Photo
Request "best friends forever layhan" "barista Lu Han working on a cafeteria and collage student SeHun visiting the place regularly only to see him" "xiuminとchenが助けあってるようなところ" "baekyeol"
Happy birthday healing unicorn~
1K notes
·
View notes
Photo
here hyung, let me blow that sweating armpit of yours
4K notes
·
View notes
Text
[แก้บน] Untitled (CHEN x LAY) ♥

......................
"อ๋า..." จงแดยืนมึนอยู่หน้าโถส้วมกำลังสบายอกสบายใจที่เสร็จธุระเบาของตัวเองต้อง ชะงักเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังออกมาจากโซนส่วนห้องน้ำที่อยู่ถัดไป ดวงตาเรียวชี้หันขวับไปทางเสียงที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ด้วยความตกอกตกใจ
ในอ่างจากุชชี่สีขาวสะอาดมีร่างๆ หนึ่งนอนเอกเขนกอยู่ในนั้น!
ที่สำคัญดวงตากลมโตคู่นั้นกำลังจ้องมาที่เขาเสียด้วย
"ย๊า! อี้ชิงฮยอง!" จงแดรีบยกมือกั้นสายตาตัวเองให้พ้นจากภาพน่าหวาดเสียวตรงหน้าเมื่อจางอี้ชิง ยันตัวขึ้นมาเท้าขอบอ่างโชว์ผิวขาวนวลตลอดตัวถึงช่วงเอวสู่สายตา "ทำอะไรของฮยองเนี่ย"
"ทำ อะไร? ก็อาบน้ำน่ะสิ" ตอบหน้าตายแล้วก็ทำท่าจะไม่สนใจคนที่ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นซะด้วย แถมยังขำขันกับการอายผิดที่ของเจ้าเมนว๊อยซ์ตัวเล็ก ข้างล่างนั่นควรจะรีบปกปิดซะก่อนไม่ใช่หรือ "จงแดนั่นแหละเข้ามาทำอะไร"
"ผม แค่มาเข้าห้องน้ำ... แล้วทำไมฮยองไม่ล็อคประตูเนี่ยโถ่..." จงแดที่ยังหลับตาปี๋บ่นหงุงหงิงยังไม่ทันลดมือลงก็ได้ยินเสียงซ่าคล้ายคน ขึ้นจากน้ำกับเสียงฝีเท้าเปาะแปะย่ำมาตามพื้นกระเบื้องสีขาว เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงลุกออกมาจากอ่าง คิดอย่างนั้นก็เสตามองต่ำไม่กล้ามองเหนือขึ้นมาจากพื้น นั่นแหละ เขาถึงตระหนักว่าตัวเองยังไม่ได้สวมกางเกงให้เรียบร้อย
และอะไรบางอย่างมันก็ชักจะตื่นซะแล้วด้วยสิ
"อื้อ ฮืมมมมม ก็ใครจะไปรู้ว่าจะตื่น... ขึ้นมาตอนนี้ ตอนพี่กลับมาปลุกกี่ทีก็ไม่ตื่นนี่" คนตัวขาวที่พาหยดน้ำมากมายตามร่างกายมาด้วยหยุดยืนอยู่หน้าจงแด เรียกว่าหยุดยืนก็ไม่ถูก เรียกว่านั่งยองๆ จ้องบางสิ่งบางอย่างที่เริ่มขยับขยายของเขาคงเหมาะกว่า เขาพูดด้วยคำแสลงแบบที่เจ้าเด็กแสบโอเซฮุนชอบสอนให้เมมเบอร์ใช้แล้วขำคิก แต่คงฟังนี่สิเห่อร้อนไปถึงใบหู "พอตื่นแล้วจงแดน้อยก็ฟิตปั๋ง"
"ทำไม พี่ไม่นุ่งผ้าออกมาดีๆ เล่า" จงแดบ่นกระเง้ากระงอด ริมฝีปากเบะเป็นเป็ดตอนนี้ไม่มีประโยชน์แล้วที่จะกั้นสายตาในเมื่อจางอี้ชิง มานั่งเปลือยคู้เข่าอยู่ใต้ร่างแบบนี้ พี่คนนี้ชอบแกล้งน้องๆ ให้เขิน ถามว่าเขินไหมก็เขิน แต่สมัยที่อยู่รวมกัน 12 คน จะแก้ผ้าเดินในห้องบ้างยังมีคนเคยทำมาแล้ว เพราะฉะนั้นวิธีที่จะทำให้จางอี้ชิงเบื่อและหยุดแกล้งคือต้องทำเป็นไม่สะทก สะท้าน จงแดปรับสีหน้าให้เป็นปกติทำทีเหนื่อยหน่ายเสียเต็มประดาวาดมือลงเตรียมจะ จัดการเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อยแต่ต้องชะงักเมื่อสัมผัสนิ่มที่ข้อมือ เรียกร้องให้เขาหยุด "ท่าทางอึดอัดนะ ให้ช่วยป่ะ?"
"ฮยอง... ไม่ตลก" จงแดปัดมือนั้นออกเบือนสายตาหลบไหล่มนสีน้ำนมกับแผ่นหลังขาวเนียนเรื่อยยาว ไปจนถึงสะโพกของอีกคน จัดการเสื้อผ้าตัวเองเรียบร้อยหมายมาดจะเดินออกไปยึดห้องนอนเป็นปราการ จัดการตัวเองแต่ก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อจู่ๆ คนตัวขาวก็หยิบที่ฉีดน้ำชำระมาฉีดใส่เขาเต็มที่ "เฮ้ย เปียกหมดแล้วฮยอง"
"ช่า ย ช่าย เปียกหมดแล้ว" จางอี้ชิงยิ้มกว้างลักยิ้มเต็มแก้ม ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะโถมร่างกายเปลือยเปล่าเข้าสู่อ้อมกอดของรุ่น น้องที่ตัวเล็กกว่าเขานิดหน่อยแต่ร่างกายกลับแน่นตึงน่าหลงไหล อี้ชิงมองเสื้อนอนสีเข้มที่ลู่ไปตามร่างกายแข็งแรงสมส่วนแล้วเผลอแลบลิ้น เลียริมฝีปาก แต่ทุกอย่างตกอยู่ในสายตาของจงแดอย่างแน่นอน ความแข็งขืนเบื้องล่างจึงยิ่งชัดเจนเมื่อถูกยั่วยวนในระยะใกล้ขนาดนี้ "เพราะงั้นมาอาบน้ำด้วยกันเถอะจงแดอ่า"
จงแดขอยืนยันคำเดิม จางอี้ชิงนิสัยไม่ดี
เอาแต่ใจกว่ารูปลักษณ์อ่อนหวานที่เห็นภายนอกมากนัก
ใช้รอยยิ้มใสซื่อแบบนั้นแล้วจะขัดใจคนตรงหน้าได้ยังไงเล่า
เมื่อ เสื้อนอนสีเข้มถูกโยนทิ้งไว้อย่างไม่ใยดี ในตอนที่เท้าทั้ง 2 คู่กำลังก้าวกลับเข้าไปในอ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่กางเกงนอนของจงแดก็ถูกปลดออก ตามไปด้วย
