Tumgik
Photo
Tumblr media Tumblr media Tumblr media Tumblr media
Yixing was about to say 'Byun-Xing' but his accent make it sound like 병신 (byung-shin) which from word to word, means 'a jerk' , 'an a**hole' or 'stupid'
14K notes · View notes
Photo
Tumblr media Tumblr media
Don’t play around with mama Joon (¬‿¬)
241 notes · View notes
Photo
#hunho
Tumblr media
101 notes · View notes
Photo
#hunho
Tumblr media Tumblr media
love..★
555 notes · View notes
Photo
Tumblr media
podo
[fanacc] 140919 During Kolon Sport Fansign Event, Suho kept touching Sehun’s kneecap. Sehun was wearing ripped jeans.
72 notes · View notes
Photo
Tumblr media
golden bell | do not edit.
144 notes · View notes
Photo
Tumblr media
se7hun
21 notes · View notes
Text
#HunHo for Valentine's Day - 101 Roses
101 Roses
author : imkiseki
.
.
.
.
“พี่จุนมยอนครับ มีคนฝากของมาให้”
ดอกกุหลาบสีแดงสดในมือรุ่นน้องคนสนิทถูกยื่นมาตรงหน้าของคิมจุนมยอนระหว่างอ่านหนังสือในตอนเช้า คนตัวเล็กเงยหน้ามองคยองซู ยื่นมือออกไปรับดอกไม้มาแบบงงๆ
“ใครฝากมาเหรอคยองซู”
“ความลับครับ”
หากเป็นเวลาปกติจุนมยอนคงคิดว่ามันแปลกแน่ๆที่มีคนฝากเด็กหนุ่มรุ่นน้องถือดอกไม้มาให้แบบนี้ แต่เพราะว่าวันนี้เป็นวันพิเศษ การให้ดอกไม้ใครสักคนคงไปใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด
��็วาเลนไทน์นี่เนอะ
จุนมยอนก้มลงมองดอกไม้ในมือ สังเกตเห็นป้ายเล็กที่ห้อยอยู่ตรงก้าน พลิกดูก็เจอข้อความที่ถูกเขียนไว้
‘รักแรกพบ’
.
.
.
“พี่จุนมยอนครับ มีคนฝากของมาให้”
  จุนมยอนหันตามเสียงพูดที่เหมือนกับประโยคเดียวกับเมื่อเช้า แต่คราวนี้มันมาจากรุ่นน้องอีกคนแทน คิมจงอินยืนหน้ามึนอยู่ตรงประตูห้องเรียน มือถือดอกกุหลาบหนึ่งดอกที่มีป้ายห้อยไว้เหมือนกัน
  “จงอิน ใครฝากมาเหรอ”
“ความลับครับ”
  พูดจบจงอินจอมมึนก็เดินจากไป ท่าทางคงจะเพิ่งโดนปลุกให้ตื่น เดาได้ไม่ยากเลยว่าใครที่สามารถปลุกจงอินในเวลาเช้าๆแบบนี้ได้
  ก็คงจะเป็นเด็กน้อยที่ถือดอกกุหลาบมาให้เขาเมื่อชั่วโมงก่อนนั่นแหละ
  จุนมยอนพลิกป้ายกระดาษที่ห้อยอยู่ที่ก้านกุหลาบดู แล้วก็เจอกับข้อความที่ถูกเขียนไว้
  ‘อยู่ใกล้แล้วรู้สึกดีทุกเวลา’
  .
.
.
“พี่ครับ มีคนฝากของมาให้”
“อีกแล้วหรอ”
  ครบหนึ่งชั่วโมงจากดอกกุหลาบดอกแรก กุหลาบแดงดอกที่สามก็ถูกส่งมาให้ถึงที่ จุนมยอนมองแบคฮยอนที่ยืนยิ้มแป้น วางดอกกุหลาบในมือลงบนโต๊ะเรียนของเขา
  “ใครฝาก..”
“ความลับครับ ^^”
  ยังไม่ทันถามจบก็ได้รับคำตอบสวนมาทันที จากที่ว่าไม่แปลกก็เริ่มรู้สึกแปลกซะแล้ว ก็อยู่ดีๆเจ้าพวกรุ่นน้องในชมรมเล่นเดินเอาดอกไม้มาให้ทุกครึ่งชั่วโมงแบบนี้ และดอกกุหลาบที่เอามาให้ก็มีป้ายกระดาษเล็กๆห้อยอยู่เหมือนกันเปี๊ยบเลย
  ‘รักที่สุด’
  ไอ้ข้อความที่อยู่บนกระดาษก็ชักจะเลี่ยนขึ้นเรื่อยๆยังไงไม่รู้
.
.
.
“พี่จุนมยอนครับ...”
“มีคนฝากของมาให้”
  ปาร์คชานยอลยืนทำหน้าเหวอไปสามวิ ก็จุนมยอนเล่นต่อให้จนจบประโยค เล่นเอารุ่นน้องตัวยักษ์ไปต่อแทบไม่เป็น
  “เดี๋ยวก่อนเลยชานยอล”
“คะ ครับ (^^”) “
“พวกนายเล่นอะไรกันไม่ทราบ”
“ก็...เอ่อ..ก็...”
  เท่านั้นแหละ ชานยอลก็ยัดกุหลาบแดงหกดอกใส่มือจุนมยอนแล้วรีบวิ่งหนีไปทันที กลัวว่าถ้าอยู่ต่ออีกนิดคงโดนรุ่นพี่ตัวเล็กถามอะไรต่อ
  แล้วถ้าเผลอหลุดปากอะไรไปคงโดนแบคฮยอนด่าเละแหงๆ
  จุนมยอนมองรุ่นน้องตัวยักษ์ที่วิ่งออกไปด้วยความงุนงง ชักรู้สึกได้ถึงความพิรุธบางอย่างจากเด็กพวกนี้ แต่เลย์ที่นั่งใกล้ๆบอกว่าคงไม่มีอะไรมากหรอก เขาเลยก้มลงมองป้ายกระดาษ แล้วก็อย่างที่คิดมันมีข้อความเขียนไว้เหมือนเดิม
  ‘รักชั่วนิรันดร์’
.
.
.
“พี่จุนมยอนครับ~ มีคนฝากของมาให้”
“วางไว้บนโต๊ะนั้นแหละ”
  มือเล็กของจุนมยอนยกช้อนขึ้นแล้วชี้ไปทางโต๊ะของตัวเอง เฉินทำตามอย่างว่าง่าย แล้วก็ยืนนิ่งมองจุนมยอนที่กินข้าวกลางวันอยู่ที่โต๊ะของเลย์อยู่พักใหญ่ จนจุนมยอนผิดสังเกต
  “เสร็จแล้วจะรออะไรอีกล่ะ”
“พี่ไม่ถามผมหน่อยหรอว่าใครฝากมาให้”
“ไม่อยากรู้แล้ว”
“อ่า พี่จุนมยอนใจร้าย T^T”
  เฉินเดินงอนตุ้บป่องออกไปจากห้องเรียนของรุ่นพี่ จุนมยอนแอบขำสะใจที่แกล้งรุ่นน้องได้สำเร็จ พอเห็นว่ารุ่นน้องตัวดีเดินจากไปแล้วก็รีบลุกไปดูข้อความที่ผูกติดมากับกุหลาบแดงสองดอกของเฉินแทบจะทันที
  ‘คนที่มีค่าที่สุดของผม’
  .
