Tumgik
#หลับตา
smaneekaov-blog · 2 years
Photo
Tumblr media
วิชาปราณโอสถ พุทธะอิสระ เตรียม ไม่ต้องบอกแล้ว ยืนขึ้นมาก็ต้องขยับขยาย ทำความพร้อมให้เกิดขึ้นภายในกาย มันไม่ควรจะต้องเตือนกันแล้ว เอียงซ้าย เอียงขวา ปรับหน้าปรับหลัง เหยียดแข้งเหยียดขา มองตัวเอง หาวิธีสร้างตัวรู้แบบผิวเผินก่อน แล้วจึงค่อยพัฒนาจนกระทั่ง กลายเป็นตัวรู้ที่แนบแน่นมากขึ้น ... ถ้าร้อนก็เปิดพัดลมซิ เมื่อกี้ฝ่าเท้ายืนคงที่ไหม หาวิธีถ่ายน้ำหนักให้เสมอกัน ขวากับซ้าย 50 50 ซ้ายครึ่ง ขวาครึ่ง อย่ายืนเบี้ยวอย่าบิด อย่าเอียง อย่าโยก ปรับสมดุลของกายให้เหมาะสม ทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายผ่อนคลายให้มากที่สุด ฝ่ามือไม่เกร็ง นิ้วไม่กำ หัวไหล่ ไม่เกร็ง ไม่หนัก ลองเอามือเท้าไปที่ใต้ขาพับ แล้วลองแอ่นอกซิ เงยคอ แอ่นอกดูซิ แอ่นอกเยอะๆ หายใจออก ปรับสมดุล กลับมาตรง หลู่ไหล่มาข้างหน้า หลังมือชนกัน คางติดอก ลู่มาเยอะๆหน่อย ให้คางก้มให้คางติดอก กลับมาตรง ทำอย่างนี้เพื่อผ่อน คลายกล้ามเนื้อหัวไหล่ กล้ามเนื้อหน้าอก เราจะได้ไม่ตึง ไม่เครียด คนเวลาเครียดมากๆ มันเครียดตรงเส้น เครียดตรงเส้น แล้วคราวนี้ก็จะปวด จะเมื่อย จะวิ่งจี๊ดจ๊าด แล้วคราวนี้ก็จะวิ่งไปหาหมอ หมอก็ไม่รู้จะรักษายังไงถูก ก็เลยต้องวิ่งไปหา หมอทรง หมอเจ้าส่งไป สร้างตัวรู้ เอาพร้อมแล้ว สร้างตัวรู้ให้เกิดภายใน หลับตา แขนสองข้างทิ้งดิ่งข้างลำตัว พร้อมที่จะรับรู้ได้แล้ว ส่งความรู้สึกเข้าไปในกาย รู้แล้ววาง รู้แล้วว่าง รู้แล้วสงบ รู้โดยไม่ปรุง รู้แล้วโล่ง รู้แล้วอิสระ รู้แล้วปลดเปลืองพันธนาการ ฝึกให้ได้บ่อยๆ ผู้รู้ต้องไม่มีพันธนาการ ไม่มีพันธะ ไม่มีความผูกเครื่องข้อง ปราศจากเครื่องร้อยรัด ... เอ้า ระวังล้ม ทำให้ตัวรู้ตั้งมั่นอยู่ภายในกาย ไม่มีอกุศล ไม่มีกุศล ไม่มีความคิด ... กุศลไม่มี อกุศลจะเกิดได้อย่างไร นั่นหมายถึงว่าจิต ของผู้รู้ ไม่มีกุศล แล้วอกุศลมันจะเกิดได้อย่างไร อกุศลก็ต้องไม่มีด้วย ... รู้ไม่ปรุง รู้ไม่แบก รู้ไม่มีพันธนาการ ... เอ้า ถ้า มันลำบากก็นั่งลง ...ระดับเรียนมาถึงขั้นนี่แล้วไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรแล้ว ถ้ายังมานั่งขีด นั่งจดอยู่นีมันก็แสดงว่ามันไม่พัฒนาแล้ว มัน ต้องกลับไปเริ่มตั้วมเตี่ยมๆ ใหม่แล้ว สอนมาเป็นปีแล้วนี่ ทรงตัวรู้ ไม่ได้ทรงราคะ ไม่ได้ทรงโทสะ ไม่ทรงถีนะมิทธะ ความง่วง ไม่ทรงความฟุ้งซ่าน ไม่ทรงความสงสัย ไม่ทรงโมหะ ไม่ทรงโลภะ ไม่เป็นร่างทรงของกุศล ไม่เป็นร่างทรง ของอกุศล มีแต่ตัวความรู้ ตัวรู้ พร้อมรู้ รับรู้ แล้วไม่ปรุง ไม่ปรุงทางหู ไม่ปรุงทางเสียง ไม่ปรุงทางจมูก ไม่ปรุงทางกลิ่น ไม่ปรุงทางตา ไม่ปรุงทางรูป ไม่ปรุงทางสัมผัส ไม่ปรุงทางรส ไม่ปรุงทางลิ้น ไม่ปรุงทางอารมณ์ ทางใจ ... รู้แล้ววาง รู้ แล้วว่าง ไม่ใช้รู้แล้วนิ่ง แม้นิ่งก็ยังไม่ถือว่าถูกต้อง วางแล้วว่าง แล้วเบาสบาย บอกแล้วว่าตัวรู้นั้นเปรียบเหมือนน้ำทีสิงอยู่ ในบรรยากาศ หรืออากาศที่สิงอยู่รอบๆตัวเรา ซึมสิงอยู่รอบตัวเรา มันจะซ่านไปทั่ว ไม่มีขีดจำกัด ซึ่งจะต่างจากคำว่า นิ่ง สงบ สมาธิ อันนั้นมันต้องเพ่ง ต้องกดอารมณ์ สิ่งที่เราสร้างตัวรู้นี่มันสูงกว่าความสงบ ความเพ่งอารมณ์ สูงกว่าคำว่าสมาธิ มันเหมือนกับทหารยามที่อยู่ประตูทั้งสี่ของเมือง ประตูเมืองทั้งสี่ ทิศทั้งสิบ แล้วก็เพ่งมองข้าศึกศัตรูด้วยความเตรียมพร้อม เสมอ โดยไม่วิ่งออกไปนอกกำแพง ไม่เผลอหลับ ตั้งหน้า ตั้งตาพร้อมรับรู้รับแจ้ง ตรวจการเสมอ พร้อมรุกรบได้ตลอดเวลา ตัวรู้นี้ต้องเปรียบให้ได้ดังนี้ รู้อยู่ภายในกาย ============================================= รู้ในกายตน ทีนี่ปรับตัวรู้มาศึกษาในกายตนซิ เรียนรู้ชีวิตก็คือเรียนรู้ในกายตน ลองดูกะโหลกศีรษะซิ กระดูกกะโหลกศีรษะ เอาตัวรู้ ไปดูซิว่ากระดูกกะโหลกศีรษะนี่หน้าตาเป็นอย่างไร ถามว่าทำไมต้องไปรู้เรื่องกระดูกกะโหลกศีรษะ เพราะมันจะทำให้ตัวรู้ เราตั้งมั่น มีการงาน แล้วจะได้พัฒนาตัวรู้ให้กลายเป็นปัญญา จะได้เปล่งแสงรัศมี เมือตัวรู้มันตั้งมั่นได้นานเข้าๆๆ มันก็ เป็นอานุภาพ ถ้ามีแต่ตัวรู้อยู่เฉยๆ บางทีบางครั้งเดี๋ยวมันแว๊บ นั่น บางคนแว๊บแล้ว สับหงกไปแล้ว คอหักด้วย ต้องรู้แบบ ชนิดที่เราสามารถวิจารณ์ได้ ไม่ใช่รู้แบบชนิดที่แตะต้องอะไรไม่ได้ ก็คือรู้ว่าสภาพธรรมที่ปรากฏบนกระดูกกะโหลกศีรษะ รูปร่างหน้าตามันเป็นอย่างไง สีสันมันเป็นอย่างไง ค้นหามัน มันสีขาว สีเขียว สีดำยังไง ดู ค้นหา จับตั้งแต่ปลายคางก็ได้ หน้าผากก็ได้ โหนกคิ้วก็ได้ โหนกแก้มก็ได้ ไม่ต้องใช้มือ ใช้ตัวรู้เป็นตัวจับ ตัวรู้ตัวนี้ก็คือจิต เลิกได้แล้ว บอกไม่ต้องใช้ เครื่องมืออะไรแล้ว เอาจิตจับเป็���จุดๆ ลองจับไปที่หน้าผากซิ หน้าผากหนัก ตึงไหม รับรู้ไปที่หน้าผาก โหนกคิ้ว เป้าตา สันจมูก โหนกแก้มสองข้างซ้ายขวา ริมฝีปากบน ริมฝีปากล่าง มันจะรู้สึกชาๆ ปลายคาง กรามซ้ายขวา มันจะรู้สึกตึงๆ กก หูซ้ายขาว เหมือนกับมีลมออกมาจากรูหูสองข้าง เหนือหูซ้ายขวา รู้แล้วรำคาญนี่เขาเรียกว่ารู้แล้วปรุง แมลงวันตอม แมลง หวี่ไชอย่างเงี้ย เรียกว่ารู้แล้วปรุง แสดงว่ายังมีตัวกูให้ปรุงอยู่ ตัวกูมันก็คือตัวอกุศลน่ะ บอกแล้วว่ากุศลไม่มีแล้วอกุศลมัน จะเกิดได้อย่างไร ... กลางกระหม่อม กะโหลกศีรษะด้านหลัง กลางกะหม่อมก็จะรู้สึกเหมือนมีลมตีขึ้นเหนือศีรษะ ท้ายทอย ก็จะตึงๆ ร้อนๆ ...วันนี้มันเป็นยังไง ว๊อบแว๊บๆ...กรามซ้ายขาว ใต้หูซ้ายขวา คาง ปลายคาง ไม่ต้องกั้นลมหายใจ ปล่อยลม หายใจให้เป็นธรรมชาติ เอ้าคราวนี้ลงมาที่หลอดลม ลำคอ ลูกกระเดือก ไหปลาร้า กระดูกไหปลาร้าสองข้าง หัวไหล่ บ่า จะรู้สึกหนักๆ สะบักซ้าย ขวาด้านหลัง ... สำรวจให้ทั่วสะบัก หัวไหล่ บ่า ท่อนแขนด้านบน ข้อศอก ท่อนแขนด้านล่าง ข้อมือ ฝ่ามือ นิ้วมือ ไล่ตั้งแต่นิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้ว กลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย หลังมือ ซ้ายขวา ข้อมือด้านหลังซ้ายขวา ไล่ขึ้นมาท่อนแขนด้านข้าง ข้อศอก ท่อนแขนด้านบน หัว ไหล่ ลงไปที่สะบักซ้ายขวา มารวมกันที่กระดูกสันหลัง ข้อต่อระหว่างคอกับกระดูกสันหลัง ไหลลงไปจนถึงก้นกบ แยกออก เป็นสองสาย ก้นกบซ้าย ก้นกบขวา คือสะโพกซ้าย สะโพกขวา ข้อพับ ขาพับ ลงไปที่น่องซ้ายขวา ส้นเท้า ฝ่าเท้าซ้ายขวา ปลายนิ้วเท้าทั้งสิบ ย้อนกลับขึ้นมาที่หลังเท้า ข้อเท้า กระดูกซ้ายขวา หน้าแข่งซ้ายขาว หัวเข่า หน้าขาซ้ายขวา มารวมกันตรงหัวเหน่า ผ่านจุด ใต้สะดือและเหนือสะดือ ใต้สะดือมีสองจุด เหนือสะดือมีสี่จุด ... ขึ้นไปที่ลิ้นปี่ ไปที่ราวนมซ้ายขวาแยกออก ไปที่รักแร้ ซ้ายขวา สีข้างใต้รักแร้ ท่อนแขนด้านในใต้รักแร้ ลงมาที่ข้อศอกซ้ายขวา ท่อนแขนด้านล่าง ข้อมือ และฝ่ามือ สูดลมหายเข้า ขึ้นจมูก หน้าผาก กลางกระหม่อม กะโหลกศีรษะด้านหลัง ต้นคอด้านหลัง หัวไหล่สองข้าง กระดูกสันหลัง ลงไปที่ก้นกบ แยกไปที่ตะโพกซ้ายขวา ลงไปที่ท่อนขา ขาพับ ท่อนขาด้านล้าง ส้นเท้า ฝ่าเท้า ปลายนิ้วเท้า ขึ้นมาที่หลังเท้า หน้าแข่ง หัวเข่า หน้าขา หัวเหน่า ขึ้นมาที่สะดือ ลิ้นปี่ แยกไปที่ซี่โครง ชายโครง ไหลย้อนกลับมาที่ราวนม ไหปลาร้า รักแร้ ลงไปที่แขนด้านในซ้ายขวา ข้อศอก ท่อนแขนด้านล่าง ข้อมือ ฝ่ามือ ลมหายใจปล่อยเป็นธรรมชาติ เป็นปรกติ ต่อไปหายใจเอาปราณนะ หายใจเข้าขึ้นจมูก หน้าผาก กลางกระหม่อม กะโหลกศีรษะด้านหลัง ต้นคอด้านหลัง หัวไหล่สอง ข้าง กระดูกสันหลัง ก้นกบ ทะลุมาที่ช่องท้อง ขึ้นมาที่หน้าอก ลำคอ ออกปาก หายใจเข้า จมูก ลำคอ ลงไปที่ไหปลาร้าสองข้าง แยกไปที่ท่อนแขนสองข้าง ข้อศอกสองข้าง ท่อนแขนด้านล่าง ข้อมือ ฝ่ามือ หายใจออก หายใจเข้า ขึ้นจมูก หน้าผาก กลางกระหม่อม กะโหลกศีรษะด้านหลัง ต้นคอด้านหลัง หัวไหล่สองข้าง กระดูกสันหลัง ก้นกบ ทะลุมาที่ช่องท้อง ขึ้นมาที่สะดือ ลิ้นปี่ หน้าอก ไหปลาร้าสองข้าง ท่อนแขนด้านบนสองข้าง ข้อศอก ท่อนแขนด้านล่าง ข้อ มือ ฝ่ามือ หายใจออก หายใจเข้า จมูก ลำคอ ลงไปที่กระดูกราวนม แยกไปที่หัวไหล่สองข้างซ้ายขวา ใต้แขน ท่อนแขนด้านใน ข้อศอก ท่อน แขนด้านล่าง ข้อมือ หลังมือ ปลายนิ้วมือ หายใจออก สูดลมหายใจเข้า จมูก หลอดลม ลำคอ ลงไปที่ไหปลาร้า หัวไหล่สองข้าง ท่อนแขนด้านบน ข้อศอก ท่อนแขนด้านล่าง ข้อ มือ ฝ่ามือ หลังมือ ปลายนิ้วมือ หายใจออก สูดลมหายใจเข้า จมูก หลอดลม ลำคอ หน้าอก ลิ้นปี่ เหนือสะดือสามจุด ใต้สะดือสองจุด ลงไปที่หัวเหน่า แยกไปที่ขาสอง ข้าง หัวเข่า ท่อนขาด้านล่าง ลงไปที่ข้อเท้า ฝ่าเท้า หายใจออก หายใจเข้า ตั้งแต่ปลายเท้า ฝ่าเท้า ขึ้นมาที่ข้อเท้า ท่อนขาล่าง หัวเข่า ท่อนขาด้านบน ลงมาที่สะดือ หายใจออก แม้สะดือก็มี ลมออกได้ ... เอาใหม่ หายใจเข้า จมูก ลำคอ ราวนมสองข้าง ลิ้นปี่ ลงไปที่สะดือ หัวเหน่า หน้าขา หัวเข่า หน้าแข้ง ข้อเท้า ฝ่าเท้า หายใจออก หายใจเข้า จมูก หน้าผาก กลางกระหม่อม กะโหลกศีรษะด้านหลัง ต้นคอด้านหลัง หัวไหล่สองข้าง กระดูกสันหลัง ก้นกบ ทะลุมาที่ช่องท้อง ถึงสะดือ หายใจออก หายใจเข้าลึกๆ ให้ลมซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย หายใจออก ผ่อนคลาย ============================================= เอ้า คราวนี้ค่อยๆ ลดตัวลงนั่งช้าๆ ลองดูซิว่านั่งแล้วจะทำได้ไหม อย่าเพิ่งลืมตา