ถ่ายทอดสด เช้าวันที่ 3 ธันวาคม 2565โดยอาจารย์เกษม ดวงแพงมาต ( อาจารย์ให้บุญทุกคน- อังกุรเปตวัตถุ ว่าด้วยบุญสําเร็จที่ฝ่ามือ ) อ้าวเอาบุญกันเด้อทุกคน ใครได้บุญแล้วใช้บุญให้เป็นใช้บุญบ่อยๆ ปลอดภัยหลายๆอย่าง ไม่รู้ก็เรียนให้มันรู้ ว่ารับบุญแล้วบุญได้เท่าไร มีบุญมากน้อยขนาดไหน แค่เขาไม่ได้รับ เขาชี้มือบอกคนว่ามีบ้านที่เขาตั้งโรงทานอยู่ทางโน่นนะ แม้จะเกิดในภูมิเปตร ก็เป็นเวมานิกเปรต มีความสุขดั่งเทวดา ยื่นมือออกสมบัติพัสถานไหลออก อาหารการกินไหลออก จากมือเลี้ยงคนได้เป็นกองทัพๆเลย ไม่ใช่เล่น เปรตต้นไทรที่อยู่ในป่านั่น ที่เคยบอกชาวเมืองที่เคยบอกชาวบ้านชาวเมืองผู้ยากจน ไปโรงทานให้ถูกต้อง โดยการชี้มือบอก ว่าตรงโน้น แคนั้นเขาก็ได้เยอะขนาดนั้น หาอ่านเอาเอง อานิสงส์การชี้มือ บอกผู้ือื่นให้ไปโรงทาน อานุภาพก็มากขนาดไหน อันนี้พึ่งพระรัตนตรัยด้วย ทำงานทำบุญ กับพระรัตนตรัยด้วย คิดอยู่ในแนวของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สอนไว้ด้วย ไม่ใช่สงฆ์มั่วๆนะ ไม่ใช่เสก ไม่ใช่คาถาอาคม ไม่ใช่รดน้ำมนต์ ไม่ใช่ปลุกเสก ไม่ใช่โอมเพี้ยงให้ได้อย่างนั้นโอมเพี้ยงให้ได้อย่างนี้ ให้ทานวันเดียวขอร้อยแปดพันประการ อะไร ไม่ใช่อย่างนั้น ทำบุญปั๊บ ตั้งให้เป็นแบบนั้นแบบนี้เอาไว้ แต่ละครั้ง แต่ละครั้ง ตั้งไว้ ตั้งไว้ ๆๆ ถ้าตั้งครบ ความสมบูรณ์ก็จะเกิดขึ้น แล้ววันเราไปใช้ ก็จะไม่บกพร่อง ชาตินี้บกพร่อง อยู่หลายคน นักเรียนชาวพุทธ ที่เคยเรียนมาแล้วชาติก่อนๆนั่นเละ วิ่งตำหน้าตำหลังไปก็มี ตำไปทั่ว ออกไปมั่ว นิกายบ้าๆบอๆไปก็มี อ้าวพอเตือนแด่นี้ เอาบุญกันทุกคน พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๒ ๙. อังกุรเปตวัตถุว่าด้วยบุญสำเร็จที่ฝ่ามือ อังกุรพาณิชถามว่า เมื่อก่อน ท่านอยู่ในโรรุวนคร ท่านมีปกติอย่างไร มีความประพฤติ อย่างไร ผลบุญสำเร็จที่ฝ่ามือของท่าน เพราะพรหมจรรย์อะไร? รุกขเทวดาตอบว่า เมื่อก่อน เราเป็นช่างหูกอยู่ในโรรุวนคร เป็นคนกำพร้าเลี้ยงชีวิตโดย ความลำบากนัก เราไม่มีอะไรจะให้ทาน เรือนของเราอยู่ใกล้เรือนของ อสัยหเศรษฐี ซึ่งเป็นคนมีศรัทธาเป็นทานาธิบดี มีบุญอันทำแล้ว เป็น ผู้ละอายต่อบาป พวกยาจกวณิพกมีนามแลโคตรต่างๆ กัน ไปที่บ้านของ เรานั้น พากันถามถึงเรือนของอสัยหเศรษฐีกะเราว่า ขอความเจริญจงมี แก่ท่านทั้งหลาย พวกเราจะไปทางไหน ทานเขาให้ที่ไหน เราถูกพวก ยาจกวณิพกถามแล้ว ได้ยกมือเบื้องขวาชี้บอกเรือนของอสัยหเศรษฐีแก่ ยาจกวณิพกเหล่านั้นว่า ท่านทั้งหลายจงไปทางนี้ ความเจริญจักมีแก่ท่าน ทั้งหลาย ทานเขาให้อยู่ที่นั่น เพราะเหตุนั้น ฝ่ามือของเราจึงให้สิ่งที่น่า ปรารถนาเป็นที่ไหลออกแห่งวัตถุมีรสอร่อย ผลบุญย่อมสำเร็จที่ฝ่ามือ ของเราเพราะพรหมจรรย์นั้น. อังกุรพาณิชถามว่า ได้ยินว่า ท่านไม่ได้ให้ทานแก่ใครๆ ด้วยมือทั้งสองของตนเป็นแต่ เพียงอนุโมทนาทานของคนอื่น ยกมือชี้บอกทางให้ เพราะเหตุนั้นฝ่ามือ ของท่านจึงให้สิ่งที่น่าใคร่ เป็นที่ไหลออกแห่งวัตถุมีรสอร่อย ผลบุญ ย่อมสำเร็จที่ฝ่ามือของท่านเพราะพรหมจรรย์นั้น ข้าแต่ท่านผู้เจริญ อสัยหเศรษฐีผู้เลื่อมใส ได้ให้ทานด้วยมือทั้งสองของตน ละร่างกาย มนุษย์แล้ว ไปทางทิศไหนหนอ? รุกขเทวดาตอบว่า เราไม่รู้ทางไปหรือทางมาของอสัยหเศรษฐี ผู้เป็นเจ้าของแห่งทาน ผู้มี- รัศมีซ่านออกจากตน แต่เราได้ฟังมาในสำนัก ของท้าวเวสสุวัณว่า อสัยหเศรษฐี ถึงความเป็นสหายแห่งท้าวสักกะ. อังกุรพาณิชกล่าวว่า บุคคลควรทำความดีแท้ ควรให้ทานตามสมควร ใครได้เห็นฝ่ามืออันให้ สิ่งที่น่าใคร่แล้ว จักไม่ทำบุญเล่า เราไปจากที่นี้ถึงทวารกนครแล้ว จัก รีบให้ทานอันจักนำความสุขมาให้เราแน่แท้ เราจักให้ข้าว น้ำ ผ้า เสนาสนะ บ่อน้ำ และสะพานในที่เดินยากเป็นทาน. ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ข้าพฯยินดีรับบุญอาจารย์เกษม ดวงแพงมาต ให้บุญอาจารย์เกษม ดวงแพงมาต นี้ถึงผู้เสียชีวิต นายภาณุเมศวร์ วาสโสหา ขอให้บุญนี้ถึงผู้เสียชีวิต นายภาณุเมศวร์ วาสโสหา อายุ 27 ปี อยู่ 165 ม.4 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ให้พ้นทุกข์ มีสุข มีความปลอดภัย
0 notes
(1)โลกุตรธรรม (เหนือโลก)
(สุข)- (ทุกข์) ตั้งแต่ เกิด(ทารก)จนตาย(เสียชีวิต
อิม-หิว
ดีใจ-เสียใจ
สรรเสริญ(ย่อ)-นินทา(เว้าพื้น)
เขาคิดดี-เขาคิดไม่ดี
เขาพูดดี-เขาพูดไม่ดี
เขาทำดี-เขาทำไม่ดี
อยากได้ก็ได้-อยากได้กับไม่ได้
สมหวัง() -ไม่สมหวัง()
รักกัน-เลิกกัน
ไม่ป่วย-ป่วย(เจ็บไข้
(ขั้นแม่นพิจารณา) (สุข-ทุกข์)
1.เมื่อได้ในสิ่งที่ตนปราณาก็เป็น(สุข)
2.เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ตนปราณาก็เป็น(ทุกข์)
(วันหนึ่งคนเราจะอยู่กับดีใจ(สุข)และเสียใจ(ทุกข์)ทั้งวันทั้งคืน)
ขั้นแม่นพิจารณาอย่างละเอียด
(สุข,ทุกข์)อยู่กับคนเราตั้งแต่เกิดจนตาย
ตั้งแต่(มนุษย์)คนเราอยู่ในท้องแม่เราก็เป็น(ทุกข์)ตั้งแต่จุติในท้อง(หิว)ดิ้นแม่ก็รู้บัดนีพอแม่กินข้าวไปลูกอยู่ท้องก็บ่ดิ้นเพราะได้กินข้าว(ทางสายลก)(อิ่ม)
(สุข-ทุกข์)
อิ่ม-หิว
ดีใจ-เสียใจ
สรรเสริญ(ย่อ)-นินทา(เว้าพื้น)
