Don't wanna be here? Send us removal request.
Text
ฟุตบอล เอฟเอคัพ จับฉลากรอบ 4 ผีแดงเจองานง่าย หงส์แดงไม่หมู

ฟุตบอล เอฟเอคัพ ของประเทศอังกฤษ ในรอบที่สี่ในวันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม ดูเหมือนว่าหาก "แชมป์เก่า" ลิเวอร์พูล สามารถผ่านเข้าสู่รอบที่สามได้ พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับด่านช้าง ในขณะที่ แมนเชสเตอร์ซิตี้ มีโอกาสเปิดศึกใหญ่ในรอบต่อไป ส่วนแมนยูเจองานไม่ยาก
ศึก ฟุตบอล เอฟเอคัพ จัดการจับสลากประกบคู่รอบสี่ออกมาก่อนเกมรอบสามอีกสองคู่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ม.ค.ซึ่งทั้ง แอสตัน วิลล่า จะเปิดบ้านฟัดกับ สตีฟเนจ พร้อมกับที่ แมนฯ ซิตี้ จะเปิดศึกบิ๊กแมตช์กับ เชลซี โดยทั้งสองทีมนี้เพิ่งต่อกรกันมาหมาดๆในเกม พรีเมียร์ลีก ซึ่ง เรือใบสีฟ้า บุกไปเอาชนะ สิงห์บลู ได้ถึงรัง 1-0
อย่างไรก็ดี หลังเกมจบลงเป็นฝั่ง แมนฯ ซิตี้ ถล่มเละใส่ เชลซี 4-0 ทำให้ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง อ็อกซ์ฟอร์ด หรือ อาร์เซน่อล จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ซึ่งจะลงเล่นรอบสามเป็นคู่เดียวโดดๆ ในวันจันทร์ที่ 9 ม.ค. นี้
ด้าน หงส์แดง แชมป์เก่า ซึ่งเมื่อวันเสาร์ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอกับ วูล์ฟส์ 2-2 และยังต้องเตะนัดรีเพลย์กันที่สนามของทีม หมาป่า จะเจองานหนักในรอบสี่เช่นกันไม่ว่าใครจะผ่านเข้ารอบได้เนื่องจากทีมชนะของคู่นี้จะต้องบุกไปเยือน ไบรท์ตัน ทีมจาก พรีเมียร์ลีก ด้วยกัน
สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งลงสนามรอบสามเมื่อวันศุกร์เป็นคู่เดียว และเปิดบ้านพิชิต เอฟเวอร์ตัน ได้ 3-1 ยิ้มออกได้อีกเนื่องจากรอบสี่จะได้เล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกหนรับการมาเยือนของ เรดดิ้ง
สรุปผลการจับสลากประกบคู่ฟุตบอล เอฟเอคัพ รอบสี่ หรือรอบ 32 ทีมสุดท้าย
เปรสตัน – สเปอร์ส
เซาธ์แฮมป์ตัน – แบล็กพูล
เร็กซ์แฮม – เชฟฯ ยูไนเต็ด
อิปสวิช – เบิร์นลีย์
แมนฯ ยูไนเต็ด – เรดดิ้ง
ลูตัน หรือ วีแกน – กริมสบี้
ดาร์บี้ – เวสต์แฮม
สโต๊ค – สตีฟเนจ
แบล็คเบิร์น – ฟอเรสต์ กรีน หรือ เบอร์มิ่งแฮม
วอลซอลล์ – เลสเตอร์
เชฟฯ เว้นส์เดย์ – ฟลีตวู้ด
แมนฯ ซิตี้ – อ็อกซ์ฟอร์ด หรือ อาร์เซน่อล
บริสตอล ซิตี้ หรือ สวอนซี – เชสเตอร์สฟิลด์ หรือ เวสต์บรอมวิช
ไบรท์ตัน – ลิเวอร์พูล หรือ วูล์ฟส์
ฟูแล่ม – ซันเดอร์แลนด์
บอแร่ม วู้ด หรือ แอคคริงตัน – คาร์ดิฟฟ์ หรือ ลีดส์
3 notes
·
View notes
Text
แอสตัน วิลล่า จัดวัตกินส์นำทัพ! คาดการณ์ 11 ตัวจริงดวลวูล์ฟ

แอสตัน วิลล่า คว้าชัยชนะนัดแรกในรอบ 3 เกมมาสดๆ ร้อนๆ โดยความพร้อมของโอลลี วัตกิ้นส์ นำทัพเปิดบ้านรับมือวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ฆูเลน โลเปเตกี มุ่งมั่นเต็มที่เพื่อคว้าชัยชนะในค่ำคืนพรีเมียร์ลีก ในวันพุธที่ 4 มกราคมนี้
อูไน เอเมรี่ กุนซือ แอสตัน วิลล่า พาทีมบุกมาอัดสเปอร์ส 2-0 ในเกมล่าสุด เป็นการคว้าชัยนัดแรกในรอบ 3 เกม
ความพร้อมเกมนี้ “น้าอูไน” ต้องลุ้นความพร้อมของจอห์น แม็คกินน์ (เอ็นหลังหัวเข่า), ดั๊กลาส ลุยซ์ (ข้อเท้า) และ แอชลี่ย์ ยัง (กล้ามเนื้อ) ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนมาจากเกมหักคอไก่ ซึ่งรายหลังยังฝืนเล่นได้จนจบเกม
ส่วนเจค็อบ แรมซี่ย์ (เอ็นหลังหัวเข่า) และ ดีเอโก้ การ์ลอส (เอ็นร้อยหวาย) ที่เดี้ยงยาวอยู่ก่อนแล้ว ยังชวดเหมือนเดิม
สำหรับเอมิลิอาโน่ มาร์ติเนซ นายด่านอาร์เจนไตน์ ดีกรีแชมป์โลก แม้กลับมามีชื่อสำรองแล้ว แต่ก็น่าจะเป็นสำรองของโรบิน โอลเซ่นต่อไป เพราะประตูสวีดิชยังทำผลงานได้ดี
ขณะที่แกนหลักรายอื่นๆ ทั้งเอซรี่ คอนซ่า, ไทโรน มิงส์, บูบาการ์ กามาร่า, เอมิลิอาโน่ บวนเดีย, ลีออน ไบลี่ย์ และ โอลลี่ วัตกินส์ ยังพร้อมช่วยทีมเหมือนเดิม
ด้าน จูเล็น โลเปเตกี กุนซือวูล์ฟแฮมป์ตัน พาทีมแพ้แมนฯ ยูไนเต็ดหวุดหวิด 0-1 ในเกมล่าสุด เป็นการแพ้นัดแรกในรอบ 5 เกม
สภาพทีมเกมนี้ “น้าจูเล็น” ไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม ขาดแต่พวกที่เดี้ยงอยู่ก่อน ทั้งเปโดร เนโต้ (ข้อเท้า), ซาซ่า คาลัจ์ดซิช (เข่า) และ ชิกินโญ่ (เข่า)
แต่การจัดทัพอาจมีปรับเล็กน้อย โดยเฉพาะในเกมรุก อดาม่า ตราโอเร่ และ ราอูล ฮิเมเนซ 2 ตัวสำรองที่ลงมาแล้วพอจะเปลี่ยนเกมได้ ก็มีลุ้นได้สลับมาออกสตาร์ทแทนดาเนี่ยล โปเดนเซ่ และ ดีเอโก้ กอสต้า เช่นกัน
0 notes
Text
อาร์เซน่อล พลาดท่าเปิดรังเจ๊า นิวคาสเซิ่ล 0-0

