Don't wanna be here? Send us removal request.
Text
ประวัติของรัฐ อินเดียนา (Indiana)

รัฐอินเดียนาตั้งอยู่ในเกรตเลกส์และภูมิภาคมิดเวสต์ของอเมริกาเหนือ เป็นหนึ่งในรัฐที่มีประชากรมากที่สุดซึ่งมีเศรษฐกิจที่หลากหลายและเขตเมืองหลายแห่งที่มีประชากรมากกว่า 100,000 คน
รัฐอินเดียนาเป็นที่ตั้งของคนดังมากมาย เช่น Michael Jackson, David Letterman, Brendan Fraser และ Adam Lambert เช่นเดียวกับ ทีมกีฬาอาชีพที่มีชื่อเสียงอย่าง Indiana Pacers ของ NBA และ Indianapolis Colts ของ NFL
รัฐมีความสวยงามเป็นพิเศษและมีความหลากหลาย มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่หลากหลาย ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้คนหลายล้านคนจึงมาเยี่ยมชมในแต่ละปี รัฐอินดีแอนาได้รับการยอมรับจากสหภาพเป็นรัฐที่ 19 ในปี พ.ศ. 2359 มีสัญลักษณ์ที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการหลายสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นรัฐ ต่อไปนี้เป็นภาพรวมคร่าวๆ ของสัญลักษณ์เหล่านี้
นำมาใช้ในปี พ.ศ. 2460 ธงทางการของรัฐอินเดียนาประกอบด้วยคบเพลิงสีทอง สัญลักษณ์แทนความรู้แจ้งและเสรีภาพ อยู่ตรงกลางพื้นหลังสีน้ำเงิน คบเพลิงล้อมรอบด้วยวงกลมที่มีดาว 13 ดวง (แสดงถึง 13 อาณานิคมเดิม) และครึ่งวงกลมด้านในมีดาว 5 ดวงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอีก 5 รัฐที่จะเข้าร่วมสหภาพหลังจากรัฐอินเดียนา ดาวดวงที่ 19 ที่ด้านบนสุดของคบเพลิงที่มีคำว่า 'Indiana' เป็นยอดหมายถึงสถานะของรัฐอินเดียนาในฐานะรัฐที่ 19 ที่ได้รับการยอมรับให้เข้าร่วมสหภาพ สัญลักษณ์ทั้งหมดบนธงเป็นสีทองและพื้นหลังเป็นสีน้ำเงินเข้ม ทองและน้ำเงินเป็นสีประจำรัฐอย่างเป็นทางการ...แทงหวยออนไลน์
0 notes
Text
ประวัติของรัฐ อิลลินอย (Illinois)

อิลลินอย (Illinois) เป็นรัฐในแถบมิดเวสต��ภูมิภาคของประเทศสหรัฐอเมริกามีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)มาก เป็นอันดับ 5 มีประชากรมากเป็นอันดับ 6และมีพื้นที่ดินที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 25ของทุกรัฐในสหรัฐอเมริกา อิลลินอยส์ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นดินแดนพิภพเล็ก ๆของทั้งสหรัฐอเมริกากับชิคาโกทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐอิลลินอยส์เมืองอุตสาหกรรมขนาดเล็กและใหญ่โตผลผลิตทางการเกษตรในภาคเหนือและกลางของรัฐและทรัพยากรธรรมชาติเช่นถ่านหินไม้และปิโตรเลียม
ในภาคใต้ของรัฐอิลลินอยส์มีฐานทางเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเป็นหลักศูนย์กลางการขนส่ง ท่าเรือชิคาโกเชื่อมต่อรัฐไปยังท่าเรือต่างประเทศผ่านสองเส้นทางหลักจากที่ Great Lakesผ่านเซนต์ Lawrence Seawayไปยังมหาสมุทรแอตแลนติกและจากที่ Great Lakesกับแม่น้ำมิสซิสซิปปีผ่านแม่น้ำอิลลินอยส์ผ่านอิลลินอยส์แม่น้ำลำคลองแม่น้ำมิสซิสซิปปีแม่น้ำโอไฮโอและแม่น้ำวาแบชเป็นส่วนหนึ่งของขอบเขตของรัฐอิลลินอยส์ เป็นเวลาหลายทศวรรษที่สนามบินนานาชาติโอแฮร์ของชิคาโกได้รับการจัดอันดับให้เป็นสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อิลลินอยส์มีความยาวมีชื่อเสียงในฐานะเป็นBellwetherทั้งในแง่สังคมและวัฒนธรรมและผ่านช่วงปี 1980 ในการเมือง
เมืองหลวงของรัฐอิลลินอยส์คือเมืองสปริงฟิลด์ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของรัฐ ถึงแม้ว่าวันนี้อิลลินอยส์ศูนย์ประชากรมากที่สุดอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐที่มีประชากรยุโรปขยายตัวครั้งแรกในตะวันตกเป็นดินแดนของฝรั่งเศสตัดสินที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำมิสซิสซิปปีเมื่อภูมิภาคเป็นที่รู้จักในรัฐอิลลินอยส์ประเทศและเป็นส่วนหนึ่งของฝรั่งเศสใหม่หลังจากสงครามปฏิวัติอเมริกาผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอเมริกันเริ่มเดินทางมาจากรัฐเคนตักกี้ในช่วงทศวรรษที่ 1780 ผ่านทางแม่น้ำโอไฮโอและประชากรเพิ่มขึ้นจากใต้สู่เหนือ ในปี 1818
อิลลินอยส์ประสบความสำเร็จในมลรัฐตามกิจกรรมการค้าที่เพิ่มขึ้นในเกรตเลกส์หลังจากการสร้างคลองอีรีชิคาโกจัดตั้งขึ้นในปี 1830 บนฝั่งของแม่น้ำชิคาโกที่หนึ่งในท่าเรือธรรมชาติไม่กี่ในส่วนทางตอนใต้ของทะเลสาบมิชิแกน John Deereประดิษฐ์ 'ของตัวเองกำจัดสิ่งสกปรกบนไถเหล็กหันอุดมไปด้วยอิลลินอยส์ของทุ่งหญ้าในบางส่วนของพื้นที่เพาะปลูกที่มีประสิทธิผลและมีคุณค่ามากที่สุดของโลกดึงดูดผู้อพยพเกษตรกรจากเยอรมนีและสวีเดน มิชิแกนและรัฐอิลลินอยส์คลอง(พ.ศ. 2391) ทำให้การขนส่งระหว่างเกรตเลกส์และหุบเขาแม่น้ำมิสซิสซิปปีเร็วขึ้นและถูกลงและทางรถไฟใหม่ได้พาผู้อพยพไปยังบ้านใหม่ทางตะวันตกของประเทศและส่งพืชผลสินค้าไปทางตะวันออกของประเทศ รัฐกลายเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของชาติ...แทงหวยออนไลน์
0 notes
Text
ประวัติของรัฐ ไอดาโฮ (Idaho)

ไอดาโฮ (Idaho) เป็นรัฐหนึ่งในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือแปซิฟิกของทวีปอเมริกาเหนือและในภาคตะวันตกของสหรัฐ มีพรมแดนทิศเหนือติดต่อกับรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ทิศตะวันออกติดต่อกับรัฐมอนแทนาและรัฐไวโอมิง ทิศใต้ติดต่อกับรัฐยูทาห์และรัฐเนวาดา และทิศตะวันตกติดต่อกับรัฐออริกอนและรัฐวอชิงตัน เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐคือบอยซี ด้วยเนื้อที่ 216,400 ตารางกิโลเมตร ไอดาโฮเป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 14 แต่ด้วยประชากรประมาณ 1.8 ล้านคน จึงเป็นรัฐที่มีประชากรน้อยเป็นอันดับที่ 13 และมีประชากรหนาแน่นน้อยเป็นอันดับที่ 7 ในบรรดารัฐทั้งหมดของสหรัฐ
ไอดาโฮเป็นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองหลายกลุ่มมาเป็นเวลาหลายพันปีก่อนที่จะมีการตั้งถิ่นฐานของชาวยุโรป ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ไอดาโฮเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคออริกอนซึ่งเป็นบริเวณพิพาทระหว่างสหรัฐกับจักรวรรดิบริติช ไอดาโฮตกเป็นของสหรัฐอย่างเป็นทางการหลังจากมีการลงนามในสนธิสัญญาออริกอนเมื่อ ค.ศ. 1846 แต่ยังคงรวมอยู่ในอาณาเขตของดินแดนออริกอนและดินแดนวอชิงตันจนกระทั่ง ค.ศ. 1863 จึงได้แยกออกมาเป็นดินแดนเอกเทศ ในที่สุดไอดาโฮก็เข้าร่วมกับสหรัฐในฐานะรัฐที่ 43 เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1890
ในฐานะส่วนหนึ่งของภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือแปซิฟิก ไอดาโฮแบ่งออกเป็นภูมิภาคทางภูมิศาสตร์และทางภูมิอากาศที่แตกต่างกันหลายภูมิภาค ตอนเหนือของรัฐหรือที่เรียกว่า "ด้ามกระทะไอดาโฮ" นั้นมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับภาคตะวันออกของรัฐวอชิงตันและใช้เขตเวลาแปซิฟิกร่วมกัน ในขณะที่ส่วนที่เหลือของรัฐใช้เขตเวลาภูเขา ตอนใต้ของรัฐครอบคลุมที่ราบลุ่มแม่น้ำสเนกซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรส่วนใหญ่และเป็นพื้นที่เกษตรกรรม และตอนตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐครอบคลุมส่วนหนึ่งของเกรตเบซิน ไอด��โฮมีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาค่อนข้างมากและมีเทือกเขาร็อกกีทอดผ่าน กรมป่าไม้สหรัฐถือครองที่ดินประมาณร้อยละ 38 ของรัฐ คิดเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในบรรดารัฐใด ๆ
อุตสาหกรรมที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐไอดาโฮ ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมเหมืองแร่ อุตสาหกรรมป่าไม้ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ไอดาโฮเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่หรือโรงงานของบริษัทด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจำนวนมาก รัฐนี้ยังมีสถาบันวิจัยแห่งชาติไอดาโฮซึ่งเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของกระทรวงพลังงานสหรัฐ ภาคการเกษตรของไอดาโฮส่ง��อกผลผลิตหลายอย่าง แต่รัฐนี้เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดจากการปลูกมันฝรั่งซึ่งให้ผลผลิตประมาณหนึ่งในสามของผลผลิตทั้งประเทศ ชื่อเล่นอย่างเป็นทางการของรัฐคือ "รัฐอัญมณี" ซึ่งเป็นสำนวนเชิงภาพพจน์ที่สื่อถึงความงามตามธรรมชาติของไอดาโฮ...แทงหวยออนไลน์
0 notes
Text
ประวัติรัฐ ฮาวาย (Hawaii)

