Tumgik
#ไม่ออกกำลังกาย
luckynumber1992 · 8 months
Text
เตือน!! IF ผิดวิธี ลดน้ำหนักไม่ได้ แถมเสี่ยงโรค
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ หากทำ IF ไม่ถูกวิธี
Tumblr media
อดอาหารมากเกินไปจนเสี่ยงขาดสารอาหาร
รับประทานอาหารมากเกินไป เพราะต้องรีบกินก่อนถึงช่วงเวลางดมื้ออาหาร
เลือกเวลาในการกิน และงดการกินผิดเวลา อาจเสี่ยงโรคที่เกี่ยวกับลำไส้
นอนดึก ในคนกลุ่มที่เข้านอนดึกมีความเสี่ยงในความอ้วนง่ายอยู่แล้ว เนื่องจากระบบฮอร์โมนที่ซ่อมแซมร่างกาย และระบบความอิ่มในร่างกายจะรวนทำให้คนนอนดึกไม่สามารถงดมื้ออาหารได้ต้องกินอาหารหวาน และนำไปสู่ความอ้วน
ไม่ออกกำลังกาย เนื่องจากในการลดความอ้วนไม่ใช่แค่การควบคุมแคลอรี แต่ยังรวมถึงการสร้างระบบการเผาผลาญที่ถาวรขึ้นด้วย ในส่วนนี้คือการสร้างกล้ามเนื้อเพื่อไม่ให้เกิดอาการโยโย่ขึ้นภายหลัง
ยังติดหวาน หากทำ IF แล้วยังติดกินอาหารหรือขนมหวานๆ อยู่ อาจเสี่ยงติดหวาน ซึ่งเมื่อทำการงดมื้ออาหารจะทำให้เกิดอาการโหยน้ำตาล และอาจทำให้กินของหวานๆ มากกว่าเดิม
ประโยชน์ของ IF
การทำ IF มีประโยชน์ให้กับร่างกายในหลายๆ ด้านนอกจากการลดน้ำหนัก ดังนี้
อนุมูลอิสระในร่างกายลดลง
การอักเสบซ่อนเร้นในร่างกายลดลง
ชะลอวัย อ่อนเยาว์ขึ้น เป็นผลมาจากอนุมูลอิสระ และการอักเสบในร่างกายลดลง
ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีมากยิ่งขึ้น (ถ้าร่างกายมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน อาจเสี่ยงโรคเบาหวาน)
ช่วยทำให้ยีนส์ที่ดีบางตัวแสดงออกได้ดีขึ้น โดยเฉพาะสารที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง ทำให้เราฉลาดขึ้น ความจำดีขึ้น
ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ
ทำ IF อย่างไรให้ถูกวิธี
ตั้งระยะเวลาในการกิน และงดมื้ออาหาร ให้เป็นไปตามนาฬิกาชีวิต กล่าวคือ หากเลือกสูตรกิน 8 ชม. งดมื้ออาหาร 16 ชม. ไม่ควรเลือกช่วงเวลากินอาหารตอนดึกๆ ควรเลือกกินอาหาร 8 ชม. ในช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตปกติ เช่น ตอนเช้า บ่าย เย็น
ในช่วงที่กินอาหารได้ ควรกินอาหารให้เพียงพอ แต่เน้นอาหารคลีน โปรตีนสูง ไขมันต่ำ ผักผลไม้ต่างๆ ให้สารอาหารครบถ้วน รวมถึงคาร์โบไฮเดรตที่ยังต้องกินอยู่ แต่เลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต แทนคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว และลดของหวานต่างๆ
ไม่ลดปริมาณอาหารลงจนมากเกินไปจนกลายเป็นการอดอาหารทั้งตอนที่กินอาหารได้ และช่วงที่ตั้งใจงดมื้ออาหาร
ช่วงงดมื้ออาหาร ยังสามารถรับประทานอาหารที่ไม่ให้พลังงาน หรือให้พลังงานต่ำมากๆ ได้ เช่น น้ำเปล่า หรือกาแฟดำ แต่ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีสารให้ความหวานแทนน้ำตาล
ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม วันละ 30 นาที — 1 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 3–5 ครั้ง
หวย
0 notes
worakonigoal2 · 2 years
Text
โรคแพนิค คืออะไร
โรคแพนิค หรือโรคตื่นตระหนกนั้นเป็นโรควิตกกังวลประเภทหนึ่งที่เกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติที่ทำงานผิดปกติโดยระบบประสาทนี้เป็นระบบที่ควบคุมการทำงานของร่างกายหลายส่วนจึงทำให้เกิดอาการหลายอย่างร่วมกันเช่น หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกมาก igoal ท้องไส้ปั่นป่วน วิงเวียน ซึ่งอาการจะเกิดขึ้นแบบฉับพลันแม้ไม่มีสาเหตุหรือมีเรื่องให้ต้องตกใจ ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกกลัวตื่นตระหนกเป็นอย่างมากไม่กล้าออกไปไหนหมกมุ่นเรื่องสุขภาพจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมาดูกันเลย
โรคแพนิค ไม่อันตรายแต่ควรรักษา
โรคแพนิคสามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยาเพื่อปรับสมดุลของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติหรือการตรวจเลือดหาสาเหตุที่เกิดทางด้านร่างกาย เพื่อการรักษาที่ได้ผลดีนั้นจะต้องมีการรักษาทางจิตใจควบคู่ไปด้วย ปรับแนวคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วยรวมถึงคนรอบข้าง igoal88 คนใกล้ชิด ควรทำความเข้าใจกับโรคนี้และให้กำลังใจผู้ป่วยการฝึกการหายใจเพื่อควบคุมสติ เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่สามารถช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล
ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยสามารถทำได้ด้วยตนเองนอกจากนี้ควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ผ่อนคลายจากความเครียดรับประทานพักผ่อนให้เพียงพอและเป็นเวลา ทางเข้า igoal88 อาจหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตประจำวันด้วยความเร่งรีบ รวมทั้งการใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือมากเกินไปแม้ว่าโรคนี้จะไม่รุนแรงหรือเป็นอันตรายถึงชีวิตแต่อาการของโรคอาจไปสัมพันธ์คล้ายคลึงกับปัญหาสุขภาพร้ายแรง อื่นๆเช่น โรคความดันโลหิตสูงโรคระบบหลอดเลือดหัวใจและหัวใจวายเฉียบพลันดังนั้น หากสงสัยว่ามีอาการของโรคแพนิค ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด
โรคแพนิคอาการเป็นอย่างไร
- ใจสั่น แน่นหน้าอก
- หัวใจเต้นแรง 
- หายใจหอบ หายใจถี่
- เหงื่อออกมาก เหงื่อแตก
- ตัวสั่น
- ปั่นป่วนในท้อง