อาร์เซน่อล ที่พลาดสะดุดเฉพาะหลังเปิดบ้านเสมอกับ "สาลิกาตะวันออก" 0-0 นิวคาสเซิ่ล มี 44 แต้มจาก 17 เกม นำห่าง "เรือใบสีฟ้า" แต้มเพิ่มเป็น 8 แต้ม แต่เล่นได้เยอะกว่า
อาร์เซน่อล ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า บุกไปเอาชนะ ไบรท์ตัน มาได้ 4-2 ในนัดล่าสุด เป็นการคว้าชัย 5 เกมติดในลีก ทางด้าน นิวคาสเซิ่ล ของกุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว คว้าชัยมา 6 นัดติดในลีก ก่อนมาสะดุดเสมอ ลีดส์ ยูไนเต็ด แบบไม่มีสกอร์ 0-0 ในเกมล่าสุด
เปิดฉากครึ่งแรก 4 นาที “ปืนใหญ่” ทักทายก่อนจากความผิดพลาดของแนวรับ นิวคาสเซิ่ล สกัดบอลไม่ขาดเด้งเข้าทาง มาร์ติน โอเดการ์ด หวดด้วยซ้ายในเขตโทษแบบไร้ตัวประกบเหินข้ามคานออกหลัง
20 นาทีผ่าน “สาลิกาดง” พยายามตอบโต้ คัลลั่ม วิลสัน ถอยมาซัดไกลหน้าเขตโทษบอลเบาตรงตัว อารอน แรมส์เดล ก่อนเป็น ฟาเบียน ชาร์ โฉบมาขวิดลูกเตะมุมก็ยังเหินข้ามคานออกหลัง
นาทีที่ 35 จากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทศฝั่งขวา มาร์ติน โอเดการ์ด หยอดบอลเข้าเขตโทษโค้งมาตกใส่หัว กาเบรียล มากัลเญส ขึ้นดีกว่า ฟาเบียน ชาร์ ขวิดย้อยกระดอนพื้นหลุดเสาไกลนิดเดียว
เริ่มครึ่งหลัง นาทีที่ 56 “ปืนใหญ่” เร่งเครื่องต่อเนื่อง มาร์ติน โอเดการ์ด หาช่องว่างตามมาเก็บบอลหน้าเขตโทษได้ช่องก้มหน้าตะบันด้วยซ้ายเหินข้ามคานอย่างน่าผิดหวัง
ต่อมานาทีที่ 67 อาร์เซน่อล เริ่มเจองานหนักพาบอลเข้าพื้นที่อันตรายได้น้อย เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ต้องถอยมารับบอลต่ำพยายามพาแหวกเข้าเขตโทษแต่ก็ปลิ้นลึกไปเข้ามือ นิค โพ๊พ
นาทีที่ 76 กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ พาบอลแหวกหนีเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายแต่จังหวะปาดเข้าในเพื่อนตามไม่ทันลึกไปเข้ามือ นิค โพ๊พ ตะปปไว้ได้ไม่พลาด
2 นาทีต่อมาอาร์เซน่อล พลาดโอกาสทองจากลูกเตะมุมทางขวา มาร์ติน โอเดการ์ด ปั่นบอลเข้ากรอบ 6 หลาให้
นาทีที่ 88 แฟนบอล “ปืนใหญ่” หวิดได้เฮ กรานิต ชาคา ดีดตามน้ำส่งต่อให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ สอดมาล่อเ��้าหน้ากรอบ 6 หลาติดเท้า นิค โพ๊พ เหยียดขวางไว้ได้เหลือเชื่อ
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+5 อาร์เซน่อล มาได้เสียวส่งท้าย กรานิต ชาคา ปาดบอลเข้าเขตโทษไปติดแขนผู้เล่น นิวคาสเซิ่ล ผู้ตัดสิน ใจแข็งไม่เป่าให้แถมไม่มีสัญณานจาก วีเออาร์ แย้งมาอีกด้วย
0 notes
Text
เอฟเวอร์ตัน เซ็งโดนไบรท์ตันบุกมายำคาบ้าน ศึกพรีเมียร์ลีก

เอฟเวอร์ตัน ที่นัดที่แล้วบุกไปเสมอกับ “เรือใบสีฟ้า” มาได้ แต่เกมนี้กลับโดน ไบรท์ตัน บุกมาถล่มคาบ้าน 4-1 แพ้ในลีก 6 นัดติดหยุดอยู่ที่ 15 คะแนนรั้งอันดับ 16 มีแต้มเหนือโซนตกชั้นแค่หนึ่งคะแนน
แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เอฟเวอร์ตัน พาทีมบุกไปเสมอแมนฯ ซิตี้ 1-1 แบบเซอร์ไพรส์ ในเกมล่าสุด ทำให้ไม่ชนะมา 2 เกมแล้ว ทางด้าน โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ กุนซือ ไบรท์ตัน พาทีมแพ้อาร์เซน่อลคารัง 2-4 ในเกมล่าสุด เป็นการแพ้นัดแรกในรอบ 4 เกม
เปิดฉากครึ่งแรก 5 นาทีเอฟเวอร์ตัน ทักทายก่อน โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน ขยับตามไปเก็บบอลในเขตโทษฝั่งซ้ายตบย้อนตั้งให้ อเล็กซ์ อิโวบี ปั่นด้วยขวาติดเซฟ โรเบิร์ต ซานเชซ ควักออกมาเหลือเชื่อ
10 นาทีผ่าน ไบรท์ตัน ตอบโต้คืนบ้าง โซลลี่ มาร์ช โชว์ลีลาแหวกขึ้นมาทางขวาตักบอลเข้าเขตโทษข้ามมาเสาไกลถึง คาโอรุ มิโตมะ ขวิดแบบไร้ตัวประกบเหินข้ามคานนิดเดียว
4 นาทีต่อมา ทีมเยือน ทะยานออกนำ 1-0 มอยเซส ไกเซโด้ แทงบอลออกซ้ายให้ คาโอรุ มิโตมะ เผาเครื่อง เนธาน แพ็ตเตอร์สัน หลุดเข้าเขตโทษดึงจังหวะซัดผ่าน จอร์แดน พิคฟอร์ด อย่างเยือกเย็น
20 นาทีผ่าน “นกนางนวล” โหมต่อเนื่อง คาโอรุ มิโตมะ เก็บบอลจี้เข้าเขตโทษฝั่งซ้ายดีดไซค์ก้อยข้ามไปให้ อีวาน เฟอร์กูสัน โฉบมาตวัดตามน้ำแฉลบโคนเสาสองเด้งออกหลัง
5 นาทีต่อมา มอยเซส ไกเซโด้ ฝากบอลต่อมาให้ อีวาน เฟอร์กูสัน ถอยมาเก็บก้มหน้าตะบันหน้ากรอบ 18 หลาพุ่งผ่านมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด ถากคานบนออกไปได้เสียว
เริ่มต้นครึ่งหลัง นาทีที่ 52 ไบรท์ตัน ขยับหนีเป็น 2-0 เยเรมี่ ซาร์มิเอนโต เก็บบอลในเขตโทษฝั่งซ้ายดึงแนวรับเอฟเวอร์ตัน ก่อนถวานพานให้ อีวาน เฟอร์กูสัน ชาร์จยัดเสาแรกไม่พลาด
3 นาทีต่อมา “นกนางนวล” ยำห่าง 3-0 คราวนี้เป็น อีวาน เฟอร์กูสัน เก็บบอลหน้าเขตโทษฝั่งซ้ายฝากข้ามมาให้ โซลลี่ มาร์ช โยกหนี เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ เข้าเขตโทษมีเวลาเล็งปั่นเสียบเสาแรกงามหยด
นาทีที่ 58 ประตู 4-0 ไหลตามมาอย่างรวดเร็วจากความผิดพลาดของ อิดริสซ่า กาน่า เกย์ คืนหลังเบากลายเป็นถวายพานให้ ปาสกาล โกรสส์ สอดมาฉกยกหนี จอร์แดน พิคฟอร์ด สุดเหนือชั้น
ช่วงทดเจ็บ เจ้าถิ่น ตีไข่แตกได้ประตูปลอบใจ โรเบิร์ต ซานเชซ ตัดสินใจช้าออกมาขวาง อเล็กซ์ อิโวบี ร่วงในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้า เป่าเป็นจุดโทษทันที เดมาไร เกรย์ ซัดไม่เหลือ
หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม เอฟเวอร์ตัน 4 ไบรท์ตัน 1
0 notes
Text
ลีดส์ สู้ยิบตา! คาดการณ์ 11 ตัวจริงดวล เวสต์แฮม