.
.
“จุนมยอน~~ มีคนฝากของมาให้ล่ะ”
  จุนมยอนละสายตาจากสมุดเพราะเสียงเรียกของรุ่นพี่ตัวเล็กสุดน่ารักที่มาพร้อมกับกุหลาบแดงสิบดอกในตะกร้าสานใบใหญ่ มินซอกยื่นทั้งหมดให้รุ่นน้อง ยิ้มหวานแล้วบอกจุนมยอนให้ใส่ดอกกุหลาบที่ได้มาลงในตะกร้าสานจะได้ไม่โดนหนามตำมือ
  “พี่ครับ บอกผมมาเถอะว่าใครฝากมาให้”
“ฉันก็อยากจะบอกนะ แต่เดี๋ยวจุนมยอนก็รู้เองล่ะ”
  มินซอกตบบ่าน้องเบาๆ ทิ้งรอยยิ้มปริศนาให้จุนมยอนขนลุกอยู่ข้างหลัง รุ่นน้องที่ตัวเล็กพอกันมองเข้าไปในตะกร้าก็พบกับการ์ดใบน้อยวางอยู่ใกล้กุหลาบแดง
  ‘ชีวิตผมเป็นของคุณ’
  ไม่รู้หรอกนะว่าใครจะฝากมาให้ แต่ถ้ารุ่นพี่มินซอกยอมช่วยขนาดนี้ คงไม่ธรรมดาแน่ๆ
.
.
.
“พี่จุนมยอน~~”
“เทา...อย่าบอกนะว่านายก็”
  ไม่ทันพูดจบเด็กหนุ่มรุ่นน้อยตัวใหญ่กว่าตัวเองยื่นดอกกุหลาบแดงสามดอกมาให้ จุนมยอนรับมาแล้ววางลงในตะกร้ารวมกับดอกอื่น หันไปมองเทาที่ยิ้มกว้างจนตาแทบจะปิด
  “พวกนายเล่นอะไรกันแน่เนี่ย”
“ความลับครับ ^^”
  อืม ทำไมวันนี้รู้สึกเกลียดคำนี้จังเลยนะ
  จุนมยอนหยิบดอกกุหลาบในตะกร้ามานับหลังจากเทาออกไปแล้ว โดยที่ไม่ได้สังเกตว่าเพื่อนสนิทที่นั่งข้างนั้นแอบมองแล้วขยุกขยิกไปมาอย่างมีพิรุธสุดๆ
  มือเล็กหยิบกุหลาบที่เพิ่งได้จากเทาขึ้นมาเพราะนึกได้ว่ายังไม่ได้อ่านข้อความที่ติดอยู่
  ‘รักตลอด 24 ชั่วโมง’
  นั่นล่ะ ข้อความที่อยู่บนดอกกุหลาบล่าสุด กุหลาบแดงดอกที่ 24....
  .
.
.
“โย่ว จุนมยอน”
“กลับกาแลคซี่ไปเลยไป”
  จุนมยอนเอ่ยปากไล่เพื่อนร่วมชั้นตัวใหญ่จากห้องข้างๆ มือเล็กวุ่นอยู่กับการเก็บของบนโต๊ะใส่กระเป๋า คริสเดินเข้ามาใกล้แล้วยื่นกุหลาบแดงเก้าดอกที่ซ่อนไว้ด้านหลังมาตรงหน้าจุนมยอน
  “มีคนฝากมาให้”
“ใครล่ะ จากกาแลคซี่เหมือนนายหรือเปล่า”
“ยิ่งกว่าฉันอีกล่ะมั้ง โชคดีล่ะกันนะ”
“เดี๋ยว บอกมาก่อนดิว่าใคร”
“I can’t tell you now”
  คริสทิ้งท้ายไว้ด้วยการสปีคอิงลิชตามแบบแล้วเดินเท่ห์ออกจากห้องไป จุนมยอนถึงกับจะปากุหลาบใส่หัวคนตัวสูงกว่า ข้อหาทำตัวน่าหมั่นไส้สุดๆ
  ‘ผมขาดคุณไม่ได้อีกแล้ว’
  ข้อความที่แปดของวันนี้...
  .
.
.
“คิมจุนมยอน!!”
“เป็นไปกับเขาอีกคนด้วยหรอครับ”
  คนตัวเล็กเอ่ยปากถามรุ่นพี่หน้าสวย เมื่อเห็นว่าลู่ห่านปรากฏตัวพร้อมกับดอกกุหลาบสีแดงดอกโตในมือ
  “ดีจังเลยนะ ถ้าหมอนั่นทำให้ฉันแบบนี้บ้างก็ดี”
  ลู่ห่านกวาดสายตาไปยังร่างสูงที่อยู่ใกล้ๆ เลย์ยืนคุยกับเพื่อนโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าโดนพาดพิงอยู่
  “น่าอิจฉาตรงไหนครับ ผมยังไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนให้”
“รู้แล้วจะอึ้งสุดๆเลยล่ะ”
“พี่บอกผมมาสิ”
“เดี๋ยวก็ถึงเวลาแล้ว อีกแค่คนเดียวเอง”
  พูดจบลู่ห่านก็เหมือนจะนึกได้ว่าเผลอพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปซะแล้ว รุ่นพี่หน้าสวยรีบขอตัวกลับทันที แต่ก่อนจะไปก็ไม่วายเดินเข้าไปหาคนรักของตัวเอง แขนเล็กของลู่ห่านคล้องเข้าไปในแขนของอีกคนแล้วพิงหัวกับไหล่หนา
  “อย่าลืมนัดของเรานะ”
“รู้แล้วครับ”
  จุนมยอนมองลู่ห่านที่เกาะแขนอ้อนเลย์ก็รู้สึกเขินแทนขึ้นมา ถ้าจะหวานกันขนาดนี้ ช่วยนึกถึงบรรดาคนโสดที่อยู่รอบๆหน่อยเถอะครับรุ่นพี่
  ‘คุณคือรักแท้ของผม’
  ข้อความสั้นๆที่ดึงดูดให้จุนมยอนอ่านซ้ำไปซ้ำมาหลายที ก่อนจะหยุดมองเพราะถูกเรียกจากเพื่อนสนิทที่ปลดเป้จากหลังแล้วล้วงเอากุหลาบแดงช่อใหญ่ออกมาให้
  “คนสุดท้ายที่พี่ลู่ห่านบอกคือนายเองหรอเลย์”
“เสร็จหน้าที่ฉันแล้ว ไปก่อนนะเดี๋ยวไปนัดสาย”
“เฮ้ย เดี๋ยว..”
