Tumgik
verystrongwind · 2 years
Text
เคยมีคนเปรียบเทียบไว้ว่า หากคนสองคนต้องการซื้อบะหมี่ คนหนึ่งเลือกยืนรออยู่กับที่ กับอีกคนเลือกเดินหา คนที่เลือกเดินหาย่อมต้องได้กินบะหมี่
เพราะพยายามมากกว่า ก็ต้องมีโอกาสสำเร็จมากกว่าสิ กระต่ายกับเต่าก็บอกมาแบบนั้นไม่ใช่หรือ เพราะความสำเร็จคือผลตอบแทนของความพยายามไง
จริงหรือ
ในหนังสือของมุราคามิเล่มหนึ่งเล่าถึงเรือที่กำลังล่ม สุดท้ายมีชายกับหญิงคู่หนึ่งรอดชีวิต ทั้งคู่ลอยคอกินเบียร์(ที่รอดจากการเรือจมเช่นกัน) อยู่สามวัน อยู่ๆหญิงสาวก็บอกว่า จะไปละนะ จะว่ายน้ำออกไปหาเกาะ ฝ่ายชายบอกว่าไปเถอะ เค้าจะนอนกินเบียร์อยู่นี่แหละ
เวลาผ่านไปสามปี
ทั้งคู่พบกันอีกครั้งที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง
ต่างฝ่ายต่างถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เกิดอะไรขึ้น
ฝ่ายหญิงเล่าว่า หลังจากตัดสินใจ ก็ว่ายน้ำอยู่หลายวัน เจอเกาะร้างบ้าง เจอเรือแตกบ้าง แต่ในที่สุดก็เจอเกาะที่มีคนในที่สุด
ฝ่ายชายเล่าว่า เค้านอนลอยคออยู่เกือบอาทิตย์ อยู่ๆก็มีเรือผ่านมา เลยช่วยเค้าไว้ได้
ฝ่ายหญิงรู้สึกโกรธ
เธอโกรธที่ฝ่ายชายไม่ได้พยายามอะไรเลย แต่กลับได้ผลเท่าๆกันกับเธอ
กลับมาที่ร้านบะหมี่
ระหว่างคนที่ยืนรอกับคนที่ออกเดินหา
คุณว่าใครจะได้กินบะหมี่ก่อนกัน
0 notes
verystrongwind · 2 years
Text
เคยเล่นเกมส์บันไดงูไหม
เกมส์ที่จะให้เราทอยลูกเต๋าเพื่อที่จะเดินต่อไปข้างหน้าตามตาราง ระหว่างทางก็อาจจะมีบันได ที่อาจจะพาเราเลื่อนขึ้น หรือเลื่อนลงก็ได้ ถ้าบังเอิญทอยไปตกลงช่องนั้นพอดี
บางคนโชคดีหน่อย ทอยทีไรได้ช่องเลื่อนขึ้นตลอด ในขณะที่บางคน นอกจากทอยธรรมดาๆ จะได้ไม่เกิน 1 เกิน 2 แล้ว ยังขยันไปตกช่องบันไดงู พากลับลงไปที่จุดเริ่มต้นซะอย่างนั้น
เจอแบบนี้บ่อยๆ มันคงมีท้อ จนอยากจะร้องโว้ยดังๆ แล้วคว่ำกระดานบ้างแหละ หรือคงอยากมองหน้าเพื่อน แล้วบอกว่า "มึง กูว่าไปเล่นอย่างอื่นเหอะ กูยอมแพ้"
ในเกมส์บันไดงู เราอยากยอมแพ้เมื่อไหร่ก็ยอมแพ้ได้ ไม่จำเป็นต้องทนกับความไปไหนไม่ได้ โชคไม่ดี และอาจจะคำถามว่าทำไมต้องเป็นกูทุกทีเลยวะ เรายอมแพ้ได้ โดยไม่ได้มีอะไรให้กังวล ไม่มีอะไรต้องเสีย อย่างมากก็ทนเพื่อนล้อสักหน่อยหนึ่ง ซึ่งเดี๋ยวพอมีเรื่องใหม่เข้ามา มันก็พร้อมจะลืมทุกสิ่งและมูฟออนไปเรื่องใหม่ได้ทันที
แต่กับบางเรื่อง ต่อให้วนลูปอยู่ในความบัดซบแค่ไหน หรือ 'พยายามแทบตายแล้วก็กลับมาจุดเดิม' หรือ 'ชีวิตโชคดีอะไรไม่เคยมีกับเค้าหรอก' หรือ 'เรียนรู้ตั้งแต่สี่ขวบแล้วจ่ะ ว่าความสำเร็จหนะมันไม่ใช่ผลตอบแทนของความพยายามซะหน่อย'
ต่อให้เป็นแบบนี้ เราก็ไม่สามารถยอมแพ้ได้ จะล้มโต๊ะก็ไม่ได้ จะหันไปบอกว่า 'เออๆ กูยอมแล้ว มึงชนะ ปล่อยกูไปเถอะ' ก็ไม่รู้จะหันไปบอกใคร
...