ลีดส์ ยูไนเต็ด สามารถเก็บแต้มจาก Newcastle ได้ในเกมล่าสุดของพวกเขา และเกมนี้ต้องเปิดบ้านพบกับ 'Hammers' ของ West Ham ของ David Moyes ซึ่งทำผลงานได้ไม่ดีนัก ในพรีเมียร์ลีก วันพุธที่ 4 มกราคม 2566 เวลา 02:45 น
เจสซี่ มาร์ช กุนซือ ลีดส์ ยูไนเต็ด พาทีมบุกไปเสมอนิวคาสเซิ่ล 0-0 แบบเซอร์ไพรส์ในเกมล่าสุด ทำให้ไม่ชนะมา 3 เกมแล้ว
สภาพทีมเกมนี้ ไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม ขาดแค่พวกที่เดี้ยงอยู่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นแพทริค แบมฟอร์ด (ไม่สมบูรณ์), หลุยส์ ซินิสเตร์ร่า (เท้า), สจ๊วร์ต ดัลลัส (ขา) และ อาร์ชี่ เกรย์ (ข้อเท้า)
ขณะที่แกนหลักรายอื่นๆ เช่นโรบิน ค็อค, เลียม คูเปอร์, ปาสกาล สเตร๊าจ์ค, เบรนเดน แอรอนสัน, วิลฟรีด ญ็องโต้ และ โรดริโก้ โมเรโน่ ยังพร้อมช่วยทีมตามปกติ
ด้าน เดวิด มอยส์ กุนซือ เวสต์แฮม พาทีมแพ้เบรนท์ฟอร์ดคารัง 0-2 ในเกมล่าสุด เป็นการแพ้ 2 นัดติด
ความพร้อมเกมนี้ ไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม ขาดแค่คัวร์ท ซูม่า (เข่า) และ มักซ์แวล กอร์กเน่ต์ (น่อง) ที่เดี้ยงอยู่ก่อนเท่านั้น
ส่วนพวกแกนหลักขาประจำหน้าเดิมๆ อย่างลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้, เคร็ก ดอว์สัน, เดแคลน ไรซ์, จาร์ร็อด โบเว่น, ลูกัส ปาเกต้า, ซาอิด เบนราห์ม่า และ จานลูก้า สคามัคก้า ต่างพร้อมช่วยทีมเหมือนเดิม
2 notes
·
View notes
Text
เซาธ์แฮมป์ตัน ลุ้น 3 แต้ม! คาดการณ์ 11 ตัวจริงดวลฟอเรสต์

เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมท้ายตารางตอนนี้แย่มาก ภายใต้การนำทีมของเช อดัมส์ และโจ อาริโบ เกมวันพุธที่ 4 มกราคม เวลา 02.30 น. จะต้องเจอกับฟอเรสต์ ที่เพิ่งเสมอกับเชลซีในศึกพรีเมียร์ลีก
เนธาน โจนส์ กุนซือ เซาธ์แฮมป์ตัน พาทีมออกไปแพ้ฟูแล่ม 1-2 ในเกมล่าสุด เป็นการแพ้ 2 นัดติด พร้อมจมบ๊วยนิ่งสนิท
ความพร้อมเกมนี้ ไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม ขาดแต่พวกที่เดี้ยงอยู่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นอเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ (ข้อเท้า), ธีโอ วัลค็อตต์ (น่อง), ฆวน ลาริออส (กล้ามเนื้อ) และ ติโน่ ลิฟราเมนโต้ (เข่า)
ขณะที่แกนหลักรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเกวิน บาซูนู, อาร์เมล เบลล่า-ค็อตชัป, โมฮาเหม็ด ซาลิซู, ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, เจมส์ วอร์ด-เพร้าส์, โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่ และ เช อดัมส์ ต่างพร้อมช่วยทีมตามปกติ
ด้าน ฟอเรสต์ ที่เพิ่งเสมอเชลซี 1-1 ในเกมล่าสุด ทำให้ไม่ชนะมา 2 เกมแล้ว
สภาพทีมเกมนี้ ไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม ยกเว้นพวกที่เดี้ยงกันเพียบอยู่ก่อนแล้วทั้งเจสซี่ ลินการ์ด (เอ็นหลังหัวเข่า), เชกู กูยาเต้ (เอ็นหลังหัวเข่า), ฌูเลียง เบียงโกเน่ (เข่า), มุสซ่า เนียกาเต้ (กล้ามเนื้อ) และ โอมาร์ ริชาร์ดส์ (ขา)
การจัดทัพก็น่าจะยึดทีมที่แบ่งแต้มสิงห์เป็นหลักต่อไป เพราะทำผลงานกันได้ดีแล้วนั่นเอง นำโดยแกนหลักหน้าเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นดีน เฮนเดอร์สัน, แซร์ช โอริเย่ร์, โจ วอร์รอลล์ กัปตันทีม, ไรอัน เยทส์, เรโม ฟรอยเลอร์, เบรนแนน จอห์นสัน และ มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์
1 note
·
View note
Text
เอริค เทน ฮาก เผยแมนยูต้องการซื้อนักเตะเพิ่มช่วงมกราคมนี้