  ยังไม่ทันพูดจบ เลย์ก็สะพายเป้ขึ้นหลังแล้วโบกมือลาจุนมยอน ทิ้งให้เพื่อนรักอยู่กับดอกกุหลาบมากมายในตะกร้าสาน
  ‘รักจนวันตาย’'
  ฝันไปเลยถ้าอยากจะลอกการบ้านฉันอีก จางอี้ชิง!
  .
.
.
99 ดอกพอดี
  จุนมยอนเดินถือตะกร้าสานที่มีดอกกุหลาบสีแดงจำนวน 99 ดอกบรรจุอยู่ สายตาจากผู้คนรอบข้างต่างพากันมองมาที่เขาเป็นตาเดียว
  จะไม่แปลกได้ยังไง ผู้ชายเดินถือตะกร้าดอกไม้เยอะแบบนี้
  เดินฝ่าลมหนาวเดือนกุมภาไปตามท้องถนนอย่างเดียวดาย รอบข้างก็มีแต่คู่รักเต็มไปหมด เห็นแล้วก็แอบอิจฉาเล็กๆ
  จุนมยอนเดินผ่านสวนสาธารณะไปจนถึงทางเดินเลียบแม่น้ำสายหลักของโซล สถานที่ที่ตัวเองกับสมาชิกในชมรมร้องเพลงเคยมานั่งเล่นตอนกลางคืนด้วยกันบ่อยๆ
  สายตาของจุนมยอนทอดมองไปที่แม่น้ำกว้าง พลันก็มาสะดุดกับร่างสูงที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลกันนัก
  รุ่นน้องที่เป็นสมาชิกที่เด็กที่สุดในชมรมยืนยิ้มกว้างถือดอกุหลาบแดงสองดอกอยู่ในมือ แววตาคมจ้องมองมาทางเขา ก่อนจะเริ่มก้าวเข้ามาใกล้ แล้วหยุดตรงหน��าของจุนมยอนพอดี
  “วันวาเลนไทน์ทั้งที ทำไมมาเดินอยู่คนเดียวล่ะครับพี่จุนมยอน”
“ก็มีเด็กบ้าที่ไหนไม่รู้บอกว่ากลับด้วยไม่ได้ไม่ใช่หรอ”
  จุนมยอนทำแก้มป่องใส่รุ่นน้องตัวสูงตรงหน้า เซฮุนขำกับท่าทางของรุ่นพี่ที่กำลังงอนเขา ก่อนจะยื่นดอกกุหลาบแดงในมือไปให้คนตัวเล็ก
  “สำหรับรุ่นพี่ที่ผมรักที่สุดครับ”
  จุนมยอนรับดอกกุหลาบจากเซฮุนมาไว้ในมือเล็กๆของตัวเอง หน้าขาวเริ่มแดงเพราะอาการเขิน รอยยิ้มน้อยๆผุดออกมาจากปากบาง
  “งั้นนี่ก็ฝีมือนายหมดเลยสินะ”
  จุนมยอนชี้ไปที่ตะกร้าสานของมินซอก เซฮุนไม่ตอบแต่ยิ้มให้แทน เท่านี้ก็รู้แล้วล่ะว่าเป็นฝีมือของเจ้าเด็กคนนี้จริงๆ
   “ดอกกุหลาบแดง 101 ดอก พี่รู้มั้ยครับว่าหมายถึงอะไร”
“.............”
“มันหมายความว่า ผมจะมีเพียงคุณคนเดียวเท่านั้น และความรักของเราจะมั่นคงตลอดกาล”
  จุนมยอนก้มหน้างุดหลังจากได้ยินความหมายของกุหลาบ 101 ดอกจากเซฮุน เกิดอาหารหน้าร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรงแทบจะหลุดออกจากอก เขินจนอยากจะกระโดดลงแม่น้ำหนีสายตาหวานของรุ่นน้องที่ส่งมาให้
  เซฮุนรวบมือเล็กเข้ามาไว้ในมือของตัวเอง พากันเดินจูงมือกันไปตามทาง คิมจุนมยอนรู้สึกมีความสุขสุดๆ หลังจากนี้ไม่ว่าจะเห็นคู่รักบนท้องถนนอีกกี่คู่ เขาก็ไม่ต้องนึกอิจฉาคนพวกนั้นให้เสียอารมณ์อีก
  ก็เพราะคิมจุนมยอนมีโอเซฮุนอยู่ข้างๆแล้วนี่นา...
.
.
.
.
.
Special:♥
.
.
“แล้วพี่ไม่มีช็อกโกแลตให้ผมบ้างหรอ”
“ช็อกโกแลต?”
  เซฮุนมองหน้ารุ่นพี่ที่ทำหน้าสงสัย นี่แสดงว่าจุนมยอนไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้เขาจริงๆล่ะสิ
  “ก็วาเลนไทน์ เค้าต้องให้ดอกกุหลาบไม่ก็ช็อกโกแลตกันนี่ครับ”
“เรื่องนั้น.....”
  จุนมยอนล้วงมือลงไปในกระเป๋าถือของตัวเอง ของบางอย่างถูกหยิบขึ้นมาแล้วยัดลงในมือของเซฮุน รุ่นน้องตัวโข่งมองชานมไข่มุกของโปรดของตัวเองตาปริบๆ
  “กินชานมแทนไปก่อนล่ะกันนะ ^^”
  จุนมยอนยกมือลูบผมของเซฮุนเบาๆ ยิ้มกว้างจนตาปิด 
"แล้วทำไมในกระเป๋าถึงได้มีชานมไข่มุกอยู่ล่ะครับ"
"ความลับน่ะ ^^"
จุนมยอนยกนิ้วชี้ทาบปากบางของตัวเอง เซฮุนทำหน้าเหวอ ไม่คิดว่าจะเจอกับคำที่บอกให้เพื่อนไปพูดเองบ้าง เห็นแบบนั้นรุ่นพี่ตัวเล็กก็ยิ้มกับตัวเอง 
จะบอกได้ยังไงว่ารู้อยู่แล้วว่ากุหลาบเป็นของเซฮุนตั้งแต่ตอนที่ได้ดอกแรก ก็ลายมือของเซฮุนบนป้ายกับการ์ดมันชัดเจนซะขนาดนั้น คิดหรอว่าคนอย่างจุนมยอนจะลืมลายมือคนรักของตัวเองไปได้น่ะ 
แต่วันนี้วันวาเลนไทน์ จะยอมแกล้งเป็นไม่รู้ไปวันนึงล่ะกันนะ!
❤❤❤❤❤❤ ヾ(^∇^) ❤❤❤❤❤❤
22 notes · View notes
Photo
looks at sehun's act lol
Tumblr media Tumblr media Tumblr media Tumblr media
BUt i see HOHUN
397 notes · View notes
Photo
Tumblr media
hello? michael
25 notes · View notes
Photo
Tumblr media
vitamin
13 notes · View notes
Text
[SF] #Hunho - Bicycle
"จุนมยอนขี่จักรยาน"
author : imkiseki
โครม!!!
