rattinans-blog

[rattinans-blog]

ดูดไขมันแล้วไม่เสียเปล่า! เพราะปลูกถ่ายกลับสู่จุดด้อยได้อย่างคุ้มค่า

เมื่อทำการดูดไขมันออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณเคยสงสัยกันหรือไม่ว่าไขมันที่ออกมานั้นจะถูกทิ้งไปหรือสามารถนำไปใช้อะไรต่อได้ ซึ่งคำตอบส่วนใหญ่แล้วไขมันที่ถูกดูดออกมาจากร่างกายสามารถที่จะนำกลับมาปลูกถ่ายเข้าสู่จุดด้อยต่างๆ ที่คุณต้องการปรับเปลี่ยนให้ดูสวยงามมากขึ้นได้และยังให้ประโยชน์อีกหลากหลาย ดังต่อไปนี้

1.แก้จุดด้อยได้ดี

เมื่อคุณดูดไขมันออกจากร่างกายแล้ว คุณสามารถนำไปปลูกถ่ายตามส่วนต่างๆ ที่คุณต้องการ เช่น หน้าผาก, หน้าอก, รูปหน้า, ร่องแก้ม, ใต้ตา และอีกหลากหลายส่วนของร่างกายที่จะเป็นการแก้จุดด้อยให้กลายเป็นจุดที่เด่นมากขึ้น

2.ให้ความปลอดภัย

เมื่อคุณนำไขมันที่ดูดไขมันออกจากร่างกายมาใส่ตามส่วนต่างๆ หรือเป็นการนำไปปลูกถ่ายตามจุดที่คุณต้องการให้เด่นขึ้น จะมีข้อดีคือสามารถทำได้อย่างปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียง เพราะไขมันนั้นเป็นของตัวคุณเอง ซึ่งแพทย์ผู้ที่มีความชำนาญจะนำกลับไปปลูกถ่ายตามจุดที่คุณต้องการได้อย่างปลอดภัย วิธีการนี้จะเป็นการเติมเต็มเซลล์ไขมันที่จะถือว่าเป็นกระบวนการตามขั้นตอนทางธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ จึงให้ความปลอดภัยที่สูงเป็นอย่างมาก

3.เสียค่าใช้จ่ายไม่สูง

สำหรับการดูดไขมันออกมานั้น อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงไปตามค่าเครื่องมือที่คุณเลือก ยิ่งเครื่องมือมีความทันสมัยมากเท่าไหร่ราคาจะยิ่งสูงมากเท่านั้น แต่เมื่อคุณนำไขมันที่ถูกดูดออกมากลับไปปลูกถ่ายตามจุดที่คุณต้องการ ราคากลับจะไม่สูงเท่ากับการดูดออกมา เพราะส่วนหนึ่งเป็นไขมันจากตัวคุณเอง เพียงแต่แพทย์ที่ทำให้คุณจะต้องเป็นผู้ที่มีความชำนาญพอสมควร ดังนั้นคุณจึงสามารถเติมเต็มส่วนต่างๆ ให้สวยขึ้นได้อย่างปลอดภัยและราคาไม่สูงจนเกินไป

4.เติมเต็มดูดีเป็นธรรมชาติ

เมื่อคุณดูดไขมันออกมาแล้วนำไขมันนั้นกลับไปเติมเต็มตามส่วนต่างๆ จะให้รูปทรงที่ดูดีและเป็นธรรมชาติ เพราะเป็นการเติมเต็มด้วยไขมันส่วนเกินของตัวคุณเอง ��ดยเฉพาะหน้าอก, ช่วงเอว, ช่วงสะโพก หรือช่วงหน้าผาก เมื่อฉีดไขมันกลับเข้าไปแล้วจะทำให้รูปร่างของคุณดูมีมิติและฟูเด้งมากขึ้น พร้อมทำให้ดูอ่อนเยาว์ลง ที่สำคัญคือผิวในส่วนที่ฉีดไขมันกลับไปจะยังคงเรียบเนียน ไม่ก่อให้เกิดปัญหาผิวเสียหรือเป็นลูกคลื่นแต่อย่างใด

ถ้าคุณดูดไขมันแล้วนำไขมันของตัวเองที่ดูดออกมาไปเติมเต็มตามส่วนต่างๆ ที่ถือว่าเป็นจุดด้อยในตัวคุณ จะถือว่าเป็นการใช้ไขมันเดิมของคุณในการศัลยกรรมหรือที่ถูกเรียกว่า Fat Transfer ซึ่งมีข้อดีตรงที่คุณไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน ไม่เจ็บมากและเมื่อคุณปลูกถ่ายไขมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาเพียงแค่ 1-2 วัน คุณก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ

[rattinans-blog]

ดูดไขมันซิกแพ็ค คืออะไร น่าทำหรือไม่ ใครบ้างที่ควรทำ?