เขาคิดดี-เขาคิดไม่ดี
เขาพูดดี-เขาพูดไม่ดี
เขาทำดี-เขาทำไม่ดี
อยากได้ก็ได้-อยากได้กับไม่ได้
สมหวัง() -ไม่สมหวัง()
รักกัน-เลิกกัน
ไม่ป่วย-ป่วย(เจ็บไข้)
( บ่ว่าวัยใด )
ตั้งแต่จุติในท้อง
ทารก(1วัน-)
วัยเด็ก(1ปี-12ปี)
วัยรุ่น (13ปี-25ปี)
วัยกลางคน(26ปี-49ปี)
วัยทอง(50ปี-70ปี)
วัยชรา(80ปี-100ปี...)
กะมี(สุข,ทุกข์)คือกันทุกวัย
(เวลาเราตายไป)
(มนุษย์)
ที่ทำกุศล(ผลบุญ)
(เวลาตาย) ผลบุญที่เราทำไว้ก็จะไปเกิดที่สวรรค์ บัดที่นี้บุญกุศลที่เราทำไว้หมดเราก็จะมาใช้กรรม(ชั่ว)ที่ทำไวก็จะลงมาเมืองนรก
หลังจากนั้นเราใช้กรรมในเมืองนรกแล้ว
เราก็จะมาเกิดในเมืองมนุษย์บางคนกะไปเกิดเป็นสัตว์แล้วจังมาเป็นมนุษย์
(บัดที่นิบางคนบ่รู้จักพระนิพาน)
ก็จะวนเวียนในภพทั้ง3
สาเหตุที่พวกเราทั้งหลายจะวนเวียน
(เมืองสวรรค์)1วัน
(เมืองมนุษย์)100ปี
(เมืองนรก).....
อยู่แบบนั้นจนว่าพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้
เราจังสิได้ออกจากภพ3
(2).พิจารณาเด้อว่าสรรพสิ่งในโลกใบนี้ล้วนเป็นสิ่งสมมุติพระพุทธองค์ก็เลยตัดว่าผู้ใดยึดติดผู้นั้นเป็นทุกข์เพราะมันบ่เที่ยงบ่แน่นอน
(เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็สลายไปในที่สุด)
ทุกข์เกิดที่ใดให้ดับตรงนั้นแล้วทำนิโรธให้แจ้ง(การทำนิโรธให้แจ้งกะคือการปล่อยวาง)
(คือจังมือเฮาถือสิ่งของแล้วกะวางลง)
(3).การทำสมาธิจะมี3แบบ
1.(อยากลึก)ให้ดูลมหายใจเข้าอยู่ตรงสบือ(อย่างกลาง)จะอยู่ตรงลิ้นปี่ (อย่างละเอียด)เวลาลมหายใจออกถ้าเกิดลมหายใจยังตรงข้างฮูดัง(จมูก)นั้นยังบ่ละเอียด
2. อาปาณะสติ
หายใจเข้า(พุท)หายใจออก(โธ)
3.ให้คิด พุทโธ แบบกลาง แบบละเอียดให้ได้ตลอด��นว่าคนเราจะเสียชีวิต(วิธีละโลภโกรธหลง)
(ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค )
(4).(ภพทั้ง4)
(4.)พระนิพาน
(4.)พระอรหันต์ (บ่มีความโลภ,ความโกรธ,ความหลง)
.(พระอรหันต์มี4ประเภท)
(1.)สุกขวิปัสสโก พระอรหันต์ประเภทแรกนี้คือผู้ที่จิตหลุดพ้นจากกิเลสสิ้นเชิง แต่ไม่ประกอบด้วยฤทธิ์หรือมีอภิญญามีคุณวิเศษอย่างอื่น คือแม้จิตหลุดพ้นแล้ว แต่อาจไม่มีทิพจักขุ คือไม่มีตาทิพย์ ไม่เห็นนรกสวรรค์ ไม่เห็นภพภูมิอันลี้ลับที่ท่านพรรณนาไว้ แต่คุณธรรมภายในคือความบริสุทธิ์สะอาดภายในดวงจิตของท่านก็ไม่ด้อยกว่าพระอรหันต์ประเภทอื่นแต่อย่างใด