เสียงล้มของจักรยานคันเล็กที่พาร่างบางไปกลิ้งกับพื้นนั้นเกิดขึ้นครั้งที่เท่าไหร่เซฮุนก็จำไมไ่ด้แล้ว
จะว่าขี้เกียจนับก็บอกได้เลยว่านับครั้งที่จักรยานไม่ล้มยังจะง่ายกว่า
ก็เพราะมันไม่มีให้นับเลยน่ะสิ ..
จนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปสามสี่ชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่มีที่ท่าว่าพี่ชายตัวเล็กของเขาคนนี้จะขี่ไปได้ไกลกว่าหนึ่งเมตรด้วยซ้ำ
แถมยังล้มบ่อยขึ้นเรื่อยๆอีกต่างหาก
"พอแล้วๆ เลิกขี่เถอะ ดูสิขาช้ำหมดแล้ว"
เซฮุนดึงทั้งจักรยานทั้งจุนมยอนขึ้นจากพื้น ขาขาวๆเริ่มปรากฏรอยช้ำให้เห็น
"พี่จะฝึกต่อ"
มือเล็กฉุดยื้อจักรยานไว้แน่น เซฮุนส่ายหน้าเบาๆกับความดื้อดึงของคิมจุนมยอน
ถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่จะจับมาตีซะให้เข็ด
ร่างบางขึ้นนั่งบนเบาะอีกครั้ง เซฮุนจับแฮนด์จักรยานเพื่อประคองไว้ให้ แล้วค่อยๆปล่อยให้จุนมยอนถีบออกไป
คราวนี้จุนมยอนปั่นไปได้ไกลกว่าเดิมมาก แต่พอถึงเมตรที่สอง จักรยานคันเล็กก็ล้มลงไปกองกับพื้นเหมือนเดิม
อารมตกใจ เซฮุนรีบถลาเข้าเข้าไปหาคนตัวเล็กอย่างรวดเร็ว สีหน้าของจุนมยอนตอนนี้บ่งบอกได้ถึงความเจ็บปวด มือกุมเข่า เลือดสดจากแผลไหลเป็นทางตามขาขาว น่าจะเกิดจากหินก้อนไม่ใหญ่มากที่อยู่ใกล้ๆ
เซฮุนรีบควักเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเลือดให้ มองหน้าคนตัวเล็กเคืองๆ
"เป็นไงล่ะ อยากดื้อดีนัก"
เช็ดแผลไปก็บ่นไป กว่าเลือดจะหยุดไหลจุนมยอนก็โดนน้องเทศนาซะหูชา
"ขากลับนั่งเฉยๆเลยเดี๋ยวผมจูงเอง"
จุนมยอนทำตามอย่างว่าง่าย เจ็บแผลก็เจ็บแต่ไม่เท่าเจ็บใจที่ยังขี่จักรยานไม่ได้สักที
"ไม่เข้าใจเลยว่าพี่จะหัดขี่จักรยานไปทำไม"
"ก็พี่อยากไปขี่จักรยานเล่นกับเซฮุนบ้างนี่นา.."
.
.
.
.
"คะ แค่นี้เองหรอ"
เซฮุนขำพรืด นึกไม่ถึงว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้จุนยอนยอมเจ็บตัวได้ทุกวัน
คนอะไรน่ารักชะมัด
"หยุดหัวเราะได้แล้ว พี่อายเว้ยย"
ยิ่งพูดยิ่งอาย เซฮุนมองหน้าแดงๆของพี่ชายตัวเล็กแล้วก็ยิ่งหัวเราะร่า
"ถ้าพี่อยากจะไปเล่นกับผมล่ะก็นะ ผมขอสั่งห้ามให้พี่หัดขี่จักรยานได้แล้ว"
"ทำไมล่ะ"
จุนมยอนเอียงคอถามอย่างสงสัย เซฮุนทนไม่ได้เลยเอื้อมมือไปหยิกแก้มนิ่มเบาๆ
"อยากจะไปก็นั่งซ้อนท้ายผมสิ จะขี่เองให้เมื่อยทำไมกันเล่า"
พอได้ยินแบบนั้นคนตัวเล็กก็ยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีไปตลอดทางกลับ จนคนตัวสูงชักเกิดอาการหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ
ก็ที่ซื้อจักรยานแบบซ้อนท้ายได้มานี่
ก็เพราะอยากจะให้นั่งไปด้วยกันไงเล่า
พี่จุนมยอนนี่เข้าใจอะไรยากจริงๆเล้ย !
(* ̄з ̄)
15 notes · View notes
Text
[SF] #Hunho - Kiss me on my cheek
author : imkiseki
"หอมแก้ม!"      ลีดเดอร์ของวงทำหน้าตกใจ หลังจากที่ถูกเด็กบีเกิ้ลไลน์ท้าให้หอมแก้มใครก็ได้ในวงระหว่างที่โชว์อยู่บนเวที คิ้วหนาเริ่มขมวด คิดแค้นใจที่เผลอตกปากรับคำเจ้าเด็กตัวแสบพวกนี้ไปแล้ว "อย่าลืมนะซูโฮฮยอง ถ้าไม่ทำล่ะก็บัตรเครดิตพี่กลายเป็นของพวกผมแน่ ฮ่าๆๆๆๆๆ"      เสียงหัวเราะที่แสนสะใจของแบคฮยอนทำให้ลีดเดอร์อยากจะตะปบหน้าสวยๆนั่นสักที ถอนหายใจไปพลางติดไมค์ไป รู้ตัวอีกทีมักเน่ของวงก็ยืนอยู่ตรงหน้าแล้ว "ถอนหายใจมากๆอายุจะสั้นนะครับ" "เรื่องของฉันน่า"      พูดปัดไปอย่างหงุดหงิด ไม่ได้นึกเลยว่าคนที่ถูกหงุดหงิดใส่จะเกิดอาการเป็นห่วงขึ้นมา ตอนที่กำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่างก็ดันโดนขัดจังหวะด้วยเสียงเรียกจากสต๊าฟซะก่อน      มักเน่ตัวโข่งเลยได้แต่ยืนเกาหัวมองลีดเดอร์ที่กำลังเดินจากไป ก่อนจะเดินตามไปยังหลังเวที "อย่าลืมสัญญาของเรานะฮยอง"      หนึ่งในบีเกิลไลน์เดินมากระซิบที่ข้างหู ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นแบคฮยอนจอมแกล้งเจ้าเดิม คิ้วหนาเริ่มขมวดเข้าหากันอีกครั้ง      ถึงจะโดนแกล้งให้ทำโน่นนี่อยู่บ่อยๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำได้ซะทุกอย่างหรอกนะ      แล้วคิดดูว่าถ้าเกิดไปหอมแก้มใครสักคนเข้า พรุ่งนี้มันต้องกลายเป็นเรื่องฮือฮาในหมู่แฟนคลับแน่ๆ      ยิ่งคิดคิมจุนมยอนยิ่งอยากทึ้งหัวตัวเอง เวลาแสดงเริ่มใกล้เข้ามา ความเครียดของเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้น     ในที่สุดเวลาขึ้นสเตจก็มาถึง ลีดเดอร์ตัวเล็กของวงสลัดความคิดในหัวทิ้งแล้วเริ่มเต็มที่กับการโชว์     วูล์ฟจบแล้วก็ต่อด้วยอือรือรอง เพลงรีแพ็คเกจที่พาให้วงของพวกเขาก้าวเข้าใกล้ความสำเร็จไปอีกก้าว ลีดเดอร์ก็ตั้งใจแสดงเต็มที่เช่นเคย จนกระทั่งมาถึงเพลง 3.6.5 เนี่ยล่ะ..      รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของแบคฮยอนทำเอาเสียวสันหลังวาบ ความเครียดเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาต้องซ่อนไว้ใต้รอยยิ้มแล้วร้องเพลงต่อไป      วิ่งไปวิ่งมาอยู่บนเวทีก็โดนลู่ห่านแกล้งดึงหมวกไป ซูโฮเหลือบมองเป็นระยะ ตั้งใจว่าจะหาจังหวะเข้าไปใกล้  แต่ก็โดนขัดจังหวะโดยอี้ชิงที่เข้ามา
หรือจะอี้ชิงดีนะ? ไม่ได้ๆ ก่อนหน้านี้อี้ชิงเคยจูบเขาที่ต้นคอจนฮือฮาไปแล้ว ถ้าเขาหอมแก้มอีกได้กลายเป็นเลย์โฮจริงๆ แน่ = = งั้นใครดีล่ะ ? ขายาวเริ่มวิ่งวนรอบเวทีอีกครั้ง จนกลา���เป็นว่าแยกตัวไปคนเดียวอยู่ริมเวที ตอนนั้นเองเซฮุนก็เดินเข้ามาใกล้ ลีดเดอร์ร้องไปก็เผลอยกแขนโอบไหล่น้อง เอ๊ะ ไหนๆก็ไหนๆล่ะ โอกาสนี้ล่ะ      ชั่ววินาทีเดียวที่กดจมูกลงไปที่แก้มขาวของน้องเล็กก็เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆได้เป็นอย่างดี      แสร้งเป็นไม่อายแต่ก็วิ่งไปรวมกับคนอื่นตรงกลาง พยายามหนีจากการวิ่งตามของเซฮุนแต่ก็หนีไม่พ้นอยู่ดี อย่าเข้ามาใกล้ฮยองตอนนี้เลยนะเซฮุน ㅠ ㅠ อยากจะขอร้องแค่ไหนก็ต้องฝืนยิ้มร่าเริงไว้ ในใจแอบโล่งอกที่ไม่ต้องเสียบัตรเครดิตหนึ่งใบให้กับเจ้าพวกตัวแสบแล้ว      ในที่สุดการแสดงก็เสร็จสิ้นลง สมาชิกของเอ็กโซทยอยเดินลงจากเวที แบคฮยอนเดินมาเลียบเคียงลีดเดอร์ ทำท่าเหมือนหมาหงอย "ฮยองนะฮยอง กล้าหอมแก้มเซฮุนแบบนั้นได้ไง" "งั้นพวกผมก็อดฉลองอ่ะดิ" "เสียดายเว้ยยย"      เสียงโอดครวญจากพวกลูกหมาน้อยเริ่มดังเซ็งแซ่ลีดเดอร์ตัวเล็กหัวเราะเสียงดังอย่างสะใจแล้วเดินเลี่ยงออกมา ก่อนจะชะงักเมื่อมือของน้องเล็กวางบนไหล่ขวา "เมื่อกี้ฮยองทำอะไรผมบนเวที" "แหะๆๆ" "ไม่ต้องมาหัวเราะเลยฮยอง"      มือของเซฮุนดึงไหล่อีกข้างของลีดเดอร์ให้หันมาหาตัวเอง สายตาเจ้าเล่ห์ดุจหมาป่านั่นทำเอาซูโฮขนลุกเกรียว "เดี๋ยวๆ ฟังฮยองอธิบายก่อนนะ"      ว่าแล้วก็เล่าเรื่องออกมาจนหมด ไม่สนใจแล้วว่าจะเป็นความลับหรือไม่ สายตาจากน้องเล็กยังคงจ้องที่เขาตลอดเวลาตอนฟัง สีหน้าเรียบเฉยที่ปรากฏยากเกินจะคาดเดาว่าคิดอะไรอยู่ "เรื่องก็เป็นแบบนี้ล่ะ ฮยองขอโทษนะ" "ฮยองจะขอโทษผมทำไม" "ก็...." เออวะ แล้วจะขอโทษทำไม ตอนนี้สติสตังของคิมจุนมยอนหายไปหมดแล้วใช่ไหมเนี่ย "ฮยองต้องขอบคุณผมสิที่ทำให้ฮยองไม่ต้องเสียเงินให้พวกบีเกิลฮยองอ่ะ" "งั้นขอบคุณนะ" "ผมขอมากกว่าคำขอบคุณได้ไหม" คิ้วหนาเลิกขึ้นอย่างสงสัย สายตาของเซฮุนยิ่งชวนให้แปลกใจเข้าไปอีก "งั้นจะเอาอะไรล่ะ ฮยองซื้อขนมให้เอามั้ย หรือจะเอาเสื้อผ้าดีล่ะ" "......." เซฮุนไม่ตอบ เพียงแต่โน้มตัวลงมาใกล้ "ฮยองไม่ต้องซื้ออะไรหรอก ให้ผมหอมแก้มคืนก็พอ" "บ้า!!"      ลีดเดอร์ตัวเล็กตะโกนเสียงดังลั่น รีบเดินหนีไปสมทบกับสมาชิกคนอื่นอย่างไว แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นจากมักเน่เด็กโข่งที่เดินตามมาติดๆ "ฮยองขี้โกงอ่ะ ตอนผมโดนหอมแก้มผมยังยอมเลย" "มันต่างกันนะเซฮุน" "ฮยองกล้าปฏิเสธผู้มีพระคุณหรอ"      เจอคำนี้เข้าไปลีดเดอร์ตัวเล็กก็ได้แต่นิ่ง ในขณะที่สมาชิกคนอื่นพากันกลั้นขำแต่ทำท่าเป็นไม่สนใจ โดยเฉพาะเหล่าบีเกิลไลน์ที่กลั้นขำจนตัวงอ ไม่มีใครรู้หรอกว่าลีดเดอร์ของพวกเขาน่าแกล้งขนาดไหน สมาชิกในวงเฝ้ารอคำตอบจากลีดเดอร์ เซฮุนเองก็ใจเต้นแรงพอจ้องหน้าของซูโฮ "ก็ได้ แต่ว่าต้องกลับโรงแรมก่อนนะ"     สิ้นเสียงของซูโฮ ทุกคนก็แทบจะกระโดดเฮ โดยเฉพาะเซฮุนที่ดูจะพอใจกับคำตอบมากจนถึงกับดึงลีดเดอร์ตัวเล็กเข้ามากอด รอให้กลับถึงโรงแรมก่อนเถอะ โอเซฮุนจะทำให้มากกว่าหอมแก้มแน่นอน!!