เอริค เทน ฮาก นายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด เผยจำเป็นต้องซื้อนักเตะเพิ่มในช่วงหน้าหนาวนี้ พร้อมเผยว่า อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ ไม่สามารถฟิตได้เต็มที่
เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยันว่าทีมของตนจำเป็นต้องทำการเสริมทัพในตลาดซื้อ-ขายนักเตะ ช่วงเดือนมกราคมนี้ เพราะมันมีเกมหลายนัดรออยู่
ในช่วงที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ยุคของ เทน ฮาก ทำผลงานได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่หลายคนมองว่าขุมกำลังของพวกเขายังไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร โดยเฉพาะในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าที่ทั้งมีตัวเลือกน้อย และบางนัดก็ยังจบสกอร์กันได้ไม่เฉียบขาดด้วย
เทน ฮาก เผยว่า “ผมคิดว่าเราจะมีทีมที่ดีเมื่อนักเตะทุกคนของเราพร้อมลงเล่น แต่ด้วยความที่มันมีหลายเกมรออยู่น่ะ ผมก็คิดว่ามันจำเป็นต้องทำการเสริมทัพกันสักหน่อย อย่างไรก็ตาม คุณก็ต้องการคนที่จะสามารถสร้างผลกระทบให้กับทีมได้ ไม่อย่างนั้นมันก็จะเท่ากับว่าคุณผลาญเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ รวมถึงทำให้คุณไม่ได้เสริมขุมกำลังของคุณจริงๆ ซึ่งมันก็หมายความว่านั่นไม่ได้ช่วยคุณเลย
นายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เสริมว่า อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้าชาวฝรั่งเศสยังไม่ฟิตเต็มที่ จนทำให้ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งได้ตามไปด้วย “ผมไม่คิดว่าเขาฟิตเต็มที่แล้ว เขาไม่ได้เล่นมานานมา และบางทีเกมนัดล่าสุดก็อาจจะไม่ใช่วันที่เขาโชว์ฟอร์มเก่งออกมาได้ ผมพอใจกับฟอร์มในนัดก่อนๆ ของเขา คุณจะมองเห็นเลยว่าเขาสามารถมีผลกระทบกับทีมได้อย่างมาก”
“อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นก็ถือเป็นเรื่องปกติน่ะนะ คุณไม่สามารถคาดหวังให้นักเตะเล่นด้วยฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองได้ตลอดอยู่แล้ว เกมนี้เขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งได้ แต่นัดต่อไปผมคาดหวังว่าเขาจะเล่นได้ดีขึ้น ซึ่งผมคิดว่าเขาสามารถทำอย่างนั้นได้ ผมเชื่อว่าอย่างนั้น”
“ผมพอใจกับฟอร์มในหลายนัดของเขา เขามีผลกระทบกับเกมของเราในทางที่ดี การทำงานร่วมกับเขามันสนุกมากๆ ถ้าคุณพิจารณาถึงช่วงเวลาที่เขาได้ลงเล่นและผลกระทบที่เขามีกับทีมจนถึงตอนนี้แล้วน่ะผมก็คิดว่ามันออกมาในแง่ดีสุดๆ”
ด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตรียมแผนที่จะคว้าตัว ยานน์ ซอมเมอร์ ผู้รักษาประตูทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 เดือนมกราคมนี้
“เร้ด เดวิลส์” จำเป็นต้องหานายทวารสำรองมาเสริมแกร่งหลังจากที่พวกเขาส่ง มาร์ติน ดูบราฟก้า โกลชาวสโลวาเกีย คืนให้กับ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก่อนกำหนดเมื่อช่วงต้นเดือนนี้
สำหรับตอนนี้ “ทอล์กสปอร์ต” สื่อกีฬาชื่อดัง รายงานว่าทีมของกุนซือเอริค เทน ฮาก พร้อมที่จะกระชากตัว ซอมเมอร์ มาจาก โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ช่วงตลาดพ่อค้าแข้งฤดูหนาว
นายด่านชาวสวิส เพิ่งจะทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับทัพ “แดนนาฬิกา” ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ และกำลังจะเป็นผู้เล่นฟรีเอเจ้นท์ในเดือนมิถุนายนนี้ หลังสัญญาฉบับปัจจุบันกับ “สิงห์หนุ่ม” จะหมดลงเมื่อจบฤดูกาล 2022/2023
ก่อนหน้านี้มีรายงานจากสื่อหลายสำนักว่า แมนฯ ยูฯ ตั้งใจจะเซ็นสัญญากับ นายทวารวัย 34 ปีช่วงซัมเมอร์เนื่องจากจะได้ตัวมาแบบฟรีๆ แต่ตอนนี้พวกเขาจำเป็นต้องหาโกลคนใหม่เพื่อเป็นยางอะไหล่ให้กับ ดาบิด เด เคอา จึงทำให้ทีมต้องเปิดการเจรจากับ กลัดบัค ในเวลานี้
0 notes
Text
เชลซี สนดึง เฟร์นานเดซ ร่วมทัพพร้อมทุ่ม 100 ล้านปอนด์

เชลซี ตามรายงานของสื่อโปรตุเกส CM พวกเขายินดีจ่ายค่าธ���รมเนียมเท่ากับค่าเลิกจ้างของเอ็นโซ เฟอร์นานเดซ ดังนั้นพวกเขาจึงส่งตัวแทนไปเจรจากับเบนฟิก้าด้วย
เชลซี ยอดสโมรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมที่จะยื่นข้อเสนอขอซื้อ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ กองกลางดาวรุ่งของ เบนฟิก้า มาร่วมทัพในช่วงเดือนมกราคมนี้ด้วยข้อเสนอเท่ากับค่าฉีกสัญญาของเขา หรือก็คือ 105 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,305 ล้านบาท) ตามรายงานของ ซีเอ็ม สื่อของประเทศโปรตุเกส
ดาวเตะวัย 21 ปีเพิ่งย้ายจาก ริเวอร์ เพลท มาอยู่กับ เบนฟิก้า เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และเขาก็ระเบิดฟอร์มเก่งได้กับทีมชาติอาร์เจนตินาในศึก ฟุตบอลโลก 2022 จนช่วยให้ทีมได้แชมป์โลกไปครอง ขณะที่ เฟร์นานเดซ ก็ได้รางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนท์ด้วย
ผลงานดังกล่าวทำให้มีหลายทีมที่ตกเป็นข่าวว่าให้ความสนใจในตัวกองกลางชาวอาร์เจนไตน์ โดยที่ เชลซี ก็เป็นหนึ่งในนั้น และล่าสุด ซีเอ็ม เผยว่า “สิงโตน้ำเงินคราม” ถึงขั้นพร้อมให้เงินเท่ากับค่าฉีกสัญญาที่ เบนฟิก้า ตั้งเอาไว้ โดยพวกเขาส่งตัวแทนเดินทางไปยังประเทศโปรตุเกสเพื่อเจรจากับ “เหยี่ยวลิสบอน” แล้วด้วย
ด้าน เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่ขอให้ความเห็นเกี่ยวกับการที่ ลิเวอร์พูล กำลังจะได้ โคดี้ กัคโป ปีกทีมชาติเนเธอร์แลนด์ไปร่วมทัพ
ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาว่ากันว่า เทน ฮาก อยากได้ กัคโป มาร่วมทัพมากๆ จนถึงขนาดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีข่าวกับแข้งวัย 23 ปีอย่างต่อเนื่อง แต่กลับกลายเป็นว่า ลิเวอร์พูล สามารถบรรลุข้อตกลงกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ได้ ทั้งที่มีข่าวกับเขาแค่พักเดียว โดยขั้นตอนในตอนนี้เหลือเพียงรอให้ กัคโป มาตรวจร่างกายและดำเนินขั้นตอนสุดท้ายบางอย่างเท่านั้น
ทั้งนี้ หลังจบเกมที่พาทีมชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-0 นั้น เทน ฮาก โดนถามถึงเรื่องที่ ลิเวอร์พูล กำลังจะได้ตัว กัคโป ด้วย ซึ่งเขาก็ตอบว่า “ผมไม่พูดถึงประเด็นส่วนบุคคล ส่วนตัวแล้วเรากำลังมองหานักเตะในแนวรุก คนที่เป็นกองหน้า ซึ่งถ้าได้มาร่วมทัพก็คงเป็นเรื่องดี เพราะว่ามีหลายเกมรออยู่ เราอยากยังมีลุ้นแชมป์ในทุกรายการที่ลงเล่น ซึ่งการจะทำอย่างนั้นได้น่ะคุณก็จำเป็นต้องมีนักเตะหลายคนอยู่ในขุมกำลังของคุณ”
“เราตามหานักเตะในตลาดอยู่เสมอนั่นแหละ แต่ต้องเป็นคนที่เข้ากับเกณฑ์ทั้งในด้านกีฬาและการเงินของเราด้วย”
0 notes
Text
แมนซิตี้ ใส่เต็มสูบ! คาดการณ์ 11 ตัวจริงเยือนลีดส์