ฮาวาย (Hawaii) เป็นรัฐหนึ่งในภาคตะวันตกของสหรัฐ ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากแผ่นดินใหญ่สหรัฐออกไปประมาณ 3,200 กิโลเมตร (2,000 ไมล์) เป็นรัฐเดียวของสหรัฐที่เป็นกลุ่มเกาะ เป็นรัฐเดียวที่ตั้งอยู่นอกทวีปอเมริกาเหนือ และเป็นรัฐเดียวที่ตั้งอยู่ในเขตร้อน
รัฐฮาวายประกอบด้วยเกาะภูเขาไฟ 137 เกาะที่ประกอบเป็นส่วนใหญ่ของกลุ่มเกาะฮาวายและวางตัวเรียงรายเป็นระยะทาง 2,400 กิโลเมตร (1,500 ไมล์) โดยเป็นส่วนหนึ่งของอนุภูมิภาคพอลินีเชียของเขตโอเชียเนียในทางภูมิศาสตร์กายภาพและชาติพันธุ์วิทยา แนวชายฝั่งมหาสมุทรของฮาวายจึงมีความยาวเป็นอันดับที่ 4 ของสหรัฐ กล่าวคือ ประมาณ 1,210 กิโลเมตร (750 ไมล์) เกาะหลัก 8 เกาะจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือไปทิศตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ นีเฮา, คาไว, โอวาฮู, โมโลไก, ลานาอี, กาโฮโอลาเว, เมาวี และฮาวายซึ่งเป็นที่มาของชื่อรัฐ และมักเรียกว่า "เกาะใหญ่" หรือ "เกาะฮาวาย" เพื่อไม่ให้สับสนกับรัฐฮาวายหรือกลุ่มเกาะฮาวาย หมู่เกาะฮาวายตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งไม่มีผู้คนอาศัยอยู่นั้นประกอบเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของอนุสรณ์สถานแห่งชาติทางทะเลปาปาฮาเนาโมกูวาเกยา ซึ่งเป็นพื้นที่คุ้มครองที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐและใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก
ในบรรดา 50 รัฐของสหรัฐ ฮาวายเป็นรัฐที่มีพื้นที่��้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 8 และมีประชากรน้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 11 แต่ด้วยจำนวนผู้อยู่อาศัย 1.4 ล้านคน จึงอยู่ในอันดับที่ 13 ในแง่ความหนาแน่นของประชากร ชาวฮาวายประมาณสองในสามอาศัยอยู่บนเกาะโอวาฮูซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐ��ย่างโฮโนลูลู ฮาวายเป็นหนึ่งในรัฐที่มีความหลากหลายมากที่สุดของประเทศ เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิกและมีการอพยพย้ายถิ่นมานานกว่าสองศตวรรษ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในหกรัฐที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยของสหรัฐ ฮาวายเป็นรัฐเดียวที่มีชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียเป็นชนกลุ่มใหญ่ มีชุมชนชาวพุทธที่ใหญ่ที่สุด และมีประชากรหลายเชื้อชาติในสัดส่วนที่มากที่สุดในสหรัฐ ด้วยเหตุนี้ ฮาวายจึงเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมอเมริกาเหนือกับเอเชียตะวันออกเข้าด้วยกันอย่างมีลักษณะเฉพาะ นอกเหนือจากมรดกของชนพื้นเมืองฮาวายเอง
หลังจากที่ชาวพอลินีเชียเข้ามาตั้งรกรากในช่วงใดช่วงหนึ่งระหว่าง ค.ศ. 1000 ถึง ค.ศ. 1200 ฮาวายก็กลายเป็นที่ตั้งของเขตหัวหน้าเผ่าจำนวนมาก[11] ใน ค.ศ. 1778 เจมส์ คุก นักสำรวจชาวอังกฤษ เป็นบุคคลแรก (เท่าที่ทราบ) ที่ไม่ใช่ชาวพอลินีเชียที่มาถึงกลุ่มเกาะนี้ อิทธิพลของอังกฤษในยุคแรกเริ่มสะท้อนให้เห็นในธงประจำรัฐซึ่งมียูเนียนแจ็กอยู่ด้วย ในไม่ช้าบรรดานักสำรวจ พ่อค้า และนักล่าวาฬชาวยุโรปและอเมริกันก็หลั่งไหลเข้ามาและนำโรคต่าง ๆ ติดตัวมาด้วย เช่น ซิฟิลิส วัณโรค ฝีดาษ โรคหัด ส่งผลให้ชนพื้นเมืองที่ครั้งหนึ่งเคยอาศัยอยู่โดดเดี่ยวเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก ประชากรฮาวายพื้นเมืองลดลงจากระหว่าง 300,000 ถึง 1,000,000 คน เหลือไม่ถึง 40,000 คนเมื่อถึง ค.ศ. 1890
ฮาวายกลายเป็นราชอาณาจักรที่เป็นปึกแผ่นและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติใน ค.ศ. 1810 และยังคงเป็นอิสระจนกระทั่งนักธุรกิจและทหารชาวอเมริกันและชาวยุโรปล้มล้างระบอบราชาธิปไตยใน ค.ศ. 1893 นำไปสู่การผนวกฮาวายเข้ากับสหรัฐใน ค.ศ. 1898 ในฐานะดินแดนสหรัฐที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ฮาวายถูกญี่ปุ่นโจมตีเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1941 ส่งผลให้กลุ่มเกาะนี้เป็นที่จับตามองในระดับโลกและในประวัติศาสตร์ และมีส่วนทำให้สหรัฐเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเต็มตัว ฮาวายเป็นรัฐล่าสุดที่เข้าร่วมกับสหรัฐเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1959 ใน ค.ศ. 1993 รัฐบาลสหรัฐกล��าวคำขอโทษอย่างเป็นทางการกับบทบาทของตนในการโค่นล้มรัฐบาลฮาวาย ซึ่งกระตุ้นความเคลื่อนไหวเพื่อเอ��ราชฮาวายและนำไปสู่ความพยายามอย่างต่อเนื่องในการชดเชยแก่ประชากรพื้นเมือง
เศรษฐกิจฮาวายในอดีตขึ้นอยู่กับการทำไร่ขนาดใหญ่ และในปัจจุบันรัฐนี้ยังคงเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่เนื่องจากดินที่อุดมสมบูรณ์และภูมิอากาศเขตร้อนที่ไม่เหมือนใครในสหรัฐ เศรษฐกิจฮาวายเริ่มมีความหลากหลายตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยการท่องเที่ยวและกลาโหมกลายเป็นภาคเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดสองภาค รัฐนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยว นักโต้คลื่น และนักวิทยาศาสตร์ด้วยทัศนียภาพทางธรรมชาติที่หลากหลาย ภูมิอากาศเขตร้อนอันอบอุ่น ชายหาดสาธารณะที่มีอยู่มากมาย สภาพแวดล้อมแบบมหาสมุทร ภูเขาไฟที่ยังมีพลัง และท้องฟ้าแจ่มใสบนเกาะใหญ่ ฮาวายเป็นที่ตั้งของทัพเรือแปซิฟิกของสหรัฐซึ่งเป็นหน่วยบัญชาการกองทัพเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่พำนักของลูกจ้างกระทรวงกลาโหมประมาณ 75,000 คน
ทำเลที่ตั้งอันห่างไกลของฮาวายส่งผลให้รัฐนี้เป็นหนึ่งในรัฐที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ฮาวายเป็นรัฐที่มีความมั่งคั่งมากเป็นอันดับที่ 3 และผู้อยู่อาศัยของรัฐมีอายุคาดเฉลี่ยยืนยาวที่สุดในบรรดารัฐใดๆ ของสหรัฐ อยู่ที่ 80.7 ปี
แทงหวยออนไลน์
0 notes
Text
ประวัติรัฐ จอร์เจีย (Georgia)