ψ(`∇´)ψ
--The End--
15 notes · View notes
Text
[Special Couple] #LayLuhan - Shortcake
inspired by AKB48 kashiwagi yuki's single
author : imkiseki
"จางอี้ชิง"
เด็กชายลู่ห่านวัยสิบขวบตะโกนเรียกเพื่อนรักอี้ชิงที่กำลังเดินจูงจักรยานหันตามเสียงเรียกอย่างสงสัย แต่พอเห็นว่าเป็นลู่ห่านก็หยุดยืนรอ
"ไปร้านเค้กกันมั้ย"
อี้ชิงมองท่าทางตื่นเต้นของลู่ห่านแล้วพยักหน้า เขาไม่เคยขัดใจเพื่อนรักอย่างลู่ห่านอยู่แล้ว
"มีเงินพอหรือเปล่า"
"เรื่องเงินไม่ต้องห่วงหรอก มีอยู่แล้วล่ะ" 
ท่าทางดี๊ด๊าของลู่ห่านทำอี้ชิงยิ้มออกมาไม่รู้ตัว
ลู่ห่านเป็นเด็กแบบนี้ล่ะ แบบที่ร่าเริงได้ทั้งวันจนคนอื่นอิจฉา
เด็กชายขึ้นคร่อมจักรยานแล้วเรียกให้เพื่อนนั่งซ้อน
ลู่ห่านค่อยๆเหยียบที่วางเท้าด้านหลังขึ้นไปแต่แทนที่จะนั่งเขากลับยืนคร่อมเบาะแทน
มือเล็กๆของลู่ห่านวางลงบนไหล่ของอี้ชิงเมื่อรถจักรยานออกตัว
"ลู่ห่านไม่ยอมนั่งอีกแล้วนะ"
"ก็ยืนมันสนุกกว่านี่นา"
"ตามใจ เกาะแน่นๆล่ะ"
ระหว่างทางลู่ห่านก็พูดไม่หยุด ชี้นั้นชี้นี่ให้ดูอยู่เรื่อยๆ อี้ชิงเลยต้องขี่จักรยานอย่างระวัง จนมาถึงร้านเค้ก
ลู่่ห่านสั่งเค้กสตรอเบอร์รี่ของโปรด ส่วนเพื่อนรักของเขาสั่งแค่นมร้อนแก้วเดียว
"นายแบ่งกับฉันก็ได้"
ลู่ห่านบอกอี้ชิง เขาพยักหน้าแล้วรับส้อมจากมือลู่ห่าน
บนเค้กมีสตรอเบอร์รี่แดงสดอยู่สามลูก ตอนนี้ลู่ห่านกินไปแล้วลูกนึง ส่วนอี้ชิงก็กินไปลูกนึง
ทั้งสองคนพากันมองที่ลูกสุดท้าย
ยังไม่ทันที่ลู่ห่านจะพูดอะไรอี้ชิงก็จิ้มสตรอเบอร์รี่ลูกนั้นเข้าปาก
"นายทำบ้าอะไรเนี่ย"
"กินสตรอเบอร์รี่ไง"
“ฉันกะว่าจะเก็บไว้กินตอนสุดท้ายอ่ะ”
“อ่าว ขอโทษทีนะ”
ลู่ห่านกระชากคอเสื้อของเพื่อนรักอย่างแรง
แต่พอเห็นท่าทางสำนึกผิดกับรอยยิ้มแหยๆนั่นก็ปล่อยมือออก
"ฉันโกรธนายสามวันล่ะกัน"
"ห๊ะ"
ลู่ห่านไม่พูดอะไรต่อแค่หยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากร้าน
ระหว่างทางกลับบ้านทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย
จนสามวันถัดมาจางอี้ชิงก็มาเคาะประตูบ้านพร้อมกับกล่องเค้ก…
"ลู่ห่าน"
"เอ๊ะ"
ลู่ห่านตื่นจากภวังค์เพราะเสียงเรียกของเพื่อนและเสียงปรบมือดังกึกก้องให้กับคู่แต่งงานบนเวที
ใช่ ตอนนี้เขาอยู่ในงานแต่งงานเพื่อนสมัยมัธยมนี่นา
แล้วทำไมกลับคิดถึงเรื่องเมื่อตอนประถมได้ละเนี่ย
"เมื่อไหร่จะแต่งงานกับเขาบ้างล่ะ เหลือนายคนเดียวในรุ่นแล้วนะที่ยังโสดอยู่"
เจ้าบ่าวของงานแซว พวกเขากำลังสังสรรค์กันหลังทำพิธีเสร็จ ลู่ห่านวัยยี่สิบหกได้แต่ยิ้มแห้งๆใส่
"รอให้เขามาขออยู่ล่ะสิ"
"บ้า"
นี่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นงานมงคลคงชกหน้าหงายไปแล้วจริงๆนะ
เขาก็แค่ยังไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ของตัวเองเป็นยังไงเอง
"เออน่า เดี๋ยวถ้าฉันมีข่าวดีจะรีบบอกพวกแกเลยเว้ย"
ถ้าหมอนั่นอยากจะแต่งงานภายในชาตินี้นะ...
เที่ยงคืน
ลู่ห่านกลับมาถึงบ้านตอนเที่ยงคืน แต่ก็ยังไร้วี่แววใครบางคน
"กลับช้ากว่าอีกหรอจางอี้ชิง"
เขาพูดกับรูปถ่ายอี้ชิงที่วางอยู่ใกล้ทีวี แล้วคว่ำมันลง
เชอะ อยากกลับช้าแค่ไหนก็ตามใจเถอะ
ก็ยังไม่แต่งงานกันนี่ จะทำอะไรก็ได้อยู่แล้ว
พอดีกับเสียงประตูเปิดเข้ามา จางอี้ชิงเห็นลู่ห่านยกมือขึ้นปาดน้ำตาของตัวเอง
"ร้องไห้ทำไม"
"เปล่า พอดีฝุ่นเข้าตาน่ะ"
ลู่ห่านยังคงเอามือปิดหน้า อี้ชิงเลยจับมือเขาออก แล้วใช้ผ้าเช็ด หน้าค่อยๆเช็ดตาให้
ความอ่อนโยนของอี้ชิงเนี่ยแหละที่ลู่ห่านหลงรัก
"ไปล้างหน้าเถอะ ดูสิตาแดงหมดแล้ว"
เขาใช้มือขยี้ผมของลู่ห่านเบาๆอย่างเอ็นดู ก่อนจะดันให้คนหน้าสวยไปอาบน้ำ
อี้ชิงจับรูปที่คว่ำอยู่ให้ตั้ง แล้วมองไปยังคนที่ยืนข้างเขาในรูป
เมื่อไหร่จะยิ้มแบบนี้อีกนะลู่ห่าน...