- วิงเวียน คล้ายจะเป็นลม
- หวาดกลัว รู้สึกกลัวไปหมดทุกอย่าง 
- มือสั่น เท้าสั่น
- ตัวชา ควบคุมตัวเองไม่ได้
อาการแพนิคจะเกิดที่ไหนเมื่อไรก็ได้และคาดเดาได้ยากโดยขณะเกิดอาการผู้ป่วยมักกลัวและรีบไปโรงพยาบาลซึ่งแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินมักตรวจไม่พบความผิดปกติ และมักได้รับการสรุปว่าเป็นอาการเครียดหรือคิดมาก ซึ่งผู้ป่วยก็มักยอมรับไม่ได้และปฏิเสธว่าไม่ได้เครียด
ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคแพนิค
กรรมพันธุ์ คนที่มีญาติหรือประวัติครอบครัวเป็นโรคแพนิค มีแนวโน้มเป็นได้มากกว่าคนทั่วไป
การใช้สารเสพติด
ความผิดปกติของฮอร์โมน อาจทำให้สารเตมีในสมองเสียสมดุลได้
มีประสบการณ์ เคยผ่านเหตุการณ์เลวร้ายในชีวิต
พฤติกรรมต่างๆ ที่เป็นตัวกระตุ้น เช่น ทำงานกับคอมพิวเตอร์และมือถือนานๆ เผชิญความกดดัน อยู่ในสภาวะที่เร่งรีบ เครียดวิตกกังวล ไม่ออกกำลังกาย พักผ่อนน้อย
เครียดสะสม เกิดจากการใช้ชีวิตอย่างจริงจัง เคร่งเครียด อยู่ในสภาวะกดดันเป็นประจำ
เริ่มต้นดูแลตัวเองแบบง่ายๆ ด้วยการงดพฤติกรรมเหล่านี้
- การใช้ชีวิตประจำวันด้วยความเร่งรีบ
- กินนอนไม่เพียงพอและไม่เป็นเวลา
- ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือมากเกินไป
0 notes
thiraphon03 · 3 years
Photo
Tumblr media
พี่เจ้ปิปิง🥰 อยู่ Sydney 🇦🇺ลูกเทรนคนนี้สุดพีค ดังสุดในซิตนีย์แล้วเพราะผมรู้จักอยู่คนเดียวในตอนนี้ฮ่าๆ(ส่งสัยเปิดลำโพงเลยดัง55) #แชร์ผลลัพธ์ #ผอมกับกานต์ #เทรนไม่โหดกินจุได้ด้วย #ไม่ออกกำลังกาย (at Germany) https://www.instagram.com/p/CPJdtr9Bs1j/?utm_medium=tumblr
0 notes
fitfoodfriendly · 2 years
Photo
Tumblr media
ถึงจะงานเยอะ กินขนมบ่อย แต่ก็ออกกำลังกายน้ำหนักลด ไขมันก็ลงได้นะ ไม่ได้เป็นหมูที่แข็งแรงซะหน่อย😂 💕💕เย็นนี้ลงคลิปใหม่ในยูทูป 👉🏻 30 นาที บริหารหน้าท้องท่านอนล้วน สลายไขมันสร้างซิกแพค เคล็ดลับของการลดน้ำหนัก 👉🏻 หลายๆคน คงจะรู้ว่า ถ้าเราออกกำลังกายให้ดี และควบคุมอาหารให้ดีด้วย เป็นวิธีการลดน้ำหนักธรรมชาติ ที่ได้ผลดีและยั่งยืนที่สุด ถ้าเพื่อนๆมีเวลา ทำได้อย่างต่อเนื่อง แจแนะนำเลย ดูคลิปในช่องออกกำลัง #fitfoodfriendly ของแจได้เลย มีให้เลือกเยอะมาก 💪🏻💪🏻แต่สิ่งที่แจอยากจะบอก คือ ถ้าเราหายไปบ้างจากการ “ไม่ออกกำลัง” หรือ ถ้าเรายัง “อยากกิน” ยังมี “ความสุขกับการกิน” การไม่ควบคุมอาหาร ไม่ออกกำลังกาย ไม่ได้แปลว่าจะลดน้ำหนักไม่ได้น้า ถ้าเราบาลานซ์ได้มากพอ เราแค่ต้องทำ ให้กินไม่เกินใช้ออก หรือในสัดส่วนที่ติดลบมากกว่า ในกรณีคนที่จะลดหุ่นเท่านั้นเอง 😘🥐ใครติดกินขนมเก่ง ยิ่งต้องพยายามออกกำลัง ให้มากกว่าคนที่เค้าควบคุมอาหาร แค่นั้นเองค่า 💕วันนี้ลงคลิปใหม่ด้วยนะ 👉🏻 30 นาที บริหารหน้าท้องท่านอนล้วน สลายไขมันสร้างซิกแพค วันนี้แจคัดเอาท่าบริหารหน้าท้องแบบท่านอนล้วนๆมาให้เลยค่ะ บอกเลยเบิร์นได้เยอะ หุ่นสวยแน่นอน แถมไม่ใช้อุปกรณ์ ท่านอนด้วย ♡SUBSCRIBE FOR WEEKLY VIDEOS ► https://youtube.com/c/Fitfoodfriendly ♡ Add me on 📷 INSTAGRAM: @fitfoodfriendly ► https://www.instagram.com/FitFoodFriendly 🔵 FACEBOOK: FitFoodFriend ► https://www.facebook.com/FitFoodFriend 🟠 TIKTOK: www.tiktok.com/@fitfoodfriendly 🟢 LINE@ ‣ https://lin.ee/QFNWVzx 💬 TWITTER ‣ https://twitter.com/fitfoodfriendly 💕WEBSITE ‣ fitfoodfriendly.co ♡ Living in Bangkok, working a full time office job in Marketing and making workout videos on social media. Also a ACE Certified Personal Trainer & PN Certified Nutrition Coach. MY FAVOURITE PARTS: Workout To Eat without guilt #หุ่นดีไม่งดของชอบ #fitfoodfriendly #ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ #ออกกำลังกายที่บ้าน (at Petit Soleil Specialty Coffee) https://www.instagram.com/p/CgV7utpPhPs/?igshid=NGJjMDIxMWI=
1 note · View note
lnws168 · 2 years
Text
ลูกน้ำหนักเกิน ดูแลอย่างไร คุมน้ำหนักลูกยังไง
Tumblr media
เด็กน้ำหนักเกิน สาเหตุของการมีน้ำหนักเกินในเด็ก เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม การเลี้ยงดูของแต่ละครอบครัว สิ่งแวดล้อม พฤติกรรมการบริโภคอาหาร ขาดการออกกำลังกายหรือความผิดปกติของฮอร์โมนต่อมไร้ท่อ
สาเหตุของ ลูกน้ำหนักเกิน
กินมากกว่าที่ใช้พลังงานในแต่ละวัน
การใช้ชีวิตอยู่ประจำ
กินแต่อาหารขยะ (Junk Food) อาหารแปรรูป อาหารแปรรูป
บังคับลูกกินอาหารให้ครบไม่ว่าลูกจะอิ่มหรือไม่
ซื้ออาหารที่มีไขมันสูงและน้ำตาลสูงเข้าบ้าน
ให้ลูกกินขนมแทนอาหารเช้า
ให้รางวัลเด็กด้วยขนมช็อคโกแลต
อาหารรสเผ็ด (อาหารรสจัด มักเพิ่มความเสี่ยงต่อการทำให้ฟันผุ และโรคอ้วน)
ทานอาหารว่างหรืออาหารจุกจิกระหว่างมื้อ
ไม่ออกกำลังกาย
ตื่นสาย
เด็กที่มีพ่อแม่เป็นโรคอ้วน ทารกมีโอกาสเป็นโรคอ้วนมากกว่า 80%
ติดตาม สาระน่ารู้ เพิ่มเติมจาก โรงเรียนบ้านเกาะพลวย
0 notes
takecaremyhealth · 2 years
Text
สปอตวิทยุ สายน้ำไม่ไหลกลับ สุขภาพก็เช่นกัน รับสมัครคนอยากมีสถานี วิทยุออนไลน์
ปัญหาสำคัญของสุขภาพคนเราก็คือ การใช้ชีวิต ที่ไม่เป็นมิตรกับภูมิคุ้มกัน เป็นต้นว่า ขาดการพักผ่อน นอนน้อย ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ทำงานกลางคืน หรือเที่ยวกลางคืนประจำ ไม่ออกกำลังกาย (more…)
