tanomp

[tanomp]

What is IUI?

วิธีช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ที่คุณควรรู้

ในปัจจุบันคู่รักที่ประสบปัญหามีบุตรยากมักมองหาวิธีการรักษาที่หลากหลายเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ หนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมและมีค่าใช้จ่ายไม่สูงนักเมื่อเทียบกับการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ก็คือ IUI (Intrauterine Insemination) หรือการฉีดเชื้ออสุจิเข้าโพรงมดลูกโดยตรง ซึ่งเป็นขั้นตอนการรักษาที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพอย่างมาก บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า IUI คืออะไร, ขั้นตอนการทำ, ประโยชน์, ความเหมาะสม, ค่าใช้จ่าย รวมถึงคำแนะนำจากแพทย์เพื่อให้การทำ IUI ของคุณประสบความสำเร็จ

IUI คืออะไร?

IUI (Intrauterine Insemination) คือ การฉีดเชื้ออสุจิที่ผ่านการปั่นล้างและเตรียมอสุจิ เข้าไปในโพรงมดลูกของผู้หญิงโดยตรงในช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการตกไข่ จุดประสงค์ของวิธีการนี้คือเพื่อให้เชื้ออสุจิเข้าไปอยู่ใกล้กับไข่ให้มากที่สุด เพิ่มโอกาสให้เกิดการปฏิสนธิได้ง่ายขึ้นเมื่อเทียบกับการมีเพศสัมพันธ์ตามธรรมชาติ

ทำไมต้องทำ IUI?

การทำ IUI ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือคู่รักที่มีปัญหาการมีบุตรยากในกรณีที่ไม่ได้มีปัญหารุนแรงมากนัก เช่น

ภาวะอสุจิน้อยหรือคุณภาพต่ำกว่าเกณฑ์เล็กน้อย

ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่เล็กน้อย

ปัญหาปากมดลูกไม่เอื้อต่อการเคลื่อนตัวของอสุจิ

สาเหตุไม่ทราบแน่ชัด (Unexplained infertility)

ขั้นตอนการทำ IUI เป็นอย่างไร?

หลายคนอาจสงสัยว่า “การทำ IUI คืออะไร? ต้องทำอย่างไรบ้าง?” มาดูกันทีละขั้นตอน

✅ 1. การตรวจร่างกายก่อนการทำ IUI

ก่อนอื่น แพทย์จะตรวจร่างกายทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงเพื่อประเมินความพร้อม เช่น ตรวจคุณภาพน้ำเชื้อฝ่ายชาย ตรวจระดับฮอร์โมน และตรวจดูท่อนำไข่ว่ามีการอุดตันหรือไม่

✅ 2. การกระตุ้นไข่ (หากจำเป็น)

ในบางกรณี แพทย์อาจให้ยากระตุ้นการตกไข่ เพิ่มโอกาสสำเร็จของการทำ IUI โดยจะมีการเช็คขนาดไข่ด้วยอัลตราซาวด์ เพื่อดูว่าไข่เจริญเติบโตถึงขนาดที่เหมาะสม (มักอยู่ที่ 18–22 มม.)

✅ 3. การกำหนดเวลาที่เหมาะสม

การฉีดเชื้อจะทำในช่วงเวลาที่ไข่สุกและใกล้ตกไข่ที่สุด แพทย์จะนัดให้มาตรวจอัลตราซาวด์เพื่อประเมินวันตกไข่ที่แม่นยำ

✅ 4. การเตรียมน้ำเชื้อ

ฝ่ายชายจะเก็บน้ำเชื้อ จากนั้นเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการจะล้างน้ำเชื้อเพื่อแยกเฉพาะตัวอสุจิที่แข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดี

✅ 5. การฉีดเชื้อ

แพทย์จะใช้สายสวนเล็กๆ สอดเข้าไปในโพรงมดลูกแล้วฉีดน้ำเชื้ออสุจิเข้าไปโดยตรง กระบวนการนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีและไม่เจ็บปวดนัก

✅ 6. การดูแลหลังการฉีดเชื้อ

หลังการฉีดเชื้อ แพทย์อาจแนะนำให้นอนพักประมาณ 15–30 นาที จากนั้นสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้

อัตราความสำเร็จ IUI เป็นอย่างไร?