การดูดไขมันซิกแพ็ค คือ การดูดเอาไขมันบริเวณช่วงหน้าท้องที่เป็นไขมันส่วนเกินออกมา จากนั้นทำการตกแต่งให้กลายเป็นลักษณะของซิกแพ็คที่มีลูกคลื่นสวยงาม ทำให้ได้รูปทรงที่เหมือนจริงจนกลายมาเป็นทางเลือกของใครหลายๆ คนที่ต้องการได้หน้าท้องสวยแบนราบและมีซิกแพ็คในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ ซึ่งถ้าคุณกำลังสนใจการดูดไขมันซิกแพ็ค ลองมาดูรายละเอียดภายในบทความนี้

1.ดูดไขมันซิกแพ็คเหมาะกับใคร

การดูดไขมันซิกแพ็คจะเหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย แต่ต้องการรูปร่างที่ดูสวยงาม รวมไปถึงผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ มีการควบคุมเรื่องอาหารและการปฏิบัติตัวที่ดี แต่ยังไม่สามารถที่จะสร้างซิกแพ็คได้ดั่งใจและยังมีไขมันบริเวณหน้าท้อง แต่ทั้งนี้การทำดูดไขมันซิกแพ็คนั้นจะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาสุขภาพ เป็นผู้ที่มีไขมันน้อยและจะต้องเป็นผู้ที่มีผิวหนังหน้าท้องค่อนข้างตึง ไม่อ้วนลงพุงมากจนเกินไป เพราะจะใช้ไขมันจากหน้าท้องมาทำซิกแพ็คเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

2.ดูดไขมันจากส่วนใด

การดูดไขมันซิกแพ็คนั้นจะเป็นการดูดเอาไขมันตรงบริเวณหน้าท้อง, ใต้ราวนม และช่วงเอว จากนั้นแพทย์ผู้ที่มีความชำนาญจะทำการออกแบบกล้ามเนื้อและนำไขมันนั้นฉีดเข้าบริเวณกล้ามเนื้อตรงช่วงลายเส้นของกล้ามเนื้อ เพื่อเน้นให้กลายมาเป็นซิกแพ็คที่มีความชัดเจน แต่ถ้าคุณมีส่วนเกินของช่วงหน้าท้องมากเกินไป ทางแพทย์จะต้องทำการออกแบบรูปร่างใหม่และจะต้องมีการดูดไขมันในบริเวณที่เป็นส่วนเกินและดูแลแผลให้หายดีก่อน เพื่อให้หน้าท้องดูสมส่วนก่อนจึงจะสามารถฉีดเพื่อทำซิกแพ็คได้

3.ทำแล้วให้ผลลัพธ์อย่างไร

การดูดไขมันซิกแพ็คนั้นสามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยจะให้ผลลัพธ์ของการมีซิกแพ็คที่ดูสวยงามแบบรวดเร็ว พร้อมให้ลายเส้นของซิกแพ็คที่มีความชัดเจน เป็นการทำให้รูปร่างดูดีและดูสวยงามได้ตามแบบที่คุณต้องการ พร้อมทำให้หน้าท้องในส่วนที่มีไขมันส่วนเกินดูแบนราบ สำหรับผู้หญิงแล้วจะเห็น Sexy Line ที่ชัดเจน พร้อมการให้ผิวที่มีความกระชับ เป็นผิวที่เรียบเ���ียนและดูสวยงาม

การดูดไขมันซิกแพ็คนั้น แพทย์จะเลือกดูดตรงส่วนที่เป็นลายของกล้ามเนื้อ เมื่อเกิดการกระชับแล้วจะยิ่งทำให้เห็นลายเส้นที่มีความสวยงามมากขึ้น จากนั้นจึงจะฉีดไขมันกลับเข้าไปเพื่อสร้างซิกแพ็คที่ดูสวยงามมากกว่าเดิม ซึ่งการดูดนั้นส่วนใหญ่จะใช้การทำแบบ Vaser ที่เป็นเครื่องรุ่นใหม่ เพื่อทำให้แผลเล็กที่สุดและลดอาการข้างเคียงได้เป็นอย่างดี

[rattinans-blog]