Tumblr media
View On WordPress
0 notes
goypandy-blog · 3 years
Photo
Tumblr media
#แค่เริ่ม เป็นคนไม่ได้อ้วนมาก ใครๆก็บอกแบบนั้น ว่าเราคิดมากไป แต่เราจะรู้ตัวเองว่า เรากำลังจะอ้วน ที่เห็นพุงนั้นคิดว่า"ท้องหรอ" มีไขมันส่วนเกินที่สะสมมานานแสนนาน สัดส่วนเริ่มเปลี่ยน ระบบเผาผลาญพัง ขับถ่ายไม่ดี ไม่ออกกำลังกาย สุดท้ายคือ "พัง" อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้วนะ เราค่อยๆหาแรงบันดาลใจไปเรื่อยๆ หาทางลดนน.จริงจัง ก็จนมาเจอสิ่งที่"ใช่" ปรับเปลี่ยนอาหารการกินใหม่ มีวินัยคือสิ่งสำคัญมาก ที่พาเรามาถึงวันนี้ และเราก็ทำได้ เย้ๆ "เริ่มทำตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย"😘 #ultrame730 https://www.instagram.com/p/CPcTm_oH0Qj/?utm_medium=tumblr
0 notes
worakonigoal2 · 2 years
Text
โรคแพนิค
โรคแพนิค (Panic Disorder) หรือโรคตื่นตระหนก เป็นโรควิตกกังวลประเภทหนึ่งที่เกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติ (Automatic Nervous System) ทำงานผิดปกติ โดยระบบประสาทนี้เป็นระบบที่ควบคุมการทำงานของร่างกายหลายส่วน จึงทำให้เกิดอาการหลายอย่างร่วมกัน igoal เช่น หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกมาก ท้องไส้ปั่นป่วน วิงเวียน ซึ่งอาการจะเกิดขึ้นแบบฉับพลันแม้ไม่มีสาเหตุหรือมีเรื่องให้ต้องตกใจ ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกกลัว ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก ไม่กล้าออกไปไหน หมกมุ่นเรื่องสุขภาพ จนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
โรคแพนิค อาการเป็นอย่างไร?
- ใจสั่น แน่นหน้าอก
- หัวใจเต้นแรง 
- หายใจหอบ หายใจถี่
- เหงื่อออกมาก เหงื่อแตก
- ตัวสั่น
- ปั่นป่วนในท้อง
- วิงเวียน คล้ายจะเป็นลม
- หวาดกลัว รู้สึกกลัวไปหมดทุกอย่าง 
- มือสั่น เท้าสั่น
- ตัวชา ควบคุมตัวเองไม่ได้
อาการแพนิค จะเกิดที่ไหนเมื่อไรก็ได้ igoal88 และคาดเดาได้ยาก โดยขณะเกิดอาการผู้ป่วยมักกลัวและรีบไปโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินมักตรวจไม่พบความผิดปกติ และมักได้รับการสรุปว่าเป็นอาการเครียดหรือคิดมาก ซึ่งผู้ป่วยก็มักยอมรับไม่ได้และปฏิเสธว่าไม่ได้เครียด
ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคแพนิค
อาจเกิดจากสมองส่วนควบคุมความกลัวที่เรียกว่า “อะมิกดาลา” (Amygdala) ทำงานผิดปกติ
กรรมพันธุ์ คนที่มีญาติหรือประวัติครอบครัวเป็นโรคแพนิค มีแนวโน้มเป็นได้มากกว่าคนทั่วไป
การใช้สารเสพติด
ความผิดปกติของฮอร์โมน อาจทำให้สารเตมีในสมองเสียสมดุลได้
มีประสบการณ์ เคยผ่านเหตุการณ์เลวร้ายในชีวิต
พฤติกรรมต่างๆ ที่เป็นตัวกระตุ้น เช่น ทำงานกับคอมพิวเตอร์และมือถือนานๆ เผชิญความกดดัน อยู่ในสภาวะที่เร่งรีบ เครียดวิตกกังวล ไม่ออกกำลังกาย พักผ่อนน้อย
เครียดสะสม เกิดจากการใช้ชีวิตอย่างจริงจัง สล็อตออนไลน์ เคร่งเครียด อยู่ในสภาวะกดดันเป็นประจำ
โรคแพนิค ไม่อันตรายแต่ควรรักษา
โรคแพนิคสามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยาเพื่อปรับสมดุลของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติ หรือ การตรวจเลือดหาสาเหตุที่เกิดทางด้านร่างกาย เพื่อการรักษาที่ได้ผลดีนั้นจะต้องมีการรักษาทางจิตใจควบคู่ไปด้วย ปรับแนวคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วย รวมถึงคนรอบข้าง คนใกล้ชิด ควรทำความเข้าใจกับโรคนี้และให้กำลังใจผู้ป่วย
การฝึกการหายใจเพื่อควบคุมสติ เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่สามารถช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยสามารถทำได้ด้วยตนเอง  นอกจากนี้ ควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ผ่อนคลายจากความเครียด รับประทาน พักผ่อนให้เพียงพอและเป็นเวลา อาจหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตประจำวันด้วยความเร่งรีบ รวมทั้งการใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือมากเกินไป
แม้ว่าโรคนี้จะไม่รุนแรง หรือเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่อาการของโรคอาจไปสัมพันธ์คล้ายคลึงกับปัญหาสุขภาพร้ายแรง อื่นๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคระบบหลอดเลือดหัวใจ และหัวใจวายเฉียบพลัน ดังนั้น หากสงสัยว่ามีอาการของโรคแพนิค ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด
เริ่มต้นดูแลตัวเองแบบง่ายๆ ด้วยการงดพฤติกรรมเหล่านี้
- การใช้ชีวิตประจำวันด้วยความเร่งรีบ
- กินนอนไม่เพียงพอและไม่เป็นเวลา
- ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือมากเกินไป
0 notes
yossawatibiznews · 4 years
Text
ระวังโรคงูสวัด โรคเก่าที่กลับมาใหม่
Tumblr media
ผศ.พญ.สุวิรากร ธรรมศักดิ์ ประธานฝ่ายกิจกรรมสังคม สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
ช่วงนี้จะพบคนไข้มาปรึกษาเรื่อง ตุ่มน้ำ ที่ผิวหนัง เป็นกลุ่ม ๆ เรียงกันเป็นแนว อยู่หลายคน จนเริ่มสงสัยว่างูสวัดมีการระบาดหรือเปล่า แต่งูสวัดเป็นโรคที่อยู่ในตัวผู้ที่เป็นโรคสุกใสแล้ว เมื่อร่างกายภูมิตก อ่อนแอ พักผ่อนน้อย เครียด ไม่ออกกำลังกาย งูสวัดถึงออกมาได้ เพราะฉะนั้นจึงบอกว่ามีการระบาดคงไม่ถูกต้องนัก…
