จะยิ่งยาวมาก โดยอาจมีความยาวได้มากกว่า 2 เมตร รากมีรสขมและเบื่อเมาเล็กน้อย ใช้เป็นยาสมุนไพร ใบปลาไหลเผือก ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ ออกเรียงเวียนจากลำต้น ใบประกอบมีความยาวได้กว่า 35 เซนติเมตร มีใบย่อยประมาณ 8-13 คู่ ออกเรียงตรงข้ามหรือเกือบตรงข้าม
Tumblr media
           ลักษณะของใบเป็นรูปใบหอกแกมรูปไข่กลับหรือเป็นรูปขอบขนานแกมรูปไข่เรียวยาว ใบย่อยมีขนาดกว้างประมาณ 1-3 เซติเมตรและยาวประมาณ 5-10 เมตร ปลายใบแหลม โคนใบมน ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีเส้นแขนงใบข้างละประมาณ 8-12 เส้น เส้นใบเห็นได้ไม่ชัดเจน เส้นกลางใบนูนเล็กน้อยด้านบนและนูนเด่นด้านล่าง แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ผิวใบด้านเรียบเป็นมัน ส่วนด้านล่างใบมีขนอยู่ประปราย ไม่มีก้านใบย่อย ส่วนก้านช่อยาวประมาณ 7-15 เซนติเมตร ดอกปลาไหลเผือก ออกดอกเป็นช่อแบบแยกแขนง โดยจะออกเป็นกระจุกที่ซอกใบและปลายกิ่ง เป็นช่อพวงใหญ่ มีความยาวได้ถึง 30 เซนติเมตร ดอกเป็นแบบแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกันหรือเป็นแบบแยกเพศแต่อยู่ต่างต้นกัน ที่ดอกจะมีขนสั้นและขนละเอียดเป็นต่อมกระจาย ทั้งบริเวณก้านช่อดอก ก้านดอก ใบประดับ และกลีบเลี้ยงมีขนขึ้นประปรายและมีขนต่อมเป็นกระจุก ดอกมีกลีบดอก 5 กลีบ ลักษณะเป็นรูปใบหอกหรือรูปขอบขนานแกมรูปไข่ และเป็นสีม่วงปนแดง มีขนาดกว้างประมาณ 2 มิลลิเมตรและยาวประมาณ 4-5 มิลลิเมตร กลีบดอกจะแยกออกจากกันอย่างอิสระ ดอกมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6-7 มิลลิเมตร
Tumblr media
            ดอกมีเกสรเพศผู้ประมาณ 5-6 ก้าน มีความยาวประมาณ 1.5-2.5 มิลลิเมตร อยู่ติดสลับกับกลีบดอก โคนก้านชูอับเรณูมีรยางค์และมีขน ส่วนเกสรเพศผู้ที่เป็นหมันในดอกเพศเมียจะมีขนาดเล็ก ยาวประมาณ 0.5 มิลลิเมตร ส่วนดอกเพศเมีย รังไข่จะอยู่เหนือวงกลีบ มี 5-6 คาร์เพล แยกออกจากกัน ในแต่ละอันจะมีช่อง 1 ช่อง มีออวุล 1 เม็ด ก้านเกสรเพศเมียจะเรียวยาว เชื่อมกันหรือแนบชิดติดเหนือรังไข่ประมาณ 1 มิลลิเมตรและยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร ส่วนยอดเกสรเป็นรูปโล่ มีแฉกประมาณ 5-6 แฉกชี้ขึ้น ยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร ส่วนใบประดับจะมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมขนาดเล็ก ยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร ร่วงได้ง่าย ส่วนกลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม มีขนาดกว้างประมาณ 1 มิลลิเมตรและยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร หลอดกลีบเลี้ยงสั้น ที่โคนเชื่อมติดกันเล็กน้อย และก้านยอดยาวประมาณ 7 มิลลิเมตร โดยจะออกดอกในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเดือนมกราคม ผลปลาไหลเผือก ออกผลเป็นพวง หนึ่งพวงจะมีผลประมาณ 5 ผลย่อย ลักษณะของผลย่อยเป็นรูปทรงกลม ทรงรี หรือเป็นรูปไข่ มีขนาดกว้างประมาณ 0.8-1.2 เซนติเมตรและยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร เปลือกนอกบาง กลางผลมีร่องตื้น ๆ ตามยาว ส่วนผนังผลชั้นในมีลักษณะแข็ง ผลเมื่อแก่จะเป็นสีแดงถึงสีม่วงดำ และก้านผลยาวประมาณ 3 มิลลิเมตร ภายในผลมีเมล็ด 1 เมล็ด ลักษณะของเมล็ดปลาไหลเผือกเป็นรูปรี
Tumblr media
การขยายพันธุ์ปลาไหลเผือก
           ต้นปลาไหลเผือกนับเป็นไม้ที่หาต้นพันธุ์ได้ค่อนข้างยากชนิดหนึ่ง การจะได้รากของปลาไหลเผือกมาใช้ประโยชน์ทางยาก็ต้องอาศัยเวลา เพราะปลาไหลเผือกเป็นไม้ที่ค่อนข้างจะเจริญเติบโตช้าเพราะกว่าต้นจะมีรากต้องมีอายุเกิน 5 ปี นับว่าต้องใช้เวลานานพอสมควรเลยทีเดียว โดยปลาไหลเผือกสามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยวิธีการใช้เมล็ด และวิธีการตอนกิ่ง และจัดเป็นพรรณไม้กลางแจ้งที่ต้องการน้ำและความชื้นสูง เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกประเภท มักจะพบต้นปลาไหลเผือกได้ทั่วไปที่ระดับความสูงเท่าระดับน้ำทะเลจนถึงสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 700 เมตร และจะพบขึ้นกระจายตามป่าทั่วไป เช่น ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง เป็นต้น 
Tumblr media
สรรพคุณ
           ยาสมุนไพรพื้นบ้านจังหวัดอุบลราชธานี  ใช้ ราก ต้มน้ำดื่ม แก้ไข้ ฝนน้ำดื่ม แก้ปวดท้อง ราก นำไปเข้ายาบำรุงกำลัง นำรากผสมกับรากโลดทะนงแดง และพญาไฟ ฝนน้ำดื่ม แก้ไข้ ใช้เลิกเหล้า รากผสมรากย่านางแดง และพญายา ฝนน้ำกินขับพิษ รากผสมกับรากโลดทะนงแดงและพญาไฟ ฝนน้ำกิน ทำให้อาเจียน ใช้เลิกเหล้า ตำรายาไทย  ใช้ ราก รสขม เบื่อเมาเล็กน้อย ถ่ายพิษต่างๆ ถ่ายฝีในท้อง ถ่ายพิษไข้พิษเสมหะ และโลหิต แก้ไข้ แก้ไข้มาลาเรีย ตัดไข้ทุกชนิด แก้ลม แก้วัณโรคระยะบวม ขับเหงื่อ ขับพยาธิ แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้เจ็บคอ ความดันเลือดสูง อัมพาต ขับถ่ายน้ำเหลือง แก้ท้องผูก ประเทศมาเลเซีย  ใช้ ราก  ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ บำรุงหลังคลอดบุตร ใช้ภายนอกเป็นยาพอกแก้ปวดหัว ปิด บาดแผลพุพอง และยังมีสรรพคุณหลายประการ เช่น มีคุณสมบัติต้านเชื้อไวรัส เชื้อไข้มาเรีย ลดอาการไข้ ต้านโรคของอาการภูมิแพ้ต่างๆ ต้านเซลล์มะเร็ง และความดันโลหิตสูง เป็นที่นิยมมากในมาเลเซีย
Tumblr media
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการเว็บ Fast98 เป็น บอลน้ำดี  ฝาก-ถอนระบบออโต้ มีแอดมินบริการตลอด 24 ชั่วโมง
0 notes
tumblock1 · 3 years
Text
เจตมูลเพลิงขาว
ชื่อสมุนไพร เจตมูลเพลิงขาว
ชื่ออื่นๆ ปิดปิวขาว (เหนือ) , หนวดแมว (ลื้อ) , ตอชู , ตั้งชูอ้วย (กะเหรี่ยง) , โก้นหลัวะ(ม้ง) , ไป๋เสี่ยฮวง (จีน) 
ชื่อวิทยาศาสตร์ Plumbago zey/anica Linn.
ชื่อพ้อง Agni , Bama , Cheraka , Cuita , Duoi cong , Plumbago auricurata 
วงศ์ Plumbaginaceae 
Tumblr media
ลักษณะของเจตมูลเพลิงขาว
           ต้นเจตมูลเพลิงขาว มีเขตการกระจายพันธุ์กว้างในเขตร้อน ในประเทศไทยส่วนใหญ่จะพบได้มากทางภาคเหนือ ภาคตะวันออก และทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ โดยจัดเป็นไม้พุ่มหรือไม้ล้มลุกขนาดเล็ก มีอายุได้หลายปี แตกกิ่งก้านมากกิ่งก้านมักทอดยาว ลำต้นตั้งตรงหรือพาดพันบนต้นไม้อื่น ส่วนกิ่งเอนลู่ลง ต้นมีความสูงได้ประมาณ 1-2 เมตร บ้างว่าสูงได้ประมาณ 2-3 เมตร ลำต้นเป็นสีเขียวเข้ม กิ่งอ่อนเป็นสีเขียวเป็นร่องเหลี่ยม ผิวเรียบ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด โดยเป็นไม้ในที่ร่มรำไร ชอบความชื้นและที่แฉะ มักพบขึ้นตามป่าที่ราบ ป่าโปร่ง ป่าดิบแล้ง ป่าดงดิบทั่วไป ใบเจตมูลเพลิงขาว ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับตามข้อ ลักษณะของใบเป็นรูปหอก รูปกลมรี รูปไข่แกมขอบขนาน หรือรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม ตอนปลายเป็นติ่ง โคนใบเว้าหรือเป็นรูปลิ่มหรือมน ส่วนขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 3.8-5 เซนติเมตรและยาวดอกเจตมูลเพลิงขาว ออกดอกเป็นช่อที่
Tumblr media
ปลายกิ่ง โดยช่อดอกเป็นแบบช่อกระจะเชิงลด ดอกย่อยมีหลายดอก แกนกลางและก้านช่อดอกจะมีต่อมไร้ก้าน (ส่วนเจตมูลเพลิงแดงจะไม่มี) ก้านมียางเหนียว กลีบดอกเป็นสีขาว โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดเล็ก ๆ ยาวประมาณ 1.5-2.5 เซนติเมตร ปลายแยกเป็นแฉก 5 แฉก กลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปไข่กลับ รูปหอก หรือรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก ยาวประมาณ 0.7 เซนติเมตร ปลายกลีบดอกแหลมหรือเป็นติ่ง ดอกมีเกสรเพศผู้สีม่วงน้ำเงิน ยาวประมาณ 0.2 เซนติเมตร จำนวน 5 อัน และมีรังไข่ลักษณะเป็นรูปรี เป็น 5 เหลี่ยม ส่วนก้านเกสรเพศเมียเกลี้ยง ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมี 5 กลีบ มีลักษณะเป็นหลอดเล็กยาวประมาณ 0.6-1.2 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงดอกเป็นสีเขียวมีต่อมน้ำยางเหนียวติดมือได้ ช่อดอกยาวได้ประมาณ 5-25 เซนติเมตร ส่วนก้านช่อดอกยาวประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร ใบประดับมีลักษณะเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 0.4-0.8 เซนติเมตร ส่วนใบประดับย่อยมีลักษณะเป็นรูปแถบ ยาวประมาณ 0.2 เซนติเมตร และมีต่อมอยู่หนาแน่นประมาณ 5-10 เซนติเมตร แผ่นใบบางและเป็นสีเขียวอ่อน ผลเจตมูลเพลิงขาว ผลเป็นแบบแคปซูลแห้ง ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมรี ยาว กลม หรือเป็นรูปขอบขนาน ผลเป็นสีเขียวและมีขนเหนียวรอบผล แตกได้เป็น 5 ปาก มีร่องตามยาว 
Tumblr media
ถิ่นกำเนิดเจตมูลเพลิงขาว