นั่งแล้วหงายฝ่ามือที่หัวเข่า ขัดสมาธิ หงาย ฝ่ามือที่หัวเข่า ตัวตั้งตรง ยืดอกขึ้น สูดลมหายใจเข้า จมูก หลอดลม ลงไปที่หัวไหล่สองข้าง ท่อนแขน ข้อศอก ท่อนแขนด้านล่าง ข้อมือ ฝ่ามือ ปลายนิ้วมือ หายใจออก จะต้องรู้สึกให้ได้ว่าแม้ลมก็ออกที่ปลายนิ้วมือ สูดลมหายใจเข้า ปลายนิ้วมือ ฝ่ามือ ข้อมือ ท่อนแขนด้านล่าง ข้อศอก ท่อนแขนด้านบน หัวไหล่ มารวมกันที่ลิ้นปี่ ไหลลง ไปที่สะดือ หายใจออก หายใจเข้า สะดือ ลิ้นปี่ หน้าอก ลำคอ ออกปาก หายใจเข้า จมูก หน้าผาก กลางกระหม่อม กะโหลกศีรษะด้านหลัง ต้นคอด้านหลัง หัวไหล่และขมับสองข้าง ท่อนแขนด้าน บน ข้อศอก ท่อนแขนด้านล่าง ฝ่ามือ ข้อมือ ปลายนิ้วมือ หายใจออก หายใจเข้า จมูก ลำคอ ลงไปที่ราวนม แยกไปที่ใต้รักแร้สองข้าง ท่อนแขนด้านใน ข้อพับ ข้อศอกด้านใน ท่อนแขนด้านล่าง ข้อมือ ฝ่ามือ ปลายนิ้วมือ นิ้วกลาง หายใจออก สูดลมหายใจเข้าที่นิ้วกลางสองข้าง ฝ่ามือ ข้อมือ ท่อนแขนด้านล่าง ข้อพับ ข้อศอก ท่อนแขนด้านบน รักแร้สองข้าง ราวนม ขึ้นมาที่ลำคอ ออกปาก หายใจเข้า จมูก หน้าผาก กลางกะหม่อม ต้นคอด้านหลัง หัวไหล่สองข้าง กระดูกสนหลัง ก้นกบ ทะลุมาที่ช่องท้อง สะดือ หายใจออก ต้องรู้ให้ได้ว่ามีลมออกที่สะดือ ถ้าไม่ได้ทำใหม่ สูดลมหายใจเข้า จมูก หน้าผาก กลางกะหม่อม กะโหลกศีรษะด้านหลัง ต้นคอด้านหลัง หัวไหล่สองข้าง กระดูกสันหลัง ลง ไปที่ก้นกบ ทะลุมาที่ช่องท้อง เหนือสะดือสามจุดหายใจออก ท้องจะมีลมอุ่นๆออกมาเหนือสะดือ ต้องรับรู้ให้ได้ดังนั้น สูดลมหายใจเข้า จมูก หลอดลม ลำคอ หน้าอก ลิ้นปี่ สะดือ หายใจออก ยืดอกขึ้น สูดลมหายใจเข้า ให้ลมซ่านไปทั่วทุกรูขุมขน ไล่ลมมาอยู่ที่ท่อนแขน ข้อศอก ข้อมือ ฝ่ามือ หายใจออก สูดลมหายใจเข้า จมูก ลำคอ หน้าอก ลิ้นปี่ สะดือ หัวเหน่า แยกลงมาที่ท่อนขาด้านล่าง หัวเข่า หน้าแข้ง ลงไปที่ข้อเท้า ฝ่าเท้า ปลายนิ้วเท้า หายใจออก สูดลมหายใจเข้า จมูก หน้าผาก กลางกระหม่อม กะโหลกศีรษะด้านหลัง ต้นคอด้านหลัง หัวไหล่สองข้าง ท่อนแขน ข้อศอก ท่อนแขนด้านล่าง ข้อมือ หลังมือ ปลายนิ้วมือ หายใจออก หายใจเข้า ปลายนิ้วกลาง หลังมือ ข้อมือ ท่อนแขนด้านล่าง ข้อศอก ท่อนแขนด้านบน หัวไหล่ ต้นคอ กะโหลกศีรษะด้าน หลัง กลางกระหม่อม หน้าผาก ออกจมูก เพ่งความรู้สึกดูที่ฝ่ามือ และปลายนิ้วมือ ============================================= ทำให้ผ่ามือหยุดไอร้อน และออกที่ปลายนิ้ว แรกๆ ก็จะออกทุกนิ้ว หาวิธีบังคับให้ออกที่นิ้วโป้ง นิ้วโป้งเป็นเรื่องที่ยาก เพราะปลายประสาทจะหนา หาวิธีบังคับ ถ้าทำได้ นิ้วอื่นก็จะง่าย ... ปล่อยลมหายใจให้เป็นปกติ ถ้าไม่ชัดก็ประกอบลม หายใจเข้า หาช่องเดินให้อยู่กลางนิ้วโป้งให้ได้ แล้วหายใจออก ลองดู ... จากนิ้วโป้งก็ไปถึงนิ้วชี้ .................................. (เสียงฉาบ) ...................................................... จากนิ้วชี้ก็ไปที่นิ้วกลาง แรกๆ ลมอาจจะพุ่งออกเป็นสายที่ปลายนิ้ว ต้องประกอบลมหายใจทุกครั้ง เข้า ... เดิน ไปที่ปลายนิ้ว สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ให้ลมซ่านไปทั่วทุกรูขุมขนและทั่วสรรพางค์กาย ลองดูซิแม้รูขุมขนมีลมออกไหม สัมผัสถึงไอร้อน รอบตัวได้ไหม แล้วหายใจออกอย่างผ่อนคลาย อีกที หายใจเข้ากว้างๆ ลึก เต็ม รู้ ออก เบา ยาว หมด รู้ เข้า กว้าง ลึก เต็ม รู้ ออก เบา ยาว หมด รู้ แม้ปลายนิ้วเท้าก็ต้องรู้ให้ได้ว่ามีลมออก อีกที เข้า กว้าง ลึก เต็ม รู้ ปลายนิ้วเท้า ฝ่าเท้า ออก เบา ยาว หมด รู้ ============================================= สร้างปฏิสัมพันธ์อันดี ...หยุดการกำหนดรู้ลมและจุดต่างๆ ในกาย แต่สร้างตัวรู้ให้เกิดในภายใน ทำให้สองวิชามีปฏิสัมพันธ์อันดีต่อกันให้ได้ แม้ จะอยู่กันคนละขั้นก็ตาม ปราณสุริยะ กับปราณโอสถ ว่ากันที่จริงแล้วถ้าพูดถึงเรื่องของการสร้างสติสัมปชัญญะและวิปัสสนาก็ยังถือว่าสองปราณ นั้นยังเป็นขั้นต่ำ แต่ถ้าจิตมีพัฒนาการที่ดี เราก็สามารถจะสร้างปฏิสัมพันธ์อันงดงาม แค่ก้าวล่วงขั้นหนึ่งก็ขยับขึ้นมาสู่ วิปัสสนาญาณได้ สร้างตัวรู้ให้เกิดขึ้นภายในกาย เริ่มต้นตั้งแต่มีตัวรู้ วางแล้วว่าง รู้สึกอยู่ภายใน ไม่ปรุง ... รู้แล้ว วาง แล้วว่าง … รู้ ละ วาง ว่าง … รู้ ละ วาง ว่าง เป็นความรู้ที่แข็งแรง ยั่งยืน ไม่หลุดไม่รอด ไม่แถ ไม่เผลอไปไหน ลองจับนิมิตดู เอากระดูกตัวเองเป็นนิมิต ลองทำวิปัสนึกดูสักครั้งซิ นึกว่าโครงกระดูกปรากฏอยู่ในกายตน จับโครงกระดูก นั้นเป็นนิมิตเครื่องหมาย ไล่ตั้งแต่กะโหลกศีรษะ กระดูกต้นคอ กระดูกหัวไหล่ ไหปลาร้า ซี่โครง ลิ้นปี่ กระดูกทรวงอก ไล่ ให้หมด หรือมองตรงภาพรวมๆ ว่านี่คือกระดูกตั้งอยู่ มองให้ทะลุหนัง ทะลุเนื้อนะ ... มีแต่กระดูกตั้งอยู่ … ...