4 วิธีลดต้นขาร่วมกับการดูดไขมัน เพื่อทำให้ขาเรียวสวยอย่างยั่งยืน

การดูดไขมันที่บริเวณต้นขาถือว่าเป็นจุดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะการมีขาเรียวสวยถือว่าเป็นความนิยมของผู้หญิงในยุคนี้ ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาลดไม่ลงหรือลดแล้วไขมันยังเกาะอยู่ที่ต้นขาจึงเข้ารับการดูดไขมันเพื่อให้ขาเรียวอย่างรวดเร็วและชัดเจน แต่ถ้าคุณต้องการให้ขาสวยนี้อยู่คู่กับคุณเป็นอย่างยาวนาน ควรใช้ 4 วิธีลดต้นขาร่วมกับการดูดเอาไขมันออกดังต่อไปนี้

1.ออกกำลังกายแบบกระชับ

เมื่อคุณดูดไขมันออกจากต้นขาและทำการดูแลตัวเองมาจนครบ 3-6 เดือน คุณจะสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ ดังนั้นคุณควรเลือก��ารออกกำลังกายแบบกระชับต้นขาโดยเฉพาะ เลือกใช้การทำเวทเทรนนิ่งที่เน้นเรื่องการลดต้นขาเท่านั้นหรือเลือกใช้เป็นคาร์ดิโอ้แบบการวิ่ง, การปั่นจักรยาน และการทำกิจกรรมต่างๆ ที่จะช่วยทำให้คุณกระชับกล้ามเนื้อตรงส่วนของต้นขาและเป็นการเบิร์นเอาไขมันในส่วนนี้ออกไปอย่างหมดจด

2.ใช้ครีมช่วยกระชับ

เพิ่มความกระชับให้กับต้นขาของคุณไปพร้อมกับการออกกำลังกายหลังดูดไขมัน ด้วยการเลือกใช้ครีมช่วยกระชับเป็นครีมที่สามารถช่วยกระตุ้นและทำให้ผิวส่วนที่คุณทำการดูดเอาไขมันออก ยังคงมีความเรียบเนียนอยู่เสมอ ลดปัญหาเรื่องผิวเปลือกส้มต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

3.ใส่กางเกงกระชับ

ช่วงที่คุณออกกำลังกายหรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวัน คุณสามารถทำให้ต้นขาหลังการดูดไขมันของคุณยังคงกระชับและเฟิร์มได้ดี ด้วยการใส่กางเกงแบบกระชับเป็นกางเกงผ้ายืดที่สามารถรองรับสรีระและกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี ซึ่งกางเกงในลักษณะนี้จะเป็นตัวช่วยทำให้ตั้งแต่ต้นขา, หน้าท้อง และหน้าอกของคุณได้รับความกระชับร่วมด้วย

4.เลือกอาหารโปรตีนสูง

การรับประทานอาหารให้เลือกรับประทานโปรตีนสูง แต่ไขมันต่ำ มีแคลอรี่ที่พอเหมาะกับการเผาผลาญในแต่ละวัน พร้อมการเลือกรับประทานไฟเบอร์จากผักและผลไม้ ที่จะทำให้การขับถ่ายและการเผาผลาญไขมันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาหารที่มีโปรตีนสูงจะมีตั้งแต่เนื้อสัตว์แบบไร้ไขมันอย่างเนื้ออกไก่และเนื้อปลาทะเล นอกจากนี้ยังมีธัญพืชและถั่วบางชนิดที่จะให้โปรตีนสูงแต่แคลอรี่ต่ำอีกด้วย

ถ้าคุณต้องการให้ต้นขาหลังการดูดไขมันของคุณ มีความแข็งแรง กระชับชัดเจน ไร้ซึ่งปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือผิวแบบเปลือกส้ม คุณควรเลือกใช้ทั้ง 4 วิธีลดต้นขานี้ร่วมด้วย โดยให้ทำหลังจากการดูดเอาไขมันออกไปประมาณ 3-6 เดือน เพื่อทำให้ขาของคุณเรียวสวยอย่างยั่งยืน พร้อมทำให้เรียวขานี้อยู่กับคุณได้อย่างยาวนาน

[rattinans-blog]

5 วิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน เพื่อไม่ให้ไขมันเสียกลับมาพอกอีกครั้ง

การดูดไขมันเป็นหนึ่งในวิธีการดูแลตัวเองและดูแลสุขภาพ เพราะร่างกายที่ปราศจากไขมันเสียจะทำให้มีความแข็งแรง ไม่ต้องกังวลเรื่องโรคร้ายต่างๆ และไม่ทำให้รูปร่างเสียหาย ดังนั้นจึงเป็นหนึ่งในทางเลือกการกำจัดไขมันของผู้หญิงหลายๆ คน ซึ่งถ้าคุณสนใจที่จะทำการดูดไขมัน ลองมาดู 5 วิธีดูแลตัวเองหลังจากการนำไขมันออกจากร่างกาย ดังต่อไปนี้