( ๒.)พระอรหันต์เตวิชโช พระอรหันต์ประเภทที่สองนี้ เป็นผู้มีคุณวิเศษประดับ คือนอกจากจะบรรลุธรรมชั้นสูงสุดแล้วยังประกอบด้วยวิชชาสามคือ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ความรู้ในการระลึกชาติก่อนได้ จุตูปปาตญาณ การรู้ว่าคนหรือสัตว์ตายแล้วไปไหน หรือรู้ว่าก่อนมาเกิดเป็นคนหรือสัตว์ในชาตินี้เคยเกิดเป็นอะไรมาก่อน และอาสวักขยญาณ ความรู้ในการสิ้นอาสวะกิเลส นี้คือพระอรหันต์เตวิชโช
( ๓.)พระอรหันต์ฉฬภิญโญ พระอรหันต์ผู้บรรลุอภิญญาหก พระอรหันต์ประเภทนี้ได้คุณวิเศษพิเศษยิ่งกว่าประเภทที่สองข้างต้น กล่าวคือ เมื่อบรรลุธรรมขั้นสูงสุด ดับกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานแล้ว ยังได้คุณวิเศษอย่างอื่นด้วยดังนี้คือ
๑.อิทธิวิธี แสดงฤทธิ์ได้ ย่นระยะทางได้ เดินบนน้ำได้ หายตัวได้ หรือเนรมิตสิ่งต่างๆได้
๒.ทิพพโสต ได้หูทิพย์
๓.เจโตปริยญาณ รู้ใจคนและสัตว์
๔.ปุเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติก่อนๆได้
๕.ทิพพจักขุ มีตาทิพย์
๖.อาสวักขยญาณ ญาณหรือความรู้ในการสิ้นอาสวะกิเลส
พระอรหันต์ฉฬภิญโญ คือบรรลุอภิญญาหกนี้ มีอานุภาพมากในการสร้างความเลื่อมใสศรัทธาให้แก่ผู้คน เรียกกันโดยทั่วไปว่า “พระผู้ทรงอภิญญา” พระอรหันต์ประเภทนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยู่ปะปนคลุกคลีกับผู้คน เพราะปุถุชนจิตที่มืดมัวด้วยกิเลสอาจล่วงเกินท่านได้ง่าย จะเกิดบาปกรรมแก่พวกเขาโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะจิตของท่านมักทรงอยู่ในฌานสมาบัติ ไม่ค่อยรับรู้สมมุติหรือกฎเกณฑ์ของสังคมชาวโลก คนจะไม่เข้าใจเพราะท่านมักทำอะไรแผลงๆ ท่านจึงมักหลีกเร้นอยู่ในป่า ในถ้ำ หลีกเร้นจากผู้คน เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญในการจรรโลงพระศาสนา ท่านจึงจะออกมาช่วยเหลือศาสนาในมิติต่างๆ
( ๔.)พระอรหันต์ปฏิสัมภิทัปปัตโต พระอรหันต์ประเภทที่สี่นี้คือพระอรหันต์ชั้นยอด เป็นผู้บรรลุพระอรหันต์แล้ว มีความแตกฉานในอรรถในธรรม สามารถแสดงธรรมให้ผู้อื่นได้เข้าถึงธรรมหรือบรรลุตามได้ เป็นการสืบทอดพระศาสนาอย่างแท้จริง พระพุทธองค์จึงทรงยกย่องว่าเป็นพระอรหันต์ที่ยอดเยี่ยมกว่าพระอรหันต์ทั้งปวง แต่ก็เป็นประเภทที่หาได้ยากและมีน้อยมากที่จะมีพระอรหันต์ประเภทปฏิสัมภิทัปปัตโต
(3.)พระอนาคา
(2.)สกินาคา
(1.)พระโสดา ยังมี โลภ โกรธ หลง
พระอินทร์เป็นผู้ปกครองโลกสวรรค์
(3.)พรมโลก(สวรรค์)ทำบุญอยู่วัดรักษาศิล8
พระพรมเป็นผู้ดูแลโลกมนุษย์
(2.)เทวโลก(มนุษย์)รักษาศิล5
พญายมราชผู้ปกครองขุมนรกต่างๆ
(1.)ยมโลก(นรก)ผิดศิล5
ไออีตนไดที่ประมาทมันจะมีอันเป็นไป
ตายไปกะบ่ได้ขึ้นจากขมนรกบ่ได้ผุดได้เกิดจะบ่ได้ไปเกิดใน โลก(มนุษย์ )(สวรรค์)