จาง อี้ชิงบิดเร่าอยู่ใต้ร่างแข็งแรง ถ้าให้พูดจริงๆ หุ่นทั้ง 2 คนก็พอๆ กันนั่นแหละ ติดตรงที่จางอี้ชิงขาวนวลเนียนไปทั้งตัว บางจุดก็นุ่มหยุ่นน่าสัมผัสเสียงจนจงแดอดที่จะส่งมือไปลูบไล้ไม่ได้ เสียงครางหวานหวิวดังสะท้อนในห้องน้ำกว้างจงแดยิ่งได้ใจรุกไล้ซุกไซร้ไม่ ห่าง
จูบ ที่หนึ่งเริ่มเมื่อ��อนที่อี้ชิงจัดท่าทางนั่งของตัวเองเรียบร้อย เรียวขาขาวขึ้นคร่อมรัดรอบเอวสอบของจงแดสะโพกมนบดคลึงอยู่กับหน้าขา จงแดสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ร้อนแรงและกำลังตื่นตัวเต็มที่ถูไถอยู่ที่หน้า ท้องของเขา พอลดมือลงไปสัมผัสจางอี้ชิงก็ผวาแขนโอบรอบคอบังคับให้จงแดมอบจูบกลบเสียง ครวญครางน่าอายไปเสียสิ้น
"อ้า ขาออกสิฮยอง เขยิบเข้ามาอีก" จงแดย่ามใจ คนบนตักก็ทำตาม จริงๆ ออกจะงงอยู่ซักหน่อยที่จู่ๆ อี้ชิงก็จู่โจมเข้ามาแบบนี้ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นคนที่เริ่มห่างจากเขาไปก่อน แท้ๆ แต่จงแดจะถือว่าเป็นโอกาสที่เขาจะได้ใกล้ชิดคนตรงหน้าซักครั้งก่อนจะตัดใจ เสียก็แล้วกัน
แกน กายร้อนเสียดสีกันไปมาใต้น้ำอุ่นที่หมุนวนช้าๆ อี้ชิงสบตาจงแดด้วยความหวามไหว จงแดไม่เข้าใจแววตานั้นหรอก เขาไม่เข้าใจเลยตั้งแต่ที่จู่ๆ อี้ชิงก็ตีตัวห่างทั้งที่เหมือนอีกฝ่ายก็ดูจะมีใจ หวงแหนและเอ็นดูเขาอยู่ไม่น้อย
เขาน้อยใจพี่ชายจากแผ่นดินใหญ่ที่สนใจคนอื่นมากกว่า
น้อย ใจแต่ก็รู้ว่าตัวเองไม่ใช่น้องคนโปรดอย่างโอเซฮุนหรือบยอนแบคฮยอนเพราะ ฉะนั้นเขาก็ได้แค่ทำตัวเป็นน้องที่ดีเสมอมา ไม่ถามไถ่ ไม่ตามติดมากเกินไปในตอนที่พี่อี้ชิงเริ่มเว้นช่องว่าง
ถึงจะอยากตามไปถามให้รู้เรื่องแค่ไหนก็เถอะ
เพราะงั้นจู่ๆ วันนี้โอกาสมาถึงจงแดจะขอคว้าไว้เพื่อตัวเองบ้างไม่ได้หรือ
"จะ... จงแด..." เสียงผะแผ่วที่กระซิบข้างหูทำให้จงแดตอบรับในลำคอ มือหนารวบรั้งเอวสอบเข้ามาแนบชิดยิ่งขึ้น "อ่า...ดี...จัง"
"ยัง ดีได้มากกว่านี้อีกนะฮยอง" อี้ชิงผละออกมาสบตาคมชี้ด้วยสายตาปรือปรอย ดวงตาฉ่ำอย่างลูกกระต่ายน้อยจ้องมองคนที่เพิ่งหยุดมือจากกิจด้านล่างยกช้อน ตัวเขาขึ้นให้เขาชันพื้นอ่าง น้ำในอ่างกระฉอกออกไปมากแล้ว พอถูกจัดให้อยู่ในท่วงท่าหน้าอายจางอี้ชิงที่กำลังมัวเมากับสัมผัสปรนเปรอก็ หน้าแดงก่ำ "อยากให้มันดีสุดๆ ไปเลยไหม"
คนตัวขาวพยักหน้ากับขอบอ่าง
"รู้ใช่ไหมว่าผมจะทำอะไร"
นิ้ว เรียวยาวบีบเฟ้นไปตามสะโพกขาว ขยำแก้มก้นเนียนจนแดงเป็นรอยมือด้วยความหมั่นเขี้ยว นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้า���แหวกเนื้อนิ่มให้เขาเห็นช่องทางสีหวานที่กำลังขมิบ เป็นจังหวะต่อหน้าเขา จงแดแกล้งขยับนิ้วเข้าไปใกล้แทรกแตะเข้าไปเล็กน้อยแล้วถอดถอนออกมา
"ตอบผมสิ... ผมขอได้หรือเปล่า?"
จาง อี้ชิงนิ่งไป จริงๆ คนแก่กว่านึกอยากจะถีบเจ้าเด็กปากเป็ดที่ยกตัวขึ้นมาซ้อนหลังเขาให้กระเด็น ตกอ่างไปซะโทษทานต้อนจนเขาต้องขวยเขินขนาดนี้
ถ้ายั่วขนาดนี้แล้วไม่ให้มันจะทรมานตัวเองเกินไปไหมเล่า?
จง แดเห็นข้อขาวขึ้นตามเรียวนิ้วสวยที่เกาะขอบอ่าง เขาจูบแตะที่แผ่นหลังเนียนเหมือนปลอบประโลม กระซิบถ้อยคำหวานเมื่อค้ำตัวเหนือกระต่ายขาวที่สั่นระริกอยู่ใต้ร่างของเขา
"ตกลงนะครับ?"
ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา
นอกจากเรือนผมสีดำเข้มที่ไหวตามแรกพยักหน้าของเจ้าของเท่านั้น
"อ๊ะ ชะ... ช้าหน่อย จะ จงแด อ๊า!" อี้ชิงหวีดร้องเมื่อจงแดกระแทกกระทั้นเข้าใส่เขาไม่ยั้ง ตอนนี้ทั้งคู่ไม่ได้นั่งๆ นอนๆ อยู่ในอ่างน้ำวนอีกแล้ว จงแดซ้อนตัวอี้ชิงให้ยืนขึ้น มือขาวย้ายจากขอบเซรามิกมาเท้าอยู่ที่ผนังกระเบื้องแทน โก่งโค้งเสียจนใบหน้าหวานแนบกับผนังเย็น ช่องทางด้านหลังที่เขาออกปากอนุญาตให้คนที่กำลังจาบจ้วงร่างกายเขาอยู่ รุกล้ำยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดี
" อ่า เยี่ยมไปเลย ฮยอง ... อ่ะ" จงแดไม่ลงความเร็วลง มือที่จับเอวคอดเลื่อนมาจับตรงข้างสะโพกสวยยันไว้แล้วถอดถอนตัวออกจนเกือบ หมดจากนั้นก็สวนกายกลับเข้าไปจนหน้าขากระทบกันเสียงดัง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จงแดใส่แรงไม่ยั้งใส่คนตรงหน้า
มันคงเป็นความรู้สึกอัดอั้นที่เป็นมาตลอดตั้งแต่สมัยที่จางอี้ชิงยังมองแต่เขาเพียงคนเดียวและไม่ได้สนใจใครอื่นตามกระแสสังคม