แมนซิตี้ ก่อนเกม นิวคาสเซิ่ล ขึ้นเป็นที่ 2 แต่น้อยกว่า 2 เกม ปล่อยให้ ฮาแลนด์ บุกไปเยือน "ยูงทอง" กุนซือทีม 15 เจ.ซีย์ มาร์ช ตั้งเป้าพาทีมลุยศึกพรีเมียร์ลีก คืนวันพุธที่ 28 ธันวาคม
ลีดส์ ยูไนเต็ด แพ้เป็นเกมแรกในรอบ 3 เกมหลังจากที่เปิดบ้านพ่ายให้กับ โมนาโก 2-4 ในเกมอุ่นเครื่องนัดล่าสุด ส่วนเกมลีกนัดล่าสุดออกไปแพ้ สเปอร์ส 3-4 ทำให้เจ้าบ้านมี 15 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 14 เกมในฤดูกาลนี้
ความพร้อมในเกมนี้ เจสซี่ มาร์ช ผู้จัดการทีมชาวสหรัฐอเมริกา ยังคงไม่สามารถใช้งาน สจ๊วร์ต ดัลลัส, หลุยส์ ซินิสเตอร์ร่า และ อาร์ชี เกรย์ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน รวมไปถึง ไทเลอร์ อดัมส์ ที่ติดโทษแบนจากการโดนไล่ออกในเกมกับ ไก่เดือยทอง
นอกจากนี้ยังต้องเช็กความฟิตของ แพทริค แบมฟอร์ด, คริสเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์, โรดริโก้ โมเรโน่, เลียม คูเปอร์ และ แจ็ค แฮร์ริสัน ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน
แต่สามรายหลังน่าจะพร้อมลงเล่นช่วยทีมในเกมนี้ ขณะเดียวกันต้องดูอาการของสองแข้งที่มีอาการป่วยอย่าง อิลล็อง เมสลิเย่ร์ และ มาเตอุสซ์ คลิช ที่ตกเป็นข่าวเกี่ยวกับการย้ายไปค้าแข้งกับ ดีซี ยูไนเต็ด อีกด้วย
ส่วนการจัดทัพคาดว่า มาร์ช จะมาในระบบ 4-2-3-1 โดยที่ โจ เกลฮาร์ดท จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า พร้อมกับมี เบรนเดน แอรอนสัน, โรดริโก้ โมเรโน่ และ แจ็ค แฮร์ริสัน ปั้นเกมสนับสนุนอยู่ด้านหลัง
ขณะที่ในแดนกลางเป็นหน้าที่ของ มาร์ค โรก้า และ อดัม ฟอร์ชอว์ คอยเดินเกม ทางด้านตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กใช้งาน เลียม คูเปอร์ และ มาเตอุสซ์ คลิช คุมหลังบ้านอยู่ด้านหน้าผู้รักษาประตูอย่าง คริสตอฟเฟอร์ เคลสสัน ที่ทำหน้าที่เฝ้าเสา
แมนซิตี้ ชนะมา 2 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการหลังจากที่เปิดบ้านเฉือนชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 ในเกม คาราบาว คัพ อังกฤษ รอบ 16 ทีมสุดท้าย เรือใบสีฟ้า จึ��ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย
ไปพบกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ส่วนเกมลีกนัดล่าสุดเปิดบ้านพ่ายให้กับ เบรนท์ฟอร์ด 1-2 ทำให้ทีมเยือนมี 32 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 14 เกมในฤดูกาลนี้ โดยมีแต้มตามหลัง อาร์เซน่อล จ่าฝูง 8 แต้ม แต่ ซิตี้ แข่งน้อยกว่า 1 เกม
สภาพทีมในเกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมชาวสเปน ยังคงไม่มี รูเบน ดิอาส ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงานจากการรับใช้ทีมชาติโปรตุเกส ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รวมไปถึง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ที่เพิ่งมีส่วนช่วยให้ ทีมชาติอาร์เจนตินา คว้าแชมป์รายการดังกล่าวมาครอง นอกจากนี้ในรายของ คัลวิน ฟิลลิปส์ ยังไม่สามารถฝึกซ้อมหรือลงเล่นได้เนื่องจากมีน้ำหนักตัวเกิน
ส่วนการจัดทัพคาดว่า เป๊ป จะมาในระบบ 4-3-3 โดยที่ เออร์ลิง ฮาลันด์ จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า พร้อมกับมี แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ ฟิล โฟเด้น ขนาบข้างในพื้นที่ริมเส้นขวา-ซ้ายตามลำดับ
ขณะที่ใแดนกลางเป็นหน้าที่ของ อิลคาย กุนโดกัน, โรดรี้ และ เควิน เดอ บรอยน์ คอยเดินเกม ทางด้านตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กใช้งาน จอห์น สโตนส์ และ มานูเอล อคานจี คุมหลังบ้านอยู่ด้านหน้าผู้รักษาประตูอย่าง เอแดร์ซอน โมราเอส ที่ทำหน้าที่เฝ้าเสา
0 notes
Text
ฟุตบอลโลก 2022 กับสถิติที่ต้องบันไว้ในประวัติศาสตร์

ฟุตบอลโลก 2022 จบกันไปเป็นที่เรียบร้อย โดยแชมป์ก็ตกเป็นของทีมชาติอาร์เจนตินาที่ได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 3 และทำให้ ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทัพ ฟ้า-ขาว สมหวังสักที
นับตั้งแต่วันเริ่มการแข่งขันเมื่อ 20 พฤศจิกายน จนมาถึงวันสุดท้ายในวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมานั้น มีเหตุการณ์และเรื่องราวที่น่าสนใจหลายอย่าง ซึ่งมันก็ทำให้ ฟุตบอลโลก 2022 มีบางเรื่องที่ถือว่าเป็นการทาบสถิติเก่า หรือสร้างสถิติใหม่ให้กับประวัติศาสตร์ของ ฟุตบอลโลก ด้วย
-ยิงกันเยอะที่สุด
172 ลูก คือจำนวนประตูที่เกิดขึ้นในศึก ฟุตบอลโลก 2022 ส่งผลให้นี่เป็นมหกรรมลูกหนังโลกที่มีการทำประตูเยอะที่สุด ทำลายสถิติเดิมของปี 1998 กับ 2014 ที่ตอนนั้นยิงไปรายการละ 171 ลูกลงได้ แถมจำนวนเกมของทั้ง 3 ทัวร์นาเมนท์นี้ยังอยู่ที่ 64 นัดเท่ากันด้วย
สำหรับเกมที่มีการทำประตูกันถล่มทลายมากที่สุดในฟุตบอลโลก 2022 จนมีส่วนสำคัญที่ทำให้พวกเขาทุบสถิตินี้ได้ก็คือเกมรอบแบ่งกลุ่มระหว่าง อังกฤษ กับ อิหร่าน ที่ทัพ “สิงโตคำราม” เอาชนะไปได้ 6-2 นั่นเอง
-เซฟจุดโทษมากที่สุด
อย่างที่เห็นกันแล้วว่าในฟุตบอลโลก 2022 มีการเซฟลูกจุดโทษให้เห็นกันเยอะมาก โดยถ้าไม่นับรวมช่วงดวลเป้าแล้วล่ะก็ มันก็มีชอตที่นายด่านเซฟลูกจุดโทษได้ 5 หนจากทั้งหมด 17 ลูกเลยทีเดียว (ไม่นับรวมชอตที่นักเตะยิงออกหรือชนเสาชนคานไปเอง)
ด้วยเหตุนี้ นี่เลยเป็นทัวร์นาเมนท์ ฟุตบอลโลก ที่มีการเซฟลูกจุดโทษในช่วง 90 นาที และช่วงต่อเวลาพิเศษรวมกันมากที่สุดที่จำนวน 5 ครั้ง เท่ากับศึก ฟุตบอลโลก 2002 เวอร์ชั่น เกาหลีใต้ กับ ญี่ปุ่น และศึก ฟุตบอลโลก 2010 ที่ทาง แอฟริกาใต้ เป็นเจ้าภาพ
สำหรับการเซฟลูกจุดโทษ 5 ครั้งของฟุตบอลโลก 2022 เกิดขึ้นในรอบแบ่งกลุ่มทั้งหมด ประกอบด้วยวันที่ กีเยร์โม่ โอชัว ป้องกันลูกยิงของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้, เกมที่ อัลฟองโซ่ เดวี่ส์ ยิงไม่ผ่าน ติโบต์ กูร์กตัวส์, วันที่ วอยเชค เชสนี่ ป้องกันลูกยิงของ ซาเล็ม อัล-ดาว์ซารี่, เกมที่ ลิโอเนล เมสซี่ ยิงไม่ผ่าน เชสนี่ และปิดท้ายด้วยวันที่ อังเดร อายิว ยิงไปติดเซฟของ เซร์คิโอ โรเช็ต
-คนดูเยอะสุด
หากอ้างอิงจากการเปิดเผยของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) แล้วนั้น ศึก ฟุตบอลโลก เวอร์ชั่น กาตาร์ มียอดคนดูในสนามรวมทุกเกมสูงถึง 2.45 ล้านคน คิดเป็นค่าเฉลี่ยได้ว่ามีคนเข้ามาดูในสนาม 96 เปอร์เซ็นต์
หากมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็เท่ากับว่านี่เป็นรายการ ฟุตบอลโลก ที่มีแฟนบอลมาชมความตื่นเต้นในสนามเยอะที่สุด เพราะสถิติเดิมอยู่ที่ 2.17 ล้านราย โดยเกิดขึ้นที่ ฟุตบอลโลก 2018 ที่ทาง รัสเซีย เป็นเจ้าภาพ
-ดวลจุดโทษมากสุด
ด้วยความที่ถึงขั้นต้องใช้การดวลจุดโทษในการตัดสินแชมป์ มันก็ส่งผลให้ศึก ฟุตบอลโลก 2022 มีเกมที่ต้องเล่นถึงช่วงดวลเป้าเป็นจำนวนถึง 5 เกมด้วยกัน และนั่นก็ทำให้นี่เป็นรายการที่มีการดวลเป้าเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ฟุตบอลโลก แบบเดี่ยวๆ
สำหรับศึก ฟุตบอลโลก ที่เคยมีการดวลเป้ากัน 4 ครั้งนั้น ประกอบด้วยเมื่อปี 1990 ที่ประเทศอิตาลีเป็นเจ้าภาพ, 2006 ซึ่งแข่งกันที่ เยอรมนี, ทัวร์นาเมนท์ที่ บราซิล เมื่อปี 2014 และการแข่งที่ รัสเซีย เมื่อ 4 ปีก่อน
5 notes
·
View notes
Text
ลูก้า โมดริช เผยอนาคตตัวเองหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2022 แล้ว