หลวงปู่ของหวาน(เล็ก)
(ของบูชาธรรม )
ต้องใช้(ญาณทัศณะ)ตาทิพดูถึงจะรู้ของ3อย่างคืออะไร
คนที่ดูถูกหรือประมาทให้นำของ3อย่างมาขอมา ต้องใช้(ญาณทัศณะ)ตาทิพดูถึงจะรู้ของ3อย่างคืออะไร
(ให้ใว้เพื่อคนรุ่นหลัง)
พิมหรือเขียนใส่อะไรไว้ก็ได้
จะเป็นการต่ออายุพระศาสนา
ก่อนหน้านี้ได้อธิฐานว่าท่าได้ตรัสรู้ กะขอให้เห็นเด้อตั้งแต่ มิ.ย พ.ศ2554
เห็นภพ4 เมื่อวันที่5กุมภาพันธ์2565
0 notes
มหาวิทยาลัยในอินเดียเลือก มรภ. สงขลา โชว์เผยแพร่วัฒนธรรมพื้นบ้านระดับนานาชาติแบบออนไลน์ #SootinClaimon.Com
#SootinClaimon.Com : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
ในประเทศ – มหาวิทยาลัยในอินเดียเลือก มรภ.สงขลา โชว์แ เผยแพร่วัฒนธรรมพื้นบ้านระดับนานาชาติแบบออนไลน์ (naewna.com)
มหาวิทยาลัยในอินเดียเลือก มรภ.สงขลา โชว์แ เผยแพร่วัฒนธรรมพื้นบ้านระดับนานาชาติแบบออนไลน์
วันอังคาร ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
ผศ.ดร.จรรย์สมร ผลบุญ รองผู้อำนวยการ สำนักศิลปะและวัฒนธรรม…
View On WordPress
0 notes
อมรินทร์กรุ๊ปจับมือ 3 ศิลปินนักออกแบบ แถลงเปิดโครงการ'ผลบุญ' #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย
อมรินทร์กรุ๊ปจับมือ 3 ศิลปินนักออกแบบ แถลงเปิดโครงการ’ผลบุญ’ #ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย
#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/462436
อมรินทร์กรุ๊ปจับมือ 3 ศิลปินนักออกแบบ แถลงเปิดโครงการ’ผลบุญ’ วันพุธ ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2562, 13.00 น.
บริษัท อมรินทร์บุ๊คเซ็นเตอร์ จำกัดผู้นำด้านธุรกิจจัดจำหน่ายสิ่งพิมพ์อันดับ 1 ของประเทศ ได้แถลงข่าวเปิดโครงการ “ผลบุญ” โครงการพวงหรีดหนังสือร่วมกับ3 ศิลปินชื่อดัง ได้แก่ พัชรพล แตงรื่น หรือ ALEX…
View On WordPress
0 notes
กราบทูลลา ฝ่าพระบาท ในชาตินี้ หากแม้นมี โอกาส ในชาติหน้า ขอกุศล ผลบุญ หนุนนำพา เกิดเป็นข้า รองพระบาท ทุกชาติไป วันนี้ได้ส่งเสด็จในหลวง ร. 9 รวมเวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมง 15 นาที แต่ความอดทนและความพยายามในวันนี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวธุลีดิน เทียบไม่ได้กับความเพียร ความอดทนของพระองค์ที่ทรงงานเพื่อประชาชนคนไทยตลอด70 ปีที่ผ่านมา ธ สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์ นายเริงชัย แสนใจ 26 ตค. 2560 (ที่ Fashion Island Shopping Mall)
0 notes