"อือ ออออ จงแด... ยะ... ย๊า" อี้ชิงครางไม่ได้ศัพท์เมื่อมือหนากอบกุมแกนกายของเขาเอาไว้ ลำพังแรงจะค้ำก็ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว ยิ่งมาถูกปลุกปั่นทั้งหน้าทั้งหลังแบบนี้แขนขายิ่งอ่อนแรงไปหมด "ยะ... ยืน ไม่ไหว อ๊ะ อ๊ะ ฮื่ออออ"
"แค่ ยืนใช่ไหมที่ไม่ไหว?" เสียงนุ่มกระซิบแหบพร่าเพราะแรงอารมณ์ ปกติจงแดไม่ค่อยพูดไม่สุภาพหรอก แต่อี้ชิงเข้าใจอารมณ์ในเวลานี้คงไม่มีใครอยากจะพูดอะไรให้มากความ พอจงแดถอนตัวออกอี้ชิงก็หันตัวกลับมากอดคอเมมเบอร์ที่อายุน้อยกว่าตนเกือบปี อย่างพอใจ จงแดช้อนร่างรุ่นพี่ตัวขาวขึ้นในท่าเจ้าสาว มันขลุกขลักเพราะพื้นห้องน้ำเปียกลื่นแต่สุดท้ายก็มั่นคง "งั้นย้ายที่กัน"
อี้ชิงทอดสายตามองสันกรามคมกับแนวลาดไหล่ที่แข็งแรงเกินกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มากโขอยู่พักใหญ่
จง แดเป็นซะแบบนี้ เขาดูออกว่าคนตรงหน้าคิดอะไรเกินเลยกับเขามานานแสนนาน อาจจะนานนับตั้งแต่เขาได้รู้จักกับเด็กคนนี้หรืออะไรก็ตาม เพื่อดูให้แน่ใจอี้ชิงจึงถอยห่างออกมา หวังเหลือเกินที่จะให้น้องชายคนนี้ยอมขยับเปลี่ยนสถานะ แต่เปล่าเลย เพราะแทนที่จงแดจะตามติดกระวนกระวาย กลายเป็นเขาเองเสียอีกที่ร้อนใจคิดว่าจงแดไม่ได้นึกรักชอบตน
เพราะ คิมจงแดเป็นคนมุ่งมั่น เขาแยกแยะเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงานอย่างเด็ดขาด แม้บางครั้งอี้ชิงจะใจชื้นขึ้นบ้างเพราะเห็นท่าทีไม่สบอารมณ์ในหน่วยตาคู่คม เวลาที่เขาไปเซอร์วิสกับเมมเบอร์อื่น แต่จงแดก็ยังรักษาตำแหน่งน้องชายที่ดีได้เสมอต้นเสมอปลาย ทำให้อี้ชิงต้องหลอกล่อจงแดอยู่หลายครั้ง ทั้งแกล้งทำเป็นเมาเข้าหา แกล้งอ้างว่าแค่มีอารมณ์อยากทำอย่างว่าให้จงแดช่วย และเพราะจงแดใจดีตามใจเสียทุกอย่างทำให้อี้ชิงยิ่งลำพองใจ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งคู่ทำอะไรแบบนี้ด้วยกัน
และอี้ชิงก็ไม่เคยอยากให้มันเป็นครั้งสุดท้าย
จง แดอุ้มเขาผ่านโซนห้องพักกลับเข้าไปยังห้องนอนที่หนุ่มน้อยเพิ่งจะเดินออกมา เมื่อไม่ถึงชั่วโมงก่อน จัดแจงวางร่างนุ่มลงบนเตียงอย่างทะนุถนอมแล้วอี้ชิงก็ต้องใจเต้นแรง
สายตาที่จงแดมองมา ความรู้สึกบางอย่างตีตื้นขึ้นมาในอกตอนที่ได้สบตากัน
ถึง จงแดจะซนบ้างเพราะมีเพื่อนรุ่นเดียวกันเยอะแต่ก็ไม่เคยทำอะไรให้ใครเดือด เนื้อร้อนใจ เป็นเด็กดีที่ชอบจะอยู่เงียบๆ ไม่รบกวนพี่ๆ คนอื่นในเวลาพักผ่อนและใส่ใจคนรอบข้างเป็นที่สุด สีหน้าที่คนอื่นมองเห็นจึงมักจะเป็นความเรียบเฉย หรือแม้แต่ดวงตาที่มักจะคอยกลืนหยาดน้ำตาแห่งความดีใจเอาไว้เวลาที่เห็นคน อื่นๆ ในวงร้องไห้เพียงเพราะอยากจะส่งยิ้มตลอดเวลานั่นก็อีก
มันทำให้อี้ชิงหลงรักคิมจงแดโดยไม่รู้ตัว
จง แดเป็นเหมือนเดิมเสมอ ใส่ใจในทุกรายละเอียดเกี่ยวกับทุกคน ตอนที่วางร่างของอี้ชิงลงบนเตียง เขาถามว่าอาการปวดหลังหายแล้วหรือ พอโดนตอกกลับว่าถ้าไม่หายก็คงล้มพับไปตั้งแต่ยังอยู่ในห้องน้ำแล้วแซวกันไป มาอารมณ์ที่ค้างเติ่งไปก็เริ่มประทุขึ้นอีกรอบด้วยฝีมือของจางอี้ชิง
"อื้อ... พี่นี่... ท่าทางไม่รีบร้อนเลย ถ้าเกิดพี่เมเนกลับมาล่ะ"
"ไม่มีใครมาหรอก"
"หืม?" ริมฝีปาก���ยักสัมผัสคลอเคลียอยู่ที่ริมฝีปากอิ่ม ค่อยๆ เคลื่อนตัวทาบทับคนใต้ร่างสอดใส่ร่างกายตัวเองให้เป็นหนึ่งเดียว พอเสียงครางหวานหูสงบลงถึงค่อยถามต่อ "ทำไมพี่พูดอย่างนั้น"
"พี่ บอกทุกคนไว้ว่าอย่ามากวน อ๊ะ ใจเย็นสิ" อี้ชิงเล่าแล้วก็ปราบเด็กซนที่ทำเป็นขยับสะโพกไปด้วย โถ่ ทำแบบนี้จะมีสมาธิเล่าได้ยังไงกัน มือนุ่มนิ่มละจากบ่าลูบขึ้นไปจนถึงแก้มตอบ จงแดที่ทำหน้าเหมือนกำลังอดทนแบบนี้เซ็กซี่จริงๆ อี้ชิงคลี่ยิ้มหวาน "มีเรื่อง ฮ่า... อยากจะคุยด้วย"
"คุย ทีหลังได้ไหม" จงแดคิดตามที่พูดจริงๆ การที่สอดใส่อยู่ในร่างกายอุ่นร้อนและคับแน่นไปนานๆ แบบนี้ไม่เป็นผลดีกับตัวเขา เขาอยากจะกระแทกตัวตนของเขาฝังลงไปในทางลับนี้ ให้คนใต้ร่างครางไม่สิ้นสุด
จางอี้ชิงยังคงยิ้มหวาน โน้มคอคนอายุน้อยกว่าให้ก้มลงมาใกล้ พอห่างแค่ลมหายใจกั้นก็เอ่ยถาม
"ชอบ พี่หรือเปล่า?" ปากพูดเหมือนตัดพ้อผลักไส แต่การที่ขาเรียวยกขึ้นโอบรัดเอวสอบท่าจะไม่ใช่ ไอ้ที่เบียดสะโพกเข้ามาใกล้แบบนี้ยิ่งไม่ใช่ไปกันใหญ่ "แบบนี้ชอบไหม?"
"อ่า... ฮยอง..." จงแดครางเสียงสั่นอดไม่ไหวต้องให้รางวัลคนช่างอ้อนไปแรงๆ ไปหลายครั้ง "ชอบ... ดีครับ รัดผมแบบนี้แหละ"
"ไม่ ใช่แบบนั้น" คนแก่กว่าแตะสัมผัสริมฝีปากอิ่มของตนกับริมฝีปากบางของอีกคนเป็นเชิงให้หยุด จงแดยอมตามคำขอ แววตาเชื่อมหวานทอดมองอย่างเว้าวอน "หมายถึงรักพี่"
"ฮยอง..."