ลูก้า โมดริช กองกลางตัวเก่งของทีมชาติโครเอเชีย เผยเรื่องอนาคตการรับใช้ทีมชาติ หลังบรรลุเป้าหมายช่วยทีมคว้าอันดับสาม ศึกฟุตบอลโลก 2022 พร้อมระบุ ตนมีความสุขเสมอเมื่อได้เล่นให้ทัพ “ตราหมากรุก”
ลูก้า โมดริช กองกลางกัปตันทีมชาติโครเอเชีย ไม่ปิดโอกาสที่จะช่วยทัพ “ตาหมากรุก” จนถึงศึก ยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมนี หลังจากที่คว้าอันดับสาม ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะ โมร็อกโก 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ดาวเตะจาก เรอัล มาดริด วัย 37 ปี ยืนยันไปก่อนหน้านี้แล้วว่า นี่คือฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของเขา แต่ก็ยังไม่ปิดฉากการรับใช้ทีมชาติโครเอเชีย และอาจจะยิงยาวจนถึงศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปอีก 2 ปีข้างหน้า
“เรื่องอนาคตของผมน่ะเหรอ? ผมก็ไม่รู้นะว่า ผมจะเล่นต่อจนถึงศึก ยูโร ที่ เยอรมนี หรือเปล่า เดี๋ยวเราก็จะได้รู้กันเองแหละ ผมอยากให้มันค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า ผมมีความสุขกับการเล่นให้ทีมชาติ”
“ผมยังคิดว่า ผมสามารถเล่นในเกมระดับสูงได้ อย่างน้อยๆ ก็ถึงรายการ เนชั่นส์ ลีก (ช่วงซัมเมอร์ปี 2023) หลังจากนั้นก็จะมีเวลาได้คิดได้ตัดสินใจเกี่ยวกับศึก ยูโร แต่สำหรับตอนนี้ ผมอยากให้มันเป็นไปตามสเตปเรื่อยๆ จนถึง เนชั่นส์ ลีก หลังจากนั้นค่อยว่ากัน” โมดริช กล่าวหลังเกม
ทั้งนี้ โมดริช รับใช้ทีมชาติโครเอเชีย ไปแล้ว 162 นัด ทำได้ 23 ประตู โดยเปิดซิงนัดแรกเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ปี 2006 ซึ่งเป็นเกมอุ่นเครื่องที่ “ตาหมากรุก” เอาชนะ อาร์เจนตินา 3-2
ด้าน ฝรั่งเศส ประสบกับปัญหามีนักเตะป่วย และบาดเจ็บหลายรายในเกมรอบรองชนะเลิศที่พวกเขาคว่ำ โมร็อกโก ได้ 2-0 ซึ่งทำให้กุนซือ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เครียดไม่น้อยก่อนป้องกันแชมป์กับทีมคู่ชิงดำจาก อเมริกาใต้ ที่มี ลิโอเนล เมสซี่ เป็นคีย์แมนคนสำคัญ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผงหลังของทีมเมืองน้ำหอมถือเป็นจุดที่ เดส์ชองส์ หนักใจมากเป็นพิเศษเนื่องจาก ราฟาแอล วาราน กับ อิบราฮิม่า โกนาเต้ มีอาการป่วย ขณะที่ เตโอ แอร์กน็องเดซ เจ็บเข่า
0 notes
Text
อาร์เจนตินา หรือ ฝรั่งเศส! ส่องเส้นทางของสองชาติก่อนนัดชิง

อาร์เจนตินา และ ฝรั่งเศส รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2022 จะมีขึ้นในคืนวันอาทิตย์ (22.00 น.) วันที่ 18 ธันวาคม โดยทั้งสองทีมคว้าแชมป์โลก 2 สมัยเท่ากัน แต่ฝรั่งเศสเป็นแชมป์เก่าในปี 2018
อาร์เจนตินา
ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ ทีมของกุนซือ ลิโอเนล สกาโลนี่ ถูกมองเป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ ทว่าพวกเขากลับออกสตาร์ทแบบสุดช็อก ด้วยการพลิกล็อกพ่ายต่อ ซาอุดีอาระเบีย 1-2 อย่างไรก็ตาม ทัพ “ฟ้า-ขาว” รวบรวมสมาธิกลับมาได้ และคว้าชัยสวยๆ สองนัดติดในรอบแบ่งกลุ่ม จากนั้นพอถึงรอบน็อกเอาต์ อาร์เจนตินา ก็สามารถฝ่าด่าน ออสเตรเลีย, เนเธอร์แลนด์ และ โครเอเชีย มาได้ โดยเฉพาะเกมรอบตัดเชือก ที่ไล่ต้อนทีม “ตาหมากรุก” รองแชมป์เก่า 3-0 ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงสำหรับทัพ “ฟ้า-ขาว” เลยทีเดียว
สรุปเส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ
รอบแบ่งกลุ่ม (แชมป์กลุ่ม ซี) : แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2, ชนะ เม็กซิโก 2-0, ชนะ โปแลนด์ 2-0
รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ ออสเตรเลีย 2-1
รอบก่อนรองชนะเลิศ : ชนะดวลจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ 4-3 (เสมอ 2-2 ใน 120 นาที)
รอบรองชนะเลิศ : ชนะ โครเอเชีย 3-0
ฝรั่งเศส
ทีมแชมป์เก่า ที่ไม่มีสตาร์ดังอย่าง คาริม เบนเซม่า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ ปอล ป็อกบา ผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างไม่ยากลำบาก โดยพวกเขาการันตีเข้ารอบเป็นทีมแรกของทัวร์นาเมนต์ หลังคว้าชัยรวดในสองนัดแรก ส่วนรอบน็อกเอาต์ ทัพ “ตราไก่” ของกุนซือ ดีดิเยร์ เดส์ชองส์ ก็สามารถโค่นคู่แข่งหินๆ อย่าง โปแลนด์, อังกฤษ รวมถึงม้ามืดประจำทัวร์นาเมนต์อย่าง โมร็อกโก ได้ ซึ่งถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมทีเดียว พร้อมกับผลงานอันโดดเด่นของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้, โอลิวิเยร์ ชิรูด์ และ อ็องตวน กรีซมันน์
สรุปเส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ
รอบแบ่งกลุ่ม (แชมป์กลุ่ม ดี) : ชนะ ออสเตรเลีย 4-1, ชนะ เดนมาร์ก 2-1, แพ้ ตูนิเซีย 0-1
รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ โปแลนด์ 3-1
รอบก่อนรองชนะเลิศ : ชนะ อังกฤษ 2-1
รอบรองชนะเลิศ : ชนะ โมร็อกโก 2-0
0 notes
Text
ลิโอเนล เมสซี่ เจ็บชวดลงซ้อมกับทีมชาติอาร์เจนตินา