           เจตมูลเพลิงขาวมีถิ่นกำเนิดในอินเดีย และกระจายพันธุ์ไปในเขตร้อนในบริเวณในบริเวณใกล้เคียงในแถบเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนในไทยมักจะพบมากในภาคเหนือ ภาคตะวันออกและภาคตะวันตกและกระจายพันธุ์ได้ดีในเขตร้อน
Tumblr media
การขยายพันธุ์เจตมูลเพลิงขาว
           เจตมูลเพลิงขาวขยายพันธุ์เหมือนกับเจตมูลเพลิงแดง กล่าวคือ การขยายพันธุ์เจตมูลเพลิงขาวสามารถทำได้โดยการเพาะเมล็ด และการปักชำกิ่ง ปกติก็ใช้วิธีเพาะเมล็ด แต่ในกรณีที่ต้องการปลูกเป็นจำนวนมาก เราสามารถใช้วิธีการปักชำกิ่งก่อนนำไปปลูกขยายลงแปลงหรือลงในรองซีเมนต์ (หากปลูกลงแปลงรากของเจตมูลเพลิงจะไชลงในดินลึกและยากแก่การเก็บเกี่ยวผลผลิต จึงใช้วิธีปลูกลงในรองซีเมนต์ชนิดไม่มีก้น แต่ใช้วัสดุแผ่นเรียบวางรองพื้นแทน เพื่อป้องกันไม่ให้รากซอนไชลงพื้น) ชนิดที่ต้องให้ระบายน้ำได้สะดวก โดยปลูกในช่วงต้นฝนแล้วรดน้ำให้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ปล่อยจนมีอายุครบ 1 ปี(เป็นอย่างน้อย) แล้วจึงจะเก็บเกี่ยวผลผลิต
Tumblr media
           การชำส่วนของลำต้น คือการตัดส่วนของยอดและส่วนของลำต้น ประมาณ 2 นิ้ว หรือ 2 ข้อของลำต้น นำมาชำด้วยวัสดุปักชำขี้เถ้าแกลบใช้เวลาประมาณ 45-50 วัน จะสามารถนำไปปลูกลงถุงเพื่อเลี้ยงให้ต้นแข็งแรงก่อนนำไปปลูกในแปลง วิธีนี้จะได้ผล 40-50 % การชำราก คือการตัดส่วนของรากเจตมูลเพลิงขาวที่อยู่ใต้ดินนำมาชำกับวัสดุปักชำตัดรากยาวประมาณ 2 นิ้วใช้เวลา 60-90 วัน จะเริ่มแตกยอดและรากใหม่ 6 เดือนพร้อมปลูกได้ วิธีนี้จะได้ผล 80-90%
Tumblr media
ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรเจตมูลเพลิงขาว
           สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทานสมุนไพรชนิดนี้เป็นอันขาด เพราะจะทำให้แท้งบุตรได้ เนื่องจากมีสารบางอย่างที่เหมือนกับเจตมูลเพลิงแดง ที่มีฤทธิ์ในการบีบมดลูกและทำให้แท้ง (แต่ฤทธิ์ของเขตมูลเพลิงขาวจะอ่อนกว่า) เมื่อทาเจตมูลเพลิงขาวแล้ว ให้สังเกตด้วยว่าอาการของโรคผิวหนังดีขึ้นหรือไม่ หากมีอาการพุพองมากยิ่งขึ้นให้หยุดใช้ยา เพราะสมุนไพรชนิดนี้หากใช้ในปริมาณมากจะทำให้เป็นแผลพุพองได้
Tumblr media
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการเว็บ Fast98 เป็น บาคาร่า ฝาก-ถอนระบบออโต้ มีแอดมินบริการตลอด 24 ชั่วโมง
0 notes
tumblock1 · 3 years
Text
ชาเขียว
ชื่อสมุนไพร ชาเขียว ชื่อสามัญ ชา , ชาเขียว , ชาดำ , Green tea , Black Tea , Chinese Tea ชื่อวิทยาศาสตร์  Camellia sinensis
ลักษณะทั่วไปชาเขียว
           ต้นชาเขียวเป็นพืชที่มีลักษณะเป็นพุ่ม ใบเขียว และหากปล่อยให้เจริญเติบโตเองในป่าจะให้ดอกสีขาวส่งกลิ่นหอมในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเมื่อดอกชาเติบโตเต็มที่จะให้ผลชาที่ภายในมีเมล็ดเล็ก ๆ ตั้งแต่หนึ่งถึงสามเมล็ด ส่วนในการแพร่พันธุ์ ต้นชาจะต้องได้รับการผสมละอองเกสรกับต้นชาต้นอื่น ๆ เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนยีน (gene) และโครโมโซม (chromosome) ซึ่งกันและกัน เมื่อชาต้นใหม่เจริญเติบโตจะคงคุณลักษณะที่เข้มแข็งบางส่วนของพ่อแม่พันธุ์ และด้วยวิธีการนี้ ต้นชาจึงเป็นพืชที่มีคุณลักษณะเด่นเฉพาะตัว ต้นชาเป็นไม้ยืนต้นที่สูงได้ถึง 10 เมตร แต่ชาวไร่ชานิยมตัดแต่งให้เป็นพุ่มเตี้ย เพื่อความสะดวกในการเก็บยอดอ่อน ชาได้ชื่อว่าเป็นพืชที่อ่อนไหวต่อสิ่งแวดล้อมที่สุด อากาศ ที่ชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสมเป็นเงื่อนไขพื้นฐานของการเพาะปลูกชาเขียวให้ได้ผล แต่รู้ไหมว่าความแตกต่างใน เรื่องนี้แม้เพียงเล็กน้อย ก็ส่งผลต่อรสชาติของใบชาที่เก็บเกี่ยวแม้จะเป็น ใบชาจากต้นเดียวกันก็ตาม หากเก็บต่างฤดูต่างเวลา หรือขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ก็ให้รสชาติที่แตกต่างกันได้
Tumblr media
สายพันธุ์ของชา            ชาที่มีขายอยู่มากมายในท้อง ตลาดนั้น แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ใหญ่ๆ ตามกรรมวิธีการผลิต จึงได้ชาที่มีกลิ่น รส และสีสันที่ต่างกัน ดังนี้คือ ชาเขียว (green tea) คือยอดอ่อนของชาที่ถูกนำไปอบ (หรือคั่ว) แห้งทันที โดยไม่มีการนวดหรือ หมักเลย จึงทำให้ใบชายังคงสีเขียวเอาไว้ได้ เพราะฉะนั้น ชาเขียวจึงให้รสชาติใกล้เคียงใบชาธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งชาวจีนและชาวญี่ปุ่นจะนิยม ดื่มชาเขียวกันมาก ชาดำ (black tea) คือยอดอ่อนของชาที่ถูกนำมานวดอย่างเต็มที่ แล้วหมักจนได้กลิ่นหอมซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะ จากนั้นจึงนำมาทำให้แห้งด้วยการอบ
Tumblr media
           ทำให้ใบชาที่ได้มีสีเข้มและมีรสขมปนฝาดมากขึ้น เนื่องจากปฏิกิริยาทางเคมีของสารแทนนินในใบชา ชาที่ฝรั่งส่วนใหญ่ดื่มก็คือชาดำ ซึ่งมีหลายชนิด และที่คนทั่วไปรู้จักกันดีก็คือ ชาอัสสัม ชาซีลอน และชาดาร์จิริ่ง ชาแดงหรือชาอู่หลง (red tea or Oolong) คือยอดอ่อนของชาที่ถูกนำมานวดพอให้ผิวนอกช้ำ เพื่อกระตุ้นสารแทนนิน จากนั้นจึงอบให้แห้ง เพื่อหยุดยั้งปฏิกิริยาทางเคมี ดังนั้น สีและรสของชาแดงจึงอยู่กึ่งกลางระหว่างชาดำกับชาเขียว เหมาะสำหรับดื่มเปล่าๆ ต่างน้ำ (ไม่ใส่นม) ชาเขียวได้นำมาสกัดเป็นเครื่องดื่มต่าง ๆ แก้กระหายน้ำแก้ร้อนใน เช่นเดียวกับน้ำเก๊กฮวยและสมุนไพรอื่น ๆ ที่นำสกัดเป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติได้ดีและมีสรรพคุณมากมายอีกด้วย
Tumblr media
การขยายพันธุ์ชาเขียว
           อนึ่ง ต้นชาก็เหมือนพืชในกลุ่มอื่น ๆ ตรงที่แต่ละต้นสามารถให้ใบชาที่มีคุณภาพมากกว่าอีกต้นหนึ่งเป็นสองเท่า แม้จะเจริญเติบโตในบริเวณเดียวกัน และมีลักษณะภายนอกเหมือนกันทุกประการก็ตาม อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เพาะปลูกชาไม่ต้องการเพาะปลูกแบบปล่อยตามธรรมชาติหากแต่ต้องการคงสภาพยีนดั้งเดิม ดังนั้น ผู้เพาะปลูกจึงมักคัดเมล็ดจากต้นที่มีคุณสมบัติเข้มแข็งที่สุดเพื่อนำมาปลูกใหม่ หรืออาจใช้วิธีโคลน (clone) โดยกระบวนการที่เรียกว่าต่อกิ่ง ซึ่งเมื่อรากของส่วนที่ต่อกิ่งงอมมาอย่างสมบูรณ์ รวมไปถึงสามารถเพาะปลูกเพื่อเพิ่มปริมาณได้เรื่อย ๆ
Tumblr media
           ในป่า ต้นชาสามารถเจริญเติบโตได้สูงตั้งแต่ 15 – 30 ฟุต ภายในวงล้อมของชาต้นเล็ก ๆ แต่ในการเพาะปลูก เกษตรกรมักรักษาระดับความสูงของต้นชาให้อยู่ในระดับความสูงประมาณ 3 – 5 ฟุต เพื่อความสะดวกในการเก็บเกี่ยวใบชาอ่อน นอกจากนี้การปล่อยให้ต้นชาเจริญเติบโตสูงเกินไป ใบอ่อนๆ ของต้นชาจะได้รับความเสียหายจากแสงแดดได้ง่ายซึ่งทำให้ใบอ่อนไหม้เกรียม และด้วยเหตุผลข้อนี้เกษตรกรจึงมักเลือกสถานที่เพาะปลูกชาเชียวภายในร่มเงาของต้นไม้ใหญ่อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
Tumblr media
แหล่งกำเนิดและประวัติการปลูกชา            แหล่งกำ เนิดชาตามธรรมชาติ มีจุดศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีนใกล้ต้นน้ำอิระวดี แล้ว แพร่กระจายพันธุ์ไปตามพื้นที่ ลักษณะคล้ายรูปพัด จากด้านทิศตะวันตก ระหว่างเทือกเขานากามานิปุริและลูไซ�� ตามแนวชายแดนของรัฐอัสสัม และสหภาพพม่า ไปยังมณฑลซีเกียงของจีนทางด้านทิศตะวันออกแล้วลงสู่ทิศใต้ตามเทือกเขาของสหภาพพม่า ตอนเหนือของไทยไปสิ้นสุดที่เวียดนาม โดยมีอาณาเขตจากด้านทิศตะวันออกจรดทิศตะวันตก กว้างถึง 1,500 ไมล์ หรือ 2,400 กิโลเมตร ระหว่างเส้นลองจิจูด 95-120 องศาตะวันออก และจาก ทิศเหนือ จรดทิศใต้ ยาว 1,200 ไมล์หรือ 1,920 กิโลเมตร ระหว่างเส้นละติจูดที่ 29-11องศาเหนือ
Tumblr media
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการเว็บ Fast98 เป็น ฟรีสปิน  ฝาก-ถอนระบบออโต้ มีแอดมินบริการตลอด 24 ชั่วโมง          
0 notes
tumblock1 · 3 years
Text
กวาวเครือแดง
Tumblr media
ชื่อสมุนไพร  กวาวเครือแดง ชื่อประจำถิ่น  กวาวเครือ (เหนือ)   จานเครือ  (อีสาน)   ตานจอมทอง  (ชุมพร)  โพตะกุ , โพมือ  (กะเหรี่ยง) ชื่อวิทยาศาสตร์  Butea superba  Roxb ชื่อวงศ์  Leguminosae  วงค์ย่อย   Papilonaceae
Tumblr media
ลักษณะทั่วไปของกวาวเครือแดง
           ลักษณะ : กวาวเครือแดงเป็นไม้เถายืนต้นที่มีลำต้นขนาดใหญ่ อายุยิ่งมากเท่าไหร่เถาก็จะยิ่งใหญ่และกลายเป็นต้น แต่ยังส่งเถาเลื้อยไปพาดพันตามต้นไม้ที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆ ใบบาง ลักษณะของใบคล้ายใบทองกวาว แต่ใบจะใหญ่กว่ามาก แต่ถ้าเป็นใบอ่อนจะมีมีขนาดเท่ากับใบพลวงหรือใบของต้นสัก ปลายใบสอบแหลม ส่วนต้นหากใช้มีดฟันจะมียางสีแดงคล้ายโลหิตออกมา หากขุดโคนต้น ก็จะพบรากขนาดใหญ่เท่าน่องขาเลื้อยออกมาจากต้นโดย��อบ มีความยาวประมาณ 2 วา ขึ้นอยู่กับอายุและขนาดของลำต้น ดอกสีส้มเหลืองคล้ายดอกทองกวาว จะออกดอกเป็น บานสะพรั่งอยู่บนยอดดอย หัวอยู่ใต้ดินคล้ายมันสำปะหลัง รูปทรงกระบอกยาว มีหลายขนาด เนื้อในเป็นสีขาว เมื่อสะกิดที่เปลือก จะมียางในตัวสีแดง