"รัก พี่อย่างที่พี่ก็รักจงแดเหมือนกัน อ��้อ" พูดได้แค่นั้นคนเด็กกว่าก็รุกลิ้นไล่ผ่านกลีบปากสีสวยก่อนจะกวาดต้อนทุกหยาด หยดความหวานภายในโพรงปากนั้น ในหัวใจคิมจงแดกำลังพองโต เขาจะซักไซร้ไล่เรียงทีหลัง ตอนนี้ชักจะทนความน่ารักของคนใต้ร่างไม่ไหวแล้ว "จะ... จงแด... อื้อ...ฟังก่อน"
"อือ... ฟังอยู่ครับ" แต่แก้มที่แนบคลอเคลียอยู่กับช่วงล่างที่เริ่มหมุนวนช้าๆ มันทำให้คนมีเรื่องอยากพูดเริ่มจะเสียสติ
"ยังไม่ตอบเลย..." จงแดผละใบหน้าออก หรี่ตามองคนตัวขาวที่กลายเป็นคนใสซื่อน่าเอ็นดูแทนจอมยั่ววในห้องน้ำเมื่อครู่แล้วชั่งใจ
"ฮยองว่าวันนี้จะไม่มีใครมากวนใช่ไหม?" ใบหน้าหวานพยักตอบ "ถ้าอย่างนั้นผมจะทดเรื่องที่ฮยองอยากอธิบายเอาไว้ทีหลัง"
"แต่ตอนนี้ผมจะทำให้ฮยองรู้ว่าผมรักฮยองมาก .... มากแบบที่ฮยองคาดไม่ถึงเลยเชียวล่ะ"
http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1057691&chapter=17
1 note
·
View note
Text
Dishonest Dimple ch13 -cut-

กว่าผมจะเป็นอิสระจากริมฝีปากอิ่มนั่นก็นานโข อย่างจางอี้ชิงไม่เคยจบที่จูบเดียว (ว่าเขาทั้งหมดก็ไม่ได้หรอก) สติสตางค์ของผมเองก็ค่อยๆ กลับมาบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง
อืม เริ่มเขินแล้วตอนนี้ ไม่ร้อนท้อง แต่ร้อนทั้งหน้าเลยขอบอกฮือออออออออ
"เย็น..." พอเขาผละตัวจะลุกขึ้นผมก็บ่น บ่นแก้เก้อไปอย่างนั้นเองแหละ มัน เขิน คือเมื่อกี้เราโรมรันจูบกันหลายยกครับ เสื้อผ้ามันก็มีหลุดลุ่ยบ้าง
ก็แค่... เสื้อเชิ้ตตัวบางของผมที่มันเปื้อนแอลกอฮอล์ (ที่พี่อี้ชิงบอกว่ามันคือว็อดก้า) โดนริดกระดุมออก 2-3 เม็ด แถมด้วยเสื้อกล้ามสีเข้มของพี่อี้ชิงโดนถอดโยนทิ้งไปไหนแล้วก็ไม่รู้แค่นั้นเอง
แค่นี้จริงๆ นะ หัวเข็มขัดไม่ได้ตั้งใจจะปลด ยิ่งกางเกงผ้าของผมที่หลุดไปอยู่ปลายเท้านี่ไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆ อ่ะ
ไม่กล้ามองต่ำเลยตอนนี้ อายตัวเองแปบขอจ้องแต่หน้าพี่อี้ชิงพอ TT
"แน่สิ ไม่ยอมเปลี่ยนเสื้อนี่" ไม่ว่าเปล่า มือขาวๆ เลือนมาจะริดกระดุมเสื้อผมออกอีกผมเลยคว้าหมับเข้าที่ข้อมือนั้น เพิ่งรู้สึกว่าท่าทางตัวเองมันล่อแหลมก็ตอนนี้แหละ
จริงๆ ... แค่เหลือชั้นใจตัวเดียวกับเสื้อเชิ้ตที่แทบจะปิดอะไรไม่ได้นี่ก็น่าอายมากพอแล้ว
ยิ่งไอ้อะไรที่มันเริ่มจะตื่นนี่ยิ่งน่าอายครัช
"เดี๋ยวเรา... อึ้ก ลุกไปเปลี่ยนเองก็ได้" เขาเลิกคิ้ว โอเค ผมรู้ว่าพี่แปลกใจที่จู่ๆ ผมก็เลิกใจกล้า อย่ามาหรี่ตามองแบบนั้นนะ ตอนนี้เกราะป้องกันของจงแดไม่ปกติพอจะต้านทาน
"หืม... ลุกไหว?"
"อื้อ เราไหว"
"ไหวแน่นะ?" ย๊า! จับอะไร คนลามก!
ทำไมมือพี่ไปจับตรงนั้น อุตส่าห์ขยับหนีแล้วอ่ะ แง๊
"ตรงนี้น่ะ ไหวแน่นะ?" ฮื้อออออ เอามือออกไปจากตรงนั้น ถึงมันจะไม่สงบแต่พี่ไม่ต้องกระตุ้นก็ด้ายยยยยย ผมตั้งใจจะหนีบขาเข้าแต่กลายเป็นมันติดลำตัวแข็งแรงของคนตรงหน้า พี่อี้ชิงทิ้งน้ำหนักตัวลงมา กล้ามท้องที่กำลังเบียดอยู่กับอะไรบางอย่างที่เริ่มไม่สงบของผมนี่มัน......
ท่าแบบนี้มันล่อแหลมกว่าบนกระเช้าอีกนะพี่ชาย
"อื้อออ ปล่อยนะ" ผมกัดปาก ตอนนี้หูผมร้อนจนชาไปหมดแล้ว พี่อี้ชิงก้มลงมาสัมผัสเย็นชื้นแตะที่ข้างใบหูผม มันไล้ต่ำลงมาเรื่อยๆ ถึงซอกคอก่อนความรู้สึกเจ็บจี๊ดจะส่งถึงสมอง รู้นะว่าอีกมือที่ว่างเนี่ยปลดกระดุมเสื้อผมอยู่ "อ๊า ไม่เอา เราไม่ ... ฮื้อ เราจะทำเอง"
"แล้วของพี่ล่ะ?" เขายันตัวขึ้นจ้องมองลงมาแกล้งเบียดร่างกายตัวเองช้อนขึ้นมาใต้สะโพกผมให้ความต้องการที่มันตื่นอยู่ใต้กางเกงยีนส์ตัวหนามันสัมผัสกับความต้องการของผม ... ไม่กล้ามองเลยอ่ะ กลัวเปรียบเทียบ(??) แต่ตาเจ้ากรรมมันจ้องอยู่
เหมือนเขาเข้าใจในสายตาของผมที่จ้องต่ำลงยังอวัยวะใต้สะดือของเรา 2 คนที่มันเบียดกันอยู่ใต้ร่มผ้า
คงเป็นเพราะกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ยังกรุ่นอยู่ในห้องทำให้ผมยังใจกล้ามองเขายืดตัวขึ้นปลดกระดุมกางเกงยีนส์ รูดซิปสีทองนั้นลงให้อะไรๆ ที่มันโป่งนูนอยู่ใต้ชั้นในสีเข้มอวดสู่สายตาผม
จริงๆ ของจริงที่อยู่ใต้นั้นผมก็เคยเห็นมาก่อนแล้ว
แต่มันก็ใช่ว่าจะชินนี่ครับแหม่!
"ฮื้อ เรา.. อายนะ อื้ออออ" ผมไม่รู้ว่าตัวเองกำลังส่งเสียงแบบไหน รู้แต่ว่าความชื้นและสัมผัสอุ่นๆ ของลิ้นที่ค่อยๆ ไล้ลงจากซอกคอไปจนถึงหน้าท้องทำเอาผมเสียววาบ ยิ่งมีแวะกดจูบเน้นที่บางจุดผมยิ่งสะดุ้ง "พี่... ตัวจะทำ อ๊ะ อะไร..."