View On WordPress
0 notes
fitfoodfriendly · 4 years
Photo
Tumblr media
โชคดีจังที่เกิดมาตัวเล็ก...โชคดีจังที่กินแล้วไม่อ้วน... ถ้ายังมีความคิดแบบนี้อยู่ ตัวเราก็จะไม่มีทางแก้ไขรูปร่างตัวเองได้สักทีน้า - ฟิตเนสไอดอล นางแบบ เซเลปที่เราเห็นกว่าเค้าจะหุ่นเป๊ะได้ เค้าก็ต้องพยายามกันอย่างมาก (ทั้งคุมอาหารและออกกำลังกายกันหลายชั่วโมง) ตัวเราคนธรรมดาอยากจะLean & Firm แต่ไม่อยากออกกำลังกาย ... แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงค้าาา (เคยเจอไหมคะ บางคนเน้นคุมอาหารอย่างเดียว ไม่ออกกำลังกาย ลองไปจับตัวเค้าดูว่าเค้า Lean จริงมั้ย หรือว่าย้วย กล้ามหาย และตัวเหลวๆแทน) - สำหรับแจมือใหม่ที่กำลังศึกษาเองอยู่ วิธีที่แจใช้ก็คือ 🥩 กินอาหารให้ครบหมู่ : โปรตีน แป้ง ไขมัน แจไม่ได้ลดแป้งค่า ถ้าลดนี่แย่แน่เพราะชอบกินขนมปัง กินขนมมาก แจยังกินคาร์บ ขนมปัง ข้าว ทุกวัน แต่จะเพิ่มโปรตีนต่อวันให้ถึง (แจอยากเพิ่มกล้าม *2.4 = 124g) และแคล 1,400 (คำนวนจาก IBW 52kg) 🏋️‍♀️ ตอนนี้ออกกำลังกาย 3-5 วันโดยจะยกเวทด้วย( upper 2, lower 2) เพราะแจอยากเพิ่มกล้ามเพื่อจะได้มีแหล่งพลังงานในการเผาผลาญไขมันได้เยอะๆ 🏋️‍♀️ มีคาร์ดิโอ 120-150 นาที ผสมทำ HIIT 20 นาที 🏋️‍♀️ทานน้ำ 2-3 ลิตร ไม่มีปัญหาเพราะเป็นคนทานน้ำเยอะอยู่แล้ว 🏋️‍♀️นอนให้ได้ 7 ชั่วโมง - ออกกำลังกายอย่างถูกต้องอาจจะลองเลือกต้นแบบเพื่อกระตุ้นตัวเองว่าเราชอบใครเราก็หารูปคนคนนั้นเอาไว้ วิธีเนี่ยช่วยปลุกพลังใจเราได้ดีเลยทีเดียว ( สะโพกกลมๆ แจนี่ดูเลย แจชอบ Scarlett Johanson ) - ❤️เป็นกำลังใจให้ fitter ทุกคนที่ต้องการ a healthier and happier life นะค้า #fitfoodfriendly (at Bangkok, Thailand) https://www.instagram.com/p/CFV0cjCD_Bp/?igshid=eivu4hw4ldes
0 notes
Photo
Tumblr media
ความดันโลหิตสูง(Hypertension) ความเสี่ยงต่อโรค:เส้นเลือดสมองตีบ/แตก,โรคหัวใจ,โรคไต,โรคหลอดเลือดตีบ เป็นต้น สาเหตุ :กรรมพันธุ์,โรคอ้วน,โรคไตเรื้อรัง,ผลข้างเคียงยาบางชนิด,สูบบุหรี่,ดื่มสุรา,ทานอาหารรสเค็ม,ไม่ออกกำลังกาย อาการ:ไม่มีอาการให้เห็น,บางรายปวดศรีษะโดยเฉพาะท้ายทอย ,หน้ามืด เป็นลม เป็นต้น จะทราบเมื่อมีอาการตรวจเช็ค การรักษา:พบแพทย์ปรึกษา รับยาทาน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ,ควบคุมอาหาร(ลดเค็ม) Plan your life,plan your health,plan insurance Pls, contact me 💖💕 https://www.instagram.com/p/BuANF2WgSUx/?utm_source=ig_tumblr_share&igshid=1nf2v9sqn4e3
0 notes
lovewanida · 4 years
Link
0 notes
eversuccess1me-blog · 5 years
Text
10 ครีมกระชับผิวหน้าหย่อนคล้อยที่ดีที่สุด 2020
10 ครีมกระชับผิวหน้าหย่อนคล้อยที่ดีที่สุด 2020
Estee Lauder Resilience Lift Night : Lifting/Firming Face and Neck Crème
L’oreal Revitalift Anti-Wrinkle and Firming Day Cream SPF 23/PA+++
Shiseido FUTURE SOLUTION LX Total Protective Cream E
Pond’s Age Miracle Wrinkle Firm & Lift Day Cream
Sulhwasoo Essential Firming Cream
Origins Plantscription Power Anti-Aging Cream
Clinique Repairwear Uplifting Firming Cream
Olay Regenerist Micro-sculpting Cream
Eucerin Hyaluron [HD] Filler Night Cream
Kiehl's Super Multi-Corrective Cream
ผู้หญิงเรามีสิ่งที่ขยาดขาดกลัวอยู่มากมาย ผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งถือว่าเป็นศัตรูร้ายอันดับต้น ๆ อีกด้วย   ครีมกระชับผิว
สาเหตุของผิวหย่อนคล้อยน่ากวนใจ
               ปกติแล้ว ผิวของเราจะค่อย ๆ เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของกลไกในร่างกายของเราที่คอลลาเจนจะค่อย ๆ ผลิตขึ้นมาน้อยลง ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อย และในอีกแง่หนึ่งการใช้ชีวิตประจำวันก็เป็นอีกหนึ่งตัวเร่งให้คอลลาเจนเสื่อมตัว จึงทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อยได้เช่นเดียวกันถ้าไม่ระวัง ดังนั้น หากเรารู้สาเหตุ ก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ เพื่อคงผิวหน้าเต่งตึงไว้ได้นานที่สุด
แสงแดด(แรง)
ไม่ว่าสาวคนไหนต่างก็ยี้ใส่ให้กับแดดแรง ๆ  เพราะนอกจากจะทำให้เราร้อนจนเหงื่อตกแล้ว ยังส่งผลเสียต่อผิวของเราอย่างร้ายกาจทีเดียว ทั้งนี้ก็เพราะในแสงแดดมีรังสี UV ที่สามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังได้ ซึ่ง��ะไปกระตุ้นการสร้างสารอนุมูลอิสระไปทำลายคอลลาเจน อีลาสตินและเซลล์ผิวชั้นใน ส่งผลให้ผิวหน้าของเราหย่อนคล้อยก่อนวัย
ความเครียด
ให้ท่องไว้ว่า ความเครียดไม่ดี ไม่ว่าจะเครียดน้อย หรือเครียดเบา ๆ ก็ไม่ควรเครียด เลี่ยงได้ให้เลี่ยงเลย เพราะเมื่อเวลาที่เราเครียด จะส่งผลต่อร่างกาย ทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ฮอร์โมนเอสโตรเจน’ ที่มีส่วนช่วยให้ผิวเต่งตึง เรียบเนียน ควบคุมความชุ่มชื่นของผิว ตลอดจนขับของเสียจากรูขุมขน ดังนั้น หากเรามีความเครียดก็จะขัดขวางไม่ให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผิวก็จะค่อย ๆ เสื่อมสภาพลง ความหย่อนคล้อยก็จะมาเยือนในที่สุด
มลภาวะร้ายรอบตัว