จอร์เจีย (Georgia) เป็นรัฐในSoutheasternภูมิภาคของประเทศสหรัฐอเมริกา ชายแดนทางเหนือโดยเทนเนสซีและนอร์ทแคโรไลนา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยเซาท์แคโรไลนา ไปทางตะวันออกเฉียงใต้โดยที่มหาสมุทรแอตแลนติก ไปทางทิศใต้โดยฟลอริดา และทางทิศตะวันตกโดยอลาบามา จอร์เจียเป็นวันที่ 24 ที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่และ 8 มีประชากรมากที่สุดของสหรัฐอเมริกา 50 ประชากรในปี 2020 อยู่ที่ 10,711,908 ตามข้อมูลสำนักสำรวจสำมะโนสหรัฐ แอตแลนตาซึ่งเป็นเมืองระดับโลก เป็นทั้งเมืองหลวงของรัฐและเมืองที่ใหญ่ที่สุด พื้นที่มหานครแอตแลนตามีประชากรประมาณกว่า 6 ล้านคนใน 2019 เป็น9 เขตมีประชากรมากที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกาและมีประมาณ 57% ของประชากรทั้งหมดของจอร์เจีย
จอร์เจียก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1733 ในฐานะอาณานิคมของอังกฤษเป็นอาณานิคมสุดท้ายและอยู่ใต้สุดของอาณานิคมทั้งสิบสามแห่งที่จะก่อตั้งขึ้น ตั้งชื่อตามกษัตริย์จอร์จที่สองแห่งสหราชอาณาจักร , อาณานิคมของรัฐจอร์เจียครอบคลุมพื้นที่จาก South Carolina ใต้ไปยังสเปนฟลอริด้าและตะวันตกไปฝรั่งเศสหลุยเซียที่แม่น้ำมิสซิสซิปปี เมื่อวันที่ 2 มกราคม 1788 จอร์เจียกลายเป็นรัฐที่สี่ที่จะให้สัตยาบันรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา จาก 1802 ถึง 1804 จอร์เจียตะวันตกถูกแยกออกเป็นดินแดนมิสซิสซิปปีซึ่งต่อมาได้รับการยอมรับว่าเป็นรัฐแอละแบมาและมิสซิสซิปปีของสหรัฐอเมริกา จอร์เจียประกาศแยกตัวออกจากสหภาพเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2404 และเป็นหนึ่งในเจ็ดรัฐสมาพันธรัฐดั้งเดิม หลังจากสงครามกลางเมืองมันเป็นรัฐสุดท้ายที่จะถูกเรียกคืนไปยังสหภาพ, 15 กรกฏาคม 1870 ในการโพสต์ฟื้นฟูยุคเศรษฐกิจของจอร์เจียก็กลายเป็นกลุ่มของนักการเมืองที่โดดเด่นนักธุรกิจและ นักข่าวนำโดยเฮนรี่ดับบลิวเกรดี้ , ดำเนินการกับ " นิวเซา " ปรัชญาของการประนีประนอมตัดอุตสาหกรรมและสีขาวสุด ในช่วงศตวรรษที่ 20, จอร์เจียหลายสะดุดตาที่สุดมาร์ตินลูเธอร์คิงจูเนียร์เป็นผู้นำที่โดดเด่นในช่วงเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน ตั้งแต่ปีพ. ศ. 2488 จอร์เจียได้เห็นการเติบโตของประชากรอย่างมากซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์Sun Belt ที่กว้างขึ้น ตั้งแต่ปี 2550 ถึงปี 2551 เขตปกครองของจอร์เจีย 14 แห่งติดอันดับหนึ่งใน 100 ประเทศที่เติบโตเร็วที่สุด
จอร์เจียถูกกำหนดโดยความหลากหลายของภูมิประเทศพืชและสัตว์ พื้นที่ทางตอนเหนือสุดของรัฐ ได้แก่เทือกเขาบลูริดจ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูเขาแอปพาเลเชียนที่ใหญ่กว่า Piedmontที่ราบสูงยื่นออกมาจากบริเวณเชิงเขาของภาคใต้ Blue Ridge กับฤดูใบไม้ร่วงสายเป็นที่สูงชันไปยังที่ราบชายฝั่งกำหนดรัฐภาคใต้ จุดที่สูงที่สุดของจอร์เจียคือBrasstown Baldที่ 4,784 ฟุต (1,458 ม.) เหนือระดับน้ำทะเล ต่ำสุดคือมหาสมุทรแอตแลนติก ยกเว้นบางพื้นที่ระดับสูงในบลูริดจ์, ทั้งปวงของรัฐที่มีอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว ของรัฐทั้งทางทิศตะวันออกของแม่น้ำมิสซิสซิปปีจอร์เจียที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่
แทงหวยออนไลน์
0 notes
Text
ประวัติรัฐ ฟลอริดา (Florida)

รัฐฟลอริดา (Florida) เป็นรัฐที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ ทิศตะวันตกติดต่อกับอ่าวเม็กซิโก ทิศเหนือติดต่อกับรัฐแอละแบมา และรัฐจอร์เจีย ทิศตะวันออกติดต่อกับมหาสมุทรแอตแลนติก ทิศใต้ติดต่อกับช่องแคบฟลอริดา รัฐฟลอริดาเป็นรัฐที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 22 มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 และหนาแน่นมากเป็นอันดับ 8 ในสหรัฐ แจ็กสันวิลล์เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในรัฐฟลอริดา และมีพื้นที่มากที่สุดในสหรัฐแผ่นดินใหญ่ มีเขตเมืองไมแอมี (Miami metropolitan area) เป็นเขตเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ในสหรัฐ และมีแทลลาแฮสซีเป็นเมืองหลวงของรัฐ ฟลอริดาเป็นหนึ่งในเจ็ดรัฐที่ไม่เก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ในอดีตรัฐฟลอริดาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศสเปน จนกระทั่งถึง ค.ศ. 1820 สหรัฐได้ซื้อฟลอริดาของสเปนจากประเทศสเปน โดยทำสนธิสัญญาแอดัมส์-โอนิส และ ผนวกเข้าเป็นรัฐฟลอริดา โดยแยกฟลอริดาของสเปนตะวันตกไปเป็นส่วนหนึ่งของรัฐมิสซิสซิปปีและรัฐแอละแบมา ส่วน ฟลอริดาของสเปนตะวันออก คือ รัฐฟลอริดาในปัจจุบัน
อริดา" เป็นภาษาสเปนซึ่งหมายถึง "ที่ซึ่งอุดมไปด้วยดอกไม้" ชื่อของแหลมฟลอริดาตั้งชื่อโดยฆวน ปอนเซ เด เลออน (Juan Ponce de León) ซึ่งมาเทียบที่ชายฝั่งเมื่อ 2 เมษายน ค.ศ. 1513 ในช่วงเทศกาล "ปัสกัวโฟลริดา" (Pascua Florida) หรือช่วงเทศกาลอีสเตอร์ของชาวสเปน วันปัสกัวโฟลริดาจัดขึ้นในวันที่ 2 เมษายนของทุกปี และยังเป็นวันหยุดราชการด้วย
แทงหวยออนไลน์
0 notes
Text
ประวัติรัฐ เดลาแวร์ (Delaware)