"จะสอนวิธีง้อที่มันแอดว๊านซ์กว่าเดิมไง" เขายิ้มมุมปาก ผมมองริมฝีปากอิ่มนั้นสัมผัสกับ "บางอย่าง" ของผมผ่านเนื้อผ้าชั้นในด้วยใจระทึก
โอเค ผมพูดเลยนะ ตอนนี้ผมรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ รู้แต่ห้ามตัวเองไม่ได้เลย
รู้แม้กระทั้งลิ้นของพี่อี้ชิงกำลังเลียตรงไหน โพรงปากร้อนกับริมฝีปากนุ่มหยุ่นนั่นกำลังทำอะไรกับร่างกายผมบ้าง
แต่มันห้ามไม่ได้ หยุดไม่ได้แล้ว
"อื้ออออ ตรงนั้น... อ๊า" ยิ่งผมส่งเสียงน่าอายออกไปมากเท่าไหร่พี่อี้ชิงก็ยิ่งโชว์ความช่ำชองให้ผมได้รับรู้ผ่านสัมผัสนั้นมากยิ่งขึ้นไปอีก พี่อี้ชิงใช้แรงขืนขาผมให้อ้ากว้างไว้ขณะที่ปากเขาก็... ฮื้ออออ ไม่อยากจะพูด
จังหวะเขาไม่ได้เร่งเร้าอะไร แต่เสียงชื้นแฉะที่มันก้องในหัวผมตอนนี้มัน��ริ่มทำให้สติผมพร่าเบลอ ผมยืดแขนไปจนสุดขยุ้มกลุ่มผมสีอ่อนนั้นตามความเสียวที่วูบไหวอยู่ในช่องท้อง
เหมือนอยู่ในลิฟท์ความเร็วสูงที่พุ่งลงจากตึกสูงระฟ้า ไม่ก็บนรถไฟเหาะที่สูงจากพื้นขึ้นไปเท่าตึกหลายสิบชั้นแล้วดิ่งลงมา มันรวดเร็ว หวาดเสียวแต่กลับหฤหรรษ์ ผมแอ่นตัวขึ้นตอนที่มือเขาช้อนใต้สะโพกผมแล้วบีบคลึงเนื้อนิ่มที่บั้นท้าย
อ๊าาาาาาาาาาาา ถ้าจะเป็นอย่างนี้สู้ทำให้ผมเมาไม่รู้เรื่องเหมือนตอนแรกดีกว่าหมายยยยยยยยยยยย อย่าให้ผมมารับรู้แล้วก็บรรยายอยู่อย่างนี้เลย มันอายนะเหวยเฮ้ยยยยยยย
"พี่ อ๊ะ... เราจะ..." ผมรู้สึกว่ากล้ามเนื้อตรงหน้าท้องกับต้นขาผมมันกำลังเกร็งมาก อะไรบางอย่างที่มันกำลังจะปลดปล่อยออกมา แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นตอนนี้ล่ะก็ ทั้งหมดจะพุ่งเข้าสู่โพรงปากพี่อี้ชิงแน่ๆ "ไม่เอา ไม่เอา... อื้อออ"
ยิ่งผมพยายามผลักหัวเขาออกเขาก็ยิ่งกดศีรษะลงมาส่วนปลายของผมมันโดนกระพุ้งแก้มในโพรงปากร้อนสัมผัสซ้ำๆ สติผมยิ่งกระเจิงเมื่อเขาดูดเม้มช่วงปลายตอนที่ผงกหัวขึ้น ผมรู้สึกว่าอีกสัพักริมฝีปากผมคงห้อเลือดถ้าผมยังกัดมันแน่นอย่างตอนนี้
เขาเร็วบ้าง ช้าบ้างจนผมแทบขาดใจ ดีที่คราวนี้ไม่ได้บังคับให้ผมพูดอะไรน่าอาย แต่ริมฝีปากที่ไม่ยอมผละออกเลยนั่นมันทำให้ผมรู้ว่าเขาอยากจะกลืนกินทุกอย่างของผมจริงๆ
ไม่เอาอ่ะ... มัน ฮื้ออออออออ
"อ๊ะ อ๊าาาา" ผมร้องเสียงหลงทิ้งตัวลงกับฟูกที่นอน ผมดีใจนะที่ผลักหัวพี่อี้ชิงออกทันก่อนที่อะไรต่อมิอะไรจะพุ่งเข้าไปในปากเขา
แต่ก่อนที่มองเห็นของเหลวสีขาวขุ่นกำลังพุ่งออกจากร่างกายตัวเองไปเปรอะเปื้อนบนหน้าอีกคนมัน...
อีโรติคเกินไปแล้ว!
"ปะ...เปื้อนหมด แล้วครับ" ผมพูดปนหอบหายใจ พอได้ปลดปล่อยอะไรออกไปบ้างความอายมันก็พุ่งขึ้นมาแทน ผมดีดตัวขึ้นแทบจะทันทีเพราะเห็นว่าใบหน้าของเขามันเปื้อนไปด้วยคราบของผม เอื้อมมือไปปาดมันออกให้ ตอนนี้ผมพาดขาผ่านหน้าขาพี่อี้ชิงที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่หว่างตัวผม ... ชั้นในผมหายไปไหนขอหนีบขาเข้านิดนึง TT "ผมขอโทษ..."
"อ่า...." เขาเลียริมฝีปากที่มันฉ่ำวาว มือขาวดึงมือผมที่เปรอะเปื้อนคราบของตัวเองไปเลีย
เลียมือนี่พี่คิดว่าตัวเองเป็นหมาเป็นแมวเหรอ เป็นคนต้องล้างมือสิครับ
"ฮื้อ พี่อิ้ชิง สกปรก" เขายิ้ม ผมรู้สึกเหนียวตัวกว่าเก่าด้วย ทั้งเหล้าทั้งเหงื่อ หาข้ออ้างไม่จัดการกับอะไรอะไรที่มันทิ่มต้นขาอยู่ตอนนี้ดีมะ?
"เหนียวตัวไหม?" เขากระซิบถาม ถามเฉยๆ ไม่ต้องมองมาด้วยสายตาแพรวพราว ผมพยักหน้าตอบ "ไปล้างตัวกันเถอะ"
คิดว่าจะรอดตัวแล้วนะ แต่ไม่เลย ไม่ใช่เลย
รู้ทั้งรู้ว่าผมยังสติไม่เต็มร้อย รู้ว่าผมปฏิเสธเขาไม่ได้แน่ๆ ล่ะเอาใหญ่เลยนะ
จางอี้ชิงคนไร้ปราณี
ไอ้พี่จางอี้ชิงคนกามมมมมมมมมมมมมมมมม
"จะได้ไปลองทำแบบที่พี่สอนเมื่อกี้ด้วยไง คราวหน้าจะได้ทำเป็น เนอะ?"
-----------------------------------------------------------------------------------
หมด 50% ในห้องลับ
ตามนั้นจ้ะ ♥
ยังไม่ได้กันหรอกจ้ะ ว้าย
http://my.dek-d.com/kaluarz/story/viewlongc.php?id=1117657&chapter=13
8 notes
·
View notes
Photo
bless the camera angle (ノ◕ヮ◕)ノ*:・゚✧
เลย์ไคกันซักทีแหละ
3K notes
·
View notes
Photo










2014 Golden Disk Awards
2014.01.16 골든 디스크
EXO
Part 1 - EXO-M
Main focus: Chen
379 notes
·
View notes
Text
Dishonest Dimple ch6 -cut-
ประตูห้องผมถูกผู้บุกรุกปิดล็อคกลอนอย่างดี พี่อี้ชิงอุ้มผมขึ้น มันไม่ได้เวิ่นเว้อท่าเจ้าสาว เรียกว่าแบกเลยคงเหมาะกว่า ผมร้องท้วงอยากจะทุบหลังเขาแรงๆ แต่ไม่รู้ทำไมไม่กล้าทำ ในใจตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่ได้กลัวตก เพราะไม่นานเขาก็พาผมมานั่งบนโซฟาหลังเล็กในห้อง ผมรู้ดีว่าอาจจะเกิดอัไรขึ้น
“จะทำอะไรครับ” ผมถามกล้าๆ กลัวๆ สภาพไม่ค่อยปลอดภัย เสื้อแทบจะตกไหล่ไปอยู่แล้ว นั่งชันเข่าหนีบขา ยกมือปิดปากพี่อี้ชิงที่ยืนคร่อมผมก้มหน้าลงมาใกล้ผมเอาไว้ ขนาดไม่เห็นริมฝีปากยังรู้ว่าเขายิ้มอยู่
นอกจากแววตาเอ็นดูเต็มพิกัด อะไรบางอย่างมันก็ส่งมาด้วย
ผู้ชายเหมือนกันไม่รู้ว่าไอ้ออร่าแปลกๆ ที่ส่งมาน่ะมันคือความหื่นก็กะไรอยู่นะครับ!