(เสียงระฆัง)... กระดูกตั้งอยู่แล้วมันจะมีอารมณ์ง่วงได้อย่างไร กระดูกมันง่วงเป็นที่ไหน กระดูกตั้งอยู่แล้วมันจะฟุ้งได้อย่างไร กระดูกมัน ฟุ้งเองได้ที่ไหน กระดูกตั้งอยู่แล้วมันจะสับสนสงสัยได้อย่างไร กระดูกมันสับสนเองได้ที่ไหน กระดูกตั้งอยู่แล้วมันจะมี ความหลงได้อย่างไร กระดูกตั้งอยู่แล้วมันจะมีความคิดได้อย่างไร ว้าวุ่นได้อย่างไร รู้สึกให้ได้ว่าเราคือกระดูกที่ตั้งอยู่ สำรวจตรวจดูซิว่ากระดูกแต่ละท่อน ซี่โครงแต่ละซี่ ชิ้นเล็กชิ้นน้อยแต่ละชิ้นน่ะ มันมีรูปร่างลักษณะงดงามสัณฐานสวย ขนาดไหน บอกแล้วว่ากรรมฐานของที่นี่ เรียนรู้ชีวิต ลุถึงวิชา เกิดปัญญา นำพาชีวิต มองให้ทะลุเนื้อทะลุหนัง ทะลุเอ็น ทะลุพังพืด … ยิ่งถ้าใช้ปราณโอสถในวิชาวิเคราะห์กระดูกก็ยิ่งเป็นประโยชน์ ปวดตรงไหน เจ็บตรงไหน ขัดตรงไหน ยอกตรงไหน มันจะ เข้าไปบำบัดรักษา แม้ที่สุดถึงขนาดมันสามารถทำให้ลั่นกรั๊วบกร๊าบได้ทันที แล้วมันจะเบาจะโล่งขึ้น เพ่งมองไปที่กระดูกสันหลังและกะโหลกศีรษะ ต้นคอ ก้นกบ มองย้อยหลังเข้าไป อย่ามองมาข้างหน้า จับกระดูกสันหลังเอา ไว้ แล้วจะรู้สึกเสียวสันหลัง เบาสบาย ไล่ตั้งแต่สูงลงต่ำ หรือต่ำขึ้นสูงก็ได้ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ให้ลมซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย แล้วผ่อนลมออกไปยาวๆ เบาๆ ส��าย อีกที … ลมออก เบา ยาว สบาย หายใจเข้าไปใหม่ ให้ลมเข้าไปในไขกระดูกและข้อของกระดูก ให้รู้สึกได้ว่ากระดูกทุกข้อได้รับลมผ่าน ผ่านเข้าไปใน แกนกลางของกระดูก เรียกว่าชำระไขกระดูก จนกระทั่งทะลุทะลวงไปถึงปลายนิ้วมือนิ้วเท้า หลังจากหายใจครั้งนี้แล้วต้อง โล่ง ... หายใจออกผ่อนคลาย เอาใหม่ ... ให้ลมซึมเข้าไปในแกนกลางของไขกระดูก ในข้อกระดูก แม้ในกะโหลกศีรษะ ... แล้วหายใจออก ผ่อนคลาย ============================================= นอน มีสติพิจารณาความเป็นไปในกาย ลืมตาม ปรับท่าปฏิบัติธรรม ลงนอน นอนหงาย ... ชอบอยู่แล้ว กำลังรออยู่เชียว เหยียดขาไป นอนท่าตรง ... แยกขา กางแขน แบมือ ... เออ ก็มีสำนักนี้ล่ะ สอนแบบนี้ ... มึงหวิดได้วิชาไปทั้งแผ่นแล้ว ไม๊ล่ะ มึงหันตีนไปทางป้ายกูทำไมล่ะ เอ้า สูดลมหายใจเข้า แล้วตาม ให้ลมเดินตามข้อกระดูกให้หมด...จนถึงปลายนิ้วมือนิ้วเท้า ...เฒ่า ไม่นอนเหรอ นั่นแหล่ะ นอนหงายแถวนั้นแหล่ะ ลูกหลานไปไหนหมด ไม่พยุงให้นอนล่ะ ... เออ ให้คนแก่เอา เลือดลงหัวบ้างซิ ให้ฝ่ามือกับฝ่าเท้ามีไอร้อนปรากฏ … ... เออ แล้วนอนลงมา นอนหงายลงมา ถอยหลังลงหน่อย ... เออ เอาล่ะ ตายก็ไม่เสียชาติเกิดล่ะ ได้มานอนวัดอ้อน้อย นอนแล้วหายใจเข้าลึกๆ ให้ลมมันเดินไล่ไปถึงปลายเท้า แล้วหายใจออก ไล่ลมหายใจไปปลายเท้าแล้วจึงจะออก ถึงมือกับเท้า แล้วจึงจะหายใจออก ค่อยๆ ดื่มลมหายใจลงไปช้าๆ เติมลมหายใจลง ไปช้าๆ ให้ลมมันไหลลงไปถึงปลายนิ้วมือนิ้วเท้า แล้วจึงจะหายใจออก ... เฮ้ย ทำไมมันเงียบแท้วะ ทำไมมันไม่กระเพื่อ เลยวะ ... หายใจเข้า ... ให้ลมอัดเข้าไปช้าๆ อย่าเข้าถึงขนาดเสียดแทง เรียกว่าให้ลมสุขุม ... ให้รับรู้ได้ถึงไอร้อนที่ออกตามฝ่ามือ ฝ่า เท้า รักแร้ ขาหนีบ ซอกคอ ลำตัว อย่างนี้เขาเรียกว่ามีสติพิจารณาความเป็นไปภายในกาย รู้ตัวตลอดทั่วสรรพางค์กาย ถามว่าเมื่อทำแล้วมันจะได้อะไร เมื่อจิตเราไม่ได้เสวยอารมณ์กุศล ไม่ได้เสวยอารมณ์อกุศล มีแต่ตัวรู้อยู่ภายในจิต พัฒนาการของจิตเมื่อมีตัวรู้ตั้งมั่นอย่างยั่งยืนยาวนาน แม้ที่สุดเราจะไม่ได้บรรลุมรรคผลอะไร มันก็สามารถทำให้เรามี ชีวิตยู่อย่างเป็นผู้รู้ได้ในขณะหนึ่งๆ หรือถ้าทำได้ทุกเวลามันก็เป็นทุกขณะ ผู้รู้ก็คือผู้ที่ทำไม่ผิด พูดไม่ผิด คิดไม่ผิด ผู้รู้ก็คือ ผู้ที่ไม่หลง ไม่โง่ ไม่งมงาย เมื่อไม่โง่ ไม่หลง ไม่งมงาย ทำ พูด คิด ใดๆ มันก็จะกลายเป็นมหากุศล ค่อยๆ สร้างบารมีแห่งความเป็นผู้รู้อยู่เนื่องนิตย์ จนสุดท้ายเราก็สามารถพิจารณาเห็นทุกอย่างได้เป็นตามความเป็นจริง ที่ ทุกวันนี้เราไม่สามารถเห็นหรือไม่สามารถพิจารณาทุกอย่างเป็นตามความเป็นจริงก็เพราะเราไม่รู้ การพิจารณาเห็นทุกอย่างเป็นตามความเป็นจริงมันให้ประโยชน์อะไร อย่างน้อยมันก็ไม่มีพันธะ ไม่มีพันธนาการต่อชีวิต จิตวิญาณเรา อิสรเสรีภาพก็เกิดขึ้นกับเราเพราะเราเป็นผู้ไม่มีพันธนาการในจิต เรียกกว่าอยู่อย่างอิสระในโลก เพราะเป็นผู้รู้ ไม่ต้องถามว่าคุณธรรมระดับนี้อยู่ในขั้นไหนของพระอริยเจ้า เพราะพระอริยเจ้าทั้งหลายท่านก็อยู่กันอย่างอิสระในโลก ไม่มีพันธนาการทางจิต ============================================= กลับมาดูกระดูก เอ้า ลองกลับมาเป็นทางวิปัสนึกบ้าง ว่ากระดูกนอนอยู่ กระดูกกลุ่มใหญ่นอนอยู่ กองอยู่กับพื้น เมื่อกี้ตัวกูนอนอยู่ เที่ยวนี้ กระดูก ... กระดูกนอนอยู่ เฮ้ย กระดูกกรนได้ไงวะ กระดูกหลับไปได้ไง กระดูกไม่กรน กระดูกไม่ง่วง กระดูกไม่หลับ กระดูกไม่มีอารมณ์ กระดูก ไม่มีความรู้สึก แยกจิตออกจากกระดูก มองให้รู้ว่านี่คือกระดูก แล้วอะไรคือผู้มอง จิตคือผู้มองกระดูก อย่างให้จิตกับ กระดูกมันผูกกัน กระดูกนอนอยู่แล้ว ลองหายใจเข้าไปในท่อของกระดูกซิ ลองเป่าลมเข้าไปในท่อของกระดูกซิ เพราะกระดูกแต่ละท่อนมัน มีรูพรุนตรงกลาง ตั้งแต่กะโหลกศีรษะ เรื่อยไปจนถึงกระดูกท่อนแขน กระดูกซี่โครง กระดูกสันหลัง กระดูกขาบนขาล่าง แม้กระดูกปลายนิ้วมือนิ้วเท้ามันก็กลวง ให้เดินลมไปทั่วซิ ลองหาวิธีซิรับรู้ได้ว่าเมื่อลมเดินไปถึงจุดปลายนิ้วมือนิ้วเท้าก็มี ลมไหลพุ่งออกมาจากปลายนิ้วมือนิ้วเท้าด้วย ... เสียงอะไรครืดๆ วะ ลมออกจากกระดูกเหรอ เอ้า ทีนี้ลองทำให้ลมเดินวนรอบกะโหลกศีรษะด้านบนซิ ... วนรอบกะโหลกศีรษะด้านบน ... ============================================= แผ่เมตตา ต่อไปกำหนดลมหายใจเข้า สัตว์ทั้งปวงจงเป็นสุข หายใจออก สัตว์ทั้งปวงจงพ้นทุกข์ แต่พิเศษตรงที่ให้ลมหายใจและคำว่า สัตว์ทั้งปวง ออกมาจากแกนกลางของกระดูกสันหลัง นั่นหมายถึงต้องภาวนา ไม่ใช่ริมฝีปาก แกนกลางของกระดูกสันหลัง ระหว่างข้อต่อที่ต่อกับก้นกบ แล้วไล่ขึ้นมาจนถึงสมองถึงกะโหลกศีรษะด้านหลัง ให้กระเทือนถึงกระดูกสันหลัง แล้วก็มา ออกที่จมูก ... ...(เสียงระฆัง)... ต่อไปสูดลมหายใจเข้าจมูก หน้าผาก กลางกระหม่อม กะโหลกศีรษะด้านหลัง ท้ายทอย ต้นคอด้านหลัง สะบัก หัวไหล่ กระดูกสันหลัง ลงไปที่ก้นกบ ท่อนขาด้านบน ข้อพับ ท่อนขาด้านล่าง ส้นเท้า ฝ่าเท้า ปลายนิ้วเท้า หลังเท้า หายใจออก หายใจเข้า จมูก หลอดลม ลำคอ หน้าอก ช่องท้อง เหนือสะดือ หัวเหน่า แยกไปที่ขาสองข้าง หัวเข่าสองข้าง หน้าแข้งสองข้าง ข้อเท้า หลังเท้า ปลายนิ้วเท้า หายใจออก หายใจเข้า ขึ้นจมูก หน้าผาก กลางกระหม่อม กะโหลกศีรษะด้านหลัง ต้นคอด้านหลัง หัวไหล่สองข้าง ท่อนแขนด้านบน ข้อศอก ท่อนแขนด้านล่าง ข้อมือ ฝ่ามือ หลังมือ ปลายนิ้วมือ หายใจออก สูดลมหายใจเข้า ปลายนิ้วมือ ฝ่ามือ ข้อมือ ท่อนแขนด้านล่าง ข้อศอก ท่อนแขนด้านบน หัวไหล่ ขึ้นมาที่ต้นคอสองข้าง ขึ้นมาที่กะโหลกศีรษะด้านหลัง มารวมกันที่ศูนย์รวมประสาทกลางกระหม่อม หน้าผาก เป้าตา ออกจมูก ยกมือไหว้พระกรรมฐานแล้วลุกขึ้นนั่ง =============================================
0 notes
novemberthing · 2 years
Text
6 มีนาคม 2023 ตีสองสิบเจ็ดนาที
ไม่รู้ว่าตั้งแต่ตอนไหนที่ฉันเริ่มกลัวการเข้านอน ความมืดและความเงียบที่เคยเป็นเงื่อนไขในการนอนหลับของฉันกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันข่มตาลงไม่ได้เลย ทันทีที่ล้มตัวลง หลับตา ฉันจะนึกถึงสิ่งเลวร้ายมากมาย มันประเดประดังเข้ามาอย่างล้นเหลือ ความกังวลในอนาคต เรื่องที่คิดไปเองในหัว เรื่องราวในอดีตทั้งแสนหวานที่เราโหยหามันกลับมาและบ้างที่ข่มขืนจนอยากลืมไป ทั้งๆที่รู้ตัวว่าต้องนอนแล้ว แต่กลับข่มตาหลับไม่ได้เลย เมื่อคืน ฉันคิดถึงอนาคตที่แสนไกล หากวันหนึ่งวันที่อากงอาม่าจากบ้านที่แม่อยู่จะเป็นอย่างไรกัน แม่จะเหงาไหมนะ แล้วตอนนั้นเราจะเลี้ยงดูแม่ได้ไหม หากห่างไปกว่านั้นล่ะ ในวันที่เราแก่ชราในห้องคอนโด 28 ตารางเมตร เราจะเป็นอย่างไรกัน ชีวิตคู่ที่เคยฝันไว้ก็เลือนหายไปพร้อมความทรงจำหวานปนขมเสียแล้วเมื่อไม่กี่ปีก่อน ทุกสิ่งมันกัดกินไปหมด เหมือนขอบ vignett สีดำที่มันค่อยๆกลืนเข้ามาเรื่อยๆโดยมีฉันอยู่ตรงกลางภาพ โดดเดี่ยว เหงาหงอย และหวาดกลัว เสียงเปียโนเบาๆ สมุดจดบันทึก กับโกโก้ร้อนที่ชงเองพอจะเยียวยาใจในค่ำคืนที่โหดร้ายได้บ้าง มันปรับสมดุลให้คืนนี้อบอุ่นขึ้น ไม่ใช่บรรยากาศแต่อาจจะเป็นภายในใจเรา ฉันรู้ดีว่ามันจะผ่านไป อารมณ์ของฉัน ความรู้สึก ทุกสิ่งจะเปลี่ยนไป มันจะหมุนเวียน วนเวียน สลับไปมาไม่มีที่สิ้นสุด ดีบ้างร้ายบ้าง แค่ช่วงที่โหดร้ายมักจะยาวนานกว่าเสมอในความรู้สึก ขอแค่ในคืนถัดไปเหนื่อยมากพอที่จะสลบทันทีที่หัวถึงหมอน นั่นอาจจะวิเศษที่สุดแล้วก็ได้
ราตรีสวัสดิ์
1 note · View note
yodyayee · 2 years
Text
หลับตา(โต๋) - นูโว cover
0 notes
amasov · 5 years
Video
youtube
Slot Machine - หลับตา (Sweet Bird - Thai Version) [Official Music Video]
I actually prefer this version of the video, the alternate scenes fit well with the song.