ยิ่งสาว ๆ ที่อยู่ในเมืองแล้ว ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะมลภาวะร้าย อย่างควันจากท่อไอเสีย ฝุ่นละออง หรือแม้แต่ควันบุหรี่และหากได้รับมันในปริมาณมาก ๆ จนเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกาย ก็จะทำให้ระบบการทำงานภายในร่างกายผิดปกติ โดยเฉพาะการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นตัวการเร่งให้ผิวหน้าหย่อนคล้อยก่อนวัย
ละเลยการบำรุงผิว
สาว ๆ บางคนไม่ค่อยให้การใส่ใจกับการดูแลผิวหน้าอย่างที่ควรจะเป็นเท่าไหร่ คิดว่าปล่อยไปตามธรรมชาติอย่างนี้ดีแล้ว แต่ความจริงก็คือ ไม่ว่ายังไงก็ต้องดูแลผิว ไม่ควรปล่อยปะละเลยตามธรรมชาติเด็ดขาด เพราะอย่างที่บอกไปว่าเราต้องเผชิญทั้งแสงแดด และมลภาวะต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ที่คอยทำร้ายผิวหน้าของเราทุกวัน หากไม่ทำการฟื้นฟูผิวหน้าแล้วล่ะก็ ผิวก็จะโดนทำร้ายไปเรื่อย ๆ จนผิวหย่อนคล้อย ดูแก่เกินอายุจริง
ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
ทั้งสองอย่างอาจเป็นของโปรดของสาว ๆ หลายคน แต่ถ้าอยากจะเลี่ยงผิวหน้าหย่อนคล้อยก่อนวัยแล้วล่ะก็ ต้องเพลา ๆ ลงหรือเลิกไปเลยก็ยิ่งดี เพราะควันจากบุหรี่เต็มไปด้วยสารอันตรายที่ไม่เพียงทำร้ายปอด แต่ยังทำลายผิวอีกด้วย ทำให้ผิวเสื่อมสภาพลง ส่วนแอลกอฮอล์นั้น ดื่มได้พอประมาณ ไม่ควรมากเกินไป เพราะแอลกอฮอล์จะไปทำลายการสร้างคอลลาเจนของผิวได้
สารอาหารไม่พอ
บางครั้งการที่ผิวไม่เต่งตึง ขาดน้ำ และเริ่มที่จะหย่อนคล้อยนั้นก็เกิดจากการที่เราขาดสารอาหารบางตัวไป เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินอี ซึ่งมักพบได้ในผักและผลไม้ ดังนั้น ในแต่ละวันพยายามทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ รวมทั้งดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอด้วย โดยให้ค่อย ๆ จิบไประหว่างวันให้ได้ 8-10 แก้ว ก็จะช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื่น เต่งตึงไว้ได้
ไม่ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ควบคุมน้ำหนักแล้ว ยังส่งผลดีต่อผิวของเราอีกด้วย เพราะจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดี ส่งผลให้ผิวดูเปล่งปลั่ง
วิธีกระชับผิวหน้าให้เต่งตึง ห่างไกลจากความหย่อนคล้อยก่อนวัย
               เมื่อรู้แล้วว่าสาเหตุใดบ้างที่จะเป็นตัวเร่งให้ผิวหน้าหย่อนคล้อยก่อนวัยได้ ก็มาสู่ขั้นตอนต่อไปที่จะดูแลกระชับผิวหน้าให้กลับมาเต่งตึงได้ดังเดิม ด้วยวิธีต่อไปนี้
กินเพื่อผิว
เริ่มต้นจากสิ่งที่ง่ายที่สุด นั่นคือ เรื่องของอาหารการกิน ให้เพิ่มผักและผลไม้ที่ดีต่อผิวในแต่ละมื้อให้มากขึ้น เช่น แตงกวา มะเขือเทศ มะละกอ เป็นต้น พร้อมทั้งพยายามเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง เพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ เสียความชุ่มชื่นได้ พร้อมกันนั้นต้องไม่ลืมที่จะดื่มน้ำเปล่าให้ได้ 8-10 แก้วต่อวัน
มาส์กหน้า
การมาส์กหน้าก็เป็นอื่นวิธีหนึ่งที่จะเติมสารอาหารและช่วยให้ผิวเต่งตึงขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นมาส์กแผ่นหรือจะผสมมาส์กหน้าเองจากส่วนผสมธรรมชาติก็ได้ ด้วยการผสมแตงกวา นมสด และน้ำผึ้ง ปั่นรวมกัน ดูให้ตัวมาส์กเหนียวข้นหน่อย จากนั้นให้นำมามาส์กหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที อย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็จะช่วยกระชับผิวหน้าให้เต่งตึงขึ้นได้
นวดหน้า
นวดเองก็ได้ หรือใครอยากจะไปลงคอร์สนวดหน้าที่ร้านก็ไม่มีปัญหา การนวดหน้าจะเป็นการกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดให้ใบหน้าไหลเวียนได้สะดวก และยังกระชับผิวได้อีกด้วย โดยในขณะที่กำลังนวดหน้า อาจจะเติมนมสด น้ำผึ้ง หรือเนื้อว่านหางจระเข้ลงไปบนผิวหน้าด้วยก็ได้ เพื่อเติมความชุ่มชื่นให้ผิว
ใช้ครีมกระชับผิวที่มีประสิทธิภาพ
ครีมบำรุงผิวหน้าเพื่อกระชับผิวหน้ามีอยู่หลายแบรนด์ก็จริง แต่ครีมที่มีประสิทธิภาพดี ซึ่งจะช่วยให้ผิวหน้าของเรากระชับ เต่งตึงนั้นมีไม่มากนัก ที่สำคัญจะต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพของผิวด้วย เช่น สำหรับผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม
ฉีดสารเติมเต็ม (ฟิลเลอร์)
วิธีนี้อาจจะต้องมีงบในกระเป๋าสักหน่อย เพราะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง และเหมาะกับสาว ๆ ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยที่ค่อนข้างมาก หรือสาวที่ต้องการจะเห็นผลลัพธ์เร็ว แต่ก็มีข้อระวังและความเสี่ยงมากกว่าวิธีอื่น ดังนั้น ต้องทำการบ้านศึกษาให้ดีทีเดียว ไม่อย่างนั้นอาจจะเจอเข้ากับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หมอที่ไม่มีฝีมือ และฟิลเลอร์ปลอมได้
ทรีทเมนต์กระชับหน้า
ถ้าเป็นคนกลัวเข็ม หรือไม่กล้าที่ฉีดฟิลเลอร์ ทรีทเมนต์ก็นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยปรับให้ผิวหน้าที่หย่อนคล้อยกลับมากระชับเต่งตึง���ึ้นได้ สำหรับผลลัพธ์นั้นก็ขึ้นอยู่กับระดับความหย่อนคล้อยและคอร์สที่ใช้ในการรักษา แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ เพราะอาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้
10 ครีมกระชับผิวหน้าหย่อนคล้อยที่ดีที่สุดมวิธีที่ง่ายที่สุดที่ไม่ว่าใครก็ทำได้ในการกระชับและลดความหย่อนคล้อยให้กับใบหน้า นั่นก็คือ การบำรุงด้วยครีมที่มีคุณสมบัติในการเข้ากระชับ