1.ประคบเย็น

หลังจากการดูดไขมันมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องแรกที่คุณควรทำคือการประคบเย็นอยู่เสมอ เพราะหลังจากการกำจัดไขมันคุณจะมีอาการปวดบวม มีความรู้สึกแสบร้อนและอาจจะมีรอยเขียวช้ำจากการผ่าตัด ดังนั้นจึงต้องมีการใช้วิธีประคบเย็นประมาณ 48 ชั่วโมง และจะต้องมีการรับประทานยาบรรเทาอาการปวดร่วมด้วย เพื่อลดอาการเหล่านี้ลง

2.ใช้สเตย์ผ้ายืด

ในช่วงที่คุณจะต้องดูแลแผลและอาการต่างๆ หลังการดูดไขมัน คุณควรเลือกใช้เป็��ชุดสเตย์ผ้ายืด เพื่อพยุงตรงส่วนที่คุณดูดเอาไขมันออกหรือใช้เป็นชุดแบบซัพพอร์ตที่มีเนื้อผ้ายืดหยุ่นและรองรับสรีระได้ดี โดยจะต้องสวมใส่ทั้งในช่วงที่คุณต้องดูแลแผลและอาการต่างๆ หลังการดูดเอาไขมันออกและจะต้องมีการสวมใส่สเตย์หรือชุดกระชับกล้ามเนื้อเพื่อลดความรู้สึกเจ็บปวดและอาการบวมต่างๆ เป็นเวลากว่า 4 สัปดาห์ จากนั้นแผลจะดีขึ้นและเนื้อจะเริ่มยุบ พร้อมเข้าสู่รูปร่างปกติ

3.ห้ามแผลโดนน้ำ 3 วัน

หลังจากการดูดไขมันแล้ว แผลผ่าตัดและตรงจุดที่มีการใช้หัวดูด ห้ามไม่ให้แผลโดนน้ำประมาณ 3 วัน เพื่อป้องกันการอักเสบและเป็นการป้องกันแผลที่อาจจะชื้นได้ ดังนั้นเมื่อคุณดูดเอาไขมันออกไปแล้ว คุณควรทิ้งเวลาประมาณ 3 วัน เพื่อไม่ให้แผลโดนน้ำอย่างเด็ดขาด จะยิ่งช่วยทำให้แผลของคุณแห้งเร็ว ลดอาการปวดบวมและอาการแสบร้อนได้ดี แต่ถ้าคุณจำเป็นจะต้องอาบน้ำให้เว้นตรงจุดที่ผ่าตัดให้โดนน้ำน้อยที่สุดและต้องรีบซับน้ำที่โดนแผลให้เร็วที่สุด สามารถลดอาการคันและความชื้นจากการทาแป้งได้ แต่ให้ทาบริเวณใกล้เคียงเท่านั้น ตรงบริเวณแผลห้ามทาเด็ดขาด

4.ปรับพฤติกรรมใหม่

หลังจากการดูแลแผลมาจนครบประมาณ 3-6 เดือน คุณควรปรับพฤติกรรมใหม่ โดยเฉพาะเรื่องของการรับประทานอาหารที่จะต้องจำกัดแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เพื่อลดปัญหาไขมันกลับไปเกาะตามจุดเดิมๆ อีกครั้งและช่วงหลังจากการตัดไหมประมาณ 7-10 วัน คุณควรทาครีมเพื่อป้องกันรอย รวมไปถึงการออกกำลังกายแบบเบาๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้รูปร่างกลับมาดูดี มีสัดส่วนที่ชัดเจนอีกครั้งและเป็นการช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

5.งดออกกำลังกาย 1 เดือน

หลังจากการดูดไขมันควรงดการออกกำลังกายเป็นเวลา 1 เดือน แต่คุณจะสามารถกลับไปออกกำลังกายแบบเบาๆ ได้อีกครั้งช่วงประมาณ 3-6 เดือน

เมื่อคุณดูดไขมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณควรปฏิบัติตัวหลังการกำจัดไขมันออกจากร่างกายทั้ง 5 ข้อนี้ เพื่อทำให้รูปร่างของคุณมีสัดส่วนที่ชัดเจนอยู่เสมอ พร้อมช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานได้ตามปกติและลดไขมันเสียกลับไปเกาะตามส่วนต่างๆ ของร่างกายอีกครั้ง