เดลาแวร์ (Delaware) เป็นรัฐในกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ภูมิภาคของประเทศสหรัฐอเมริกา , ขอบแมรี่แลนด์ไปทางทิศใต้และทิศตะวันตกของเพนซิลเวเนียไปทางเหนือ และนิวเจอร์ซีย์และมหาสมุทรแอตแลนติกทางทิศตะวันออก รัฐใช้ชื่อจากแม่น้ำเดลาแวร์ที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งตั้งชื่อตามThomas West, 3rd Baron De La Warr ขุนนางชาวอังกฤษและผู้ว่าการอาณานิคมคนแรกของเวอร์จิเนีย
เดลาแวร์ครอบครองพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของคาบสมุทรเดลมาร์วาและเกาะและดินแดนบางส่วนภายในแม่น้ำเดลาแวร์ เป็นรัฐที่มีขนาดเล็กที่สุดเป็นอันดับสองและมีประชากรน้อยที่สุดเป็นอันดับที่ 6แต่ยังเป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดเป็นอันดับที่ 6ด้วย เมืองที่ใหญ่ที่สุดของเดลาแวร์คือวิลมิงตันในขณะที่เมืองหลวงของรัฐคือโดเวอร์ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของรัฐ รัฐแบ่งออกเป็นสามมณฑลโดยมีจำนวนรัฐน้อยที่สุด จากเหนือจรดใต้พวกเขาจะใหม่เขตปราสาท , มณฑลเคนท์แล��มณฑลซัสเซ็กซ์ ในขณะที่สองมณฑลทางใต้มีการเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ในอดีตนิวคาสเซิลมีลักษณะเป็นเมืองมากขึ้น ในลักษณะคล้ายกับแมริแลนด์ภูมิศาสตร์วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเดลาแวร์ผสมผสานองค์ประกอบของภูมิภาคกลางมหาสมุทรแอตแลนติกภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ของประเทศ
ก่อนที่ชาวยุโรปจะสำรวจแนวชายฝั่งในศตวรรษที่ 16 เดลาแวร์มีชาวอเมริกันพื้นเมืองหลายกลุ่มอาศัยอยู่รวมทั้งLenapeทางตอนเหนือและNanticokeทางตอนใต้ มันเป็นอาณานิคมแรกโดยชาวดัตช์ผู้ค้าที่Zwaanendaelใกล้เมืองปัจจุบันของลูอิสในเดลาแวร์ 1631 เป็นหนึ่งใน13 อาณานิคมมีส่วนร่วมในการปฏิวัติอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1787, เดลาแวร์กลายเป็นรัฐแรกที่จะให้สัตยาบันในรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกาและได้รับตั้งแต่ที่รู้จักกันเป็นครั้งแรกที่รัฐ [12]นับตั้งแต่เปลี่ยนศตวรรษที่ 20 เดลาแวร์ยังเป็นสวรรค์ขององค์กรบนบกโดยพฤตินัยซึ่งโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายขององค์กรรัฐเป็นภูมิลำเนาของธุรกิจที่อยู่ในรายการNYSEทั้งหมดกว่า 50% และ 60% ของฟอร์จูน 500.
แทงหวยออนไลน์
0 notes
Text
ประวัติ รัฐคอนเนทิคัต (Connecticut)

คอนเนตทิคัต อาณานิคมเริ่มขึ้นเมื่อชาวดัตช์เป็นครั้งแรกในการซื้อขายโพสต์ 2176 คอนเนตทิคัตหุบเขาแม่น้ำในตอนนี้คือเมืองฮาร์ตฟอร์ด การย้ายเข้าไปในหุบเขาเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวทั่วไปออกจากอาณานิคมแมสซาชูเซตส์ ในช่วงทศวรรษที่ 1630 ประชากรในบอสตันและบอสตันก็หนาแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ผู้ตั้งถิ่นฐานเริ่มเคลื่อนตัวออกไปทางตอนใต้ของนิวอิงแลนด์โดยมุ่งเน้นที่หุบเขาแม่น้ำที่นำร่องเช่นคอนเนกติกัต
คนที่ได้รับเครดิตในฐานะผู้ก่อตั้งคอนเนตทิคัตคือ โธมัสเชื่องช้า ชาวอังกฤษคนหนึ่งและนักบวชเกิดในปีพศ. 1586 ณ เมือง Marfield ในเมืองเลสเตอร์ประเทศอังกฤษ เขาได้รับการศึกษาที่เคมบริดจ์ซึ่งเขาได้รับปริญญาตรีในปีพ. ศ. 1608 และปริญญาโทในปี ค.ศ. 1611 เขาเป็นหนึ่งในนักเทศน์ที่มีการเรียนรู้และมีอำนาจมากที่สุดแห่งหนึ่งของอังกฤษและอังกฤษและเป็นรัฐมนตรีแห่งเอเซอร์เซอร์เรย์ระหว่างปี ค.ศ. 1620-1625 และอาจารย์ ที่โบสถ์เซนต์แมรีที่ Chelmsford ในเอสเซ็กซ์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1625-1629 นอกจากนี้เขายังเป็นคนเคร่งครัดที่เคร่งครัดที่ถูกกำหนดเป้าหมายเพื่อปราบปรามโดยรัฐบาลอังกฤษภายใต้ชาร์ล I และถูกบังคับให้ลาออกจาก Chelmsford ใน 1629 เขาหนีไปฮอลแลนด์ที่เนรเทศอื่น ๆ ตั้งอยู่
ผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์อ่าวแรกจอห์นวิน ธ รัพเขียนให้เชื่องช้าเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เมื่อปีพศ. 2128 หรือ ค.ศ. 1629 ขอให้เขาเดินทางมายังรัฐแมสซาชูเซตส์และปีพ. ศ. 2176 (Hooker) เดินทางไปอเมริกาเหนือ ในเดือนตุลาคมเขาเป็นศิษยาภิบาลที่ Newton บน Charles River ในรัฐแมสซาชูเซตส์
เมื่อถึงเดือนพฤษภาคมปีพศ. z ปีพ. ศ. 2177 เชื่องช้าและการชุมนุมที่ Newtown ในเดือนพฤษภาคมปีพศ. 1636 พวกเขาได้รับอนุญาตให้เดินทางไปและได้รับค่าคอมมิชชั่นจากศาลมลรัฐแมสซาชูเซตส์ ภรรยาของเขาและการชุมนุมของเขาออกจากเมืองบอสตันและขับรถไปทางทิศใต้ 160 วัวตั้งเมืองแม่น้ำของฮาร์ตฟอร์ดวินด์เซอร์และ Wethersfield โดย 1637 มีเกือบ 800 คนในอาณานิคมใหม่ของคอนเนตทิคัต
การกำกับดูแลกิจการใหม่ในคอนเนตทิคัต ชาวแอฟริกันแห่งมลรัฐแมสซาชูเซตส์ได้ใช้รัฐแมสซาชูเซตส์ในการจัดตั้งรัฐบาลชุดแรก แต่ละทิ้งข้อกำหนดของแมสซาชูเซตส์ว่าสมาชิกของโบสถ์ที่ได้รับการอนุมัติอาจกลายเป็นคนอิสระที่มีสิทธิทางแพ่งและทางการเมืองภายใต้รัฐบาลเสรีรวมทั้งสิทธิ โหวต).
คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาในอาณานิคมของอเมริกาเป็นคนรับใช้หรือ "คอมมอน" ตามกฎหมายอังกฤษมันเป็นเพียงหลังจากที่ชายคนหนึ่งได้จ่ายเงินหรือทำสัญญาของเขาที่เขาสามารถใช้เพื่อเป็นสมาชิกของคริสตจักรและที่ดินของตัวเอง ใน Connecticut และอาณานิคมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายคนหนึ่งถูกผูกมัดหรือไม่ถ้าเขาเข้าไปในอาณานิคมเป็นคนอิสระเขาต้องรอระยะเวลาทดลอง 1-2 ปีในช่วงที่เขาได้รับการสังเกตอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าเขาเป็นคนเคร่งครัดที่เคร่งครัด . ถ้าเขาผ่านการทดสอบเขาอาจได้รับการยอมรับว่าเป็นฟรีแมน; ถ้าไม่เขาอาจถูกบังคับให้ออกจากอาณานิคม คนดังกล่าวอาจเป็น "พลเมืองที่ได้รับการยอมรับ" แต่สามารถลงคะแนนได้หลังจากที่ศาลได้รับการยอมรับให้เป็นอิสระ มีเพียง 229 คนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นอิสระในคอนเนตทิคัตระหว่างปี ค.ศ. 1639 และ ค.ศ. 1662 ...แทงหวยssslotto
0 notes
Text
ประวัติ รัฐโคโลราโด (Colorado)