ที่เขียนมาถึงตรงนี้ ไม่ได้จะบอกว่ามีทางออกหรอกนะครับ เพราะตัวผมเองหลังจากเพียรพยายาม ทำตัวอยู่ในกรอบที่คนปกติควรจะเป็นมา 34 ปี ก็ยังหาคำตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่ถึงจะยังไม่มีคำตอบ แต่มีสองเรื่องครับ ที่พอจะบอกต่อได้
1. คุณไม่ได้ตัวคนเดียว คนอาภัพโชคแบบเรา มีเยอะครับ แทนที่จะคิดว่า 'โว้ยยย ทำไมกูซวยแบบนี้วะเนี่ย เหนื่อยย' ให้ลองกลับตารางดู ไล่จากคนซวยที่สุดเป็นเบอร์หนึ่ง จะพบว่า เออ เรายังอยู่ไกลเหมือนกันนะ จากท๊อปเทนเนี่ย บนๆล่างๆ ยังมีอีกเพียบ อบอุ่นจัง แล้วหัวเราะต่อไปครับ
2. บางทีมันอาจจะไม่ใช่การหาคำตอบ เพราะคำตอบอาจจะไม่มีอยู่จริงก็ได้ บางทีมันอาจจะเป็นแค่เรื่องของการ'ตอบสนอง'ไปเรื่อยๆ ชีวิตจะโยนสิ่งต่างๆเข้ามา เราก็แค่ต้องตอบสนองต่อเรื่องนั้นไป ทีละเรื่องๆ
สองคำตอบนี้ไม่ใช่ข้อคิดของคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต คนที่รวยเป็นหมื่นล้าน มีบ้าน มีรถก่อนอายุ 30 นะครับ ไม่ต้องยึดถือเป็นแบบแผนแต่อย่างใดๆ
ผมแค่เล่าให้ฟัง
0 notes
verystrongwind · 2 years
Text
มีคนเคยบอกว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม
คงหมายถึงมนุษย์ส่วนใหญ่แหละ
เพราะมันก็มีมนุษย์บางประเภทที่เลือกที่จะแยกออกไปกินข้าวกลางวันคนเดียว ปฏิเสธคำชวนของเพื่อนร่วมงาน เพื่อจะไปนั่งจิบเบียร์ในร้านเล็กๆคนเดียว จองตั๋วหนังรอบสุดท้ายคืนวันเสาร์
สังคมมักจะเรียกคนแบบนี้ด้วยคำหลายคำ แล้วแต่พื้นที่และช่วงวัยของคนที่เรียก เช่น ติสท์ อินดี้ อินโทรเวิร์ท โลกส่วนตัวสูง
ทั้งหมดทั้งมวลคือการชี้ไปที่แก่นของภาพรวมทั้งหมด คือชื่อเล่นของ "มันชอบอยู่คนเดียว ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน"
หรอวะ?
ชอบอยู่คนเดียวจริงหรอวะ?
มันคงมีแหละ คนที่ชอบอยู่คนเดียวจริงๆ
แต่มันก็คงมีอีกแหละ คนที่ต้องอยู่คนเดียว
คนแบบหลังนี่ ต่อให้ยืนขาก่ายกับพี่ผู้ชายข้างหน้าในขณะที่มีผมของพี่ผู้หญิงด้านข้าง กับตะกร้าของน้องนักศึกษาข้างหลังก่ายอยู่บนหัวก็ยังคงรู้สึกว่าอยู่คนเดียว
เพราะมันไม่ใช่เรื่องของคนรอบข้าง ไม่ใช่เรื่องของสภาพอากาศ เรื่องการเมือง เรื่องมลพิษ เรื่องงาน สุขภาพ การนอนหลับ ออกกำลังกาย บทสนทนา ตัวเลือกกับข้าว ไม่ใช่เรื่องอะไรทั้งนั้น
มันคือความรู้สึกของการมีตัวตนแบบเอกพจน์บนโลกใบนี้ ตัวตนที่ไม่มีไหล่ให้พิง ไม่มีหูไว้รับฟัง ไม่มีปากไว้คอยห่วงใย ตัวตนที่หัวใจมันอ่อนแอเกินกว่าจะบังคับไม่ให้สิ่งที่ไหลออกมาจากเรามีแต่เพียงเรื่องราวที่เป็นคำพูด
มันมีคนแบบนี้อยู่
ต่อให้วันนี้เราสู้ไม่ไหว ไม่มีแรงเหลือพอจะซัพพอร์ตใคร ก็ให้โลกมันโหดร้ายของมันไปก็พอ
อยู่รอบๆตัวเรา
อาจจะเป็นน้องบัญชี พี่แม่บ้าน เพื่อนคอกข้างๆ พี่ที่ขอทางลงรถไฟฟ้าเมื่อเช้า อาจจะเป็นใครก็ได้
โลกที่โหดร้าย จะผลิตคนแบบนี้ออกมาเสมอ
อาจจะเป็นที่เรารู้จักหรือไม่รู้จัก ใกล้ตัวหรือไกลตัว
โลกวันนี้มันโหดร้ายพอแล้ว
เพราะคนที่ต้องอยู่คนเดียวอาจจะอยู่ใกล้เรามากกว่าที่เราคิดก็ได้
มีคนเคยบอกว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม
Tumblr media
1 note · View note