Tumblr media
การขยายพันธุ์กวาวเครือแดง 
           การเพาะเมล็ด  โดยการเพาะเมล็ดในกระบะขี้เถ้าแกลบประมาณ 45 วัน นำต้นกล้าที่ได้ ปลูกกวาวเครือแดงลงถุงเพาะชำโดยใช้ดิน 2 ส่วน ขี้เถ้าแกลบ 1 ส่วน เปลือกมะพร้าว 1 ส่วน ค่า pH ประมาณ 5.5 เมื่อต้นกล้าเจริญเติบโตได้ 60 วัน จึงนำลงแปลงปลูกกลางแจ้ง  โดยทำด้วยไม้ไผ่  หรือปลูกร่วมกับไม้ยืนต้นในกระบวนการเกษตร เช่น ���ผ่  สัก  ปอสา  หรือไม้ผลอื่น ๆ  พื้นที่ปลูกควรอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล  300-900 เมตร การปักชำ  นำเถาที่มีข้อมาปักชำในกระบะ หรือถุงที่บรรจุขี้เถ้าแกลบ  เมื่อเถาแตกรากและยอดแข็งแรงดีแล้ว จึงนำลงแปลงปลูกต่อไป การแบ่งหัวต่อต้น หัวของกวาวเครือ  ไม่มีตาที่จะแตกเป็นต้นใหม่  จำเป็นต้องใช้ส่วนของลำต้นมาต่อเชื่อตามวิธีการปลูกกวาวเครือแดงแบบต่อราก  เลี้ยงกิ่ง (nursed root grafting)  สามารถนำหัวกวาวเครือขนาดเล็ก อายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป  และต้นหรือเถาที่เคยทิ้งไปหลังการเก็บเกี่ยวมาขยายพันธุ์ได้ หลังการต่อต้นประมาณ 45-60 วัน ก็สามารถนำลงปลูกได้ และมีข้อดีคือสามารถต่อต้นกับหัวข้ามสายพันธุ์ได้  
Tumblr media
สรรพคุณ            ตำรายาไทย: หัว รสเย็นเบื่อเมา บำรุงเนื้อหนังให้เต่งตึง บำรุงสุขภาพ เป็นยาอายุวัฒนะ แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ทำให้หน้าอกโต บำรุงความกำหนัด ราก แก้ลมอัมพาต แก้โลหิต ผสมรากสมุนไพรอื่นอีกแปดชนิดเรียกว่า พิกัดเนาวโลหะ ได้แก่ รากทองกวาว รากทองหลางหนาม รากทองหลางใบมน รากทองโหลง รากทองพันชั่ง รากขันทองพยาบาท รากใบทอง และรากจำปาทอง ใช้แก้โรคดี เสมหะ ลมที่เป็นพิษ แก้ริดสีดวง ทำลายพยาธิ ดับพิษ ถอนพิษ ชำระล้างลำไส้ แก้โรคตับ แก้ลม ขับระดูร้าย สมานลำไส้ เปลือกเถา รสเย็นเบื่อเมา แก้พิษงู ตำรายาพม่า: ระบุว่าใช้เป็นยาอายุวัฒนะเช่นเดียวกับกวาวเครือขาว แต่มีฤทธิ์แรงกว่า ตำรายาไทย: ระบุว่า ชนิดหัวแดงนี้ มีพิษมาก ไม่นิยมนำมาทำยา ถ้ารับประทานมากจะเป็นอันตรายได้ ทำให้มึนเมา คลื่นไส้อาเจียน มีพิษเมามากกว่ากวาวเครือขาว ใช้ทำยาคุมกำเนิดในสัตว์
Tumblr media
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการเว็บ Fast98 เป็น สล็อตRoma  ฝาก-ถอนระบบออโต้ มีแอดมินบริการตลอด 24 ชั่วโมง      
0 notes
tumblock1 · 3 years
Text
ดาวเรืองฝรั่ง
ชื่อสมุนไพร : ดาวเรืองฝรั่ง ชื่อเรียกอื่น ๆ : ดาวเรืองหม้อ (กรุงเทพฯ), จินจ่านจวี๋ (จีนกลาง) และ กิมจั้วเก็ก (จีนแต้จิ๋ว) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Calendula officinalis Linn. ชื่อสามัญ : Calendula, Common Marigold, Cape Marigold, English Marigold, Garden Marigold, Scottish Marigold, Marigold, Pot Marigold และ Ruddles วงศ์ : ASTERACEAE
Tumblr media
ลักษณะสมุนไพรดาวเรืองฝรั่ง
           ต้นดาวเรืองฝรั่ง จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก มีอายุประมาณ 1-2 ปี ลำต้นตั้งตรง มีความสูงได้ประมาณ 33-48 เซนติเมตร แตกกิ่งก้านสาขามากที่โคนต้น ทั้งต้นมีขนขึ้นปกคลุมเล็กน้อย ตามกิ่งและก้านจะมีร่องเหลี่ยม ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด เป็นไม้กลางแจ้ง เจริญเติบได้ในดินที่ระบายน้ำดี เป็นพรรณไม้พื้นเมืองของยุโรปตอนใต้  ใบดาวเรืองฝรั่ง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปหอก ปลายใบแหลม ส่วนขอบใบเป็นคลื่น ใบมีขนาดยาวประมาณ 2.2-7.8 เซนติเมตร ไม่มีก้านใบ ใบที่อยู่ตรงโคนก้านจะมีขนาดใหญ่เรียงกันขึ้นไปหาเล็ก แผ่นใบมีสีเขียวอ่อน ดอกดาวเรืองฝรั่ง ดอกออกเป็นดอกเดี่ยวหรือออกเป็นกระจุกบริเวณปลายต้น ดอกมีสีเหลืองหรือสีเหลืองปนส้ม กลีบดอกมีขนาดเล็ก ลักษณะเป็นรูปแกมขอบขนานเ���ียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ หลาย ๆ ชั้น หรือเรียงซ้อนกันเป็นวงหลายวง ดอกวงนอกเป็นดอกเพศเมีย ส่วนดอกวงในเป็นดอกเพศผู้ ดอกมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3.3-7.8 เซนติเมตร ปลายดอกแยกออกเป็นแฉก ๆ กลีบดอกทั้งหมดจะมีขนแข็งติดอยู่ที่โคน บริเวณใต้ดอกมีกลีบเลี้ยงอยู่ 1-2 ชั้น  ผลดาวเรืองฝรั่ง ผลเป็นผลแห้ง ผลมีลักษณะเป็นรูปขอบขนานโค้ง ยาวประมาณ 10-12 มิลลิเมตร มีขนเล็กน้อยหรืออาจเกลี้ยง
Tumblr media
สรรพคุณทางยา
           ดอก ยาธาตุ ยาลดไขมันในเลือด ลดคอเลสเตอรอล ยาแก้อาการอักเสบของตา ยาแก้ไข้ ขับเหงื่อ ยาแก้ไข้ทรพิษ ยาขับลม ขับกระษัยลม ยาขับพยาธิ ยารักษาอาการถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ยาแก้โรคดีซ่าน ยาแก้โรคหัด ราก ยาสุขุม ออกฤทธิ์ต่อตับและม้าม ใช้เป็นยาฟอกเลือด กระจายเลือดลมที่อุดตัน ยาแก้ปวดกระเพาะ ยารักษาอาการถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ยารักษาซีสต์ในมดลูกของสตรี ทั้งต้น ช่วยเจริญอาหาร ช่วยขับเหงื่อ ยาแก้คลื่นเหียนอาเจียน ยาขับพยาธิ ใบ รักษาอาการท้องผูก ยาแก้โรคต่อมน้ำเหลืองในเด็ก
Tumblr media
วิธีการใช้
           ยาธาตุ ยาลดไขมันในเลือด ลดคอเลสเตอรอล ยาแก้อาการอักเสบของตา ยาแก้ไข้ ขับเหงื่อ ยาแก้ไข้ทรพิษ ยาขับลม ขับกระษัยลม ยาขับพยาธิ ยารักษาอาการถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ยาแก้โรคดีซ่าน ยาแก้โรคหัด นำดอกนำมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน ยาสุขุม ออกฤทธิ์ต่อตับและม้าม ใช้เป็นยาฟอกเลือด กระจายเลือดลมที่อุดตัน ยาแก้ปวดกระเพาะ ยารักษาอาการถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ยารักษาซีสต์ในมดลูกของสตรี นำรากมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน ช่วยเจริญอาหาร ช่วยขับเหงื่อ ยาแก้คลื่นเหียนอาเจียน ยาขับพยาธิ นำทั้งต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน รักษาอาการท้องผูก ยาแก้โรคต่อมน้ำเหลืองในเด็ก นำใบนำมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
Tumblr media
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของดาวเรืองฝรั่ง
           ดอกดาวเรืองฝรั่ง มีสาร Carotene ส่วนทั้งต้นพบสาร Alkaloid, Flavoxanthin, Lycopene, Rubixabthin, Violaxanthin และพบน้ำมันระเหย เป็นต้น ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ได้แก่ ฤทธิ์ลดไขมันในเลือด ลดคอเลสเตอรอล ยับยั้งการชัก ต้านบิด ต้านเชื้อรา ต้านไวรัส ป้องกันฟันผุ สารสกัดจากดอกดาวเรืองฝรั่ง เป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อประสาทส่วนกลาง ทำให้สงบจิตได้ สารที่สกัดจากดอกดาวเรืองฝรั่ง หากนำมาฉีดเข้าเส้นเลือดดำของสัตว์ทดลอง พบว่าจะทำให้หัวใจของสัตว์มีกำลังเต้นแรงขึ้น แต่การบีบตัวของหัวใจและความดันโลหิตลดลง ถ้านำไปฉีดในสุนัขที่มีการบาดเจ็บเป็นแผล พบว่าจะกระตุ้นการสร้างน้ำดีให้เพิ่มขึ้น และส่งผลทำให้บาดแผลหายเร็วขึ้นด้วย ชาวยุโรปจึงนิยมใช้ดอกดาวเรืองฝรั่งนำมารักษาแผลทั้งภายนอกและภายใน
Tumblr media
           สารสกัดจากใบและดอกดาวเรืองฝรั่ง มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อโรคและแก้บวมอักเสบ โดยเฉพาะต่อต้านเชื้อ Streptococcus และ Staphylococcus ซึ่งสารที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อดังกล่าวได้นั้นจะไม่ละลายในน้ำ แต่จะละลายในแอลกอฮอล์ จากการทดสอบความเป็นพิษ พบว่าสารสกัดจากดอกที่ทำให้หนูถีบจักรตายหมดเมื่อฉีดเข้าช่องท้อง 580 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ฉีดเข้าช่องท้องหนูถีบจักรมีค่า LD50 375 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เมื่อปี ค.ศ.1983 ที่ประเทศอินเดีย ได้ศึกษาทดลองผลในการลดไขมันในเลือดของสารสกัดจากดอกดาวเรืองฝรั่งในหนูทดลอง ผลการทดลองพบว่ามีผลต่อระบบประสาท ทำให้เพิ่มระดับการนอนหลับและลดไขมันในเลือด โดยลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์จากสาร saponoside 10-50 มิลลิกรัม ได้นาน 12 สัปดาห์
Tumblr media
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการเว็บ Fast98 เป็น เว็บสล็อต  ฝาก-ถอนระบบออโต้ มีแอดมินบริการตลอด 24 ชั่วโมง          
0 notes
tumblock1 · 3 years
Text
พันงูเขียว
Tumblr media
ชื่อสมุนไพร : พันงูเขียว ชื่อเรียกอื่น ๆ : เจ๊กจับกบ (ตราด), เดือยงู, พระอินทร์โปรย (ชุมพร), หญ้าหนวดเสือ (ภาคเหนือ), สี่บาท, สารพัดพิษ (ภาคกลาง), หญ้าหางงู (ภาคใต้), ลังถึ่งดุ๊ก (กระเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน), เล้งเปียง (จีนแต้จิ๋ว), ยี่หลงเปียน, ยวี่หลงเปียน, เจี่ยหม่าเปียน (จีนกลาง), ฉลกบาท และ หญ้าพันงูเขียว ชื่อวิทยาศาสตร์ : Stachytarpheta jamaicensis (L.) Vahl. ชื่อสามัญ : Brazilian Tea, Bastard Vervain, Jamaica False Veravin และ Arron’s Rod วงศ์ : VERBENACEAE