รัฐโคโลราโด (Colorado) เป็นรัฐหนึ่งในอนุภูมิภาคตะวันตกภูเขาของภาคตะวันตกของสหรัฐ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเทือกเขาร็อกกีตอนใต้ ตลอดจนพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของที่ราบสูงโคโลราโดและขอบด้านตะวันตกของเกรตเพลนส์ โคโลราโดเป็นรัฐที่มีพื้นที่กว้างขวางเป็นอันดับที่ 8 และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 21 ของสหรัฐ สำนักสำมะโนสหรัฐประเมินจำนวนประชากรรัฐโคโลราโด ณ วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2022 ไว้ที่ 5,839,926 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.15 นับตั้งแต่การจัดทำสำมะโนประชากรเมื่อ ค.ศ. 2020
บริเวณรัฐโคโลราโดเป็นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองและบรรพชนของพวกเขามาเป็นเวลาอย่างน้อย 13,500 ปีและอาจนานกว่านั้นอีก ขอบด้านตะวันออกของเทือกเขาร็อกกีเป็นเส้นทางย้ายถิ่นที่สำคัญสำหรับกลุ่มชนยุคเริ่มแรกที่กระจายไปทั่วทวีปอเมริกา ใน ค.ศ. 1848 พื้นที่ส่วนใหญ่ในบริเวณนี้ถูกผนวกเข้ากับสหรัฐตามสนธิสัญญากัวดาลูเปอิดัลโก การตื่นทองที่ไพกส์พีกระหว่าง ค.ศ. 1858-1862 ส่งผลให้มีผู้หลั่งไหลเข้ามาตั้งถิ่นฐาน เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1861 ประธานาธิบดีเจมส์ บูแคนัน ลงนามในรัฐบัญญัติจัดตั้งดินแดนโคโลราโด
และเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1876 ประธานาธิบดียูลิสซีส เอส. แกรนต์ ลงนามใน "ประกาศ 230" รับโคโลราโดเข้าเป็นรัฐที่ 38 ชื่อรัฐมีที่มาจากคำคุณศัพท์ในภาษาสเปนว่า โกโลราโด (colorado) ซึ่งแปลว่า "แดง" สื่อถึงน้ำในแม่น้ำโคโลราโดที่มีสีออกแดงเนื่องจากมีตะกอนทรายแป้งปนอยู่มาก รัฐโคโลราโดมีชื่อเล่นว่า "รัฐร้อยปี" เพราะได้กลายเป็นรัฐในช่วงครบรอบ 1 ศตวรรษ (กับ 4 สัปดาห์) หลังการลงนามในคำประกาศอิสรภาพสหรัฐ
รัฐโคโลราโดมีอาณาเขตทางทิศตะวันตกติดต่อกับรัฐยูทาห์ ทิศเหนือติดต่อกับรัฐไวโอมิง ทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดต่อกับรัฐเนแบรสกา ทิศตะวันออกติดต่อกับรัฐแคนซัส ทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดต่อกับรัฐโอคลาโฮมา ทิศใต้ติดต่อกับรัฐนิวเม็กซิโก และทิศตะวันตกเฉียงใต้จรดรัฐแอริโซนาที่สี่มุม โคโลราโดขึ้นชื่อเรื่องภูมิประเทศที่มีทั้งป่าไม้ ภูเขา ภูเขายอดราบ หุบผาชัน ที่ราบสูง แม่น้ำ และทะเลทราย โคโลราโดเป็นหนึ่งในกลุ่มรัฐภูเขาและบ่อยครั้งได้รับการจัดอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ ในขณะที่บริเวณที่ราบสูงของโคโลราโดอาจถือเป็นส่วนหนึ่งของภาคตะวันตกกลางของสหรัฐ
เดนเวอร์เป็นเมืองหลวง เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุด และเป็นศูนย์กลางของแนวระเบียงเมืองฟรอนต์เรนจ์ ส่วนโคโลราโดสปริงส์เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 2 เศรษฐกิจส่วนใหญ่ของรัฐมาจากภาครัฐและกลาโหม การทำเหมืองแร่ การเกษตร การท่องเที่ยว และการผลิตประเภทอื่น ๆ ด้วยอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นและความเพียงพอของน้ำที่ลดลง คาดกันว่าเศรษฐกิจการเกษตร การป่าไม้ และการท่องเที่ยวของโคโลราโดจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ...หวยssslotto
1 note
·
View note
Text
ประวัติ รัฐแคลิฟอร์เนีย (California)

แคลิฟอร์เนีย (อังกฤษ: California) เป็นรัฐหนึ่งของสหรัฐที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตก ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก มีผู้อยู่อาศัย 39.5 ล้านคน พื้นที่ประมาณ 163,696 ตารางไมล์ (423,970 ตารางกิโลเมตร) ทำให้เป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดและมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของสหรัฐ
นอกจากนี้ ยังเป็นหน่วยการปกครองย่อยของประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 34 ของโลก เมืองหลวงของรัฐ คือ แซคราเมนโต นครที่มีประชากรมากที่สุดในรัฐ คือ ลอสแอนเจลิส ซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับสองของประเทศรองจากนครนิวยอร์ก เขตมหานครลอสแอนเจลิสและเขตพื้นที่รอบอ่าวซานฟรานซิสโกเป็นเขตเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 2 และ 5 ของประเทศ
โดยมีผู้อยู่อาศัยจำนวน 18.7 ล้านคน และ 9.7 ล้านคน ตามลำดับ รัฐแคลิฟอร์เนียยังมีเทศมณฑลที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศ ซึ่งก็คือ เทศมณฑลลอสแอนเจลิส และเทศมณฑลที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศ ซึ่งก็คือ เทศมณฑลแซนเบอร์นาร์ดีโน ในด้านความหนาแน่นของประชากร นครและเทศมณฑลซานฟรานซิสโกเป็นทั้งนครที่มีความหนาแน่นเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศรองจากนครนิวยอร์ก และเป็นทั้งเทศมณฑลที่มีความหนาแน่นเป็นอันดับที่ 5 ของประเทศ เป็นรองเพียง 4 เทศมณฑลจากทั้งหมด 5 เทศมณฑลของนครนิวยอร์ก
แคลิฟอร์เนียมีพรมแดนทางทิศเหนือติดกับรัฐออริกอน ทิศตะวันออกติดกับรัฐเนวาดากับรัฐแอริโซนา และทิศใต้ติดกับรัฐบาฮากาลิฟอร์เนียของประเทศเม็กซิโก แคลิฟอร์เนียมีสภาพภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ชายฝั่งแปซิฟิกทางตะวันตก ไปจนถึงเทือกเขาเซียร์ราเนวาดาทางตะวันออก และจากป่าสนเรดวู้ดและป่าสนดักลาสทางตะวันตกเฉียงเหนือ ไปจนถึงทะเลทรายโมฮาวีทางตะวันออกเฉียงใต้ แคลิฟอร์เนียมีเซ็นทรัลแวลลี (Central Valley)
เป็นพื้นที่เกษตรกรรมหลักซึ่งกินพื้นที่ทางตอนกลางของรัฐ แม้ว่าแคลิฟอร์เนียจะเป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนที่อบอุ่นและสภาพอากาศตามฤดูกาลของมรสุม แต่พื้นที่ขนาดใหญ่ของรัฐส่งผลให้สภาพอากาศมีความแตกต่าง ตั้งแต่ป่าไม่ผลัดใบเขตอบอุ่นทางตอนเหนือ ไปจนถึงทะเลทรายที่แห้งแล้งทางตอนในของรัฐ ตลอดจนภูมิอากาศแบบอัลไพน์ที่เต็มไปด้วยหิมะในเขตภูเขา เมื่อเวลาผ่านไป ภัยแล้งและไฟป่าเกิดบ่อยขึ้น ทำให้มีการเพิ่มความมั่นคงทางทรัพยากรน้ำของแคลิฟอร์เนียมากยิ่งขึ้น...หวยออนไลน์
0 notes
Text
ประวัติ รัฐอาร์คันซอ (Arkansas)

รัฐอาร์คันซอ (Arkansas) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศสหรัฐฯ มีพื้นที่ประมาณ 53,179 ตารางไมล์
หรือประมาณ 137,733 ตารางกิโลเมตร มีขนาดใหญ่เป็นอับดับที่ 29 ของประเทศ โซนเวลาอยู่ในเขต Central Time Zone ซึ่งจะช้ากว่าประเทศไทย 12 ชั่วโมงในช่วง ฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง หรือ 13 ชั่วโมงในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิเมืองส าคัญ 1. Little Rock: เป็นเมืองหลวงของรัฐฯ มีประชากร 193,324 คน 2. Bentonville: เป็นที่ตั้งส านักงานใหญ่ห้าง Wal-Mart และ Sam’s Club
มีประชากรประมาณ 2,959,373 คน (ปี 2556) เป็นอันดับที่ 32 จากทั้งหมด 50 รัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยประกอบไปด้วย White American ร้อยละ 74.0, Black or African American ร้อยละ 15.6, Hispanic ร้อยละ 6.2, Asian ร้อยละ 1.3, และ อื่นๆ ร้อยละ 2.9 มวลภัณฑ์ประชาชาติของรัฐ (Gross State Products: GSP) 115,745 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ/ปี (ปี 2556) เป็นอันดับที่ 34
รายได้ประชากรต่อหัวและต่อครัวเรือน 22,007 เหรียญสหรัฐฯ/ปี หรือ 40,531 เหรียญสหรัฐฯ/ครัวเรือน/ปี (ปี 2557) อัตราการว่างงาน ร้อยละ 6.6 (ปี 2557) อัตราค่าแรงขั้นต่ า 6.25 เหรียญสหรัฐฯ/ชั่วโมง (ปี 2557) ภาษีการค้า ร้อยละ 6.50 (ปี 2557) ระดับการศึกษา สัดส่วนประชากรอายุ 25 ปีขึ้นไปที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมีประมาณร้อยละ 83.3 ส าเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่าร้อยละ 19.8
การค้าระหว่างประเทศ
1.การส่งออกสินค้า: ส่งออกสินค้าเป็นมูลค่า 7,153ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2556 สินค้า
ส่งออกที่ส าคัญ ได้แก่ เครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและอาหารแปรรูป โลหะแปรรูป และ
เฟอร์นิเจอร์ และ มีตลาดส่งออกที่ส าคัญ ได้แก่ คานาดา (23.1%) เม็กซิโก (12.1%) จีน (9.5%) และ
ฝรั่งเศส (8.44%)
2.การน าเข้าสินค้า: น าเข้าสินค้าเป็นมูลค่า 7,619 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2556 สินค้าน าเข้า
ที่ส าคัญ ได้แก่อุปกรณ์การขนส่ง เครื่องจักรกลและชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ และ โลหะ
แปรรูป และมีแหล่งน าเข้าที่ส าคัญ คือ จีน (21.68%) ฝรั่งเศส (25.00%) คานาดา(13.21%) และ
เม็กซิโก (7.62%) ...แทงหวยออนไลน์
0 notes
Text
ประวัติ รัฐแอริโซนา (Arizona)