“เฮ้ย! พี่จะเลียมือผมทำมะ…. อื้อ!” ผมรีบสะบัดมือออกมันยิ่งเปิดโอกาสให้เขาทำโทษผมอย่างที่เขาอ้างแทนซะงั้น
พี่อี้ชิงส่งลิ้นเข้ามาอย่างจาบจ้วงเอาแต่ใจ ผมได้แต่หลับตาปี๋ตอนที่เขาเบียดตัวลงมานั่งด้วยโซฟา พยายามจะหดคอหนี แทนที่เขาจะขยับตัวรุกไล่มา กลับนั่งพิงพนักสบายๆ พยายามจะรั้งตัวผมขึ้นไปบนหน้าตัก เรายื้อยุดกันอยู่นานจนผมแทบหมดอากาศหายใจ
“จงแดอ่า…” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยอย่างขัดใจตอนที่ผมขืนตัวไว้ “ไม่ดื้อสิครับ อยากให้พี่มีเรื่องโกรธเราเพิ่มเหรอ”
ทำเป็นพูดเพราะ ไอ้พี่อี้ชิงขี้โมเม! ผมยังไม่ได้ทำอัลไลเล่อะ ฮือ
แล้วไอ้ขาบ้านี่ยังไง ปีนขึ้นไปนั่งคร่อมตักตามที่มือเขาประคองเอวไปเฉย!
ทำไมร่างกายไม่ฟังสมอง จงแดจิคราย!!!!
จูบยกที่สองเริ่มทันทีที่เขาจัดท่านั่งให้ผมเสร็จ ผมเห็นเขายิ้มละมุนละไมก่อนจะเริ่ม คราวนี้ก็เหมือนเดิม จูบร้อนแรงจนผมแทบจะละลายตายตรงนั้น ผมรู้สึกว่าเสื้อผมถูกรุกราน จริงๆ มันแค่ชายเสื้อ ไม่ได้เลื้อยขึ้นมาสูง แต่ผมว่ามันอันตรายกว่าเลื้อยขึ้นมาอีกนะ
อันตรายตรงที่ต้นขาผมก็โดนลูบเหมือนกันนี่ดิ่!
“พะ…. พี่ พี่อี้ชิง” ผมผละปากออกพยายามจะยกตัวขึ้นจากตักเขา พี่อี้ชิงตาปรือปรอยแต่สเน่หาในดวงตามันไม่จางหายไปซักนิด
ที่ผมพยายามจะลุกจากตักเขาไม่ใช่อะไร
รู้สึกถึงสัมผัสอันตรายจาก “ข้างหน้า” และ “ข้างหลัง” พร้อมๆกัน
พี่อี้ชิงรั้งเอวผมไว้ด้วยมือข้างเดียว ปลายนิ้วซักนิ้วนึงแทรกเกลี่ยเล่นอยู่ใต้ขอบกางเกงบ็อกเซอร์ตัวน้อยของผม เขาช้อนตามองสบผมที่ไม่สามารถจะหนีสายตาเขาได้อีกแล้ว
ผมว่าแล้ว ว่าแล้วเชียว
ผมเคยพูดไปแล้วไง ผู้ชายด้วยกัน
อะไรอะไรมันดูกันออก
“ตั้งแต่เช้าแล้วนะ…ทำไมถึงทำให้พี่หงุดหงิดได้ขนาดนี้”
ผมเม้มปากแน่นอยากจะฟาดแขนคนช่างใส่ร้ายซะจริงถ้าไม่ติดที่เขารวบมือผมไปจับไว้ เอียงหน้าซบที่มือผมอย่างออดอ้อน
“หงุดหงิดที่สนิทกับคนอื่น”
“แค่ไม่มองกันเลยก็หงุดหงิดแล้วนะครับรู้ไหม”
ตู้ม!!!!!
อยากจะ(โดน)แตก(ใน)ตาย!!!!!! (???????????????????????????????????)
เขาพาร่างกายผมกดทับกับอะไรบางอย่างที่กำลังตื่นขึ้น มันก็ตื่นไม่แพ้กันทั้งของผมและเขานั่นแหละ
บดเบียดเสียดสีกันผ่านร่มผ้าอยู่อย่างนั้นพร้อมสงครามจูบยกที่สามที่เริ่มขึ้น ตอนผละออกจากกันครั้งนี้ เขาคงตั้งใจจะผลักผมลงนอนราบบนโซฟาแต่ผมยอมแค่ให้เขาปล่อยผมลงจากตักมานั่งข้างกันเท่านั้น เห็นความต้องการมากมายที่ส่งออกมาจากสีหน้าของพี่อี้ชิงแล้วอดคิดไม่ได้
เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเขาเป็นแบบนี้ นับตั้งแต่ที่เขาทำตัวหื่นแบบไม่มีเหตุผลใส่ผมมาตลอดเขาไม่เคยแสดงออกว่าควบคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนี้… จะผิดไหมที่ผมจะรู้สึกยินดีที่ได้เห็นคนตรงหน้าปั่นป่วนเพราะ���ม เหมือนที่ผมเองก็ใจสั่นเพราะเขาเหมือนกัน
พี่อี้ชิงยอมอ่อนให้ เขาไม่ขืนแรงผลักผมลงไปนอน เราหันหน้าเข้าหากันแล้วเขาก็จับยกขาข้างหนึ่งของผมขึ้นไปพาดบนหน้าตักสีกับสีข้างของเขา พี่อี้ชิงดึงมือผมลงไปจับที่หัวเข็มขัดกางเกงแสลคเนื้อดีออดอ้อนเสียงหวานให้ถอดให้หน่อย...
จะไปขัดขืนอะไรได้
เข็มขัดหนังไม่ได้ถูกถอดออกจากห่วงกางเกง มันคาอยู่ตรงนั้นเปิดทางให้จัดการกับตะขอและซิบกางเกงเนื้อดี ผมรูดมันลงผมอะไรบางอย่างที่โป่งนู่นอยู่ข้างใต้พร้อมๆ กับที่เขายกตัวผมแล้วรูดบ็อกเซอร์ลงจนพ้นสะโพก พี่อี้ชิงโน้มตัวลงมาฝังจมูกที่ซอกคอผม คอเสื้อตัวย้วยของผมมันคงจะย้วยเพิ่มแน่ๆเพราะผมเห็นหัวไล่ตัวเองโผล่พ้นเสื้อออกมาแล้ว พี่อี้ชิงใช้ริมฝีปากเม้มย้ำที่หัวไหล่ของผมเบาๆ ก่อนจะเลื่อนหน้าซุกแผ่นอกของผม
ย้ำอีกที… เพราะเราเป็นผู้ชายเหมือนกัน
ผมรู้ดีว่าอะไรบ้างที่จะทำให้อะไรที่มันค้างคาในตัวพวกเราตอนนี้ได้ปลดปล่อยออกมา
ผมควรจะเซฟตัวเองบ้างใช่ไหม
“แค่มือ… นะครับ” กลั้นใจพูด อ๊าก ทำไมเสียงผมสั่นขนาดนี้ พี่อี้ชิงพยักหน้ารับรู้กับอกของผม ขอร้อง อย่าเอาดั้งจมูกมาโดนหัวนมกัน เดี๋ยวเผลออนุญาตให้ทำอย่างอื่นนะครับ ฮอล….