Tumblr media
ลักษณะสมุนไพรพันงูเขียว
           ต้นพันงูเขียว จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกจำพวกหญ้า ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง มีความสูงได้ประมาณ 50 เซนติเมตร แตกกิ่งก้านสาขาทางด้านข้าง ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด พรรณไม้ชนิดนี้พบได้ในแถบเขตร้อนทั่วไป โดยมักขึ้นตามเนินเขา ตามทุ่งนา ทุ่งหญ้า พื้นที่เปิด หรือตามริมถนน ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลจนถึง 600 เมตร ใบพันงูเขียว ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบเป็นรูปลิ่ม ขอบใบหยักคล้ายฟันเลื่อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร และยาวประมาณ 4-6 เซนติเมตร ดอกพันงูเขียว ออกดอกเป็นช่อบริเวณปลายกิ่ง ดอกเป็นสีม่วงน้ำเงิน เป็นรูปกลมงอเล็กน้อย มีกลีบดอก 5 กลีบ มีกาบใบ 1 ใบ ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม มีฟันเลื่อย 4-5 หยัก โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ดอกมีเกสรเพศผู้ 2 อัน และมีรังไข่ 2 ห้อง ดอกจะออกในช่วงฤดูร้อน ผลพันงูเขียว ผลมีกลีบเลี้ยงหุ้มอยู่ พบได้ในบริเวณช่อดอก ถ้าแห้งแล้วจะแตกออกได้ ภายในผลมีเมล็ด
Tumblr media
สรรพคุณทางยา
           ทั้งต้น ยาเย็น ออกฤทธิ์ต่อปอดและลำไส้ใหญ่ ใช้เป็นยาขับพิษร้อน ถอนพิษไข้ ช่วยขับเหงื่อ ยาแก้ไข้ ลดไข้ ยารักษาโรคตาแดง ยาแก้ตาบวม ตาแดง ตาอักเสบ ช่วยรักษาอาการอาเจียน ยารักษาโรคกระเพาะ ช่วยรักษาโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ รักษาทางเดินปัสสาวะติดเชื้อ ยาแก้โรคหนองใน ยาแก้บวม ฟกช้ำ ยารักษาโรคปวดข้อ รักษาอาการปวดเมื่อยตามข้อเนื่องจากลมชื้นคั่งค้างภายในร่างกาย ใบ รักษาอาการเจ็บคอ คออักเสบ แก้โรคบิด ขับพยาธิในเด็ก ยาทารักษาฝีหนอง แก้เคล็ด รักษาอาการปวดเมื่อย แก้โรคบิด ขับพยาธิในเด็ก ยาทารักษาฝีหนอง แก้เคล็ด รักษาอาการปวดเมื่อย
Tumblr media
วิธีการใช้                                  
           ยาเย็น ออกฤทธิ์ต่อปอดและลำไส้ใหญ่ ใช้เป็นยาขับพิษร้อน ถอนพิษไข้ ช่วยขับเหงื่อ ยาแก้ไข้ ลดไข้ ยารักษาโรคตาแดง ยาแก้ตาบวม ตาแดง ตาอักเสบ ช่วยรักษาอาการอาเจียน ยารักษาโรคกระเพาะ ช่วยรักษาโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ รักษาทางเดินปัสสาวะติดเชื้อ ยาแก้โรคหนองใน ยาแก้บวม ฟกช้ำ ยารักษาโรคปวดข้อ รักษาอาการปวดเมื่อยตามข้อเนื่องจากลมชื้นคั่งค้างภายในร่างกาย นำทั้งต้นมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน รักษาอาการเจ็บคอ คออักเสบ แก้โรคบิด ขับพยาธิในเด็ก ยาทารักษาฝีหนอง แก้เคล็ด รักษาอาการปวดเมื่อย แก้โรคบิด ขับพยาธิในเด็ก ยาทารักษาฝีหนอง แก้เคล็ด รักษาอาการปวดเมื่อย นำใบมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
Tumblr media
ผลทางเภสัชวิทยา            น้ำที่สกัดจากต้นให้ฤทธิ์คล้ายโดปามีน (dopamine) และมีพิษต่อหนูถีบจักร ส่วนที่สกัดโดยการต้มด้วยน้ำ มีฤทธิ์กระตุ้นลำไส้เล็กส่วนปลายของหนูตะเภาที่ทดลองนอกร่างกายอย่างเห็นได้ชัด ส่วนที่สกัดด้วย แอลกอฮอล์จะมีฤทธิ์กระตุ้นอ่อนกว่า แต่ทั้ง 2 อย่างไม่มีฤทธิ์ทีชัดเจนต่อ หูรูดระหว่างกระเพาะอาหารกับลำไส้เล็กของกระต่าย และมดลูกของหนูขาวที่ทดลองนอกร่างกาย ส่วนที่สกัดโดยการต้มด้วยน้ำมีฤทธิ์กระตุ้นเพียงเล็กน้อยต่อหัวใจ ของกระต่ายที่ทดลองนอกร่างกาย ถ้าฉีดเข้ากล้ามที่ขาหลังของหนูขาวจะ มีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อฉีดเข้าหลอดเลือด ดำของสุนัขที่ถูกวางยาสลบในปริมาณ ต้นสด 0.1 กรัมต่อ กก.น้ำหนักตัว ไม่มีผลต่อความดันโลหิต และเมื่อฉีดในปริมาณ 0.1 กรัม เข้าช่องท้อง หนูถีบจักรจะตายภายใน 24 ชม.
Tumblr media
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการเว็บ Fast98 เป็น หวยออนไลน์  ฝาก-ถอนระบบออโต้ มีแอดมินบริการตลอด 24 ชั่วโมง          
0 notes
tumblock1 · 3 years
Text
ประทัดจีน
ชื่อสมุนไพร : ประทัดจีน ชื่อเรียกอื่น ๆ : ประทัดเล็ก, ประทัดฝรั่ง, ประทัดทอง และ ประทัดใหญ่ (กรุงเทพฯ) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Russelia equisetiformis Schlecht. & Cham. ชื่อสามัญ : Fountain Plant, Coral Fountain, Coral Plant, Coralblow และ Firecracker Plant วงศ์ : SCROPHULARIACEAE
Tumblr media
ลักษณะสมุนไพรประทัดจีน
           ต้นประทัดจีน มีถิ่นกำเนิดในประเทศเม็กซิโกและกัวเตมาลา (อเมริกาเหนือ) บ้างก็ว่ามีถิ่นกำเนิดอยู่ในอเมริกาใต้[1] โดยจัดเป���นพรรณไม้ล้มลุกที่มีหัวหรือเหง้า แตกกิ่งก้านสาขาออกเป็นกอพุ่มแน่น มีความสูงของต้นประมาณ 1-2 เมตร ตามลำต้นมีลักษณะเป็นข้อปล้อง ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแยกหน่อ เป็นพรรณไม้กลางแจ้งที่ขึ้นได้ในดินทั่วไป เติบโตเร็ว เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ชอบความชื้นปานกลาง และแสงแดดแบบเต็มวัน ใบประทัดจีน ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเป็นวงรอบ ลักษณะของใบเป็นรูปเรียวยาวหรือเป็นรูปเข็มเส้นเล็ก ๆ เรียว ๆ ยาวประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร ปลายใบแหลมเป็นติ่ง โคนใบแหลม แผ่นใบเป็นสีเขียวสดมีขนาดเล็ก ออกเรียงต่อ ๆ กันตามข้อ โดยจะออกรอบ ๆ ลำต้น ก้านใบสั้น ร่วงได้ง่าย ผลประทัดจีน ผลเป็นแบบแคปซูล มีลักษณะกลม ผิวด้านในมีขน เมล็ดมีจำนวนมากและมีขนาดเล็ก ผิวมีขนและเป็นเส้นคล้ายกับรังนก
Tumblr media
           ดอกประทัดจีน ดอกประทัดจีน มีลักษณะคล้ายกับดอกประทัดทั่วไป คือดอกจะเป็นหลอดสีแดงเข้มหรือสีส้มเป็นมัน ขนาดเล็ก ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง ช่อดอกยาวประมาณ 3 เซนติเมตร หนึ่งช่อจะมีดอกย่อยประมาณ 2-4 ดอก กลีบเลี้ยงเป็นรูปถ้วยสั้น ๆ ปลายแยกเป็นแฉก 5 แฉกตื้น ๆ ติดทน ส่วนกลีบดอก ดอกติดกันเป็นหลอด ยาวได้ประมาณ 2.5 เซนติเมตร ด้านในเกลี้ยง โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดแคบ ปลายกลีบดอกแยกออกเป็น 5 แฉกเล็ก ๆ คล้ายรูปปากเปิดตื้น ๆ แบ่งเป็นกลีบบน 2 กลีบ และกลีบล่าง 3 กลีบ ดอกมีเกสรเพศผู้ที่สมบูรณ์ 4 อัน มีความยาวไม่เท่ากัน ยื่นพ้นออกมาจากปากหลอดกลีบเล็กน้อย เกสรเพศผู้ที่เป็นหมันมี 1 อัน รังไข่มี 2 ช่อง ก้านเกสรเพศเมียมี 1 อัน ติดทน และยังมีอีกชนิดหนึ่งที่ดอกเป็นสีชมพูอมส้ม
Tumblr media
สรรพคุณของประทัดจีนและประโยชน์ของประทัดจีน
           เนื้อไม้นำมาดองกับเหล้า ใช้กินเป็นยาเพื่อช่วยทำให้เจริญอาหาร (เนื้อไม้) รากประทัดจีน มีรสชาติขม ใช้เป็นยาแก้ไข้ ไข้จับสั่น (ราก) รากมีสรรพคุณช่วยขับน้ำลาย (ราก) ช่วยในการย่อยอาหาร (ราก) รากมีประโยชน์ช่วยทำให้อาหารมีรสชาติดี ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับในเขตร้อน ให้ความรู้สึกไหวพลิ้วเบาสบาย ประทัดจีนดอกขาวจะให้รู้สึกนุ่มนวลทางสายตา ส่วนประทัดจีนดอกแดงจะให้ความรู้สึกรื่นเริง เพราะดอกมีการเคลื่อนไหวเมื่อลมพัดผ่าน เป็นพรรณไม้ที่ปลูกเลี้ยงง่าย ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี ชอบแสงแดดจัด นิยมนำมาปลูกประดับตามมุมอาคารหรือขอบแนวอาคาร หรือปลูกตามสวนหิน ริมน้ำตก ริมทะเล หรือสระว่ายน้ำ ในส่วนที่มีแสงแดดส่องถึงไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน หรือจะนำมาปลูกประดับสนามที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวันก็ได้ แต่ควรตัดแต่งกิ่งหลังจากการออกดอกพร้อมกันจำนวนมากทุกครั้ง
Tumblr media
การปลูกและการดูแลรักษา
           ปลูกเป็นกลุ่มหลายๆ ต้นในกระถาง  ปลูกเป็นกลุ่มหลายๆ ต้น เป็นแปลงยาว ทรงกลม หรือรูปทรงตามต้องการ ประดับตามมุมหรือขอบแนวอาคาร ในส่วนที่มีแสงแดดส่องเข้าถึงได้ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ปลูกประดับในสนามที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน  ปลูกในพื้นที่ที่มีความเข้มของแสงไม่น้อยกว่า 60% และมีแสงแดดส่องเข้าถึงไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ควรตัดแต่งกิ่งหลังจากการให้ดอกพร้อมกันจำนวนมากแล้วทุกครั้ง โดยตัดให้เหลือความสูงประมาณ 30 - 50 ซม.  ควรให้ปุ๋ยคอกผสมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15:15:15 ในอัตราส่วน 5/0.2 กก. ต่อพื้นที่ปลูก 1 ตรม. รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
Tumblr media
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการเว็บ Fast98 เป็น สล็อตPGแตกง่าย  ฝาก-ถอนระบบออโต้ มีแอดมินบริการตลอด 24 ชั่วโมง
0 notes
tumblock1 · 3 years
Text
ผักกูด
Tumblr media