0 notes
curvesdesigns · 5 years
Photo
Tumblr media
Lek Pongsatorn - เล็ก พงษธร – หลับตา【Official Music Video】 https://www.youtube.com/watch?v=dqWc-J9-RSg
0 notes
hit-luxuryshop · 6 years
Video
instagram
#ป้าป้ากับกวินอปป้าภูมิใจเสนอ #หลับตาสิที่รัก 😘 ติดตามความน่ารักปนฮาของ #อปป้า ได้ที่ #Facebook #Fanpage "Kawin Ladlord - อปป้ากวิน" นะครับ #GoodNight #ฝันดี #ราตรีสวัสดิ์ ครับ 😴 😴 😴 #LookKwunSLife #HappyinTime #Singing #MaFavourite #Song #หลับตา #ชรัสเฟื่องอารมณ์ #BedTime #Kid (at
0 notes
aompaprika · 7 years
Photo
Tumblr media
ของที่ระลึก "แผ่นดินมงคล" จากกิจกรรม "หลับตา" "Mildfulness Performance" ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ประกอบขึ้นจากเนื้อดินทุกจังหวัดทั่วประเทศ เป็นครั้งแรกที่เราจะได้มีโอกาศยกเอาผืนแผ่นดินที่ตนเองได้เหยียบย่ำ ได้ทำมาหากินและได้ใช้ชีวิตอย่างร่มเย็นเป็นสุขมาตลอดชีวิตขึ้นมาเคารพเทิดทูนบูชา ถือเป็นการตอบแทนพระคุณของแผ่นดิน ที่ข้าของแผ่นดินพึงกระทำให้เป็นมงคลแก่ชีวิต แผ่นดินไทย แผ่นที่พ่อหลวงของแผ่นดิน (พ่อภูมิพล)ได้เฝ้าพัฒนา แก้ปัญหาจากความแห��งแล้งจนอุดมสมบูรณ์อย่างทุกวันนี้ ไม่มีตารางนิ้วไหนที่พ่อไม่เคยได้สัมผัส ไม่มีตารางนิ้วไหนที่พ่อไม่เคยเหยียบย่ำ ไม่มีตารางนิ้วไหนที่พ่อไม่เคยไม่ใส่ใจ พ่อภูมิพล พระผู้ทรงเป็นพลังแห่งแผ่นดิน วันนี้ดินทั่วทุกจังหวัดในประเทศนี้ที่พ่อเคยได้สัมผัสได้มารวมอยู่ในเหรียญนี้ ลูกจะเก็บรักษาและบูชา เตือนสติให้เรารู้จักคุณค่าของผืนแผ่นดินไทย รักษ์และดูแลผืนแผ่นดิ ภูมิใจที่ได้เกิดและอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ตลอดไป #หลับตา #รักพ่อหลวงสุดหัวใจ #พ่อภูมิพล #พลังแห่งแผ่นดิน #แผ่นดินมงคล
0 notes
rethinker · 8 years
Text
หมาน้อยนอนคุดคู้ อุดอู้อยู่หน้าร้านค้า หิวโหยก็หลับตา ฝันเห็นหน้าคนใจดี
0 notes
darkforest07-blog · 6 years
Text
Q U E E N  (10s)
Tumblr media
ชานยอลไม่แน่ใจว่าตอนที่เขารู้สึกตัวนั้นเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน ชายหนุ่มยกมือแตะขมับ กดคลึงเล็กน้อยหวังบรรเทาอาการปวดให้ทุเลาลง ฝืนเปลือกตาลืมขึ้นมองเพดานก่อนจะเห็นว่าบนหลังมือข้างหนึ่งมีเข็มน้ำเกลือแทงคาไว้ แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องของตัวเอง ชานยอลไม่ได้ลืมว่าตัวเองป่วยจนเพื่อนสองคนต้องช่วยกันหิ้วปีกขึ้นรถแท็กซี่มาส่งโรงพยาบาล เขาแค่จำไม่ได้ว่าตัวเองเผลอหลับหรือหมดสติไปตอนไหนและไม่รู้ว่าตัวเองจะอาการหนักจนถึงขั้นต้องนอนให้น้ำเกลือ ดูจากปริมาณน้ำเกลือที่ลดไปมากกว่าครึ่งแล้วแสดงว่าเขาคงหลับไปนาน
ห้องพักที่มีเตียงคนไข้สี่เตียงแต่อีกสามเตียงกลับว่างเปล่า ชานยอลมองออกไปนอกหน้าต่างถึงได้รู้ว่านี่เป็นเขตเวลาของกลางคืนแล้ว เขามองหาโทรศัพท์มือถือแต่กลับเจอเพียงกระดาษโน้ตจากคิมไค เพื่อนสนิทบอกว่าอยู่รอจนหมดเวลาเยี่ยมเขาก็ไม่ตื่นเลยกลับก่อน ด่าปิดท้ายตามประสาแล้วก็บอกว่าพรุ่งนี้จะมาหาหลังเลิกเรียนพร้อมชีทและงานส่วนที่ชานยอลขาดไป ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจออก ลมร้อนพร่างพรูปะทะริมฝีปากบนแต่เขาก็ไม่ได้สนใจนัก ก็คงจะเป็นไข้เพราะเครียดสะสมแล้วก็พักผ่อนน้อย
ถ้าจะให้พูดตามจริงก็คือตรอมใจ
หมอไหนก็รักษาไม่ได้
เพราะหมอพาคุณกลับมาหาชานยอลไม่ได้
ดวงตาดำแห้งผากทั้งที่ขอบตาแดงก่ำ ชานยอลลุกขึ้นนั่งก่อนจะครางโอยเพราะอาการวิงเวียนที่แล่นเข้าโจมตีแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างสูงใหญ่ยันมือกับเตียง ก้มหน้าอยู่อย่างนั้นจนอาการดีขึ้นแล้วจึงค่อยหย่อนขาลงจากเตียงทีละข้าง เมื่อยืนได้มั่นคงดีแล้วจึงปลดถุงน้ำเกลือจากที่แขวนแล้วก็เดินลากเท้าเข้าห้องน้ำไปอย่างเชื่องช้า กว่าจะทำธุระส่วนตัวพร้อมทั้งล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ใช้เวลาไปเกือบยี่สิบนาที ชานยอลควรหงุดหงิดตามประสาคนอารมณ์ร้อนแต่ใจเขากลับไร้เรี่ยวแรง แม้กระทั่งจะเสกสั่งความรู้สึกยังเป็นเรื่องยากไปแล้ว
เขาลดตัวลงนอนมองเพดานเงียบ ๆ อย่างนั้น
วันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงวะปาร์คชาน?