แอริโซนาเป็นรัฐที่ 48 และรัฐสุดท้ายในบรรดารัฐที่ติดกับรัฐอื่น ๆ ที่เข้าร่วมสหรัฐ โดยได้รับสถานะรัฐเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1912 ก่อนหน้านี้แอริโซนาเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนอัลตากาลิฟอร์เนียในนิวสเปน จากนั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งของเม็กซิโกซึ่งเป็นเอกราชใน ค.ศ. 1821 แต่หลังจากที่เม็กซิโกแพ้สงครามเม็กซิโก–สหรัฐใน ค.ศ. 1848 ทำให้ต้องเสียพื้นที่ส่วนนี้ให้แก่สหรัฐ รวมกับพื้นที่ส่วนหนึ่งที่สหรัฐได้มาจากการลงนามในสนธิสัญญาเมซิยาระหว่างเม็กซิโกกับสหรัฐใน ค.ศ. 1853 กลายเป็นพื้นที่ของรัฐแอริโซนาในปัจจุบัน
ภาคใต้ของแอริโซนาขึ้นชื่อเรื่องภูมิอากาศแบบทะเลทราย โดยมีฤดูร้อนที่ร้อนจัดและฤดูหนาวที่ไม่หนาวจัด ส่วนภาคเหนือของแอริโซนามีป่าสนและสปรูซ ที่ราบสูงโคโลราโด ภูเขา (เช่น ทิวเขาแซนแฟรนซิสโก) และหุบผาชันขนาดใหญ่ โดยมีอุณหภูมิปานกลางในฤดูร้อนและมีหิมะตกในฤดูหนาว มีสถานเล่นสกีในพื้นที่แฟลกสแตฟฟ์, ซันไรส์ และทูซอน นอกจากอุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอนซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติและเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกแล้ว แอริโซนายังมีป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ และอนุสรณ์สถานแห่งชาติอีกหลายแห่ง
จำนวนประชากรและเศรษฐกิจของแอริโซนาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1950 เนื่องจากการย้ายถิ่นเข้ามา และปัจจุบันรัฐนี้เป็นศูนย์กลางสำคัญแห่งหนึ่งในแถบแดนตะวัน พื้นที่ชานเมืองขนาดใหญ่ก่อตัวและแผ่ขยายออกไปนอกตัวนครต่าง ๆ อย่างฟีนิกซ์และทูซอน รัฐนี้เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น เพ็ตสมาร์ตและเซอร์เคิลเค รวมทั้งเป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่อย่างมหาวิทยาลัยแอริโซนาและมหาวิทยาลัยแอริโซนาสเตต แอริโซนายังเป็นที่รู้จักจากการเป็นถิ่นนักการเมืองสายอนุรักษนิยม เช่น แบร์รี โกลด์วอเตอร์ และจอห์น แมคเคน แม้ว่ารัฐนี้จะกลายเป็นรัฐแกว่งมาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1990 แล้วก็ตาม
แอริโซนาเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรที่มีความหลากหลาย พื้นที่ประมาณหนึ่งในสี่ของรัฐ ประกอบเป็นเขตสงวนอินเดียนซึ่งทำหน้าที่เป็นบ้านของกลุ่มชนพื้นเมือง 27 กลุ่มที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลกลาง รวมถึงชาตินาวาโฮซึ่งเป็นเขตสงวนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรัฐและสหรัฐ โดยมีพลเมืองมากกว่า 300,000 คน ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา สัดส่วนประชากรเชื้อสายฮิสแปนิกในรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการอพยพย้ายถิ่นเข้าจากเม็กซิโก ประชากรจำนวนหนึ่งของแอริโซนาเป็นสาวกของคริสตจักรโรมันคาทอลิกและศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย...แทงหวย
0 notes
Text
ประวัติ รัฐอะแลสกา (Alaska)

18 ตุลาคม ค.ศ. 1867 หรือเมื่อประมาณ 145 ปีที่แล้ว เป็นวันที่อะแลสกาของรัสเซียเข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของสหรัฐโดยสมบูรณ์ โดยในวันนั้น ที่เมือง โนวา - อาร์คานเกลสค์ เมืองหลวงอะแลสกาของรัสเซีย ที่ต่อมาถูกเปลี่ยนกลับมาใช้ชื่อเดิมคือ ซิทกา ได้มีพิธีส่งมอบคาบสมุทรแห่งนี้ให้กับสหรัฐ
ตามประวัติเชื่อว่าคนเชื้อสายเอเชียอพยพข้ามช่องแคบเบริง เข้ามาลงหลักปักฐานที่อะแลสการาวเมื่อ 1 หมื่น 2 พันปีก่อน การเข้าไปติดต่อกับคนที่นี่ของชาวยุโรป เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1741 เมื่อ วิตุส เบริง เดินทางไปที่นั่นกับเรือเซ็นต์ปีเตอร์ เพื่อทำการสำรวจให้กับกองทัพเรือรัสเซีย และเมื่อคณะสำรวจกลับออกมา ขนสัตว์จากที่นั่นก็ได้รับการยกย่องว่ามีคุณภาพดีเยี่ยม คณะนักค้าขนสัตว์เล็ก ๆ จึงเริ่มมาที่อะแลสกา โดยหลักฐานการตั้งหลักฐานของชาวยุโรปที่นี่ว่าเกิดขึ้นในปี 1784
ตั้งแต่ช่วงต้นจนถึงช่วงกลางทศวรรษที่ 1800 รัสเซียและสหรัฐเริ่มเข้ามาสำรวจอะแลสกาเพื่อโครงการขยายอาณานิคม แต่รัสเซียไม่เคยผนวกอะแลสกาเป็นอาณานิคมโดยสมบูรณ์ และก็ไม่ได้หาประโยชน์จากดินแดนแห่งนี้มากนัก ผิดกับฝ่ายสหรัฐที่ได้แสดงความสนใจในดินแดนแห่งนี้
ข้อตกลงเรื่องการขายอะแลสกา ลงนามโดยนายวิลเลียม เอช. ซูเวิร์ด รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเมื่อ 30 มีนาคม ค.ศ. 1867 ฝ่ายสหรัฐต้องจ่ายเป็นค่าดินแดนขนาด 1 ��้าน 5 แสนตารางกิโลเมตรเพียง 7 ล้าน 2 แสนดอลลาร์ หรือเทียบเท่ากับ 11 ล้านรูเบิลทองคำ
นักประวัติศาสตร์ในยุคปัจจุบันหลายคนตำหนิการตัดสินพระทัยของจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 2 แห่งรัสเซียว่ามองการณ์ใกล้และไม่รักชาติ เนื่องจากในพื้นที่มีประชากรชาวรัสเซียอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์อีกกลุ่มหนึ่งมองว่าในสมัยที่ตัดสินพระทัยขายนั้นมีชาวรัสเซียในพื้นที่อะแลสกาเพียงไม่กี่ร้อยคน และยังไม่มีการค้นพบทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ
ส่วนทางฝ่ายสหรัฐ หลายคนในยุคนั้นมองไม่เห็นประโยชน์ของการซื้ออะแลสกาซึ่งอยู่ห่างไกลและไม่มีผู้อยู่อาศัย สื่อมวลชนในยุคนั้นก็ล้อเลียนรัฐบาลว่าเสียเงินไปมากมายเพื่อซื้อก้อนน้ำแข็ง ถึงขั้นมีข่าวลือว่านักการทูตรัสเซียติดสินบนข้าราชการสหรัฐเดินเรื่องเพื่อให้มีการซื้อขาย เพิ่งจะปลายศตวรรษที่ 19 เท่านั้นที่เริ่มมีการค้นพบทองคำ ต่อมาก็ยังพบน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอีกมากมายมหาศาล
ตอนแรกเมื่อมาอยู่กับสหรัฐนั้น อะแลสกาอยู่ในการดูแลของกระทรวงการทหาร ต่อมาก็ถูกยกระดับสถานะเรื่อยมา จนได้เป็นรัฐที่ 49 ของสหรัฐ เมื่อปี 1959...หวย
0 notes
Text
ประวัติ รัฐแอละแบมา (Alabama)

รัฐแอละแบมา (อังกฤษ: Alabama) เป็นรัฐที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสหรัฐมีพื้นที่ทั้งหมด 135,775 ตารางกิโลเมตร และมีประชากร 4,447,100 คน ทางทิศเหนือของรัฐจรดรัฐเทนเนสซี ทิศตะวันออกจรดรัฐจอร์เจีย ทิศใต้จรดรัฐฟลอริดาและอ่าวเม็กซิโก และทิศตะวันตกจรดรัฐมิสซิสซิปปี รัฐแอละแบมาเป็นรัฐที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐเป็นอันดับที่ 30 และเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในสหรัฐเป็นอันดับที่ 24 สามารถเดินเรือได้ 1,500 ไมล์ (2,400 กิโลเมตร) โดยเป็นรัฐที่มีระยะทางที่สามารถเดินเรือได้มากที่สุดในสหรัฐ
แอละแบมา มีนามที่เรียกขานกันทั่วไปว่า รัฐเยลโลแฮมเมอร์ (Yellowhammer State) รัฐแอละแบมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "หัวใจของดิกซี" และ "รัฐฝ้าย" ต้นไม้ประจำรัฐคือไม้สน และมีดอกไม้ประจำรัฐคือดอกคาเมเลีย แอละแบมามีเมืองหลวงคือนครมอนต์กอเมอรี เมืองที่ประชากรและพื้นที่มากที่สุดคือฮันต์สวิลล์ และเมืองที่เก่าแก่ที่สุดคือเมืองโมบีล สร้างขึ้นโดยอาณานิคมฝรั่งเศสใน พ.ศ. 2245 โดยถือเป็นเมืองหลวงของลุยเซียนา

นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองอเมริกาจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่สอง แอละแบมา ซึ่งเป็นรัฐทางภาคใต้ของสหรัฐ ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ เนื่องจากยังต้องพึ่งพาทางการ���กษตรอย่างต่อเนื่อง รัฐสภาแอละแบมาได้ประกาศใช้กฎหมายจิมโครว์ ในการแบ่งแยกกับชาวแอฟริกันอเมริกันตั้งแต่ช่วงยุคฟื้นฟูจนถึงช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แอละแบมาเริ่มมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ จากเดิมที่เน้นการเกษตรให้เป็นเศรษฐกิจที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยในคริสต์ศตวรรษที่ 21 แอละแบมามีเศรษฐกิจหลัก เช่น ยานยนต์ การธนาคาร การแพทย์ เป็นต้น...ลุ้นหวย
0 notes
Text
ไข่มุกเมโล อัญมณีล้ำค่าแห่งท้องทะเล

ไข่มุกเมโล (Melo Pearl) อีกชื่อหนึ่ง คือ มุกหอยโข่งทะเล หรือมุกสังข์ทะนาน เป็นไข่มุกธรรมชาติที่เกิดขึ้นในหอยโข่งทะเล และหอยสังข์ เนื่องจากไข่มุกเมโล เป็นไข่มุกเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเท่านั้น จากหอยสังข์ทะนาน เพียง 1 ในหลายพันตัว ที่จะพบไข่มุกที่มีคุณภาพระดับที่นับเป็นเป็นอัญมณีได้ และโอกาสที่จะเจอไข่มุกมีเฉดสีส้มที่สมบูรณ์แบบก็ยิ่งน้อย ในประเทศไทย หอยชนิดนี้จะพบมากทางภาคใต้ ชาวบ้านหรือชาวประมงจะจับหอยชนิดนี้มารับประทานเป็นอาหาร และถ้าโชคดีอาจจะพบไข่มุกเมโลในเนื้อของหอย นอกจากนี้ยังนำไปเป็นอาหารใช้เลี้ยงหอยมุกซีกในฟาร์มไข่มุกที่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดพังงา
ลักษณะเฉพาะ ไข่มุกเมโล (melo pearl) ไข่มุกเมโล ขึ้นชื่อเรื่องความมันวาวที่เรียบเนียน ดูนุ่มนวลราวกับกระเบื้องเคลือบ มีลวดลายบนผิวตามธรรมชาติคล้ายเปลวไฟ (Flame Structure) ที่สวยงามและมีสีสันที่โดดเด่นแปลกตาเป็นเอกลักษณ์ ด้วยความหายากและมูลค่าที่สูงล้ำของไข่มุกเมโล จึงทำให้เป็นไข่มุกอีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก และมีราคาสูงลิบลิ่วในตลาดอัญมณี
โดยไข่มุกเมโลมีความแข็งกว่าไข่มุกทั่วไป คือมีค่าความแข็งเท่ากับ 2.5 – 4 ตามสเกลของโมส์ ซึ่งทำให้มุกชนิดนี้เป็นอัญมณีที่มีความทนทาน ซึ่งไข่มุกทั่วไปส่วนใหญ่มีหน่วยวัดขนาดเป็นมิลลิเมตร แต่ไข่มุกเมโลนั้นจะมีหน่วยวัดน้ำหนักเป็นกะรัตเหมือนกับเพชร และสามารถอยู่ได้นานมากกว่า 5 ปี หากได้รับดูแลอย่างสม่ำเสมอ
อีกหนึ่งในคุณสมบัติที่น่าสนใจที่สุดของไข่มุกเมโล นั่นก็คือ “เปลวไฟ” ที่เปล่งประกายบนผิวอันเป็นเอกลักษณ์ของ ไข่มุกเมโล มีลักษณะเหมือนกับริ้วของเปลวไฟเป็นคลื่นไปทั่ว���ื้นผิวของไข่มุก ซึ่งขนาด ระดับความอิ่มตัวของสี และความลึกของ “เปลวไฟ” นั้นจะขึ้นอยู่กับอายุของหอยด้วย และเมื่อมองบางมุมอาจจะสังเกตเห็นเอฟเฟกต์ตาแมว (Chatoyancy) ซึ่งยิ่งถ้ามีเปลวไฟที่เข้มและชัดเจนมากเท่าไร ไข่มุกเมโลก็จะมียิ่งมีค่าและมีราคาแพงมากขึ้นเท่านั้น

ไข่มุกเมโล (melo pearl) มีมูลค่าเท่าไหร่?
ด้วยความหายากของมุกชนิดนี้ จึงไม่มีมาตรฐานในการประเมินราคาจากคุณภาพของไข่มุก โดยประเมินได้จากรูปร่าง สี ความวาว และน้ำหนัก สำหรับมูลค่าของไข่มุกเมลโลต่อกะรัตสูงถึง 6,000 ถึง 17,000 เหรียญสหรัฐ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของไข่มุก
โดยไข่มุกเมโลคุณภาพดีเยี่ยมที่ยังไม่ได้ประกอบตัวเรือนจะมีมูลค่ากว่า 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ไข่มุกเมโลที่ได้รับการประกอบตัวเรือนแล้วจะมีมูลค่ามากกว่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยตก เม็ดละ 6 – 7.5 ล้านบาท โดยทั่วไปแล้วไข่มุกเมโลมักจะถูกซื้อโดยนักสะสม เนื่องจากเป็นไข่มุกที่มาจากธรรมชาติ มีความหายากระดับแรร์ไอเทมทำให้มีราคาสูงกว่าอัญมณีอื่นๆ หลายเท่าตัว ราคาอาจพุ่งขึ้นสูงทะลุ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเม็ด หรือราวเม็ดละ 15 ล้านบาท เลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าหอยนางรมและหอยแมลงภู่สามารถเพาะเลี้ยงและบังคับให้ทำไข่มุกได้ แต่ไข่มุกเมโลยังไม่ได้มีการเพาะเลี้ยงอย่างประสบผลสำเร็จ ซึ่งหมายความว่าไข่มุกเมโลทุกตัวที่พบนั้นมาจากธรรมชาติ ไม่มีการแทรกแซงของมนุษย์ สิ่งนี้จึงทำให้ไข่มุกเมโล มีมูลค่าเป็นที่ต้องการมากขึ้น หากคุณโชคดีพอที่จะเป็นเจ้าของไข่มุกเมโล ให้คุณลองสังเกตสีสัน ขนาด และลวดลายของเปลวไฟอันน่าทึ่ง มันอาจทำให้คุณหลงไหลจนไม่อยากจะปล่อยขายให้ใครเลยก็ได้…หวยลาว
0 notes
Text
จะรู้ได้อย่างไรว่า พฤติกรรมแบบไหนเข้าข่าย BFRBs

จุดสำคัญที่แนะนำให้สังเกตก็คือ บริเวณร่างกายและอวัยวะที่มักจะเกิดพฤติกรรมย้ำทำ ซึ่งบ่งชี้ถึงอาการ BFRBs ได้ โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
(1) ผิวหนัง: จิก แกะ บีบ เกาผิวหนังตำแหน่งเดิม ติดต่อกันเป็นเวลานานนับเดือนหรือนับปี จนผิวถลอกเป็นแผลตกสะเก็ดเรื้อรัง มักเกิดขึ้นเฉพาะจุดที่มีสิว ตุ่ม ผื่น หรือหนังด้าน เช่น ใบหน้า แผ่นหลัง ปาก แขน ขา ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และหนังศีรษะ ทางการแพทย์เรียกอาการนี้ว่า โรคแกะผิวหนัง (Excoriation Disorder, Dermatillomania, Skin Picking Disorder) เป็นโรคที่พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
(2) ขน: ดึงและถอนขนตามส่วนต่างๆ ทั่วร่างกายซ้ำๆ ทำให้ขนบริเวณนั้นบางลงหรือแหว่งเป็นหย่อมโดยเฉพาะเส้นผม ซึ่งเป็นจุดที่เกิดขึ้นบ่อยกว่าตำแหน่งอื่น ช่วงอายุที่โรคดึงผมตัวเอง (Trichotillomania, Hair Pulling Disorder) มักจะเริ่มแสดงอาการให้เห็น คือ วัยรุ่น บางคนอาจใช้กรรไกร มีดโกน หรือปัตตาเลี่ยนตัดและเล็มผมจนสั้นเกรียน (Trichotemnomania)
(3) นิ้วมือและเล็บ: พฤติกรรมกัดเล็บและขบนิ้ว (Onychophagia, Nail Biting) ในผู้ใหญ่ส่วนมากเป็นอาการต่อเนื่องที่แก้ไม่หายตั้งแต่เด็ก มักจะเกิดร่วมกับอาการอื่นๆ อย่างนอนกัดฟัน (Bruxism) บางรายรุนแรงถึงขั้นแทะผิวรอบเล็บและมือ (Dermatophagia) จนฉีกขาดและมีเลือดออก