ชื่อสมุนไพร : ผักกูด ชื่อเรียกอื่น ๆ : ผักกูดขาว (ชลบุรี), หัสดำ (นครราชสีมา, สุราษฎร์ธานี), กูดน้ำ (แม่ฮ่องสอน), ไก้กวิลุ ปู่แปลเด๊าะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), แลโพโด้, แหละโพะโด้ะ (กะเหรี่ยงเชียงใหม่), แทรอแปล๊ะ (กะเหรี่ยงแดง), หย่ายจ๊วด (เมี่ยน), เหล้าชั้ว (ม้ง), บ่ะฉ้อน (ลั้วะ), ร่านซู้ล (ขมุ), กูดคึ (ภาคเหนือ), ผักกูด (ภาคกลาง) และ กูดกิน ชื่อวิทยาศาสตร์ : Diplazium esculentum (Retz.) Sw. ชื่อสามัญ : Paco Fern, Small Vegetable Fern และ  Vegetable Fern วงศ์ : WOODSIACEAE
Tumblr media
ลักษณะสมุนไพรของผักกูด
           ต้นผักกูด จัดเป็นเฟิร์นขนาดใหญ่ที่มีเหง้าตั้งตรง และมีความสูงมากกว่า 1 เมตรขึ้นไป เหง้าปกคลุมไปด้วยใบเกล็ด เกล็ดมีขนาดกว้างประมาณ 1 มิลลิเมตรและยาวประมาณ 1 เซนติเมตร เกล็ดมีสีน้ำตาลเข้มถึงสีดำ ขอบใบเกล็ดหยักเป็นซี่ โดยเฟิร์นชนิดนี้มักจะขึ้นหนาแน่นตามชายป่าที่มีแดดส่องถึง ในบริเวณที่ลุ่มชุ่มน้ำ ตามริมลำธาร บริเวณต้นน้ำ หนองบึง ชายคลอง ในที่ที่มีน้ำขังแฉะและมีอากาศเย็น รวมไปถึงในพื้นที่เปิดโล่ง หรือในที่ที่มีร่มเงาบ้าง และจะเจริญเติบโตได้ดีบริเวณที่ชื้นแฉะ มีความชื้นสูง เติบโตในช่วงฤดูฝน ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เหง้า ใช้สปอร์ หรือไหล มีเขตการกระจายพันธุ์อยู่ในเขตร้อนทั่วไปของเอเชีย ไล่ตั้งแต่ภาคกลางของประเทศจีน ภาคใต้ของญี่ปุ่น ไปจนถึงหมู่เกาะแปซิฟิก ส่วนในประเทศไทยบ้านเราจะพบผักกูดได้ทั่วไปแทบทุกภูมิภาคในที่มีสภาพดินไม่แห้งแล้ง
Tumblr media
           ใบผักกูด ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก 2 ชั้น มีความยาวได้มากกว่า 1 เมตรและกว้างได้ถึง 50 เซนติเมตร ใบมีสีเขียวอ่อน แม้แก่จะมีสีเขียวเข้ม มีใบย่อย 1-2 คู่ล่างจะเล็กกว่าใบย่อยที่อยู่ช่วงกลาง ซึ่งมีขนาดใหญ่ได้ถึง 25 เซนติเมตร ช่วงขนาดสอบเล็กลงทันทีเป็นหลายแหลม ส่วนใบย่อยชั้นกลางจะมีใบที่มีขนาดใหญ่กว่า มีก้านสั้นหรือกึ่งไม่มีก้าน โคนใบมีลักษณะเว้าเป็นรูปหัวใจหรือเป็นติ่งหู ปลายสอบแหลมมีขนาด 2.5 เซนติเมตร ขอบหยัก ลึกประมาณ 1 ใน 4 ของระยะถึงเส้นกลางใบ ปลายเป็นรูปมน ขอบเป็นฟันเลื่อย เนื้อใบมีลักษณะบางคล้ายกระดาษ มีเส้นใบแตกแขนงแบบขนนก มีปลายเส้นถึง 10 คู่ กลุ่มสปอร์จะอยู่ใกล้และยาวตลอดความยาวของเส้นใบส่วนปลาย ส่วนก้านใบยาวประมาณ 70 เซนติเมตร
Tumblr media
สรรพคุณทางยา 
           ใบ ช่วยเสริมสร้างร่างกาย���ห้แข็งแรงยอดผักกูด ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และยังช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยแก้ไข้ตัวร้อน ช่วยดับร้อน ทำให้ร่างกายปรับสภาพอุณหภูมิให้เข้ากับฤดู ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเม็ดเลือด ช่วยบำรุงโลหิต เนื่องจาก ช่วยแก้โรคโลหิตจาง ช่วยบำรุงสายตา ช่วยความดันโลหิตสูง ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างดี ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยแก้พิษอักเสบ
Tumblr media
วิธีการใช้                                    
           ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงยอดผักกูด ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และยังช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยแก้ไข้ตัวร้อน ช่วยดับร้อน ทำให้ร่างกายปรับสภาพอุณหภูมิให้เข้ากับฤดู ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเม็ดเลือด ช่วยบำรุงโลหิต เนื่องจาก ช่วยแก้โรคโลหิตจาง ช่วยบำรุงสายตา ช่วยความดันโลหิตสูง ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างดี ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยแก้พิษอักเสบ นำใบมารับประทานสดๆ หรือนำมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
Tumblr media
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการเว็บ Fast98 เป็น สล็อตแตกง่าย  ฝาก-ถอนระบบออโต้ มีแอดมินบริการตลอด 24 ชั่วโมง    
0 notes
tumblock1 · 3 years
Text
หนามไข่กุ้ง
หนามไข่กุ้ง ชื่อวิทยาศาสตร์ Rubus ellipticus Sm. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Rubus ellipticus var. ellipticus) จัดอยู่ในวงศ์กุหลาบ (ROSACEAE)
สมุนไพรหนามไข่กุ้ง มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ไข่กุ้ง ไข่ปู บ่าฮู้ดอย มะฮู้หลวง (เชียงใหม่), กูวาซาฅตาซู ยะโพบิ้ (กะเหรี่ยงเชียงใหม่), ลำโง้น (ลั้วะ), ไข่กุ้งพู เป็นต้น
Tumblr media
ลักษณะของหนามไข่กุ้ง
           ไม้พุ่มหรือรอเลื้อย มีขนสั้นนุ่ม ขนแข็งสีน้ำตาลแดง และหนามโค้งหนาแน่นตามกิ่ง แกนและก้านใบประกอบ และแกนช่อดอก มีขนสั้นนุ่มตามหูใบ แผ่นใบด้านล่าง ใบประดับ กลีบเลี้ยงและกลีบดอกด้านนอก และรังไข่ หูใบรูปเส้นด้าย ยาว 0.7-1 ซม. ใบประกอบมี 3 ใบย่อย ก้านใบประกอบยาว 2-6 ซม. ก้านใบย่อยคู่ล่างสั้นมาก ใบปลายยาว 2-3 ซม. ใบรูปไข่กลับกว้าง ยาว 3-6 ซม. ใบปลายยาวกว่าใบคู่ล่าง ปลายตัดหรือเว้าตื้น ขอบจักฟันเลื่อย ช่อดอกแบบช่อกระจะเป็นกลุ่มแน่นที่ปลายกิ่ง ยาว 1.5-4 ซม. ใบประดับรูปแถบ ยาว 5-9 มม. ใบประดับย่อยขนาดเล็ก ก้านดอกยาว 0.5-1 ซม. ดอกบานเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-1.2 ซม. ก้านดอกและกลีบเลี้ยงมีขนประปราย กลีบเลี้ยงรูปไข่ ยาว 4-6 มม. ดอกสีขาวหรืออมชมพู กลีบรูปใบพาย ขอบแหว่ง เกสรเพศผู้เรียงกลุ่มเดียว สั้นกว่ากลีบดอก
Tumblr media
           ก้านเกสรเพศเมียยาวกว่าเกสรเพศผู้เล็กน้อย ผลกลุ่มสีเหลือง เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. เมล็ดมีรอยย่น หนามไข่กุ้ง ชื่ออื่น บ่าฮูดอย , ไข่กุ้งพู มีลักษณะเป็นไม้ มีความสูงของต้นได้ถึง 10 เมตร กิ่งก้านและเส้นใบรวมทั้งช่อดอกมีหนามยาวสีแดงหนาแน่น พุ่มมีขนสั้นนุ่ม และหนามโค้งหนาแน่นตามกิ่ง ผลกลุ่มสีเหลือง เมล็ดมีรอยย่น ซึ่งผลของมันสามารถทานดิบได้ รสชาติจะมีรสหวานอมเปรี้ยว ต้นหนามไข่กุ้ง สามารถพบที่อินเดีย ปากีสถาน ภูฏาน ศรีลังกา เนปาล จีนตอนใต้ พม่า ลาว เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ในไทยพบได้ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขึ้นตามชายป่าดิบเขา
Tumblr media
สรรพคุณของหนามไข่กุ้ง
           ราก นำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาบำรุงตับ สำหรับผู้ที่ดื่มสุรา แก้ริดสีดวงทวาร และยังสามารถแก้อาการท้องร่วงได้อีก ใบ สามารถนำมาประคบ รักษาโรคปากนกกระจอก เปลือก ช่วยสำหรับทางการแพทย์ในการบำรุงไต .น้ำของผลหนามไข่กุ้ง รักษาอาการ ไอ ไข้ อาการจุกเสียด และ เจ็บคอ
Tumblr media
การขยายพันธุ์หนามไข่กุ้ง
           หนามไข่กุ้งสามารถขยายพันธุ์ได้โดยการใช้เมล็ด แต่เนื่องจากถูกจัดให้เป็นวัชพืช และตัวของหนามไข่กุ้งเองก็มีหนามทำให้ยากต่อการกำจัด จึงทำให้ปัจจุบันไม่มีการปลูกเพื่อนำไปใช้ประโยชน์  แต่อย่างใดส่วนการขยายพันธุ์ที่พบส่วนมากจะเป็นการขยายพันธุ์โดยธรรมชาติเอง  ซึ่งหนามไข่กุ้งเป็นพืชที่ขึ้นง่าย ทนแล้ง และสามารถแพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว สามารถขึ้นได้ทุกสภาพดินและสภาพอากาศ
Tumblr media
ถิ่นกำเนิดหนามไข่กุ้ง
           หนามไข่กุ้งมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ รวมถึงบางส่วนในอเมริกากลาง แล้วมีการกระจายพันธุ์ไปยังดินแดนต่าง ๆ ทั่วโลก  อาทิเช่น  แอฟริกา เอเชียตะวันออก เอเชียใต้  เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย รวมถึงในสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้หนามไข่กุ้งถูกจัดให้เป็นวัชพืช “ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน” ในหลายๆประเทศ สำหรับในประเทศไทย  สามารถพบหนามไข่กุ้งได้ทั่วทุกภาคของประเทศส่วนใหญ่จะพบบริเวณข้างทางหรือที่รกร้างทั่วไปรวมถึงในป่าตามภูมิภาคต่าง ๆ
Tumblr media
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการเว็บ Fast98 เป็น พนันบอล  ฝาก-ถอนระบบออโต้ มีแอดมินบริการตลอด 24 ชั่วโมง          
0 notes
tumblock1 · 3 years
Text
ส้มมะปิด
Tumblr media
ส้มมะปิด ชื่อสามัญ Calamondin, Calamondin orange, China orange, Chinese orange, Golden lime, Kalamansi lime, Panama orange, Musklime, Philippine lime
ส้มมะปิด ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus × microcarpa Bunge (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Citrus × mitis Blanco, × Citrofortunella microcarpa (Bunge) Wijnands) จัดอยู่ในวงศ์ส้ม (RUTACEAE)
ส้มมะปิด มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า มะนาวหวาน ส้มจี๊ด (กรุงเทพฯ), ส้มมะปิด (ตราด) เป็นต้น
หมายเหตุ : ส้มมะปิดหรือส้มจี๊ดที่กล่าวถึงในบทความนี้เป็นคนละชนิดกับ "ส้มจี๊ด" หรือ "ส้มกิมจ๊อ" (Kumquat) ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Citrus Japonica Thunb.