แข่งบาสระหว่างคณะก็จบไปแล้ว
สอบกลางภาคก็เพิ่งผ่านไป
นอกจากไปเรียนแล้วกลับหอจะมีอะไรให้มึงทำอีกบ้าง อะไร ที่ทำให้ชีวิตเป็นชีวิต ที่เป็นความสุข ความสนุก ที่จะทำให้วันและคืนของมึงไม่ไร้ค่าและว่างเปล่า ชีวิตมึงเหลืออะไรบ้างวะชานยอล
หลับตาลง พยายามขังความเศร้าไว้ในนั้นแต่เพราะกำลังอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจจึงต้องเป็นฝ่ายแพ้ น้ำตาหยดร้อนดันผ่านหางตา ร่วงไปทีละหยด ความเงียบและแสงสลัวของห้องพักฟื้นยิ่งเป็นใจให้ความอาลัยอาวรณ์โจมตีอย่างไม่ปรานี ชานยอลเผยอริมฝีปาก ค่อยพลิกตัวตะแคงเมื่อลมหายใจเริ่มไม่เป็นจังหวะปกติ เขาไม่ได้อายที่จะร้องไห้แต่ถ้ายังนิ่งอยู่เขากลัวว่าหัวใจมันจะทำลายตัวเองจนแหลกเหลวไปเหลือเศษชิ้น เสียใจก็ต้องร้องมันก็สมเหตุสมผลแล้ว ชานยอลก็ได้แต่หวังว่าความทุกข์ที่สั่งสมมามันจะถูกกลั่นออกไปพร้อมน้ำตาบ้าง
ประตูถูกเลื่อนอย่างแผ่วเบา
ชานยอลในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่นยังนอนหันหลังให้ทางเข้า เขารู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลที่เข้ามาเช็คอาการรอบดึกแต่เพราะพิษไข้ที่กำลังรุมเร้าทำให้เขาไม่อยากเคลื่อนไหวร่างกายโดยไม่จำเป็น ชายหนุ่มนอนหลับตานิ่งเหมือนไม่รับรู้กระทั่งมีมือเอื้อมมาลูบผมออกจากหน้าแล้ววางทับลงแทน ชานยอลขมวดคิ้วแน่น ถ้าจะวัดไข้มันควรใช้เทอร์โมมิเตอร์ไม่ใช่หรือวะ โรงพยาบาลใหญ่ขนาดนี้จะใช้แค่หลังมือพยาบาลวัดไข้จริง ๆ หรือ
“ตัวร้อน”
“.........”
“ไข้ไม่ลดเลยหรือยังไง”
“.........”
“เป็นอะไร?” คนคนนั้นเอ่ยถาม โทนเสียงที่ทำให้ชานยอลสะท้านไปทั้งร่างยังคงความทุ้มนุ่มและเรียบเรื่อยเช่นที่เขาเคยคุ้น ชายหนุ่มเบิกตากว้าง มองต้นตอเสียงผ่านแสงสีอ่อนของไฟหลอดเล็ก แต่ยิ่งพยายามเพ่งให้ชัดมาแค่ไหนภาพตรงหน้าก็ยิ่งพร่าเลือนมากเท่านั้น
“ปวดตรงไหนหรือเปล่า?” เขาอยากบอกว่าปวด ปวดไปหมดเลย ในอกมันถูกอะไรไม่รู้ทั้งบีบทั้งฉีกกระชาก เขาพยายามอ้าปากเปล่งเสียงแต่ลำคอก็ตื้อตันไปหมด เหมือนมีก้อนลมดันขึ้นมาถึงกล่องเสียง เขาอยาก...อยาก...บอก... “...ยะ อย่า...”
“?”
“อย่าทิ้ง”
“.........”
“อย่าทิ้งผมไป...ได้โปรด...”
“เพ้อเพราะพิษไข้หรือเปล่าฮื้อ? ต้องตามหมอแล้วมั้ง” ชานยอลส่ายหน้าทั้งน้ำตายังไหลไม่หยุด ในอกเขาบีบรัด ลำคอเขาตีบตัน หัวเขาก็ปวดเหมือนจะระเบิด พิษไข้กำลังรุมเร้าเขาอย่างบ้าคลั่ง แต่ชานยอลต้องการคุณมากกว่าหมอ เขาแข็งใจลุกขึ้นนั่ง ใช้สองมืออันสั่นเทากอบมือเล็กขึ้นแนบแก้ม ทั้งจูบทั้งคลุกใบหน้ากับไอเย็นของฝ่ามือเรียวเล็กเหมือนคนไร้สติ
“ชานยอล”
“ครับ ครับ ผมชานยอล ชานยอลของคุณ ของคุณคนเดียว”
“ป่วยก็พักก่อน” ชานยอลส่ายหน้าทั้งที่มึนหัวจนแทบนั่งไม่ได้ เจ้าของร่างเล็กจึงลดตัวนั่งริมเตียง ยอมให้ลูกหมาตัวโตซุกซบใบหน้าตรงแนวไหล่พลางลูบแผ่นหลังให้ด้วย กลายเป็นว่าพอได้รับสัมผัสอ่อนโยนจากมือบางเสียงสะอื้นก็ยิ่งดังกว่าเดิม
“เดี๋ยวนี้ฉันพูดอะไรไม่ฟังแล้ว”
“ขะ ขอโทษครับ”
“เป็นคนป่วยก็เชื่อฟังหน่อย”
“ครับ ผมจะเชื่อคุณ จะฟังคุณทุกอย่าง คุณอย่าไปนะครับ” คุณบยอนยิ้มเหมือนอ่อนใจ จับใบหน้าอดีตเด็กในอุปถัมภ์ให้เงยขึ้น มองริ้วสะอื้นจาง ๆ จากไหล่หนาที่ยกขึ้นลงแล้วก็ใช้ลูบรอยชื้นออกจากแก้มทั้งสองข้าง “ปวดหัวหรือเปล่า?”
“ปวดครับ”
“ให้ตามพยาบาลไหม?” ชานยอลอยากส่ายหน้า เขาไม่ต้องการคนอื่น เขาอยากอยู่แค่กับคุณเท่านั้นแต่รู้ว่าถ้าทำแบบนั้นคุณจะว่าอีกเขาเลยนั่งนิ่ง ใช้สายตาเว้าวอนสุดกำลัง
“เธอตัวร้อนมาก ให้พยาบาลเข้ามาดูหน่อยนะ”
“...........”
“ไม่นานหรอก”
“ครับ” คุณเอื้อมมือไปกดปุ่มเรียกเจ้าหน้าที่ แจ้งอาการเบื้องต้นไปตามอินเตอร์���ฟนจากนั้นไม่นานนายแพทย์ท่านหนึ่งก็เข้ามา ตรวจอาการเขาอย่างละเอียดแล้วก็ให้ยาทางสายน้ำเกลือ คุณหมอบอกยาแก้ปวดชนิดนี้มีฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม แนะนำให้ญาติเช็ดตัวให้คนป่วยเพื่อช่วยลดไข้อีกทางแล้วกลับออกไปพร้อมคุณพยาบาล คุณบยอนทำตามคำแนะนำนั้นอย่างไม่เกี่ยงงอน เช็ดตัวให้เขา ถอดชุดที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อแล้วสวมชุดใหม่ให้จนเรียบร้อย
“คุณครับ”
“หลับตา เลิกพูด เลิกถาม”
“ผมขอคำถามสุดท้าย” เขาล่ะเกลียดคำว่าสุดท้ายจริง ๆ
“ถามมาแล้วก็นอนได้แล้ว”  
“ตอนผมตื่น คุณจะยังอยู่ตรงนี้ ใช่ไหมครับ?”