Estee Lauder Resilience Lift Night : Lifting/Firming Face and Neck Crème
ครีมบำรุงผิวเพื่อกระชับและลดความหย่อนคล้อยให้กับใบหน้า นอกจากนี้ยังช่วยดูแลปัญหาริ้วรอย ผิวหม่นหมองไม่สดใส และผิวแห้งขาดน้ำได้อีกด้วย ด้วยตัวเนื้อครีมที่เข้มข้นจะช่วยให้ผิวสร้างคอลลาเจนได้ตามธรรมชาติ คืนความกระชับ เต่งตึง ทั้งยังสามารถใช้เป็นมาส์กเพื่อเสริมบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก
วิธีใช้ :
หลังจากทำความสะอาดและเตรียมพร้อมผิวหน้าแล้ว ให้ทาครีมก่อนนอน
กรณีที่ใช้เป็นมาส์ก ทาให้ทั่วใบหน้า แล้วทิ้งไว้ 10 นาที หลังจากนั้นใช้กระดาษทิชชู่เช็ดออก ใช้เพียงอาทิตย์ละครั้ง
ราคา : 4,400 บาท
back to menu ↑
L’oreal Revitalift Anti-Wrinkle and Firming Day Cream SPF 23/PA+++
ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับกลางวัน พร้อมผสมของสารป้องกันแสงแดด SPF 23 PA++ และ เทคโนโลยีเดอร์มาลิฟท์ จึงช่วยในการลดเลือนริ้วรอย และกระชับผิวที่ 8 จุดสำคัญทั่วใบหน้าและลำคอ ช่วยให้ผิวดูเต่งตึง และดูชุ่มชื่นมีน้ำมีนวล
วิธีใช้ : ทาเป็นประจำทุกเช้าบริเวณใบหน้าและลำคอ
ราคา : 599 บาท
back to menu ↑
Shiseido FUTURE SOLUTION LX Total Protective Cream E
ครีมบำรุงสำหรับกลางวันที่จะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรง ด้วยเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม เข้มข้น สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนานตลอดทั้งวัน ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของ Shiseido ตรงเข้าเสริมการทำงานของ Daytime Defense Gene ของผิว ผิวจึงแลดูสุขภาพดี พร้อมได้รับการปกป้องแม้ต้องเผชิญกับแสงแดดและมลภาวะ ซึ่งเป็นศัตรูร้ายของผิว
วิธีใช้ : ทาบนผิวหน้าในตอนกลางวันเป็นประจำทุกวัน
ราคา : 1,380 บาท (20 กรัม)
back to menu ↑
Pond’s Age Miracle Wrinkle Firm & Lift Day Cream
ครีมบำรุงผิวสำหรับผิวหน้าที่มีปัญหาหย่อนคล้อย ช่วยให้ผิวหน้ากระชับขึ้น ด้วยเทคโนโลยี Retinol-C Complex และ Lift Up Complex พร้อมช่วยลดเลือนริ้วรอย และปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย SPF30PA+++
วิธีใช้ : ลูบไล้เนื้อครีมให้ทั่วใบหน้าและลำคอเป็นประจำทุกวัน
ราคา : 599 บาท
back to menu ↑
Sulhwasoo Essential Firming Cream
ครีมกระชับผิวหน้าที่มีส่วนผสมของสมุนไพรจากเกาหลี ลูกเดือย สารสกัดจากใบแปะก๊วย และทับทิม ซึ่งคุณสมบัติในการบำรุงผิวหน้าให้กระชับ ไม่หย่อนคล้อย พร้อมกันนั้นก็ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียน
วิธีใช้ : ใช้ครีมในปริมาณที่พอเหมาะ แล้วใช้ฝ่ามือลูบไล้ให้ทั่วใบหน้า ด้วยการใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง กดเบา ๆ ที่ผิวให้ทั่วใบหน้า
ราคา : 3,500 บาท
back to menu ↑
Origins Plantscription Power Anti-Aging Cream
ครีมบำรุงผิวหน้าสูตรเข้มข้น ด้วยอานุภาพล้ำค่าจากเปลือกไม้ของต้นแอโนเกซิส (Anogeissus Bark Extract) ผสานพลังจากสารสกัดธรรมชาติ ซึ่งมีสารสกัดที่สำคัญได้แก่ สารสกัดจากเมล็ดดิลล์ (Dill Seed Extract) และแคสเซีย อลาต้า (Cassia Alata) ช่วยให้ผิวดูกระชับ เรียบเนียน ดูแลข้อกังวลผิวที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
วิธีใช้ : ลูบไล้ผิวหน้าเป็นประจำทุกวัน
ราคา : 3,000 บาท
back to menu ↑
Clinique Repairwear Uplifting Firming Cream
ครีมมอยซ์เจอไรเซอร์สำหรับปัญหาริ้วรอย ด้วยส่วนผสมของสาร anti oxidant ซึ่งทำงานร่วมกับวิตามินซีและอี และสารสกัดจากพืชธรรมชาติ โปรตีน และเป็ปไทด์ ช่วยปกป้องผิว ทำให้ผิวหน้าและลำคอดูยกกระชับ นุ่มขึ้น และปรับผิวให้ดูสุขภาพดีขึ้น เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
วิธีใช้ : ใช้เป็นประจำทุกเช้า หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา
ราคา : 3,000 บาท
back to menu ↑
Olay Regenerist Micro-sculpting Cream
ครีมบำรุงผิวหน้าเพื่อลดเลือนริ้วรอยขายที่ดีสุดากโอเลย์ ด้วยส่วนผสมของ Amino-peptide Complex และสารสกัดจากผลคารอป จึงช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ปรับรูขุมขนให้เล็กลง เติมความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก พร้อมยกกระชับผิว ต่อต้านริ้วรอย และปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอก
วิธีใช้ : ใช้ครีมในปริมาณเล็กน้อย จากนั้นใช้ปลายนิ้วนวดครีม นวดวนเป็นวงกลมในแนวขึ้นบนใบหน้าและลำคอ เน้นบริเวณหน้าผากและแนวคาง ใช้ตอนเช้าและกลางคืน
ราคา : 999 บาท
back to menu ↑
Eucerin Hyaluron [HD] Filler Night Cream
ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับผิว สูตรกลางคืน สำหรับทุกสภาพผิว ด้วยนวัตกรรม High Density Hyaluron Filler หลักการเดียวกับการฉีดฟิลเลอร์ ที่ผสานด้วยไฮยาลูรอนโมเลกุลขนาดใหญ่และเล็ก จึงได้โครงสร้างโมเลกุลที่แข็งแรง เกิดเป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่นยืดหยุ่นสูง ช่วยให้ริ้วรอยแลดูตื้นขึ้นทั้งริ้วรอยลึกและริ้วรอยตื้น ผิวเรียบเนียนกระชับ จากภายในสู่ภายนอก
วิธีใช้ : ทาบำรุงให้ทั่วใบหน้าและลำคอเป็นประจำทุกวัน
ราคา : 1,100 บาท
back to menu ↑
Kiehl's Super Multi-Corrective Cream