Tumblr media
ลักษณะของส้มมะปิด
           ต้นส้มมะปิด จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มเตี้ย สูงประมาณ 1.5-3 เมตร เปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาล ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด ปักชำกิ่งหรือตอนกิ่ง เชื่อกันว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนแล้วจึงแพร่กระจายมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮาวาย อินเดีย อินดีสตะวันตก อเมริกากลาง และอเมริกาเหนือ ใบส้มมะปิด ใบเป็นใบประกอบ ออกเรียงสลับ มีใบย่อย 1 ใบ ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปไข่หรือรูปรียาว ปลายใบแหลม โคนใบมน ส่วนขอบใบเรียบ หลังใบและ��้องใบเรียบ ดอกส้มมะปิด ออกดอกเป็น��่อหรือออกดอกเดี่ยว โดยจะออกที่ปลายยอด ดอกย่อยเป็นสีขาวและมีกลิ่นหอม มีกลีบดอก 5 กลีบ เมื่อดอกบานจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5-2.5 เซนติเมตร ออกดอกได้ตลอดทั้งปี ผลส้มมะปิด ผลเป็นผลสด ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมเหมือนส้มทั่วไป แต่จะมีขนาดเล็กกว่า ผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร ผิวผลเรียบ เปลือกผลบาง ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมส้ม น้ำเยอะ รสเปรี้ยวจัด ภายในผลมีเมล็ด ออกผลดกมาก
Tumblr media
วิธีการปลูกส้มมะปิด
           ส้มมะปิดพันธุ์ขาวใหญ่ เกษตรกรนิยมปลูกโดยการใช้กิ่งตอน การชื้อกิ่งพันธุ์จากสวนส้มมะปิดที่ปลอดโรค หรือตอนกิ่งจากสวนของตัวเอง ตอนจากต้นส้มมะปิดที่ไม่เป็นโรคแมลงรบกวน โดยตอนกิ่งที่เป็นกิ่งกระโดง ที่แข็งแรง หรือกิ่งที่แตกใหม่จากต้นแม่ การตอนกิ่งใช้เวลา 45 วัน กิ่งตอนจะออกราก มีสีเหลืองจึงตัดกิ่งตอนเพื่อนำไปปลูกหรือใส่ดินปลูก ในถุงไว้ให้แข็งแรงก่อน แล้วจึงนำไปปลูกในแปลงก็จะมีอัตราการเจริญเติบโตดีมาก การเตรียมพื้นที่ปลูกส้มมะปิดพันธุ์ขาวใหญ่ ถ้าเป็นการปลูกสวนใหม่ ควรปลูกกล้วยน้ำว้า หรือกล้วยไข่ก่อนปลูกส้มมะปิด สักประมาณ 4 - 5 เดือน แล้วจึงปลูกส้มมะปิดจะดีมาก เพราะจะมีไม้พี่ เลี้ยงหรือไม้บังร่มป้องกันลมให้กับต้นส้มมะปิดที่ยังเล็กอยู่ได้ดี
Tumblr media
           ทำให้ต้นส้มมะปิดแข็งแรงและโตเร็ว ถ้าเป็น ร่องสวนควรยกร่องสูงกว่าระดับน้ำปกติ80 - 100 ซม. การเตรียมหลุมปลูกส้มมะปิด ขุดหลุมลึก 20 x 20 ซม. ระยะห่างหลุมของการปลูกส้มมะปิดควรเป็นระยะ 4 x 5 เมตร ต่อต้น และต่อระหว่างแถว 1 ไร่ ปลูกได้35 ต้น นำปุ๋ยหมักและดินดีผสมให้เข้ากันใส่ให้เต็มหลุมที่ ขุดไว้ ขุดหลุมเล็ก ๆ พอมิดรากกิ่งตอน นำกิ่งตอนหรือต้นส้มมะปิดที่ปลูกในถุงไว้แล้ววางกลางหลุมที่ เตรียมไว้ ใช้ดินกลบ ปักไม้ผูกกับกิ่งส้มมะปิดกันลมพัดกิ่งโยกทำให้รากขาดได้ แล้วให้น้ำทุกวันถ้าฝนไม่ตก หรือดูว่าดินชุ่มน้ำแต่ต้องไม่เปียกแฉะ จนกว่ากิ่งส้มมะปิดที่ปลูกใหม่เริ่มแตกใบอ่อนและต้นแข็งแรง ดีแล้ว รากเดิมเต็มแล้วก็ควรลดปริมาณการให้น้ำน้อยลงตามความเหมาะสม 5 วัน/ครั้งก็ได้
Tumblr media
สรรพคุณของส้มมะปิด
           น้ำจากผลมีรสเปรี้ยว นำมาผสมกับเกลือเล็กน้อย ใช้ดื่มเป็นยาบรรเทาอาการไอ (น้ำจากผล) ผลแก่ดองเค็มตากแห้ง ใช้รับประทานเป็นยาแก้ไอและแก้อาการเจ็บคอ (ผลแก่ดองเค็มตากแห้ง) น้ำจากผลนำมาผสมกับเกลือน้อย ใช้ดื่มเป็นยาขับเสมหะ (น้ำจากผล) เปลือกผลดิบใช้กินสด ๆ เป็นยาขับลม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ (เปลือกผลดิบ) ส้มมะปิดสามารถนำมารับประทานได้ทั้งเปลือก อีกทั้งน้ำส้มยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี และกรดอินทรีย์อีกหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ส่วนเปลือกของส้มมะปิดห่าม ๆ ก็สามารถนำมารับประทานเป็นผักเหนาะหรือผักแนมจิ้มกับน้ำพริกได้อีกด้วย น้ำในผลมีรสเปรี้ยวจัด สามารถนำมาใช้ปรุงอาหารแทนน้ำมะนาวได้ หรือใช้ปรุงรสน้ำพริก เพิ่มรสเปรี้ยวให้น้ำผลไม้ ส้มมะปิดทั้งเปลือกสามารถนำมาใช้ทำเป็นแยมทาขนมปังได้ ในเวียดนามและฟิลิปปินส์จะนิยมนำมาแปรรูปโดยการแช่อิ่ม ดองเค็ม ตากแห้ง และใช้ในการปรุงอาหาร
Tumblr media
0 notes
tumblock1 · 3 years
Text
สมอไทย
Tumblr media
สมอไทย ชื่อสามัญ Chebulic Myrobalans (คิบูลิค ไมโรบาลัน), Myrolan Wood (ไมโรบาลัน วูด)
สมอไทย ชื่อวิทยาศาสตร์ Terminalia chebula Retz. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Terminalia chebula var. chebula) จัดอยู่ในวงศ์สมอ (COMBRETACEAE)
สมุนไพรสมอไทย มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า หมากแน่ะ, ม่าแน่ (ภาคอีสาน), สมออัพยา, ลูกสมอ เป็นต้น
Tumblr media
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์            ไม้ยืนต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลัดใบ สูง 20-30 เมตร เรือนยอดกลมกว้าง เปลือกต้นขรุขระ สีเทาอมดำ เปลือกในสีเหลืองอ่อน เปลือกชั้นในมีน้ำยางสีแดง กิ่งอ่อนสีเหลืองหรือส��เหลืองแกมน้ำตาล มีขนคล้ายไหม เปลือกแตกเป็นสะเก็ดห่างๆ ยอดอ่อนมีขนสีน้ำตาลหนาแน่น ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม หรือเกือบตรงข้าม รูปไข่ถึงรูปไข่แกมรูปใบหอก หรือรูปรีกว้าง กว้าง 5-10 ซม. ยาว 11-18 ซม.ปลายใบมนหรือเป็นติ่งแหลม โคนกลมหรือกึ่งตัด หรือบางครั้งเบี้ยว ขอบเรียบ แผ่นใบเหนียวคล้ายแผ่นหนัง ผิวด้านบนเป็นเงามันมีขนเล็กน้อย ผิวด้านล่างมีขนคล้ายไหมถึงขนสั้นหนานุ่ม เมื่อแก่เกือบเกลี้ยง เส้นแขนงใบ ข้างละ 5-8 เส้น ก้านใบยาว 1.5-3 ซม. มีขนคล้ายไหม มีต่อม 1 คู่ ใกล้โคนใบ ดอกออกเป็นช่อคล้ายช่อเชิงลดหรือช่อแยกแขนง มี 3-5 ช่อ สีขาวอมเหลือง มีกลิ่นหอมอ่อนๆ  มักจะออกพร้อม ๆ กับใบอ่อน ออกที่ซอกใบหรือปลายกิ่ง ยาว 5-8.5 ซม. ไม่มีก้านช่อดอก หรือก้านช่อดอกสั้น
Tumblr media
           แกนกลางสั้นและเปราะ มีขนสั้นนุ่ม ดอกสมบูรณ์เพศขนาดเล็ก 0.3-0.4 ซม. ไม่มีกลีบดอก ส่วนบนเป็นรูปถ้วยตื้นมีขนคลุมด้านนอก ใบประดับรูปแถบ ยาว 3.5-4 มม. ปลายแหลม มีขนสั้นนุ่มทั้งสองด้าน กลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีขาวอมเหลือง โคนเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย ปลายแยกเป็นแฉก เกลี้ยง รูปคล้ายสามเหลี่ยม เกสรเพศผู้มี 10 อัน ยื่นพ้นหลอดกลีบเลี้ยง ก้านชูอับเรณู ยาว 3-3.5 มม. เกลี้ยง จานฐานดอกมีขน เกสรเพศเมียมีรังไข่เหนือวงกลีบ ก้านเกสรเพศเมีย ยาว 2-3.5 มม. รังไข่เกลี้ยง หมอนรองดอกมีพูและขนหนาแน่น ผลแบบผลผนังชั้นในแข็ง รูปรีหรือเกือบกลม กว้าง 2-2.5 ซม. ยาว 2.5-3.5 ซม. ผิวเกลี้ยง หรือมีสันตื้น ๆ ตามยาว 5 สัน เมื่อแก่สีเขียวอมเหลือง หรือสีเขียวปนน้ำตาลแดง เมล็ดแข็ง มี 1 เมล็ด รูปยาวรี ออกดอกเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ติดผลราวเดือนกันยายนถึงธันวาคม พบตามป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง หรือพบตามทุ่งหญ้า ที่สูงตั้งแต่ใกล้ระดับน้ำทะเลจนถึง ประมาณ 1,000 เมตร
Tumblr media
ถิ่นกำเนิดสมอไทย
           สมอไทยเป็นพืชท้องถิ่นไทย มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ พม่า และลาว เป็นต้น รวมถึงเอเชียใต้ พบได้มากในป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ ในภาคกลาง อีสาน และภาคเหนือ ชาวธิเบตถือว่าสมอไทยคือ "ราชาแห่งยา"
Tumblr media
สรรพคุณ
           ตำรายาไทย: ผล ระบายอ่อนๆ แก้ลมป่วง แก้พิษร้อนใน คุมธาตุ แก้ลมจุกเสียด รู้ผายธาตุ รู้ระบายรู้ถ่ายอุจจาระ ถ่ายพิษไข้ คุมธาตุในตัวเสร็จ แก้ไข้เพื่อเสมหะ ผลอ่อน มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ถ่ายอุจจาระ ถ่ายเสมหะ ลดไข้ ขับลมในลำไส้ แก้โลหิตในท้อง แก้น้ำดี ผลแก่ เป็นยาฝาดสมาน แก้ท้องเดิน แก้ไข้เพื่อเสมหะ แก้โลหิตในอุทร แก้น้ำดี ถ่ายอุจจาระ รู้ถ่ายรู้ปิดเอง(ระบายแล้วหยุดเอง) แก้ลมป่วง แก้พิษร้อนภายใน แก้ลมจุกเสียด ถ่ายพิษไข้ คุมธาตุ แก้ไอเจ็บคอ ขับน้ำเหลืองเสีย แก้เสมหะเป็นพิษ แก้ดีพลุ่ง แก้อาเจียน บำรุงร่างกาย แก้นอนสะดุ้งผวา บดเป็นผงโรยแผลเรื้อรัง เนื้อผล รสฝาดเปรี้ยว  แก้บิด แก้ท้องผูก แก้ท้องขึ้นอืดเฟ้อ แก้โรคเกี่ยวกับน้ำดี แก้โรคท้องมาน แก้ตับม้ามโต แก้อาเจียน แก้สะอึก แก้หืดไอ แก้ท้องร่วงเรื้อรัง ทำเป็นยาชงใช้อมกลั้วคอแก้เจ็บคอ เมล็ด รสขม ทำให้เจริญอาหาร