เช้าวันต่อมา ลู่ห่านหงุดหงิดนิดหน่อยตอนที่อี้ชิงบอก��่่าตอนเย็นต้องไปกินข้าวกับลูกค้าคนสำคัญ
แล้วเขาล่ะ เขาก็สำคัญเหมือนกันนะ
แถมวันนี้ก็สำคัญเหมือนกัน
ลู่ห่านน้อยใจเลยไม่ยอมพูดกับอี้ชิงสักคำ จนกระทั่งอี้ชิงมาส่งถึงที่ทำงาน แล้วพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะไป
"ยิ้มได้แล้วน่า"
อารมณ์แบบนี้ใครจะอยากยิ้มกันเล่า
เขาเชิดใส่แทนคำตอบ แอบเห็นหน้าเศร้าของอี้ชิงแวบนึงแต่ก็ไม่สนใจ
วันนั้นทั้งวันลู่ห่านเลยไม่เป็นอันทำงาน มัวแต่คอยข่มใจไม่ให้วีนใส่ลูกค้าหรือลูกน้องที่เข้ามาถามงาน
พอเลิกงานเลยรู้สึกเหมือนโล่งมากที่ไม่ได้เผลอโหดใส่ใครไป
"กลับบ้านดีกว่า"
ชายหนุ่มยิ้มสู้กับตัวเอง ถึงจะเข้่าใจว่าเป็นงานแต่ก็อดน้อยใจไม่ได้อยู่ดี
ทางด้านอี้ชิง เขาก็มัวแต่มองนาฬิกาข้อมืิอ จนถูกหัวหน้าตำหนิ แต่ในใจกลับเป็นห่วงคนที่อยู่ที่บ้านมากกว่า
ป่านนี้จะหายโกรธหรือยัง คงไม่ได้ไปพาลใส่ใครหรอกใช่ไหม
กลับถึงบ้านหรือยัง ปลอดภัยดีไหมนะ
กินข้าวคนเดียวได้หรือเปล่านะ
หลายคำถามผุดขึ้นมากวนใจ อยากจะโทรไปหาแต่ก็ทำไม่ได้
ดังนั้นพอคุยธุระเสร็จ อี้ชิงเลยรีบขอตัวกลับบ้านทันที
ระหว่างทางเขาขับไปเจอร้านเค้กชื่อดังที่จำได้ว่าลู่ห่านบอกว่าร้านนี้อร่อย
เบาะข้างคนขับตอนขากลับเลยมีกล่องเค้กใบโตนั่งไปด้วย
ลู่ห่านเท้าคางนั่งมองนาฬิกาที่บอกว่าตอนนี้สี่ทุ่มแล้วอย่างเบื่อๆ
คงจะกลับดึกอีกตามเคยสินะ
มือเรียวบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมจะโทร ตอนนั้นเองอี้ชิงก็โผล่เข้ามาพอดี
"กลับมาแล้ว..ครับ"
กล่องเค้กถูกวางลงตรงหน้า อี้ชิงบอกให้เขาเปิดดู
พอเห็นสิ่งที่อยู่ในกล่อง ความน้อยใจที่มีตั้งแต่ตอนเช้าก็แทบเลือนหายไปหมด
"ร้านที่ลู่ห่านบอกว่าอร่อยไง"
อี้ชิงเดินไปหยิบจานกับส้อม ค่อยๆตัดเค้กแล้ววางใส่จานให้ลู่ห่าน
"ขอโทษนะ ที่ไม่ได้อยู่กินข้าวด้วยวันนี้ ทั้งที่เป็นวันครบรอบแท้ๆ"
อี้ชิงยิ้มอย่างอ่อนโยน เท่านี้เอง ความโกรธในใจก็หายไปหมดจนไม่เหลือ
"นึกว่าจำไม่ได้ซะอีก"
ลู่ห่านก้มหน้าหลบตา ทำเป็นกินเค้ก แต่จริงๆแล้วเพื่อซ่อนหน้าแดงๆไว้
รู้นะว่่าอี้ชิงความจำดี แต่ท่าทางเมื่อเช้ามันคิดได้จริงๆว่าเขาอาจจะลืมไปแล้ว ถึงได้โกรธมากขนาดนั้น
"กินเยอะๆนะ สตรอเบอร์รี่เนี่ยฉันยกให้"
เหมือนตอนนั้นเลย...
"นายก็ชอบกินไม่ใช่หรอ"
"ก็ชอบนะ แต่ลู่ห่านชอบมากกว่า.."
อี้ชิงไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจริงๆ
'ฉันขอโทษ คราวนี้ฉันให้นายกินคนเดียวเลยนะ'
ภาพอี้ชิงในวัยเด็กย้อนกลับมาในหัว ตอนนั้นที่เขาโกรธจางอี้ชิงคนนี้ก็ซื้อเค้กสตรอเบอร์รี่มาง้อ
ไม่ใช่แค่ตอนนั้น แต่เวลาเขาโกรธ อี้ชิงจะปรากฏตัวพร้อมกับเค้กที่เป็นของชอบของเขาทุกครั้ง
ลู่ห่านมองหน้าคนตรงหน้าที่กำลังเปิดทีวี แล้วตัดสินใจพูดบางอย่างออกไป
"แต่งงานกันมั้ย"
ดูเหมือนว่าอี้ชิงจะไม่ได้ยินที่เขาพูด เพราะเสียงทีวีที่ดังอยู่
"จางอี้ชิง"
"ห๊ะ เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ"
อี้ชิงหันมาด้วยหน้างงๆ ลู่ห่านถอนหายใจแล้วแกล้งทำเป็นกินต่อ
"เปล่า ไม่มีอะไร"
ใครจะกล้าพูดอีกรอบกันล่ะ เมื่อกี้แค่ลืมตัวเท่านั้นเอง
ดีแล้วล่ะที่เขาไม่ได้ยินมันจริงๆ
“พรุ่งนี้จะกลับช้าอีกหรือเปล่า”
“ทำไมหรอ”
“พรุ่งนี้กลับมากินข้าวด้วยกันได้ไหม”
อี้ชิงพยักหน้าแทนคำตอบ ลู่ห่านยกนิ้วก้อยของตัวเองเกี่ยวนิ้วก้อยของอี้ชิง
“สัญญาแล้วนะ ห้ามเบี้ยวด้วย”
“สัญญาครับ”
“วันนี้หัวหน้าอารมณ์ดีแปลกๆนะ”
“นั่นสิ เมื่อวานยังเห็นหงุดหงิดอยู่เลย”
พวกลูกน้องในแผนกนั่งซุบซิบ พากันมองลู่ห่านที่นั่งทำงานอย่างอารมณ์ดี ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ค่อยได้เห็นสักเท่าไหร่
แน่นอนว่าเขาได้ยินสิ่งที่ลูกน้องซุบซิบทั้งหมด แต่วันนี้จะยอมปล่อยไปวันนึง
เพราะตอนนี้เขามีเรื่องที่ต้องสนใจมากกว่า
ตอนเย็น ลู่ห่านกลับถึงบ้านพร้อมถุงมากมายในมือ