ครีมบำรุงสำหรับปัญหาริ้วรอยที่มองเห็นได้ชัดเจน ช่วยให้ผิวยกกระชับ เต่งตึง คืนความชุ่มชื่นให้ผิว พร้อมทั้งช่วยให้ผิวนุ่มเนียน ปลอดภัยสำหรับผิวแพ้ง่าย เพราะปราศจากส่วนผสมของพาราเบน น้ำหอม
วิธีใช้ : หลังทำความสะอาดผิว ทาให้ทั่วใบหน้าทั้งเช้าและเย็น
ราคา : 2,950 บาท
เคล็ดลับคงความเต่งตึงและผิวกระชับ
กันไว้ดีกว่าแก้ การจะคงผิวเต่งตึงและกระชับไว้ได้ให้นานเท่าที่สุด ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ปรารถนา ดังนั้น เพื่อการนั้นแล้ว มาดูเคล็ด(ไม่)ลับที่จะช่วยให้สาว ๆ มีใบหน้าที่อ่อนเยาว์ เต่งตึง และกระชับได้ก่อนวัย
เข้านอนแต่หัวค่ำ
เวลาเข้านอนที่ดีต่อสุขภาพและผิวของสาว ๆ ได้แก่เวลา 4 ทุ่ม เพราะเวลานี้จะเป็นเวลาที่ผิวจะทำการซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายที่เผชิญมาในตอนกลางวัน นอกจากนี้ยังเป็นเวลาที่ฮอร์โมนเจริญเติบโต (Growth hormone) จะผลิตออกมาด้วย ดังนั้นหากเราเข้านอนดึก หรือเลย 4 ทุ่มไปแล้��เป็นประจำ ก็จะส่งผลให้ผิวโทรม เกิดริ้วรอย และหย่อนคล้อยได้ง่ายกว่าปกติ
บำรุงผิวหน้าด้วยน้ำมันจากธรรมชาติ
น้ำมันสกัดธรรมชาติบางชนิดสามารถนำมาบำรุงผิวได้ เพื่อช่วยให้ผิวกระชับและเต่งตึง เช่น น้ำมันอะโวคาโด น้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่นหรือโจโจ้บาออยล์ เป็นต้น และเพราะว่าสกัดมาจากธรรมชาติ จึงไม่มีผลข้างเคียงต่อผิว นอกจากนี้ยังทำให้ผิวของเรานุ่มชุ่มชื้น เปล่งปลั่งได้อีกด้วย
นวดใบหน้าเป็นประจำทุกวัน
เคล็ดลับนี้ไม่ต้องพึ่งร้านนวดหรือคลินิกที่ไหนให้เปลืองเงิน เพราะเราสามารถนวดเองได้ ช่วยให้ผิวกระชับได้ไม่ยาก พร้อมกันนั้นยังเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของผิวหน้าได้อีกด้วย ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี มีเลือดฝาด โดยการนวดใบหน้าด้วยตัวเองนี้ สามารถทำได้ 2 ลักษณะด้วยกัน
นวดใบหน้าขณะบำรุงผิวหน้าด้วยครีมบำรุงหรือตอนที่กำลังดูแลผิว
เวลาที่เรากำลังทาครีมบำรุง แทนที่จะทาเฉย ๆ ให้ใช้ปลายนิ้วค่อย ๆ กดหรือนวดเบา ๆ ขณะลงครีม การนวดระหว่างบำรุงผิวหน้านอกจากจะกระชับ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้กับใบหน้าแล้ว ยังช่วยให้เนื้อครีมเข้าซึมผิวหนังได้ดีอีกด้วย
นวดด้วยนมสด
หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว ให้นำนมสดมาทาให้ทั่วใบหน้า จากนั้นก็ใช้ปลายนิ้วนวดวน ๆ เบา ๆ ก็จะช่วยให้ผิวนุ่ม กระชับ และกระจ่างใส
การคงความเต่งตึงและผิวกระชับก่อนวัยง่ายกว่าที่เราคิด แค่ต้องใส่ใจดูแลตัวเองให้ดีในทุก  ๆ วันก็เท่านั้นเอง
0 notes
worakonigoal2 · 2 years
Text
โรคไต
กินเค็มระวังเป็น โรคไต ประโยคนี้หลายคนมักใช้เตือนคนที่ชอบรับประทานอาหารรสเค็ม แต่โรคไตไม่ได้เข้าโจมตีแต่ผู้ที่ทานรสเค็มเพียงอย่างเดียวเสียแล้ว เพราะโรคนี้สามารถเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ igoal ที่มาจากการใช้ชีวิตประจำวันของเราเองซึ่งส่งผลให้เราเป็นโรคร้ายนี้ได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเรามาทำความรู้จักโรคนี้กันให้มากขึ้นดีกว่า
ทำความรู้จักโรคไต
อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าไตมีหน้าที่กำจัดของเสีย ควบคุมความเป็นกรด-ด่างในกระแสเลือด ควบคุมความสมดุลของเกลือแร่ igoal88 และควบคุมปริมาณน้ำในร่างกายอีกด้วย ดังนั้นเมื่อไตทำงานผิดปกติ หรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จะทำให้เกิดภาวะเลือด��างและขาดวิตามินได้ โดยโรคร้ายนี้มีอยู่หลายชนิด และที่พ��ได้บ่อย ได้แก่ กรวยไตอักเสบ ไตอักเสบ นิ่วในไต ไตเรื้อรัง และไตวาย
โรคไต ชื่อคุ้นหูแต่สาเหตุไม่คุ้นตา
โรคนี้อาจมีความเข้าใจผิด ๆ ว่าเลี่ยงทานเค็มเท่ากับเลี่ยงโรคไต ทั้งนี้ในความเป็นจริงแล้วยังมีสาเหตุต่าง ๆ อีกมากมาย คาสิโนออนไลน์ โดยสาเหตุของการเกิดโรคนี้ ได้แก่
จากพันธุกรรม โดยอาจเป็นมาตั้งแต่กำเนิดหรือค่อย ๆ แสดงอาการในภายหลังก็ได้
เกิดจากโรคอื่นที่มีผลกระทบกับไต เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เป็นต้น
การทานอาหารรสจัดไม่ใช่เพียงแค่รสเค็ม รวมไปถึงหวานจัด หรือเผ็ดจัดด้วยเช่นกัน 
ดื่มน้ำน้อยเกินไป
ไม่ออกกำลังกาย
มีความเครียด
โซเดียมสูงเสี่ยงไต
โซเดียม คือเกลือแร่ชนิดหนึ่งที่มีเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย แต่หากรับประทานเข้าไปในปริมาณมากอาจจะทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคไต เพราะปริมาณโซเดียมที่มากจะทำให้ไตไม่สามารถขับโซเดียมออกไปได้จนเกิดการสะสมไว้ในเลือด เมื่อมีโซเดียมมากไตก็จะยิ่งทำงานหนักผลที่ตามมาคือ ในหน่วยไตจะเกิดความดันสูงขึ้นจนเกิดการรั่วของโปรตีนในปัสสาวะและนำพาไปสู่ภาวะไตเสื่อมในที่สุด พูดมาถึงจุดนี้หลายคนอาจจะพยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูงจำพวกน้ำปลา และเกลือ แต่ในความเป็นจริงแล้วโซเดียมยังอยู่ในอาหารอีกหลายรูปแบบ ได้แก่
เครื่องปรุงรส เช่น ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ น้ำจิ้มสุกี้
อาหารแปรรูป เช่น เบคอน แฮม ผักกาดดอง ผลไม้กระป๋อง และไข่เค็ม
อาหารกึ่งสำเร็จรูป 
อาการของโรคไต