Tumblr media
0 notes
tumblock1 · 3 years
Text
ลางสาด
ลางสาด ชื่อสามัญ Langsat (ลานสาท), Lancet (ลานเสท), Langsium (ลานเซียม)
ลางสาด ชื่อวิทยาศาสตร์ Lansium parasiticum (Osbeck) K.C.Sahni & Bennet (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Aglaia domestica (Corrêa) Pellegr., Lansium domesticum Corrêa)จัดอยู่ในวงศ์กระท้อน (MELIACEAE)
ผลไม้ลางสาด มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า รังสาด ลังสาด รางสาด ลางสาด (ไทย), ลาซะ ดูกู (มลายู) เป็นต้น โดยชื่อ "ลางสาด" หรือ "ลังสาด" นั้นมาจากภาษามาเลย์คำว่า "Langsat"
Tumblr media
ลักษณะของลางสาด
           ต้นลางสาด มีถิ่นกำเนิดในหมู่เกาะมาลายู หมู่เกาะชวา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก เป็นไม้ผลเมืองร้อน (ร้อนชื้น) มี��ำต้นตรง สูงประมาณ 5-10 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นมุมแหลมกระจายกึ่งกลางลำต้นขึ้นไป ลักษณะปลายกิ่งตั้ง ส่วนผิวของลำต้นชั้นนอกมีสีเทาและขรุขระ เปลือกไม่หลุดออก เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยหรือในดินร่วนปนทราย เป็นต้นไม้ที่ชอบแสงแดด อากาศชื้นปานกลาง และมีน้ำปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด การตอนแบบควั่นกิ่ง การติดตา และการต่อกิ่ง ใบลางสาด ใบเป็นใบประกอบ เกิดสลับซ้ายขวาอยู่ต่างระนาบกัน ก้านใบกลม ลักษณะใบเป็นรูปไข่รีโค้งมน ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบเรียบ ที่ผิวใบมีไขนวลปกคลุมอยู่ ใบมีสีเขียวเข้ม ด้านล่างใบมีเส้นใบนูนเด่น ดอกลางสาด ออกดอกเป็นช่อสีขาว ดอกเกิดตามลำต้นและตามกิ่ง ลักษณะของดอกเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ผลลางสาด ออกผลเป็นช่อ ๆ ผลสดมีสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีเหลือง ผลมีลักษณะกลมรี เปลือกค่อนข้างบาง ผิวละเอียด ผลอ่อนนุ่ม มียางมากเป็นสีขาวขุ่น ๆ ส่วนเนื้อในนิ่ม ฉ่ำน้ำ มีรสหวานหอมอมเปรี้ยวเล็กน้อย ในผลมีเมล็ดมาก ประมาณ 5 เมล็ด และเมล็ดมีสีน้ำตาล ลักษณะกลมแบนรี มีเปลือกหุ้มบาง ๆ ผิวเมล็ดเรียบ มีเนื้อในสีขาว มีรสฝาดและขมจัด
Tumblr media
ขั้นตอนการปลูก
           เตรียมต้นกล้าที่มีอายุมากกว่า 1 ปี และมีใบยอดคู่สุดท้ายแก่เต็มที่ ก่อนปลูกค่อยๆ งดน้ำและปุ๋ย และเพิ่มแสงให้มากขึ้นทีละน้อย การปรับพื้นที่ควรขุดตอและรากไม้เก่าออกให้หมด ไถตากดินไว้ 10-15 วัน แล้วปรับพื้นที่ให้เสมอ เตรียมหลุมปลูกขึ้นกับสภาพของดิน ขนาด 6*6 ซม. ระยะปลูกถ้าปลูกแซมกับพืชอื่นระยะปลูกที่ใช้ขึ้นกับพืชหลัก (พืชประธาน) ถ้าปลูกเป็นพืชเดี่ยว ควรใช้ระยะระหว่างต้น 4-6 เมตรและ ระหว่างแถว 6-8 เมตร หลังจากกำหนดแนวและจุดปลูกแล้ว ให้โรยหินฟอสเฟตบริเวณก้นหลุม ประมาณ 500 กรัม พรวนคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน วางระบบน้ำการปลูกลองกองเป็นการค้า จำเป็นต้องมีระบบน้ำ ควรใช้ระบบพ่นฝอย (มินิสปริงเกอร์) เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการและดูแลรักษา ปลูกพืชอื่น ๆ แซม พืชที่ให้ร่มเงา เช่น กล้วย ยอป่า ทองหลาง แคฝรั่ง และสะตอ เป็นต้น และควรมีพืชบังลม เช่น กระถิน ไผ่ และสน รอบ ๆ สวนด้วย คลุมด้วยวัสดุ เช่น ฟางข้าว แกลบ ใบกล้วย หรือทางมะพร้าว และทำให้ร่มด้วยตาข่ายพรางแสง หมั่นพรวนดินบริเวณรอบโขด เป็นวงกว้าง 1 เมตรรอบโขดเดิมหรือจากชายพุ่ม ทุก ๆ ปี จะให้รากเติบโตได้ดีกว่า
Tumblr media
ประโยชน์และสรรพคุณลางสาด
           มีวิตามินเอ มีวิตามินซี มีธาตุแคลเซียม มีวิตามินบี2 มีวิตามินบี3 มีวิตามินบี1 มีโปรตีน มีธาตุเหล็ก มีแมกนีเซียม มีคาร์โบไฮเดรต มีเส้นใย มีพลังงาน มีไนอาซีน มีไขมัน มีโซเดียม มีฟอสฟอรัส มีโพแทสเซียม ช่วยย่อยอาหาร ช่วยเจริญอาหาร แก้ไข้ แก้อาการร้อนในช่องปาก แก้ตาอักเสบ ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยร่างกายให้มีภูมิคุ้มกัน ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยรักษาโรคมาลาเร��ย ช่วยยับยั้งเชื้อมาลาเรีย ช่วยยับยั้งการเจริญเชื้อมาลาเรีย ช่วยต้านเชื้อมาลาเรีย ช่วยขับพยาธิ แก้โรควัณโรค ป้องกันโรคเกี่ยวกับลำไส้ แก้อาการลำไส้เกร็ง ช่วยรักษาโรคบิด แก้ท้องร่วง แก้ท้องเสีย บรรเทาอาการปวดท้อง ช่วยสมานแผล ช่วยลดแผลเป็นหนอง ช่วยลดแผลอักเสบ แก้พิษแมงป่อง ช่วยรักษาโรคผิวหนัง ช่วยรักษาโรคกระเพาะ แก้อาการหูอักเสบ แก้ฝีในหู ช่วยรักษาโรคเริม ช่วยรักษาโรคงูสวัด
Tumblr media
0 notes
tumblock1 · 3 years
Text
ยอเถื่อน
Tumblr media
ยอเถื่อน ชื่อวิทยาศาสตร์ Morinda elliptica (Hook.f.) Ridl. จัดอยู่ในวงศ์เข็ม (RUBIACEAE)
สมุนไพรยอเถื่อน มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ย่อป่า (ภาคกลาง, อ่างทอง, ตรัง, สตูล), กะมูดู (ปัตตานี มาเลเซีย), มูดู (นราธิวาส มาเลเซีย) ส่วนทางชุมพรเรียกว่า "ยอเถื่อน" เป็นต้น
Tumblr media
ลักษณะของยอเถื่อน
           ต้นยอเถื่อน จัดเป็นไม้ยืนต้น มีความสูงได้ประมาณ 5-15 เมตร เปลือกต้นเป็นสีเทาหรือสีน้ำตาลแดงหรือน้ำตาลเหลือง แตกเป็นร่องลึกยาวหรือแตกเป็นสะเก็ดสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและวิธีการปักชำ เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน ต้องการน้ำค่อนข้างน้อย ควรปลูกในที่ที่มีแสงตลอดทั้งวัน พบขึ้นในป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และป่าโปร่งทั่วไป ใบยอเถื่อน ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก ลักษณะของใบเป็นรูปรีหรือรูปไข่กลับ ปลายใบเรียวหรือทู่ โคนใบเบี้ยว ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 4-9 เซนติเมตร และยาวประมาณ 8-17 เซนติเมตร
Tumblr media
            แผ่นใบนุ่ม ผิวใบทั้งสองด้านเกลี้ยง ดอกยอเถื่อน ออกดอกเป็นกลุ่มบนฐานของรังไข่ที่อัดกันเป็นก้อน โดยจะออกตามซอกใบ กลีบดอกเป็นสีขาว โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกออกเป็นกลีบ 5 กลีบ ภายในหลอดมีขนละเอียด ผลยอเถื่อน ผลเป็นผลรวมรูปร่างค่อนข้างกลม ผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 เซนติเมตร ผิวรอบผลเป็นปุ่มปม ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อแก่แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีดำ ก้านผลยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร แต่ละผลย่อยมีเมล็ด 1 เมล็ด
Tumblr media
สรรพคุณ
           ตำรายาไทย ใบ แก้ไข้ แก้ปวดศีรษะ แก้ริดสีดวงทวาร แก้ม้ามโต ใบสด ตำพอกศีรษะฆ่าไข่เหา อังไฟแล้วนำมาปิดที่หน้าอกหน้าท้องแก้ไอ แก้จุกเสียด แก้ม้ามโต แก้ไข้ ผลอ่อน แก้คลื่นไส้อาเจียน ผลสุกงอม ขับระดูสตรี ขับลมในลำไส้ ผลสุกรับประทานได้ แก่น รสขมร้อน ต้มหรือดองสุรา ดื่มขับเลือด บำรุงเลือด ขับน้ำคาวปลา ขับและฟอกโลหิตระดู แก้จุกเสียดแน่นเฟ้อ ขับผายลม ป้องกันบาดทะยักปากมดลูก  ราก แก้เบาหวาน ใบอ่อน ยอดอ่อน ลวก ต้มให้สุกจิ้มน้ำพริก 
Tumblr media
           รากมีสรรพคุณเป็นยาแก้เบาหวาน แก่นมีรสขมร้อน นำมาต้มหรือดองกับเหล้าดื่มเป็นยาบำรุงโลหิต ช่วยป้องกันสันนิบาตหน้าเพลิง ขับผายลม แก้จุกเสียดแน่นเฟ้อ แก่นมีรสขมร้อน ใช้ต้มหรือดองกับเหล้าดื่มเป็นยาขับเลือด ขับและฟอกโลหิตระดู ขับน้ำคาวปลา ช่วยป้องกันบาดทะยักปากมดลูก เปลือกและเนื้อไม้เป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้มาลาเรีย ใบนำมาอังไฟ แล้วนำมาปิดที่หน้าอกและหน้าท้อง ช่วยแก้ไอ ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ใบแก้จุกเสียด ช่วยแก้ริดสีดวงทวาร ช่วยแก้ม้ามโต ใบสดใช้ตำพอกศีรษะเป็นยาฆ่าเหา ใบเป็นยาแก้ไข้ ผลอ่อนมีสรรพคุณแก้คลื่นไส้อาเจียน  ผลสุกช่วยขับลมในลำไส้ ผลสุกเป็นยาขับระดูของสตรี
Tumblr media
ข้อแตกต่างระหว่างยอเถื่อนและยอบ้าน