อะไร นี่กำลังด่าผมใจง่ายกันล่ะสิ มาโดนเองเลยมา เดี๋ยวรู้เลย เดี๋ยวรู้ ฮรึกกกกกกก
เป็นไปตามที่ผมขอจริงๆ เสื้อผ้าซักชิ้นไม่ได้หลุดออกจากร่างกายของพวกเรา ไม่มีอะไรแทรกเข้าไปในร่างกายใคร
ถ้าเขาจะว่าผมใจง่ายก็ช่างเขา แต่ตอนนี้ร่างกายของเราทั้งคู่ปฏิเสธสิ่งที่กำลังจะทำ “ให้กัน” ไม่ได้อีกแล้ว
แค่มือที่สัมผัสไปแทบจะทุกส่วนสัดของผม ขยับรูดเร็วบ้างช้าบ้างแกล้งผมอย่างเอาแต่ใจ ดึงมือผมเอาไว้ให้ช่วยเขาจัดการกับความต้องการที่เขาสมอ้างว่าเกิดเพราะผม ผมไม่มีสมาธิพอจะช่วยเขาหรอกนะถ้าปากเขายังป้วนเปี้ยนแถมมือก็วุ่นวายผมซะจนตาเบลอขนาดนี้
“พี่ ...พี่….” ผมถูกเขานำไปจนแทบจะถึงจุด เขาก็กลับแกล้งหยุดมือเอาเสียดื้อๆ
“โอ๊ย…. หึหึ” เขาร้องตอนที่โดนผมบีบมือแรงๆ รอบตัวตนของเขาเพื่อเอาคืน แต่ก็หัวเราะชอบใจแล้วกระตุกมือขยับรัวเร็วกลั่นแกล้งผมแทนซะงั้น ผมหมดแรงจะทำให้เขาต่อเพราะสมาธิมันลงไปจดจ่อกับอะไรบางอย่างที่กำลังจะถูกปลดปล่อยในไม่ช้า
“ฮื้อ… พี่อี้ชิง….” หยุดมืออีกแล้ว ปลายนิ้วโป้งของเขากดอยู่ที่ปลายทางออกของผม ให้ตาย ขยี้ขนาดนี้ขาดใจได้นะครับ วูบโหวงไปหมด ผมควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว แค่เขากระซิบให้ผมพูดบางอย่างผมก็พูดตามโดยไม่คิด
“….”
“ว่าไงนะเด็กดี?”
“ช่วยผม หน่อยนะ… อ๊ะ อื้อออ”
กว่าจะจัดกา���ของเขาเสร็จ ผมก็ถูกเขาดึงทิชชู่จากม้วนบนโต๊ะมาเช็ดทำความสะอาดให้ไป 3 รอบถ้วน
บอกให้หยุดๆ จะได้รีบทำให้เสร็จๆ ก็ไม่ยอม แกล้งผมอยู่นั่นแหละ เป็นคนยังไงเนี่ย!
รู้ไหมครับว่าเขิน รู้ไหมว่าหัวใจผมมันเต้นแรงจนหายใจไม่ออก
รู้รึเปล่าว่าผมอยากจะได้อะไรที่มากกว่านี้
รู้บ้างไหมเนี่ยว่าพี่ทำจะเป็นบ้าทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นอะไรกัน!
0 notes
Photo



HAPPY YXING
HAPPY NEW YEAR
2014
HAVE A GOOD YEAR
HAVE A LUCKY DAY
cr.a lot of YIXING FANBASE
29 notes
·
View notes
Text
Miracles in My Major (NC-Cut)
“พี่อยากนอนฟังเสียงเราทั้งคืนนี้เลยล่ะ”
ตอนนี้ในห้องของผมมีคนเข้ามาเพิ่ม
เตียงขนาด 4 x 6 ฟุตของผมกำลังมีคน 2 คนกอดเกยกันอยู่บนนั้น
ผมเพิ่งรู้จักจงแดวันนี้ ใช่ วันนี้
แต่ตอนนี้ผมกำลังทำให้หลายปีที่น้องรอผมเกิดขึ้นจริง
จงแดยอมเล่าเรื่องที่ผมอยากรู้หลังจากเขามอบครั้งแรกที่ถูกปลุกปั่นจนแทบเสียสติให้ผม
เขาแอบชอบผมตั้งแต่ตอนที่ผมไปจัดแสดงงานวิชาการที่วิทยาเขตโซลเมื่อหหลายปีที่แล้ว
น้องชอบเสียงของผม เสียงเปียโนที่ผมเล่น เสียกีต้าร์ที่ผมใช้มันสันทนาการรุ่นน้อง และเด็กๆ แถวนั้นให้สนใจงานวิชาการของวิทยาลัยเรา
ตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าจงแดเป็นหนึ่งในนักเรียนมัธยมปลายพวกนั้นเช่นกัน
ตอนนี้ผมนอนกอดเขา มือพาดที่เอวคอดเปลือยเปล่าที่อยู่ใต้ผ้านวมผืนหนา กลิ่นกายหอมหวานทำให้ผมเผลอดึงรั้งคนที่เพิ่งหยุดจ้อเข้ามาใกล้
“อื้อออ ฮยอง”
“หืม? ว่าไง?” ผมถามหลังจากสูดกลิ่มหอมหวานจากพวงแก้มนิ่ม จงแดขยับตัวดุกดิกอยู่ในอ้อมกอดผม
อา… บางทีเขาควรจะรู้ว่าทำแบบนี้ร่างกายของผมมันยิ่งสงบลงไม่ได้
“มะ….ไม่เอาแล้วนะครับ ผมเหนื่อย” น้ำเสียงงุ้งงิ้งของเขาทำให้ผมเผลอหลุดขำ ตีหน้ายู่แล้วพยายามจะแกะมือปลาหมึกของผมออกจากเอวเล็ก ผมลงสงสัยจริงๆ ตัวก็แค่นี้ แรงก็ไม่มี ไปเอาพลังจากไหนมาร้องเพลงที่เพราะขนาดนั้นกันนะ
“เพิ่งห้าทุ่มเองนะ บอกแล้วไงว่าอยากฟังเสียงทั้งคืน” ผมแกล้งกระซิบหยอกน้อง จงแดไม่ประสาเรื่องพวกนี้เลย เขามุดกลับลงไปในผ้าห่ม แต่หนีผมไม่พ้นหรอก ยังไงทั้งผมและเขาก็ยังเปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันอยู่ดี
“ฮยอง!” เขาร้องสุดเสียงตอนที่ผมตวัดร่างเขาให้ขึ้นมาอยู่บนตัวผม มือเล็กเท้ากับหน้าท้องของผม แสงจันทร์ที่ส่องมาจากหน้าต่างเหนือหัวของผมทให้ผมได้เห็น ทั้งหมด ของจงแดชัดเจนยิ่งกว่าตอนที่เราเพิ่งขึ้นมาบนห้องเสียอีก “ฮื่อออออ” มือพยายามคว้าปลายผ้านวมผืนหน้าขึ้นมาปกปิดร่างกาย แต่ไม่ทันมือผมหรอก
“ทำไม ยังอายอยู่อีกเหรอ?” ผมยันตัวลุกขึ้นนั่งบ้าง กลายเป็นบ���้นท้ายขาวเนียนนั่นได้สัมผัสกับร่างกายผมที่เริ่มจะมีปฏิกิริรยาขึ้นมาอีกรอบ น้องเผลอครางแล้วผมก็กลืนเสียงนั้นลงคอตัวเองอย่างแนบแน่น
“อ๊ะ อื้อออ เลย์ ฮยอง….” แขนเล็กคว้าโอบรอบคอผมไว้ทันทีที่ริมฝีปากของเราผละออกจากกัน ผมจะจูบอีกครั้งแต่น้องหันหน้าหลบแล้วหัวเราะคิกคัก แสบนักผมเลยงับที่ซอกคอขาวทีหนึ่งคนบนตักยิ่งดิ้นจนตัวงอ