เนื่องจากไตเป็นอวัยวะที่ไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองให้กลับมาสมบูรณ์ได้ การเกิดความผิดปกติกับไตจึงเป็นเรื่องอันตราย โดยในช่วงแรกผู้ป่วยโรคไตแทบจะไม่มีสัญญาณของโรคร้ายนี้เลย แต่อาการจะปรากฏออกมาในระยะท้าย ๆ ที่ไตได้รับความเสียหายไปมากแล้ว จนในระดับสูงสุดอาจเกิดอาการไตวาย และเสียชีวิตได้ อาการของผู้ป่วยโรคไตที่ปรากฏมีดังนี้
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 
ปัสสาวะผิดปกติ เช่น มีกลิ่นผิดปกติ มีสีผิดปกติ เป็นต้น
ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
มีอาการเบื่ออาหาร
ตัวบวมเนื่องจากมีน้ำและเกลือในร่างกายปริมาณมาก
ปวดหลัง ปวดบั้นเอว
ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไต
มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน โรคเก๊าท์ เป็นต้น
มีมวลไตลดลง
มีความดันโลหิตสูง
คนในครอบครัวมีประวัติการเป็นโรคไต
อายุมากกว่า 60 ปี
การรักษาโรคไต
รักษาตามอาการ เช่น การรับประทานยา และค���บคุมความดันโลหิตให้เหมาะสม ลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงยาบางประเภท
รักษาด้วยวิธีการบำบัดทดแทนไต ใช้รักษาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเพื่อช่วยขจัดของเสียทดแทนไตที่เสียไป สามารถทำได้ 3 วิธี ดังนี้
การฟอดเลือด เพื่อทำให้เลือดสะอาดโดยใช้ระยะเวลา 4-5 ชั่วโมง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
การฟอกไตผ่านทางช่องท้อง อาศัยช่องท้องในการฟอกเลือด โดยจะฟอกวันละ 4 รอบ
การปลูกถ่ายไต โดยการนำไตจากผู้บริจาคใส่เชิงกรานของผู้รับไต
การจัดการโภชนาการอาหารในแต่ละวันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยมาเบียดเบียน และสิ่งที่สำคัญไม่แพ้การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ คื อการตรวจสุขภาพไตอย่างสม่ำเสมอเพื่อรู้เท่าทันโรคไตที่อาจเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวนั่นเอง
0 notes
homkahrum · 5 years
Text
การให้น้ำและอาหาร
สำหรับการให้น้ำควรมีเครื่องให้น้ำสำหรับแฮมสเตอร์โดยเฉพาะ เพราะแฮมสเตอร์เป็นสัตว์ที่กินน้ำไม่มากในแต่ละครั้ง ส่วนการให้น้ำเป็นถ้วยก็อาจทำให้แฮมสเตอร์สำลักน้ำได้ ที่สำคัญควรเปลี่ยนน้ำทุกวัน หรือไว้นานสุดไม่เกิน 3 วัน          ในเรื่องของอาหารก็ไม่ควรให้เป็นถ้วยเช่นกัน เพราะจะทำให้แฮมเตอร์มีน้ำหนักมากเกินไป ในขณะเดียวกันก็จะสนใจกิจกรรมต่าง ๆ น้อยลง ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรโรยอาหารเอาไว้ให้ทั่วกรง เพื่อเป็นการกระตุ้นไปในตัว ที่สำคัญคือ ควรให้อาหารเสริม 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ อย่างเช่น แครอท แตงกวา แอปเปิล และมะเขือเทศ เป็นต้น และไม่ให้กินอาหารของคน
การทำความสะอาดกรงแค่ล้างออกด้วยน้ำสะอาดก็เพียงพอแล้ว เพราะการใช้น้ำสบู่หรือน้ำยาทำความสะอาดอาจมีสารเคมีตกค้าง และก่อให้เกิดอันตรายได้เมื่อแฮมสเตอร์เลียหรือกัดกรง ส่วนที่นอนที่ใช้แล้วก็ไม่ควรนำกลับมาใช้อีก หากใช้ผ้าก็ควรนำผืนใหม่มาปูเป็นที่นอน โดยกรงทั่วไปปูแค่ 3 ชั้นก็ได้ แต่สำหรับตู้กระจกควรปูพื้นให้หนาประมาณ 4-5 ชั้น พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้เศษไม้มารองพื้น เนื่องจากเศษไม้มีน้ำมันและสารเคมีที่เป็นอันตรายกับหนูแฮมสเตอร์มากมาย          สิ่งสำคัญสำหรับการเตรียมพื้นที่ด้านนอกให้แฮมสเตอร์วิ่งเล่นเลยก็คือ บริเวณนั้นจะต้องสะอาด ไม่มีสิ่งของที่เป็นอันตรายกับแฮมสเตอร์ หรือทางออกให้วิ่งหนีได้ หากเป็นไปได้ควรเตรียม 2-3 ที่เอาไว้ให้กับแฮมสเตอร์ ก็จะทำให้แฮมสเตอร์รู้สึกตื่นตัว มีความสนใจสิ่งรอบข้าง และมีความสุขมากกว่า          ส่วนในกรณีที่สัตว์เลี้ยงตัวอื่นอยู่ในบ้านด้วย ไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงเหล่านั้นเข้าใกล้หรือเจอกับแฮมสเตอร์ กรง สิ่งของอื่น ๆ และบริเวณที่เป็นที่วิ่งเล่นของแฮมสเตอร์ เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้แฮมสเตอร์รู้สึกเครียด และนำไปสู่การเจ็บป่วยได้ - แฮมสเตอร์อาจเบื่อและกัดกรงได้ ฉะนั้นเพื่อป้องกันพฤติกรรมเหล่านี้ ควรจะมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบ้างเป็นครั้งคราว อย่างเช่น ตำแหน่งที่ตั้งกรง เพิ่มของเล่น หรืออื่น ๆ ยกเว้นกระบอกน้ำกับอาหาร          - ในกรณีที่แฮมสเตอร์มีอาการเครียด อย่างเช่น นอนหลับมากผิดปกติ ไม่ออกกำลังกาย หรืออื่น ๆ ให้ปรับทุกอย่างเข้าที่เดิม หากจำไม่ได้ก็ควรถ่ายรูปเอาไว้เป็นตัวอย่างก่อนเคลื่อนย้าย          - หากแก้ไขแล้วแต่อาการของแฮมสเตอร์ยังไม่หายเป็นปกติ ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
0 notes
anurug · 6 years
Text
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน รู้สาเหตุ ทางรักษา ไม่อันตรายอย่างที่คิด
2019-02-20 16:28:05 ผู้เข้าชม 1
โรคเบาหวาน เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่ก็ยังมีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคเบาหวานได้อีก เช่น อ้วนเกินไป มีน้ำหนักเกิน ไม่ออกกำลังกาย หรือเป็นคนที่มีไขมันในเลือดสูง ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ก็สุ่มเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานเช่นกัน
แต่ก็น่าแปลกใจไม่น้อยว่าถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าโรคเบาหวานเป็นโรคที่น่ากลัวและมีผลแ…
View On WordPress
0 notes