ลิโอเนล เมสซี่ แนวรุกตัวเก่งของทัพ ฟ้า-ขาว พลาดลงซ้อมกับทีมชาติอาร์เจนติน่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บแฮมสตริงในเกมที่ผ่านมา
ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้ากัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา ไม่ได้ลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหลังต้นขาซ้าย ตามรายงานจาก โอเล (Olé) สื่อกีฬาชั้นนำแดน “ฟ้า-ขาว”
เป็นที่เข้าใจกันว่า เมสซี่ ลุยทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2022 ในสภาพร่างกายที่ไม่ฟิตเต็มร้อย และในเกมรอบรองชนะเลิศ ที่ อาร์เจนตินา ถล่ม โครเอเชีย 3-0 เมื่อวันอังคารที่ 13 ธันวาคม เจ้าตัวก็มีการจับตรงบริเวณแฮมสตริงที่ขาซ้ายระหว่างเกม แต่สุดท้ายเจ้าตัวเล่นครบ 90 นาที พร้อมกับทำ 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์
โอเล รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สื่อได้รับอนุญาตให้เข้าไปดูการฝึกซ้อมของทีมชาติอาร์เจนตินาเป็นเวลา 15 นาที ซึ่งในช่วงดังกล่าวไม่มี เมสซี่ ลงซ้อมกับเพื่อนๆ แต่ก็ไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่า หลังจากนั้น ดาวเตะวัย 35 ปี กลับมาซ้อมหรือไม่
เชื่อกันว่า เมสซี่ กำลังได้รับการดูแลเรื่องสภาพความฟิตเป็นพิเศษ เนื่องจากเกมรอบชิงฯ ฟุตบอลโลก 2022 ที่จะต้องดวลกับ ฝรั่งเศส กำลังจะมาถึงในวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคมนี้แล้ว
อย่างไรก็ตามตอน เมสซี่ อายุ 13 ปี เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ ลา แคปิตอล สื่อดังในเมืองโรซาริโอ ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อเดือนกันยายน 2003 ซึ่งเพียงไม่กี่เดือนก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับบาร์เซโลน่า เกี่ยวกับอาชีพในฝันของเขาถ้าหากไม่รุ่งเรื่องการเล่นฟุตบอล
ในตอนนั้น เมสซี่ เปิดใจแบบเด็กน้อยใสซื่อบริสุทธิ์ว่าเป็นคนที่ชื่นชอบในการฟังเพลงมากๆ ส่วนเรื่องอาชีพในอนาคตนั้น ตำนานแข้ง “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ตอบแบบไม่ลังเลเลยว่าฝันอยากเป็นครูพละ
อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปหลายปี เมสซี่ ก็ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลในโลกลูกหนัง พร้อมทั้งประสบความสำเร็จมากมาย และตอนนี้ก็ลุ้นที่จะนำแชมป์เวิลด์ คัพ กลับสู่มาตุภูมิครั้งแรกในรอบ 36 ปี
0 notes
Text
ลิโอเนล เมสซี่ เอฟเฟ็กต์! แฟนบอลเข้าชมเกมเต็มสนามทั้ง 4 เกม

ลิโอเนล เมสซี่ ที่นำทัพ อาร์เจนตินา เอาชนะรองแชมป์เก่าอย่างโครเอเชีย 3-0 ในรอบรองชนะเลิศนัดล่าสุด นับเป็นปรากฏการณ์ของฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่ทีมชาติอาร์เจนติน่าลงเล่น 6 เกมหลังสุด และเป็นจ่าฝูง ดึงดูดแฟนบอลเข้าชมสนามได้มากที่สุด
ลิโอเนล เมสซี่ ลงเล่น 6 เกมที่ผ่านมา อาร์เจนติน่า 4 เกมเจอคู่แข่งได้ใจแฟนบอลเต็มๆ ส่วนอีก 2 เกมเกือบเต็ม ในหกเกมกับ อาร์เจนตินา มีคนดูทั้งหมด 443,300 คน เฉลี่ย 73,884 คนต่อเกม
สถิติแฟนบอลเกม อาร์เจนติน่า ลงสนามเล่นฟุตบอลโลก 2022
22 พ.ย.65 / อาร์เจนติน่า 1-2 ซาอุดิอาระเบีย / ลูเซียล ไอโคนิค สเตดี้ยม(ความจุ 88,966 ที่นั่ง) / 88,012 คน
26 พ.ย.65 / อาร์เจนติน่า 2-0 เม็กซิโก / ลูเซียล ไอโคนิค สเตดี้ยม(ความจุ 88,966 ที่นั่ง) / 88,966 คน *** เต็มความจุ
30 พ.ย.65 / โปแลนด์ 0-2 อาร์เจนติน่า / 974 สเตเดี้ยม(ความจุ 44,089 ที่นั่ง) / 44,089 คน *** เต็มความจุ
3 ธ.ค.65 / อาร์เจนติน่า 2-1 ออสเตรเลีย / อามัด บิน อาลี สเตเดี้ยม(ความจุ 45,032 ที่นั่ง) / 45,032 คน *** เต็มความจุ
9 ธ.ค.65 / เนเธอร์แลนด์ 5-6 อาร์เจนติน่า(2-2)/ลูเซียล ไอโคนิค สเตดี้ยม(ความจุ 88,966 ที่นั่ง) / 88,235 คน
13 ธ.ค.65 /อาร์เจนติน่า 3-0 โครเอเชีย /ลูเซียล ไอโคนิค สเตดี้ยม(ความจุ 88,966 ที่นั่ง) / 88,966 คน *** เต็มความจุ
0 notes
Text
ลิโอเนล เมสซี่ กับ 4 สถิติใหม่ที่พร้อมเขียนประวัติศาสตร์ให้ตัวเอง