“อยู่เฉยๆ สิ” ผมกระซิบชิดข้างขมับเขา จงแดหยุดดิ้น ใบหน้าแดงก่ำ เขานั่งอยู่เฉยๆ บนตัก ในตอนที่ผมเลื่อนหน้ามามองสบตา ค่อยๆ ประคองเอวเขาให้ยืนเข่า นัยน์ตาคู่นั่นสั่นระริก เสียงครางหวานในตอนที่ร่างกายบอบบางนั้นกลืนกินผมเข้าไปยังติดอยู่ในหัว
“ฮ้า.. ฮะ.. ฮยอง….” เสียงของเขาขาดหายเมื่อจังหวะรักของเราเริ่มเข้าที่เข้าทาง ผมสอนให้เขาเป็นคนนำ ซึ่งเด็กน้อยของผมก็เรียนรู้ได้ดี เสียงครางหวานดังขึ้นทุกครั้งที่ร่างกายเราแนบชิด “อ๊ะ… อ๊าา”
“อ่า…. จงแด… จงแด….” ผมเรียกชื่อเขาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วคืนนี้ จูบซับที่แผ่นอกบาง ชิมเม็ดทับทิมสีหวาน ดูดดึงจนมันเชื่อมน้ำและแดงก่ำ
“มะ… ไม่ไหว ผมไม่ไหว” เขาขย่มจนตัวโคลง แก้มใสที่ขึ้นสีระเรื่อ ไรผมชื้นเหงื่อแนบลู่มากับใบหน้าน่ารัก มุมปากที่เหมือนจะยกยิ้มตลอดเวลาเม้มเข้าเป็นเส้นตรง ท่าทางดูเหมือนอึดอัดทรมาน แต่กลับจูบแตะที่มุมปากของผมเหมือนกับจะออดอ้อน “ช้าหน่อย… ไม่ไหว อ๊า ผม…”
“ให้ตาย….” ผมเกือบจะสบถออกมาแล้วตอนที่ดันให้จงแดล้มลงไปนอนบนเตียงนุ่ม แขนเล็กเหยียดตรงมือคว้าไหล่ผมไว้แน่น ผมแอ่นตัวแทรกร่างกายเข้าไปให้ลึกที่สุด ถึงเราจะผ่านศึกมาด้วยกันแล้วรอบนึงแต่แรงตอดรัดไม่ได้ลดลงเลย เสียงเตียงไม้ที่รองรับความหนักหน่วงของแรงที่ผมโหมใส่ร่างข้างใต้ลั่นเอี๊ยดอ๊าด
แข่งกับเสียงหวานสั่นเครือที่ครวญครางอยู่ใต้ร่างผม
“ฮยอง...ฮยอง อึ่ก… อ๊ะ !”
“เรียกชื่อพี่ จงแด” ผมไม่ได้โน้มตัวลงไปหาร่างเล็กที่บิดเร่าเหมือนจะขาดใจ เกี่ยวรั้งเรียวขาเล็กให้อ้าออกกว้าง จับยึดสะโพกบางเอาไว้ให้ขยับสอดรับกับแรงรักที่ผมส่งให้ไป “จงแดอ่า…”
“ฮื่อ…. อี้ชิง… อี้ชิงฮยอง” คนน่ารักทำตามอย่างว่าง่าย ผมเลยละมือหนึ่งไปกอบกุมแกนกายของเขาเอาไว้ รูดรั้งรวดเร็วพอๆ กับที่ผมกำลังจาบจ้วงเอาเปรียบช่องทางสีหวานของเขาอยู่ ใบหน้าที่เริ่ดขึ้นเพราะแรงอารมณ์ เสียงครางสั่นแผ่วเบาในลำคอนั้นกลายเป็นเสียงที่เกือบจะหวีดร้องเมื่อผมพาเขาไปถึงจุดสูงสุดของอารมณ์ “อ๊ะ… อ๊า อ๊า!”
“อึ่ก… อา….จงแด” ผมพร่ำเรียกชื่อเขาโน้มกายลงเอามืเท้ากับที่นอนนุ่ม จับเรียวขาขาวให้คล้องเข้าที่เอวผม โหมสุดแรงจนคนใต้ร่างครางเครือไม่เป็นภาษาก่อนที่แรงตอดรัดหนักหน่วงจนทำให้ผมถึงอีกฟากของความรู้สึกตามคนตัวเล็กไป
“อ่ะ… อื้อ…. ฮยอง.. อี้ชิงฮยอง” ส่งแขนขาวขึ้นมาเกลี่ยปอยผมชื้อเหงื่อของผมให้พ้นจากหน้า เรามองตากัน แววหวานส่งออกมาจากจงแดอย่างชัดเจน แผ่นอกบางที่สะท้อนขึ้นลง มือเล็กโน้มคอผมลงไปจูบแตะเบาๆที่ริมฝีปาก “ผมรักฮยองนะครับ…. อ๊ะ อึ๊! ฮยอง!”
“อืม…” ผมจุ๊ปากก้มลงไปชิงจูบแสนหวานจากโพรงปากของจงแดอีกครั้ง พร้อมๆกับสะโพกของผมที่เริ่มขยับกายช้าๆ
“อื๊ออ พะ… พอเถอะครับ อ๊ะ อ๊า”
“พูดจากน่ารักแบบนั้น … มันเหมือนจะเชิญชวนกันมากกว่าห้ามนะ คนดี” หน้าเขาเห่อแดงขึ้นมาอีกรอบ คงจะรับรู้แล้วว่าอะไรทีมันยังค้างคาอยู่ในร่างกายเขากำลังตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
“งืออออ งั้นผม มะ อ๊ะ! ไม่พูดแล้ว ก็ ได้ อ๊า!” ผมจับเขาพลิกกลับหลังคลานเข่า ให้ข้อศอกเท้าอยู่ที่เตียงนุ่มทั้งที่ร่างกายยังคงเชื่อมกันอยู่ โน้มตัวลงจูบที่หัวไหล่มน
“ดีแล้วล่ะ อ่ะ…. ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”
“...”
“แค่ครางเพราะๆ ให้พี่ฟังก็พอ”
“บอกแล้วไง… พี่อยากฟังเสียงนายทั้งคืนเลย”
*กลับไปอ่านต่อที่ http://writer.dek-d.com/kaluarz/writer/view.php?id=1057691
0 notes
Photo
prince!au - prince baekhyun
do not edit or repost
7K notes
·
View notes
Link
♥
CHINESE
第一场雪下起的午后
感动 却只沉默对着话筒
转眼一年又悄然走过 对你的留恋 占满心中
“是寂寞”喃喃对自己说
若时光能倒流 回到那一年 相恋的感觉
若重回那初衷 一切是否会变得不同
Yeah 痴人说梦的念头 但也许能够
*看着你的泪 仿佛责备我
傻得连挽留 都无话可说
你好吗 Merry Merry Christmas 祝你有更好的生活
看白雪飘落 在心的缺口
能不能淹没 过去的所有伤痛
用歉意目送你的离去
...
408 notes
·
View notes
Link
ชอบเพลงนี้
CHINESE
我还在拥抱着 在哭泣的你
那噩梦太清晰 下一秒我也就清醒
心有些叹息 打开窗写信
把月光幻想成 仿佛它也正在伤心
Remember你还在
我不想让你Cry (Yeah 我)
让你笑最灿烂的微笑
离开我的心海 答应我 不要Cry
擦不完眼泪 让我难过
*爱离开 It’s My Turn To Cry 星星都在看
眼泪快累积成海
It’s My Turn To Cry 黑夜多璀璨
快关掉眼泪 This Time
有点泛黄的我们的合照
心痛的是我 无法回到那时候
392 notes
·
View notes