อัตราความสำเร็จของการทำ IUI จะแตกต่างกันไปตามปัจจัยของแต่ละคู่ เช่น อายุของฝ่ายหญิง คุณภาพน้ำเชื้อ และสุขภาพโดยรวม โดยทั่วไปแล้ว:

อายุ < 35 ปี: อัตราสำเร็จประมาณ 15–20% ต่อรอบ

อายุ 35–40 ปี: อัตราสำเร็จประมาณ 10–15% ต่อรอบ

อายุ > 40 ปี: อัตราสำเร็จประมาณ 5–10% ต่อรอบ

อย่างไรก็ตาม บางคู่ทำ IUI เพียง 1–3 ครั้งก็สำเร็จ ในขณะที่บางคู่อาจต้องทำซ้ำหลายครั้งกว่าจะตั้งครรภ์ได้

การดูแลร่างกายหลังทำ IUI

หลังการทำ IUI คุณควรดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น:

พักผ่อนให้เพียงพอ

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ลดความเครียด

หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักในช่วง 1–2 วันแรก

สอบถามแพทย์ว่าหลังทำ IUI มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม

การทำ IUI เหมาะกับใคร?

IUI เหมาะกับใคร? โดยทั่วไป IUI จะเหมาะสำหรับคู่รักที่:

✅ ฝ่ายหญิงมีอายุไม่เกิน 40 ปี ✅ มีปัญหาไม่รุนแรง เช่น ปริมาณอสุจิต่ำกว่าเกณฑ์เล็กน้อย, ปัญหามูกปากมดลูก ✅ มีท่อนำไข่ไม่อุดตันอย่างน้อย 1 ข้าง ✅ ยังไม่พร้อมทำ IVF ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า

IUI เจ็บไหม?

หลายคนกังวลว่า ทำ IUI เจ็บไหม? โดยทั่วไปขั้นตอนนี้เจ็บน้อยมากหรือแทบไม่รู้สึกเจ็บเลย เพราะใช้สายสวนเล็กมาก และใช้เวลาไม่นาน เพียงแค่รู้สึกไม่สบายเล็กน้อยคล้ายตอนตรวจภายในเท่านั้น

IUI ราคาเท่าไร? ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ

ราคาทำ IUI ในไทย (ข้อมูลปี 2568)

เฉลี่ยต่อรอบ: 10,000–30,000 บาท (ข��้นกับคลินิกหรือโรงพยาบาล)

รวมค่าแพทย์ ยา และอัลตราซาวด์ (บางแห่งอาจคิดแยก)

IUI cost with insurance: หากมีประกันสุขภาพ ควรตรวจสอบว่าครอบคลุมและสามารถเบิกได้หรือไม่

ทำ IUI กี่ครั้งติด? ถ้าไม่ติดต้องทำอย่างไร?

การตั้งครรภ์จาก IUI มักไม่สำเร็จในครั้งแรกเสมอไป โดยเฉลี่ยอาจทำ 3–6 รอบ (ขึ้นกับคำแนะนำแพทย์) ถ้าทำ IUI แล้วไม่ติด แพทย์อาจพิจารณาวิธีรักษาอื่น เช่น IVF หรือ ICSI ที่มีอัตราสำเร็จสูงกว่า

ข้อดี-ข้อเสียของการทำ IUI

ข้อดีของ IUI ✅ ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ✅ ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า IVF ✅ ไม่ต้องใช้ยากระตุ้นไข่ในบางกรณี

ข้อเสียของ IUI ❌ อัตราสำเร็จน้อยกว่า IVF ❌ ไม่เหมาะสำหรับผู้หญิงอายุมากหรือปัญหารุนแรง

IUI ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคู่รักที่มีบุตรยาก

การทำ IUI คือ ทางเลือกแรกๆ ที่แพทย์มักแนะนำสำหรับคู่รักที่ยังไม่พร้อมสำหรับการทำ IVF เพราะมีขั้นตอนง่าย ค่าใช้จ่ายไม่สูง และไม่ต้องผ่าตัด หากคุณกำลังพิจารณาวิธีการนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและเพิ่มโอกาสสำเร็จให้มากที่สุด