ลิโอเนล เมสซี่ ผู้ทำประตูสูงสุดกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2022 ทีมใดสามารถนำ "Blue and White Legion" กับโครเอเชีย แน่นอนว่าความมุ่งมั่นของเมสซี่นั้นแน่วแน่เพราะตอนนี้เขาใกล้จะกลายเป็น ความฝันที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์เพิ่มเติม การคว้าแชมป์โลกถือเป็นเกียรติสูงสุดในอาชีพการงานของเขา และเป็นสิ่งเดียวที่ชายคนนี้ขาดไป พระเจ้ามีโอกาสที่จะเขียนบทนี้ใหม่หรือทำแบบเดียวกันในเกมคืนนี้
ลุ้นขึ้นแท่นทั้งยิง และ จ่าย มากที่สุด
ที่ผ่านมา เมสซี่ ทำประตูและแอสซิสต์ในเกมเดียวของศึก เวิลด์ คัพ มาแล้ว 3 หน โดย 2 ครั้งเกิดขึ้นในบอลโลกครั้งนี้ด้วย (เกมเจอ เม็กซิโก และ เนเธอร์แลนด์) ซึ่งถ้าหากทำได้อีกในเกมคืนนี้ เมสซี่ จะกลายเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ เวิลด์ คัพ ทันที ที่ “ทั้งยิงทั้งจ่าย” ภายในเกมเดียวถึง 4 หน (นับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติในฟุตบอลโลกปี 1966)
ลุ้นยิงแซง บาติโกล
ลูกจุดโทษที่ยิงใส่ เนเธอร์แลนด์ ในเกมรอบก่อนรองฯ เมื่อไม่กี่วันก่อน ถือเป็นประตูที่ 10 ของ เมสซี่ ในศึก เวิลด์ คัพ ทำให้เขากลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติอาร์เจนตินาในศึก เวิลด์ คัพ เทียบเท่ากับ “บาติโกล” กาเบรียล บาติสตูต้า และเจ้าตัวจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแต่เพียงผู้เดียวทันที หากส่งบอลตุงตาข่ายในเกมกับ โครเอเชีย ได้
มีโอกาสโค่น มาราโดน่า
นอกจากเรื่องทำประตูแล้ว แอสซิสต์ถือเป็นอีกหนึ่งสถิติที่ เมสซี่ มีลุ้นก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งของทีมชาติอาร์เจนตินาในศึก เวิลด์ คัพ โดยตอนนี้เจ้าตัวจัดไปแล้ว 7 แอสซิสต์ เป็นรองแค่ “เสือเตี้ย” ดีเอโก้ มาราโดน่า (8 แอสซิสต์) เท่านั้น
เทียบชั้นตำนานอย่าง มัทเธอุส
ณ ตอนนี้ ลิโอเนล เมสซี่ คือผู้เล่นที่ลงสนามในศึก เวิลด์ คัพ มากสุดอันดับสองตลอดกาล ที่จำนวน 24 นัด เท่ากับ มิโรสลาฟ โคลเซ่ ดังนั้นการลงเล่นในคืนวันนี้ จะทำให้ เมสซี่ ก้าวขึ้นมาครองเบอร์หนึ่งร่วมกับ “ซูเปอร์แมน” โลธาร์ มัทเธอุส ตำนานแชมป์โลกปี 1990 (กับทีมชาติเยอรมนีตะวันตก) ที่จำนวน 25 นัดทันที และถ้าหาก เมสซี่ พา อาร์เจนตินา โค่น โครเอเชีย และลงเล่นในเกมรอบชิงฯ ได้ เจ้าตัวก็จะกลายเป็นนักเตะที่ลงเล่นในศึก เวิลด์ คัพ มากสุดตลอดกาล (26 นัด) และหากลงเอยด้วยการเป็นแชมป์โลก คงจะเป็นอะไรที่ “สุด” มากๆ สำหรับ ดาวเตะอัจฉริยะวัย 35 ปี จาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
0 notes
Text
บราซิล เผยแล้วตั้งกุนซือคนใหม่แทน ตีเต้ ตอนไหน

บราซิล แถลงถึงการเฟ้นหากุนซือคนใหม่แล้วว่าจะมีการแต่งตั้งขึ้นเมื่อไหร่ หลัง ตีเต้ ลาออกเนื่องจากพาทัพ เซเลเซา ร่วงรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ผ่านมา โดยรายชื่อที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็คือ คาร์โล อันเชล็อตติ นายใหญ่จากทีม เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ของ ลาลี กา สเปน
สหพันธ์ฟุตบอล บราซิล (ซีบีเอฟ) ต้องเร่งมองหาคนมีฝีมือมากุมบังเหียน เซเลเซา ต่อจาก ตีเต้ ที่สละเก้าอี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังคุมทีมตกรอบควอเตอร์ไฟนั่ลศึก ฟุตบอลโลก 2022 โดยพ่ายการดวลลูกโทษให้กับ โครเอเชีย
โดยเก้าอี้ตัวสำคัญที่ว่างลง ยูโอแอล และ โอ โกลโบ สื่อสองสำนักของประเทศประโคมข่าวเมื่อ 12 ธ.ค.ว่า ซีบีเอฟ ทาบทามไปหา อันเชล็อตติ แล้วเมื่อเดือนต.ค.แต่อาจต้องรอให้ซีซั่น 2022/23 จบลงซะก่อนแม้ว่าโค้ช อิตาเลี่ยน จะมีสัญญากับ ราชันชุดขาว จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2024 ก็ตาม
อย่างไรก็ดี หลังจากข่าวดังกล่าวแพร่ออกมาไม่นาน ซีบีเอฟ ก็แถลงทันทีว่ายังไม่ได้ทาบทามกุนซือคนไหนเลย และจะมีการประกาศแต่งตั้งคนทำหน้าที่แทน ตีเต้ ในเดือนม.ค
“การประกาศแต่งตั้งโค้ชคนใหม่จะมีขึ้นในเดือนม.ค.2023” สหพันธ์ฟุตบอลบราซิล ระบุ
จากกรณีของ อันเชล็อตติ เชื่อว่าเขาจะรับใช้ทีมดังของ ลา ลีกา ต่อไปเป็นงานชิ้นสุดท้ายก่อนวางมือโดยไม่คิดตอบรับข้อเสนออื่นอีก และนอกจากกุนซือชาวเมืองพิซซ่าแล้ว ทีม เซเลเซา ก็มีตัวเลือกอื่นอยู่ในข่ายพิจารณาทั้ง แฟร์นานโด ดินิส กุนซือ บราซิลเลี่ยน ของสโมสร ฟลูมิเนนเซ่ ,โดริวัล จูเนียร์ นายใหญ่ทีม ฟลาเมงโก้ และ มาโน่ เมเนเซส อดีตกุนซือทีมชาติ บราซิลซึ่งปัจจุบันกุมบังเหียนสโมสร อินเตอร์นาซิอองนาล ในลีกของประเทศ
ด้าน สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) กำลังพิจารณาเลือก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม ชาวไอร์แลนด์เหนือ เข้ารับตำแหน่งนายใหญ่ทีมชาติอังกฤษคนต่อไป หาก แกเร็ธ เซาธ์เกต ตัดสินใจอำลาทีม
0 notes
Text
��ูโก้ โยริส ขึ้นแท่นลงเล่นให้ ฝรั่งเศส มากที่สุดตลอดกาล

อูโก้ โยริส นายทวารทีมชาติฝรั่งเศส ผงาดขึ้นเบอร์หนึ่งลงเล่นรับใช้ทัพ “ตราไก่” มากที่สุดตลอดกาลแซงหน้า ลิลิยอง ตูราม หลังจากนัดล่าสุดส่ง อังกฤษ ตกรอบฟุตบอลโลก 2022
อูโก้ โยริสผู้รักษาประตูกัปตันทีมชาติฝรั่งเศส กลายเป็นผู้เล่นที่ลงสนามรับใช้ทัพ “ตราไก่” มากสุดตลอดกาล ที่จำนวน 143 นัด หลังจากที่ลงเฝ้าเสาช่วย ฝรั่งเศส พิชิต อังกฤษ 2-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อวันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ โยริส มีสถิติลงเล่น 142 นัด เทียบเท่ากับตำนานกองหลังอย่าง ลิลิยอง ตูราม แต่จากเกมล่าสุดทำให้ นายทวารจอมเก๋าจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ วัย 35 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นคนที่ลงสนามรับใช้ทีม “เลส์ เบลอส์” มากสุดตลอดกาลแต่เพียงผู้เดียวเรียบร้อย
ทั้งนี้ โยริส รับใช้ทีมชาติฝรั่งเศสนัดแรก เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ปี 2008 โดยเป็นเกมอุ่นเครื่องนัดที่ ฝรั่งเศส เสมอ อุรุกวัย 0-0
10 อันดับแรกนักเตะที่รับใช้ทีมชาติฝรั่งเศสมากสุด
1.อูโก้ โยริส 143 นัด
2. ลิลิยอง ตูราม 142 นัด
3. เธียร์รี่ อองรี 123 นัด
4. โอลิวิเยร์ ชิรูด์ 118 นัด
5. มาร์กแซล เดอไซยี่ 116 นัด
6. อ็องตวน กรีซมันน์ 115 นัด
7. ซีเนดีน ซีดาน 108 นัด
8. ปาทริค วิเอร่า 107 นัด
9. ดีดิเยร์ เดส์ชองส์ 103 นัด
10. คาริม เบนเซม่า 97 นัด
10. โลร็องต์ บล็องก์ 97 นัด
10. บิเซนเต้ ลิซาราซู 97 นัด
0 notes