           โดยยอเถื่อนและยอบ้านนั้นมีสรรพคุณทางยาที่ใช้ทดแทนกันได้ แต่รสยอเถื่อนอาจจะมีรส เผ็ด ร้อน ขม มากกว่ายอบ้านสักเล็กน้อย และในปัจจุบันได้มีงานวิจัยของไทยและต่างประเทศออกมากมายหลายฉบับ ที่สนับสนุนฤทธิ์ของยอ เช่น ช่วยป้องกันหลอดอาหารอักเสบจากกรดไหลย้อน ช่วยเร่งการสมานแผลของกระเพาะอาหารในหนูทดลอง และช่วยลดการอักเสบของกะเพราะอาหารเฉียบพลันจากแอลกอฮอล์ กระตุ้นลดการหลั่งกรดได้ดีเทียบเท่ากับยารานิทิดีนและแลนโซพราโซล ช่วยเพิ่มการบีบตัวของทางเดินอาหารได้ดีกว่ายาซิสซาพรายด์
Tumblr media
0 notes
tumblock1 · 3 years
Text
มะขาม
มะขาม ชื่อสามัญ Tamarind
มะขาม ชื่อวิทยาศาสตร์ Tamarindus indica L. จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยราชพฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE)
Tumblr media
ลักษณะทั่วไป
           ไม้เขตร้อน มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟริกาแถบประเทศซูดาน ต่อมามีการนำเข้ามาในประเทศแถบเขตร้อนของเอเชีย และประเทศแถบละตินอเมริกา และในปัจจุบันมีมากในเม็กซิโก ลำต้น :  เป็นพรรณไม้ยืนต้น ขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่แตกกิ่งก้านสาขาตรงส่วนยอดของต้น และแข็งแรงมาก ลำต้นมีความสูงประมาณ 60 ฟุต เปลือกมีสีน้ำตาลอ่อน และแตกสะเก็ดเป็นร่องเล็ก ๆ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่แตกกิ่งก้านสาขามากไม่มีหนาม เปลือกต้นขรุขระและหนา สีน้ำตาลอ่อน ใบ - เป็นใบประกอบแบบขนนก (pinnately compound leaves)
Tumblr media
           ใบเล็กออกตามกิ่งก้านใบเป็นคู่ ใบย่อยเป็นรูปขอบขนาน ปลายใบและโคนใบมน ประกอบ ด้วยใบย่อย 10–15 คู่ แต่ละใบย่อยมีขนาดเล็ก กว้าง 2–5 มม. ยาว 1–2 ซม. ออกรวมกันเป็นช่อยาว 2–16 ซม. ดอก  ออกตามปลายกิ่ง ดอกมีขนาดเล็ก กลีบดอกสีเหลืองและมีจุดประสีแดง/ม่วงแดงอยู่กลางดอก ผล - เป็นฝักยาว รูปร่างยาวหรือโค้ง ยาว 3-20 ซม. ฝักอ่อนมีเปลือกสีเขียวอมเทา สีน้ำตาลเกรียม เนื้อในติดกับเปลือก เมื่อแก่ฝักเปลี่ยนเป็นเปลือกแข็งกรอบหักง่าย สีน้ำตาล เนื้อในกลายเป็นสีน้ำตาลหุ้มเมล็ด เนื้อมีรสเปรี้ยว และ/หรือหวาน ซึ่งฝักหนึ่ง ๆ จะมี/หุ้มเมล็ด 3–12 เมล็ด เมล็ดแก่จะแบนเป็นมัน และมีสีน้ำตาล
Tumblr media
การปลูกมะขาม
           การปลูกมะขาม นิยมขยายพันธุ์โดยการทาบกิ่ง ติดตาหรือต่อกิ่ง เพราะได้ผลเร็วและลดการกลายพันธุ์ ทำได้โดยเตรียมดินโดยขุดหลุมกว้าง ยาวและลึกด้านละ 60 ซม.ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักคลุกเคล้าดินรองก้นหลุมเอากิ่งพันธุ์ลงปลูก รดน้ำให้ชุ่ม มะขามเมื่อลงดินแล้วจะโตเร็ว ควรใช้ไม้หลักพยุงไว้ให้แน่น และการบำรุงรักษาหลังเริ่มปลูก ควรเอาใจใส่ดายหญ้ารอบต้น และรดน้ำทุกวัน ขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิดแม้แต่ดินเลว เช่นดินลูกรัง เจริญได้ดีในดินร่วนปนดินเหนียว ทนแล้งได้ดี ฤดูปลูกที่เหมาะสม คือต้นฤดูฝน ควรหาเศษหญ้าฟางคลุมโคนจนกว่าต้นจะแข็งแรง ควรฉีดยาป้องกันโรคราแป้งและแมลงพวกหนอนเจาะฝัก ด้วงเจาะเมล็ด ในระยะที่เป็นดอกอยู่
Tumblr media
สรรพคุณ
           เนื้อไม้ ใช้ทำเป็นเขียง ที่มีคุณภาพดีมาก เพราะเป็นไม้ทีเหนียวทนใบแก่ มีรสเปรี้ยวฝาด ใช้นำมาปรุงเป็นยาแก้ไอ แก้โรคบิดขับเสมหะในลำไส้ หรือนำมาต้มผสมกับหัวหอมโกรกศีรษะเด็กในเวลาเช้ามืด แก้หวัดจมูกได้ หรือใช้น้ำที่ต้มให้สตรีหลังคลอดอาบและใช้อบไอน้ำได้เป็นต้น ใบอ่อนและดอก ใช้รับประทานเป็นอาหารได้ เนื้อในผล (มะขามเปียก) ใช้ผลแก่ประมาณ 10-20 ฝักนำมาจิ้มเกลือกิน แล้วดื่มน้ำตามลงไป หรืออาจใช้ทำเป็นน้ำมะขามคั้นเอาน้ำกิน เป็นยาแก้อาการท้องผูก เป็นยาระบาย แก้ไอขับเสมหะ ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย ลดการกระหายน้ำ หรือใช้เนื้อมะขามผสมกับข่า และเกลือพอประมาณรับประทานเป็นยาขับเลือดขับลม แก้สันนิบาตหน้าเพลิง หรืออาจใช้ผสมกับปูนแดง แล้วนำมาพอกหรือทาบริเวณที่เป็นกลากเกลื้อนหรือฝี เมล็ดแก่ นำมาคั่วให้เกรียมแล้วกะเทาะเปลือกออกใช้ประมาณ 20-30 เม็ด นำมาแช่น้ำเกลือจนอ่อนใช้กินเป็นยาถ่ายพยาธิิไส้เดือนในท้องเด็กได้ หรือใช้เปลือกนอกที่กะเทาะออก ซึ่งจะมีรสฝาดใช้กินเป็นยาแก้ท้องร่วง และแก้อาเจียนได้ดี
Tumblr media
0 notes
tumblock1 · 3 years
Text
ดอกชวนชม
ชวนชม (Desert Rose; Impala Lily; Mock Azalea) เป็นชื่อของพรรณไม้ที่มีสีสันของดอกสวยงาม เป็นไม้ที่ปลูกเลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพแห้งแล้งมาก จนได้รับสมญาว่า Desert Rose (กุหลาบทะเลทราย) นอกจากนี้ตามความเชื่อของคนไทยชื่อ "ชวนชม" ยังเป็นชื่อที่มีความไพเราะเป็นศิริมงคล และชาวจีนว่า "ปู้กุ้ยฮวย" ซึ่งแปลว่า ดอกไม้แห่งความร่ำรวย แต่ดอกชวนชมมีสาร abobioside, echubioside ตรงนำยางสีขาว ถ้าน้ำยางถูกผิวหนังจะทำให้ผิวหนังอักเสบเป็นผื่นแดง ถ้าเข้าตา ตาจะอักเสบ กินเข้าไปจะเป็นพิษ แต่น้ำยางมีรสขมมาก โอกาสกินมีน้อย ถ้ากินจะมีผลต่อหัวใจ อาการเบื้องต้นจะทำให้ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ตาพร่า หัวใจเต้นอ่อน ความดันลดลงอาจตายได้
Tumblr media
ลักษณะโดยทั่วไป
ชวนชมเป็นพืชที่มีเนื้อเยื่ออ่อน เปลือกของลำต้นบาง ต้นและกิ่งก้านกลมมียางใส จัดเป็นพืชในวงศ์ Apocynaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับลั่นทม พืชในวงศ์นี้มีมากมายถึง 300 สกุลและมากกว่า 1,300 ชนิด มีทั้งไม้ล้มลุก ไม้เลื้อย ไม้พุ่มและไม้ยืนต้น มีถิ่นกำเนิดกระจายอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะในป่าเขตร้อน สำหรับชวนชมถูกจัดอยู่ในสกุล Adenium obesum มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟริกา มีหลายชื่อ เช่น Pink Bignonia, Mock Azalea, Desert Rose, Impala Lily, Kudu Lily และ Sabi Star
ลำต้น เป็นไม้เนื้ออ่อน อวบน้ำ ต้นและกิ่งเป็นลำกลม ผิวค่อนข้างเรียบสีเขียวอมเทา เปลือกบาง แตกกิ่งก้านไม่เป็นระเบียบ ส่วนโคนของลำต้นพองออกมีขนาดรูปทรงใหญ่เล็กแตกต่างกันไปเรียกว่า “โขด” มีไว้สำหรับเก็บน้ำเพื่อรักษาสมดุลของต้น โขดของชวนชมคือรากที่ใช้สะสมอาหาร เช่นเดียวกับ เผือก มัน หรือพืชที่มีหัวทั่วไป มีลักษณะบวมออกเป็นหัวขนาดใหญ่อยู่ใต้ดินหรือโผล่ขึ้นเหนือดินมีรูปทรงแตกต่างกันไป  ใบเป็นใบแบบเดี่ยว ออกเวียนรอบกิ่งคล้ายกังหันหลายๆ ชั้น และออกหนาแน่นตามปลายกิ่ง ใบของชวนชมมีหลายลักษณะแตกต่างกันขึ้นกับสายพันธุ์ เช่น ใบรูปไข่ ใบรูปหอก ปลายใบมีทั้งเว้า มน แหลมและใบตัด ขอบใบเรียบ หยักหรือเป็นคลื่น แผ่นใบหนาแข็งเขียวเข้มเป็นมันหรือบางพันธุ์มีขนนุ่มคล้ายกำมะหยี่ที่ใต้ท้องใบ มีขนาดใหญ่และเล็กแตกต่างกันไป 
Tumblr media
ดอก ชวนชมจะออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ช่อหนึ่งประมาณ 10-20 ดอก มีทั้งแบบบานพร้อมกันทั้งช่อและทยอยบานครั้งละ 4-5 ดอก บานได้นาน 10-20 วัน ดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ 8-10 ซม. กลีบเลี้ยง มีลักษณะเป็นกลีบเล็ก ๆ 5 กลีบ รูปรี ปลายแหลม ติดอยู่รอบโคนดอกเหนือฐานรองดอก มีสีแดง เขียว ชมพูอมแดงหรือเหลืองอมเขียว เมื่อดอกร่วงแล้วกลีบดอกยังติดแน่นอยู่ที่ฐานรองดอก โคนกลีบดอกหรือหลอดดอก คือส่วนที่อยู่ต่อจากกลีบเลี้ยงขึ้นมามีลักษณะเป็นทรงกรวยกลมยาว โคนหลอดเรียวเล็กลงติดกับกลีบเลี้ยง ปลายบานออกติดกับกลีบดอกกลีบดอก มี 5 กลีบ เรียงติดอยู่รอบโคนกลีบดอกหรือหลอดดอกคล้ายปากแตรแต่ละกลีบมีรูปทรงหลายแบบ คือ รูปกลม รูปไข่ รูปแถบและรูปรี
Tumblr media
  เกสรตัวผู้ อยู่ตรงส่วนโคนของหลอดดอก เป็นรูปกระโจมคลุมยอดเกสรตัวเมีย ประกอบด้วยละอองเรณู 5 อันเรียงติดกันบนก้านชูเกสรตัวผู้ มีโคนระยางค์เชื่อมต่อจากปลายเกสรตัวผู้ยาวขึ้นไปตลอดหลอดดอก 5 เส้น ภายในอับละอองเรณูนี้เมื่อแก่พร้อมที่จะผสมเกสร จะมีละอองเกสรตัวผู้มีลักษณะเป็นขุยสีเหลืองละเอียด เกสรตัวเมีย อยู่ตรงส่วนโคนของหลอดดอก ล้อมรอบด้วยเกสรตัวผู้ ประกอบด้วยยอดเกสรตัวเมีย ก้านชูเกสรตัวเมีย และรังไข่ ยอดเกสรตัวเมียมีรูปกลมสีขาวขุ่น มีท่อยาวลงไปที่รังไข่ซึ่งอยู่ติดกับฐานรองดอก ภายในรังไข่มีไข่อ่อน เมื่อเกสรตัวเมียพร้อมที่จะผสมเกสรจะมีเมือกเหนียวคล้ายแป้งเปียก และเมื่อมีการผสมพันธุ์ไข่อ่อนภายในรังไข่จะเจริญไปเป็นเมล็ดต่อไป
1 note · View note