(4) ปาก: พฤติกรรมกัดกระพุ้งแก้ม (Morsicatio Buccarum, Cheek Biting, Cheek Chewing) กัดเคี้ยวลิ้น (Tongue Chewing) และกัดริมฝีปากด้านใน (Morsicatio Labiorum) ต่างจากพฤติกรรมลอกริมฝีปากแห้งแตกและกัดริมฝีปากด้านนอก (Lip Bite Keratosis) ตรงที่ ตำแหน่งของแผล เพราะแผลร้อนในหลบซ่อนอยู่ภายในช่องปาก จึงสังเกตได้ยากกว่า
(5) จมูก: ไชและแคะจมูก (Rhinotillexomania, Compulsive Nose Picking) พฤติกรรมนี้ไม่ได้เกิดขึ้นตอนที่มีขี้มูกติดค้างอยู่ภายในรูจมูกเท่านั้น แม้รูจมูกจะสะอาดดี ไม่มีทั้งขี้มูกและน้ำมูก ก็ห้ามตัวเองไม่ได้ ต้องล้วงแคะรูจมูกเพื่อความสบายใจ กลายเป็นสร้างความระคายเคืองให้เยื่อบุรูจมูกโดยใช่เหตุ
(6) ตา: จะส่องกระจกทุกครั้งที่รู้สึกระคายตา พอเห็นว่ามีขี้ตาลักษณะยาวเป็นเส้นสีขาวขุ่นอมเหลืองติดอยู่ตัวตา จึงใช้นิ้วเปล่าหรือคอตตอนบัดพยายามเขี่ยออกมา เป็นอาการของพฤติกรรมเขี่ยเมือกในตา (Mucus Fishing Syndrome) หลังจากได้ทำก็รู้สึกว่าสบายตาขึ้นมาก แต่หารู้ไม่ว่า จะยิ่งทำให้ตาผลิตเมือกเพื่อป้องกันสิ่งสกปรก และเพิ่มความเสี่ยงทำให้ตาแห้งและติดเชื้อได้

จิตแพทย์และนักจิตวิทยาคลินิกเคยเชื่อว่า BFRBs หรือ พฤติกรรมย้ำทำ เป็นอาการของกลุ่มโรควิตกกังวล พฤติกรรมหุนหันพลันแล่น ขาดความยับยั้งชั่งใจ คล้ายกับคนที่เสพติดอะไรบางอย่าง เช่น การพนัน และโรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive Disorder) ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า คนที่มีพฤติกรรมย้ำทำเท่ากับเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำเสมอ ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะปัจจุบัน แต่ละโรคมีเกณฑ์วินิจฉัยเป็นของตัวเอง แม้จะมีลักษณะอาการคล้ายคลึงกันไปบ้าง แต่ไม่นับว่าเป็นโรคเดียวกัน
ในหมู่คนที่รู้ตัวเองว่ามีพฤติกรรมย้ำทำ พวกเขาจะพยายามลด ละ เลิกพฤติกรรมเหล่านั้นเองก่อน แต่มักไม่สำเร็จ เพราะทุกครั้งที่เครียดหรือกังวล จะย้อยนึกถึงแต่ความรู้สึกดีเมื่อได้แคะ แกะ เการ่างกาย จนเกิดเป็นความโหยหา แล้วกลับมาทำพฤติกรรมเดิม ซึ่งเป็นผลจากการเรียนรู้วางเงื่อนไขพฤติกรรมของสมองด้วย เมื่อทำแล้วรู้สึกคลายเครียด ยิ่งเครียดก็จะยิ่งทำ หากไม่ทำจะยิ่งเครียดนั่นเอง…หวยลาว
2 notes
·
View notes
Text
พฤติกรรมย้ำทำ กัดเล็บ ถอนผม แกะปากเฉพาะตอนเผลอ บอกถึงอะไร

เคยเป็นไหม? ขณะทำอะไรสักอย่างอยู่เพลินๆ เพลินถึงขนาดที่ไม่ทันรู้ตัวว่า กำลังนั่งกัดเล็บ แกะริมฝีปาก ถอนขนจมูก หรือดึงเส้นผมตัวเองมาได้พักใหญ่ กว่าจะรู้สึกตัวอีกที ตรงหน้าก็มีผมร่วงเป็นกอง ปากแตกจนเลือดซึมออกมา หรือไม่ก็ฟันกำลังขบเล็บจนสั้นทู่แล้ว
ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ เพราะไม่ถูกสุขลักษณะ เป็นภาพไม่น่ามองที่ใครเห็นแล้วต้องเบือนหน้าหนี แถมยังทำให้ร่างกายเสี่ยงบาดเจ็บเป็นแผลบานปลาย แต่ทุกครั้งที่เผอเรอ ตัวเราย่อมหักห้ามใจไม่ไหว ต้องยื่นมือไปล้วง แคะ แกะ เกา ดึง ถอน ขูด หรือจิกส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยเฉพาะส่วนเกินที่เห็นแล้วรู้สึกว่าไม่เรียบร้อย ไม่เข้าที่เข้าทาง และไม่ใช่สิ่งที่ควรจะปล่อยให้ค้างคาอยู่บนร่างกายต่อไป อย่างเล็บที่ยาว ขนที่ยื่นโผล่พ้นรูจมูก ริมฝีปากที่แห้งเป็นแผ่นแข็ง ผิวหนังโคนเล็บที่หลุดลอกเป็นเส้น รวมถึงผมหงอก ผมคัน และผมแตกปลาย
ราวกับว่า หากตาสังเกตเห็น แล้วเกิดเป็นความรู้สึกรำคาญจนรบกวนใจเมื่อไหร่ มือและนิ้วจะอยู่ไม่สุขเมื่อนั้น ต้องขยับไปทำอะไรสักอย่างเพื่อกำจัดทันที บางคนอาจมือไวกว่าที่คิด ต่อให้บนร่างกายไม่มีส่วนเกินที่ว่ามาเลย หรือไม่จำเป็นต้องมองเห็นชัดเจนก่อนด้วยซ้ำ แต่มือมันไปของมันเองเหมืองตั้งโปรแกรมอัตโนมัติไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากความเคยชิน

ในทางจิตวิทยา เรียกอาการเหล่านี้รวมกันว่า Body-Focused Repetitive Behaviors หรือ BFRBs ปัจจุบัน ยังไม่มีศัพท์บัญญัติเป็นภาษาไทย ผู้เขียนขอเสนอให้เรียกด้วยคำที่เข้าใจง่ายว่า พฤติกรรมย้ำทำ(กับร่างกาย) เพราะสื่อถึงลักษณะเด่นของอาการได้ครบความ นั่นคือ พฤติกรรมใดก็ตามที่คนเรามักจะทำซ้ำๆ กับเนื้อตัวและอวัยวะบนร่างกาย แม้จะดูไม่งามในสายตาผู้อื่นแค่ไหน แต่คนส่วนใหญ่ที่มีพฤติกรรมนี้ กลับเข้าใจว่าเป็นวิธีดูแลตัวเองแบบลวกๆ ที่ใครก็ทำกัน
เมื่อทำบ่อยจนติดเป็นพฤติกรรมเคยตัว คนแรกๆ ที่มักจะมองเห็นอากัปกิริยาล้วง แคะ แกะ เกาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย จึงเป็นคนรอบข้างที่อยู่ใกล้ชิด ซึ่งในตอนนั้นพวกเขาอาจไม่ได้สนใจหรือยังไม่รู้ว่าเป็นอาการของ BFRBs เพราะตีความภาพที่เห็นตรงหน้าว่าเป็นพฤติกรรมมักง่ายที่ไม่ควรปล่อยผ่านไปโดยไม่ทักท้วงมากกว่า
ถึงอย่างนั้น แค่คำพูดเชิงตำหนิจากคนใกล้ตัวที่ต้องการห้ามปรามให้หยุดทำ เพราะไม่อยากให้เสียบุคลิกและเกรงว่าจะเกิดปัญหาเลยเถิดในภายหลัง ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผล ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดพฤติกรรมย้ำทำ มีต้นตอมาจากความเครียดและความคับข้องที่สั่งสมอยู่ภายในใจ ซึ่งเจ้าตัวรู้สึกว่ายังสะสางหรือจัดการไม่ได้ในทันที เพื่อระบายความอัดอั้นให้ผ่อนคลายลงไปบ้าง จึงเลือกแสดงออกด้วยพฤติกรรมจัดระเบียบร่างกายตัวเองอย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจใดๆ แทน
หนทางเดียวที่จะช่วยรักษาพฤติกรรมย้ำทำให้หายขาด คือ เข้ารับการบำบัดและวางแผนเรื่องการปรับพฤติกรรมกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลินิก ร่วมกับการให้ยาคลายกังวลในบางรายซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์…หวยลาว
0 notes