คุณเงียบแล้วชานยอลคนโง่ก็เผลอหลับไปทั้งที่ยังไม่ได้คำตอบ
นั่นคงเป็นความเมตตาอย่างที่สุดจากคนคนนั้น
เขามันโง่จริง ๆ นั่นแหละ
โง่ที่กล้าถามแล้วก็กล้าคาดหวัง
คุณอนุญาตให้ถามแต่คุณไม่ได้รับปากว่าจะตอบ คุณไม่เคยผิดคำพูดคุณจึงไม่เคยรับปากหากไม่มั่นใจ หรืออีกนัย คือคุณให้ตามที่ร้องขอไม่ได้
เป็นตัวเขาที่คิดไปเองทั้งนั้น
จะตื่นมาเจอห้องเงียบ ๆ และความเจ็บปวดตัวเอง...
ก็สมควรแล้ว
   แก่ก!
    “...........”
  “ตื่นแล้วหรือ?”
       - END -
7 notes · View notes
corrorsor · 2 years
Video
instagram
เราเป็นตัวของเราเอง@issy..issaree: สงสัย ขณะทำดู๊ดฮากูด หลับตา เห็นspdเป็นสีๆทุกครั้ง เจื้อนไม่ต้องสนใจตาม ครส.อย่างเดียว ชิมิ (ที่ สะพานพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี) https://www.instagram.com/p/CfvlHsoAl8t/?igshid=NGJjMDIxMWI=
0 notes
kennemusicshop · 4 years
Photo
Tumblr media
คงมีแต่เสียงดนตรี ที่อยู่เป็นเพื่อนกัน ในทุกทุกวัน พัก....กาย พัก...ใจ หลับตา ฝันดี https://www.instagram.com/p/CI3hc4enrOK4XHy2I0els043j5Az01Qv--76Wg0/?igshid=1hez2rgp8o2m6
0 notes
runzpr · 4 years
Photo
Tumblr media
📝 [สุดปัง💥] กว่า 13 ปีบนเส้นทางสายดนตรี “URBOYTJ” เตรียมปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรกในชีวิต “SELFMADE” ถ่ายทอด 12 เพลงคุณภาพ พร้อมขึ้นแท่นสุดยอดอัลบั้มแห่งปี ถือเป็นอีกหนึ่งศิลปินมากความสามารถแถวหน้าของวงการที่มาแรงและประสบความสำเร็จมากที่สุดอีกคนหนึ่ง สำหรับแรปเปอร์วายร้าย “URBOYTJ” (ยัวร์บอยทีเจ) หรือ “จิรายุทธ ผโลประการ” ที่การันตีทุกความฮอตระดับเมก้าฮิต ด้วยผลงานเพลงบนเส้นทางสายดนตรีกว่า 13 ปีเต็มตั้งแต่เปิดตัว ครั้งแรกในนาม “3.2.1” (ทรีทูวัน) กับค่ายวัยรุ่นในตํานานอย่าง “Kamikaze” (กามิกาเซ่) ก่อนผันตัวมาเป็นศิลปินเดี่ยว ที่เรียนรู้และลงมือทําเพลงเองทุกขั้นตอน มีเพลงฮิตติดหูทะลุ 100 ล้านวิวไม่ว่าจะเป็น “วายร้าย” “เค้าก่อน” “แบกไม่ไหว” และอีกมากมาย กลายเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถอัจฉริยะทางดนตรีในฐานะ “ศิลปินอาชีพเต็มตัว” ได้เป็นอย่างดี ล่าสุดปีนี้ “URBOYTJ” ขอปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรกในชีวิต “SELFMADE” เผยตัวตนที่แท้จริงแบบไม่มีกั๊ก ให้แฟน ๆ ได้ฟังพร้อมกันทั้งประเทศ 3 พฤศจิกายนนี้ อัลบั้ม “SELFMADE” ถือเป็นอัลบั้มเต็มชุดแรกในชีวิตของ “URBOYTJ” ถ่ายทอด 12 เพลงคุณภาพที่รวบรวม เรื่องราว และความรู้ความสามารถ รวมไปถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งชีวิต สะท้อนให้เห็นโลกทั้งใบ ไม่ว่าจะเป็น “ความคิด-ชีวิต และตัวตนแท้จริง" เกิดเป็นไอเดียและคอนเซ็ปต์ของอัลบั้มเต็ม ที่ทีเจตั้งใจพูดถึงการทุ่มเทความสามารถ ลงมือทำทุกเพลงเองทุกขั้นตอน ทั้งเนื้อร้อง ทำนอง และดนตรี ซึ่งล้วนเกิดจากตัวตนที่แท้จริงแบบ 100% พร้อมทั้งใส่ใจทุกรายละเอียด ผ่านการกลั่นรองทุกกระบวนการจนเกิดเป็นสุดยอดอัลบั้ม โดยงานนี้ทีเจมีโอกาสร่วมงานกับศิลปินคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ อาทิ “โอ๊ต ปราโมทย์” “วี วิโอเลต” “MAIYARAP” และ “กานต์ The Parkison” นอกจากนั้นยังได้ร่วมงานกับทีมงานระดับโลกผู้อยู่เบื้องหลังศิลปินชื่อดังอินเตอร์อย่าง “Kanye West” “Justin Bieber” และ "BTS” อีกด้วย โดยทีเจขอส่งเพลงแรกเปิดอัลบั้ม “หลับตา” เพลงที่เผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงแบบไม่มีกั๊ก ถือเป็นเพลงบทสรุปของอัลบั้ม ซึ่งทีเจขอถ่ายทอดเนื้อหาที่บอกถึงความพยายามทั้งหมดผ่านเสียงร้องและไลน์กีตาร์ไฟฟ้าแบบไม่มีเครื่องดนตรีอื่นเลย อย่างไรก็ตามอัลบั้ม “SELFMADE" จะปล่อยให้ฟังเต็ม ๆ ตอนเที่ยงคืนของวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ฟังพร้อมกันทั้งประเทศผ่าน Youtube: URBOYTJ และสามารถฟังได้ใน Music Streaming ทุกแพลทฟอร์ม .. #urboytj #urboytjselfmade #selfmade 💌♾ https://www.instagram.com/p/CG4luXgnl6n/?igshid=1sxv1yst5p4yv
0 notes
tukkta23 · 5 years
Photo
Tumblr media
หลับตา แล้ว ♥️ หัวใจจะนำพา ไปพบกับความสุข #mylifehappyeveryday🎀 #loververythingido🎀 #TT❤️ #ilovejourney🎀 #unseenttww💍 #❤(◕‿◕✿) #nature🕊 (at นาเกลือ อ.บ้านแหลม เพชรบุรี) https://www.instagram.com/p/B38quxHhXi7gJqtv4jWegbSm8_AY6uRGch8GRs0/?igshid=atzp09v78ysy
0 notes
sinehaplus · 5 years
Text
Lek Pongsatorn - เล็ก พงษธร – หลับตา【Official Music Video】 https://www.youtube.com/watch?v=dqWc-J9-RSg
Tumblr media
from Tumblr https://ift.tt/32z9s2E via sinehaplus from Blogger https://ift.tt/2MqThPa via sinehaplus
0 notes
adphoneshop · 5 years
Photo
Tumblr media
Lek Pongsatorn - เล็ก พงษธร – หลับตา【Official Music Video】 https://www.youtube.com/watch?v=dqWc-J9-RSg
0 notes
curvesdesigns · 5 years
Video
youtube
Lek Pongsatorn - เล็ก พงษธร – หลับตา【Official Music Video】
0 notes