แยกของเสร็จก็กางหนังสือสอนทำเค้กไว้ตรงหน้า ไล่อ่านสักพักก็เริ่มลงมือตามในหนังสือ
“ฉันจะทำได้ไหมเนี่ย”
ลู่ห่านหยิบผ้ากันเปื้อนของอี้ชิงมาใส่ หลังจากนั้นก็ยืนมองเครื่องครัวกับของที่ซื้อมาสลับไปมา
ปกติเป็นคนชิมอาหารที่อี้ชิงทำ พอต้องลงมือเองเลยไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
"เอาวะ เป็นไงเป็นกัน"
ทุ่มครึ่ง
อี้ชิงกลับถึงบ้านตอนทุ่มครึ่ง แล้วก็ต้องแปลกใจที่เห็นบ้านยังมืดอยู่
จะว่าลู่ห่านยังไม่กลับก็คงไม่ใช่ เพราะคนนัดคงไม่ผิดสัญญาเองแน่ๆ
อี้ชิงเปิดไฟในห้องรับแขก เห็นกระเป๋าของลู่ห่านวางอยู่บนโต๊ะเลยลองเดินตามหาที่ห้องนั่นห้องนี่ สุดท้ายก็เดินเข้าไปในครัว
พอไฟในครัวสว่าง เขาก็ยิ้มกว้าง
ลู่ห่านนั่งฟุบหลับอยู่บนเคาน์เตอร�� มีเค้กสตรอเบอร์รี่ที่คาดว่าคงทำเองวางอยู่ตรงหน้า และรอบตัวเต็มไปด้วยเศษแป้งกับเครื่องครัวที่ยังไม่ได้ล้างวางเกะกะ
อี้ชิงนั่งลงข้างๆ เอียงหัวมองคนที่หลับพริ้มทั้งๆที่จมูกและแก้มยังมีแป้งเปื้อนอยู่
นิ้วชี้ของอี้ชิงค่อยๆไล้เช็ดแป้งตามแก้มออกอย่างเบามือ แอบมองหน้าตอนนอนของลู่ห่านอีกครั้งก่อนจะหันไปลองตัดเค้กมาชิม
ลู่ห่านขยับตัวเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงส้อมกระทบกับจาน ตาโตค่อยๆลืมทีละนิด แล้วก็เบิกกว้างเมื่อเห็นอี้ชิงกินเค้กอยู่
"อี้ชิง"
"ตื่นแล้วหรอ"
"นายทำอะไรน่ะ"
"ก็กินเค้กไง"
อี้ชิงตอบทั้งที่ยังเคี้ยวเค้กในปาก ลู่ห่านฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
น่าอายชะมัด ทำเค้กไม่ได้เรื่องแถมยังเผลอหลับไปก่อนอีก
"รสชาติไม่ได้เรื่องเลยใช่ไหมล่ะ"
"ไม่นะ อร่อยมากเลย"
คำตอบของอี้ชิงยิ่งทำให้ลู่ห่านไม่กล้าเงยหน้า
พอเห็นลู่ห่านไม่ยอมเงยหน้า อี้ชิงเลยแกล้งทำเป็นเคี้ยวโดนบางอย่าง
"โอ๊ย"
แล้วก็ได้ผลดีซะด้วย คนที่กำลังฟุบอยู่เงยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ลู่ห่านตกใจที่เห็นอี้ชิงเอามือกุมปาก พยายามจับมือของอี้ชิงออกเพื่อดูปากของเขา
"เคี้ยวอะไรเข้าไปน่ะ ขอดูหน่อยเร็ว"
เห็นแววตาตกใจปนเป็นห่วงของลู่ห่าน อี้ชิงก็แอบยิ้ม แล้วตัดสินใจแบมือออกมาตรงหน้าคนรัก
ลู่ห่านมองแหวนที่อยู่ในมือคนตรงหน้า พอเห็นอี้ชิงยิ้ม เขาก็เริ่มจะเข้าใจ
"ฉันรู้ว่าลู่ห่านรอมันมาตลอด ขอโทษนะ ที่ไม่ได้ทำให้เร็วกว่านี้"
ลู่ห่านไม่พูดอะไรเพียงแต่ยิ้ม ยิ้มที่อี้ชิงคิดถึงมาตลอด
รอยยิ้มเวลาที่ลู่ห่านมีความสุขเป็นสิ่งที่งดงามและวิเศษที่สุดสำหรับเขา
"แต่งงานกันนะ"
อี้ชิงพูดให้ชัดเจนอีกครั้ง ลู่ห่านพยักหน้าเบาๆ ดวงตาสวยเริ่มมีน้ำตาคลอ
แหวนวงเล็กถูกสวมเข้าที่นิ้วนางบนมือข้างซ้ายของลู่ห่าน
เขามองดูแหวนแล้วยิ้มกว้างอีกครั้ง ก่อนจะโผเข้ากอดอี้ชิง พูดคำว่าขอบคุณอยู่เป็นร้อยรอบบนไหล่กว้าง
"ลู่ห่านพูดขอบคุณเยอะไปแล้วนะ ขอคำอื่นบ้างสิ"
"อยากจะให้ฉันพูดอะไรล่ะ"
"ไม่รู้จริงๆหรอ"
"อี้ชิงพูดก่อนสิ ^^"
ลู่ห่านผละออก มองอี้ชิงอย่างใจจดใจจ่อ
"รักนะครับ"
พอได้ยินคำนี้ก็เริ่มเขินอีกรอบ ลู่ห่านมองอี้ชิงที่ยิ้มหวานให้แล้วค่อยๆพูดออกมา
"รักเหมือนกันนะ"
แน่นอนว่าคนถูกบอกรักก็ออกอาการเขิน ลู่ห่านหัวเราะกับท่าทางของอี้ชิง ก่อนที่ทั้งคู่จะสวมกอดกันอีกครั้ง
อ้อมกอดของอี้ชิงที่อบอุ่นอยู่เสมอ
สำหรับลู่ห่านอี้ชิงก็คงจะเหมือนเค้กสตรอเบอร์รี่ที่เป็นของโปรด
เพราะมันทำให้เขายิ้มและมีความสุข แถมยังคอยไล่ความเสียใจเวลาเศร้าได้เป็นอย่างดี
อี้ชิงเองก็ทำให้เขายิ้ม มีความสุข และคอยเช็ดน้ำตาให้ตลอดมา
ขอบคุณนะเค้กสตรอเบอร์รี่ของฉัน..♥
---The End---
8 notes · View notes
Photo
Tumblr media Tumblr media Tumblr media
seho shopping for perfume
89 notes · View notes
Photo
sehun cutely talking to suho (ღ˘⌣˘ღ)
Tumblr media Tumblr media Tumblr media Tumblr media Tumblr media Tumblr media
11K notes · View notes
Photo
Tumblr media Tumblr media
sehun and his hyungs
3K notes · View notes